Alec Su Youpeng fanclub in Thailand

Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน => Magazine Interviews-China => ข้อความที่เริ่มโดย: Alec Love Me ที่ กันยายน 25, 2010, 09:04:15 PM

หัวข้อ: 2009 Men's Fitness
เริ่มหัวข้อโดย: Alec Love Me ที่ กันยายน 25, 2010, 09:04:15 PM
Thanks, http://blog.sina.com.cn/s/blog_4971588d0100do72.html (http://blog.sina.com.cn/s/blog_4971588d0100do72.html)

บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากนิตรสาร Men's Fitness  ฉบับเดือน มิถุนายน 2009

(http://i209.photobucket.com/albums/bb106/alec_004/1-horz-5.jpg)


หมายเหตุ  MF. เจี้ยนสร้าง
                 SU.โหย่วเผิง

ท้องฟ้าโปร่งใสทุกวัน

MF. อยู่ในวงการบันเทิงมานานหลายปี มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง?

SU. จะพูดความรู้สึกนั้นมีมากมาย เริ่มแรกที่ย่างเข้าสู่วงการนั้นอายุยังน้อย สิบห้าขวบ(15) ก็เริ่มงานที่ยากลำบากแล้ว รับความกดดันที่เด็กในวัยนั้นไม่ควรรับมากมาย ช่วงนั้นที่จริงจังในการงานนั้นเป็นเพราะเซ็งๆ รู้เพียงว่าต้องทำให้สุดกำลังดีที่สุด ต้องจริงจังกับงานทุกงาน ตอนนี้นั้นก็นับว่ามีประสบการณ์ยาวนาน รวมทั้งบวกกับอายุที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ชีวิตที่ถึงจุดสุดยอดกับตกต่ำสุดนั้นผมได้เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้หลายปีผมเองก็เป็นคนบ้างาน ไม่หยุดในการต่อสู้ ทำงาน จนมาถึงระยะนี้ถึงได้ค่อยๆดีขึ้น เริ่มรู้เข้าใจว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกว่าการงานที่ผมจะต้องไปฉวยมันไว้

MF. เมื่อก่อนได้ยินว่าคุณทำงานจนแทบไม่เอาชีวิตเลย ตอนนี้ล่ะ?

SU. ผมในวันนี้ ไม่ได้ทำแต่งาน ก็ได้หันกลับมาใส่ใจความสัมพันธ์ของครอบครัวและเพื่อนมิตร หาเวลาว่างในการอยู่กับพวกเขาเยอะขึ้น ตอนนี้จะรู้สึกมีความสุขกับชีวิตมากกว่าในอคีต คงจะไม่เหมือนอย่างอดีตที่ทำงานหามเช้าหามค่ำอย่างวัวควาย จนสุดท้ายไม่สามารถที่จะรู้ว่าเวลาไหนเช้าเวลาไหนเย็นอย่างนั้น

MF. หรืออาจพูดได้ว่าโหย่วเผิงเป็นผู้ใหญ่แล้ว เริ่มรู้จักมีความสุขกับชีวิต มีความสุขกับเวลา?

SU. การงานในวงการบันเทิงสำหรับผมแล้ว อดีตคือทำงานรับจ้างคนอื่น ตอนหลังก็คือทำงาน ตอนนี้ก็เหมือนรู้สึกว่ามันเป็นการเล่นเกมส์ที่สนุก

MF. หมายความว่าคุณกำลังปฏิวัตตัวเอง ปฏิวัต โหย่วเผิงที่ เป็น “ไกวๆหู่” กับ “บ้าในการทำงาน”

