ALL About Alec SU YOU PENG | รวบรวมผลงานของ ซูโหย่วเผิง > Stage Play

การทัศนาจรที่โรแมนติคของคนคนหนึ่ง

(1/2) > >>

Chomnath:
การทัศนาจรที่โรแมนติคของคนคนหนึ่ง

บทความ บทบรรยาย ถึงเหตุการณ์ที่ประทับใจ จากการดู "หอมดอกเบญจมาศ"

การทัศนาจรที่โรแมนติคของคนคนหนึ่ง

(1) ระยะห่างของสองจุด

เปิด เครื่องเทป แล้วปรับเสียงให้ดังที่สุด ให้เพลง Helen Reddy ได้ลอยล่องไปมาอีกครั้งหนึ่ง ฉันเหมือนกับว่าได้อยู่ที่ เหม่ยฉี อีกครั้งหนึ่ง เงียบสงบท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกเบญจมาศนั้น นี่เป็นการทัศนาจรที่โรแมนติคหอมอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้กับความฝันอยู่ด้วยกัน มันกลมกลืนกันอย่างสวยงามมาก

มีครั้งแรกมากมาย ขณะที่ได้ก้าวลงจากรถยนต์ในวินาทีแรก ในใจมีความรู้สึกที่แปลก ครั้งแรกที่มาเซี่ยงไฮ้ ครั้งแรกที่ดูละครพูด ครั้งแรกได้อยู่ร่วมกันในเมืองเดียวกันกับโหย่วเผิง ครั้งแรกที่ได้เห็นซูโหย่วเผิงกับตาตัวเอง.....

จากการที่นั่งรถยนต์ ถึงที่หมายเร็วกว่ารถไฟ ฉะนั้นครั้งนี้ก็ได้เลือกที่จะเดินทางกับรถยนต์ ในขณะที่รถยนต์ได้วิ่งสู่ซุปเปอร์ไฮเวย์นั้น ในใจนั้นก็รู้สึกว่ารถยังไม่เคยเลี้ยวซ้ายขวาเลย ครั้งนี้มีความรู้สึกว่า ที่จริงฉันกับซูโหย่วเผิงเป็นจุดสองจุดของเส้นที่มีความห่างกันเท่านั้นเอง ได้มองออกไปเห็นราวกั้นที่ได้ผ่านตาตัวเองไป ฉันรู้ว่า ระยะความห่างนั้นยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้าทุกที

ขอบคุณ (หอมกลิ่นเบญจมาศ) ให้ฉันได้มุ่งไปสู่ทิศทางของใจตัวเอง...

Chomnath:
(2) ที่นั่งรถไฟฟ้าที่แย่งไม่ทัน

จาก ที่ลานกว้างเป๋ยโดยสารรถไฟฟ้าไปที่ลานกว้างเหยินหมินเป็นระยะทางสั้นๆ ทำให้ฉันได้เห็นถึงการประสิทธิผลที่สูงกับความเร็วที่สูงของคนเซี่ยงไฮ้ ไม่ว่าจะเคยนั่งหรือไม่เคยนั่งรถไฟฟ้าของเซี่ยงไฮ้ คุณจะหาซื้อตั๋วได้อย่างรวดเร็วจากป้าย หลังจากนั้นก็ไปยืนรอรถตามที่กำหนดไว้ให้อย่างถูกต้อง แต่ว่า ภาพที่จำฝั่งใจนั้นไม่ใช่ตรงนี้ แต่เป็นความเร็วของการแย่งที่นั่งของคนเซี่ยงไฮ้ ฉันที่ถูกเบียดขึ้นไปบนรถ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ที่นั่งทุกที่ล้วนถูกนั่งเต็มหมดแล้ว ฉะนั้นมีคนเคยกล่าวว่า ผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ยืนอยู่นั้นล้วนเป็นคนต่างชาติตลอด ลงจากรถไฟฟ้า นั่นเป็นภาพที่ไม่เหมือนกับลานกว้างเป๋ยเลย ฉันได้เดินอยู่บนเส้นทางอันสวยงามของทิเบต เริ่มรู้จักคุ้นเคยกับกับเมืองเหล่านี้

