Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > Magazine Interviews-Thai

2000 Hot Line จากใต้หวัน ของหนุ่มเท่ห์ ซูโหย่วเผิง

(1/2) > >>

Chomnath:




Alec Love Me:
Hot Line จากไต้หวัน ของหนุ่มเท่ห์ ซูโหย่วเผิง

เพียงแต่เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีข่าวพาดหัวที่ทำให้แฟนเพลงและแฟนละครผู้ที่ชื่นชอบในตัวของ”ซูโหย่วเผิง”ต่างพากันตกอกตกใจกันเมื่อได้เห็นข่าวพาดหัวบนหนังสือพิมพ์ฮ่องกง และจีนรวมถึงไต้หวันรวมหลายฉบับเกี่ยวกับดาราหนุ่ม”ซูโหย่วเผิง” บาดเจ็บสาหัสปางตายจากการตกม้าขณะถ่ายทำเรื่อง “ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง” ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์กันแบบสดๆ ทางโทรศัพท์ถึง...เรื่องราวของอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อนำเสนอให้แฟนๆของ”ซูโหย่วเผิง” ได้คลายความกังวลใจลงไปบ้าง

สวัสดีค่ะ ”ซูโหย่วเผิง” ตอนนี้อาการของคุณเป็นอย่างไรบ้าง พวกเราทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์แล้วตกใจมาก แต่กว่าที่ทางเราจะติดต่อกับคุณได้ยากเหลือเกินนะคะ

“สวัสดีครับทุกๆคน ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่โรงพยาบาลนะครับ มาตรวจแผลของมือขวาที่นัดไว้กับคุณหมอนะครับ”

ได้ฟังเสียงของคุณแล้วค่อยรู้สึกคลายความกังวลลงได้เยอะเลย อาการในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ แฟนเพลงและแฟนละครของคุณเองก็กำลังใจจดใจจ่อรอฟังอาการของคุณเหมือนดังเช่นกับพวกเราที่นี่คะ

"ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณมากสำหรับทุกๆคนที่มีส่วนช่วยเหลือผมในอุบัติเหตุในครั้งนี้ครับ ขอบคุณมากครับ ซึ่งคุณหมอตรวจผมก็บอกว่ามันเป็นการบาดเจ็บที่เกิดจากการกระแทกอย่างแรง แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก... เพราะกล้ามเนื้อและกระดูกก็ไม่เป็นอะไรมากนัก"

ทราบว่าคุณต้องกลับไปถ่ายละครที่เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 15 กรกฎาคม

"ใช่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้วในตาราง ซึ่งไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ เพียงแต่คุณหมอก็ย้ำกับผมว่าในช่วงนี้ห้ามเคลื่อนไหวมือและแขนขวาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้กล้ามเนื่ออักเสบมากขึ้นไปอีกหากไม่ระมัดระวัง"
แต่แขนของคุณได้รับบาดเจ็บอย่างนี้ จะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือเปล่าคะ

"ก็ลำบากนิดหน่อย เพียงแต่ "น้าฉงเหยา" บอกกับผมว่าจะให้ผมถ่ายในฉากที่ไม่ต้องออกแรงมากนักไปก่อนเนื่องจากละครเรื่องนี้มีหลายฉากที่ผมต้องเข้าร่วมกับเพื่อนๆหลายคน ซึ่งหากงดฉากที่มีผมอยู่ด้วยออกไปละก็ จะทำให้กระทบต่อคิวการทำงานของทีมงานและเพื่อนๆด้วยเหมือนกัน ทำให้ผมเองก็กังวลใจว่าจะทำให้งานออกมาล่า...ช้าเหมือนกัน"

แล้วเป็นแผลอย่างนี้ต้องเข้าเฝือกอ่อนไว้ เวลาที่จะอาบน้ำจะต้องยกมือไว้ไม่ให้โดนน้ำหรือเปล่า

“อืม... ใช่แล้วก็ค่อนข้างจะลำบากซะหน่อย แรกๆก็คงไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ผมว่าจะดูเกะกะด้วยซ้ำไปครับ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องทำไม่งั้นแผลก็จะไม่หายแน่ๆ คงต้องลำบากกว่าเดิมอีก”

