เฉียวเจิ้นอวี่ : สกุ๊ป

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 1] เฉียวเจิ้นอวี่เป็นชายงามในชุดเครื่องแต่งกายโบราณในใจของพวกเรามาโดยตลอด

ไม่ว่าเขาจะแสดงหนังพีเรียด,หรือหนังแนวยุคสาธารณรัฐจีน,แนวสมัยใหม่,ล้วนแล้วแต่ดูหล่อเท่ห์ไปเสียหมด,ทั้งจากฝีมือด้านการแสดงและทั้งจากแววตาของเขา,มันจะรู้เลยว่า,ตราตรึงไปถึงทรวงในกันเลยทีเดียว,จนต้องเทใจให้กับเขามาตลอด,ผู้เป็นดุจเทพบุตรกลางใจ, เขาผู้ซึ่งไม่พูดถึงจุดหมายปลายทาง ด้วยใจที่มุ่งมั่นสร้างเรือแห่งความฝัน แปลงโฉมเข้าสวมบทบาท ข้ามผ่านบททดสอบและเติบโตด้วยใจที่บริสุทธิ์ มุ่งไปยังฝั่งฝันที่สว่างระยิบระยับ เพียงรอคอยช่วงเวลา แล้วก็ออกเดินทางฝ่าคลื่นลมนั้น   

"ทุกๆตอนในละคร กับทุกๆบทบาท,สำหรับผมแล้วล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง,เพราะว่ามันทำให้ผมนั้นได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์,ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองและ,ค่อยๆเติบโตขึ้นจากบทบาทที่เคยได้แสดงเหล่านี้,ผมคิดว่าความพอใจของคำว่านักแสดง,ก็คือหลังจากที่หนังนั้นได้ถูก,ออกอากาศไปแล้ว,แล้วก็มีคนพูดถึงบทบาทของคุณที่ได้แสดง,แล้วก็ตอนที่เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงบทบาทของคุณนั้น

ผมคิดว่านี่แหละคือความพอใจอย่างหนึ่ง,ผมคิดว่าการที่คนดูเรียกผมว่านักแสดงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมนั้นดีใจมากๆเลยครับ,ผมรู้สึกว่านั่นแหละคือสิ่งที่เหมาะสมกับวงการบันเทิงแล้ว,มีบ้านที่อยู่แล้วสุขกายสบายใจ,แล้วก็มีงานที่ตัวเองชอบและรัก,หลังจากนั้นก็ค่อยๆออกไปเรียนรู้ชีวิตความเป็นจริง,ผมคิดว่านี่แหละคือชีวิตที่ใฝ่ฝัน

อาชีพของผมเองก็คือนักแสดง,ผมจึงคาดหวังว่า,จะสามารถทำให้ผู้ชมนั้นได้เห็นบทบาทของผมที่แตกต่างกันมากขึ้น,แล้วก็จะได้สัมผัสถึงคาแลคเตอร์ที่ต่างกันออกไปด้วยครับ,ถ้าเป็นแบบนี้ได้ผมรู้สึกว่ามันจะเพิ่มความบันเทิงได้มากขึ้นเลยทีเดียว"

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid02kKdLCPs9Q4u9Y34JhQs4ja64hPB2VbqYYqWjJR42yME3rZn7qk6mBxoZZuFVsoV4l

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 2] เฉียวเจิ้นอวี่ ใบหน้าดุจความฝันในหอแดง, หัวใจดั่งซ้องกั๋ง, ฝีมือเช่นดั่งไซอิ๋ว, และมีไอคิวแบบสามก๊ก
(เป็นการอุปมาอุปไมยกันกับ สี่สุดยอดวรรณจีน)

ในชีวิตจริงและทั้งในหน้าจอซึ่งเขาก็เป็นแบบนี้,ในตอนที่เขายืนอยู่ต่อหน้าคุณ,คุณจะรู้สึกได้เลยว่า เขาเป็นสุภาพบุรุษ เหมือนเจ้าชาย มีมาด สุขุม,อาจด้วยเหตุนี้ การที่เขาสวมใส่ชุดชายจีนโบราณ เป็นความรู้สึกที่เหมาะสมและลงตัว แต่งได้งามสง่าหาใครเทียบได้ สมกับคำที่ว่า  乔优雅 “เฉียวโยวหย่า งามสง่า” และเขาก็ยังสามารถแต่งตัวได้หลายคาแรคเตอร์อีกด้วย

ในโลกแห่งวงการบันเทิงนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายของโลกใบนี้ ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และแฟชั่นล้ำสมัยของเฉียวเจิ้นอวี่ จนกลายเป็นที่จับตาของมวลชน ทุกการเคลื่อนไหวของเขานำมาซึ่งเสียงกรี๊ดและการพูดถึงจากเหล่าบรรดาแฟนคลับ เป็นดั่งเส้นขอบวิวทิวทัศน์ที่งดงามแห่งวงการบันเทิง

เสน่ห์ของเฉียวเจิ้นอวี่ไม่เพียงแค่อยู่ที่ความหล่อเหลาและความสามารถยอดเยี่ยมด้านการแสดงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมันอยู่การปรับตัวหลากสไตล์และความกล้าในเรื่องที่ท้าทาย ที่เขาไม่ว่าจะมีผลงานอันโดดเด่นด้านงานละครและภาพยนตร์เท่านั้น อีกทั้งความสามารถด้านดนตรี แฟชั่น ที่ได้แสดงฝีไม้ลายมือจากพรสวรรค์อย่างรอบด้าน ทุกประสบการณ์ของเขาล้วนแต่ทำให้ตาของเหล่าแฟนคลับนั้นลุกวาว ปลุกความกระหายใคร่รู้ถึงความประหลาดใจและแปลกใหม่ของพวกเขา 

ในด้านแฟชั่น เฉียวเจิ้นอวี่ก็เช่นกันที่ประสบความสำเร็จอย่างเลิศล้ำ ตัวของเขาเองไม่ใช่แค่มีความเป็นแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังได้รับการเข้าร่วมงานแฟชั่นวีคระดับโลกอีกด้วย ที่กลายเป็นดังแห่งวงการแฟชั่น สไตล์เสื้อผ้าที่เข้าสวมใส่นั้นดูโดดเด่นมีดีไซน์ ไม่ว่าจะแนวใส่สบายหรือว่าดูเป็นทางการก็ล้วนแต่จัดการมันได้อยู่หมัด ด้วยความคิดด้านความทันสมัยนั้นหลอมรวมในใจของเขา จนกลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นให้กับวัยรุ่น     
อย่างไรก็ตาม ความมีเสน่ห์น่าค้นหาของเฉียวเจิ้นอวี่กลับทำให้ใครต่อใครนั้นอยากเข้าหา ด้วยไลฟ์สไตล์ของเขานั้นได้เติมเต็มความลึกลับน่าค้นหา ที่ทำให้เหล่าแฟนคลับนั้นยากที่จะตามติดชีวิตเขาได้ทั้งหมด ด้วยความลึกลับนี้แต่ก็กลับไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง แต่กลับยังยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและน่าค้นหามากขึ้นไปอีก ซึ่งเขาเหล่านั้นต้องคอยคาดเดากับเฉียวเจิ้นอวี่ในทุกๆย่างก้าว ที่พยายามที่จะค้นหาคำตอบทั้งจากคำพูดและการกระทำของเขา

เหมือนดั่งดาราหนังอเมริกาชื่อดังอย่างมาริลิน มอนโร เคยกล่าวไว้ว่า “ คนที่ไม่อาจระงับดับความเร่าร้อนบนเตียงได้ก็มักที่จะล้มเหลวพ่ายแพ้บนเวที ”  ทุกครั้งที่เฉียวเจิ้นอวี่อยู่บนเวทีก็จะทำให้ใครต่อใครนั้นหลงรัก ทักษะการแสดงของเขา ภาพลักษณ์ของเขา สไตล์ของเขา ล้วนแล้วแต่ทำให้ใครใครแทบคลั่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเฉียวเจิ้นอวี่ลงมาจากเวทีกลับเป็นคนที่ดูลึกลับและเรียบง่าย ความแปลกใหม่และแหวกแนวตรงนี้ที่ทำให้ทุกๆคนนั้นยิ่งอยากตามติดและจดจ่อและให้ความสนใจในตัวเขามากขึ้นไปอีก

ในวงการบันเทิงที่ได้เติมเต็มการแข่งขันและความท้าทายของโลกใบนี้ เฉียวเจิ้นอวี่ได้ใช้ความเป็นเอกลักษณ์และมีสไตล์เอาชนะใจใครต่อใครจนเป็นที่รักและรู้จัก เขาไม่เพียงแค่เป็นศิลปินที่มากความสามารถ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เติมเต็มความคิดและสร้างสรรค์ให้กับศิลปิน เขาได้ใช้การกระทำของเขานั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ความกล้าในสิ่งใหม่และความท้ายทายในจิตใจของวงการบันเทิง

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของเฉียวเจิ้นอวี่ในวันนี้ที่ไม่ได้เกิดได้เพียงชั่วข้ามคืน ที่เขาต้องทุ่มเทความพยายามและหยาดเหงื่อแรงกายมากมายนับครั้งไม่ถ้วน ถึงจะได้มาซึ่งความสำเร็จในวันนี้ เรื่องราวของเขานั้นได้บอกพวกเราว่า : ขอแค่มีความกล้าและท้าทายตัวเอง อย่าหยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองถึงจะสามารถฉายแววได้ในการแข่งขัน

สุดท้าย ให้เราได้ร่วมตั้งหน้าตั้งตารอเฉียวเจิ้นอวี่ผู้มีความน่ารักสดใสอนาคตไกลของเรากันเถอะ! ผู้เติมเต็มเสน่ห์ลึกลับและศิลปินที่นำเทรนแฟชั่นความทันสมัย เป็นเหมือนภาพวิวทิวทัศน์ของวงการบันเทิงอันเป็นนิรันดร

