Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > Articles&Interviews[Xiao Hu Dui]

2010 Yongyuan De Xiao Hu Dui(The Little Tigers's Forever)

<< < (2/5) > >>

Chomnath:
: ผมมุ่งวิธีสอนสั่งต่อ เสี่ยวหู่ตุ้ย คือ กฎ ข้อระเบียบ กฎเหล็ก และสอนสั่ง

: อารมณ์รักของเสือน้อย 3 คนในสากลโลก

       
        ผมมีความรู้สึกว่าการอยู่ในอารมณ์รักๆ ใคร่ๆ ต่อบุคคลธรรมดา  นี่เป็นเรื่องธรรมดาของคนทั่วไป   นั่นคือเรื่องของมนุษย์   ล้วนมีความรักใคร่ที่ต้องการ

      เวลานักแสดงเมื่อไม่มีงานแสดงและร้องเพลงก็คือ บุคคลธรรมดา   มีสิทธิคุยเรื่องรักๆใคร่ๆได้   ดังนั้นผมต่างกับผจก.ส่วนตัวคนอื่นๆ    ผมไม่ห้ามพวกเขาคุยเรื่องรักๆใคร่ๆ   เพราะว่าผมรู้สึกว่า  หากขอร้องนักแสดงไม่ให้คุยเรื่องรักๆใคร่ๆ   ถือเป็นคนเห็นแก่ตัวและไม่ยุติธรรม   นี่คือการแย่งชิงสิทธิเสรีของพวกเขา   โดยเฉพาะเรื่องคนหนุ่มสาว   ถ้าหากเอาอารมณ์รักเหล่านั้นนำออกมาจากชีวิตแล้ว   พวกเขาได้กลายเป็นความว่างเปล่า   

        อีกกรณีหนึ่งนักแสดงยิ่งต้องการคุยเรื่องรักใคร่   ไม่ว่าคุณเป็นนักร้องหรือนักแสดง   ต้องผ่านประสบการณ์อารมณ์รักใคร่  ทั้งทุกข์กระหน่ำและความสุข   กลัวอย่างเดียวอารมณ์รักใคร่สิ้นสุดลงถึงขั้นแตกสลาย   ทำให้คุณผิดหวัง  เจ็บปวด   นี่คือชีวิตของคุณจำต้องผ่านประสบการณ์    เพียงแต่คุณต้องมีประสบการณ์สิ่งนี้   ขณะที่คุณแสดงหนังอยู่นั้น   ถึงจะสามารถนำเอาสัจจะความจริงและอารมณ์จริงของในหนังแสดงตัวตนออกมา
   
        ดังนั้นผมขอกล่าวว่าการคุยเรื่องรักใคร่ต่อนักแสดงสำคัญมาก   เดี๋ยวนี้มีบางบริษัทแผ่นเสียงได้แย่งชิงสิทธิการคุยรักใคร่ของนักแสดงในวัยหนุ่มสาว    นี่ก็ทำให้พวกเขาไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้   เวลาร้องเพลงก็ไม่สามารถอาศัยตัวเองที่ได้ผ่านการทดสอบมาแล้วร้องได้ดี   หรือไม่สามารถร้องเพลงใส่อารมณ์เข้าไปในเนื้อร้อง    ผมต้องระมัดระวังบอกกล่าวกับผจก.นักแสดงทั้งหลายว่า   การคุยเรื่องความรักใคร่ จริงๆแล้ว คือ นักแสดงต้องทำการบ้านและฝึกฝน   ยิ่งสำคัญกว่าเขาไปเรียนร้องเพลงและการแสดง

        ตั้งแต่ตั้ง วงเสี่ยวหู่ตุ้ย 3 คนในปี 1988   เวลาช่างรวดเร็วเหลือเกินผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว   การทุ่มเทธุรกิจและการงานได้ยึดเวลาส่วนใหญ่ระดับหนึ่งของพวกเขา   ก็เพื่อสนับสนุนพวกเขาคุยเรื่องรักใคร่   พวกเขาสามารถเรียนรู้อารมณ์รักใคร่ก็ไม่มาก   อู๋ฉีหลงคือ หนึ่งในวงการนักแสดง  ซึ่งเคยผ่านการคุยรักๆใคร่ๆ คนหนึ่ง   เขามีภาพลักษณ์หน้าตารูปร่างภายนอกงามสง่าเหมือนเจ้าชาย   มีเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้าม   ขณะเข้าวงการ เขากับคุณอิวอิวเคยผ่านการคบหากันเป็นคนรักกัน   ขณะเข้ามหาวิทยาลัยก็เคยมีคนรัก  ล้วนเป็นนักเรียนของโรงเรียน   ประมาณปี 2000    เขากับดาราฮ่องกง ไฉ้เส้าเฟิง เคยคบหากันเป็นคนรักกัน   ในที่สุดเขาก็แต่งงานกับ หม่าย่าซู ซึ่งเป็นคนในวงการบันเทิง   ถึงแม้ว่าพวกเขาต่างแยกทางกัน   แต่ว่า อู๋ฉีหลง ทำธุรกิจได้ประสบความสำเร็จ   ก็นับว่าเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่คนหนึ่ง   ชีวิตคนเรามีไม่กี่ 10 ปี   เขาได้ย่างสู่วัย 40 ปีแล้ว   ผมยังคงสนับสนุนเขาในเรื่องความรักต่อไป   อย่างนี้จึงจะมีเพื่อนคู่กายได้   กลับบ้านสามารถมีคู่ปรับทุกข์ในใจได้