เมื่อคุณได้รับบาดเจ็บแบบนี้ ทางบ้านของคุณไม่แนะนำให้คุณหยุดพักผ่อนหรือคะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเคลื่อนไหวมากนักเมื่อยิ่งเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งกระเทือนต่อแผลด้วยเช่นกัน

“อืม... ก็ช่วยไม่ได้นี่ครับ พวกเขาไม่ได้ทราบเรื่องในตอนแรกเพิ่งจะมาทราบภายหลังแล้ว ก็มีบ้างที่จะโทรศัพท์มาถามอาการผมวันละหลายๆครั้ง คุณแม่เองก็ร้อนใจมากเลยพอทราบเรื่องสั่งกำชับผมหลายเรื่องให้ระมัดระวังตัวมากกว่านี้อีก”

Alec Love Me:
แล้วอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่คะ

“เกิดในช่วงประมาณเวลาบ่ายโมงของวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งเป็นฉากที่ผมต้องขี่ม้า โดยในเรื่องนี้ผมต้องรับบทเป็นคนที่ขี่ม้าไม่เป็น ซึ่งในฉากมือที่ถือสายบังเหียนเพื่อบังคับม้านั้น ผมต้องยกสูงขึ้นและเป็นจังหวะที่ผมเสียหลัก พอเริ่มถ่ายผมยังนั่งไม่เรียบร้อย แต่ม้าตัวนี้ได้กระชากตัววิ่งออกไปก่อนจึงเป็นเหตุให้ผมพลัดตกจากหลังม้า”

คุณรู้สึกกลัวมั้ยในตอนที่ตกจากหลังม้า

“ไม่ค...รับ”

ทำไมคุณไม่กลัวคะ งั้นก็เรียกว่าคุณเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ตกใจง่ายในขณะที่กำลังอยู่ในช่วงหน้าซิ่วหน้าขวานออกอย่างนั้น ซึ่งเมื่อคนอื่นๆได้ฟังแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“ผมไม่ได้กลัวเพราะคิดว่ามันเป็นการแสดง อีกทั้งทีมงานก็ดูแลงานได้เป็นอย่างดีแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ได้”

จากอุบัติเหตุในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สองแล้วที่คุณได้รับบาดเจ็บระหว่างทำงาน

“ครับ เมื่อปีที่แล้วผมเองก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดเข่าในช่วงเวลาที่กำลังถ่ายละครเรื่อง”เดชเซียวฮื้อยี้” ซึ่งเป็นการผ่าตัดทั้งสองครั้งเลยครับ”

ผลจากอุบัติเหตุครั้งนี้คุณว่า”น้าฉงเหยา” จะทำการแก้ไขบทของคุณในเรื่องนี้หรือไม่

“ผมได้คุยกับ ”น้าฉงเหยา” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ”น้าฉงเหยา” ก็บอกว่าจะให้ผมถ่ายเฉพาะฉากที่ไม่ต้องออกแรงมากนัก และเมื่ออาการของผมดีขึ้นแล้วก็ค่อยมาถ่ายเก็บในฉากที่เหลือแทนครับ”

งั้นคุณก็ยังคงต้องอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ต่อเพื่อรอให้อาการดีขึ้นและถ่ายทำในฉากที่เหลือต่อแต่ทำไมละครชุดแต่ละเรื่องจะต้องใช้เวลาในการทำงานนานๆไม่มีจ...บหรือไงคะ

“ใช่ครับผมเองก็คงต้องไปๆมาๆ ระหว่างไต้หวันและเซี่ยงไฮ้อยู่สักระยะหนึ่งก่อน เพียงแต่ว่าการทำงานของละครชุดเป็นละครต่อเนื่องที่ต้องมีความพิถีพิถันกันพอสมควร และในแต่ละเรื่องก็มีนักแสดงร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก ดังนั้นกว่าที่นักแสดงจะมีคิวว่างตรงกันนั้นก็ค่อนข้างลำบาก และทีมงานเองก็ต้องจัดคิวถ่ายให้ตรงกันด้วย สำหรับเรื่อง “ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง” นั้นก็ยังมีเวลาทำงานอีกประมาณ 1 เดือน หรือเดือนครึ่งเห็นจะได้ และคาดว่าจะปิดกล้องประมาณเดือนสิงหาคมครับ”

