Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > SCOOPS & SPECIALS

2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?

(1/2) > >>

Chomnath:
(1)http://blog.sina.com.cn/s/blog_4fad2fec010175g0.html?tj=1
(2)http://blog.sina.com.cn/s/blog_65dedaef0100nui5.html?tj=1
(3)http://gb.cri.cn/27564/2010/12/09/108s3084547.htm
(4)http://finance.ifeng.com/money/wealth/star/20100429/2125925.shtml
(5)http://yule.sohu.com/20091124/n268423359.shtml



คืนวันที่ 7 ธันวาคม 2010  โหย่วเผิง อยู่ในงานภาพยนตร์สากล ณ. เมืองม๋าเก๊าครั้งที่ 2 ได้รับตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยมอันดับ 1 รางวัลอันทรงเกียรติในชีวิตของเขา

ซูโหย่วเผิงกับความหมายของการยืนหยัด ในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม ปี 2010 เวลาบ่าย 14.32 น.

พูดถึง ซูโหย่วเผิง กลัวว่าท่านผู้ชมน้อยมากที่จะไม่รู้จักเขาเลย ท่านผู้ชมที่อายุมากหน่อยจนถึงปัจจุบันยังไม่เคยลืมในช่วงเวลานั้นของ “ไกวไกวหู่ “ ผู้นั้น เพื่อนๆ  “ คนรุ่นอายุ 90 “ ยังมีหลายคน เป็นไปได้ ที่เคยชมดูต่างก็รู้จักเขา เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ  แล้วพวกผู้ชมหนัง-ละครทั้งหลายที่เคยหลงใหลชื่นชอบ ในเวลาไม่กี่ปีนี้ควรจะเฝ้าสนใจดูแลเขา


ท่านผู้ชมที่เคยรู้จัก ในปี 1988 ซูโหย่วเผิงได้โด่งดังเป็นพุแตก จากวง "เสี่ยวหู่ตุ้ย"  ได้เข้าสู่วงการบันเทิง ปี 1997 ได้แสดงละครเรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ)  ปี 2009 ได้แสดงหนังเรื่อง The message อาชีพทางด้านการแสดงของเขาสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับขั้นอย่างชัดแจ้ง ความสมหวังราบรื่นยังห่างไกลที่จะกล่าวถึงได้ มีเพียงลมๆแล้งๆซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว ความขยันขันแข็งของตัวเขาเองยังโด่งดังมากว่า 20 ปี จนกระทั่งเวลาใกล้ๆนี้ได้รับตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยมในงานภาพยนตร์สากลเมืองม๋าเก๊าอย่างแน่นอน พฤติกรรมแท้จริงของเขาซึ่งผู้คนยังเคยรู้จักเขาแล้วจึงเห็นความหมายของ คำว่า "ยืนหยัด" นี้


ซูโหย่วเผิง คือนักแสดงคนหนึ่งที่พวกเราชื่นชอบมาก เพราะว่าไม่เพียงเขาคือ “ไกวๆหู่” ใน “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย” เพราะว่าไม่เพียงเขาทำการบ้านอย่างดีเลิศ ในปีนั้นเป็นผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับที่ 5 ของไต้หวันทั้งประเทศ เพราะว่าไม่เพียงแต่เพลงของเขา และไม่เพียงเขาได้แสดงบทบาทเข้ามานั่งถึงจิตใจคนอีกสิ่งสำคัญกว่านี้ความรักอันยิ่งใหญ่ของเขากับบทบาทการแสดงได้เข้าถึงจิตใจผู้ชมอย่างลึกซึ้ง และยิ่งสำคัญกว่านี้เขามีจิตใจที่เมตตา ชอบการกุศล ความเข้าใจการแสดงยังไม่เพียงพอ แต่ว่าผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ได้ตีพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมการกุศลของเขา คงไม่ใช่เรื่องเท็จแน่นอน


