แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Alec Love Me

หน้า: 1 ... 208 209 [210] 211 212 ... 216
4181
Magazine Interviews-China / 2008 Beijing Youth Weekly
« เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 03:43:57 AM »
[Magazine] Beijing Youth Weekly 2008.01.24

บทความจาก Beijing Youth Weekly 2008.01.24 4th Edition, Total 604th Edition


Alec Su: การระลึกถึงการเติบโตไปขึ้น

ไม่ว่าหน้าตาของซูโหย่วเผิงยังหนุ่มแน่นขนาดไหน จากการที่พวกเราได้รู้จักกับการเข้าสู่วงการของเขาเป็นเวลากว่า 20 ปี และได้อ่านชีวประวัติของเขานั้น ได้รู้ถึงเขาในวันนี้แน่นอนได้ไม่เป็น “ไกวๆหู่” ในสมัยวัยแตกหนุ่ม แม้ว่า รอยยิ้มของเขานั้นจะสดใส แต่เบื้องหลังนั้นแน่นอนมีเรื่องราวอีกมากมาย ฉะนั้น ขณะที่พวกเราได้เห็นรูปของเขาได้ปรากฏในนิตยสารต่าง ๆ ที่เห็นถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งเต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นชายนั้น ไม่มีความรู้สึกที่ไม่กลมกลืนเลย เพราะว่านี่เป็นใบหน้าแท้จริงตอนนี้ของซูโย่วเผิงที่ได้ให้กับพวกเรา ในระดับหนึ่ง ๆ นั้น ซูโหย่วเผิงนั้นประสบความสำเร็จทั้งยังเป็นคนที่มีความผาสุก เพราะว่า “คุณภาพขวัญใจ” ที่ยอดเยี่ยมของเขานั้นได้มีอิทธิพลต่อคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ได้เป็นคนวัยเดียวกับ “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ได้กลายเป็นภาพในสมัยนักเรียนที่พวกเรากระหายหา ขณะที่ได้เห็นเขาอยู่ต่อหน้าอย่างมีชีวิตชีวา พวกเรานั้นได้อยู่อีกขั้นหนึ่งของสังคมแล้ว ความรู้สึกที่โตมาด้วยกันนั้นก็เสมือนกระจกสองด้าน กระตุ้นซึ่งกันและกันเพื่อเป็นพลังเคลื่อนไหวกัน เขาพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อความคาดหวังของคนที่รักเขา พวกเราได้ต่อสู้เพื่อแบบอย่างขวัญใจอย่างเขา การพูดคุยหน้าต่อหน้านี้นั้น ก็ยิ่งเหมือนกับเป็นการระลึกถึงการเติบโต

คนเรานั้นย่อมมีหลักการ แต่มีบางคนนั้นกลับยอมก้มหัวต่อหลักการ แต่หลักการของผมนั้นก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ศักดิ์ศรีที่ว่านี้นั้นไม่สามารถมองข้าม ผมยืนหยัดสิ่งที่ผมอยากได้ หากว่ามีเพียงทางเดียวที่จะได้สิ้งนั้นมาคือต้องทิ้งหลักการของตัวเองไปหรือผิดหลักการตัวเอง ผมยอมที่จะไม่เอาสิ่งนั้นเลย แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าการพูดคุยของผมกับทุกคนนั้นจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ ยึดมั่นในความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ผมก็มีการรับฟังความคิดเห็นของทุกคนอย่างจริงจัง และจะหาจุดสรุปที่ดีที่สุด


4182


                          ปี 2010  รายการราตรีตรุษจีน  ที่ได้ระเบิดความมันส์ในสถานีจงหยาง และ“การกลับมาอีกครั้ง” ของพวกเขาได้ทำให้ผู้คนมากมายอบอุ่นใจ พวกเขาได้นำทุกคนหวนย้อนเวลากลับไปสู่อดีต   พวกเขาทั้ง 3 คนที่เป็นสมาชิก เสี่ยวหู่ตุ้ย   เพลงที่พวกเขาร้องกันบนเวทีนั้นไม่เพียงเป็นเสียงเพลงเท่านั้น แต่ยังเป็นการย้อนกลับไปวัยรุ่นในสมัยนั้นด้วย    21 ปีของ เสี่ยวหู่ตุ้ย แล้วในปี 2010  พวกเขาได้นำความสนุกและวัยหนุ่มสาวกลับมาให้ทุกคนได้สัมผัสอีกครั้ง   ช่วงนี้ ซูโหย่วเผิงที่ได้รับตำแหน่งทูตแห่งความรักของมูลนิธิช่วยเหลือคนจนของจีนได้มาเปิดตัวที่รายการซิงฟังเค่อ