SU. จริงๆแล้วนี่เป็นแค่ภาพพจน์ข้างภายนอก ผมนั้นดื้อมาตลอด การที่จะเรียกผมว่าไกวๆหู่นั้นน่าจะมองในแง่ของการเรียน เพราะตอนนั้นผมเรียนโรงเรียนมัธยมที่ดังที่สุดของไต้หวัน เลยถูกยกให้เป็นต้นแบบไปเสียอย่างนั้น เป็นภาพลักษณ์ที่ดีไม่มีที่ติ ในช่วงที่ผมก่อทัศนะคุณค่าของตัวเองนั้น ก็เสมือนต้นกล้าต้นหนึ่ง ยังไม่ทันได้โตเต็มที่กับสิ่งที่มันจะโต แล้วก็ถูกความกดดันภายนอกมากดดัน มัดมือชกให้ผมต้องเจริญเติบโตในแบบอย่างที่ดี เติบโตให้เป็นเด็กที่ดีตามความคิดในดวงใจของทุกๆคน เพราะอายุและภาพลักษณ์ของคุณ ทางบริษัทก็จะไม่ยอมให้คุณไปทำอะไรที่นอกลู่นอกทางแน่นอน เกิดความขัดแย้งในตัวเองมากๆ แต่ว่าตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นผมเองก็ได้ปล่อยวางไปหมดแล้ว รู้ว่าไม่มีอะไรที่อยู่ยงคงกระพัน สิ่งของนอกกายที่มีนั้น สุดท้ายก็คือมันมาเดียวมันก็จะไป หลายปีนี้ ผมได้สัมผัสรู้สึกถึงอะไรหลายๆอย่าง พริบตาเดียวมีครบทุกสิ่งทุกอย่าง พริบตาเดียวทุกสิ่งทุกอย่างก็สูญสิ้นไปหมด ฉะนั้นจิตใจนั้นก็จะมั่นคงขึ้นเยอะ มีงานก็ตั้งใจทำมัน พยายามหาความสุขกับขั้นตอนเวลาทำงาน ผลลัพท์จะเป็นอย่างไรก็จะไม่ให้ความสำคัญกับมันเท่าไหร่

MF. ให้ความสำคัญกับขั้นตอนของงาน แต่ไม่สนว่าผลลัพท์จะเป็นอย่างไรใช่ไหม?

SU. แน่นอนก็จะต้องแสวงหาผลลัพท์ที่ดี อย่างไรก็ตามตัวเองก็ยังเป็นคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง เพียงบอกได้ว่าหลังจากที่ผ่านร้องผ่านหนาวมามากมายแล้ว ผมค่อนข้างจะใส่ใจในขั้นตอนการทำงานมากกว่า คงจะไม่เหมือนกับอดีต ให้ความสำคัญเพียงผลลัพท์เท่านั้น
 
(http://i209.photobucket.com/albums/bb106/alec_004/4-horz-1.jpg)

MF. สองสามปีมานี้ ภาพพจน์ของคุณนั้นเปลี่ยนแปลงกลายเป็นผู้ใหญ่เยอะเลย ยังรู้สึกว่ามีใบหน้าเหี่ยวย่นไปหน่อย นี้มันเกี่ยวกับอายุหรือเปล่า?

SU. จริงๆแล้วการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้นั้นมันคงไม่เกี่ยวกับตั้งใจที่จะเปลี่ยนมัน น่าจะเป็นเพราะเรื่องอายุมากกว่า แต่ก็คงไม่ใช่อายุล้วนๆ ตอนนี้ในท่ามกลางงานต่างๆนั้น ก็จะมีอะไรให้เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนสามสิบปีนั้น ผมเองมักจะปฏิวัติความคิดของคนอื่นและของตัวเอง มักจะชอบไม่เหมือนคนอื่นหรืออะไรใหม่ๆ ไม่ชอบทำอะไรที่ซ้ำๆซากๆ อยากจะเปลี่ยนแปลง อยากจะลองของใหม่ๆ แม้ตอนนี้พฤติกรรมอย่างเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่จิตใจมันได้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมหมดแล้ว

MF. คุณก็เคยมีช่วงเวลาที่กระพือข่าวใช่ไหม?