Chomnath:
(3) เหม่ยฉี อยู่แค่ข้างหน้า

เมื่อ เจอร้านอาหารหลังวางสัมภาระแล้ว ฉันไม่อดที่จะคิดอยากจะไปเที่ยวชม เหม่ยฉีก่อน ก่อนหน้านี้ในเว็ปได้เห็นแผนที่เดินที่เว๊ปราชการ ฉันได้ท่องมันอย่างกับท่องหนังสือ นั่งอยู่ที่รถประจำทาง ได้เห็นชื่อป้ายแต่ละป้ายที่คุ้นตา “กว่างเตี้ยนต้าเสีย” “ถนนสือเหมินอี” ในใจนั้นยิ่งตื่นเต้นขึ้น จวนจะถึงแล้ว จวนแล้ว ลงจากป้าย “ถนนสือเหมินอี”เดินไปไม่ไกลก็สามารถเห็นปากทางของ “ถนนหงหนิง” อย่างไรก็ตามฉันเองก็รอบคอบหน่อยได้สอบถามคนเดินผ่านไปมาแถวนั้น เขาได้ตอบฉันอย่างหน้ารับแขกว่าถึงที่ทางสามแยกตัวทีแล้วเลี้ยวไปทางเหนือก็ ถึงแล้ว ฉันได้วิ่งไปตลอดทาง หลังจากที่ได้เลี้ยวก็เห็นแล้ว “ลานละครเหม่ยฉี”ตัวหนังสือใหญ่ห้าตัว กับภาพโปสเตอร์ของโหย่วเผิง (หอมดอกเบญจมาศ)

ภายนอกของ เหม่ยฉี นั้นดูเหมือนจะมีรูปทรงการสร้างที่มีอายุ นี่กับ “หอการค้านานาชาติจิงอิง”นั้นรูปทรงที่เปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัด สองตึกเวลาของการสร้างกับรูปทรงสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน และจากจุดนี้ให้เห็นถึงความคลาสสิคและความทันสมัยของเซี่ยงไฮ้ หน้าประตูโรงละครมี วัวยื่นอยู่หลายสิบตัว ทำให้เดิมทีก็มีความคับแคบของถนน “เจียงหนิง” กับ “ฟ้งเสียน” นั้นต้นทางยิ่งทำให้แคบไปอีก เพียงแค่เดินเข้าไปที่ เหม่ยฉี ก็จะมีคนเดินมาถามคุณอย่างไม่ขาดสายว่าต้องการตั๋วไหม หรือว่ามีตั๋วเหลือที่ให้ฉันซื้อไหม

ฉันได้จับที่กระจกของโรงละครมอง เข้าไปข้างใน เต็มไปด้วยตระกร้าดอกไม้ ในบันไดที่ไม่สามารถวางตระกร้าดอกไม้ได้นั้นก็ล้วนมีดอกไม้สดที่จัดเป็น ่ช่อๆ ยังมีคนได้หิ้วผลไม้ทั้งตระกร้าส่งเข้าไปข้างใน ตระกร้าดอกไม้ที่ประตูนั้นได้ยินเสียงที่เอ่ยชื่อหนึ่งที่คุ้นหูมาก “พี่ซ่ง” แต่ที่จำหน่ายโปสเตอร์กับรูปภาพวาดนั้นอยู้ด้านซ้ายของประตูทางเข้า แม้ว่าจะไม่ได้เห็นภาพที่วุ่นวาน แต่ว่ารายการทุกอย่างนั้นดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด ฉันคิดว่าภาพอย่างนี้นั้นเป็นภาพที่ไม่มีใน เหม่ยฉีมาหลายปีแล้วมั้ง ยังเหลืออีกสองวัน สองวันจริงๆ ฉันก็จะได้เข้าไปที่ เหม่อยฉี จริงๆแล้ว

