ผู้เขียน หัวข้อ: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?  (อ่าน 23173 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
480959_469902213048277_475632913_n.jpg" border="0

แต่เล็กแต่น้อย คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?

จากชื่อเสียงที่ได้รับการต้อนรับกลับมาให้แจ้งเกิดอีกครั้งจากบทของ"องค์ชายห้า"ในละครทีวียอดฮิตที่ติดอันดับยอดนิยมของสถานีโทรทัศน์ของฮ่องกง ไต้หวันและจีนมาตั้งสองปีที่แล้ว จนบัดนี้ต้องยอมรับถึงความนิยมของแฟนๆ ที่มีต่อ"ซูโหย่วเผิง"นั้นไม่ได้มีแต่สามประเทศเท่านั้น แม้แต่แฟนๆเมืองไทยเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเลยซึ่งจะขอมีส่วนร่วมหรือติดตามข่าวคราวของชายหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ว่าทำอะไรอยู่ ซึ่งกว่าที่จะได้ข่าวคราวของ"ซูโหย่วเผิง"นั้นไม่ได้มาง่ายๆ อย่างที่คิดกันหรอกนะจ๊ะ เพราะช่วงนี้"ซูโหย่วเผิง"มีงานรัดตัวประกอบกับงานละครที่ต้องมีการถ่ายทำเกือบทุกวันตั้งแต่ต้นปีเรื่อยมา แต่"ซูโหย่วเผิง" ก็สามารถรับทราบถึงความเป็นห่วงเป็นใยของแฟนๆ ที่มีต่อเขาได้จากจดหมายของแฟนๆ นับแสน พัสดุไปรษณีย์นับหมื่น ยังไม่รวมถึง อีเมล์ที่มีถึงเขานับพันเช่นกัน ซึ่งหากเราอยากจะรู้จักกับ"ซูโหย่วเผิง"ให้มากกว่านี้ก็ต้องเริ่มรู้จักกันตั้งแต่ก่อนเข้าวงการกันเลย

อุแว้...อุแว้

"ก็ต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 1973 ในห้องคลอดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงไทเป ซึ่งวันนั้นเป็นวันดีนะ เพราะเป็นวันที่คุณแม่ได้ให้กำเนิดผมลืมตาขึ้นมาดูโลก คุณแม่เล่าให้ผมฟังว่า ตอนนั้นท่านดีใจมากเมื่อทราบว่าลูกชายของท่านมีสุขภาพแข็งแรง ผมได้รับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่มาโดยตลอดจากคุณพ่อและคุณแม่

ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา

ผมเกิดในช่วงกลางของเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง ด้วยเหตุผลนี้คุณแม่ผมท่านจึงตั้งชื่อผมว่า "Peng"

ความสัมพันธ์ในครอบครัว

น้องชายผมจะอายุน้อยกว่าผม 6 ปี เมื่อตอนที่พวกเรายังเด็กพ่อกับแม่มักจะดูแลเอาใจใส่พวกเราเสมอๆ ท่านจะพาเราไปเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของผมในช่วงเวลานั้นที่ได้รับการศึกษาในศาสตร์และศิลปะแขนงต่างๆ ตอนนั้นพ่อของผมมักจะพาพวกเราไปศึกษาดนตรี รวมทั้งการเล่นหมากรุกและศิลปะต่างๆ ในโรงเรียนที่เปิดสอน

พ่อแม่ของผมท่านเป็นคนค่อนข้างเข้มงวดและคาดหวังในตัวพวกเรามาก เพราะคุณพ่อมีความคิดว่าเด็กจำเป็นต้องได้รับการศึกษาที่ดีและจำเป็นต้องเรียนรู้ในหลายๆ ด้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นความรู้เฉพาะในตำราเท่านั้น แต่ยังต้องพยายามฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้ที่รู้จักนำสิ่งต่างๆ มาปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาตนเอง เพราะท่านยังเชื่อว่าลูกผู้ชายจะต้องรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต(โอ้โห...น่าอิจฉาหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้นจังเลย จะมีโอกาสบ้างไหมน้า...ที่จะเจอผู้ชายดีๆ แบบนี้สักคน เฮ้อ...แค่คิดก็ท้อแท้ซะแล้ว) ใครๆ หลายคนคงคิดว่าผมและน้องชายเติบโตมาในครอบครัวตัวอย่างที่มีคุณพ่อที่เข้มงวดและมีคุณแม่ที่ใจดีแต่ในความจริงแล้วคุณแม่จะใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเรามากกว่าคุณพ่อซะอีก ทำให้ผมสามารถพูดคุยอย่างเปิดเผยในทุกๆ เรื่องกับท่านได้โดยไม่มีปิดบังเลย แต่สำหรับคุณพ่อแล้วผมไม่ค่อยกล้าเข้าไปหาท่านสักเท่าไหร่ ระหว่างผมกับคุณพ่อแล้วมันเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะเหินห่างสักหน่อย ด้วยความที่ท่านเป็นคนเข็มงวดและเจ้าระเบียบ ทำให้ผมไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าไปหา หรือไม่กล้าพูดคุยในเรื่องต่างๆ ได้เหมือนกับที่พูดคุยกับแม่ และเมื่อผมโตขึ้น ผมก็เข้าใจท่านมากขึ้นด้วยเช่นกัน ตอนนี้ผมกับคุณพ่อนั้นเราสามารถพูดคุยหรือเข้าไปหาท่านได้อย่างสนิทสนมมากกว่าตอนเด็กซะอีก(ยิ้ม)

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2000 คุณรู้จัก "ซูโหย่วเผิง" ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2012, 10:42:04 AM »
429527_469902313048267_2108915732_n.jpg" border="0

น้องชายที่แสนดี

ผมโชคดีมากนะครับ ที่ได้น้องชายคนนี้มาเป็นน้องชาย(จริงๆ แล้วน่าจะมีน้องสาวอย่างเราด้วยก็จะโชคดีมากกว่านี้นะ เพราะมีสาวๆ หลายคนอยากเป็นน้องสาวของ"ซูโหย่วเผิง"มากจนนับไม่ถ้วนแน่ๆ)และต้องขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ที่ให้เขาเกิดมาเป็นน้องชายของผม เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พวกเรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอๆ เวลาที่ผมมีปัญหาเขาก็จะเป็นผู้รับฟังที่ดีทีี่สุด ก็น้องชายคนนี้แหละที่มักจะให้คำแนะนำดีๆ แก่ผมเสมอแม้ว่าเราจะมีอายุห่างกันตั้ง 6 ปีก็ตาม แต่อายุที่ห่างกันและการศึกษาที่ไม่เหมือนกันของพวกเราก็ไม่เป็นอุปสรรคในการอยู่ร่วมกันและความสัมพันธ์ของการเป็นพี่น้องกันเลย ผมและน้องชายมีความสนิทสนมกันมากตั้งแต่ยังเด็กๆ แล้ว แต่เมื่อผมโตขึ้นและเริ่มทำงานทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนแต่ก่อนเลย

ความทรงจำในวัยเด็ก

แม่มักจะเล่าเรื่องต่างๆ ในวัยเด็กของผมและน้องชายให้ฟังเสมอๆ แต่พอผมเริ่มต้นทำงานและงานก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก จึงไม่ค่อยได้ฟังเรื่องวัยเด็กของผมเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งบางครั้งความทรงจำบางเรื่องมันก็ดูจะลางเลือนไปตามกาลเวลา หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นผมยังเด็กมากเกินไปที่จะจดจำเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัีวเองได้มากกว่า แต่แม่เล่าให้ฟังว่ามีอยู่ครั้งนึงเมื่อตอนผมอายุประมาณ 4-5 ขวบได้มั้ง ผมหายไป พ่อกับแม่ตกใจมากและออกไปตามหาตัวผมในทุกๆ ที่ที่คิดว่าเด็กอย่างผมในตอนนั้นจะไป แต่ในที่สุดตำรวจก็โทรมาที่บ้านบอกว่าพบตัวผมแล้วและกำลังจะนำผมมาที่สถานีตำรวจให้พ่อกับแม่มารับตัวผมกลับบ้านได้ ตอนนั้นผมยังเด็กมากเลย ไม่รู้ว่าความรู้สึกกลัวมันเป็นยังงัย แถมยังถามตำรวจอีกว่าให้ซื้อไอศครีมมาให้ผมด้วยได้มั้ย(คงจะไม่รู้เลยนะว่ามีคนเป็นห่วงอยู่ ถ้าหายไปจริงๆ ตอนนี้คงไม่มี"องค์ชายห้า"ให้พวกเราดูแล้วสินะ เกือบไปมั้ยหล่ะ)

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ

ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พ่อกับแม่มักจะเข้มงวดกับผมและน้องชายมากในเรื่องการเรียน แต่ผมก็รู้นะว่าพวกท่านทั้งสองรักพวกเราและหวังดีกับพวกเรา อยากให้พวกเราได้มีความรู้เพื่อที่จะได้มาทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง เมื่อพวกเราโตขึ้น(ตอนนั้นมีความคิดถึงขนาดนี้ก็ไม่ธรรมดาแล้วมั้ง ถ้าจะไปเล่นการเมืองหรือเป็นนักพูดก็จะไปได้ไกลนะเนี่ย) ท่านทั้งสองได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพวกเรา มีอยู่ครั้งนึงผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมอยากเรียนอีเล็คโทน พ่อกับแม่ก็พาผมไปสมัครเรียนอิเล็คโทนเองด้วย

วิดีโอเกมส์เป็นเหตุ

มีอยู่ครั้งนึงที่ผมถูกที่บ้านทำโทษโดยไม่ให้ไปไหนหรือออกจากบ้านก่อนได้รับอนุญาต ก็ตอนนั้นผมยังเด็กปกติเมื่อโรงเรียนเลิกแล้วผมก็จะตรงกลับบ้านเลยทุกครั้ง(จะบอกว่าคุณเป็นเด็กที่ไม่เถลไถลไปไหนเวลาหลังโรงเรียนเลิกแล้วใช่มั้ย) แต่ในสมัยนั้นจะมีร้านวิดีโอเกมส์และร้านขายของเล่นมาเปิดเป็นร้านเล็กๆ ติดๆ กันเป็นแถวๆ ทำให้ผู้คนพลุกพล่านและยังเป็นที่ชุมนุมของเด็กที่ชอบของเล่นแปลกๆ ใหม่ๆ ด้วย ผมเองก็สนใจจึงไปเดินแถวนั้นเหมือนกัน ด้วยความเพลิดเพลินจากการดูโน่นดูนี่แต่ก็ไม่ซื้อของเล่น (เสียดายเงินหรือเปล่าจ๊ะ) จะดูเสียมากกว่าทำให้ผมลืมเวลากลับบ้าน จนถึงเวลา 5 ทุ่มกว่าแล้วผมก็ยังไม่กลับบ้าน จนเมื่อผม

กลับถึงบ้านในคืนนั้น พ่อกับแม่โกรธผมมากที่ไม่รู้จักเวลาและไม่รู้จักรับผิดชอบตัวเอง จึงลงโทษผมโดยไม่ให้ไปไหนหรืออกจากบ้านก่อนได้รับอนุญาตและยังแถมตีผมอีกด้วย

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2000 คุณรู้จัก "ซูโหย่วเผิง" ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2012, 10:42:35 AM »
559897_469902333048265_1145617438_n.jpg" border="0