ซูโหย่วเผิง - ปฏิเสธการรวมตัวอีกครั้งของเสี่ยวหู่ตุ้ย  เหตุผลคือไม่อยากทำให้ภาพลักษณ์ เสี่ยวหู่ตุ้ย เสีย


                         หลังจากงานราตรีตรุษจีนแล้ว เสียงเรียกร้องให้ เสี่ยวหู่ตุ้ย มารวมตัวอีกครั้งนั้นยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้น  การจัดคอนเสิร์ตทัวร์ การรวมตัวกันอีก   ซึ่งข่าวที่ออกมานั้นไม่เหมือนกับความต้องการของแฟนๆ  เรื่องนี้ได้มีข่าวมาพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะข่าวที่ว่า  ซูโหย่วเผิงได้ปฏิเสธเรื่องคอนเสิร์ตทัวร์  ทำให้เป็นที่จับตาของเหล่าแฟนๆ ด้วยเหตุนี้  ทางซูโหย่วเผิงก็เซ็งเหมือนกัน เพราะว่าตัวเองยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย   การที่ได้นำความสนุกสนานที่มากมายให้กับแฟนๆนั้น เดิมทีคือ เนื่องในโอกาสปีเสือ   เลยอยากให้แฟนๆ ชมรายการที่สนุก   แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่า ผลการตอบรับนั้นจะมากมายขนาดนี้  ในช่วงเวลาที่ซ้อมเตรียมการแสดงนั้น  ตัวเอง ฉีหลงและจื้อเผิง ต่างก็ได้ทุ่มเทเอาจริงเอาจังมาก   เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นมากๆ  ขณะที่ตัวเองยืนอยู่บนเวที เมื่อแสงได้โฟกัสที่เขา  เสียงดนตรีดังขึ้นมา และเสียงปรบมือของแฟนๆ ดังขึ้น ตัวเองก็เหมือนทุกคน  ในใจล้วนมีความรู้สึก  ภาพวันวานนั้นล้วนสวยงาม  แต่เรื่องราวที่ดีงามนั้น มันไม่อาจหวนกลับมาอีกรอบได้   20 ปีมันผ่านไปแล้ว  การที่เป็นสมาชิก   พวกเขาก็ล้วนรักและทนุถนอมวันเวลาของ เสี่ยวหู่ตุ้ย เป็นอย่างมาก  แต่ไม่อยากจะทำให้ชื่อ “เสี่ยวหู่ตุ้ย” -  3 คำนี้ต้องหม่นหมองไปด้วยการแสวงหาชื่อเสียงของตัวเอง  พวกเขาจะรักษ์และถนอมความทรงจำดีๆ ในวันวานของ เสี่ยวหู่ตุ้ย  จะรักษาไว้ตลอดไป


ซูโหย่วเผิง - ได้รับความรักจากคืนราตรีตรุษจีนเป็นอย่างมาก ทำให้มีความกล้าและความมั่นใจมากขึ้น

                     ความสูงต่ำในตลอด  21 ปีในวงการบันเทิง   ซูโหย่วเผิง ในอดีตที่ดังระเบิดทั่วเอเซีย  จนถึง อู่อาเกอ ในเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ในจอ   และปี 2009 ที่เห็นถึงการแสดงที่ยอดเยี่ยมในเรื่อง เฟิงเซิง  ตลอดเส้นทางศิลปินของเขานั้น  ล้วนราบรื่นเป็นอย่างดี  และเทศกาลตรุษจีนปีนี้   ทางสถานีจงยางก็ได้เชิญเขามาออกงาน  ทำให้เขาได้รับความรักความอบอุ่นมากมายจากแฟนๆ  เขาเองก็ได้พูดถึงเหมือนกันว่า  เขาก็ได้อยู่ในวงการนี้มานานพอสมควร บางเวลาก็อดที่จะถามตัวเองไม่ได้ว่า  แรงผลักดันต่อไปในอนาคตคืออะไร?   ทำไมตัวเองยังคงจะยืนหยัดอย่างลำบาก?   ปีเสือ  ขณะที่เขาได้เดินออกมาสู่สายตาชาวจีนนับร้อยล้านนั้น เขารู้สึกว่าได้รับการตอบแทนแล้ว   การได้รับสิ่งตอบแทนนั้นไม่ใช่เงินทอง   แต่เป็นการยอมรับ รู้สึกว่า  ตลอดเวลานั้นตัวเองก็กำลังขาดสิ่งนี้อยู่   ความรู้สึกอย่างนี้นั้นยากจะบรรยาย   ไม่เพียงแต่ตัวเอง  ก็ยังมีคนรอบกายมากมายที่สนใจตัวเอง  ชื่นชอบผม  แม้สิ่งนี้จะเป็นความกดดันที่หนัก  แต่ว่ามีแฟนๆ มีเสียงปรบมือ ซึ่งเหล่านี้ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ผมเดินมุ่งหน้าต่อไป