คำพูดฝากจากเฉียวเจิ้นอวี่ ทุกครั้งที่ได้แสดงก็จะต้อง “ แยกแยะ ” ตัวเองให้ได้ ขอแค่ดึงเอาจิตวิญญาณในตัวเองที่มีเอาออกมา ถึงจะเห็นถึงความแตกต่างในตัวตน อินเนอร์สู่ภายใน เข้าถึงอีกตัวตนหนึ่งที่มี

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid0Bo2JHJ5XQaqq5uhKw5UZ7zyF5gzNcr9mcvPGS3CD1XUiymYYmGofM4aXFrAFEUQrl

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 3]เฉียวเจิ้นอวี่ #乔振宇  #ต้นหยกลู่ลม ทั้งรูปลักษณ์ดีและมากความสามารถ

ความทรงจำสุดประทับใจของเฉียวเจิ้นอวี่คือโอวหยางหมิงยื่อ,ทุกๆคนต่างก็ชอบบทบาทโอวหยางหมิงยื่อของเขาเอามากๆ  "ซีรีย์เรื่องเทพธิดามังกรหิมะ雪花女神龙 ปี 2002 ถือได้ว่าเป็นผลงานแจ้งเกิดของผมก็ว่าได้" ,เป็นผลงานที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก,และเป็นภาพจำที่ยังเหมือนกับว่าเป็นบทบาทที่ใหม่อยู่เสมอ จุดแต้มแดงกลางหน้าผาก,ฮัวโต๋(หมอเทวดา)เสน่ห์ที่ยากจะหักห้ามใจ
"สวัสดีครับ ผมเฉียวเจิ้นอวี่ ครับ,ภาพลักษณ์ของคนเราผมก็ทำได้แค่,ย้อนกลับไปถึงบทของเราที่เคยผ่านๆมา"

ซึ่งในชีวิตจริง เฉียวเจิ้นอวี่ ก็ยังคงเป็น เฉียวเจิ้นอวี่,ที่ไม่ต้องสวมภาพลักษณ์ใดใดไว้,ซึ่งภาพลักษณ์ของเขานั้น,ผู้ชายที่ดูอ่อนเยาว์คนนี้,เป็นคุณพ่อที่ยังหนุ่ม,และเป็นทั้งสามีที่ยังดูเด็ก

"ซึ่งตัวผมอาจจะเป็นอย่างที่ว่าก็ได้,(บทบาท) ผมจะไม่สนว่าจะเล่นเป็นบทดีหรือว่าบทร้าย,ขอแค่ตัวละครนั้นมีเหตุผลและเรื่องราวของมัน"
ซึ่งเหตุผลตรงนี้ของเขา,ด้วยคุณค่าของตัวละครและเขาก็สามารถทำมันออกมาได้ดี

"ผมคิดว่าทุกๆคนก็เป็นคนเหมือนๆกัน,คนธรรมดาคนหนึ่ง,สิ่งที่คนอื่นๆทำก็เป็นเรื่องที่คุณนั้นทำอยู่แล้วเป็นกิจวัตร,ดังนั้นในบางครั้งกับงานของคุณ,ส่องแสงเป็นที่ประจักษ์ให้กับทุกๆคนได้,จริงๆแล้วมันก็เหมือนกันครับ,ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นศิลปินดารานักแสดงภาพยนตร์และละครผมก็น่าจะยังคงทำอาชีพเดิมอยู่,ก็คงยังเป็นนักแสดงเต้นอยู่ครับ,แล้วผมก็ทิ้งทักษะการเต้นมากหลายปีด้วยแล้วครับ"

ในปี 1997 เฉียวเจิ้นอวี่ สอบติดเข้ารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยนาฏศิลป์ปักกิ่ง สาขา นาฏศิลป์คลาสสิค มหาวิทยาลัยนาฏศิลป์ปักกิ่งเป็น มหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องศาสตร์นาฏศิลป์ที่สุดในจีน

"ตอนเรียนอยู่กวงสี (มหาวิทยาลัยศิลปศาสตร์กวงสี) ที่ช่วงนั้นมีอะไรมาให้ก็เลือกเรียนทั้งหมดเลย,ทั้งเรียนบัลเล่ต์,แล้วก็การเต้นรำพื้นบ้าน,ทั้งศาสตร์ด้านร่างกายแบบจีนโบราณซึ่งผมก็จะต้องเรียนรู้ครับ,ถือว่าเป็นอะไรที่เรียนครบจบในหนึ่งเดียวเลยครับ,และพอถึงตอนที่จะต้องเลือกสายที่จะเข้ามหาวิทยาลัยผมถึงเลือกสาขานาฏศิลป์คลาสสิค"

และผลด้านการเรียนของเขาก็ได้คะแนนในระดับดีเลิศ,ได้รับทุนการศึกษามากมายหลายครั้ง,ในการแสดงยังต่างประเทศ,ก็มีการบันทึกการออกอากาศมากกว่า 20 ครั้ง,หลังจากที่จบการศึกษา,เฉียวเจิ้นอวี่ได้ถูกส่งตัวไปที่วิทยาลัยโอเปร่าของจีน,กลายเป็นนักแสดงเต้นที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง

"ผมเคยได้รับรางวัล (口误โข่วอู๋ ) จากกระทรวงวัฒนธรรม,ผมก็จะหยิบเอาอะไรที่,สิ่งที่มือโปรเขาเลือกกัน,บวกกับทักษะความสามารถของตัวผมด้วย,ที่ในที่สุดก็ได้รับรางวัลที่เหมาะจะเป็นของผมจริงๆครับ,ดังนั้นผมถึงไม่รู้สึกเสียอะไรเลย"

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid0275ES7z4NYwF4cEmp6hSyqMCNqfFyjvAKhbGgviNDU5MeQGqbSNfDDiLjZgycE3ZRl

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 4] ร่วมย้อนดูความสำเร็จของเฉียวเจิ้นอวี่ ทั้งความสามารถและมีเสน่ห์ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
ในฐานะสามีเฉียวเจิ้นอวี่ที่ต้องทำหน้าที่ของตนเอง ในการดูแลและเอาใจใส่ภรรยา ดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของเธอทุกอย่าง,และในฐานะพ่อ เขารับภาระอันหนักอึ้ง ที่ไม่เพียงทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว แต่ยังต้องพยายามหาเวลาเพื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกให้ได้มากที่สุด, และในฐานะบุคคลสาธารณะ เขาก็ทุ่มเทให้กับงานและการกุศล ลงมือทำด้วยตนเองอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ได้มีส่วนร่วมสร้างและเป็นแรงพลังพัฒนาสังคมให้เข็มแข็งมากยิ่งขึ้น

เฉียวเจิ้นอวี่ ดูดีมีเสน่ห์ทั้งในและนอกจอ แสดงฝีไม้ลายมือที่เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ ทั้งงานละครและภาพยนตร์ วาไรตี้โชว์ ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในด้านงานละครและภาพยนตร์

เฉียวเจิ้นอวี่ได้เอาความสามารถด้านการแสดงแบบเหนือชั้น ด้วยบทบาทและคาแลคเตอร์ที่ครองใจใครต่อใครมานับไม่ถ้วน ซีรีส์จีน “เก้ายอดคุณธรรมพลิกคดีแค้น”九义人 เขานั้นรับบทเป็น อู๋เหลียน ทั้งความมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์บวกกับการเข้าถึงบทบาทด้านการแสดง ที่ประสบความสำเร็จได้รับความรักและชื่นชอบจากผู้ชม ด้วยความใส่ใจในการแสดงของเฉียวเจิ้นอวี่ ที่สามารถเผยให้เห็นถึงแก่นแท้ของตัวละครได้อย่างมีสีสัน สร้างความประทับใจและเข้าถึงอารมณ์ของคนดู

นอกจากความโด่ดเด่นด้านงานละครและภาพยนตร์ เฉียวเจิ้นอวี่ยังร่วมรายการวาไรตี้และรายการสดอีกมากมาย เขาได้ร่วมรายการแนวพีเรียดออกอากาศสด ที่ใช้การถ่ายทำแบบ AR และเทคนิคด้านการจับภาพที่ทันสมัย เป็นงานที่ทำให้คนดูนั้นได้เพิ่มอรรถรสสัมผัสในการรับชมมากยิ่งขึ้น เฉียวเจิ้นอวี่แสดงความเป็นกันเองและอารมณ์ขันเมื่ออยู่ในรายการสด และได้รับความรักและชื่นชอบจากแฟนคลับเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ เขายังได้ร่วมรายการวาไรตี้  ที่ต้องทำกิจกรรมร่วมกับพี่สาวน้องสาวฝาแฝดคู่หนึ่ง และต้องทำให้ผู้ชมเห็นถึงความอบอุ่นละเอียดละออของเขา และด้านความร่วมมือกันของผลงาน เฉียวเจิ้นอวี่ใช้ความเป็นคนที่มีรสนิยมและมีชื่อเสียง จนกลายเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลากหลายแบรนด์ เข้ายังได้เข้าร่วมรายการกิจกรรมของทางแพมเพิร์สเด็กอ่อนสุดพรีเมี่ยม ไม่เพียงแต่เป็นการขยายความสนใจด้านผลิตภัณฑ์จากสื่อ อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงศักยภาพของพรีเซนเตอร์ที่มีต่อผลิตภัณฑ์อีกด้วย สิ่งที่เฉียวเจิ้นอวี่นั้นมีต่อเหล่าแฟนคลับในขณะถ่ายรายการ ยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องส่งนั้นคึกคักขึ้นมาถนัดตาเลยทีเดียว เป็นการเติมเต็มความสนุกสนานและความอบอุ่น

