ผู้เขียน หัวข้อ: 2007 ซูโหย่วเผิง หลินซินหยูจับมือสู่วงการภาพยนต์  (อ่าน 11332 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13817
    • ดูรายละเอียด
Re: SINCERE 2007
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2012, 01:18:05 PM »
ซูโหย่วเผิง หลินซินหยูจับมือสู่วงการภาพยนต์

โห..ข่าวล่ามาแรง ใครที่ติดองค์หญิงกำมะลอ อย่างอแงห้ามพลาด เพราะวันนี้ไวโอเล็ตมีข่าวใหม่ล่าสุดของซูโหย่วเผิง และหลินซินหยู ส่งตรงมาจากปักกิ่ง มาฝากแฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ งั้นไวโอเล็ตขอเวลา ไปเตรียมตัวแป๊บ ไปล่ะ

คนทุกคนพอทำเรื่องสักเรื่อง แรกๆ จะรู้สึกแปลกใหม่และตื่นเต้น แต่นานๆเข้ากลับกลายเป็นความเคยชินเฉยชา เหมือนตำรวจจราจรที่รู้ว่าเวลาไหนจะเปิดไฟแดงหรือไฟเขียว แต่นั่นคือการดูแค่ความเปลี่ยนแปลงของตัวเองโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง นักแสดงก็เหมือนกัน ต้องสวมบทบาทแสดงแทบจะตลอดเวลายังงัยต้องมีสับสนบ้างล่ะ ปัญหาใหญ่ของเหล่านักแสดงในตอนนี้คือ จะพัฒนาฝีมือของตัวเองยังไงดี ดังนั้นซูโหย่วเผิงและหลินซินหยูจึงตัดสินใจร่วมกันเซ็นสัญญากับค่ายใหม่ และทุ่มตัวเข้าสู่วงการภาพยนตร์เพื่อพัฒนาฝีมือของตนเอง

การร่วมมือกันของ 2 ดารายอดนิยม

โหย่วเผิงและหลินซินหยูเพิ่งจะถ่ายทำเรื่อง Entrapment และ Da Ci Tang เสร็จ ช่วงหลายปีมานี้ไม่ว่าจะเป็นละครแนวย้อนยุค ทันสมัย ถึงประวัติศาสตร์ คอมเมดี้ ดราม่า โรแมนติก ชีวิต พวกเขาทั้งคู่ต่างแสดงมาหมดแล้ว ยังมีอะไรเหลือให้พัฒนาอีกล่ะ? ทั้งคู่ไม่กล้าพูดว่า ตอนนี้ตัวเองมาถึงจุดสูงสุดของเส้นทางแล้ว แต่อยากลองท้าทายงานแสดงภาพยนตร์ จึงตกลงเซ็นสัญญากับค่ายใหม่ สำหรับพวกเขาแล้ว ถือเป็นการเลือกที่ถูกต้อง เหมือนที่โหย่วเผิงว่า “เนื่องจากทุกวันนี้ธุรกิจภาพยนตร์จีนมีผลกระทบต่อตลาดโลกมากขึ้น ภาษาแพร่หลาย เป็นแนวโน้มที่เห็นได้ชัดเลย” ซินหยูเองก็เห็นด้วยกับข้อนี้ ถึงแม้ตอนแรกจะแค่ถูกโหย่วเผิงชักชวนมาก็ตาม

ก่อนเริ่มงานเซ็นสัญญา ถนนทุกสายในปักกิ่งพากันเต็มไปด้วยป้ายโฆษณาที่ว่า ค่ายฮวาอี้ซงตี้ตัดสินใจร่วมงานกับสองดารายอดนิยม(ฉากหลังคือกำแพงเมืองจีนสีแดงเข้มที่สูง 5-6 เมตร โดยสองข้างของกำแพงมีประตูใหญ่และพาดผ้าแพรสีแดงไว้) อย่าพลาดชมงานนี้ เพราะเถ้าแก่ทั้งคู่ของฮวาซงอี้จะมาปรากฏตัวพร้อมกัน ในที่สุดเราก็รู้กันว่า สองดารายอดนิยมนั้น คือใคร เพราะแฟนๆ พากันตะโกนเรียกชื่อพวกเขา ไม่หยุด..ที่แท้ คือ ซูโหย่วเผิง และ หลินซินหยูนั่นเอง!!!

คงไม่มีใครสงสัยในฝีมอของทั้งคู่แน่ ถือเป็นนักแสดงยอดนิยมก็ว่าได้ ทางค่ายใหม่จึงส่งของขวัญลับสุดยอดถึง 4 ชิ้นไปให้ คือ สัญญาเข้าสังกัด สัญญาว่าด้วยการโฆษณาร่วมกัน สัญญาว่าด้วยการร้องเพลงร่วมกัน และสัญญาเล่นละคร ภาพยนตร์ร่วมกันอีก โหย่วเผิงบอกว่า เขากับซินหยูทำงานในวงการบันเทิง ด้านละครโทรทัศน์นั้นแสดงมาหมดทุกบทบาทแล้ว จึงหวังจะก้าวหน้าไปในด้านภาพยนตร์บ้าง พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับสัญญาฉบับนี้มาก และได้ไหว้วานให้ทีมงานนำสัญญามาให้ โดยสัญญาทุกฉบับล้วนแต่ใช้พู่กันเขียน สุดท้ายต่างฝ่ายจึงลงตราประทับชื่อของตัวเองเป็นอันเสร็จ