ของเล่นที่ชอบ

หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็ตัดสินใจซื้อวิดีโอเกมส์ให้ผม ผมจำได้ว่าผมดีใจมากเมื่อได้เป็นเจ้าของและสนุกมากเมื่อเล่นเกมส์ต่อสู้ีที่อยากเล่นมานาน มันสนุกมากนะ เพื่อนๆ ในชั้นเรียนของผมต่างก็มาขอยืมวิดีโอเกมส์ของผมไปเล่นกันหลายคน (เป็นเด็กดีจริงๆ ด้วย ไม่หวงของเลย) แต่มีอยู่คนนึงยืมไปแล้วจะไม่คืนวิดีโอเกมส์ให้ผม เมื่อผมทวงถามเขาก็ปฏิเสธที่จะคืนมัน ผมโมโหมากจึงนัดเขามาคุยด้วยกันอีกครั้งหลังเลิกเรียนแล้ว แต่เมื่อเขายัีงปฏิเสธที่จะคืนอีก พวกเราจึงต่อสู้กัน เมื่อผมมาคิดดูเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมันกลับเป็นเรื่องตลกมาก เพราะการต่อสู้ครั้งนั้นมันทำให้เราทั้งสองคนเจ็บตัวพอๆ กัน ผมล็อคคอเขาและจับศรีษะเขาแน่นเหมือนกอดคอมากกว่ามันชุลมุนกันน่าดู แต่ไม่มีใครแพ้หรือชนะหรอกนะ แต่หลังจากนั้นเขาก็เอาวิดีโอเกมส์กลับมาคืนผม ซึ่งในตอนนั้นผมยังเด็กจริงๆ นะ พอเค้าเอามาคืนแล้ว ผมกับเค้าก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

วิชาที่ชอบ

จริงๆ แล้วผมเป็นเด็กเรียนคนหนึ่ง ต้องขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ของผมที่ได้แนะนำเรื่องการเรียนให้แก่ผมตั้งแต่เด็กๆ แล้ว (เป็นสิ่งที่ดีที่พ่อแม่ควรให้การสนับสนุนเรื่องการศึกษาของลูกๆ เพราะไม่มีสมบัติที่มีค่าใดๆ จะเทียบเท่ากับวิชาความรู้ที่จะติดตัวเขาไปจนตาย เป็นการลงทุนที่ให้ดอกผลระยะยาว เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณพ่อคุณนะ) เมื่อตอนเด็กๆ ผมจะสอบได้เป็นเลขตัวเดียวเสมอๆ คงจะเพราะเหตุนี้ผมจึงต้องขยันเรียนอย่างมากเพื่อที่จะได้เป็นนักเรียนเรียนดีของโรงเรียน ทุกครั้งที่มีการสอบ เมื่อผมเห็นคนทุจริตการสอบ หรือลอกข้อสอบกัน ผมจะฟ้องคุณครูทันที ทำให้คุณครูที่โรงเรียนรักผม อาจจะเป็นเพราะผมชอบแข่งขัน จึงทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก

ตอนเด็กๆ ผมจะสอบได้เกรดดีเสมอ แต่พวกคุณครูมักจะไม่ชอบเวลาที่ผมคุยกับเพื่อนในห้องเรียน แต่คุณครูก็ไม่ได้ลงโทษหรือตำหนิอะไรผมมากหรอกนะ วิชาที่ผมชอบมากก็คือ ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาประวัติศาสตร์นั้นผมก็ชอบรองลงมา เพราะผมไม่ชอบท่องจำ ผมชอบที่จะเรียนแบบเข้าใจมากกว่า

คู่แข่ง

คงเพราะผมเป็นเด็กเรียนคนหนึ่ง ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักตอนสมัยเด็กๆ จะมีก็แต่คนหรือสองคนเท่านั้น อย่างเช่น "หวังเหลียง" เป็นเพื่อนสมัยเีรียนหนังสือของผมตอนประถม เราทั้งคู่แข่งกันมากเพราะัต้องการเป็นคนที่สอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียน แต่หลังจากนั้นเราก็เลยกลายเป็นคู่แข่งกัน จะว่าเป็นศัตรูก็ไม่เชิงหรอกนะ เมื่อสมัยประถมผมย้ายโรงเรียนไปเรียนที่โรงเรียนอื่น แต่พอเข้ามัธยมเราก็กลับมาเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกันอีกครั้ง เรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อผมไปที่สถานีโทรทัศน์เพื่ออัดเทป เขาก็มักจะมากับผม เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากกว่าสมัยเรียนหนังสือด้วยกันซะอีก (จากคู่แข่งกลายเป็นมิตรได้ ก็ดีแล้วหล่ะเพื่อนฝูงกันคบๆ กันไว้ ไม่เสียหลายหรอกนะจ๊ะ จะบอกให้)

ซูเปอร์สตาร์ในดวงใจ

ตอนที่เป็นวัยรุ่นนั้น จะใช้เวลาอยู่กับการแต่งตัว ดูแลทรงผมให้ออกมาดูดีสุดๆ วันนึงๆ จะเสียเวลาอยู่หน้ากระจกเป็นชั่วโมงๆ เลยนะ (แต่คุณก็ดูดีอยู่แล้วนะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นคุณเพิ่งจะเป็นวัยรุ่นทำให้ต้องค้นหาตัวเองอยู่..ผมก็เห็นด้วยนะและขอบคุณสำหรับคำชมครับ..หัวเราะ..) ตอนนั้นนะผมเคยใฝ่ฝันที่จะเป็นดาราหนังและมีซูเปอร์สตาร์ในดวงใจด้วย ซึ่งก็คือมาดอนน่าครับ ผมหลงใหลมาดอนน่ามาก ยังฝันว่าจะไปอเมริกาเพื่อที่จะไปพูดคุยกับเธอ ผมซื้ออัลบั้มของเธอทุกอัลบั้มและมีโปสเตอร์ของเธอเยอะมาก ผมเคยบอกกับทุกคนว่าผมรักมาดอนน่ามากแต่ไม่มีใครเชื่อหรอกนะ (หัวเราะ)

คนเรามีชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่ใครจะไปคาดคิดหล่ะว่าจากเด็กน้อยหน้าตาสดใสจะเปลี่ยนมาเป็นดาราที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในทุกวันนี้ แฟนๆ หลายคนคงจะแอบยิ้มแก้มปริในความน่ารักและซุกซนของเด็กน้อยคนนี้ที่ปัจจุบันเป็นขวัญใจของสาวๆ หลายคนที่แอบปลื้มอยู่ แต่เมื่อแฟนๆ หรือน้องทั้งหลายได้รู้จักชีวิตวัยเด็กของเขาแล้วคงจะปฏิเสธถึงความน่ารักของเขาไม่ได้เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้จักเขาและคงจะคิดเหมือนกับเราด้วยว่าความสำเร็จของ"ซูโหย่วเผิง"ในวันนี้ก็ด้วยมีแรงใจจากครอบครัวที่ดูแลและให้ความเอาใจใส่พร้อมกับปลูกฝังนิสัยที่รักเรียน คิดถึงการเรียนเป็นหลัก เพราะอย่างน้อยความรู้ก็จะอยู่กับเราไปจนตายนะจ๊ะ น้องๆ ทั้งหลายอย่าลืมเอาตัวอย่างดีๆ นี้ไปปฏิบัติกันบ้างไม่เสียหลายหรอกค่ะ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: 2000 คุณรู้จัก "ซูโหย่วเผิง" ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2012, 05:58:03 AM »
13244695_884811691629676_3331368370243386923_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิงขอคืนสิ่งดีดีให้สังคม

เมื่อมีนาคมปีนี้ “ ซูโหย่วเผิง” ก็เปิดคอนเสิร์ตของตัวเองที่เซี่ยงไฮ้ บริเวณแกรนด์สเตเดี้ยม ชีวิตของเขาที่เดินอยู่ในวงการบันเทิงมานานนับสิบปี สุดท้ายก็ได้ทำความฝันของเขาให้เป็นจริงได้ภายในการแสดงคอนเสิร์ต 1 ชั่วโมงครึ่ง

เขาได้สัมผัสถึงความรักและผูกพันที่แฟนเพลงมีให้เขามาโดยตลอด ระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากที่การแสดงจบลงในคืนนั้นเอง “ซูโหย่วเผิงก็...ได้บอกกับผู้จัดการส่วนตัวว่าเขาได้รับสิ่งดีดีจากแฟนเพลงจำนวนมาก และเขาเองก็อยากคืนสิ่งดีดีเหล่านี้กลับให้สังคมบ้าง

พระเจ้าได้ให้สิ่งที่ดีกับเขามามากแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เขาจะคืนสิ่งดีให้กับคนอื่นที่ยังขาดแคลนอยู่

เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา “ซูโหย่วเผิง” ได้ขนเสื้อผ้าส่วนตัวของเขาจำนวนมาก รวมถึงเครื่องแต่งกายอื่นๆ นำมาเปิดประมูลเพื่อหารายได้มอบให้องค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป ดูจากรายการเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอื่นๆแล้ว บางตัวจะเห็นว่าเขาใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นประจำ เรียกว่าถ้าใจไม่เสียสละมากพอแล้วคงจะไม่ตัดใจให้ของรักเพื่อนำมาบริจาคได้แน่นอน...


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: 2000 คุณรู้จัก "ซูโหย่วเผิง" ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2012, 06:01:54 AM »
13325639_884812701629575_5708172365730778132_n.jpg" border="0
ซูโหย่วเผิง ได้ทั้งบุ๋นและบู้เจ็บทั้งตัว

ซูโหย่วเผิง ตลอดมาต่างก็ให้ภาพลักษณ์ที่เป็นคนมีการศึกษาที่ดูทึ่มๆ แต่ในเรื่อง"อี้เพียนถูหลงจี้" ก็มีการพลิกบทบาท โดยการฝึกหัดวิทยายุทธ,ฝึกเพลงดาบ และก็ฝึกขี่ม้า ซึ่งทุกฉากของละครเรื่องนี้โหย่วเผิงพยายามแสดงด้วยตัวเองเกือบทั้งเรื่อง ทำให้ใครหลายคนต่างก็รู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่ได้ทั้งบุ๋นและบู้จริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นองค์ชาย 5 ที่ดูทึ่มในละครเรื่ององค์หญิงกำมะลอ หรือมาดนักข่าวในเรื่องฉิงเซินเซินหวี่หมงหมง  คุณชายนักศึกษาต่างประเทศในเรื่องเปียวเม่ยจี๋เสียง โหย่วเผิง  มักจะมีภาพลักษณ์ของคนที่มีความทึ่มเป็นที่ 1 แต่หลังจากที่เค้าแสดงเรื่องเจี๋ยไต้ทรวงเจียว  ในบทฮัวอู๋เซีย  โหย่วเผิง ก็มีประสบการณ์การแสดงในฉากต่อสู้วิทยายุทธมากขึ้น โหย่วเผิง พูดว่า "จริงๆ แล้วผมเป็นคนไม่มีความสามารถทางด้านกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ ดังนั้นส่วนใหญ่ก็เลยมักจะเล่นแต่งานที่ต้องใช้สมองซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นฮัวอู๋เซีย ในเจี๋ยไต้ทรวงเจียว หรือจะเป็นหางเที่ยเซิง ในเรื่อง ไพอันจิ่งฉี๋ ซึ่งในเรื่อง ไพอันจิ่งฉี๋ นี่มีฉากที่ต้องต่อสู้วิทยายุทธมากกว่าครึ่งเรื่อง แต่ฉากส่วนใหญ่ก็มักจะตกเป็นภาระของสตั้นแมน แต่
พอผมมารับบทเป็นจางอู๋จี้ ตัวละครชั้นเอกจากปลายปากกาของกิมโหยง ซึ่งบทบู้ในละครเรื่องนี้มีมากกว่าบทบุ๋นซะอีก และตัวผมเองก็เคยตั้งเงื่อนไขไว้กับตัวเองมาตั้งนานแล้วว่าถ้าคิดจะเป็นนักแสดงก็ต้องไม่ให้ผู้ชมจับได้ ดังนั้นพอผู้กำกับถามผมว่าอยากจะลองเล่นบทบู้ด้วยตัวเองกับเค้าบ้างมั้ย ผมก็เลยตอบตกลงไปอย่างไม่ลังเลเลย (หัวเราะ)"