นอกจากนั้น ในด้านสื่อและสังคมเฉียวเจิ้นอวี่ก็ยังรักษาความมีชีวิตชีวาและเป็นกันเองได้อยู่เสมอ เขามักที่จะร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการทำงานและการใช้ชีวิตของตัวเอง อีกทั้งยังรักษาความสัมพันธ์กับเหล่าแฟนคลับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็นอวยพรตามแต่ละเทศกาลหรือจะเป็นการเปิดตัวละคร เฉียวเจิ้นอวี่ก็จะตอบไขข้อคำถามของเหล่าแฟนคลับได้อย่างทันใจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นกันเองของศิลปินผู้เป็นต้นแบบ นอกจากด้านงานแสดงของเขาแล้ว

เฉียวเจิ้นอวี่ยังได้เข้าร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับกิจกรรมจิตสาธารณะ เพื่อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งเขาจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีร่างกายเปราะในกลุ่มบาง ที่ต้องอาศัยพลังในการขับเคลื่อนและการใส่ใจดูแล ความมีจิตสาธารณะต่อสังคมของเฉียวเจิ้นอวี่ตรงนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อส่วนรวม และยังได้รับความเคารพรักและการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากมวลชน

หากจะพูดถึงเฉียวเจิ้นอวี่ก็ถือได้ว่าเขาทั้งในด้านละครและภาพยนตร์ วาไรตี้โชว์ กิจกรรมแบรนด์สินค้า ต่างก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นถึงความมีเสน่ห์และเป็นศิลปินมืออาชีพมากความสามารถ  ในขณะเดียวกันด้านงานจิตสาธารณะของเขาก็จะสามารถแสดงให้เห็นถึงผลของความพยายามที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid02QW3cnyEZLGDELWVYPKqxvonhE7KcjV3GE7nrnaFbFzwoMgoYzjdR48DieS9JhGLl

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 5]เฉียวเจิ้นอวี่ : ในวัย 24 ปี “จุดชาดแดงระหว่างคิ้ว” ที่สะกดใจตราตรึงใจคนดู,จาก "สี่บุรุษรูปงาม" สู่นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมแห่งยุค

เฉียวเจิ้นอวี่ในวัย 47 ปี นักแสดงฝีมือเก๋าผู้มากประสบการณ์ คร่ำหวอดในวงการบันเทิงจีนมายาวนาน เป็นที่จดจำจากบทสมทบ "โอวหยางหมิงยื่อ" และทรงพลังจากบท "ซูเจ๋อ" สร้างสีสันให้กับทั้งภาพยนตร์และซีรีส์หลากหลายเรื่อง

ละครศิลปะการต่อสู้จีนเรื่อง "ตำนานนทีมืด" นำแสดงโดยนักแสดงชื่อดังอย่าง กงจวิ้น และ เผิงเสี่ยวหราน "เฉียวเจินอวี่" ปรากฏตัวเป็นนักแสดงพิเศษ รับบทเป็น ซูเจ๋อ ฉายา "ผีหมวกสาน" อดีตขุ่ย นักฆ่าไร้อารมณ์ ด้วยการแสดงที่ทักษะอันยอดเยี่ยมของเขา นักวิจารณ์ให้คะแนนการแสดงสูงสุด ใน"ตำนานนทีมืด" ซึ่งแซงหน้า "กงจวิ้น" พระเอกของเรื่องเลยทีเดียว,ด้วยสำเนียงกุ้ยหลินที่กลายเป็นไวรัลและยังเป็นภาษาถิ่นที่สงเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของกุ้ยหลินอีกด้วย ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกเรื่อง

 เฉียวเจิ้นอวี่มาจากกวางสี ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยของมณฑลหลี่,ต่างจากสำเนียงกวางสีทั่วๆไปแต่ว่าภาษาจีนกลางของเขากลับดีมากๆ หากคนไม่รู้จักก็คงคิดว่าเขานั้นเป็นคนปักกิ่งแต่กำเนิด คุณแยกแยะไม่ออกเลยจากน้ำเสียงของเขา

ตอนเขาอายุ 13 ปี แม่ของเขาส่งเขาไป สถาบันศิลปะกว่างซีศึกษานาฏศิลป์เพื่อปรับบุคลิก,ด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่น เขาจึงโด่งดังในแวดวงนาฏศิลป์อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงได้เข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยนาฏศิลป์ปักกิ่ง (Beijing Dance Academy - BDA)  โดยเชี่ยวชาญด้าน นาฏศิลป์จีนคลาสสิก (Chinese Classical Dance) และนาฏศิลป์พื้นบ้าน (Folk Dance)  และได้รับรางวัลมากมาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากประสบความสำเร็จในนาฏศิลป์,อย่างไม่คาดคิด เขาก็เข้าสู่วงการบันเทิงและผันตัวมาเป็นนักแสดง นับจากนั้นอาชีพของเขาก็ได้รับความยอมรับและเป็นที่นิยมมากขึ้น​เรื่อย​ๆในฐานะนักแสดงหน้าใหม่(ดาวรุ่ง) เพียงไม่กี่ปี เขาได้แสดงซีรีย์หลายเรื่อง เช่น "ราชบุตรเขยกำมะลอ" และ "กระบี่สะท้านยุทธจักร" บทบาทที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกคือบทบาทโอวหยางหมิงยื่อ,เจ้าเมืองซื่อฟาง ในละครเรื่อง "เทพธิดามังกรหิมะ" ใน 2002 บุคลิกที่สง่างามและมี “จุดชาดแดงระหว่างคิ้ว” อันโดดเด่นของเขาทำให้ผู้ชมหลงใหล จุดชาดแดงนี้ถูกเพิ่มเข้ามาตามคำเรียกร้องของผู้กำกับ และกลายเป็นตำนานอันโด่งดังอย่างไม่คาดคิด

ในปีเดียวกันนั้น เขายังรับบทเป็นหลี่หาวหราน แฟนหนุ่มของคุณหนูสาม จินรุ่ยจือ ในละครยอดฮิตเรื่อง "บ้านตระกูลจิน" ซึ่งยิ่งทำให้เขาโด่งดังยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากโด่งดังอย่างรวดเร็ว เฉียวเจิ้นอวี่ ผู้ซึ่งงดงามในเครื่องแต่งกายโบราณ ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "สี่บุรุษรูปงาม" ร่วมกับนักแสดง ฮั่วเจี้ยนหัว, จงฮั่นเหลียง, และ เหยียนอี้ควน เฉียวเจิ้นอวี่เป็นผู้นำกลุ่มนี้

พออายุมากขึ้นแล้วรับบทบาทและขยายขอบเขตมากขึ้น(เติบโตทางประสบการณ์ ความรับผิดชอบ และการพัฒนาตนเอง ทำให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ไปสู่บทบาทที่ใหญ่ขึ้น มีอิทธิพลมากขึ้น และทำสิ่งต่างๆ ได้หลากหลายขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงวุฒิภาวะ และการมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในชีวิต ทั้งในแง่หน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ หรือการพัฒนาศักยภาพส่วนตัว)

กล้าที่จะท้าทายบทบาทต่างๆ ในปี 2023 เขารับบทเป็นตัวละครที่ดูสง่างามแต่โหดเหี้ยมในละคร "เก้ายอดคุณธรรมพลิกคดีแค้น" ถ่ายทอดบทบาท "อู่เหลียน" ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการใช้แววตาที่สื่ออารมณ์เศร้า น่าสงสาร รันทด เกลียด เย่อหยิ่ง จนทำให้คนดูเชื่อและอินไปกับบทบาทนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถทางการแสดงที่เหนือชั้น สื่อสารออกมาได้อย่างทรงพลังและเป็นธรรมชาติ ทำให้คนดูเข้าถึงตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง จะเกลียดก็เกลียดไม่ลง จะรักก็รักไม่ได้

ในปี 2013 ระหว่างการถ่ายทำละครเรื่อง "สายใยด้วยรัก" เฉียวเจิ้นอวี้ได้พบกับหวังเชี่ยนอี ซึ่งเป็นนักแสดงเช่นกัน หวังเชี่ยนอี อายุน้อยกว่าเฉียวเจิ้นอวี่แปดปี ทั้งสองรับบทเป็นสามีภรรยาในละครเรื่องนี้ระหว่างการถ่ายทำ คบกันไม่ถึงสี่เดือน เฉียวเจิ้นอวีและหวังเชี่ยนอีได้รับทะเบียนสมรส ,ในเดือนกันยายนปีเดียวกันนั้น ทั้งคู่ก็ได้ลูกคนแรก เป็นลูกชายชื่อเฉียวหงเซิง ในปี 2016 ทั้งคู่ก็มีลูกคนที่สองเป็นลูกสาวชื่อซินซิน ลูกชายและลูกสาวรวมกันเป็นตัวอักษรจีนที่แปลว่า  "ดี" (好) หลังจากแต่งงาน หวังเชี่ยนอี ก็เลิกอาชีพนักแสดง,เพื่อดูแลครอบครัวและถอนตัวออกจากวงการบันเทิง ในทางกลับกัน เฉียวเจิ้นอวี่ยังคงทำงานในวงการบันเทิงต่อไป

ปัจจุบัน เฉียวเจิ้นอวี่อายุ 47 ปีแล้ว และหันมาให้ความสำคัญกับครอบครัวกับการสร้างสมดุลชีวิต (Work-Life Balance)  อย่างไรก็ตาม ทักษะการแสดงของเขายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าละครเรื่องใหม่ของเขา 《美人余》 《เหม่ยเหรินอวี่:สาวสกุลหยี่》จะทำให้ทุกคนประทับใจเช่นกัน

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid02go5NmZcAiyesMxLgAm8dUBBb7xrfFjCb5CX2hcSqSSn6AuUFuBcyA2kgL5ApSoRcl

[prattana]

เฉียวเจิ้นอวี่ เดินหน้าช่วยเหลือสังคมไม่เคยหยุดนิ่ง

ปี 2007
บริจาคให้กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF)

ปี 2008
ร่วมโครงการ “กำแพงเมืองจีนใหม่” ลงพื้นที่เขตประสบภัยแผ่นดินไหวเพื่อช่วยงานด้านการศึกษา ร่วมเซ็นสัญญาเป็นทูตองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน และบริจาคเงินทุนช่วยหมีแพนด้าที่เมืองโว่หลง