เสียดายจังเลยที่เวลาของเราในช่วงนี้ต้องหมดเวลาลงแล้วแต่พวกเราทุกคนก็ขอให้คุณหายเป็นปกติโดยเร็วนะคะ เพื่อที่จะได้กลับมาทำงานเพลงออกมาให้พวกเราได้ฟังกันอีก

“ขอบคุณครับสำหรับความห่วงใยที่มีให้ผม และหากผลงานเพลงของผมเรียบร้อยแล้วพวกเราคงจะมีโอกาสได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ แต่ตอนนี้ทางบริษัทของผมนั้นจะมีการจัดงานแถลงข่าวเปิดโอกาสให้ผมได้พบกับสื่อมวลชน หลังจากประสบอุบัติเหตุตกม้า ขอเชิญคุณไปร่วมงานด้วยเอาไว้พบกันที่งานแถลงข่าวนะครับ(ยิ้ม)”
…ซึ่งจากนั้นไม่กี่วันทางบริษัทต้นสังกัดของ “ซูโหย่วเผิง” ได้เปิดแถลงข่าวโดยด่วนที่ไทเป เพื่อให้สื่อมวลชนได้มีโอกาสซักถามข่าวคราวเรื่องนี้จากปากของ “ซูโหย่วเผิง” เอง โดยทีมงาน “Special Magazine” ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย และเราก็ได้เก็บรายละเอียดต่างๆมาให้แฟนๆของ “ซูโหย่วเผิง” ได้รับทราบกัน..

ได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์จีนที่ลงข่าวการตกม้าของคุณระหว่างการถ่ายทำ“ฉิงเซินเซิน หวี่หมงห...มง” ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเมื่อข่าวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป แฟนเพลงและแฟนละครของคุณจำนวนมากได้โทรเข้ามาสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร เพราะที่เห็นจากข่าวอาการบาดเจ็บของคุณนั้นหนักมากใช่หรือไม่

Alec Love Me:
“ขอบคุณมากครับ สำหรับความห่วงใยที่ทุกคนมีให้ผมขอบคุณมากๆเลยครับ(ยิ้ม) หลายคนคงอยากทราบเรื่องราวต่างๆโดยละเอียดว่าเป็นมาอย่างไร ซึ่งผมยินดีที่จะเล่าให้ทุกคนฟังเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และต้องขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวันและอีกหลายๆที่ ที่ได้ติดตามข่าวคราวของผมมาโดยตลอดและให้ความห่วงใย บ้างก็โทรทางไกลข้ามประเทศเข้ามาถามไถ้ถึงอาการของผมว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจากการที่ผมต้องตกม้าในระหว่างการทำงานครั้งนี้ ไม่ถือว่าเป็นความผิดของใครนะครับ เพราะในละครเรื่องนี้ บทของผมถูกกำหนดว่าต้องขี่ม้าไม่เป็นด้วย ซึ่งในฉากนี้ก็เป็นการถ่ายทำนอกสถานที่ของละครเรื่อง “ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง” โดยฉากนี้จะเป็นฉากที่ผมกับ”ซินหยู” จะต้องทะเลาะกันและ “ซินหยู” ก็จะวิ่งหนีออกไป เมื่อขึ้นไปนั่งบนหลังม้าแล้ว ผมต้องยกมือสองข้างขึ้นสูงๆ จับบังเหียนม้าไว้ให้ดูว่าไม่มั่นคง แต่ตอนนั้นผมยังนั่งไม่อยู่เลย ม้าตัวนี้ก็กระชากวิ่งออกไปก่อน ซึ่งผมเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เลยทำให้ผมเสียหลักเอนตัวมาทางขวาของของผมยังติดอยู่กับที่เหยียบเท้าอยู่ จึงทำให้ม้าวิ่งไปโดยลากตัวผมไปด้วย ก็ประมาณสิบกว่าเมตรได้...

