Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > SCOOPS & SPECIALS

เฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ของ "ซูโหย่วเผิง"

(1/8) > >>

Alec Love Me:
ใช้ความผิดพลาด เป็นบทเรียน ใช้หัวใจทำทุกสิ่งที่หวังไว้ ด้วยตัวเราเอง 把错误当成教训,用心做好每件自己期望着的事情
#苏有朋##苏有朋出道29周年#
กิจกรรม โดย Thaifans
Graphic Design by Lookked

เฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี จากวันนั้น ถึง วันนี้ ของซูโหย่วเผิง
(ผู้ชายที่มีแววตาอ่อนโยนและมีรอยยิ้มที่อบอุ่น)

Celebrating the 29th anniversary of Su YouPeng from that former day today.
(A Man with gentle eyes and a warm smile)

庆祝从出道至今,整整29周年的苏有朋——这个带着温柔的眼神及和煦的笑容的乖乖虎。

27 กรกฎาคม ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ
วันนี้ก็คงเป็นเพียงวันธรรมดาๆวันหนึ่ง 
เช่นเดียวกับวันธรรมดาทั่วไป ผ่านวันเวลาไปด้วยความยุ่งวุ่นวาย 
แต่เป็นเพราะมีคุณอยู่ ทุกอย่างจึงได้แตกต่างไปแบบนั้น 

วันที่ 27 กรกฎาคม 1988 เป็นวันที่พวกเราลืมไม่ลงจริงๆ 
ผู้ที่มุ่งใฝ่ในพุทธศาสนาแบบคุณได้ปรากฏตัวอยู่ในสายตาของพวกเรา   
การเต้น#โชว์สกิล *ร้องเพลง*  นำมาซึ่งรอยยิ้มที่เห็นแล้วสามารถละลายได้  

ปี 1988 ถึง 2017 บนเส้นทางเดินที่ผ่านมา 29 ปีแห่งการเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาว
คุณให้พวกเรามามากมายเหลือเกิน   

ตั้งแต่อัลบั้มเพลง,งานคอนเสิร์ตต่างๆ ตลอดจนถึง photo books ของคุณ    
จากละครโทรทัศน์จนถึงภาพยนตร์
จากการแสดงเพื่อการกุศล ชื่นชอบแสตมป์จนถึงชื่นชอบกล่องพัสดุ
จากบทบาทผู้กำกับจนถึงรายการ reality I Want To meet you ทางBTV(ปักกิ่ง)

ทุกครั้งที่คุณทดลองทำอะไรสักอย่างต่างก็นำความเซอร์ไพรส์มาให้พวกเรา
ทุกครั้งที่คุณบุกทะลวงอะไรสักอย่างต่างก็นำความหวั่นใจมาให้พวกเรา   
ทุกครั้งที่คุณทำบุญกุศลคุณงามความดีต่างก็นำความประทับใจมาให้พวกเรา

จากนี้เป็นต้นไป ชีวิตนี้มีชื่อเพิ่มเข้ามาอีกชื่อนึงนั่นก็คือ ซูโหย่วเผิง    
การได้รู้จักคุณนับว่าเป็นความสุขของพวกเรา ง่ายๆแบบนี้นี่เอง    
ง่ายชนิดที่ว่าแค่ได้คิดถึงคุณอยู่เงียบๆก็พอใจแล้ว   
ง่ายชนิดที่ว่าเมื่อคุณทุกข์ใจเราก็ทุกข์ใจด้วย เมื่อคุณมีความสุขเราก็มีความสุขด้วย   
เป็นแบบนี้ไปอีกสักหมื่นปี พวกเราก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเป็นพยานให้กับคุณจนถึงกาลเวลาสุดท้าย   
ทิวทัศน์ทั้งหลายมองเห็นได้หมด พวกเรายินดีที่จะอยู่เคียงข้างคุณเพื่อดูสายน้ำที่ค่อยๆไหลมาบรรจบกันจนเป็นสายธารที่ยาวไกล

ซูโหย่วเผิง พวกเราอยากจะตะโกนบอกกับคุณดังๆว่า ชายในฝันของพวกเราคือคุณ พวกเรารู้สึกภูมิใจมากจริงๆ ให้คุณพยายามไขว่คว้าหาชีวิตในแบบที่คุณต้องการและพวกเราจะพยายามไล่ตามร่องรอยการเคลื่อนไหวในชีวิตคุณตลอด 29 ปีนี้

ช่วงวัยรุ่นของคุณ เชื่อมกันกับพวกเราอย่างแน่นแฟ้น ในทุกขณะที่พวกเรานั้นเติบโต ต่างก็มีคุณอยู่เคียงข้าง เพราะซูโหย่วเผิง ในทุกๆวันที่แสนจะธรรมดาจืดชืดนี้ ได้สดใสขึ้นมาอย่างกระทันหัน