ปี 2009
ร่วมงานกาล่าการกุศลกับ “มูลนิธิเยียนหรานแองเจิ้ล” (ตั้งโดยหลี่ย่าผิง และหวังเฟย)

ปี 2010
เดินทางเข้าเขตที่ราบสูงกุ้ยหยางเพื่อร่วมระดมทุนช่วยเหลือเด็กยากไร้และขาดแคลนทุนทรัพย์

ปี 2012
“ร่วมประมูลการกุศลกับเหล่าศิลปินดาราFashion BA”

ปี 2013
เปิดช่องร่วมช่วยเหลืองานการกุศล “กองทุนด้วยรักจากเฉียวเจิ้นอวี่” ภายใต้มูลนิธิช่วยบรรเทาความยากจนแห่งประเทศจีน เข้าร่วมกิจกรรม “ศิลปินรวมพลัง ร่วมส่งต่อความรักที่งดงาม”

ปี 2014
ภาพยนตร์เรื่อง 《คนรักดอกไม้ไฟ》 ได้รับรางวัล “ภาพยนตร์การกุศลยอดเยี่ยม”
ทำหน้าที่ทูตองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน
ร่วมจำหน่ายของการกุศลในงาน “Green Lady”
ร่วมกิจกรรม “ฉันผู้คือดวงตาของคุณ” เนื่องในวันช่วยเหลือผู้พิการทางสายตานานาชาติ ที่เมืองเซินเจิ้น

ปี 2015
ได้รับแต่งตั้งเป็น “ทูตโครงการแห่งความหวัง” จากมูลนิธิพัฒนาเยาวชนจีน

ปี 2016
ร่วมบริจาคอาหารช่วยแมวจรและร่วมสนับสนุน “โครงการล้านป่า” จัดตั้งโครงการ “ป่าแห่งรักเฉียวเจิ้นอวี่ 1314”
จัดสร้าง “ห้องสมุดด้วยรักเฉียวเจิ้นอวี่”

ปี 2017
“ร่วมช่วยเหลือเด็กบกพร่องทางการได้ยินในกิจกรรมคริสต์มาส Owhat”
“วันการกุศล 99  “โครงการฟื้นฟูขอบทะเลทรายเถิงเกอร์” จัดตั้งโครงการ “ป่าแห่งรักเฉียวเจิ้นอวี่ 1303”
ร่วมส่งมอบความอบอุ่นให้กับเด็กๆ ใน “บ้านแห่งความหวัง”
ร่วมบริจาค “ห้องกิจกรรมแห่งความรักเฉียวเจิ้นอวี่” และ “โรงอาหารซุ่นซิน”
“โครงการผู้หญิงสู้ ๆ”
“มูลนิธิปกป้องเด็กและสตรีโซวหู”
“ร่วมบริจาครองเท้าให้แก่ครูและผู้ปกครองเด็กหูหนวกในวันขอบคุณพระเจ้า”
“ร่วมช่วยเหลือสตรีและเด็กยากจนยากไร้ในชนบท”
“โครงการ ฉันจะไปโรงเรียนด้วยรักหนึ่งกิโลเมตร”
“โครงการกล่องรองเท้า : ส่งความรักถึงเด็กชนบท”
“มูลนิธิหมี่กงอี้ | เปิดประตูรักสุขภาพ”
“มูลนิธิหมี่กงอี้ | สร้างห้องสมุดในบ้านเกิด”
“ร่วมบริจาคเงินช่วยผู้ประสบฉุกเฉินเหตุภัยแผ่นดินไหวในเมืองจิ่วไจ้โกว”

ปี 2018
ร่วมกิจกรรมการกุศล 《เราร่วมกันเดินหน้า》 โดยไม่รับค่าตัว

ปี 2019
งานการกุศล  “美丽同行”公益盛典 “Beauty Journey”  ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการ ทำให้ผู้คนหันมาสนใจคนพิการมากขึ้น

ปี 2023
สมาชิกกรรมการสภาเมืองกุ้ยหลิน CPPCC

เขามีใจกุศล ตนเองไม่จำต้องใช้ชีวิตอู้ฟู้ฟุ่มเฟือย สำหรับเขาแล้วการที่ได้ช่วยผู้เดือดร้อน ถือเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุด เพราะมันทำให้รู้สึกว่าการมีชีวิตของตนเองนั้นมีคุณค่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เขาเป็น "เฉียวเจิ้นอวี่"

เฉียวเจิ้นอวี่ เชื่อว่าการกุศลไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณบริจาคหรือจำนวนกิจกรรมที่คุณทำ แต่อยู่ที่การบริจาคเท่าที่ทำได้ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น หยิบขวดแล้วทิ้งลงถังขยะ

ในฐานะทูตสันถวไมตรีเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า เขากล่าวว่า "ผมหวังว่าทุกคนจะมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันคือการสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เป็นรูปธรรมที่สุด"

ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนเพื่อเด็กยากจนในพื้นที่ภูเขา หรือการเป็นผู้ใจบุญและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกุศลเพื่อดูแลผู้พิการทางสายตา เฉียว เจิ้นอวี่ ได้ทิ้งร่องรอยสำคัญไว้ในความพยายามด้านการกุศล

ในรายการวาไรตี้การกุศล 《เราร่วมกันเดิน》我们在行动 เขาได้มีส่วนร่วมในความพยายามบรรเทาความยากจนโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในกว่างซีและเดินทางลึกเข้าไปในหมู่บ้านตี๋หลิง อำเภอหลงเซิง เมืองกุ้ยหลิน เขาทำงานในไร่นา ทำขนมเค้กข้าวเหนียว และปรับตัวเข้ากับชาวบ้าน

ในฐานะบุคคลสาธารณะ เขาก็ทุ่มเทให้กับงานและการกุศล ลงมือทำด้วยตนเองอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ได้มีส่วนร่วมสร้างและเป็นแรงพลังพัฒนาสังคมให้เข็มแข็งมากยิ่งขึ้น

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid0zvSeVsLfa2fm3ou4fykebr7nVCamXxq4n9XLkA9Th1BsjPvZGLi7W3Z5ifZA3XmGl

[prattana]

มีคำกล่าวว่า "เมื่อเฉียวเจิ้นอวี่รับบทสมทบ ตัวละครหลัก (พระเอก-นางเอก) ล้วนเจอเรื่องยากลำบาก"

"เทพธิดามังกรหิมะ" ซึ่งออกอากาศในปี 2003 ถือเป็นละครศิลปะการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของยุทธภพมีเรตติ้งใน Douban สูงถึง 7.0 และเป็นละครที่ผู้คนมากมายเคยดูในวัยเด็ก

ไม่ว่าจะมองในปัจจุบันหรือในอดีต ละครเรื่องนี้เป็นการผลิตด้วยงบประมาณต่ำ นักแสดงส่วนใหญ่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่เป็นที่รู้จัก และผู้กำกับก็เป็นคนโนเนมที่ปัจจุบันไม่มีแม้แต่ชื่อใน Baidu Baike ด้วยซ้ำ หลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว แทบจะขายไม่ออกเลย แต่ในปัจจุบัน หลังจากที่ได้ชมละครเรื่องนี้ที่ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็วมากมาย ผู้คนกลับมองว่าละครเรื่องนี้เป็นละครคลาสสิกเรื่องหนึ่ง

แม้ว่าพล็อตเรื่องจะเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคยเกี่ยวกับการที่ตัวเอกหญิงออกตามหาแม่ของเธอและความขัดแย้งในโลกยุทธภพ แต่พล็อตเรื่องนั้นเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน และตัวละครประกอบทุกตัวได้รับการพัฒนาอย่างดีและมีมิติ นอกจากนี้ยังถ่ายทำในสถานที่จริง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สมจริง

หลังจากละครออกอากาศ นางเอกอย่างตงซวนก็โด่งดังในทันที ในขณะที่พระเอกและพระรองกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก อย่างไรก็ตามเฉียวเจิ้นอวี่กลับติดอยู่ในรายชื่อ "สี่บุรุษรูปงาม" ด้วยบทบาท พระรองอย่างโอวหยางหมิงยื่อ และเป็นที่พูดถึงกันมานานหลายทศวรรษ
เฉียวเจิ้นอวี่: โอหยางหมิงยื่น(หมอเทวดา โต้โถว)

มีคำกล่าวว่า การทำความชั่วมากเกินไปจะนำมาซึ่งผลกรรมแก่ลูกหลาน โอวหยางเฟยอิงฆ่าพี่ชายและแย่งชิงบัลลังก์ขึ้นเป็นเจ้าเมือง แต่ลูกชายของเขา โอวหยางหมิงยื่อ เกิดมาพิการ โอวหยางเฟยอิงรู้สึกว่าลูกชายพิการทำให้เสียหน้า จึงทอดทิ้งลูก แม้ว่าโอวหยางหมิงยื่อจะมีร่างกายพิการ แต่เขากลับฉลาดหลักแหลมอย่างเหลือเชื่อ ภายใต้การดูแลของอาจารย์ผู้เฒ่าจากชายแดน เขาไม่เพียงแต่ได้รับคำสอนที่เข้มงวดจากอาจารย์ตั้งแต่อายุยังน้อยและได้รับการยกย่องว่าเป็น "โต้โถวคนต่อไป" ไม่เพียงเท่านั้น แต่เขายังเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มรูปงามและสง่างามอีกด้วย