และเพื่อที่จะต้องเล่นฉากต่อสู้ด้วยตัวเอง โหย่วเผิง ที่ไม่มีพื้นฐานวรยุทธกับเค้าเลย ทุกวันก็ต้องมากองถ่ายเร็วกว่านักแสดงคนอื่นในเรื่องอี้เพียนถูหลงจี้ เพื่อรับการฝึกสอนด้านศิลปวิทยายุทธ โดยฝึกการแยกขา ฝึกเพลงดาบอย่างลำบากลำบน เล่นเอาปวดเมื่อยไปทั้งตัว ซึ่ง โหย่วเผิง พูดว่า "การฝึกซ้อมแบบนี้เรื่องเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราจางอู๋จี้เป็นคนที่มีความกล้าหาญและทรนงในตัวเอง ฉากต่อสู้ก็เลยมากตามไปด้วย ดังนั้นก็เลยต้องพยายามให้มากกว่าเดิม เพื่อที่ว่าแฟนๆ ที่รอชมละครเรื่องนี้จะได้ไม่ผิดหวัง"

แต่ทีมงานละครในเรื่องนี้ก็ดูแลโหย่วเผิงดีมาก เดิมทีตอนแรกได้เตรียมคนแสดงฉากต่อสู้ไว้ให้แล้ว แต่โหย่วเผิงก็ไม่ยอมเพราะเค้าต้องการแสดงฉากทุกฉากด้วยตัวเอง ส่วนคนสอนวิทยายุทธก็ได้แต่เพียงยืนชี้แนะอยู่ข้างๆ เชื่อว่าในอนาคตทุกคนคงได้เห็นจางอู๋จี้ในเรื่องกระโดดแยกขากลางอากาศ ขี่ม้าและท่าทางการรำกระบี่ เพราะฉะนั้นผู้ชมควรดูอย่างตั้งใจเพราะว่าทั้งหมดเป็นการแสดงที่โหย่วเผิงแสดงด้วยตัวเองทั้งหมด

ถึงแม้ว่าโหย่วเผิงจะได้รับความลำบากไม่น้อยจากการถ่ายทำละครเรื่องนี้ แต่ทีมงานก็ดูแลเขาอย่างดีเพราะทางทีมงานได้เชิญอาจารย์นวดแบบชี่กงจากปักกิ่งมาดูแลเขา อีกทั้งห้องพักของโหย่วเผิงก็ยังมีกลิ่นต้มยาจีนหอมโชยออกมาถึงข้างนอก เรียกได้ว่าเป็นการดูแลร่างกายทั้งภายในและภายนอกให้แก่เขาจริงๆ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: 2000 คุณรู้จัก "ซูโหย่วเผิง" ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2012, 06:05:12 AM »
MingXing Vol. 46  Nov 2006

2006 ซูโหย่วเผิง "ดาบมังกรหยก"


556895_469904983048000_734372913_n.jpg" border="0

ดาบมังกรหยก

ปลายราชวงศ์หยวน ผู้ใดได้ครอบครองดาบฆ่ามังกรและกระบี่อิงฟ้า ผู้นั้นจะพบความลับสวรรค์ เป็นเหตุให้ชาวยุทธฆ่าฟันกันเพื่อสิ่งนี้

เตียซำฮง ปรมาจารย์สำนักบู๊ตึ้งให้ยู้ไต๋ง้ำ ศิษย์คนที่ 3 ลงเขาไปช่วยเหลือชาวบ้านแต่เข้าไปพัวพันกับสำนักเกลือสมุทรกับสำนักทรายทะเล ถูกลอบทำร้ายจนพิการ เตียชุยซัว ศิษย์คนที่ 5 ออกล่าหาคนร้ายจนได้รู้จักกับ

ฮึงซู่ซู่(แสดงโดยกัวเฟยหยี่) แห่งสำนักอินทรีย์ จนรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ แล้วจู่ๆ ทั้งคู่ก็ถูกราชสีห์ขนทองเจี่ยสุง(แสดงโดยสีจิ่นเจียง)จับตัวไปเกาะร้าง เตียชุยซัวและฮึงซู่ซู่ได้แต่งงานกันจนมีลูกชายชื่อว่าเตียบ่อกี้(แสดงโดยซูโหย่วเผิง) เจี่ยสุ่งจึงสาบานเป็นพี่น้องกับเตียชุยซัว

10 ปีต่อมา ทั้ง 4 คนกลับจงหยวนจึงรู้ว่าฝ่ายธรรมและอธรรมบาดหมางกัน เตียบ่อกี้เห็นพ่อแม่ถูก 2 ผู้เฒ่าทมิฬฆ่า เตียซำฮงพาเตียบ่อกี้ไปวัดเส้าหลินเพื่อยืมคัมภีร์ย้ายเส้นเอ็นขจัดพิษให้เตียบ่อกี้ และเตียบ่อกี้ได้เรียนวิชาแพทย์สำเร็จวิชาเก้าสุริยัน สามารถขจัดพิษในร่างได้ และไกล่เกลี่ยเรื่องบาดหมางระหว่างพรรคจรัสกับชาวยุทธ จนได้เป็นประมุขพรรคจรัส เตียบ่อกี้รักเตียวเมี่ยง องค์หญิงแห่งมองโกล(แสดงโดยเจี่ยจิ้งเหวิน) จิวจี้เยี้ยก(แสดงโดยเกาหยวนหยวน)ที่เติบโตมาด้วยกัน ฮึงลี้ลูกพี่ลูกน้องและเซียวเจียวสาวใช้(แสดงโดยเฉินซิ่วหยี่)ซึ่งเขาไม่รู้จะเลือกใคร

แต่แล้วเตียบ่อกี่และเตียวเมี่ยงก็เข้าไปพัวพันการขัดขวางแผนการอันชั่วร้าย จนรู้ความลับดาบฆ่ามังกรได้ซ่อนคัมภีร์พิชัยสงครามส่วนกระบี่อิงฟ้าได้ซ่อนคัมภีร์นพเก้าถึงเข้าใจความหมายของดาบฆ่ามังกร ปกครองทั่วหล้า กระบี่อิงฟ้าไม่ปรากฎใครกล้าต่อกร จึงทำให้เตียบ่อกี้สละตำแหน่งประมุขพรรคจรัสถอนตัวจากยุทธภพ พร้อมกันกับเตียวเมี่ยงและจิวจี้เยี้ยก

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
2007 ซูโหย่วเผิง เปิดตัวแฟน !!!
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2012, 12:15:51 PM »
2007 ซูโหย่วเผิง เปิดตัวแฟน !!!

487043_469904366381395_258188654_n.jpg" border="0

ซูโหย่วงเผิง เปิดตัวแฟน!

ซูโหย่วเผิงเคยเปิดเผยว่ามีแฟนที่อยู่นอกวงการ แล้วความรู้สึกของทั้งคู่ก็มั่นคง แต่แฟนๆ ก็ไม่ได้เห็นหน้าคาดตากันสักที จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ คราวที่ซูโหย่วเผิงไปร่วมงานดนตรีที่ฮ่องกงแฟนสาวของเขาก็ได้ปรากฎตัวขึ้น! ซูโหย่วเผิงเดินช็อปปิ้งกับแฟน ยิ่งไปกว่านั้น ภาพที่เห็นก็คือ ทั้งสองคนโอบเอวพูดจากระซิบกระซาบกระหนุงกระหนิงกันตลอดเวลา!

ซูโหย่วเผิงเข้าวงการบันเทิงมานานหลายปี แต่เขาเคยมีข่าวกับดาราหญิงเพียงแค่ 3 คน คือ หลินซินหยู จ้าวเวย และดาราเกาหลีแชริม แล้วด้วยเหตุนี้เอง จึงมีข่าวลือว่าโหย่วเผิงเป็น"เกย์" จนในที่สุดเขาก็ออกมาประกาศว่าตนมีแฟนสาวนอกวงการแล้ว เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซูโหย่วเผิงไปร่วมงานดนตรีที่ฮ่องกง พร้อมกับแวะช็อปปิ้งและเตรียมงานอัลบั้มใหม่อยู่ที่นั่น ระหว่างนั้นปาปารัซซี่ก็เจอซูโหย่วเผิงในมาดสบายๆ เดินซื้อของอยู่กับสาวสวยสวมแว่นตาดำที่ย่านจิมซาจุ่ย พวกเขาท่าทางสนิทสนมชิดเชื้อกันมาก โอบเอวกันอย่างโจ่งแจ้ง!

หลังจากสองหนุ่มสาวเดินช็อปปิ้งร้านนาฬิกาเสร็จก็ไปเดินเที่ยวกันต่อที่ถนนชิงกว่าง แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือมา ต่อจากนั้นก็ไปดื่มชากันต่อที่ภัตตาคาร แถมยังกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย ต่อด้วยการไปถ่ายรูปกับแฟนสาว โดยเขาทำหน้าที่เป็นตากล้อง

ข่าวรายงานว่า แฟนสาวของซูโหย่วเผิงคนนี้คือ Amy ผู้จัดการส่วนตัวที่ทำงานร่วมกับเขามา 5 ปีกว่าแล้ว! ทั้งคู่เริ่มปลูกต้นรักกันตอนที่โหย่วเผิงถ่ายละครเรื่อง "ฉิงติ้งอ้ายฉินไห่"(Love of the aegean sea) เนื่องจากเรื่องนี้ถ่ายทำกันเป็นเวลานานหลายเดือน แล้ว Amy ก็คอยดูแลเรื่องอาหารการกินที่พักต่างๆ ให้ตลอด ทั้งคู่จึงเกิดปิ๊งปั๊งกัน

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
2010 ชีวิตในสไตล์ของ...ซูโหย่วเผิง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2012, 12:25:23 PM »
2010 ชีวิตในสไตล์ของ...ซูโหย่วเผิง

35677_469904269714738_1662116486_n.jpg" border="0

ชีวิตในสไตล์ของ...ซูโหย่วเผิง

เมื่อเร็วๆ นี้ซูโหย่วเผิงไปถ่ายปกและให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่ง จากนักร้องกลายมาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถไม่ใช่เรื่องง่ายที่ศิลปินทุกคนจะทำได้ การกลับมาสร้างชื่ออีกครั้ง หลังจากทิ้งภาพของ "เสือเด็กดี" ในวัยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมากนัก มองทุกอย่างเป็นของง่ายและไม่สำคัญ สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซูโหย่วเผิงยิ้มและบอกว่า"ทุกคนมักจะแสดงความเห็นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับผม แต่ว่าสไตล์ใครสไตล์มันครับ!"