SU. ใช่ เป็นช่วงอายุประมาณยี่สิบ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมล่มหลงในความมีหน้ามีตา ชอบที่จะกระพือข่าว ทุกวันจะขับรถแข่งของตัวเองไม่เรียน บึ้นขับผ่านหน้าเพื่อนๆไปอย่างไม่เห็นฝุ่น

MF. สำหรับซุปเปอร์สตาร์แล้ว การทำสิ่งเหล่านี้ก็ไม่นับว่าเป็นพฤติกรรมที่เวอร์

SU. ใจจริงในตอนนั้นสิ่งที่ตัวเองต้องการที่สุดคืออยากจะมีชีวิตที่ปกติเหมือนกับคนทั่วไป เห็นคนอื่นกอดคอกันเดินกันไปอย่างพร้อมๆกัน อิจฉาเป็นอย่างมาก ช่วงที่อยู่มหาลัยนั้นผมไม่เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมของทางมหาลัยเลย มีเพื่อนน้อยมาก เด็กอายุยี่สิบปี(20) อย่างผมนั้นสิ่งที่ต้องการที่สุดคืออยากมีชีวิตที่ปกติเหมือนกับคนอื่นๆ อยากไปร้านอาหารเสริฟอาหารอยากทำอะไรที่คนปกติทำกัน สำหรับทุกคนชีวิตที่ปกติเป็นสิ่งที่มันมีโดยธรรมชาติ แต่สำหรับผมนั้นมันมีคุณค่ามากๆ

MF. แต่ว่าคุณได้ตัดสินใจเลือกทำในเรื่องที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้.. ได้ปล่อยการเรียนที่ใกล้จะจบไป

SU. ใช่ นี่เป็นช่วงที่อายุยี่สิบเอ็ด(21)  ผมอยู่ปีสามแล้ว ได้ตัดสินใจปล่อยการเรียนไปแล้วมุ่งกับงานการแสดง การตัดสินใจครั้งนั้นจริงๆแล้วเป็นการตัดสินใจที่ลำบากมากๆ มันขัดแย้งมากๆ ยิ่งดังผมเองก็ยิ่งไม่มีสมาธิในการเรียน ผมไม่ได้เป็นนักเรียนแล้วทุกคนคงจะไม่รักผมอย่างเคย ความคิดสองความคิดนั้นมันกำลังต่อสู้ขัดแย้งในตัวผม แต่ผมเองก็ได้เรียนรู้ว่าชีวิตคนเราต้องเสียสละถึงจะได้ เรื่องในโลกไม่มีได้ทั้งสองอย่างอย่างครบถ้วน หลักการง่ายๆที่จะตัดสินใจก็คือ คิดให้ดีว่าสิ่งที่คุณต้องการนั้นจริงๆคืออะไร

MF. ในช่วงนั้นเป็นเพราะขาดความรอบคอบไปหรือเปล่า

SU. แม้ว่าตอนนั้นตัวเองได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานการแสดง แต่ความเป็นจริงแล้วการงานในตอนนั้นของผมนั้นก็นับว่าเป็นช่วงที่ตกต่ำของการงาน เพราะตอนนั้นเสี่ยวหู่ตุ้ยได้แยกวงกันไปได้พักหน่อยแล้ว ตัวเองก็ไม่ใช่ว่าได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง สามารถพูดได้ว่าตอนนั้นไม่มีละครอะไรที่จะให้เล่น และยิ่งกว่านั้นความตกต่ำนี้จะว่าไปแล้วก็สามปีทีเดียว จนถึงช่วงของ(องค์หญิงกำมะลอ) ถึงได้หลุดพ้นจากความตกต่ำของชีวิตการงาน

MF. แล้วในจิตใจของคุณมีความสมดุลย์ไหม?

SU. จะไม่สมดุลย์ได้ไง ตอนนั้นผมพึ่งออกจากการเรียน ตกอยู่ในสภาพการงานที่ต้องเริ่มด้วยศูนย์ หลายครั้งต้องเป็นอย่างนี้ คุณปรับสภาพจิตใจของคุณให้ดีแล้ว ก็จะไม่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม

MF. ชีวิตที่สูงๆต่ำๆอย่างนี้มันทำให้คุณรู้สึกว่าไม่มั่นคงหรือเปล่า?