ซูโหย่วเผิง - คอนเสิร์ดทัวร์ไร้ความหวัง แต่ว่า เสี่ยวหู่ตุ้ย จะอยู่นิรันดร์กาล

                     ขณะที่ซูโหย่วเผิงซ้อมการแสดงนั้นได้เปิดเผยว่า  ตารางเวลาของตัวเองนั้นแน่นมาก  งานหลักของเขานั้นจะเป็นงานภาพยนตร์  ร่วมทั้งงานกิจกรรมต่างๆ ด้วย  และงานโปรโมทภาพยนตร์  แค่ปีนี้ก็จะมี “ตามหาพี่หลิวซัน”  “4 กามเทพ” ที่จะฉายในปีนี้  แต่ทางแฟนๆก็สนใจเรื่อง ทัวร์คอนเสิร์ด เป็นอย่างมาก  มันคงจะเป็นไปได้ยาก  แต่ว่าทาง เสี่ยวหู่ตุ้ย ก็จะลองหาเวลาที่เหมาะสมในการพบปะแฟนๆ  เช่น งานการกุศล หรืองานสาธารณะประโยชน์  หากต้องการ เสี่ยวหู่ตุ้ย แล้ว  ก็จะขอทุ่มเทอย่างสุดกำลัง  ฉะนั้น เสี่ยวหู่ตุ้ย ยังจะอยู่กับทุกคนตลอดไป  และเวลาที่จะมาถึงนั้น  ทั้ง 3 คนก็ยังจะมีเวลาเจอกัน  จะเป็นเพื่อนที่ดีตลอดไป จะทุ่มเททำงานที่ทุกคนต้องการให้ทำกับทุกคน

                       ผมที่เป็นผู้กำกับในรายการ “ซิงฟังเค่อ”นั้น  จะไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ผมเองก็เคยเป็นแฟนคลับของซูโหย่วเผิง  ได้ฟังเพลงมากมายของเขา ได้ดูงานการแสดงของเขามากมายด้วย  แต่หลังจากผ่านไปแล้ว 20 ปี  คนคนหนึ่งที่เป็นผู้ใหญ่  เป็นสุภาพบุรุษสุดๆอย่างซูโหย่วเผิงที่ได้มายืนต่อหน้าผม  จะหาเงาแห่งอดีตแทบจะไม่มีให้เห็นเลย  สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลือคือขณะที่เขายิ้มนั้น  ยังเห็นรอยยิ้มที่ร่าเริงเบิกบาน  ยังสามารถที่จะสานภาพใบหน้าที่ใสๆในอดีตได้  การแสดงในราตรีตรุษจีนนั้น  การที่ซูโหย่วเผิง  อู่ฉีหลง  เฉินจื้อเผิงได้มารวมตัวกันแสดงบนเวทีนั้น  ทำให้พวกเขาได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยวัยรุ่นอีกครั้ง.....Ming

The End

4183
อ้างถึง
โหย่วเผิงมาเป็นแขกรับเชิญรายการ “ซิงฟางเค่อ” หนุ่มอายุ 40 ไม่ทำตัวเป็นคนน่ารักแล้ว