ซูโหย่วเผิงในวัยสามสิบเศษๆ พูดถึงการก้าวออกมาในเวลานั้นว่า"เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พูดถึงในเวลานั้นครับ หนังสือพิมพ์ลงข่าวทุกวัน"เป็นแค่ความเลือดร้อนของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาอยากจะกระโดดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรที่อยู่ตรงกลางพอดี แต่ซูโหย่วเผิงก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะ "ชีวิตของคนไม่ใช่เรื่องของการส่งการบ้าน เผชิญหน้ากับความต้องการของตัวเองไม่ใช่รับเอาและทำตามแต่ความปรารถนาของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ชีวิตแบบนี้ถึงจะเป็นชีวิตจริงๆ เป็นชีวิตที่ซูโหย่วเผิงต้องการ สไตล์ใครก็สไตล์มันครับ ฮ่า ฮ่า"

สไตล์ของซูโหย่วเผิง ไม่ชอบถ่ายภาพในแบบเดิมๆ ไม่ชอบอยู่ที่ไหนเป็นเวลานานๆ ไม่ชอบเล่นเป็นตัวละครที่เคยแสดงแล้ว ไม่ชอบปกปิดความรู้สึกของตัวเอง บางเวลาเอะอะโวยวาย บางเวลาอยากไปเที่ยวแล้วปล่อยทุกอย่างทิ้งไป บางเวลาก็ดูซื่อๆ บริสุทธิ์ไม่ปกปิดข้อผิดพลาดของตัวเอง และไม่ซ่อนความจริงใจ

ชีวิตการแสดงของซูโหย่วเผิง มีทั้งในแบบชุดโบราณ ชุดปัจจุบัน เล่นเป็นจอมยุทธหรือแม้กระทั่งเพศที่สาม ยากที่จะบังคับให้เขาอยู่บนหนทางการแสดงแต่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง"คนที่อายุสามสิบกว่า ถ้ายังคงเล่นแต่ละครรักโรแมนติกหรือละครวัยรุ่นอยู่เหมือนเดิม ผมว่ามันต้องมีปัญหาแน่ๆ ครับ"

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: 2002 ซูโหย่วเผิง ย้ายบ้านแล้ว !!!
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:11:00 PM »
13315497_884811774963001_7185300112014276762_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิง ย้ายบ้านแล้ว...

เมื่อก่อนซูโหย่วเผิงมักจะไปๆ มาระหว่างฮ่องกงและไต้หวันอยู่บ่อยๆ แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ งานของซูโหย่วเผิงเกือบทั้งหมดจะอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นที่จะมีเวลาทุ่มเทให้กับการทำงานมากขึ้น ซูโหย่วเผิงก็เลยตัดสินใจโยกย้ายตัวเองไปอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่นับวันก็ยิ่งทวีความดังมากขึ้นทุกที แถมบรรยากาศที่โน่นก็ยังสงบ ซูโหย่วเผิงก็เลยคิดที่จะอพยพไปตั้งรากฐานอย่างเป็นจริงเป็นจังมา...กขึ้น ถึงขนาดคิดที่จะไปเป็นประชากรของแผ่นดินใหญ่กับเค้าด้วย พร้อมทั้งได้ซื้อบ้านในปักกิ่ง และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้ซื้อบ้านใหม่อีกหลังที่เซี่ยงไฮ้อีก และซูโหย่วเผิงยังบินไปรับคนในครอบครัวของตนมาอาศัยอย่างถาวรที่จีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย

ซื้อและตกแต่งบ้านใหม่..

ซูโหย่วเผิงได้ซื้อบ้านหลังใหม่มีเนื้อที่ประมาณ 70 ตารางเมตร 1 หลังที่ปักกิ่ง อยู่ในตัวเมือง แต่เงียบสงบ และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตกแต่งซ่อมแซมโครงสร้างแล้วก็การดีไซน์ภายในบ้านนั้นเป็นการตัดสินใจของซูโหย่วเผิงกับมัณฑนากร เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์โหย่วเผิงเป็นผู้เลือกซื้อด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเครื่องเรือนโบราณเค้าใช้เวลาว่างไปเลือกซื้ออย่างพิถีพิถัน จากที่ปักกิ่ง ,เซี่ยงไฮ้, หยางโจว และก็กวางเจา ส่วนวัสดุจากต่างประเทศโหย่วเผิงได้ไหว้วานให้เพื่อนในแต่ละประเทศช่วยซื้อหา และช่วยหาข้อมูลหรือจองสินค้าแล้วก็ส่งสินค้าให้ ซึ่งบ้านหลังนี้นั้นเป็นบ้านพี่ๆ ซูโหย่วเผิงซื้อไว้เพื่อมาอาศัยอยู่เอง เพราะว่าพ่อแม่ของโหย่วเผิงกลัวหนาว และไม่คุ้นกับอากาศหนาวเย็นของฤดูหนาวในปักกิ่ง ด้วยเหตุนี้โหย่วเผิงผู้ซึ่งกตัญญูก็เลยตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่ให้กับพ่อแม่ที่เซี่ยงไฮ้อีกหลังหนึ่ง

และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโหย่วเผิงได้เปิดงานแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวแบบเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้ และพ่อแม่ของซูโหย่วได้รับเกียรติเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้กับโหย่วเผิงด้วย และนับเป็นครั้งแรกของที่พ่อแม่ของโหย่วเผิงมีโอกาสเห็นลูกชายจัดการแสดงคอนเสิร์ตของตนเองอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ท่านทั้งสองรู้สึกปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้โหย่วเผิงยังถือโอกาสที่พ่อและแม่บินมาที่เซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้ด้วยการเปิดโอกาสให้ท่านทั้งสองไปเลือกบ้านใหม่ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งไปเป็นเพื่อนพาไปเลือกดูบ้านใหม่ให้พ่อแม่จนทั่วเซี่ยงไฮ้

โฆษณาชิ้นใหม่..

นอกจากโหย่วเผิงจะยุ่งกับบ้านหลังใหม่ของเค้าที่ปักกิ่งแล้ว ธุรกิจของโหย่วเผิงก็กำลังเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา หรือว่าถ่ายแฟชั่นก็ตาม และโฆษณาชิ้นใหม่ล่าสุดเครื่องเรียนภาษาพูดของจีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้เชิญโหย่วเผิงไปถ่ายโฆษณา โดยคอนเซ็ปของโฆษณาชิ้นนี้ค่อนข้างเป็นแนวแฟนตาซี เพราะในโฆษณานี้เมื่อโหย่วเผิงพูดกับเครื่องๆนี้ว่า “Apple” ก็มีแอปเปิ้ลจริงๆ ตกลงมาจากฟ้า แล้วพอพูดว่า “Dinosour ก็มีไดโนเสาร์จริงๆ วิ่งตามเค้ากันยกใหญ่ เรียกว่าได้เห็นไอเดียบวกกับความสามารถของนักแสดงอย่างโหย่วเผิงแล้ว เชื่อได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้คงจะติดตลาดทั่วจีนแผ่นดินใหญ่อีกไม่นานเกินรอแน่นอน..

แต่เอ ถ้าโหย่วเผิงพูดว่า “Money”จะมีเงินตกมาจากฟ้าหรือเปล่าน้อ..

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:22:47 PM »
MingXing Vol. 46  Nov 2006

2006 ซูโหย่วเผิงอำลาบทหนุ่มหน้าใสใน "เจียงจี้จิ้วจี้"


399263_469905176381314_1479448044_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิงอำลาบทหนุ่มหน้าใสใน"เจียงจี้จี้วจี้"

ละครเรื่องใหม่ของซูโหย่วเผิงเป็นที่จับตามองกันมาก เนื่องจากมีเหล่าดารามาประชันบทบาทกันอย่างร้อนแรง เช่น เยี่ยถง หลี่เชี่ยน ฉินเพ่ย เป็นต้น เรื่องที่ว่านี้คือเรื่อง"เจียงจี้จิ้วจี้"(แผนรักแผนลวง)ที่ชาวประชาสนใจจับตามองมากคือซูโหย่วเผิงจะเปลี่ยนภาพลักษณ์จากหนุ่มกิ๊กหน้าใส มาเป็นผู้ใหญ่เคร่งขรึม เอ...หรือว่าโหย่วเผิงฝีมือในการแสดงแก่กล้าเลยจะเปลี่ยนตัวเองเสียแล้วหนอ

ซูโหย่วเผิงเปิดเผยว่าไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนภาพลักษณ์อะไรจนกระชากขนาดนั้น แต่ในเรื่องเขารับบทคุณชายที่เรียนมากก็เลยต้องเคร่งขรึมไปตามบท และบทกุ๊กกิ๊กหวานแหววกับหลี่เชี่ยนก็ไม่ได้เป็นประเด็นหลักของเรื่อง"เจียงจี้จิ้วจี้"นี้ เลยทำให้เคร่งขรึมเข้มข้นเป็นพิเศษ แล้วเรื่องนี้เน้นเนื้อหาทางด้านไหน? ซูโหย่วเผิงบอกว่าขออุบไว้ก่อน เมื่อละครออกฉายทุกคนก็คงทราบเอง อ้าว...มีการอุบให้ชวนติดตามกันต่อไปอีก

ละครเรื่องนี้เปลี่ยนทั้งเครื่องแต่งกายตลอดทั้งทรงผมจนสามารถแสดงความเป็นจวงยั่วหลง นักสะกดจิตทายาทหนุ่มตระกูลจวงที่ดูสุภาพ ลุ่มลึก เงียบขรึมและสง่างามออกมาได้เป็นอย่างดี ในเรื่องเนื่องจากจวงยั่วหลงเข้าใจผิดคิดว่าอวี้เอ๋อร์(หลี่เชี่ยน)ทำร้ายพ่อเขาจนตาย เพื่อจะให้เธอสารภาพจึงสะกดจิตเธอโดยไม่คลายการสะกด ทำให้อวี้เอ๋อร์ถูกสะกดจิตนานเกินไปจนเกิดอาการเบลอๆ ตลอดทั้งวัน แต่หลังจากจวงยั่วหลงคลายการสะกดจิตให้เธอแล้ว เธอก็กลับกลายเป็นคนเอ๋อๆ ไป

ในจอคู่พระนางต้องทะเลาะกันแบบรักๆ แค้นๆ แต่นอกจอ หลี่เชี่ยนกับซูโหย่วเผิงทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดี โหย่วเผิงชมว่าน้องหลี่เชี่ยนฝีมือการแสดงดี ส่วนหลี่เชี่ยนก็พยายามให้กำลังใจกับการเปลี่ยนแปลงบุคลิกใหม่ของพี่โหย่วเผิง สงสัยว่าซูโหย่วเผิงคงได้แฟนละครเพิ่มอีกกลุ่มที่ติดใจกับบทหนุ่มมาดขรึมเสียแล้ว

พอมีข่าวออกมาว่าหนุ่มซูโหย่วเผิงขวัญใจสาวๆ จะพลิกบทบาทจากหนุ่มน้อยไปเป็นหนุ่มใหญ่มาดขรึมแฟนๆ ก็เริ่มรับไม่ได้เสียแล้ว เพราะจะไม่ได้เห็นภาพลักษณ์ของหนุ่มน้อยขวัญใจอย่างเคย แรกๆ ซูโหย่วเผิงเองก็รับไม่ได้กับบุคลิกใหม่ที่เคร่งขรึม เป็นผู้ใหญ่ในหนังเรื่องนี้ที่ต้องหวีผมปาดไปด้านหลังเรียบแปล้และใส่สูทซะดูเชย แต่โดนผู้กำกับเจิ้งจีเฉิงกล่อมซะอยู่หมัด ทั้งยังให้ลองภาพลักษณ์ใหม่ของหนุ่มใหญ่จนแต่งออกมาแล้ว ซูโหย่วเผิงก็พอใจในที่สุด