SU. ผมรู้สึกว่าไม่มีปัญหา ชีวิตคนปกติแล้วก็ต้องมีขึ้นๆลงๆ ตอนขาขึ้นก็มีวิถีชีวิตของขาขึ้น ตอนขาลงก็มีวิถีชีวิตของขาลง จริงๆแล้วชีวิตคนเราใช่ว่าจะมีแต่เรื่องงาน หากว่าช่วงเวลาการงานของคุณไม่ราบรื่น ก็ให้รีบมุ่งเรื่องความรัก หรือว่าทำงานอย่างอื่นก็ได้ หรือว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัว หรือว่าถ้าเป็นผมก็จะไปท่องเที่ยว มันสามารถทำได้หลายอย่าง หากว่านาทีทองของงานมาแล้ว คุณก็ตั้งใจทำงานโดยดี และอย่างอื่นก็เอาได้ก่อน


(http://i209.photobucket.com/albums/bb106/alec_004/7-horz-2.jpg)
MF. ได้ข่าวว่าคุณชอบเล่นบาส ทั้งยังเล่นได้ไม่เลวด้วย?

SU. ฝีมือเล่นบาสของผมนั้นไม่เลวจริงๆ ฮ่าๆ ล้อเล่น น่าจะพูดว่าผมรักในการเล่นบาสมากกว่า อีกอย่างคือเบสบอล อีกหลายๆอย่าง ผมชอบในการออกกำลังกาย ยังเคยคิดเล่นๆไปเล่นกล้ามเป็นนักกล้าม ฮ่าๆๆ สุดท้ายก็ล้มเหลวไป

MF. ทำไมถึงชอบเล่นบาส หรือว่าช่วงไปเรียนเล่นบ่อยๆ?

SU. ตอนเรียนก็เล่น อีกอย่างที่ผมชอบบาสก็เพราะผมชอบรูปภาพซุปเปอร์สตาร์ดารานักบาส เพราะเวลาในการถ่ายทำนั้นยุ่งมาก ผมก็ได้แต่ไปหาซื้อวีดีโอที่เขาอัดตอนแข่งไปดู ในกองถ่ายนั้น ผมก็จะเอาเครื่องวีซีดีเล็กๆของผมออกมาเปิดดู มันสุดยอดจริงๆ จำได้ว่าสองปีก่อน ผมรักในกีฬานี้มากจนไปหาซื้อชุดกีฬาบาสมาใส่สองสามชุด ทีมที่ผมชอบที่สุดคือ...(แปลไม่ได้ 55+) ชอบทีมเวิกค์และเทคนิกของพวกเขา โดยเฉพาะท่าทางที่ทื่อๆเซ่อร์ๆ แม้ว่าฝีมือผมนั้นจะไม่ดีนักซักเท่าไหร แต่ได้ดูขณะที่พวกเขาแข่งกันในสนามอย่างดุเดือดนั้นมันสุดยอดมาก

MF. ก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าคุณไปสอนการเล่นบาสให้กับนักเรียนโรงเรียนซีว่าง

SU. ฮ่าๆ ใช่ครับ นั่นน่าจะปีที่แล้ว (2008) ปีที่แล้วผมได้ไปสอนวิชาพละให้กับนักเรียนโรงเรียนซีว่างหนึ่งคาบเรียน จะบอกว่าคาบสอนบาสก็คงไม่เชิง ก็คือได้นำพวกเขาเล่นช่วงเวลาหนึ่ง สำคัญคือกิจกรรมการกุศลอย่างนี้นั้นจำเป็นต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจะไปยืนสอนอยู่ในร่มอะไรอย่างนั้น

MF. สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นการโปรโหมดที่ดีหรือเปล่า