โหย่วเผิงที่มาเป็นแขกรับเชิญในรายการนั้นเข้มขรึมมาก ก่อนจะเริ่มรายการเขานั้นวุ่นกับการท่องบทให้คล่อง เขามาในชุดสูทเทา เขาที่มีความคิดเพอร์เฟค นั้นจะละเอียดอ่อนกับการแต่งตัวเป็นอย่างมาก มักจะถามผู้จัดการว่าทำอย่างไรตัวเองจะดูดีขึ้นกว่านี้(แค่นี้แฟนคลับการละลายแล้วจ๊ะเผิง) หลังจากที่ถามแล้วเขาก็ได้พับแขนเสื้อขึ้น จนทางผู้กำกับเองก็เอ่ยปากชมว่าดูดีขึ้น เขาที่อารมณ์ขำก็ได้ตอบว่า “ใช่ครับ อย่างนี้จะดูหนุ่มกว่าเยอะ” อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทีมงานได้ช่วยเขาพับแขนเสื้อแล้ว ทางผู้กำกับก็มองเขาเหมือนกับเป็นกรรมกรกำลังจะไปไร่ไถนา และโหย่วเผิงก็ได้โต้ตอบกลับว่า “จริงๆผมเองมาก็เพื่อมาทำงานนี่นา” คำตอบทำให้ทุกคนขำกลิ้งเลย

วันนี้อายุ 37 อย่างโหย่วเผิงนั้นไม่เห็นภาพที่เขาเคยเต้นๆร้องๆในสมัยเสี่ยวหู่ตุ้ย(ชิงผิงก่อเล่อเหยียน)แล้ว แต่ว่าความหล่อนั้นไม่ได้หายไปกลับกาลเวลาเลย เขาได้ทุ่มเทกับฝีมือการแสดงของเขามาตลอด ความนิยมต่อเขาก็ยิ่งมีมากขึ้นด้วย แม้ตัวเขาเองก็ยังพูดติดตลกว่า “อายุปูนนี้แล้วยังไปทำเป็นน่ารักน่าชังแล้ว มันคงไม่ปลอดภัยแน่นอนเลย”



4187
Thanks, http://tieba.baidu.com/f?kz=726076717


8 มีนาคม 2010 รายงานจากตู่เจียน

โหย่วเผิงที่เป็นแขกรับเชิญในรายการ (กวางอิ่งซิงฟางเค่อ)

“ผมไม่ชอบที่จะยืนโดดเด่นตระง่าอย่างนั้น และยิ่งกว่านั้นก็คือไม่ชอบกลายเป็นเป้าหมายของนักข่าว”  โหย่วเผิงที่มีชีวิตที่เงียบๆในวงการตลอดเวลานั้น และด้วยข้อความในเว็ปของ(โจงเจี๋ย) ทำให้เขาตกเป็นประเด็นร้อนไปเลย แน่นอน คนดังก็ย่อมมีข่าวเยอะ หลังจากงานราตรีตรุษจีนผ่านไปแล้วสายตาทุกคนก็คงจะต้องมองไปเสี่ยวหู่ตุ้ยว่าเรื่องคอนเสิร์ดทัวร์นั้นจะเอาไง และโหย่วเผิงที่เป็นแขกรับเชิญในรายการ (กวางอิ่งซิงฟางเค่อ)นั้นได้บอกว่า หากว่าเป็นงานแบบการกุศลแล้ว พวกเราทั้งสามคนก็จะไม่เกี่ยงที่จะมาร่วมมืออย่างเต็มที่

โหย่วเผิงได้เขียนในเว็ปว่า ตัวเองไม่อยากเป็นประเด็นให้นักข่าวเขียนข่าวตัวเอง
 
5  มีนาคม  คอลัมน์หนึ่งในเว็ปของโจวเจี๋ยนั้นได้เขียนเรื่องของ(โหย่วเผิง) (จื้อเผิง) (ซินหยู) จนกลายเป็นประเด็นร้อนไปเลย ได้พูดถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในการถ่ายทำองค์หญิงกำมะลอใน 12 ปีก่อน (จื้อเผิง) ที่ไม่สามารถจะทนข่าวได้นั้นได้พูดว่า “พวกเราไปเจอกันที่ศาลกัน”  และทางผู้จัดการส่วนตัวของ(ซินหยู) ก็ได้บอกว่าเรื่องราวที่เขียนขึ้นของโจวเจี๋ยนั้นไร้สาระไม่เป็นความจริง 6 มีนาคม  โหย่วเผิงได้เขียนตอบในเว็ปของตัวเอง บอกว่าคอลัมน์ของโจวเจี๋ยที่เขียนขึ้นเพื่อจะทำลายพวกเขา เป็นเรื่องที่ปั้นขึ้นมาเอง