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:28:02 PM »
76440_469904283048070_852036849_n.jpg" border="0

2001 อาชีพเสริมของ ซูโหย่วเผิง และ หลี่ไช่ฟ่ง

อาชีพเสิมของซูโหย่วเผิงและหลี่ไช่ฟ่ง

เป็นดาราเนื่องจากตัวเองมีชื่อเสียง ปกติเวลาไปทานอาหารหรือดื่มน้ำชาจึงไม่ต้องต่อคิว ทานข้าวก็มีห้อง VIP และยังมีบริการอื่นๆ ตลอดอีกทั้งรวมไปถึงทรงผมล้วนแต่มีสปอนเซอร์ เสื้อผ้าก็มีให้ใส่แทบไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งหากดารามาทำธุรกิจเอง ก็ยังได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องเสียเงินค่าประชาสัมพันธ์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้มีดาราหลายคนโดดมาทำธุรกิจเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จสมปรารถนาหรือเปล่า แต่เอาอย่างนี้ดีกว่าเราลองไปฟังเคล็ดลับการทำธุรกิจของพวกเค้าดู ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนอาชีพมาทำอย่างจริงจังก็ได้ เริ่มจาก

ซูโหย่วเผิง:เปิดร้านอาหารญี่ปุ่น

ดาราฮ่องกงเปิดร้านอาหารไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่การที่ดาราไต้หวันข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดร้านอาหารที่ฮ่องกงยังไม่เคยมี คนแรกที่ทำให้เห็นก็เป็น ซูโหย่วเผิง นี่แหละช่วงนี้นอกจากเขาจะมาโปรโมทผลงานใหม่ๆ ของเขาที่ฮ่องกงแล้วยังถือโอกาสมาดูแลกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นที่เขาเป็นหุ้นส่วนด้วย เราลองไปฟังว่า ซูโหย่วเผิงมีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหนในการเจาะตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นที่ฮ่องกงกัน


เราถามว่าร้านอาหารมีมากมายหลายแบบทำใมเขาจึงเลือกเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น ซูโหย่วเผิง บอกว่า "เนื่องจากผมชอบทานอาหารญี่ปุ่นมากพอดีมีเพื่อนมาชวนว่าจะลงหุ้นกับเขาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นไหม?ผมเห็นว่าน่าจะลองดู ซึ่งช่วงที่ผมถ่ายละครที่เซี่ยงไฮ้ มักอดไม่ได้ที่จะทานอาหารญี่ปุ่น ปลาดิบที่นั่นอร่อยมาก เปรียบเทียบกันแล้ว อาหารญี่ปุ่นที่ไต้หวันค่อนข้างแพง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ของผมจึงไม่ค่อยได้ไปทานอาหารญี่ปุ่น ต้องรอให้ผมพาไปพวกท่านถึงจะไปด้วย ก็เพราะผมเป็นคนเลี้ยงไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ตอนนี้ตัวเองมีร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วเห็นทีซูโหย่วเผิงคงต้องรีบเชิญคุณพ่อคุณแม่มาชิมฝีมือของตัวเองซะแล้ว

แม้ว่าซูโหย่วเผิง จะถือหุ้นเล็กๆ แต่เมื่อพูดถึงการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเขามีเคล็ดลับบางอย่างบอกว่า"ความจริงผมไม่ค่อยรู้เรื่องการทำธุรกิจล้วนฟังความเห็นของหุ้นส่วนใหญ่คนอื่น ผมรู้ว่าคนฮ่องกงชอบความแปลกใหม่ ดังนั้นผมจะลองใช้อาหารที่แปลกใหม่ไปดึงดูดลูกค้า บางครั้งผมก็ลงมือมาช่วยพ่อครัวด้วย"

ถึงแม้ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงจะพูดเสมอว่าเศรษฐกิจฮ่องกงฟื้นตัวแล้ว แต่ความต้องการบริโภคของผู้คนยังอยู่ในระดับต่ำถามซูโหย่วเผิงว่าธุรกิจช่วงนี้ลำบากมากไหม เขาตอบว่า"การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย ค่าเช่าที่ก็แพงมาก ช่วงแรกก็ต้องทนไปก่อน หวังว่าจะขายคุณภาพและคาดว่าอีกหน่อยยิ่งทำก็ยิ่งดีเองนะ"

รอดไม่รอด

โบราณว่า "แรงไม่ถึง เงินไม่มา" ซูโหย่วเผิงที่เล่นละครที่ไต้หวันเป็นหลักมาทำธุรกิจที่ฮ่องกง ถึงแม้นตัวเองจะลงมือเข้าครัวเอง แต่เนื่องจากไม่สามารถดูแลร้านด้วยตัวเองตลอดเวลา อีกทั้งร้านอาหารญี่ปุ่นที่ฮ่องกงมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก จะฝ่าวงล้อมออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จึงต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจไม่น้อย


19_zps9nffn5tf.jpg" border="0
20_zpsfhdoi9if.jpg" border="0

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:29:39 PM »
MingXing Vol. 80  November 2009

การฉีกบทบาทครั้งสำคัญของ ซูโหย่วเผิง


374536_469905096381322_614768203_n.jpg" border="0

การฉีกบทบาทครั้งสำคัญของซูโหย่วเผิง

จากละครทีวีแนวสืบสวนสอบสวนที่เคยโด่งดังในอดีต วันนี้เรื่อง"เฟิงเซิง"(The message) ถูกนำมาสร้างใหม่ในแบบฉบับของภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ทันออกฉายก็ได้รับคำชมกันไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการแสดงของซูโหย่วเผิงที่ผู้ชมพร้อมใจกันเทคะแนนให้แบบเต็มๆ

หากใครที่เคยชื่นชอบละครแนววสืบสวนสอบสวนเรื่อง"The message"นี้ แต่เบื่อกับการที่ต้องคอยเฝ้าอยู่หน้าจอดูกันทีละตอนสองตอนกว่าจะจบเรื่องก็แทบจะอดใจกันไว้ไม่ไหว คราวนี้ก็คงจะได้เต็มอิ่มสักทีกับความระทึกใจตลอดสองชั่วโมงเต็มในแบบฉบับของภาพยนตร์

ความเหมาะสมของตัวนักแสดงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์ดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่รวมดาราดัง แบ่งกันรับบทบาทสำคัญไว้ถึง 7 คน เช่น โจวซวิ่น,จางหานอวี่,หลี่ปิงปิง,หวังจื้อเหวิน,หวงเสี่ยวหมิง,ซูโหย่วเผิงและอิงต๋า ซึ่งบทหนักคงหนีไม่พ้นบท"ไป๋เสี่ยวเหนียน"ของซูโหย่วเผิง ไป๋เสี่ยวเหนียนเป็นเลขาของผู้บัญชาการจาง อุปนิสัยเจ้าชู้ มีท่าทางเป็นหญิงก็ไม่ใช่เป็นชายก็ไม่เชิง ฉากสำคัญที่น่าชมอีกฉากก็คือฉากที่ไป๋เสี่ยวเหนียนต้องปะทะคารมกับจินเซิงฮั่ว(รับบทโดยอิงต๋า) อิงต๋าพูดว่า"ผียังงัยก็เป็นผีอยู่วันยังค่ำ ต่อให้หัดอีกร้อยปี ก็เป็นคนขึ้นมาไม่ได้"ทำให้ซูโหย่วเผิงโกรธจนใช้แรงบีบถ้วยชาแตก และได้ว่า"ฉันไม่เชื่อว่านายจะเก่งกาจขึ้นมาได้"ทำให้ผู้ชมพร้อมใจกันปรบมือให้

การที่ซูโหย่วเผิงยอมพลิกบทบาทการแสดงมาแต่งหญิงรับบทไป๋เสี่ยวเหนียนอาจทำให้หลายๆ คนอดคิดถึงความหล่อเหลาของเขาในบทของ"องค์ชายห้า"เมื่อครั้งอดีตไม่ได้ และรู้สึกว่านี่คือความตกต่ำของเขาใช่ไหม แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ได้รับจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนมาจากบทบาทการแสดงของซูโหย่วเผิงแทบทั้งสิ้น ทุกครั้งที่เขาปรากฎออกมาบนจอ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะก็จะเกิดตามออกมาทันที และถึงแม้บทบาทจะมีไม่มากนักแต่ก็เป็นผู้เสียสละคนแรกๆ ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้มากที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ซูโหย่วเผิงสามารถปูทางการแสดงที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฎมาก่อนไว้ได้เรียบร้อย ภาพลักษณ์ใหม่ๆ เหล่านี้นอกจากจะทำให้ทุกคนเห็นถึงความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเขาแล้ว ยังช่วยให้เขาเข้าถึงชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งที่เขาต้องการจะไปให้ถึง

ผู้กำกับเกาชวินซู วิจารณ์และยกย่องซูโหย่วเผิงว่า"เขามีคุณสมบัติที่จะเป็นดาราดังระดับเดียวกับเลสลี่ จางและเหมยหลานฟางได้ ความท้าทายของเขามีมากกว่านักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่อง แล้วเพื่อที่จะแสดงบทนี้ให้ออกมาดีที่สุด ซูโหย่วเผิงทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจแทบจะทั้งหมดก็ว่าได้ ระหว่างการถ่ายทำ คนแรกที่แทบจะเป็นบ้าก็คือเขาแต่หลังจากแสดงจบผลออกมาดีเกินคาด เชื่อเหลือเกินว่าชีวิตการเป็นนักแสดงของเขาต้องไปถึงดาวได้อย่างเลสลี่ จางและเหมยหลานฟางอย่างแน่นอน" นอกจากนี้ ยังมีผู้กำกับชื่อดังในจีนอย่างเฝิงเสี่ยวกังที่ออกปากชมซูโหย่วเผิงกับการฉีกบทบาทการแสดงในครั้งนี้ ทางด้านศาสตราจารย์จางอี๋อู่แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็วิจารณ์ซูโหย่วเผิงว่า"บทบาทของโหย่วเผิงใน เฟิงเซิง ทำให้หลายคนต่างประหลาดใจ การที่ภาพยนตร์เรื่อง เหมยหลานฟาง ไม่ใช้เขาแสดงถือเป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง"

คำวิจารณ์ที่ดีแบบนี้ ผลตอบรับที่ดีแบบนี้ คำชมเชยที่ดีแบบนี้ ดูท่าซูโหย่วเผิงคงเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เยี่ยมยอดที่สุดในเรื่อง "The message"อย่างแน่นอน

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:31:19 PM »
2001 ซูโหย่วเผิง ถ่ายโฆษณา รับเงิน 1.6 ล้านเหรียญ

598606_469904273048071_295470448_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิง ถ่ายโฆษณา รับเงิน 1.6 ล้านเหรียญ

อย่านึกว่าเป็นดาราแล้วจะมีชีวิตที่หรูหราเพราะบางวันอาจได้กินข้าวแค่ 1 มื้อ อากาศร้อนแทบตายยังต้องใส่เสื้อขนสัตว์ แม้แต่อากาศหนาวเหน็บก็ยังต้องอาบน้ำก็มี เช่นเดียวกับซูโหย่วเผิงเจออากาศที่มีอุณหภูมิแค่ 4 องศา เขากลับต้องใส่เสื้อซีทรูที่เห็นหน้าอกทว่าซูโหย่วเผิงทนหนาวเหน็บครั้งนี้เขามีค่าตอบแทนสูงถึง 1.6 ล้านเหรียญเลยทีเดียวมิน่าล่ะหนาวออกอย่างนี้เขายังยิ้มหน้าระรื่นได้