เป็นนักแสดงนั้น เขาแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมกับพลังอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง เรียกร้องผู้คนกระทำการกุศล ไม่คิดว่าตัวเองเป็นดาราที่ยิ่งใหญ่ แต่คิดว่าการกุศลสมควรที่จะได้รับการแบ่งปัน ให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันตัวเขาเองแอบไปช่วยเหลือคนอย่างมากมายแบบเงียบๆ เรื่องเหล่านี้นักข่าวไม่เคยตีพิมพ์ลงข่าว ผู้คนทั่วไปล้วนเป็น “ผู้ชื่นชอบ ซูโหย่วเผิง “ บุคคลต่างๆมากมายที่เคยรับการช่วยเหลือ ได้ปรากฏพบเห็นเขาทำจนเหงื่อโชกท่วมตัวหนทางการกุศล เขาได้นำพาบุคคลผู้ชื่นชอบ(FC) มุ่งหน้าก้าวสู่หนทางระดับชุมชน



งานแสดงภาพยนตร์สากล ม๋าเก๊า ครั้งที่ 2 จาก A Tibetan Love Song ในบท “ หลี่ซูเจี๋ย” บทเดียวได้รับรางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม นี่ก็คือเขาได้รับรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกตั้งแต่เข้าสู่วงการภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งนักแสดงได้รับรางวัลตุ๊กตาทองชิ้นนี้ไม่สามารถเทียบเท่ากับ ไก่ทองคำ, ม้าทองคำ, รูปทองคำ, บุคลิกงาม, เป็นต้น แต่รายการรางวัลไม่ใช่อยู่กับเรื่องเล็กใหญ่ อยู่กับการสนับสนุนและใจมุ่งมั่น เชื่อว่าเขาจะขยันทำเพื่อตัวเองต่อไป และเพื่อผู้ชมสนับสนุนชื่นชอบในตัวเขา


ซูโหย่วเผิง ปีนี้อายุ 37 ได้เป็นดาราขวัญใจ นับว่าชีวิตได้อยู่ระดับต้นของวงการแล้ว เพียงแต่โดยฐานะของนักแสดงมีพลังคนหนึ่งเผชิญกับผู้ชม อายุเท่านี้ยังไปได้อีกไกล แล้วหนทางของเขายังไปอีกไกล หวังว่าใจที่มีเมตตาการกุศลของเขา หนทางตั้งแต่นี้เป็นต้นไปมีแต่เพิ่มขอบเขตกว้างใหญ่อย่างไม่มีขีดจำกัด การแสดงซึ่งมีบทบาทที่แตกต่างกันไป ผู้คนทั้งโลกล้วนยกย่องยอมรับ หลายมานี้ ขณะผู้คนเอ่ยปากชมถึงเขา ไม่เพียงที่เห็นคือความทระนงของ “คุณชายสามแห่งตระกูลหู่”  นั้น ยังสามารถได้เห็นถึง “ซูโหย่วเผิง” ด้วย

Chomnath:
http://tieba.baidu.com/f?kz=951897252
http://blog.sina.com.cn/s/blog_4fad2fec010175g0.html

บุคคลตอนวัยรุ่นมีชื่อเสียงมีเรื่องราวไม่น้อย โดยการขอใฝ่ฝันเป็นคนใหม่ที่มุมานะสะเทือนวงการบันเทิง ไม่เพียงแต่เคยเห็นคนวัยเยาว์มากมาย เช่นตัวอย่างมีชื่อเสียงแล้วภายหลังชื่อเสียงได้ร่วงหล่นอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา รู้สึกคนมีชื่อเสียงเร็วเกินไปก็มิใช่เป็นเรื่องที่ดีเสมอๆ พื้นฐานของอาคารตึกไม่แน่นหนาพอ สักวันหนึ่งช้าเร็วต้องถล่มทรุดลงมา ท่ามกลางดาราหลายคนที่มีชื่อเสียงในเยาว์วัย นับว่า ...ซูโหย่วเผิงเป็นบุคคลพิเศษมากท่านหนึ่ง... อายุแค่เพียง 15 ปีได้เป็นนักร้อง "วงเสี่ยวหู่ตุ้ย"  ได้ทำให้วงการบันเทิงสั่นสะเทือนมากว่า 22 ปี โด่งดังมา 20 ปี สามารถพูดได้ว่าปรากฏการณ์ของวงการบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง.....