นอกจากขาที่พิการแล้ว โอวหยางหมิงยื่อแทบจะะไร้ที่ติ เขาเชี่ยวชาญด้านดนตรี หมากรุก การเขียนพู่กัน และการวาดภาพ มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และเป็นแพทย์ที่เก่งกาจ เขายังหลงรักซ่างกวนเหยียนอย่างสุดซึ้ง เมื่อซ่างกวนเหยียนปรากฏตัวครั้งแรกและขอความช่วยเหลือจากเขา เขาเสนอเงื่อนไขว่า "ขอให้หญิงงามอยู่เคียงข้างสักคืน" ซ่างกวนเหยียนตกลง แต่เขาก็ล้มเลิกในทันที โดยกล่าวว่า "เว้นแต่ว่าข้าจะชนะใจเจ้าได้" ต่อมา เขาเริ่มแสดงความรักอย่างตรงไปตรงมาและบ้าคลั่ง โดยแสดงความรักต่อซ่างกวนหยานด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ และช่วยเธอให้พ้นจากอันตรายหลายครั้ง แม้กระทั่งเต็มใจเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเธอ น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะเต็มใจ แต่นางก็ไม่สนใจ ซ่างกวนหยานรักผู้ชายผมเส้นบะหมี่คนนั้น

สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือ แม้จะถูกพ่อทอดทิ้ง แต่ต่อมาเขาก็ชดใช้กรรมให้แก่พ่อ และมักจะปรากฏตัวทันเวลาเพื่อหยุดยั้งโอวหยางเฟยอิงจากการกระทำชั่วร้ายเสมอ ระหว่างพ่อของเขากับซ่างกวนเหยียน เขากลับเลือกพ่อของเขา ทั้งๆ ที่พ่อไม่เคยรักเขาเลย ความโหยหาความรักจากพ่อนั้นช่างน่าเศร้าใจเหลือเกิน เด็กหนุ่มคนนี้ ด้วยความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม รูปลักษณ์ที่หล่อเหลา บุคลิกที่สงบ ความรักและความเมตตาที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมทุกคนประทับใจ ยกเว้นนางเอกที่ไม่รักเขา

ในปีนั้น เฉียวเจิ้นอวี่ อายุ 22 ปี เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนาฏศิลป์ปักกิ่ง (Beijing Dance Academy - BDA) ด้วยมีรูปร่างสูงโปร่ง สง่างาม เขาทำให้ผู้คนรู้สึกอ่อนโยนและงดงาม แม้ว่าเขาจะแสดงละครทั้งเรื่องในท่านั่งก็ตาม

ในเวลานั้น เขาอยู่ในช่วงที่หล่อเหลาที่สุด ต้องยอมรับว่าเขาเกิดมาเพื่ออาชีพนี้ รูปทรงใบหน้าและสัดส่วนร่างกายของเขาสมบูรณ์แบบเกินกว่าจะจับภาพได้ เขามีใบหน้ารูปไข่แบบคลาสสิก พร้อมคิ้วและดวงตาที่สวยงาม ที่สำคัญที่สุด แม้ว่าเขาเพิ่งเริ่มอาชีพนักแสดง แต่แววตาของเขากลับสื่ออารมณ์ได้ดีมากมาย ดวงตาของเขามีความไร้เดียงสาแบบวัยเยาว์และมีเสน่ห์สายตาเฉียบคมมีไหวพริบมีชีวิตชีวา

รูปลักษณ์ของเขาในละครเข้ากับรูปหน้าของเขาได้อย่างลงตัว ผมของเขาถูกรวบขึ้นเป็นมงกุฎ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ไฝสีแดงชาดระหว่างคิ้วเป็นรายละเอียดที่ช่วยเสริมให้ดูสมบูรณ์แบบ เมื่อสวมชุดคลุมผ้าไหมสีทอง เขาก็ดูสง่างามและสูงส่งสมกับเป็นสุภาพบุรุษหนุ่ม ว่ากันว่าเมื่อโปรดิวเซอร์ขอให้เขาเติมจุดชาดแดงเข้าไป เขาก็ขัดขืนอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามโดยไม่เถียงกับโปรดิวเซอร์ และโดยไม่คาดคิด จุดชาดแดงนั้นก็กลายเป็นผลงานชิ้นเอกไปในที่สุด

ในช่วงปีเหล่านั้น เฉียวเจิ้นอวี่แสดงในละครย้อนยุคหลายเรื่อง รวมถึงบทหยุนเทียนหาวในเรื่อง "คัมภีร์กตัญญู" บทตงฟางเซิงในเรื่อง "ราชบุตรเขยกำมะลอ" บทมู่หลางในเรื่อง "เจ็ดกระบี่ไร้เทียมทาน" และบทฉินฟงในเรื่อง "อลวนรักองค์หญิงจอมแก่น" เขามักรับบทสมทบ แต่การแสดงของเขาก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้บทนำ ในช่วงเวลาหลายปีมีคำที่กล่าวไว้ว่า : "เมื่อเฉียวเจิ้นอวี่รับบทเป็นตัวประกอบจนทำให้เหล่าพระเอกนางเอกในเรื่องต่างก็ต้องลำบากไปตามๆกัน"

เขาเป็นคนที่มีทั้งด้านดีและด้านมืด สามารถเป็นท่านอ๋องที่อ่อนโยนสุภาพ และยังสามารถเป็นตัวร้ายสุดแสนเจ้าเล่ห์ไม่เลือกหน้า จะอ่อนนุ่มนอบน้อมก็ได้ หรือจะเย็นชาเหี้ยมโหดก็ยังทำได้ จะดูลึกลับยากแท้หยั่งถึง จะอ่อนโยนหว่านเสน่ห์ก็เป็นได้ คำที่มักใช้ชื่นชมกับผู้หญิงหลาย ๆ คำพอเอามาใช้กับเขากลับไม่ดูเคอะเขินเลย แต่ก็ไม่กลับทำให้คนอื่นดูว่าเขานั้นเป็นคนสายหวานแต่อย่างใด

ต่อมา เมื่ออินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู ชาวเน็ตในหมวดบันเทิงและข่าวซุบซิบของฟอรัมเทียนย่าได้จัดทำโพลเพื่อเลือกนักแสดงชายที่หล่อที่สุดในละครย้อนยุค ในปี 2011 ผลโหวตที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบันก็ได้รับการสรุป โดยเฉียวเจิ้นอวี่ ในบทบาทของโอวหยางหมิงยื่อ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "สี่บุรุษรูปงาม" ร่วมกับฮั่วเจี้ยนหัว, จงฮั่นเหลียง, และ เหยียนอี้ควน

ในปี 2014 หลังจากที่เจียไน่เหลียงถอนตัวจากบทบาทของโอวหยางเส้ากงในละครเรื่อง "มหัศจรรย์กระบี่จ้าวพิภพ" ทีมงานก็ได้ติดต่อ เฉียว เจิ้นอวี่มารับบทแทน และเขาก็ได้ถ่ายทอดบทบาทของชายแห่งตระกูลโอวหยางให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปีแล้ว แต่เมื่อพูดถึงเฉียวเจิ้นอวี่ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดถึงโอวหยางหมิงยื่อ ในปี 2021 ในรายการวาไรตี้ "The Irresistible" เฉียวเจิ้นอวี่ได้กลับมารับบทโอวหยางหมิงยื่ออีกครั้งหลังจากผ่านไป 18 ปี ใบหน้าของเขาอาจมีริ้วรอยแห่งวัยบ้าง แต่รูปร่างและบุคลิกยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม

เฉียวเจิ้นอวี่ อยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 20 ปีแล้ว แม้จะไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ แต่ก็มีผลงานที่โดดเด่นมากมาย มีโอกาสแสดงอย่างต่อเนื่อง และมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข เขาไม่ได้หลงใหลไปกับการแสวงหาชื่อเสียงและความนิยม ซึ่งน่าจะเป็นสถานะที่ดีที่สุดสำหรับนักแสดงคนหนึ่ง

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid037zR9WhMZ5KGYm8veJxriPyDb9crmBHboC9GiXaCEwgyCZLyxMzKFGnn9emiEC2d6l

[prattana]