นี่เป็นโฆษณาของเมืองจีนชิ้นที่ 2 ที่ซูโหย่วเผิงรับเล่นในช่วงเวลาสองเดือน เรื่องมีอยู่ว่าในโฆษณาผลิตภัณฑ์สบู่ที่เขาเล่นเมื่อคราวที่แล้ว มีฉากอาบน้ำที่เรียกเสียงกรี๊ดจากอาหมวย อาตี๋อย่างเกรียวกราวแม้แต่ยอดขายของผลิตภัณฑ์ก็พุ่งสูงขึ้น หลังจากปล่อยเสน่ห์จากคราวที่แล้วบริษัทโฆษณาจึงขอให้เขาเพิ่มความเซ็กซี่ให้มากขึ้นด้วยการให้ ซูโหย่วเผิง ใส่ชุดซีทรูและเผยหัวนม อะไรเป็นสาเหตุให้เขาตกปากรับคำ นอกจากความจริงใจของบริษัทโฆษณาแล้วงานนี้ ซูโหย่วเผิง ยังจะได้เงินเข้ากระเป๋าเหนาะๆ 1.6 ล้านเหรียญ เพราะงั้นเขาจึงยินดีที่จะเผยหัวนมในโฆษณาเป็นครั้งแรก

โฆษณาทั้งเรื่องเกิดขึ้นในจินตนาการว่าอยู่ในยานอวกาศ ซูโหย่วเผิง ในฐานะที่เป็นนักบินอวกาศมีอิมเมจหลายอย่าง ซึ่งรวมทั้งลุคแบบตำรวจเฉพาะกิจ ลุดไซเบอร์ปีสหัสวรรษ รวมทั้งที่ขาดไม่ได้ซึ่งเป็นจุดขายของโฆษณาชุดนี้ ก็คือชุดซีทรูวาบหวิว ขณะเดียวกันก็ใส่ช็อตเต้นรำจำนวนไม่น้อยเข้าไป ทำให้ซูโหย่วเผิง ดูคึกคัก มีชีวิตชีวา สมัยก่อนตอนที่เขายังอยู่คณะ"เสี่ยวหูตุ้ย"(พยัคฆ์น้อย) เขามักจะเต้นช้าไปครึ่งจังหวะ แต่หลังจากคราวนี้ได้รับการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญฯ โดยเฉพาะ ซูโหย่วเผิงไม่เพียงจะเต้นได้อย่างไหลลื่นแค่ 2 เทค ผู้กำกับก็สั้งคัตผ่านไปอย่างเรียบร้อย

และความที่เป็นการร่วมงานครั้งที่ 2 ของซูโหย่วเผิง บริษัทโฆษณาแห่งนี้จึงสปอร์ตกับเขามาก นอกจากจะดูแลเขาในฐานะอาคันตุกะอย่างดี ยังเป็นห่วงว่าเขาจะไม่ชินกับอาหารการกินของที่นี่ ดังนั้นจึงซื้ออาหารจากข้างนอกมาให้เขาทานโดยเฉพาะ เท่านั้นยังไม่พอผู้บริหารสาวสวยยังลงมือเข้าครัวด้วยตัวเองและต้มน้ำแกงไก่ตุ๋นทังเฉ่าให้ ซูโหย่วเผิง ดื่มอีกด้วย นับว่าเขาโชคดีจริงๆ เพราะมีทั้งเงินให้ใช้ มีน้ำแกงให้ทานแถมยังมีงานโฆษณาออกมาอวดแฟนๆ อีกด้วย นับว่าอย่างนี้หาไม่ได้อีกแล้ว


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:33:57 PM »
2009 ซูโหย่วเผิง ขอมุ่งมั่นงานภาพยนตร์

429407_469904363048062_1361881556_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิงขอมุ่งมั่นงานภาพยนตร์

แม้ในภาพยนตร์เรื่อง"เฟิงเซิง"(Message) ซูโหย่วเผิงจะไม่ได้เล่นบทพระเอก แต่ทุกคนก็เอ่ยปากชมว่าเขาแสดงบทแนวตุ้งติ้งแบบไป๋เสี่ยวเหนียนได้ดีมาก ทำให้ซูโหย่วเผิงที่ตอนนี้กลายเป็นดาราระดับประเทศมีทั้งงานแสดง งานโฆษณาวิ่งเข้าใส่ แถมยังมีผู้กำกับหลายต่อหลายคนติดต่อเข้าเพื่อขอร่วมงานกับเขา

"ที่ผ่านมาผมใช้เวลากับการแสดงละครอยู่หลายปี แม้จะแสดงเป็นพระเอกหลายต่อหลายเรื่อง ก็ไม่เหมือนกับแสดงเรื่อง"เฟิงเซิง" ที่ทำให้ผู้ชมยอมรับความสามารถทางการแสดงของผมได้อย่างรวดเร็ว เดือนธันวาคมนี้ผมมีงานโปรโมทภาพยนตร์สองเรื่อง ทุกคนจะได้มีโอกาสเห็นผมผ่านทางจอเงินบ้างครับ" ซูโหย่วเผิงยังบอกอีกว่าตอนแสดงละครทีวีไม่เคยทราบถึงข้อดีของการแสดงภาพยนตร์"เวลาแสดงละครวันหนึ่งๆ ต้องถ่ายทำหลายๆ ฉาก เข้าๆ ออกๆ วนเวียนอยู่อย่างนี้ แตกต่างจากการแสดงภาพยนตร์ ภาพยนตร์มีความพิถีพิถันและสวยงามมากกว่า มีขั้นมีตอนในการทำงานทำให้คุณสามารถเข้าถึงตัวละครได้มากกว่า ส่วนในอนาคตจะมีโอกาสได้รับบทดีๆ อย่างไป๋เสี่ยวเหนียนอีกหรือไม่นั้น คงต้องขึ้นกับดวงแล้วล่ะครับ"

ดูเหมือนตอนนี้ซูโหย่วเผิงไม่คิดที่จะกลับมาเป็นนักร้อง ทั้งงานละครก็น้อยลงด้วย "ใน"เฟิงเซิง"ผมแสดงเป็นตัวละครที่ไม่ใช่ชายแท้ ทำให้ค่อนข้างกดดัน แต่นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากพวกเขา อย่างเช่นฉากที่ไป๋เสี่ยวเหนียนต้องเล่นงิ้ว ผมใช้เวลาศึกษาอยู่สี่เดือนเต็ม ผมจึงมีความคิดที่จะอยู่ในวงการภาพยนตร์เพื่อศึกษางานด้านนี้เพิ่ม ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอยู่มาก" จากความหมายที่พูด ซูโหย่วเผิงคงไม่มีเวลามาทำงานเพลงอีกแล้ว"ตอนนี้ตลาดเพลงไม่บูมเหมือนแต่ก่อน หากผมจะออกอัลบั้ม บริษัทคงต้องให้ผมวิ่งโปรโมทไปทั่วประเทศ ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่มีเวลาแสดงภาพยนตร์แล้วหากอยากฟังผมร้องเพลง คงต้องรอนนานหน่อยนะครับ"

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:35:08 PM »
2008 ซูโหย่วเผิง ท้าทายคอมเมดี้ใน "อ้ายฉิงจั่วเติงโย่วสิง"

68424_469904423048056_857284568_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิง ท้าทายคอมเมดี้ใน"อ้ายฉิงจั่วเติงโย่วสิง"

ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง"อ้ายฉิงจั่วเติงโย่วสิง"ของผู้กำกับจางเจี้ยนหย่า โดยมีดาราสาวหลินเจียซินแสดงนำได้ทำการเปิดกล้องไปเรียบร้อยแล้วที่ปักกิ่งเมื่อวันก่อนและมีดาราชายชั้นนำที่รู้จักกันดีในประเทศจีนหลายคน อาทิ เติ้งเชา,ฟ่านเหว่ย,หวงเสี่ยวหมิง,หวงเล่ย,หวงปอ,ลู่อี้และเหว่ยต้าร่วมแสดง ส่วนดาราชายจากฝั่งฮ่องกงและไต้หวันจะเป็นใครบ้างยังเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจ ตามที่นักข่าวทราบมา ในขณะนี้นักแสดงจากฝั่งไต้หวันที่ถูกวางตัวไว้เรียบร้อยแล้วได้แก่ ซูโหย่วเผิง ซึ่งจะมารับบทที่ท้าทายความสามารถผิดจากผลงานหลายเรื่องที่ผ่านมา

ภาพยนตร์เรื่อง"อ้ายฉิงจั่วเติงโย่วสิง" กล่าวถึงเรื่องราวความรักของหลินเจียซินที่แสดงเป็นสาวสวยวัยสามสิบที่กำลังจะขึ้นคานกับชายหนุ่มสิบสองคนที่มีบุคลิกลักษณะแตกต่างกันเพื่อตามหารักแท้ ละครเรื่องนี้มีกองทัพนักแสดงชายที่เข้มแข็งเป็นสีสันที่น่าติดตามและมีสไตล์ที่ค่อนข้างแตกต่าง เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของภาพยนตร์เลยทีเดียว หลายปีที่ผ่านมาอาชีพนักแสดงเป็นที่นิยม เวทีประกวดดาราเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว มีหนุ่มสาวมากมายที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดงไม่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการประกวด และกระแสนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ บทคนบ้าการประกวดนี้จึงถูกกำหนดให้ซูโหย่วเผิงได้เล่น ภาพลักษณ์ที่อบอุ่น สุภาพ มีการศึกษาของเขาแทบจะไม่เหลือในตัวละครตัวนี้เลย เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้านางเอกเขาจะต้องพยายามทำทุกอย่างที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวละครตัวนี้ เช่น เก๊กหล่อ ทำเท่ห์ รวมถึงทำทุกวิถีทางที่จะโกงให้ได้ ซูโหย่วเผิงพอได้เห็นบทละครก็ตกลงรับเล่นทันที เขาบอกว่าชอบตัวละครตัวนี้มากเพราะเป็นตัวละครที่ยอดเยี่ยมมีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างรู้สึกท้าทายจึงรับเล่น

เพิ่งจะเสร็จจากการถ่ายภาพยนตร์ที่เมืองต้าเหลียน ซูโหย่วเผิงก็รับเล่น"อ้ายฉิงจั่วโย่วสิง"ต่อทันที เรื่องหนึ่งจบก็ต่ออีกเรื่อง เรียกได้ว่าแทบจะไม่เหลือเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองเลย ข่าวที่ว่าซูโหย่วเผิงกำลังจะเดินเข้าสู่เส้นทางภาพยนตร์ค่อยๆ กลายเป็นความจริง หายเงียบไปสองปีกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นด้านงานละคร งานเพลงและงานภาพยนตร์ของเขาก็ล้วนก้าวขึ้นสูงไปอีกระดับ ตามข่าวภายในสิ้นปีนี้นอกจากจะมีงานกับฮอลลีวู้ดแล้ว ซูโหย่วเผิงยังรับเล่นภาพยนตร์อีกสองเรื่อง แต่ผู้ชมจะได้ชมภาพยนตร์เรื่อง"อ้ายฉิงจั่วเติงโย่วสิง"ก่อนผลงานชิ้นอื่นๆ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:36:05 PM »
2008 4 แฝดแผลงศรรัก...ซูโหย่วเผิง