มาดูประวัติ ซูโหย่วเผิง ตั้งแต่เข้าสู่วงการบันเทิงมากว่า 20 ปี โดยแท้จริงแล้วการในด้านอาชีพการเป็นนักแสดง...พูดเรื่องความราบรื่นยังห่างไกลมาก สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นหญ่ๆอย่างชัดเจน

(1)  ระดับขั้นแรก :  “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย” เพราะเป็นบุคคลวัยหนุ่มมาก ซูโหย่วเผิงโดยฐานะนักร้องอาชีพ
จึงสามารถฉายแววดังตั้งแต่แรกรุ่น

กรกฎาคม ปี 1988  ซูโหย่วเผิงพร้อมด้วยอู๋ฉีหลงและเฉินจื้อเผิงได้ร่วมวงเป็น “เสี่ยวหู่ตุ้ย” เขาทั้ง 3 คนยังอยู่ในวัยเรียนมัธยมศึกษา อายุที่น้อยที่สุดคือ ซูโหย่วเผิง อายุแค่ 15 ปี คนขนามนามว่า “ไกวๆหู่”

กุมภาพันธ์ ปี 1989 “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ออกอัลบั้มแรก Happy New Year ซึ่งเพลงดังและได้รับความนิยมในสมัยนั้นคือเพลง  彩色天空彩色夢 และเพลง 青苹果樂園  โด่งดังไปทั่วไต้หวัน

พฤษภาคม ปี 1989  “เสี่ยวหู่ตุ้ย”  ได้ออกอัลบั้ม Roaming Leisurely 逍遙游 เป็นเพลงแรก ยอดจำหน่ายทะลุเป้า 2 ล้านแผ่น

กันยายน ปี 1990 “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ออกอัลบั้ม  Dating Stars 星星的約會 ยอดจำหน่ายได้ทะยานโด่งดังอยู่ที่ประเทศจีน

ธันวาคม ปี 1991 เฉินจื้อเผิง หนึ่งใน “เสี่ยวหู่ตุ้ย”  ได้ถูกเกณฑ์ทหาร ต่อมา “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ออกอัลบั้มGoodbye 再見, Best  ออกจำหน่าย แล้วจึงแยกย้ายกันไปแบบชั่วคราว

ต่อมา “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย”  ได้แยกย้ายกันในปี 1992 ถึงปี 1995 ซูโหย่วเผิง เริ่มฉายเดี่ยวคืนสู่วงการคนเดียว ได้ออกอัลบั้มเป็นของตัวเองคือเพลง

1993 Only Want You To Love Me
1993 Waiting for That Day
1994 Cherished Backpack
1994 Happens This Way
1994 Wound
1995 Go

ฯลฯ เป็นต้น พร้อมทั้งร่วมถ่ายหนังหลายเรื่อง ขณะนั้นซูโหย่วเผิง- อู๋ฉีหลง-หลินจื้ออิงและจินเฉินอู่ทั้งกลุ่ม 4 คน ได้ถูกชาวไต้หวันขนามนามว่า (4 จตุรเทพไต้หวัน)

2 ปีต่อมาโหย่วเผิงต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าเรื่องการลาออกจากมหาลัย หรือธุรกิจของคุณพ่อ แม้แต่การจะได้ออกอัลบั้มของตัวเองอีกซักครั้ง มันช่างมมืดมน ไร้ทางเดิน

Chomnath:
(2)  ระดับขั้นที่สอง : องค์หญิงกำมะลอ ได้จบสิ้นลง ซูโหย่วเผิง ได้เข้าสู่วงการจอแก้วอีกครั้ง จัดว่าโด่งดังไปทั่วมณฑลเจียงหนางและเจียงเป่ย รวมไปถึง เอเชียตะวันออกเฉียงได้เลยก็ว่าได้