[2023-09-19] #เทพบุตรในชุดจีนโบราณ พัฒนาการความหล่อของ #เฉียวเจิ้นอวี่ ในช่วงอายุ 22–45 ปี กับบทบาทโอวหยางหมิงยื่อที่เคยตราตรึงใจใครต่อใครในวัยเด็ก ซีรี่ย์《เก้ายอดคุณธรรมพลิกคดีแค้น》รับบทเป็นตัวร้ายจิตใจวิปริต
。
ซีรีส์ย้อนยุคสืบสวนแก้แค้น ซีรีย์เรื่อง #เก้ายอดคุณธรรมพลิดคดีแค้น #Faithful เฉียวเจิ้นอวี่แสดงเป็นอู๋เหลียนที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก
。
อู๋เหลียนหนุ่มรูปงามสง่า อาจารย์ผู้มากความสามารถด้านงานศิลปะแห่งหอเยี่ยนอวี่ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่อาจารย์แห่งหอปัก แต่ว่าเขาเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในเมือง เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่เคารพรักและเชื่อใจของประชาชนทั่วไป
。
อย่างไรก็ตาม ลุคแบบนี้ก็ดูดีมีเสน่ห์ แม้ว่าในความเป็นจริงจะเป็นสุภาพบุรุษที่น่าศรัทธาแบบจอมปลอม ดุจเดนมนุษย์ในคราบนักปราชญ์ ผู้ซึ่งพรากความบริสุทธิ์ไปจากเด็กสาว เล่นกับความรู้สึก เห็นชีวิตคนเหมือนผักปลา เมื่อเขาถูกจับได้จึงรีบสำเร็จโทษตัวเอง และมีความเกี่ยวพันกันกับคนรอบข้างเขาทั้งสิ้น และเขาก็คือตัวการใหญ่ของซีรีย์เรื่องนี้ สาวน้อยที่ถูกส่งตัวมายังหอปักแห่งนี้จะถูกกระทำย่ำยีด้วยน้ำมือของเขา หญิงสาวที่มีความสัมพันธ์กับเขา “ พวกนาง ”ล้วนแล้วแต่ถูกสับเปลี่ยนผ้าไหมปูเตียง ถูกเปลี่ยนเป็นผ้าปูจากฝ้ายแทนทั้งหมด
。
ทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าปูเตียง ก็หมายถึงเด็กสาวนั้นได้ถูกล่วงละเมิดไปจนหมดสิ้น แล้วก็ถูกเขาทอดทิ้ง ไม่มีค่าใดใดแล้ว น้ำมือของเขาที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเด็กสาวมานับไม่ถ้วน จนกระทั่ง 7 ปีผ่านไปจนได้มาพบเหมิงหว่าน  เขากลับลืมมันไปเสียหมดว่าเคยมีใครที่เคยอยู่ข้างกาย
。
ดังนั้น ในครั้งนี้เฉียวเจิ้นอวี่ ในบท  “ อู๋เหลียน ” เหมือนกับเป็นคนที่ไร้ซึ่งยางอาย จนได้รับสมญานามว่า “ เฮยเหลียนฮัว : เหลียนผู้อำมหิต ”  ด้วยความสามารถที่เข้าถึงบทผู้ร้ายใจเหี้ยมโหดได้ถึงขนาดนี้ ทั้งแววตาจากขาวที่เปลี่ยนเป็นดำดุจสัตว์ร้าย
。
แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขานั้นรับบทร้าย แต่ในครั้งนี้เล่นซะเลวจนถึงขั้นที่ว่าหาความดีในตัวไม่ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นบทที่สร้างความเกลียดชังให้กับเฉียวเจิ้นอวี่ได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้
。
ถ้าอยากรู้ การที่เฉียวเจิ้นอวี่ในวัยหนุ่มนั้นได้ทำให้ใครต่อใครพ่ายแพ้ต่อเขาใน  #สี่บุรุษรูปงาม  กับหนุ่มชุดจีนโบราณที่สร้างความน่าทึ่งให้กับทุกๆคนในวัยเยาว์ ในวันนี้จะมาดูการเปลี่ยนแปลงของเฉียวเจิ้นอวี่ในวัย 22-45 ปีกัน มาดูความทุ่มเทของเขากับภาพลักษณ์หนุ่มจีนโบราณกัน
。
อายุ 22 ภาพยนตร์แนวกำลังภายใน #มังกรสะท้านฟ้าพยัคฆ์สะท้านภพ #龙腾虎跃 รับบทเป็นเฉียวเจิ้นอวี่ในชื่อของเขาเองซึ่งเป็นลูกของเฉียวสง  เรื่อง #ราชบุตรเขยกำมะลอ #新女驸马 ซึ่งในละครรับบทเป็นนายน้อยตงฟางเซิ่ง ตั้งแต่ยังหนุ่มเขาก็รับบทชายตัวร้ายคนที่สี่แล้ว
。
อายุ 23 ปี ซีรีย์เรื่อง #กระบี่สะท้านยุทธจักร #残剑震江湖 รับบทเป็น ซู่ว์ซานหยวน ผู้ที่มีความฉลาดหลักแหลม พระเอกผู้มีจิตใจดี
。
อายุ 24 ปี ซีรีย์เรื่อง #เทพธิดามังกรหิมะ #雪花女神龙  รับบทในฉายา "หมอเทวดาโต้โถว" ผู้ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกรูปงามปราดเปรียวและมีความรู้ทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมอย่างโอวหยางหมิงยื่อ ด้วยความโด่งดังจากบทนี้เป็นพลุแตกที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนดูหลายๆคน จนกลายเป็นหนึ่งใน “สี่บุรุษรูปงาม ”
。
อายุ 25 ปี จากซีรีย์เรื่อง #คัมภีร์กตัญญู #新五女拜寿 รับบทเป็นพระเอก หยุนเทียนหาว
。
อายุ 26 ปี ซีรีย์เรื่อง #องค์หญิงแสนซน #无忧公主 รับบทเป็นฉางเหมิงที่เติบโตมาพร้อมกับองค์หญิงชิงเหม่ยจู๋หม่า ภาพยนตร์กำลังภายใน #เจ็ดกระบี่ไร้เทียมทาน #七剑下天山 รับบทเป็นจ้าวแห่งกระบี่เล่มแรก ยุคแรกแห่งผู้นำเขาเทียนซาน
。
อายุ 27 ปี ซีรีย์เรื่อง #อลวนรักองค์หญิงจอมแก่น #新醉打金枝 รับบทเป็น ฉินเฟิง ผู้ที่มีความเที่ยงตรง ฉลาดหลักแหลม และรักความยุติธรรม
。
อายุ 28 ปี ซีรีย์เรื่อง #อุ้ยเสี่ยวป้อ #鹿鼎记 รับบทเป็นองค์ชายเจิ้นเค่อซ่วงแห่งตำหนักเยี่ยนผิง
。
อายุ 29 ปี ซีรีย์เรื่อง #ฤทธิ์ดาบสุริยามหากาฬ #浣花洗剑录  รับบทเป็นฟางเป่าอี้ ผู้ที่ร่าเริงสดใส ฉลาดและจริงใจ ตรงไปตรงมา
。
อายุ 30 ปี  ซีรีย์เรื่อง #จอมใจจอมยุทธ์ตำนานอักษรกระบี่ #นิยายกิมย้ง  #书剑恩仇录  ตัวเขาคนเดียวรับถึงสองบทบาท ที่แสดงเป็นทั้งเฉินเจียลั่ว ประมุขของพรรคดอกไม้แดงที่เป็นคนตรงไปตรงมาและมีความรู้ความสามารถทางการรบ(ครบเครื่องทั้งด้านบู๊และบุ๋น) และฝูอันคังผู้ที่ดูแลทั้งตำแหน่งจากวิทยาลัยอู่อิงเตี้ยนและรัฐมนตรีกระทรวงการบินทหาร 
。
อายุ 31 ปี ภาพยนตร์เรื่อง #ขงจื๊อ #孔子 รับบทเป็นลูกของขงจื๊อ ขงหลี่
。
อายุ 32 ปี ละครแนวย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์เรื่อง #ยอดผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ #大盛魁 รับบทเป็น จางเจี๋ย หนุ่มผู้ที่เก่งเรื่องการใช้คำพูดและผู้เป็นหนึ่งในกองโจร。
อายุ 33 ปี  ซีรีย์เรื่อง #สุยถังมหาสงครามสองแผ่นดิน #隋唐英雄 รับบทเป็น ลี่เจี้ยนเฉิง ลูกชายคนโตของหลี่หยวน
。
อายุ 34 ปี จากซีรีย์เรื่อง #พลิกตำนานโปเยโปโลเยภาค2  #画皮之真爱无悔 รับบทเป็น องค์ชายรองเจิ้นจี๋แห่งเผ่าเอ้อร์ว่านกู่(เผ่านิจนิรันดร์)
。
อายุ 35 ปี ซีรีย์เรื่อง #มหัศจรรย์กระบี่จ้าวพิภพ #古剑奇谭  รับบทเป็น โอวหยางเส้ากง ผู้อาวุโสที่สุภาพสง่างามและอ่อนโยน บนแท่นหยกเขียวเป็นผู้ที่มีความชำนาญด้านท่วงทำนองดนตรี ถึงแม้ว่าจะเป็น Boss ใหญ่ แต่ว่าคนที่ไม่ชอบเขากลับมีไม่มาก ที่ร่วมฟิชเชอริ่งกับอาเจียวผู้รับบทในเรื่องเป็นซุ่นฟาง ที่ทำให้ใครหลายคนนั้นตราตรึงและประทับใจเป็นอย่างมาก เป็นชายผู้ที่ได้รับความนิยมกว่าตัวละครเอกอย่างหลี่อี้เฟิงที่รับบทเป็นไป๋หลี่ถูซูเสียอีก 
。
อายุ 36 ปี ซีรีย์เรื่อง #อภินิหารรักจิ้งจอกขาว #刘海砍樵 รับบทเป็น หลิวไห่ พระเอกผู้มีความซื่อสัตย์ กตัญญู และมีความรับผิดชอบ
。
อายุ 37 ปี ซีรีย์เรื่อง  #ตำนานสุดอภินิหารเหลียวไจ  #聊斋新编 รับบทเป็น ถาวยูเว่หมิง ผู้ซึ่งเป็นขุนนางใหม่ที่สุภาพและมีความสามารถเป็นอย่างมาก
。
อายุ 38 ปี ซีรีย์เรื่อง #ยอดกวีคู่แผ่นดิน  #思美人 รับบทเป็น ฉู่หวยหวาง เป็นกษัตริย์คนกล้าแห่งแคว้นฉู่และยังเป็นทั้งนักรัก เป็นผู้มีความสามารถมากแต่กลับลังเลไม่กล้าตัดสินใจ
。
อายุ 39 ปี  ซีรีย์เรื่อง #หานซิ่นจอมทัพคู่บัลลังก์ #天意 รับบทเป็นจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้นามว่าอิ๋งเจิ้ง
ซีรีย์เรื่อง #ราชวงศ์หมิง #大明风华 รับบทเป็นกุนซือที่ปรึกษา ซู๋ว์ปิน
。
อายุ 40-42 ปี ที่หลายปีช่วงนี้ไม่ได้แสดงหนังแนวชุดโบราณ แต่จะมีซีรีย์ยุคปัจจุบันให้เล่นไม่น้อยเลย ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกันกับผลงานด้านวรรณกรรม เหมือนทีมสืบค้นหาสมบัติ  #ปริศนาลับสมบัติชาติ #古董局中局  ภาพยนตร์แนวอาชญากรรมแอคชั่น #ขาใหญ่ #大人物 ซีรีย์เกี่ยวกับด้านกฎหมาย #ทนายคู่หู #精英律师 ซีรีย์สมัยใหม่ #สร้างฝันสู่วันใหม่ #创业年代 เป็นต้น
。
อายุ 43 ปี จากซีรีย์เรื่อง #ยุทธจักรหัวใจน้ำแข็ง #一片冰心在玉壶 รับบทเป็น เซียวเฉิน จอมยุทธ์ตาบอด
。
อายุ 44 ปี ซึ่งในปีนี้ไม่มีการเล่นซีรีย์ชุดโบราณเลย แต่ได้แสดงซีรีย์เรื่อง #บูรพาฟ้าสาง #破晓东方  ซีรีย์แนวการแพทย์ที่มีนักแสดงนำ ไป๋ยู่ว์ และได้ร่วมแสดงกับ หยางมี่ จากเรื่อง  #สื่อหัวใจEICU #谢谢你医生
。
อายุ 45 ปี  ซีรีย์เรื่อง #เก้ายอดคุณธรรมพลิกคดีแค้น #九义人 เล่นเป็น อู๋เหลียน กับซีรีย์เรื่อง #เทพบุตรจุติมารัก #四海重明  ร่วมด้วยนักแสดงนำอย่าง จิ่งเถียน จางหลิง