Alec Love Me:
http://www.weibo.com/1269599605/FbEedt6mH?type=repost#_rnd1499687298285

#ซูโหย่วเผิงเปิดตัวครั้งแรกครบรอบ 29 ปี #ทุกท่านคะ เดือนกรกฎาคมมาถึงแล้ว เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันครบรอบ29 ปีของการเปิดตัวครั้งแรกของเฮียซูของพวกเรา พวกเราก็ควรที่จะจัดกิจกรรมอะไรสักอย่างบนสื่อออนไลน์ใช่มั้ย ทุกคนมีไอเดียอะไรก็ระดมความคิดเสนอกันมาได้เลยนะ

Alec Love Me:



--- อ้างถึง ---เฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี จากวันนั้น ถึง วันนี้ ของซูโหย่วเผิง (ผู้ชายที่มีแววตาอ่อนโยนและมีรอยยิ้มที่อบอุ่น)

Celebrating the 29th anniversary of Su YouPeng from that former day today.(A Man with gentle eyes and a warm smile)

--- End quote ---

"รายการฉันอยากพบคุณ" ไม่มีเงาของคำว่า นักร้อง,นักแสดง หลงเหลือเลยนะค่ะ เป็นรายการปลอดปล่อยซึ่งตัวตน ได้เห็นเฮียในหลายๆมุม เชื่อไหมก่อนนู้เราจะหลงรักเค้าจากบทบาทการแสดงต่างๆเช่นรักองค์ชายห้า,รักเตียบ่อกี้,รักหลู่ซีนั่ว รักเสียงเพลงอันไพเราะ แต่นั้นก็คือการแสดงซึ่งต้องเล่นไปตามบทบาท หากรักเสียงเพลงหรือเวทีคอนเสริต์ก็จะเห็นตัวตนของเฮียมากขึ้น (แต่ก็เห็นเฉพาะบนเวที)

"รายการฉันอยากพบคุณ" ทำให้เห็นหลากหลายมุม ความเป็นผู้นำ, ความน่ารักซนๆๆเหมือนเด็กในร่างผู้ใหญ่ ,ความร่าเริงแบบหน้าหยิก , หล่อเท่ห์และมีบุคลิกที่ภูมิฐาน (อันนี้มีมาตั้งแต่เกิด) 555+

สิ่งที่เห็นได้จากตัวเขาที่แสดงออกมาคือความรู้สึกปลอดภัย ความเป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นพี่ใหญ่ ที่ให้ความใส่ใจ เขาเป็นคนช่างสังเกตุ แค่คำพูดไม่กี่ประโยคก็สามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของ คนอื่นได้ บางทีเขาก็อาจจะแสดงมุมซนๆออกมาบ้าง นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขายังคงมีใจขี้เล่น (เหมือนเด็ก)พูดได้เลยว่าความน่ารักของชายวัย 44 นี้ถึงจะเรียกว่าน่ารักของจริง

ps. ยิ่งนานก็ยิ่งรู้ ยิ่งดูก็ยิ่งชัดเจน ยิ่งรู้จัก ก็ยิ่งรักเธอ

Alec Love Me:


เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

มีครั้งนึงที่ได้อ่านบทความนี้อีกครั้ง ทำให้พวกเราได้มองเห็นเฮียเผิงตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จากนักร้องสู่ดารานักแสดง จากการเข้าร่วมงานกุศลจนถึงการถือเอาความเมตตาเป็นเรื่องราวที่สำคัญของชีวิต ได้มองเห็นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงในหนึ่งชีวิต รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
 
ประสบการณ์ที่เป็นแบบอย่างของดาราชายในฝันผู้ที่ฮอตมากๆคนหนึ่ง ในจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตก็เคยสูญเสียเป้าหมายเหมือนกัน ปัจจุบัน ระยะเวลากว่า 29 ปีของเขาได้ผ่านเรื่องราวมาเยอะแยะมากมาย ได้เริ่มไคว่คว้าหาชีวิตที่ฟ้าลิขิตและความรู้สึกสมดุลทางใจ ความสุขอันยิ่งใหญ่ของเขา คือการที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นผ่านการทำบุญกุศล รวมถึงการได้เดินทางเพื่อเรียนรู้ในวัฒนธรรมอันแตกต่างและรูปแบบการใช้ชีวิต 