ก้าวและถอยไปด้วยกัน

ตั้งแต่โหย่วเผิงเล่นเรื่ององค์หญิงกำมะลอ ร่วมกับซินหยู ก็มีข่าวลืออกมาไม่หยุดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คราวนี้มีข่าวเซ็สัญญากับค่ายใหม่ยิ่งทำให้แฟนๆ พากันคิดไปต่างๆนานา พอนักข่าวถาม โหย่วเผิงตอบทันทีว่า การคบกันของพวกเขามันผ่านช่วงเวลาหวานมาซะแล้ว แต่ซินหยูกลับล้อเล่นว่า “พวกเราหวานกันตลอดนะ มีเรื่องอะไรในใจสามารถพูดระบายกับเขาได้ เขาไม่เคยหัวเราะเยาะเลยล่ะ “ แสดงว่าทั้งคู่ต่างมีแฟนเป็นของตัวเองแล้วสิ ? แล้วเป็นใครกันล่ะ ก่ายหน้าผากคิดไป คิดมา ก็ยังเดาไม่ถูก ทนไม่ไหวเลยถามโหย่วเผิงได้รับคำตอบว่า “ผมมีแฟนแล้วครับ คบมานานหลายปีแล้วล่ะ แต่ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการออกมา” โอ้โห เก่งมากเลยแฮะ ปิดข่าวอยู่ได้งัยตั้งนานหลายปี สงสัยกลัวแฟนๆ รับไม่ได้ ก็น่าเห็นใจอยู่เพราะนี่เป็นเรื่องปกติ ซินหยูยังรีบมาแก้หน้าให้เลย โดยแกล้งมาตีหน้าเศร้าว่า “ฉันคิดมาตลอดว่าเป็นฉันนะ”

ดูท่าทางพวกเขาคงคบกันถึงขั้นเพื่อนสนิทแน่ๆ ถึงพูดแบบนี้ออกมาได้ จาก องค์หญิงกำมะลอ จนถึงตอนนี้ปาเข้าไปเกือบสิบปีแล้ว ข่าวลือของพวกเขายังมีออกมาไม่เคยขาด แต่พวกเขาไม่แคร์ เพื่อนควรทำยังไงก็ทำยังงั้น ก่อนที่โหย่วเผิงจะไปแสดงเรื่อง Fragrance of Chrysanthemum ที่เซี่ยงไฮ้ ยังบอกจะเก็บบัตรภาพยนตร์ไว้ให้แฟนสาวของเขา ร้อนถึงซินหยูต้องเป็นคนมาจัดการ หลังจากที่แสดงเสร็จพวกเขาทั้งหมด จึงนัดกันไปฉลองที่บาร์ ถึงจะโดนถ่ายรูปก็ไม่คิดจะออกมาแก้ข่าว แล้วเพื่อนกันมีอะไรต้องแก้ข่าวล่ะ? ทั้งซินหยูและเจ้าเหว่ยต่างไม่มีใครออกมาแก้ข่าวเลย เพราะทุกคนต่างเป็นเพื่อนกันมาสิบปีแล้ว ร่วมกันฝันฝ่าคืนวันที่เหนื่อยยากจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จ นี่สิ ถึงจะเรียกว่ารักกันจริง เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่อาจให้เงินมาทำลายได้ แล้วจะโดนข่าวลือแค่นี้ทำลายได้น่ะหรือ? ยากนักที่โหย่วเผิงและซินหยูจะได้อยู่ที่ปักกิ่งในเวลาเดียวกัน ดังนั้นคืนก่อนงานเซ็นสัญญา พวกเขาจึงโทรตามโจวเจี๋ยให้ไปสังสรรค์กันที่บ้านเจ้าเหว่ย คุยเรื่องสัพเพเหระ รักกันแน่นแฟ้นขนาดนี้นี่เองถึงได้สนิทอยู่ทั้งที่ไม่เจอกันหลายปี

พูดถึงพวกเขาในตอนนี้ จริงๆ แล้วสามารถออกจากวงการไปใช้ชีวิตอิสระ ได้แล้ว แถมพวกเขายังเป็นคนที่มีนิสัยรักอิสระอีก เหมือนซินหยูที่ช่วงนี้ยังวิ่งไปร่วมหุ้นเปิดร้านอาหารกับเพื่อนที่ต้าหลี่ เพราะหลงรักบรรยากาศ ตอนที่ถ่ายทำ Dai Princess แล้วแต่คนที่รักการเต้นรำเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่ายังงัยก็ไม่มีทางตัดใจได้ การแสดง ไม่ใช่แค่ความเคยชิน แต่เป็นการแสวงหาเป้าหมายอย่างหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่ ได้เลือกที่จะพัฒนาฝีมือแสดงภาพยนตร์ในเวลาเดียวกัน แสดงถึงความไม่สิ้นสุดในอนาคต งั้นเรามาตั้งหน้าตั้งตารอว่า ในปีนี้พวกเขาจะมีงานภาพยนต์และอัลบั้มใหม่ออกมาเป็นแบบไหนกันดีกว่า!!