Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > Magazine Interviews-China

2008 Rich Without Money

<< < (2/2)

Alec Love Me:

หลังจากที่เดินมาถึงจุดสุดยอดแล้ว มันจะค่อยๆไหลลงอีก นี่เป็นสัจธรรม และยิ่งกว่านั้นในวงการบันเทิง รุ่นใหม่ได้มาแทนรุ่นเก่าอย่างรวดเร็ว แผนการที่วางไว้มันไม่ทันเท่าเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้น หลายปีนี้ ผมได้เดินทางมาแล้วหลายเส้นทาง ได้ดูดวงมาแล้วหลายที่หลายแห่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นวิถีชีวิต ไม่รู้สึกเลยว่าบุคคลที่สำคัญนั้นต้องเป็นศิลปินเท่านั้น

“คนที่เคยมีประสบการณ์ที่สูงสุดและตกต่ำสุดของชีวิตถึงจะเข้าใจกันและกัน ชีวิตคนเราก็เหมือนกับตาชั่งจาน เดี๋ยวทางซ้ายโยกขึ้น เดี๋ยวทางขวาโยกขึ้น ตอนนี้ ให้อะไรกับผม ผมก็รับได้ ความคึกคักนั้นก็ดี ความเงียบสงบนั้นก็ดีเหมือนกัน การเรียบๆง่ายๆก็เป็นสัจธรรม การเกริกก้องก็เป็นสัจธรรมเหมือนกัน ทุกอย่างล้วนแต่ชะตา การทำถึงนั้นเป็นสิ่งไม่ง่าย แต่ผมรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนเป้า เหมือนดังศูนย์กลางของตาชั่ง"

ขณะที่วัยรุ่นผ่านไปกว่าครึ่งนั้น ซูโหย่วเผิงไม่รู้สึกใจหาย

“ ช่วงวัยรุ่น ผมมีความทะเยอทะยาน เป็นคนหนึ่งที่ที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ ผมชอบคำพูดของเหล่าซือมาก  “ผู้รู้จักเพียงพอเป็นผู้มั่งมี”  คิดๆแล้ว สิ่งที่เคยแสวงหานั่นก็ได้มาหมดแล้ว หากจะโลภกว่านี้อีก ก็เหมือนกับให้ความโลภมาจูงเราไป ชีวิตอย่างนี้มันถูกจูงอย่างไม่เป็นอิสระ หากผู้หนึ่งที่ไม่อยากจะได้มากกว่านี้ จะต้องได้สิ่งที่ต้องการทั้งๆที่ไม่มีสิ่งนั้นเลย ความตามใจปรารถนาอย่างนี้อาจทำให้จิตใจตกต่ำ หรือว่าเป็นแง่ลบ ที่จริงสภาพอย่างนั้นก็เหมือนการไม่รู้จักพอ ตามใจตัวเอง"

การเป็นผู้ใหญ่นั่นเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง

ขณะที่กำลังวิเคราะห์ชีวิตของซูโหย่วเผิงนั้น หวงอัน พูดอย่างไม่อ้อมค้อม ในเรื่องการเข้าสังคมนั้น “ไกวๆหู่” จะไม่สามารถเรียนรู้ถึงการอยู่ในสังคงที่มีเล่ห์เหลี่ยมให้รอด เพราะทุกอย่างล้วนแสวงหาแต่สิ่งที่ดี รวมทั้งมีความรู้สึกที่ไว มักจะทำร้ายความรู้สึกคนอื่นอย่างไม่ตั้งใจ ซูโหย่วเผิงอดีตก็เคยเป็นคนที่มีชาตินิยมที่ต้องดีไปหมด จุดบกพร่องของคนคนหนึ่งนั้นล้วนจะเป็นจุดดีของเขา กลอุบายไม่มาก เพียงแต่เปรียบเทียบกับตัวเอง ดูเหมือนกับในแง่บวกไม่พอ ที่จริง มันกลับกลายเป็นการได้รับ ฉะนั้น คุณดูเขาสิ อายุตั้งสามสิบห้าแล้ว ใบหน้ายังเหมือนเด็กที่เป็นที่ชอบของทุกคนเหมือนเดิม คนประเภทนี้ ให้คำพูดของหวงอันว่า ผู้มีคุณนั้นมีมากมาย ฉะนั้น ได้ดังไปกับดาราครั้งแล้วครั้งเล่า ชื่อของซูโหย่วเผิงไม่เคยดังมากกว่าอย่างนี้ และก็ไม่เคยดับไป