พวกเราคิดว่าซูโหย่วเผิงเป็นเสือน้อยแสนรู้มาโดยตลอด แต่มีวันนึงได้พบว่า คนหน้าเด็กอย่างเขา อยู่ดีๆก็ไว้หนวดเคราขึ้นมาซะงั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาเป็นเด็กที่มีความตั้งใจสูงคนหนึ่ง แต่พวกเราอาจจะไม่รู้ว่าเขาได้ศึกษาจิตวิทยาด้านการทำผิดกฏหมายเพียงเพื่อรับบทบาทหนึ่งด้วย ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาร้องเพลงเป็น แต่อาจจะไม่รู้เลยว่านักร้องที่เขาชื่นชอบมากที่สุดนั้นคือ Madonna และ Janet JackSon ถ้าไม่ใช่เพราะการเข้ามาในวงเสียวหู่ตั้งแต่แรกๆ บางทีเขา อาจจะไปเป็น ศาสตราจารย์ แล้วก็ได้ อาจจะมีน้อยคนที่จะรู้ว่าประเทศจีนยังมีโรงเรียนแห่งความหวังที่ชื่อว่าซูโหย่วเผิงอยู่ เขาได้รับการแต่งตั้งจากมูลนิธิพัฒนาเยาวชนประเทศจีนว่าเป็น เอกอัครราชทูตผู้ใจบุญของ "โรงเรียนความหวังแห่งแรกของประเทศ" ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าซูโหย่วเผิงยังคงไม่หยุดที่จะโลดแล่นอยู่บนทุกๆเวทีการกุศลด้วย
 
นับตั้งแต่เปิดตัวเร็วเป็นที่รู้จักไว ซูโหย่วเผิงจึงได้พลาดหลายๆโอกาสแห่งความสุขในวัยเด็กไป ดังนั้นตอนที่เขาอายุ 21 จึงได้เลือกที่จะหนีไป พาตัวเองไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่นิด "หันกลับมามองสิ่งที่เจอในตอนนั้น มันก็คือการก้าวกระโดดจากขั้นหนึ่งไปยังอีกขั้นหนึ่ง จริงๆแล้วมันไม่ใช่ใจกลางของความสมดุล" ตอนนี้คนที่ผ่านช่วงอายุ 30,40 มาแล้วอย่างเขา ก็ลดนิสัยความพิถีพิถันแบบผู้หญิงลงไป มีอารมณ์ขันเพิ่มมากขึ้น เรียนรู้ที่จะใช้สายตาอันอ่อนโยนมองทุกสิ่ง  มุ่งไปยังศูนย์กลางความสมดุลของตัวเอง

สำหรับนิยามของความสุขนั้น การตีความแบบง่ายๆของซูโหย่วเผิงก็คือ "ถ้าผมสามารถทำให้ผู้อื่นมีความสุขได้ ผมเองก็มีความสุขมากเช่นกัน" บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาจึงกระตือรือร้นในการทำกุศลความดีอยู่แบบนี้  ปี 2007 เขาเปิดโรงเรียนแห่งความหวังซูโหย่วเผิง อย่างเป็นทางการ ที่มณฑลเหอหนาน เมืองเจิ้งโจว ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านที่นั่นบนสองฟากฝั่งของถนน ผู้อำนวยการโรงเรียนน้ำตานองพูดกับเขาว่า "ขอบคุณนะครับ พวกเราจะไม่ลืมคุณเลย" ตอนนั้นเขาเองก็ได้สัมผัสกับความรู้สึกจากสิ่งที่เขาทำ ได้รู้ว่าการปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นไรก็จะได้รับผลเช่นนั้น

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อน หรืออนาคตต่อจากนี้ พวกเราก็จะเดินตามรอยของเขาตลอดไป

Alec Love Me:


--องค์หญิงกำมะลอ--

ละครเรื่องนี้เป็นความคลาสสิกที่อยู่ในความคลาสสิก และละครเรื่องนี้เองที่ทำให้พวกเราจดจำซูโหย่วเผิงชื่อนี้ได้ ถ้าจะพูดตามหลักการแล้ว เจ้าเวยน่าจะเป็นนักแสดงหลัก องค์ชายห้าของพวกเราก็น่าจะเป็นพระเอก องค์ชายห้าผู้ที่มีตระกูลผู้ดีติดตัวมาแต่กำเนิด ไม่ว่าจะปิดบังยังไงก็ปิดไม่มิด ใบหน้าเด็กนั้น ถึงดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่แต่กลับมีท่าทางเงียบขรึม ทุกๆการเคลื่อนไหวช่างเป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่ต้องประดับตกแต่งและลงแรงอะไรเลย และภาพนี้ก็ได้สลักไว้ลึกๆในใจของผู้คน วันเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นความคลาสสิก เป็นหนึ่งเดียวตราบชั่วนิรันดร เป็นตำนานที่แท้จริง

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version