399288_469904426381389_199418461_n.jpg" border="0

4แฝดแผลงศรรัก...ซูโหย่วเผิง

้เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ของจีน หนุ่มหน้าหยก"ซูโหย่วเผิง"ได้เปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องใหม่ "ซื่อเก้อชิวปี่เท้อ"(4 Jupiters)ที่เมืองต้าเหลียน เมืองทางตอนใต้ของมณฑลเหลียงหนิง ในเรื่องนี้ซูโหย่วเผิงรับบทเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ในเมืองที่กลัวเด็กๆ เป็นอย่างมาก แต่เขากลับหลงรักแม่ม่ายสาวสวยคนหนึ่งที่มีนิสัยโอหัง ถือดีและหัวแข็งเข้าอย่างจัง ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาจำเป็นต้องใช้ชีวิตร่วมกับเด็กสาว 4 คนที่มีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ นอกจากนี้ ในภาพยนตร์เรื่อง"4 Jupiters"ซูโหย่วเผิงจะต้องโดนเด็กๆ รังแกจนฟกช้ำดำเขียว หัวร้างข้างแตกอยู่ประจำ เขาจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือข้าศึกอย่างพวกเด็กๆ ทั้ง 4 อย่างสุดตัว จนในที่สุดเขาสามารถเอาชนะใจของเด็กหญิงทั้ง 4 คนได้

เด็กหญิงฝาแฝด 4 คนที่มารับบท"4 จูปิเตอร์"ทีมงานได้เจอโดยบังเอิญในการถ่ายทำโฆษณาชิ้นหนึ่ง ความน่ารักสดใสและความเฉลียวฉลาดของเด็กหญิงทั้ง 4 ทำให้นักเขียนบทและผู้กำกับได้แรงบันดาลใจหลายๆ อย่าง แล้วเด็กๆ เหล่านี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ความรักของหนุ่มหล่อสาวสวยในเมืองเกิดความสดใสซาบซ่าขึ้นมา ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า ฮันกยอง ซูเปอร์จูเนียร์และเฉินคุนอาจจะมารับบทพระเอกของเรื่องแต่สุดท้ายทีมงานก็เลือกซูโหย่วเผิง ซึ่งหนุ่มที่มีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมการกุศลสำหรับเด็กอย่างซูโหย่วเผิงบอกว่า"ที่จริงแล้ว การโดนเด็กๆ แกล้งบ้างก็ถือเป็นเรื่องที่สนุกดีเหมือนกันนะครับ"

ซูโหย่วเผิงที่ได้รับการยกย่องให้เป็น"ดาราชายที่สาวๆ อยากแต่งงานด้วยมากที่สุด" มักจะมีข่าวซุบซิบกับสาวๆ ในวงการนับตั้งแต่เข้าวงการมาไม่ว่าจะเป็นจ้าวเวย,หลินซินหยูฯลฯ ต่างก็เคยมีข่าวกับเขามาแล้วไม่มากก็น้อย เมื่อพูดถึงความรัก ซูโหย่วเผิงบอกว่าช่วงนี้เขารับงานภาพยนตร์ 2 เรื่อง แล้วก็ยังมีงานอื่นๆ ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ เวลาในการถ่ายทำภาพยนตร์จึงแทบจะกินเวลาส่วนตัวทั้งหมดของเขา ความคิดเรื่องแต่งงานสำหรับเขาในตอนนี้จึงยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลอยู่มาก ในเมื่อเลือกที่จะทำอาชีพนักแสดง ก็จำเป็นต้องเสียสละอะไรบางอย่าง

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:45:45 PM »
MingXing Vol. 8 July 2004

2004 New Album อี่เฉียนอี่โหว่


309295_469905149714650_1831412114_n.jpg" border="0

New Album

เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมานั้นซูโหย่วเผิงได้ยุ่งอยู่กับการถ่ายละครเลยไม่มีเวลาออกเทปจนในที่สุด เขาก็ได้ทำอัลบั้มส่วนตัวขึ้นมาใช้ชื่อว่า"อี่เฉียนอี่โห่ว"(อดีตต่อมา)ในอัลบั้มนี้เขาได้เป็นตัวแทนร้องเพลงเมื่อ 15 ปีก่อน

กว่าที่จะออกมาเป็นอัลบั้มใหม่นับว่ายากเหมือนกัน เพราะว่าซูโหย่วเผิงได้ทำอัลบั้มเพลงนี้มาด้วยความชอบและเต็มใจที่จะทำ เขาได้เตรียมพร้อมในด้านเวลา ถึงขนาดที่ว่าถอนตัวจากการร่วมงานกับคนอื่น เพราะว่าจะให้ประจวบเหมาะกับวันครบรอบของเหมยเยี่ยนฟาง อัลบั้มนี้ได้ออกมาจากอารมณ์ที่แท้จริง หลังจากนั้นก็ได้ให้อาจารย์หลีซือซงและอีกท่านหนึ่งคือผู้ที่ให้กำลังใจเป็นแฟนเพลงที่ปักกิ่งช่วยกันเรียบเรียงให้ จึงได้ออกมาเป็นอัลบั้มที่สมบูรณ์

ซูโหย่วเผิงได้ใช้เวลาในการทำอัลบั้มใหม่เป็นเวลา 2 ปี และการตั้งชื่อในอัลบั้มนั้นได้ใช้ชื่อนักดนตรี หลีซง เหวยซง อี้เจียหยาง หลี่ฉวน เซวียเลี่ยง หวังจื้อผิง รวมเพลงใหม่ทั้งหมด 12 เพลงในนั้นก็ได้มีเพลง "หลินซือเหยี่ยนหยวน"(นักแสดงในเวลาอันใกล้) เพื่อนของซูโหย่วเผิงได้แต่งเพลงนี้ มีนักแสดงคนหนึ่งได้ผ่านประสบการณ์มาเยอะจนเข้าใจในการเป็นนักแสดง มีเพื่อนได้พูดว่าในขณะที่เขาร้องเพลงได้ใส่อารมณ์โกรธเข้าไปด้วย เป็นเพลงสำคัญที่ดีอีกเพลงหนึ่ง ในอัลบั้มนี้ได้รวมลีลาหลายรูปแบบ รวมทั้งเพลงลาติน เพลงเต้นและเพลงที่บรรยายอารมณ์ เหล่านี้

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2013, 05:19:45 AM »
MingXing : Vol.19 June 2005 P.46-49

300042_469903203048178_301854710_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิงดังไกลถึงแดนปลาดิบเทียบชั้น F4 ยังได้ฉายา "เบยองจุนไต้หวัน"


หลังจากที่ เบยองจุน (bae Yong Jun) ดาราหนุ่มหล่อชาวเกาหลี โด่งดังลัดฟ้าไปคว้าใจสาวญี่ปุ่นมาครองได้อยู่หมัด ถึงขนาดที่อัลบั้มภาพของเขาออกวางขายราคาแพงสูงลิบลิ่วถึง 1,300 หยวน สาวน้อยสาวใหญ่แดนปลาดิบก็ยังอยากแย่งกันซื้อหามาครอบครองกันให้วุ่น รวมถึงอัลบั้มภาพของหนุ่มหล่อจากไต้หวันอย่าง F4 และไจ่ไจ๋ ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามียอดขายกระฉูดด้วยความหล่อกระชากใจสาวที่นั่นเช่นกัน แต่เมื่อผลงานละครโทรทัศน์ซีรีย์ใหม่เรื่อง "ฉิงติ้งอ้ายฉินไห่"(Love of the Aegean Sea) ที่มีหนุ่มหล่อจากไต้หวันอย่างซูโหย่วเผิง ประกบดาราสาวสวยจากเกาหลีอย่าง แชริม(Chae rim) ได้ออกฉายที่ญี่ปุ่น พระเอกของเรื่องซูโหย่วเผิงก็กลายเป็นขวัญใจสาวญี่ปุ่นไปทันที กลายเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อมวลชนแดนปลาดิบ ถึงขนาดยกฉายา "เบยองจุนแห่งไต้หวัน" ให้เขาไปครอบเอาด้วยเสียเลย ทำให้งานเขียน งานเพลงของซูโหย่วเผิง ถูกถามหาและขายดิบขายดีที่ญี่ปุ่นตามไปด้วย และยังมีแววว่าจะถูกดึงตัวไปเซ็นสัญญาร่วมงานแสดงกับทางบริษัทผลิตงานบันเทิงของญี่ปุ่นทั้งหลายแหล่อีกด้วย

นอกจากนี้ บรรดาสื่อมวลชนญี่ปุ่นยังเขียนถึงซูโหย่วเผิงว่า เป็นดาราไต้หวันที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวคนหนึ่ง อย่างบทบาทในเรื่อง "ฉิงติ้งอ้ายฉินไห่"(Love of the Aegean Sea) เขาแสดงเป็นชายหนุ่มวัย 30 ที่มีครบทั้งความสุขุมนุ่มลึกแบบผู้ใหญ่ แล้วยังหล่อทันสมัย อย่างนี้แหละที่โดยใจสาวญี่ปุ่นสุดๆ ส่งผลให้เกิดการวมตัวพบปะกลุ่มคนรักซูโหย่วเผิง และจัดทำเว็บไซต์แฟนคลับให้เขาขึ้นด้วย อีกทั้งตามแผงร้านหนังสือหรือร้านขายเพลงต่างๆในกรุงโตเกียว ก็มีภาพและผลงานของเขาออกวางขายให้พรึ่บไปหมดเช่นกัน รวมถึงพวกงานแสดงก่อนๆ ที่ผ่านมาของเขาอย่างเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ เราสองหัวใจเดียวกัน หรือมนต์รักในสายฝน เป็นต้น ก็เตรียมจ่อคิวออกฉายที่ญี่ปุ่นในไม่ช้า เพื่อตอบรับกระแสความดังของเขา

ในอดีตปี ค.ศ. 1991 ซูโหย่วเผิงเคยถูกเชิญไปแสดงในงานเลี้ยงสังสรรค์ของนักเรียนจีนที่ญี่ปุ่น ซึ่งตัวเขาเองได้ไปในฐานะหนึ่งในสามแห่งสมาชิกวง "เสี่ยวหู่ตุ้ย" ซึ่งจัดเป็นวงดนตรีที่โด่งดังสุดๆ ของไต้หวันในสมัยนั้น คิดไม่ถึงว่า 14 ปีต่อมา เขาจะได้หวนสู่วงการบันเทิงญี่ปุ่นอีกครั้ง ซูโหย่วเผิงว่าดารานักร้องของจีน ฮ่องกง ไต้หวันมีอยู่มากมาย สำหรับเขาจะขอเลือกรับงานแสดง เพื่อนำเสนอผลงานดี ๆ ยกระดับตัวเองสู่ตลาดภายนอกแข่งกับดาราญี่ปุ่น เกาหลี


แฟนคลับทุกคนเป็นเพื่อนผม

หลายคนจะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีสำหรับซูโหย่วเผิงนักแสดงหนุ่มไต้หวันซึ่งมีผลงานโด่งดังมาจากละครเรื่ององค์หญิงกำมะลอ และมนต์รักในสายฝน และเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้ไปร่วมงานเทศกาล ว่าวนานาชาติที่เหวยฝาง แน่นอนว่ามีแฟนละครไปรอต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งทีเดียว