ซูโหย่วเผิงได้ยอมรับต่อสาธารณะว่าเคยทำงานเพื่อที่จะได้เงิน “ ผมเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ผมต้องการชีวิตที่อิสระ สิ่งนี้ต้องการเงินมาเป็นที่หนุนหลัง ขณะที่คุณมีปัญหากับคนในครอบครัวแล้ว ความฝันมันไกลเกินจริงๆ ฉะนั้นบางปีทุ่มเทกับงานอย่างมาก หวังว่าจะมีสักวันที่ตัวเองเลือกเองได้ ตังเองเป็นเจ้านายของตัวเอง หากพูดว่าช่วงยากจนนั้นมันไม่มีอิสระ แต่แม้จะมีเงินทองเพิ่มมามากมายก็ยังมีหลายคนที่ไม่มีอิสระ  “ การเป็นผู้ใหญ่ก็เหมือนการวาดภาพภาพหนึ่ง คือเรียนรู้จักขั้นตอนการปล่อยวาง ตอนไม่มีเงินก็เคลียด ในเมื่อมีเงินมีชื่อเสียงแล้ว ครั้งเดียว

Alec Love Me:

"ชีวิตก็ยังเคลียดเหมือนเดิม หลังจากนั้น บำเพ็ญธรรมะ ถึงจะเข้าใจถึงสัจธรรมบางอย่าง การเคลียดก็เพราะปล่อยวางไม่ได้ ที่จริงแล้ว อะไรหลายๆอย่าง มันไม่เป็นปัจจัยที่จำเป็น เพียงแต่เป็นตัญหาความปรารถนาของใจเราเท่านั้น ฉะนั้น พระพุทธองค์กล่าวว่า ก็คือการเรียนรู้ในการให้ การให้คือการปล่อยวาง”

หลายปีนี้ เขาได้เข้าร่วมเป็นผู้ช่วยผู้ประสพภัยทั้งเล็กๆใหญ่ๆมากมาย ปี2005 ได้ร่วมกับมูลนิธิเยาวชนจีน ได้ตั้งมูลนิธิซูโหย่วเผิง ที่ปักกิ่ง ได้ให้ความช่วยเหลือด้านกำลังทรัพย์สำหรับเด็กในด้านการศึกษา

“ นิสัยมนุษย์มีจุดอ่อนมากมาย และมีคนก็ได้เก็บสิ่งนี้ไว้ในใจก็มี นี่เป็นจุดแข็งของนิสัย มีนิสัยเป็นคนที่ชอบเปิดใจกับคนรอบข้าง ฉะนั้นผมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ พวกเขาสุขใจ ผมก็สุขใจ เข้าสู่วงการนานหลายปีแล้ว หวนคิดถึงชีวิตของตัวเอง ได้รับการอุปถัมป์มากมายจากคนรอบข้าง ก่อนจะถ่ายหนัง "องค์หญิงกำมะลอ" เป็นช่วงตกต่ำของชีวิต หนทางข้างหน้าว่างเปล่า ด้านการเงินก็มีปัญหา ในทันใดนั้น เส้นทางเปลี่ยนไป เหมือนดังความอัศจรรย์ ฉะนั้นผมรู้สึกขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หลังจากตอนนั้น ผมถึงเข้าใจ การเป็นผู้ใหญ่นั้นเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง ชายคนหนึ่ง ไม่มีะไรเลย คุณก็ต้องแสดงถึงความรับผิดชอบต่อครอบครัว รับผิดชอบต่อสังคม"

เขาได้พูดเรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่ง ในงานพิธีเปิดโรงเรียนความหวัง ซึ่งอยู่ภายใต้การสร้างของชื่อเขานั้น เขาได้มาที่เหอหนัน ได้รับการต้อนรับจากคนในพื้นที่อย่างมาก ครูใหญ่ได้พูดกับเขาทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณท่าน พวกเราจะจดจำท่านตลอดไป” ในตอนนั้นซูโหย่วเผิงลึกซึ้งใจมาก ผู้ที่จำเขาได้นั้นมากมายจริงๆ มีทั้งคนรัก มีทั้งคนชัง มีทั้งแฟนๆ แต่คำที่ว่า “จดจำ”นั้นมันไม่เหมือนกัน

“ชีวิตไม่ดับ เหตุและผลไม่สูญ ทุกสิ่งกำลังหมุนเวียน คุณสามารถทำผิดมากมาย ทำร้ายใครบางคน ทำในเหตุที่ไม่สมควร แต่ว่าคุณก็ยังสามารถที่จะทำในสิ่งที่ดีได้ ทำในเหตุที่ดี แต่ไม่ว่าจะเป็นผลที่ดี หรือไม่ดี ผล เป็นสิ่งที่พวกเราล้วนต้องไปเผชิญกับมัน รับผิดของมัน"

### จบสัมภาษณ์  ###

Alec Love Me:
[FACEBOOK FANPAGE]
https://www.facebook.com/AlecfanclubinThailand/posts/1257923884246102


http://blog.sina.com.cn/s/blog_4971588d0100b1xd.html
http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-7.jpg.html
http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/library/?sort=3&page=5

Alec Love Me:
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1257923790912778&type=3

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version