ผู้เขียน หัวข้อ: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath  (อ่าน 8303 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 12:11:12 PM »
รายงาน ปรัชญาชีวิตที่สู้ไม่ถอย

นี่เป็นเรื่องราวที่ให้กำลังใจมากๆ (โหย่วเผิงก็เคยเอาเรื่องราวนี้มาแบ่งปันที่ Blog ส่วนตัว)

ปี 1980 เดวิดเรียนหนังสือมหาลัยในเมืองหนึ่งของอเมริกา ค่าใช้จ่ายในมหาลัยนั้น หลักๆคือแต่ละเดือนพ่อแม่จะส่งเงินให้เขา

ไม่รู้เพราะอะไร สองเดือนแล้วที่ทางบ้านไม่ได้ส่งเงินมา กระเป๋าตังค์ของเดวิดนั้นเหลือเงินเพียงหนึ่งเหรียญ เดวิดที่ท้องที่ร้องจ๊อกๆก็รีบเดินไปที่ตู้โทรศัพท์ แล้วรีบหยิบเหรียญที่มีอยู่ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายออกมาแล้วหยอดเข้าไปในตู้ “สวัสดี” โทรติดแล้ว เป็นเสียงของคุณแม่ที่อยู่ในแดนไกลเป็นผู้รับโทรศัพท์

น้ำเสียงของเดวิดที่ร้องไห้และหิวกล่าวว่า “คุณแม่ ผมไม่มีเงินแล้ว ตอนนี้หิวมากๆเลย”

คุณแม่พูดว่า “ ลูกรักจ๋า แม่รู้”

รู้แล้วทำไมยังไม่รีบส่งเงินมาให้ล่ะ เดวิดจะพูดประโยคนี้ออกไปให้คุณแม่อย่างโมโห แต่ก็รุ้สึกถึงน้ำเสียงของคุณแม่ที่ซึมเศร้าเปลี่ยนไป เดวิดรู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว เขารีบถามว่า “คุณแม่ ในบ้านเกิดเรื่องไรขึ้น”

คุณแม่พูด “ ใช่ ลูกเอ๋ย คุณพ่อป่วยหนักมาห้าเดือนแล้ว ไม่เพียงแต่เงินที่สะสมมาใช้หมด และงานที่เคยทำก็ไม่มีแล้ว เงินที่มาจูนเจือครอบครัวก็ตัดขาดไป ด้วยเหตุนี้ สองเดือนที่ผ่านมาแม่ไม่มีเงินที่จะส่งให้ลูกใช้ เดิมที่แม่ไม่อยากจะเล่าให้ลูกฟัง แต่ว่าลูกก็โตแล้ว อาจต้องหาเงินเรียนและเลี้ยงดูตัวเอง”

ผู้เป็นแม่นั้นพูดไปก็ร้องไห้ไป

สายโทรศัพทัยังไม่ขาด น้ำตาของเดวิดก็ไหลลงมาอย่างสายน้ำ ในใจคิดว่า คงจะต้องพักการเรียนแล้วกลับบ้าน

เดวิดพูดกับแม่ว่า “คุณแม่ ท่านอย่าเสียใจเลย ผมจะรีบไปหางานทำ จะเลี้ยงดูพวกท่านแน่นอน”

เรื่องราวที่เหี้ยมโหดนั้นทำให้เดวิดล้มทั้งยืน ยังมีอีกเดือนเศษๆ ก็จะจบเทอมแล้ว หากว่ามีเงินสักสิบเหรียญหรือแปดเหรียญ เดวิดก็สามารถจะอยู่รอดถึงช่วงซัมเมอร์ได้ แล้วใช้ช่วงเวลาซัมเมอร์สองเดือนในการหางานทำ แต่ว่าตอนนี้แม้แต่สตางค์เดียวก็ไม่มี ต้องลาออกจากการเรียนแล้ว เดวิดพูดกับผู้เป็นแม่ว่า “บ้าย บาย” ก่อนจะวางโทรศัพท์นั้นจิตใจแสนจะเจ็บปวด เพราะผลการเรียนของเขานั้นดีมาก และยิ่งกว่านั้นเขาชอบความเป็นอยู่ในมหาลัยนั้นมากๆ หลังจากที่วางสายแล้ว มีเสียงดังจากตู้โทรศัพท์ เดวิดมองไปแล้วทั้งตกใจและดีใจที่เห็นเหรียญร่วงลงมาจากตู้ เขาดีใจมากๆ ยื่นมือไปควักเหรียญเหล่านั้น