ทันทีที่ซูโหย่วเผิงปรากฎตัวในเสื้อหนังพร้อมกับทรงผมดัดย้อมสีทอง แฟนๆต่างก็ตะโกนเรียกกันสนั่น ซูโหย่วเผิงหยิบเอาเพลง "ไคว่เล่อจู่อี้(ชีวิตแสนสนุก) มาร้องโชว์แถมด้วยเพลงตัวอย่าง "หนี่ซื่อหว่อเตออีตีเล่ย(เธอคือหยดน้ำตาของฉัน) ซึ่งใช้ประกอบละคร "ฉิงติ้งอ้ายฉินไห่"(Love of the Aegean Sea) ที่เขาแสดง และยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงไม่หยุดเมื่อนำเพลง "อ้าย"(รัก) เพลงดังของวงเสี่ยวหู่ตุ้ยมาร้องอีกครั้ง

"มาเหวยฟางในครั้งนี้ผมมีความสุขมาก ผมชอบว่าวที่ลอยอยู่บนฟ้า ส่วนงานคอนเสิร์ตวันนี้ทำให้ผมรู้สึกดีจริงๆ"

"ทั้งที่ไต้หวันและเมืองจีนทุกคนล้วนรักผม ผมมีความสุขที่สุดเลยครับ"


แฟนเพลงของซูโหย่วเผิงมาจากหลายๆที่ทั้งที่ชิงเต่า เว่ยไห่ เยียนไถ ตงยิ๋ง บางคนหอบช่อดอกไม้ใหญ่มาให้ บางคนก็มีของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันมา และเมื่อรู้ว่าซูโหย่วเผิงยินดีให้นักข่าวสัมภาษณ์แฟนเพลงเหล่านั้นก็อยากที่จะตามเข้าไปดูและขอถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด

ทำไมทุกคนถึงได้ชื่นชอบซูโหย่วเผิงมากขนาดนี้? แฟนที่มาจากชิงเต่าคนหนึ่งกล่าวว่า "ฉันว่าเขานิสัยดีค่ะ เป็นมิตร สุขุม ร้องเพลงเพราะ"

เมื่อนักข่าวถามซูโหย่วเผิงว่าเพราะอะไรเขาถึงสามารถครองใจแฟนๆได้ ซูโหย่วเผิงกล่าวว่า "ทุกคนมีน้ำใจกับผมมากครับ พูดจริงๆนะ แฟนเพลงทุกคนก็เป็นเพื่อนของผม" แน่นอนว่าแฟนๆ ที่มาจากไต้หวันนั้นก็ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะอะไรน่ะเหรือ ก็เพราะว่าเขาตามเพื่อนของเขามาน่ะสิ

ในอัลบั้มเดี่ยว "Sound of rain sound of wind and sound of su" ของซูโหย่วเผิงมีเพลงพิเศษเพลงหนึ่งซึ่งเขาตั้งใจมอบให้กับแฟนเพลงคนหนึ่งโดยเฉพาะ นั่นก็คือเพลง "เทียนตี้อีชาโอว"(โลกของนกทะเล) เนื่องจากแฟนเพลงคนนั้นป่วยเป็นโรคโลหิตจางขั้นรุนแรงแม้แต่หมอที่รักษาก็บอกว่าเธออาจจะอยู่ได้ไม่เกินอายุ 13 เป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานเพราะเธอต้องทำการถ่ายเลือดทุกวัน ความหวังเดียวที่หัวใจดวงน้อยมีอยู่ก็คืออยากจะได้พอเจอซูโหย่วเผิงสักครั้ง เมื่อซูโหย่วเผิงได้รู้เรื่องนี้ก็รีบไปหาเด็กคนนั้นเพื่อเป็นกำลังใจและต้องการให้เธอลุกขึ้นมาสู้กับโรคร้ายอีกครั้ง เพลง "เทียนตี้อีซาโอว" ที่ซูโหย่วเผิงร้องเป็นเพลงโปรดของเธอในช่วงที่เธออาการหนักก็เป็นเวลาเดียวกับที่การงานของซูโหย่วเผิงอยู่ในขาลง เพลงนี้จึงเป็นเหมือนกำลังใจให้กับทั้งสองเพื่อประคับประคองชีวิตและศรัทธาที่มี ซูโหย่วเผิงเคบวอกว่า "พอความอบอุ่นพัดผ่านเข้ามา ลมหนาวก็จะมลายไป "

เมื่อต้องเปลี่ยนจากเส้นทางศิลปินมาสู่ถนนนักแสดง ซูโหย่วเผิงนั้นดีใจแต่ขณะเดียวกันก็อดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ แม้ว่าในการแสดงเรื่ององค์หญิงกำมะลอ บทที่เขาได้รับจะเป็นบทนิ่งๆ มีกรอบกำหนด แต่ตัวละครองค์ชายห้ากลับเข้าไปครองใจผู้ชม และตัวละครนี้เองที่ทำให้ซูโหย่วเผิงได้ผงาดขึ้นมาในวงการละคร "นิสัยของผมกับองค์ชายห้าต่างกันนิดหน่อย องค์ชายห้าจะค่อนข้างซื่อๆ เรียบร้อย ผมว่าผมจะร่าเริงกว่า ตลกกว่า ไม่ใช่คนเงียบๆ อย่างนั้น" ตั้งแต่เวลานั้นฉายาเขาก็เปลี่ยนไปเป็น "อู่อ้าเกอ" (องค์ชายห้า)

ในงานเทศกาลว่าวนานาชาติที่เหวยฝาง ศิลปินที่ได้รับเชิญให้ขึ้นร้องคนแรกคือจ้าวเหวยหลังจากนั้นก็คือซูโหย่วเผิง หลังการแสดงเมื่อนักข่าวถามถึงความสัมพันธ์ของเขากับจ้าวเวย ซูโหย่วเผิงตอบว่า "ผมกับจ้าวเวยเป็นเพื่อนกันครับเธอเป็นคนตรงๆ เปิดเผย เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ผู้หญิงจุกจิกวุ่นวาย เวลาอยู่กับเธอพูดได้เลยว่าเหมือนอยู่กับเพื่อนรักคนหนึ่ง" และเมื่อนักข่าวถามว่าภายหลังเขาคิดจะเอาดีทางด้านผลงานหนังและละครเลยใช่หรือไม่ ซูโหย่วเผิงว่า "ผมจะเอาพลังที่มีอยู่ทั้งหมดทุ่มลงไปในงานเพลงของผม ผมคิดว่าเมื่อผมร้องเพลงบนเวทีผมเป็นตัวของตัวเองที่สุด บางครั้งเมื่อแสดงละครมากๆ ผมก็เบื่อที่จะต้องสวมบทบาทเป็นคนอื่น เพราะไม่ว่าจะรับบทไหนก็ต้องรับเอานิสัยและความเป็นตัวตนของคนๆนั้นมาด้วย ผมอยากเป็นตัวของตัวเองมากกว่าครับ"

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2013, 05:22:38 AM »
MingXing : Vol.21 August 2005

ซูโหย่วเผิง Top 5 นักแสดงต่างชาติขวัญใจสาวกิมจิ

ไม่หยุดความแรงไว้ให้อาหมวยจีนได้กรี๊ดกันเท่านั้นตอนนี้ซูโหย่วเผิงมาแรงแซงทางโค้งขึ้นแท่นเป็นดาราหนุ่มในดวงใจสาวๆ เกาหลีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งช่วงที่ผ่านมาผลงานที่เขาได้แสดงร่วมกับดาราสาวเกาหลีก็ออกฉายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นละครสุดโรแมนติกเรื่อง Love of the Aegean sea หรือละครจีนกำลังภายในอย่าง Tiger Brother ที่ซูโหย่วเผิงประกบคู่กับดาราสาวแชริม รวมทั้งเรื่องล่าสุด Sassy Princess ที่ได้จางนารามารับบทคู่กัน ก็ยิ่งทำให้กระแสความดังของหนุ่มคนนี้นับวันจะเปรี้ยงปร้างมากขึ้นในเกาหลี และไม่ว่าซูโหย่วเผิงจะจัดงานแถลงข่าวหรือปรากฎตัวขึ้นที่ใดก็จะมีสาวๆกิมจิแห่แหนกันมาให้กำลังใจล้นหลามไปเสียทุกครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนของปีนี้เป็นต้นมา ซูโหย่วเผิงกลายเป็น Topic สุดฮอตของสาวๆ เกาหลีในเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Yahoo และ Naver เรื่องราวของเขาถูกตั้งเป็นกระทู้อยู่ไม่ขาดสายเลยทีเดียว จนในที่สุดซูโหย่วเผิงก็ได้กลายเป็น 1 ใน Top5 ของนักแสดงต่างชาติที่สาวๆเกาหลีชื่นชอบมากที่สุดและที่น่าปลื้มใจยิ่งกว่าก็คือ เขาเป็นดาราชายเพียงคนเดียวจากอันดับ 1-5 ซึ่งมีรายชื่อดังนี้

1. ก่งลี่(นักร้องหญิงจีนยอดนิยม)
2. Avril Lavigne
3. Brooke Christa Shields
4. Beyonce
5. ซูโหย่วเผิง


ซูโหย่วเผิง "หนุ่ม Time Tele-Movic" VS พรีเซ็นเตอร์โฆษณา

ในที่สุดผลการคัดเลือกหา "หนุ่ม Time Tele-Movie" ของนิตยสาร "Time Tele-Movie ซึ่งเป็นนิตยสารบันเทิงชั้นนำของจีนก็ผ่านพ้นไปโดยเสียงโหวตจากแฟนๆ นิตยสารต่างก็พร้อมใจกันเทคะแนนให้กับดาราหนุ่มไต้หวัน

ซูโหย่วเผิงคนนี้ แต้มของเขาเป็นต่อนักแสดงชายคนอื่นแบบกินขาด ไม่ว่าจะเป็นฝางจู่หมิง หวงไห่ปิง และ พานเหว่ยป๋อ ก็ต้องยกธงขาวยอมให้กับความแรงไม่ยั้งของซูโหย่วเผิงในชั่วโมงนี้ และแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นแต่เขาก็กล่าวว่า

"ผมดีใจมากครับและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ตำแหน่งที่ได้รับในครั้งนี้ผมขอมอบให้กับแฟนๆ ทุกคนที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างผม เป็นกำลังใจให้ผมมาโดยตลอด และหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อตอบแทนแฟนหนังแฟนละครของผมที่อยู่ในเมืองจีนด้วยครับ"

นอกจากนี้ซูโหย่วเผิงยังจับมือกับบริษัท รองเท้าชั้นนำของจีนเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้รองเท้าเดินทางคอลเลคชั่นใหม่ของปีนี้ ทางด้านผู้บริหารบริษัทแสดงความยินดีอย่างชัดเจนถึงโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมงานกัน

"ก่อนหน้านั้นเราได้สำรวจตลาดเพื่อดูว่าภาพลักษ์ของนักแสดงคนใดเหมาะกับสินค้าของเราที่สุด ซูโหย่วเผิงมีบุคลิกร่างเริงแจ่มใสเต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา และเขาก็ยังหมั่นพัฒนาทักษะทางการแสดงของตัวเองอยู่เสมอ นอกจากนี้เขายังทุ่มเทให้งานเป็นอย่างมาก ช่วงที่ถ่ายทำโฆษณาต้องกินเวลาช่วงวันหยุดแรงงานแถมยังต้องไปถ่ายที่เมืองอู๋ซีที่นั่นอากาศร้องมากด้วย แต่ซูโหย่วเผิงก็พยายามสุดความสามารถของเขาเลย"

และทันทีที่โฆษณาแพร่ภาพออกไปยอดขายสินค้าก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างงดงามงานนี้นับว่าประสบความสำเร็จร่วมกันทั้งสองฝ่ายเลยก็ว่าได้

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13886
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2017, 11:54:38 AM »