อยู่ในวงการ 23 ปี ในแต่ละปีก็ถ่ายหนังถ่ายละครไปไม่น้อย อย่างน้อยๆในแต่ละปีจะมีซีรีย์ 3-4 เรื่องได้ออกอากาศ ทุกๆผลงานล้วนแต่เป็นผลงานคลาสสิคของเขาทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็นศิลปินตัวอย่างเลยก็ว่าได้

ซีรีย์เรื่อง #เก้ายอดคุณธรรมพลิกคดีแค้น #九义人 ถึงแม้ว่าจะสามารถเห็นถึงความอาวุโสที่ซ่อนเร้น แต่ก็ไม่ได้ใช้ตัวช่วยทางการแพทย์เพื่อทำให้ตัวเองนั้นดูเด็กลง ลักษณะบนใบหน้ามีเสน่ห์ด้วยธรรมชาติรังสรรค์ รับงานแนวชุดโบราณมาก็ตั้งมากมาย แต่ก็ยังรักษามาดของเขาไว้ได้ดีอยู่เสมอ วันเวลาไม่อาจทำอะไรเขาได้เลย

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid02eDgD6K8UiSngeUmJWR3Xt43owCrBAKHKER5doXr13ZaQPRYkP6RBaz1U3mvznp1El

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 6]ความชิวในการทำงานของ #เฉียวเจิ้นอวี่ #乔振宇 #qiaozhenyu ที่แม้ว่าเขาจะเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว แต่ความหล่อระดับตัวท๊อปบนหน้าจอก็ยังคงยากที่จะมีใครมาสั่นคลอนได้,อ่อนโยนและประณีต เปล่งประกายและสงบ สุภาพบุรุษดุจหยก อบอุ่นและเปล่งประกาย,ด้วยความงามสง่าโดดเด่นบวกกับความเจ้าบทบาทด้านการแสดงที่กุมใจเหล่าบรรดาแฟนคลับ และจากเรื่อง #ธิดาดาบมังกรหิมะ รับบท “โอวหยางหมิงยื่อ” จนกระทั่งเรื่อง  #ตำนานนทีมืด  ในบท “ซูเจ๋อ” เขาผู้สร้างภาพลักษณ์ตัวละครในทุกบทบาท และยังเต็มที่อย่างเหนือชั้นตั้งแต่ต้นจนจบ จัดการทุกบทบาทแบบอยู่หมัด จนกลายเป็น “ชายมหัศจรรย์” แห่งวงการบันเทิง
。
ซีรี่ย์เรื่อง #เก้ายอดคุณธรรมพลิกคดีแค้น #Faithful รับบท อู๋เหลียน  ที่ภายนอกดูเป็นสุภาพบุรุษสุขุมอ่อนโยนเรียบร้อย มีฝีมือด้านงานปักที่ไร้เทียมทาน แต่แท้ที่จริงแล้วคือ “คนเลวในคราบผู้ดี” หน้าตาดูเคร่งขรึมมีศีลธรรม แต่ทว่าภายในนั้นช่างแสนโหดเหี้ยมอำมหิต ใช้วิธีการอันมืดมนและรุนแรง เป็นจุดศุนย์รวมของความชั่วร้ายทั้งหมด เป็นตัวร้ายตัวพ่อของแท้
。
ซีรี่ย์เรื่อง #เทพธิดามังกรหิมะ #Quest รับบท โอวหยางหมิงยื่อ ผู้เก่งกล้าด้านวิชาแพทย์ชั้นยอด จิตใจดีมีเมตตา ช่วยเหลือชีวิตผู้คนมานับครั้งไม่ถ้วน เป็นผู้ที่รักนางเอกอย่างสุดหัวใจ สุภาพอ่อนโยน อบอุ่น ลึกซึ้ง และรักเดียวใจเดียว คาแรคเตอร์ที่ตอบโจทย์ชายในฝัน “เจ้าชายในชุดโบราณ” ทุกตรง แต่ด้วยเพราะภาพจำและสิ่งที่ได้เจอชีวิตของตัวเองนั้นเลยอาจทำให้จิตใจอ่อนไหวและแอบมีความคิดที่ยึดติดอยู่แต่สิ่งเดิมๆซ้ำๆ
。
ซีรี่ย์ #ตำนานนทีมืด #BloodRiver รับบท ซูเจ๋อ มือสังหารตัวท็อปแห่งสำนักอันเหอ ผู้มีฉายา “ผีหมวกสาน” ด้วยมือที่เปื้อนเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน ตอนแรกก็ยังคิดว่าเขานั้นซื่อสัตย์ต่อสำนักแบบงมงายเพ้อฝัน แต่เพียงชั่วพริบตากลับฝ่าฝืนกฎของสำนัก ลักลอบมีความรักจนกระทั่งให้กำเนิดลูกสาวและแถมยังเป็นพ่อที่คลั่งรักลูกสาวแบบสุด ๆ
。
ซีรี่ย์เรื่อง #มหัศจรรย์กระบี่จ้าวพิภพ #SwordsofLegends รับบท โอวหยางเส้ากง ผู้ที่มีรูปลักษณ์หล่อเหลา สง่างามมีมารยาทสุภาพ ทั้งเป็นหมอเทวดาฝีมือสูงช่วยชีวิตผู้คน และยังเชี่ยวชาญด้านดนตรี เข้าใจศาสตร์การปรุงยาและหลอมยา แต่สุดท้ายกลับวางแผนชั่วร้ายเพียงเพื่อหวังฟื้นคืนชีพให้กับคนรัก สำหรับตัวละครนี้ แอดกลับคิดระแวงตัวละครอื่นไปเสียหมด แต่กลับไม่เคยคิดระแวงว่าจะเป็นเขาเลย

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid024jp4supwDRR6tpiq3xBEPmETQdM6y9xYmS4Z7ogynWWX1AJukYQyYQQcF93aAJ4ol

[prattana]

#เฉียวเจิ้นอวี่ เป็นนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในเรื่องความสามารถรอบด้านและการทุ่มเทให้กับบทบาท เขายังได้รับรางวัลมากมาย ทำให้เขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มนักแสดงแถวหน้าของจีนที่สามารถรับบทได้ทุกแนว.

ปี 2002 ผลงานซีรี่ย์เรื่อง #เทพธิดามังกรหิมะ  ที่รับบทเป็น โอวหยางหมิงยื่อ ที่ทำให้เฉียวเจิ้นอวี่ได้สมญานามว่า 白月光 ไป๋เยวี่ยกวง,กลายเป็นชายชุดโบราณดั่งแสงจันทร์ขาวนวลผ่องในใจของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน,ตำแหน่งของเขาจนถึงทุกวันนี้ที่ยังไม่มีใครสามารถโค่นล้มลงได้

บทที่ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ใช้สายตาถ่ายทอดในการแสดงถึงความรักความเมตตาของแพทย์ที่ยากจะเลี่ยงความขัดแย้ง จนทำให้ผู้ชมนั้นร่วมกันโหวตให้เป็นหนึ่งใน  #สี่บุรุษรูปงาม  #天涯四美 เป็นปีที่ซีรี่ย์แนวการต่อสู้กำลังภายในนั้นได้รับความนิยม
ปี 2014 จากผลงานซีรี่ย์เรื่อง  #มหัศจรรย์กระบี่จ้าวพิภพ  ด้วยบุคลิกนิสัยอันซับซ้อนของตัวละครหยางเส้ากง ที่ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงความสามารถด้านการแสดงของเฉียวเจิ้นอวี่ ซึ่งเขานั้นได้เอาภาพลักษณ์ขององค์ชายผู้อบอุ่นและแสนดีที่แฝงไว้ด้วยร่างปีศาจใจอำมหิตที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเผิงไหลแฟนตาซี เมื่อเจอกับซุ่นฟางเขาก็สามารถเปลี่ยนอารมณ์จากยิ้มหัวเราะร่าเริงเป็นเศร้าน้ำตาตกเพียงเวลาแค่สามวินาที จนชาวเน็ตต่างยกให้เป็นจุดขายอันโดดเด่นด้านฝีมือการแสดงของเขาเลยก็ว่าได้

บทบาททางการแสดงเหล่านี้ที่ส่งผลให้ #เฉียวเจิ้นอวี่  #คว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลดอกแมกโนเลีย ที่ปูทางให้เขานั้นเดินในสายการแต่งกายในชุดโบราณ

ปี 2020 จากผลงานซีรี่ย์เรื่อง  #ราชวงศ์หมิง  เฉียวเจิ้นอวี่ ที่ทำลายภาพลักษณ์เดิมของชายชุดโบราณ บอกเล่าเรื่องชีวิตความผันผวนไม่แน่นอนของขุนนางที่ปรึกษา

ในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับทังเหว่ย(Rebecca Tang) ในราชสำนัก ที่เขาปรับระดับเสียงให้ต่ำลง ใช้น้ำเสียงที่นุ่มสุขุมและยากที่จะคาดเดาใจในสถานการณ์ได้ ที่ทำให้ผู้กำกับจางถิงเองมองว่า  “เอาละครเกมอำนาจมาแสดงให้เห็นถึงกลิ่นอายด้านแนวคิดปรัชญาชีวิต” และซีรี่ย์เรื่องนี้ได้คะแนน 8.2 จากโต้วปั้น Douban  จนกลายเป็นความสำเร็จที่แท้จริงด้านผลงานละครซีรี่ย์