จะทำอย่างไรกับเหรียญเหล่านี้ดีล่ะ? ในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยคำถาม เก็บไว้ใช้เอง ก็ทำได้ เพราะไม่มีใครเห็นเลย บวกกับตอนนี้ร้อนเงินมากๆด้วย แต่เมื่อคิดไปคิดมา เดวิดคิดว่าไม่ควรจะเก็บเอามาเป็นของตัวเอง เมื่อชั่วเวลาแห่งการขัดแย้งในใจผ่านไป เขาได้เอาเหรียญหนึ่งหยอดลงในตู้ ได้โทรไปหาพนักงานขององค์การโทรศัพท์

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของเดวิดแล้ว ทางพนักงานบอกว่า “เงินนั้นเป็นขององค์การ ฉะนั้นขอให้หยอดเหรียญลงไปในตู้”

หลังจากที่สิ้นเสียงนี้ เดวิดก็ได้เอาเหรียญต่างๆหยอดเข้าไปในตู้ เมื่อเหรียญตกลงไปทีละเหรียญ ตู้โทรศัพท์ก็มีเหรียญตกลงมาทีละเหรียญเหมือนกัน

แล้วเดวิดก็ได้โทรศัพท์ไปหาพนักงานองค์การอีกครั้ง ทางพนักงานบอกว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เดี๋ยวฉันจะรายงานให้หัวหน้าก็แล้วกัน” เดวิดที่โดดเดี่ยวเดียวดายก็ได้แต่ถอนหายใจอยู่ข้างๆตู้ และทางพนักงานก็ได้ยินเสียงของเขาที่ทุกข์ใจ เธอรู้สึกว่าชายผู้ดีผู้นี้ต้องการการช่วยเหลืออยู่ และไม่กี่วินาที ทางพนักงานก็ได้โทรเข้าตู้โทรศัพท์ที่มีปัญหานั้น เธอบอกกับเดวิดว่า “ฉันได้บอกให้กับทางหัวหน้าแล้ว หัวหน้าบอกว่าจะมอบเงินเหล่านั้นให้คุณ เพราะตอนนี้พนักงานบริษัทเรานั้นขาดคน แค่เงินไม่กี่เหรียญก็คงจะไม่ลำบากที่จะไปเอามา” อ้า เดวิดดีใจกระโดดเต้น ตอนนี้ เงินเหล่านี้ก็เป็นของตัวเองโดยไม่ผิดแล้ว แล้วเขาก็นั่งลง บันเหรียญที่เหลือยังตั้งใจ ทั้งหมดเป็น๙เหรียญห้าสิบเซน เงินเหล่านี้สามารถยังชีพเดวิดได้จนถึงเวลาทำงานครบเดือนเลย ขณะที่เดินไปที่มหาลัย เขายิ้มตลอดทาง เขาตัดสินใจเอาเงินส่วนหนึ่งไปซื้ออาหาร แล้วไปหางานรับจ๊อบทำ

พริบตาเดียวถึงซัมเมอร์แล้ว เดวิดได้งานเช็กสต๊อกของบริษัทหนึ่ง วันนั้น เดวิดได้เจอเจ้าของบริษัท และได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตู้โทรศัทพ์และการหางานทำของเขาให้กับเจ้าของร้านฟัง ทางเจ้าของบริษัทบอกเขาว่าสามารถมาทำงานได้ทุกเวลา ไม่เพียงแค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น เวลาที่ว่างจากากรเรียนหรือการเรียนไม่หนักก็สามารถมาทำได้ เพราะเจ้าของบริษัทรู้ว่าเดวิดเป็นคนที่ซื่อสัตย์ไว้ใจได้ บวกกับเป็นคนที่ระมัดระวัง เหมาะกับการจะเป็นผู้เช็กสต๊อก