…ดีที่ว่าตอนนั้นผมยังมีสติอยู่และคิดว่าจะทำยังไงดีเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน ตอนที่ผมถูกลากตัววิ่งไปพร้อมกับม้าอยู่นั้นผมรู้สึกว่าหัวของผมจะอยู่ทางด้านซ้ายของเท้าม้า ผมกลัวว่าจะถูกเท้าม้าเหยียบที่หน้า ทำให้ผมตัดสินใจถีบเท้าอย่างเต็มแรงไปที่เท้าขวาของม้า โดยใช้เท้าข้างที่เหลืออยู่นั่นแหละครับ เป็นช่วงเวลาที่ผมกลัวมากเลย เพราะเป็นอะไรที่ผมต้องตัดสินใจในตอนนั้นว่าผมจะทำอย่างไรให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุด ซึ่งผมเองก็รู้สึกมึนมากที่ข้อมือขวา”

แล้วคนในกองถ่ายตั้งมากมายเค้าทำอย่างไรกันบ้างเพื่อช่วยเหลือคุณในขณะนั้น

“ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่ชุลมุนมาก ผมเองก็ไม่ได้มองว่าใครทำอะไรอยู่ เพียงแต่เมื่อผมหลุดออกมาจากหลังม้าแล้ว ก็เห็นคนในกองถ่ายต่างพากันวิ่งมาอุ้มตัวผมขึ้นมา และถามไถ่กันอย่างอลหม่านว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งในตอนนั้นมือขวาของผมก็แดงก่ำเหมือนห้อเลือดเลยและบวมปูดเป็นลูกมะนาวด้วย ซึ่งฉากนี้เป็นฉากต่อเนื่องกันและมีเพื่อนนักแสดงร่วมฉากหลายคนด้วย ไม่ว่าจะเป็น “ซินหยู” ”เหวยเหวย” ก็ร่วมด้วย พวกเธอเองก็ตกใจเหมือนกัน ทางทีมงานก็รีบนำผมส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการ แต่ผมไม่สามารถไปได้ในทันที เพราะยังเป็นห่วงงานอยู่จึงขอถ่ายทำฉากนั้นให้เสร็จก่อน แล้วจึงค่อยไปหาหมอ”

เมื่อได้ไปรับการตรวจรักษาโดยละเอียดแล้ว ผลการตรวจออกมาว่าอย่าไรบ้าง

“หลังจากที่ผมได้รับการตรวจกระดูกโดยละเอียดแล้ว คุณหมอก็บอกผมว่าบริเวณข้อศอกได้รับบาดเจ็บ และต่อเนื่องมายังบริเวณข้อต่อ แต่ส่วนอื่นๆนั้นก็ไม่เป็นอะไรมากนัก ก็มีแผลถลอกนิดหน่อยตอนที่ถูกม้าลากไป แต่ด้านจิตใจนั้นคุณหมอแนะนำให้พักฟื้นเพื่อให้คลายความตกใจก่อนก็จะดี โดยแนะนำให้ผมหยุดงานที่ทำทุกอย่างประมาณ 10 กว่าวันเป็นอย่างน้อย และต้องมาต...รวจที่โรงพยาบาลทุกวัน สำหรับอาการของผมในตอนนี้ถ้าขยับเขิ้อนข้อมือและข้อศอก ก็ไม่เจ็บไม่ปวด และถ้าขยับก็เจ็บปวดมาก แต่ผมมีคิวถ่ายอีกทีก็คือ วันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งต้องบินกลับไปถ่ายทำที่เซี่ยงไฮ้ต่อ ตอนนี้ผมก็มีกิจกรรมอีกนิดหน่อย แต่ยังทำไม่ได้หักโหมก็ไม่ได้ ก็เลยถือโอกาสช่วงที่อยู่ไต้หวัน พักรักษาตัวให้แข็งแรงในช่วงเวลา 2-3 วันนี้ที่ได้กลับมาบ้าน ผมเองก็จะถือโอกาสพักผ่อนอยู่บ้าน และนอนหลับทดแทนให้กับเวลาที่นอนไม่พอในช่วงเวลาการทำงานที่ผ่านมา”

จากงานแถลงข่าวครั้งนี้เราได้เห็นสีหน้าและแผลของ”ซูโหย่วเผิง” แล้วก็รู้สึกเบาใจไปเยอะทีเดียว จึงนำภาพมาฝากน้องๆที่ชื่นชอบในตัวเขา ซึ่งเราทุกคนก็หวังว่าอาการของเขาจะหายวันหายคืนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่เขาจะได้กลับมาทำงานเพลงที่รัก และห่างหายไปนานให้เรียบร้อยและพวกเราที่เป็นแฟนเพลงของเขาก็จะได้รับฟังเสียงของเขาอีกครั้งเหมือนกัน...

Alec Love Me:
http://www.youtube.com/v/093BzZL61lM&feature=share

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version