ปี 2021 #ยุทธจักรหัวใจน้ำแข็ง  จากบทพี่รอง "เซียวเฉิน" ที่คอยช่วยสนับสนุนคู่พระ-นางในเรื่อง  และเป็นการผนึกกำลังกันระหว่าง เฉียวเจิ้นอวี่ และ หวังจื่อสวน  “ สองคนผู้ซึ่งไร้ที่พึ่ง ร่วมกันช่วยต่อสู้ฟันฝ่า ดังประโยคที่ว่า “ข้าหวังเป็นดั่งดาวงดาว ท่านเป็นดั่งจันทรา เจ้าและข้าสว่างไสวส่องประกายด้วยกันทุกค่ำคืน” ที่ทำให้ใครๆต่างตราตรึงใจ ผ่านมาหลายปี เฉียวเจิ้นอวี่ในชุดชายโบราณที่สง่างดงามควรค่าแก่การเฝ้ารอ !

https://www.facebook.com/QiaoZhenyuFamilyinThailand/posts/pfbid0q27AL3BuGovWWShz7iDuiCisdTUhu7FPnNqBTdW7LGYPW7FQ1T1ayehjav1a21Bfl

[prattana]

[สกุ๊ป-เฉียวเจิ้นอวี่ ตอนที่ 7]

อายุเลขสี่เพราะขึ้นเลขสี่ที่ไม่เหมือนเลขสี่,ทุกช่วงทุกจังหวะก็มักจะเจอสิ่งที่ท้าทายใหม่ๆและการเริ่มต้นใหม่,ด้วยใบหน้าที่ดูนิ่งสุขุมในวัย 47 ปี ดูภูมิฐานเป็นสุภาพบุรุษความเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์เย้ายวนสุดๆ
。
นับตั้งแต่ยุค “สี่บุรุษรูปงาม” ที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นก็แทบไม่มีใครที่จะสามารถสั่นคลอนตำแหน่งของเฉียวเจิ้นอวี่ ในฐานะเทพบุตรรูปงามที่ทำให้ใครต่อใครนั้นต้อง “ใจสั่นเต้นแรง” ลงได้ ที่แม้ตัวเขานั้นก้าวเข้าสู่วัยกลางคนแล้วก็ตาม บทบาทด้านการแสดงที่หลากหลายของเขายังคงเขย่าหัวใจคนดูให้สั่นไหวอยู่เสมอ ต่อให้เป็นต้องแต่งตัวในชุดสมัยราชวงศ์ชิงและท้าทายหน้าตาเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงความหล่อดูสง่าแบบไม่ลดน้อยลงไปจากในอดีตเลย
。
ดั่งบทกวีว่า “บุรุษผู้อยู่บนหนทางแห่งความงดงามดุจหยก องค์ชายผู้หาใครเทียบได้ในใต้หล้า” ราวกับถูกประพันธ์มาเพื่อเฉียวเจิ้นอวี่โดยเฉพาะ ดวงตากลมทรงอัลมอนด์คู่นั้น เวลาที่ไม่ยิ้มแววตานั้นราวกับมีดวงดาวและทะเลกว้างไกลอยู่ภายใน แต่พอเมื่อยิ้มขึ้นมาดวงตานั้นกลับพร่าไหวดุจแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และพลังแห่งชีวิตอย่างเหลือล้น ไม่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายธรรมะก็งามแบบขาวสะอาดหรือจะเป็นฝ่ายอธรรมก็ร้ายได้สมใจ ต่อให้ต้องยกแผ่นดินทั้งผืนก็ยังไม่สู้ชาดแดงที่แต้มบาง ๆ อยู่บนระหว่างคิ้วของเขา เฉียวเจิ้นอวี่ช่างเหมาะสมกับคนที่เกิดมาเพื่อสวมชุดโบราณเลยจริงๆ
。
บทที่ทำให้ เฉียวเจิ้นอวี่ นั้นโด่งดังที่สุดคือบทของ “ไซ่หัวถัว” โอวหยางหมิงยื่อ จากซีรี่ย์เรื่อง «เทพธิดามังกรหิมะ» ผู้ที่มีจุดชาดสีแดงแต้มอยู่กลางระหว่างคิ้วเป็นดั่งเช่นจิตวิญญาณของตัวละครนี้ และด้วยบทบาทนี้เองทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน “สี่บุรุษรูปงาม” ซึ่งสี่หนุ่มรูปงามจุฑาเทพนั้นคือนักแสดงชายในซีรี่ย์พีเรียดที่โด่งดังเป็นพลุแตก ซึ่งนักแสดงอีกอีกสามคนนั้นก็คือ กู้ซีจาว รับบทโดย จงฮั่นเหลียง หลี่เจี้ยนเฉิง รับบทโดย เหยียนอี้ควน และ สวีฉางชิง รับบทโดย ฮั่วเจี้ยนหัว
。
ที่ไม่เพียงแค่หน้าตาดีเท่านั้น ทั้งอิริยาบถทุกท่วงท่าในชุดย้อนยุคนั้นช่างงดงามมากเลยจริงๆ! อายุเพิ่มขึ้นแล้วก็ยังคงรักษารูปร่างให้ผอมเพรียวไม่อ้วนลงพุง ยิ่งตอนที่เขาไว้หนวดในลุคชุดย้อนยุคก็ยิ่งมีเสน่ห์ไปใหญ่ ! น่าเสียดายมากที่ตอนนั้นเขาและเหยียนควนยังเป็นหนุ่มหล่อที่ไม่ได้มีผลงานคลาสสิกที่เล่นเป็นตัวเอกของเรื่องฝากเป็นงานไว้ ทั้งที่ฝีมือการแสดงก็ดีแต่กลับทำได้แค่รับบทสมทบ ทั้งทุกวันนี้กลับมีแต่นักแสดงชายที่หน้าตาก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่และก็ไม่ได้มีฝีมือการแสดงอะไรมาครองหน้าจอกันเต็มไปหมด
。
เขาหล่อและดูดีมาโดยตลอดจริง ๆ พออายุยิ่งมากขึ้นก็ยังหล่ออยู่ดี ที่เมื่อก่อนอาจเคยติว่าเขานั้นยังแสดงได้ไม่ดีเท่าทีควร แต่ก็ไม่เคยติเรื่องหน้าตาเขาเลยแม้แต่น้อย และต่อมาฝีมือด้านการแสดงของเขาก็ยิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายปีมานี้ทั้งการดูแลรูปร่างและหน้าตาก็ทำมันได้ดีมากมาตลอด จนมาได้ดูรายการวาไรตี้ของเขาเมื่อปีที่แล้วสองตอน รูปร่างยังดูยังหนุ่มยังแน่นมาก ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่ง ดูสง่า และทรงพลัง
。
ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เฉียวเจิ้นอวี่นั้นได้อยู่หน้ากล้องก็ยังคงหล่อขึ้นกล้องได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะรับบทเป็นหนุ่มใหญ่ร่าเริงสดใส วีรบุรุษผู้แข็งแกร่งเด็ดเดี่ยว หรือจะคนธรรมดาตัวเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายชีวิตคนธรรมดาทั่วไป เขาก็ยังคงให้ความรู้สึกที่สุภาพและอ่อนโยนได้เสมอ ถึงแม้บางครั้งเสื้อผ้าการแต่งตัวอาจจะไม่ได้ดูหรูหราอะไร ก็ไม่อาจปกปิด “ความเรียบหรู” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาลงได้
。
ในชีวิตจริงเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเงียบเรียบ เข้าสู่วงการมาหลายปี แต่แทบไม่เคยมีข่าวด้านลบเลย ก็ว่าได้เรียกได้ว่าเป็น “ธารน้ำที่ใสสะอาด” สายหนึ่งในวงการบันเทิง น่าเสียดายที่ทั้งฝีมือการแสดงและหน้าตามีอยู่ครบ แต่เขากลับไม่เคยโด่งดังเป็นพลุแตกอย่างเป็นจริงเป็นจัง กับเส้นทางในวงการเขาก็ค่อนข้างที่จะเป็น “สายปล่อยวาง” ทั้งในเรื่องของความรักตัวเขาก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ในช่วงที่กำลังมีโอกาสที่จะ “รุ่งพุ่งดัง” เขากลับกำลังคบหาอยู่กับนักแสดงหญิงหวังเชี่ยนอีอย่างกะทันหัน แล้วก็ตัดสินใจแต่งงานมีลูกด้วยกัน
。
แม้รสนิยมด้านความงามจะหลากหลาย แต่ก็ยังคงต้องขอพูดถึงเรื่องของความงาม ซึ่งวงการบันเทิงจีนในตอนนี้ต้องทนอยู่กับนักแสดงชายหน้าตาก็ไม่ได้ดีมานานมากขนาดไหน เวลาที่นั่งดูซีรี่ย์ย้อนยุคก็มักจะอดคิดและสงสัยไม่ได้ว่า ตอนนี้เขาไม่ฮิตพระเอกหล่อๆหน้าตาดีกันแล้วหรือ และยิ่งพระรองพระสามก็ยิ่งแล้วใหญ่ หน้าตาแปลกประหลาดกันไปจนหมด ขอโวยวายคร่ำครวญอีกหน่อย ตอนเด็กไม่รู้รักเห็นคุณค่าของหนุ่มหล่อ ดีแต่มัวติจุกจิกไปเสียทุกเรื่อง ทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงซีรี่ย์แนวรักย้อนยุคเลย แม้แต่ซีรี่ย์ยุคปัจจุบันที่ยังพอใช้ทรงผมช่วยบดบังความไม่หล่อไว้ได้บ้าง ก็ยังไม่เห็นมีหนุ่มหล่อหน้าตาดีหน้าใหม่โผล่มาให้เห็นเลยสักคน เฮ้อ