เดวิดทำงานอย่างขยันขันแข็ง เจ้าของบริษัทชอบเขามาก ทั้งยังเข้าใจสภาพของเขา ทางเจ้าของบริษัทได้ให้ค่าจ้างสองเท่ากับเขา หลังจากที่เขาได้เงินเดือนแล้ว เดวิดเอาเงินเหล่านั้นรีบส่งไปให้คุณแม่ เพราะตอนนี้เขาได้ข่าวว่าเขาได้ทุนการศึกษาแล้ว หนึ่งเดือนต่อมา เงินที่ส่งไปนั้นกลับส่งกลับมา ในจดหมายแม่เขียนว่า “โรคของคุณพ่อนั้นดีขึ้นมากแล้ว แม่เองก็หางานใหม่ได้แล้ว สามารถที่จะอยู่ได้ ลูกต้องตั้งใจเรียน อย่าอดๆอยากๆล่ะ” หลังจากที่อ่านจดหมายแล้ว น้ำตาเดวิดก็ไหลลงมา เขารู้ดีว่า แม้พ่อแม่นั้นจะอดจะหิว ก็ไม่อยากมาขอเงินจากลูกไปใช้จ่าย ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาได้เพียงน้ำตาคลอเป้า เจ็บปวดในจิตใจ

หนึ่งปีผ่านไป เดวิดได้จบการศึกษาที่นั่น หลังจากที่จบแล้ว เขาได้ไปเปิดบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง ปีแรก เดวิดสามารถทำกำไรกว่าแสนเหรียญ แต่เขาก็ไม่เคยลืมที่เคยใช้เงินจากตู้โทรศัพท์ แล้วเขาได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้กับองค์การโทรศัพท์ “เรื่องที่ผมไม่เคยลืมเลยนั้น คือทางบริษัทได้ให้เงินช่วยเหลือที่ไม่ได้ตั้งใจให้กับผม “๙เหรียญห้าสิบเซน” พระคุณอันนี้นั้น ทำให้ผมไม่ต้องลาออกจากโรงเรียน เดินสู่เส้นทางที่ลำบาก ขณะเดียวกันก็ได้สร้างแรงบันดาลใจกับผม สร้างผมให้รู้จักสู้ชีวิต ตอนนี้ผมมีเงินแล้ว ผมอยากจะตอบแทนให้ทางองค์การด้วยเงินหนึ่งหมื่นเหรียญ เพื่อเป็นสิ่งเล็กน้อยจากใจผม” และทางผู้จัดการองค์การก็ได้ตอบจดหมายรับน้ำใจนี้ไว้ว่า “ยินดีกับคุณที่เรียนจบการศึกษา การงานรุ่งเรือง พวกเราคิดว่า เงินเหล่านั้นเราใช้ได้คุ้มค่ามากๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเงิน ๙ เหรียญห้าสิบเซนมาแลกกับเงินหมื่นเหรียญ แต่หมายความว่าเงินนั้นสามารถทำให้คนคนหนึ่งเข้าใจถึงสัจธรรมของชีวิต ในช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดนั้น จะไม่ลืมว่าความหวังกำลังรอเราอยู่ข้างหน้า อย่างที่สองคืออย่าลืมที่จะรักษ์ความดีงามนี้ไว้”

ยี่สิบปีผ่านไป เดวิดเป็นอย่างไรบ้าง ในเมืองแห่งหนึ่งในอเมริกา มีตึกทีสวยงามตึกหนึ่ง ตึกนั้นรูปทรงสร้างเหมือนตู้โทรศัพท์มาก นั่นก็คือสำนักงานของบริษัทADDC และผู้ก่อตั้งบริษัทนี้นั้น ตอนนี้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ก็คือเดวิดเอง และเขาก็ยังเป็นผู้สนับสนุนเงินให้กับมูลนิธิฟีลิปที่มากที่สุดคนหนึ่งด้วย



Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 12:13:31 PM »
มีแฟนๆชื่นชอบโหย่วเผิงหนึ่งในกลุ่ม QQ    เคยสำรวจตั้งคำถามขึ้นมาว่า
คุณชอบซูโหย่วเผิง มากี่ปีแล้ว    มีคนตอบว่า   20 ปี


โอ้วพระเจ้าช่วยกล้วยทอด 20 ปี ตอนนี้น้องป๊อปเราก็อยู่ราวๆ 10-12 ปี
ถูกต้องเขาบอกว่าเขาชอบโหย่วเผิงตั้งแต่ปี 90 เลยทีเดียว
ได้สัมผัสทั้ง 3 คน มองดูเหมือนพี่น้อง ช่างดูสบายตา สดใส บริสุทธิ์
โดยเฉพาะความฉลาดของไกวๆหู่ได้ดึงดูดใจ


จะว่าไปแล้วซูโหย่วเผิงก็จัดว่าเป็นวัยรุ่นที่โด่งดังมากๆ นับเป็นดารา กลุ่ม สี่จตุเทพไต้หวัน เลยทีเดียว
โหย่วเผิงได้ออกบินเดี่ยว โดยไม่มีพี่ชายทั้ง 2 เพลงรักในชีวิตของเขาก็คือเพลง (หย่งชี่)
เป็นเพลงที่บ่งบอกช่วงวัยหนุ่มที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง
(หย่งชี่) ก็คือเพลงแรกของซูโหย่วเผิง หลังจากออกบินเป็นครั้งแรกในชีวิต

สำหรับอัลบั้มชุดที่ 2 เพลง (เติ่งเต้าน่าอี้เทียน)
บนหน้าปกด้านบนมีรูปโหย่วเผิงสวมใส่ชุดสูทสีน้ำเงิน รอยยิ้มเหมือนอดีตสดใสอบอุ่นมาก

ในงานชมรมราตรีต้อนรับปีใหม่ 2011 เขาได้ร้องเพลง(เติ่งเต้าน่าอี้เทียน)
ครั้งนี้เป็นจังหวะเร็วออกกลิ่นร๊อคเกอร์เล็กน้อย ดูแปลกตาดี
ซึ่งเพลงพวกนี้ล้วนเป็นเพลงซึ่งน่าฟังไม่เบื่อ

ไม่ว่าโหย่วเผิงจะนำเอาเพลงเก่าๆ มารีมิกใหม่ ดัดแปลงให้เร็วขึ้น
เป็นจังหวะให้กระโดดโลดเต้น มองเห็นว่าโหย่วเผิงชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 12:14:05 PM »
ราตรีชุนหวั่น--เทศกาลวัน ตรุษจีน ปี 2010    เสี่ยวหู่ตุ้ยรวมตัวอีกครั้ง
ขณะจังหวะเพลง (ไอ้)—รัก   ค่อยๆดังขึ้น   
ทั้ง 3 คนของล้วนส่วมใส่เสื้อขาวปลิวสะบัดจากศูนย์กลางเวทีเต้นค่อยๆลอยขึ้น
เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนเดิมพวกเขาได้กระโดดขึ้นท่าก้าวเต้นรำอันคุ้นเคยของแฟนๆ
ข้างๆเวที หรือที่นั่งชมอยู่ข้างล่างเวทีนับแล้วก็ล้วนแต่วัย 70-80
ทำให้วันเป็นเป็นการรำลึก หวนคืนวงบอยแบนด์ ต้นฉบับของวัยรุ่นยุคราว 70-80

ถึงแม้ว่าโหย่วเผิงจะสิ้นสุด จากนักร้องวงบอยแบนด์ที่โด่งดัง
และค่อยๆจะเริ่มเข้าสู่หนุ่มวัยฉกรรจ์ แล้วก็ตาม
แต่พวกเราซึ่งรักซูโหย่วเผิง ถึงแม้จะผ่านพ้นวัยกรี๊ด วัยจ๊าบ
แต่ยังคงเหมือนเดิมในจิตใจของพวกเรา
ที่พวกเราจะต้องก้าวต่อไป สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ตามผลงานของเขาอย่างเงียบๆ และมั่นคง