คนดังมักจะตกเป็นข่าว หลังจากราตรีตรุษจีนแล้ว(โหย่วเผิง)ที่ร้อนแรงอีกครั้งก็ได้ตกเป็นเป้าของนักข่าว แม้จะรู้สึกเบื่อหน่ายมากๆ ขณะที่ให้การสัมภาษณ์ได้บอกว่า “เข้าสู่วงการมานานผมเองเป็นคนที่ชอบเงียบๆ ไม่ชอบที่จะเป็นข่าว ยิ่งกว่านั้นไม่ชอบตกเป็นเป้าของนักข่าวบันเทิง” โหย่วเผิงที่เพียงแค่อยากจะตั้งใจทำงานอย่างจริงจังได้บอกว่าเป้าหมายสูงสุดของตัวเองคืออยากเป็นนักแสดง แม้ยังจะต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง แต่เขาก็เชื่อว่าพึ่งในความสามารถของตนเองนั้นก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำได้

เสี่ยวหู่ตุ้ยจะรวมตัวอีกครั้งต่อเมื่อมีงานการกุศล โหย่วเผิงบอกว่าเฉยๆกับเรื่องการแต่งงาน

ต้นไม้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งรับลมแรง ข่าวเท็จจริงมากมายของโหย่วเผิงนั้นได้กระหึ่มขึ้นอย่างงานราตรีตรุษจีนของเสี่ยวหู่ตุ้ย แม้ว่าคอนเสิร์ดทัวร์จะเป็นไปไม่ได้ แต่ทางโหย่วเผิงก็กล่าวว่าทั้งสามคนยังจะมีโอกาสมารวมตัวกันได้ “หากว่ามีงานกิจกรรมการกุศลหรือสาธารณะประโยชน์แล้ว ผมคิดว่าพวกเราทั้งสามคนก็จะมาร่วมงานด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง”  โหย่วเผิงเปิดเผย ยุคสมัยของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นขาวสะอาดมากๆ แต่ตอนนี้วงการบันเทิงมีความคิดที่จะทำลายภาพลักษณ์ เขาไม่อยากจะให้ภาพลักษณ์มันหมองไป

เข้าสู่วงการกว่า 20 ปีมานี้ ข่าวฉาวของโหย่วเผิงนั้นน้อยมาก ตารางงานของเขานั้นแน่นเอียดตั้งแต่ต้นปีจนถึงท้ายปีแทบจะไม่มีเวลาให้กับเรื่องของความรัก  เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงาน โหย่วเผิงยิ้มแล้วตอบว่า “จริงๆแล้ววัยที่ต่างกันก็จะมีความคิดที่ต่างกัน จำได้ว่าตอนที่ผมอายุ 20 นั้นแทบจะไม่สนใจเรื่องนี้เลย ความคิดของวันนี้นั้นก็คืออยากจะเจอผู้หญิงที่คุยกันได้คนหนึ่ง เรื่องคู่ครองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ”




โหย่วเผิงมาเป็นแขกรับเชิญรายการ “ซิงฟางเค่อ” หนุ่มอายุ 40 ไม่ทำตัวเป็นคนน่ารักแล้ว

โหย่วเผิงที่มาเป็นแขกรับเชิญในรายการนั้นเข้มขรึมมาก ก่อนจะเริ่มรายการเขานั้นวุ่นกับการท่องบทให้คล่อง เขามาในชุดสูทเทา เขาที่มีความคิดเพอร์เฟค นั้นจะละเอียดอ่อนกับการแต่งตัวเป็นอย่างมาก มักจะถามผู้จัดการว่าทำอย่างไรตัวเองจะดูดีขึ้นกว่านี้(แค่นี้แฟนคลับการละลายแล้วจ๊ะเผิง)  หลังจากที่ถามแล้วเขาก็ได้พับแขนเสื้อขึ้น จนทางผู้กำกับเองก็เอ่ยปากชมว่าดูดีขึ้น เขาที่อารมณ์ขำก็ได้ตอบว่า “ใช่ครับ อย่างนี้จะดูหนุ่มกว่าเยอะ” อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทีมงานได้ช่วยเขาพับแขนเสื้อแล้ว ทางผู้กำกับก็มองเขาเหมือนกับเป็นกรรมกรกำลังจะไปไร่ไถนา และโหย่วเผิงก็ได้โต้ตอบกลับว่า “จริงๆผมเองมาก็เพื่อมาทำงานนี่นา”  คำตอบทำให้ทุกคนขำกลิ้งเลย