ปี 1997 ซูโหย่วเผิงได้ถูกนักประพันธ์ เฉวียนเอี๋ยว หมายตาไว้ ทำลายสถิตินักร้องขวัญใจ โดยใช้ฐานะเป็น ”นักแสดงคนใหม่” เข้าสู่วงการทีวี อยู่ในสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม มณฑลหูเป่ย รับบทแสดง พี่ห้า (หย่งฉี) ในละครเรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ) ถึงแม้ ซีรีย์เรื่ององค์หญิงกำมะลอจะปิดฉากลงแล้ว แต่ทางไต้หวันกลับมาฉายซ้ำรอบใหม่อีกอย่างบ้าคลั่ง  ซูโหย่วเผิง ความสำเร็จจากนักร้องได้รับความยอมรับอีกครั้ง โด่งดังไปทั่ว มณฑลเจียงหนานเจียงเป่ย อีกครั้ง

ตุลาคม ปี 1998 ซูโหย่วเผิง ได้แสดงต่ออีกรอบ (องค์หญิงกำมะลอภาค 2)  แล้วผู้ชมหวนกลับมาชื่นชอบอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง และยิ่งกว่านั้นโหย่วเผิงได้เล่นละครติดๆๆกัน จากเรื่อง

ปี 1999  เดชเซียวฮื่อยี้ เป็นชายหนุ่มอายุราว 20 ปี เป็นน้องฝาแฝดกับเซี่ยวฮื่อยี้ เติบโตใน "วังเคลื่อนบุปฝา" วรยุทธสูงส่งแต่ไม่ทันเล่ห์กลในยุทธภพ จิตใจมีเมตตา แสดงเป็น "ฮวยบ่อข่วย"

ปี 2000 มนต์รักในสายฝน แสดงเป็น "ตู้เฟย" หนุ่มน้อยอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี
ปี 2002 ดาบมังกรหยก แสดงเป็น "เตียบ่อกี้"
ปี 2003 รักข้ามขอบฟ้า แสดงเป็น "ลู่เอินฉี"

เป็นต้น ละครได้ออกอากาศสดๆร้อนๆ ละครโทรทัศน์จบสิ้นลง ล้วนได้รับการยอมรับจากมหาชนซึ่งล้วนเอ่ยปากชื่นชมสุดๆ ทำให้คนติดภาพพจน์ที่ดีมาโดยตลอด แล้วซูโหย่วเผิง อยู่ในปี 2006 ได้ยกเลิกสัญญาละครหลายสิบเรื่อง เพื่อเดินตามฝัน โดยการกระโดดมารับเล่นละครเวทีครั้งแรกในชีวิต  “หอมกลิ่นดอกเบญจมาศ”

โลดเล่นกับบทละครเวที 7 วัน 7 คืน (7-14 กรกฏาคม) แสดง 7 รอบ ทุกรอบเต็มหมด พร้อมกับทำลายสถิติประวัติศาสตร์การแสดงโรงละครใหญ่เหม่ยฉี ถึงแม้ปี 2005 โหย่วเผิงหยุดพักการแสดงทางจอโทรทัศน์ ทำให้คนนึกว่าซูโหย่วเผิงได้หายไปจากวงการแล้ว แต่การทุ่มเทให้กับ ละครเวที เป็นอีกประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้

Chomnath:
(3)  ระดับขั้นที่สาม : ได้เซ็นสัญญากับบริษัทหัวฮี้-HY บริษัทยังษ์ใหญ่ของจีน ซูโหย่วเผิงได้มุ่งตรงสู่วงการภาพยนตร์ และในที่สุดจึงได้รับรางวัล "นักแสดงรางวัลตุ๊กตาทองยอดเยี่ยน"