โดยส่วนใหญ่แฟนๆโหย่วเผิงจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ก็มีผู้ชายหลายคนที่ชื่นชอบโหย่วเผิง
และรักโหย่วเผิง แสดงกิริยาท่าทางว่าชอบ คลั่งไคล้ ได้มากกว่าผู้หญิงก็มีนะ เราเคยถามเพื่อนที่เป็นผู้ชาย
ว่าทำไมถึงชอบโหย่วเผิงหละ เขาตอบอย่างภูมิใจว่า

เขาชอบโหย่วเผิงเพราะว่า
1. เขาเป็นคนฉลาด แถมเป็นคนมีพรสวรรค์ด้วย
2. เขาเป็นคนมีใจฝักใฝ่ก้าวหน้าอยู่เสมอ
3. เขาใช้จุดเด่นในการเรียนมาเพื่อประจักษ์พยานทั้งเล่นทั้งเรียนซึ่งเป็นคำขวัญในตอนนั้น
4. เขาอยู่บนเส้นทางการแสดงสามารถเปลี่ยนแปลงบทบาทใหม่ๆได้อย่างยอดเยี่ยม และฝีมือก็มีการพัฒนาด้วย
5. ยิ่งกว่านั้นคือ โหย่วเผิงมักทำอะไรให้พวกเราซึ่งชอบเขา มีเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่บ่อยๆ
6. เขาปฏิบัติกับคนอื่นแบบมิตรภาพไมตรี    มีความรัก    กิจกรรมการกุศลล้วนสามารมองเห็นเขามีจิตใจ
กระตือรืนร้น    ใช้จิตใจที่มุ่งมั่นเพียรตั้งใจขยายไปกลุ่มฝูงคน
7. เขามีใบหน้าสง่างามในวัยหนุ่ม   มีรอยยิ้มอบอุ่นนุ่มนวลแสงสว่างแพรวพราว
 ในวัยรุ่นท่าทางสง่าถึงบัดนี้เป็นชายแมนๆดูเด่นสง่า
9.  เขามีท่าทางแบบเฉพาะตัวทำให้ผู้คนหลงไหลทั้งหญิงและชาย
แม้กระทั่งบุคคลที่โตกว่าโหย่วผิงก็ล้วนถูกแรงเสน่ห์ของเขาดึงดูดไว้


ผู้ชายคนนี้เขาเป็นนักประพันธ์ด้านวิจารณ์หนังสือค่ะ
เขียนบทความต่างๆของโหย่วเผิงได้ดีทีเดียว   
ตอนที่เราอ่านบทความของเขาเขียนที่บล็อคส่วนตัว
เราเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงนะ แต่พอได้คุยกัน เขาเป็นผู้ชายค่ะ


จะว่าไปแล้วคนที่รักโหย่วเผิงชื่นชมโหย่วเผิง หรือแฟๆโหย่วเผิงทุกๆคน
ไม่เพียงแต่ชอบโหย่วเผิงที่โหย่วเผิงหล่อ เท่ห์ ร้องเพลงก็เพราะ แสดงก็ดี
แต่เป็นเพราะว่าโหย่วเผิง เป็นคนดี จิตใจดี คิดดี ทำดี และวางตัวดี มากกว่ารูปร่างหน้าตา
เกี่ยวกับ โหย่วเผิง    เกี่ยวกับพวกเรารักชอบเรื่องทุกสิ่งของเขา
ไม่ใช่จะบรรยายได้หมด อยู่ในวันเวลาอดีต หรืออนาคต เขาจะอยู่ในใจพวกเราตลอดเวลา

ดังนั้นโหย่วเผิงถึงอยู่ในวงการบรรเทิงได้ 23 ปีและจะอยู่ตลอดไปเรื่อยๆ
 

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 12:21:15 PM »
2002 一场真正意义上的演唱会