วันนี้อายุ 37 อย่างโหย่วเผิงนั้นไม่เห็นภาพที่เขาเคยเต้นๆร้องๆในสมัยเสี่ยวหู่ตุ้ย(ชิงผิงก่อเล่อเหยียน)แล้ว แต่ว่าความหล่อนั้นไม่ได้หายไปกลับกาลเวลาเลย เขาได้ทุ่มเทกับฝีมือการแสดงของเขามาตลอด ความนิยมต่อเขาก็ยิ่งมีมากขึ้นด้วย แม้ตัวเขาเองก็ยังพูดติดตลกว่า “อายุปูนนี้แล้วยังไปทำเป็นน่ารักน่าชังแล้ว มันคงไม่ปลอดภัยแน่นอนเลย” (ดูคลิปประกอบนะค่ะ โหย่วเผิงพูดหน้าหยิกมากเลย)

ดูคลิปประกอบ http://blog.sina.com.cn/s/blog_4ac8003a0100hj1e.html?tj=1

4189
รูป+ข่าวเพิ่มเติม

http://tieba.baidu.com/f?kz=740785421



4198
http://tieba.baidu.com/f?kz=738325987
http://tieba.baidu.com/f?kz=738253090

=============================

29 มีนาคม 2010 บจ.หัวอี้กับศิลปินร่วมมือกับโครงการ “ร่วมเดินสู่แอฟริกา—อนุรักษ์ธรรมชาติแห่งองค์กรหมิงแย่”

งานกิจกรรมครั้งนี้นั้นจะมุ่งเน้นปัญหาการปกป้องรักษาธรรมชาติโลก





4199
10 มีนาคม 2010  เพื่องานการกุศล โหย่วเผิงจะไปแอฟริกาจริงๆ

“ร่วม เดินสู่แอฟริกา—อนุรักษ์ธรรมชาติแห่งองค์กรหมิงแย่”  29  มีนาคม เลขาธิการสหประชาชาติได้จัดให้มีการจัดสัมนาแผนการอนุรักษ์ธรรมชาติขึ้น ซึ่งจะมีการร่วมมือกันกับทางค่ายหัวอี้ซึ่งจะให้ศิลปินดาราของค่ายได้มีส่วน ร่วมในแผนงานโครงการนี้ และทางโหย่วเผิงเองก็ได้มาร่วมงานแถลงการณ์ครั้งนี้ด้วย

การจะเข้า สู่แอฟริกาเพื่อกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นได้ตั้งเป็นองค์กร “หมิงแย่สิงต้ง” งานกิจกรรมครั้งนี้นั้นจะมุ่งเน้นปัญหาการปกป้องรักษาธรรมชาติโลก
งาน กิจกรรมครั้งนี้นั้นได้ร่วมกันจัดขึ้นโดยองค์กรสหประชาชาติและองค์กรซิงหัว เซ่อแห่งแอฟริกา และทางองค์กรณ์ของจีนหลายๆองค์กรณ์ก็ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย

โหย่ วเผิงผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้เปิดเผยว่า งานโครงการครั้งนี้นั้นได้ร่วมกันโดย “ประชาชน นักธุรกิจ สื่อ และองค์กรณ์ประเทศ” เป้าหมายคือจะพัฒนาการรักษาธรรมชาติโดยผ่านโครงการนี้ ได้พูดถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

การที่ทาง องค์การสหประชาชาติที่ได้จัดโครงการอย่างนี้ขึ้นมานั้น ทางค่ายหัวอี้กับศิลปินก็ได้มีส่วนในการที่จะช่วยและร่วมมือกับโครงการนี้ ด้วย

ปี 2009  ได้มีการจัดกิจกรรมโดยให้ทั่วโลกปิดไฟหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก มนุษย์ทั่วโลกนั้นไม่เคยมีการร่วมทำกิจกรรมอย่างนี้มากอ่น และไม่เคยมีการสนใจเรื่องรวมภาวะโลกร้อนที่มากขนาดนี้เลย

และเรื่อง ราวปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นได้กลายเป็นที่สนใจของผู้คนทั้งโลก ทางเลขาธิการสหประชาชาติเองก็ได้เปิดเผยว่า การรักษาโลกสีเขียวของประเทศจีนนั้นกำลังมุ่งหน้าได้ดี หวังว่าวันนี้จีนจะมีการพัฒนาในเรื่องนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

หน้า: 1 ... 208 209 [210] 211 212 ... 216