30 พฤศจิกายน ปี 2006 ซูโหย่วเผิง ได้ เซ็นสัญญากับ HY อย่างเป็นทางการ ค่าตัวสัญญาสูงถึง 10 ล้าน กลายเป็นสัญญาของเมืองที่มีค่าตัวสูงสุดของนักแสดงไต้หวัน ซูโหย่วเผิง โดยฐานะ ”แบบกึ่งนักแสดงหน้าใหม่” ....จัดว่าหน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์ค่ะ

การกระโดดลงมาจอเงิน หลังการเซ็นสัญญาระยะเวลา 2 ปี โอกาสน้อยมากที่ ซูโหย่วเผิง ไดัรับบทบาทหน้าที่สำคัญ มีครั้งหนึ่งเหล่าบรรดาแฟนคลับคิดว่า ซูโหย่วเผิง ถูกเก็บตัวเข้ากรุแบบเงียบๆ

ปี 2008 ซูโหย่วเผิง ได้รับเล่น  Fit Lover ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กและบทที่ออกมาน้อยมาก ถือได้ว่าเป็นการฉีกบทบาทที่ได้รับจากเดิมๆ บ้านิดๆๆ โก๊ะหน่อยๆ ตลกฮาๆๆ เรียกได้ว่านี้คือก้าวแรกแห่งการเปลี่ยนแปลง


ปี 2009 The message แสดงบทบาทตอนหนึ่งเป็น (ไป๋เสี่ยวเหนียน) บทกระเทยฝีปากจัดจ้าน จีบปากจีบคอ และโหย่วเผิงยังได้รับความไว้ใจจากผู้กำกับให้ร้องเพลงงิ้วต้นฉบับ “คุนฉวี” บทบาทนี้ได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากผู้เข้าชม ปากต่อปากว่าแสดงดีเยี่ยมมาก นับว่าเป็นก้าวแรก ก้าวเปิดทางแห่งวงการภาพยนตร์อย่างแท้จริง

ปี 2010 ปีนี้ยอมรับว่าเป็นปีทองของซูโหย่วเผิงก็ว่าได้ รับหนังติดต่อกัน 4 เรื่อง 4 บทบาท

9 เม.ย. 2010  The Four Cupids  รับบท ฉีป๋หลินเป็นนักโฆษณากลัวการแต่งงาน

30 เม.ย. 2010  A Singing Fairy  รับบท หวุยเหวินเต๋อ นักศิลปินชาวจีนที่อยู่ที่อเมริกาคนหนึ่งที่ถูกอาจารย์แนะนำให้ กลับไปที่กวางซี ไปตามหาพี่หลิวซันที่มีอยู่ในตำนาน และผู้ซึ่งเป็นคุณปู่นั้นได้มอบให้เพื่อนเก่าคนหนึ่งให้หาคนเป็นผู้นำทางให้ เขา ด้วยเหตุนี้เองการเดินทางของเขาก็เป็น (หลิวเถียนเถียน) ผู้ที่เป็นไกค์แบบปลอมตัวมา และได้เกิดการเข้าใจผิดขึ้น สุดท้ายได้เป็นคู่รักที่ดูแลเขา.

29 ต.ค. 2010 Lost In Panic Room รับบทเป็นหลิ่วเฟยหวิน เรื่องนี้เป็นนักเขียนนวนิยาย แต่กลับได้ไปสืบความลับอะไรบางอย่างโดยบังเอิญ เป็นหนังใช้ต้นทุนเล็กน้อย ท้ายสุดกับเป็นหนังที่ได้รับการตอบรับอย่างมากล้น ห้องจำหน่ายตั๋วหนังเกินกว่า 30 ล้านใบ หายเกลี้ยงไปในพริบตา  กลายเป็นจำหน่ายตั๋วหนังทะลุเป้า หนังเรื่อง และกำลังจะมี ภาค 2 ต่อไปในปีหน้า (2011)