<a href="http://www.tudou.com/v/xWPO6J0MVVk/" target="_blank" class="new_win">http://www.tudou.com/v/xWPO6J0MVVk/</a>

วันที่ 22 มีนาคม ปี 2002 คอนเสริตแห่งชีวประวัติ เป็นที่ควรระลึกถึงและสมควรจดจำ
ความหวัง ความฝันหวังว่าสักวันตัวเองจะได้มีโอกาสในเวทีใหญ่ๆกับเขาซักครั้งในชีวิตการเป็นนักร้อง
ตั้งแต่ปี 1997 เรื่อยมาคนใหม่ๆ ซึ่งยังไม่รู้จักโหย่วเผิงมาก่อนก็จะคิดว่า โหย่วเผิงจากดาราไปเป็นนักร้อง
แต่ความจริงแล้วโหย่วเผิงเกิดจากนักร้องไปเป็นดารา ....แต่คนส่วนใหญ่จะจดจำคิดว่า เป็นดารามากกว่า

อดไม่ได้ค่ะที่จะเขียนถึงซะหน่อย โหย่วเผิงรักชอบการร้องเพลง
การแสดงสดๆบทเวที ท่าเต้นตั้งแต่เพลงแรก ทุกคนถึงกับตกตะลึง

โหย่วเผิงได้นำเอาเพลงต่างๆที่ตัวเองชอบมาร้อง ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน
เป็นคอนเสริตที่วิเศษมาก เขาทุ่มเทอย่างมากค่ะ เตรียมตัวเต็มร้อยสำหรับงานนี้

กว่าจะได้คอนเสริตเต็มรูปแบบ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆค่ะ
โหย่วเผิงต้องฝึกฝนร่างกาย เข้าโรงยิมเพาะกายให้แข็งแรง สมบูรณ์
การเพาะกายมันยุ่งยากมากคือคุณต้องเข้มงวดกับการกิน ห้ามทานหวาน ทานอาหารไม่มีรส
กำจัดไขมันส่วนเกิน ทั้งนี้เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์

พูดอีกอย่างคือเป้าหมายคิดอยากให้แฟนเพลงเห็นรูปร่างที่เซ็กซี่ในตัวเขา
พยายามจะสื่อให้แฟนๆได้รับรู้ว่า เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่ไกวๆหู่ในอดีต

ที่เห็นอีกอย่างคือร้องเพลงประกอบการแสดง(มีการแสดงละครพูด)
เห็นฝีมือการแสดงออกที่มีสีสัน การแสดงคอนเสริตในครั้งนี้
ซูโหย่วเผิงทำให้เรามองเห็นว่าเขาทั้งฉลาด และน่ารัก ในการแสดงแต่ละฉากการแสดง

การสวมใส่กางเกงต่ำกว่าเอวและเสื้อที่ใส่เห็นความเซ็กซี่
อยู่บนเวทีโชว์ลีลาการเต้นได้พริ้วสวยงามมากค่ะ ...ที่บอกว่า ช้าไปหนึ่งจังหวะ คงไม่ใช่แล้ว
หรือท่าเต้นเร่าร้อนกับเพลงออกสไตล์ร๊อคก็นับว่าไม่เลวค่ะ
ทำให้แฟนๆที่อยู่ข้างล่างอดใจไม่ไหวลุกขึ้นมาโยกซ้ายโยกขวาไปตามโหย่วเผิง

ทำให้ผู้ชมเห็นแล้วประทับใจแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่
โหย่วเผิง ไกวๆหู่ ไอดอล ขวัญใจ ทำได้แล้ว

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 12:21:48 PM »


เพื่อนแสนดีสองท่านของซูโหย่วเผิง อู๋ฉีหลงและเฉินจื้อเผิงก็เจียดเวลาของตัวเอง
เพื่อมาเป็นแขกรับเชิญให้โหย่วเผิงโดยเฉพาะ ทำให้แฟนๆได้ร่วมรำลึกถึงเสี่ยวหู้ตุ้ยอีกครั้ง
พวกเขาทั้ง 3 ได้ร่วมร้องเพลง ซิงกวนอีจิ้วช่างลั่น แปลว่า ดวงดาวยังระยิบระยับเหมือนเดิม