Chomnath:
(4) จุดพลิกผันที่อี้เหยียน

มา อี้เหยียนนั้นเป็นความความคิดครั้งแรกที่ฉันไปถนนฟูอิ้ว เพราะหลายปีก่อนนี้คุณพ่อได้ถ่ายรูปขาวดำหล่อๆที่นี่ กระนั้น หลังจากลงรถแล้วสิ่งที่ฉันเห็นกลับเป็น “ตลาดหนึ่งของสุ่ยจิง” นี่ทำให้ฉันสงสัยว่าเราขึ้นรถผิดเปล่า ไหนๆก็มาแล้ว ก็เที่ยวดู หยกที่สวยงามเตะตาของสุ่ยจิงนั้นทำเอาใจตื่นเต้น จากแหวนจนถึงต่างหู และยังมีเครื่องประดับนาๆชนิดนั้น สวยงดงามน่ารักเหลือเกิน 15หยวนก็สามารถซื้อแหวนที่สวยงามได้วงหนึ่งแล้ว มันมีความสุขขนาดไหนล่ะ?

จำ ไม่ได้แล้วว่าทิศทางเป้าหมายอยู่ไหน ก็เดินไปอย่างนี้เรื่อยๆ แต่แล้วก็มาถึงวัดเฉิงนี่ นี่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจ รูปแบบการสร้างที่โบราณมากมาย มีของเล่นที่แปลกๆมากมาย แน่นอนยังมีอาหารที่มีชื่อของเซี่ยงไฮ้อีกมากมายด้วย ซาลาเปาต่างๆ โกโก้ ฉันอยากกินมานานแล้ว ข้ามสะพานจิ๋วฉีไปแล้ว อี้เหยียนก็อยู่ตรงหน้า เหมือนกับหลงทางแล้วกลับเจอทางออกอะไรอย่างนั้น จะถึงกระทั่งเวลาซื้อตั๋วฉันพึ่งได้รับข่าวจากไกด์ที่อยู่ข้างๆฉัน ที่จริงแล้วคนเซี่ยงไฮ้เรียกวัดเฉิงนี่กับอี้เหยียนนั้นเป็นความหมายเดียว กัน

ตั๋วในราคา30หยวน ก็สามารถเข้าไปสวนที่มีชื่อของเซี่ยงไฮ้ ได้สัมผัสถึงกลิ่นความเป็นประวัติศาสตร์แห่ง400ปี นี่เป็นสวนดอกไม้ส่วนบุคคลในสมัยราชวงค์หมิง ในสวนมีอาคารสามหลัง ภูเขาเทียม สิงโตเหล็ก ตึกเต๋อแย่ อี้จิงหลง จีอี้สุ่ยหลัน ทิงห้าวเก๋อเป็นต้น ที่มีโบราณสถานถึง40 ที่ นี่เป็นความยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองเจียงหนัน แค่เพียงการท่องเที่ยวแบบเรื่อยเปื่อยอย่างนี้ สถานที่ที่ได้ไปเที่ยวชมจริงๆนั้นจะมีสักกี่แห่งล่ะ? แต่ในอี้เหยียนนั้น มีตัวหนังสือ “จุดผลิกผลัน”ประโยคนี้จริงๆด้วย

Chomnath:
(5)  สิบลี้ (10 กม.) ถนนหนันจิงอีกแห่งหนึ่งแห่งโลกใหม่

จาก โรงแรมถึงถนนคนเดินหนันจิงก็แค่เพียง10กว่านาทีขอระยะทาง ผ่านถนนจิ่วเจียง สิ่งแรกที่แว๊บเข้ามาในสายตาฉันคือขวด “โคคาโคร่า”ที่ใหญ่มหึมาขวดหนึ่ง โฆษณาชิ้นนี้ทำได้เป็นที่ดึงดูดใจคนมาก ความรุ่งเรื่องพัฒนาของถนนหนังจิงนั้นไม่จำเป็นต้องบรรยายมากมาย ถนนสายแรกแห่งย่านธุรกิจของจีนนี้นั้น คุณมักจะได้เจอกับความคึกคักที่ไม่มีที่สิ้นสุด สิ้นค้าที่ซื้อไม่รู้จักหมด