5 พ.ย. 2010 A Tibetan Love Song ชนะการประกวดรางวัลยอดเยี่ยมครั้งใหญ่ในงานภาพยนตร์สากล ม๋าเก๋าครั้งที่ 2 เพิ่งสิ้นสุดลง นักแสดงคนใหม่ยอดเยี่ยมที่สุด นักแสดงประกอบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม รายการรางวัลสำคัญ 3 รายการ ซูโหย่วเผิง ถูกตัดสินได้รับรางวัลตำแหน่งอันดับแรก “ตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ของตัวเอง ไม่ว่า” ตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยม” และไก่ทองคำ รูปทองคำ ม้าทองคำ เหล่านี้โดยมาเปรียบเทียบ แสดงว่ามีบางสิ่งไร้ค่าที่จะเอ่ยถึงอย่างชัดเจน แต่เกี่ยวกับ ซูโหย่วเผิง มาคุยแสดงบทฝีไม้ลายมือบนจอหนังใหญ่ แค่เริ่มต้นก็ได้ดีชิ้นหนึ่ง

**จะบอกว่างานภาพยนตร์สากลที่ม๋าเก๋า อาจจะสู้ ไก่ทองคำ,ม้าทองคำ ไม่ได้แต่ถือว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ เป็นรางวัลที่คณะกรรมได้พิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว นับว่าเป็นก้าวแห่งความสำเร็จอีกก้าว**

ที่ควรมีค่าเอ่ยปากคือ ตำแหน่งอันดับหนึ่ง “นักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ม๋าเก๊า ซูโหย่วเผิง ได้รับตำแหน่งอันดับแรกได้รับรางวัล “ ตุ๊กตาทองฝ่ายชาย “ ม๋าเก๊า  ต่อจากรางวัลช่อดอกไม้ “ “นักแสดงชายได้รับความชื่นชอบจากนักศึกษามากที่สุด” ของงานภาพยนตร์นักศึกษา (ซันซี)

ต่อมา ในปี 2010 ได้รับรายการรางวัลสำคัญอันดับที่สามอักษรด้านบนได้ผ่านการตรวจแล้ว สูตรลับดูไม่ยากของ ซูโหย่วเผิง ได้โด่งดังมากว่า 20 ปีจริงๆแล้วง่ายมากๆด้วย การท้าทายตัวเองไม่ได้หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง -นักแสดงจอทีวี-ยังคงเป็นนักแสดงหนัง- ยิ่งกว่านั้นคือละครเวที ซูโหย่วเผิง ล้วนสำเร็จสูงสุด แต่ในที่สุด ซูโหย่วเผิงยังคงท้าทายกับตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ปรับเปลี่ยนโฉมครั้งแล้วครั้งเล่า กลายเป็นนักแสดงทุกบทบาทของวันนี้ รอคอยจนอายุ 37 ปีของ ซูโหย่วเผิงนำพาทั้งดีใจและตกใจมากยิ่งขึ้น...

Chomnath:
ที่มาเทศกาลภาพยนตร์มาเก๊า
http://www.uomacau.com/en-us/information/detail/5065?redirect=1

เทศกาลลภาพยนตร์มาเก๊า จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในมาเก๊า ได้นำเอาภาพยนตร์ชั้นดีในอดีตและปัจจุบันมาแสดง รวมถึงภาพยนตร์โทรทัศน์ด้วย  ซึ่งในครั้งนี้ จะมีการจัดตลาดภาพยนตร์ด้วย ( ๒๗-๓๐ ธันวาคม) ทั้งภาพยนตร์ในประเทศและต่างประเทศ และยังได้จัดการแข่งขัน รถบุปชาติด้วย ( ๒๖ ธันวาคม ) โดยจะใช้ “เทศกาลภาพยนตร์” มาเป็นหัวข้อในการแข่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่ สวนสาธารณะ จิน-เหลียน เรื่อยไปในมาเก๊า และรอบนอกมาเก๊า แถมด้วยในวันที่ ๓๐ ธันวาคม จะมีการแข่งขันการชกมวยนานาชาติด้วย ซึ่งในครั้งนี้ จะมีนักชกฝีมือดี มาร่วมการแข่งทั้งหมด ๑๖ คน
 
 

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version