บนจอ VCR ได้ฉายทั้ง 3 คนเมื่อ 10 ปีก่อนที่ต่อสู้บุกตะลุยไปทั่วเจียงหนาน
เจียงเป่า ทุกเวทีการแสดงเป็นภาพแห่งความหลังที่ประทับใจของเหล่าบรรดาแฟนๆ
ทำให้บางคนถึงกับร้องไห้ออกมา

งานคอนเสริตในครั้งนี้ นับว่าเป็นเวทีใหญ่ครั้งแรกในชีวิต
มีแฟนๆแต่ละประเทศมาร่วมให้กำลังใจค่ะ อาทิเช่น จากอเมริกา
แคนนา, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อังกฤษ, เยอรมัน, ออสเตรเลีย
ญี่ปุ่น,เกาหลี, ไอร์แลนด์ และแอฟริกา เป็นต้น

ยังมีแฟนเพลงบางกลุ่มที่นั่งเที่ยวบินลำพิเศษ เพื่อบินไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้มาร่วมงาน
ของเสริตโหย่วเผิงโดยเฉพาะค่ะ

แฟนเพลงซึ่งมีอายุมากที่สุด และติดตามโหย่วเผิงมานานซึ่งมาจากสิงคโปร์
คุณยายท่านนี้อายุ 70 ปี ค่ะ แล้วคุณยายยังได้มอบสร้อยคอทองคำให้แก่โหย่วเผิงด้วย

สิ่งที่เห็นแล้วประทับใจอีกอย่างคือแฟนๆที่ไต้หวันค่ะ
มากันเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้ได้เติบโตมากับโหย่วเผิง
ตั้งแต่เข้าสู่วงการและได้สนับสนุนโหย่วเผิงจนกระทั่งถึงปัจจุบัน


Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: Alec Su : คุณคือสะพานแห่งความรักของพวกเราทุกคน By Chomnath
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 12:22:14 PM »


ตั๋วเข้าชมงานแสดงคอนเสิร์ท ได้พุ่งถึง 1200 หยวน
ตามที่ทราบมาบัตรผ่านประตูงานแสดงคอนเสิร์ตจาก 20 ถึง 880 หยวนจีน
ถึงแม้จะมีตั๋วผีอยู่บ้างแต่คนก็ยังเต็มใจที่จะซื้อ

เพื่อให้การแสดงเป็นไปอย่างราบรื่นและคล่องตัว
เพราะเวลาเต้นเหงื่อจะไหลออกมาปิดหน้าปิดตา
ทำให้ไปกระทบกับแว่นตา-คอนแทคเลนส์ โหย่วเผิงถึงตัดสินใจทำเลซิกสายตา

ทุกๆอย่างต้องเตรียมความพร้อม ทั้งตัวเองและทีมงาน
การฟิตร่างกาย ทุกเช้าลุกขึ้นจากเตียงทำการเพาะกาย
ฝึกซ้อมท่าเต้น จดจำเนื้อเพลงที่จะร้อง
ใช้ความเพียรพยายาม "ทำให้ดีและสวยงามที่สุด"

การเตรียมพร้อมชุดเสื้อผ้าแสดง 500 ชิ้น
ชุดแต่งกายซึ่งมีอยู่ล้วนเป็นช่างออกแบบผู้มีชื่อเสียงชาวฮ่องกงเป็นผู้ตัดเย็บ
โหย่วเผิงบอกว่าชุดแต่ละชุดใช้หยาดเหงื่อแรงใจ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
อยากให้เป็นสิ่งจำจดของแฟนๆ

ชุดแต่ละชุดมันช่างเซ็กซี่จัง...
เราชอบชุดที่โหย่วเผิงใส่ร้องเพลงประกอบซีรีย์เรื่องต่างๆค่ะ
ดูเป็นคุณชาย สง่างาม และดูอบอุ่นในตัวค่ะ