เซี่ยงไฮ้ นั้นมีการบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดกับการบริการที่ห่วยที่สุด และสิ่งเหล่านี้ล้วนเห็นได้ที่ถนนหนันจิง การที่คนเซี่ยงไฮ้ตาสูงนั้นเป็นที่ประจักทั่วกัน หากคุณโชคไม่ดีไปเจอพนักงานที่บริการได้ห่วยสุดๆนั้น และหากถามมากไปหน่อย ก็จะถูกจ้องมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม และจะพูดกับคุณอย่างรำคาญว่า “ก็มีเขียนไว้หมดแล้ว ดูเอาเองซิ” แต่ว่าการพนักงานบริการส่วนนั้นก็มีมาตรฐานเหมือนกัน พวกเขาจะบอกอธิบายสินค้าต่างๆในรายการให้คุณอย่างใจเย็นๆ ขณะที่คุณซื้อสินค้าจนครบแล้ว ก็ยังมีการถามอย่างสุภาพกับคุณว่า “ยังมีอะไรที่จะให้บริการอีกไหม?”

ที่จริงแล้ว ถนนหนันจิงตงกับถนนคนเดินหนังจิงให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป สิ่งนี้นั้นฉันได้เดินมากับเท้าก็เพิ่งรู้สึกนะ ในถนนคนเดินกับถนนที่ออกไปอีกนิดที่เป็นระยะของถนนหนังจิง สินค้าที่ขายในที่นี้ยังถูกกว่าที่ถนนคนเดินนั้นมากเลย ป้ายโฆษณาข้างถนนของ “มั้นสิ้วเหล่ยเก๋อ” ของ “ซินปี้ซี่ลี่”นั้น มันดึงดูดสายตามากๆ
หาก เห็นโรงแรมเหอผิงแล้ว ก็ไม่ห่างจากถนนรอบนอกของหนังจิงมากเท่าไหร่แล้ว ผ่านถนนอุโมงค์ ทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลของถนนรอบนอกหนันจิงนั้นเห็นอย่างเลือนลาง ที่นั่นเป็นที่ที่โรแมนติคที่สุดของเมืองเซี่ยงไฮ้เลย และเป็นที่ที่คนหลงใหลลืมไม่ลงอีกด้วย

จากริมแม่น้ำตะวันตกมองไปริมแม่น้ำตะวันออก ทางด้านโน้นเป็นที่สวยทางตะวันออก ทางนั้นเป็นตึกจิงเม้า ทางนั้นเป็นศูนย์รัฐสภา....

ข้างๆ ฝั่งนั้นมีกล้องส่องทางไกลที่หยอดเหรียญตั้งอยู่ แค่หยอดเหรียญ1เหรียญก็จะสามารถดูทิวทัศน์ทางฝั่งโน้นอย่างแจ่มชัด หากว่าจะนั่งเรือไปท่องซักรอบ ถ้างั้นคุณก็จะต้องเลือกแล้วล่ะ หากจะให้ถูกหน่อยคุณก็ต้องนั่งรอบกลางวัน 45 หยวน เมื่อตกกลางคืน ที่ขายตั๋วนั้นจะเปลี่ยนป้ายราคาเป็น68หยวน แต่ว่ายามราตรีนั้นนั่งเรือท่องเที่ยว ได้ล่องลอยไปตามสายน้ำชมบรรยากาศโคมไฟที่กำลังจะหมดไปทั่งสองริมฝั่ง บรรยากาศอย่างนี้นั่งตอนกลางวันจะเปรียบไม่ได้เลย

ทันใดก็ได้นึกถึง คำหนึ่งที่ตู้เฟยได้พูดในละคร “น้ำที่แม่น้ำหวงพูนั้นเหม็นจริงๆ” ฮ่าๆ ไม่เคยโดดลงไป จะรู้ได้ไงว่ามันเหม็นหรือหอม แต่ว่านั่งอยู่ม้านั่งข้างๆริมแม่น้ำ รู้สึกถึงเสียงน้ำที่ซัดไปมา ลมพัดมาละรอกและละรอกเล่า ทำให้ร่างกายผ่อนคลายไปทั้งเนื้อทั้งตัว ได้นั่งอยู่อย่างนี้แทบจะไม่อยากจากไปไหนเลยสิ่งที่น่าเสียดายก็คือไม่ได้ไปดูสะพานไว้ป๋ายตู้ที่อยู่ทางทิศเหนือ นี่นั่นน่าจะเป็นสถานที่ถ่ายละครเรื่อง (ฉิงเซินเซิน)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version