SU. แน่นอนคงไม่ใช่ การทำงานด้านการกุศลของผมนั้นล้วนทำด้วยใจ ขณะที่เห็นเด็กๆที่คุณอุปการะยิ้มแย้มนั้นคุณก็จะรู้สึกถึงความอิ่มอกอิ่มใจที่ไม่เคยมีมาก่อน มันสำคัญกว่าชื่อเสียงเงินทองด้วยซ้ำ ปีนั้นโรงเรียนได้สร้างเสร็จและมีพิธีเปิดภายใต้ในนามของผมนั้น มีตาแก่ท่านหนึ่งได้หอบหิ้วไข่ไก่หนึ่งตระกร้ามามอบให้กับผมเพื่อเป็นการขอบคุณผม ตอนนั้นผมซาบซึ้งใจมากๆ เราดูเหมือนว่าเป็นการช่วงเหลือที่ไม่มากนัก แต่สำหรับที่ที่ต้องการช่วยเหลืออย่างนั้นมันเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับพวกเขา การกระทำของเราที่น้อยนิดเหล่านั้นมันเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กๆทั้งชีวิตของพวกเขา ตั้งแต่นั้นมา ผมเองยิ่งรู้สึกมีใจในด้านนี้เป็นอย่างมาก ปรารถนาที่จะใช้กำลังของตัวเองทำอะไรๆเพื่อพวกเขาเยอะหน่อย บางครั้งผมเองก็สับสนมาก ตั้งใจอยากจะทำอะไรให้กับเด็กๆเหล่านั้นอย่างจริงใจหน่อย แต่ก็กลัวสื่อจะว่าผมทำเพื่อจะเอาหน้าเอาตา

MF. อย่างน้อยพวกเราก็รู้ว่าคุณไม่ได้ทำเพื่อเอาหน้าเอาตา และได้ผ่านสิ่งเหล่านี้แล้ว รู้สึกว่าคุณก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นไม่น้อยเลย

SU. ใช่ ผมรู้สึกว่าการเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนั้นเป็นการขุดสร้างภายใน นอกจากจะเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นการตัดสินต่อสถาพที่คนอื่นดูตัวเราด้วย ในโลกใบนี้ที่คุณอยู่นั้น สามารถใช้สายตาและความอารีย์มามองเรื่องราวในโลก เมื่อก่อนผมเล่นภาพยนตร์ เล่นละครทีวี ตอนหลังผมก็ไปเล่นละครเวที แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่สร้างหลอกผู้ชมไปบ้าง แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่ง สำหรับผมแล้ว ในช่วงอายุนี้ของผมนั้น ผมคงจะไม่ทำงานเพื่อปากท้องเพื่อเงินทองอีกต่อไป

หัวข้อ: Re: 2009 Men's Fitness
เริ่มหัวข้อโดย: Alec Love Me ที่ ธันวาคม 21, 2016, 01:00:11 PM
(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-111-1.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-111-1.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-222.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-222.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-333.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-333.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-444.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-444.jpg.html)
หัวข้อ: Re: 2009 Men's Fitness
เริ่มหัวข้อโดย: Alec Love Me ที่ ธันวาคม 21, 2016, 01:00:50 PM
(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-555.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-555.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-666.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-666.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-777.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-777.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-888.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-888.jpg.html)
หัวข้อ: Re: 2009 Men's Fitness
เริ่มหัวข้อโดย: Alec Love Me ที่ ธันวาคม 21, 2016, 01:01:19 PM
(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-999.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-999.jpg.html)

(http://i258.photobucket.com/albums/hh254/alecbettyy/-10000.jpg) (http://s258.photobucket.com/user/alecbettyy/media/-10000.jpg.html)
หัวข้อ: Re: 2009 Men's Fitness
เริ่มหัวข้อโดย: Alec Love Me ที่ ธันวาคม 21, 2016, 01:08:50 PM
[FACEBOOK FANPAGE]
https://www.facebook.com/AlecfanclubinThailand/posts/1260561840648973