   ปัจจุบันนี้ เฉินจื้อเผิง อายุ 37 ปีแล้ว   จากวัยรุ่นถึงเดี๋ยวนี้เคยผ่านการจีบคุยความรักกี่ครั้ง   เขาเป็นคนไม่ชอบถูกการผูกมัด   เด็กสาวทั่วไปไม่มีปัญญาผูกมัดใจเขา   เหนือแห่งความรักใคร่ยังไม่สามารถอบรมถึงเป้าได้   จนถึงเดี๋ยวนี้ยังหาคนรักอยู่
 
      ซูโหย่วเผิง จารึกอยู่ในความทรงจำของการจีบคุยรักใคร่หนึ่งครั้งคือ  แรงกดดันการเรียนและการทำงานของเขาขณะนั้นหนักมากที่สุด   เขาอยู่ ม. 6  ในปีนั้น   ซูโหย่วเผิง ได้ชอบเด็กสาวแซ่โจวคนหนึ่ง  ที่เขาทั้ง 2 เรียนกวดวิชา   พวกเขาเคยคบหากัน   แต่เนื่องจาก ซูโหย่วเผิง สอบเอ็นทร้านเข้ามหาวิทยาลัยแล้วยังต้องทำงานต่อ  ซึ่งอยู่ในวงเสี่ยวหู่ตุ้ยเพื่อดำรงธุรกิจของเขาต่อไป   รวมทั้งปีนั้นการแจ้งข่าว และงานต่างๆ ของ วงเสี่ยวหู่ตุ้ยมากเป็นพิเศษ   งาน ซูโหย่วเผิง ยุ่งมาก   สื่อมวลชนกล่าวว่า  พวกเขาห่างเหินมากกว่าการใกล้ชิดกัน   ด้วยเหตุนี้เขาทั้ง 2 ค่อยๆ ลดความใกล้ชิดกันน้อยลงไปทุกที   สุดท้าย น.ส.โจว ได้เลือกเพื่อนร่วมชั้นเป็นคู่รักกัน   เขาก็คือ เพื่อนที่ดีคนหนึ่งของ ซูโหย่วเผิง เรื่องนี้จึงทำให้ ซูโหย่วเผิง เสียใจมาก   จนถึงบัดนี้ ซูโหย่วเผิง ยังหาคู่ใจไม่ได้   ผมรู้สึกว่านี่คือ บุพเพสันนิวาส

      เป็นนักแสดง   จริงๆแล้วเพราะตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะ   เป็นไปได้ไหม  จึงทำให้คนนอกวงการรู้สึกว่าความรักของพวกเขาซับซ้อนมาก   สับสนมาก   แท้จริงแล้วนักแสดงและคนธรรมดาก็เหมือนกัน   ต่างต้องการมีความรักที่มั่นคงส่วนหนึ่ง   แล้วหวังว่าให้ฝ่ายตรงข้ามได้เข้าใจและให้อภัย   ด้านความรัก   ซูโหย่วเผิงและเฉินจื้อเผิง ใจไม่กล้าเหมือน อู๋ฉีหลง    เพียงแต่ผมยังจริงใจอวยพรพวกเขา   หวังว่า เฉินจื้อเผิงและซูโหย่วเผิง ในเรื่องความรักให้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น   ให้หาคู่ใจของตัวเองรวดเร็วขึ้น   แท้จริงอายุก็ไม่น้อยแล้ว   ต้องกล้าไปขอความรัก   บนถนนเส้นทางแห่งความรักทั้งเห็นใจและค้ำจุนซึ่งกันและกัน   เพื่อตัวเองยิ่งต้องรับผิดชอบต่อคู่รัก


หนังสือ Yongyuan De Xiao Hu Dui(The Little Tigers's Forever)  แปลจบบริบูรณ์แล้วคะ

Chomnath:
ข้อความนี้เป็นอีกเรื่องราวของ เสี่ยวหู่ตุ้ย  ในปี 2010
14 - 03 - 2010 : หลังจากคืนราตรีของฤดูใบไม้ผลิ   วงเสี่ยวหู่ตุ้ย ค่าตัวแสดงของแต่ละคนล้วนพุ่งสูงขึ้น การโฆษณาต้องจ่อคิว

        ผู้แทนโฆษณารู้สึกว่า อู๋ฉีหลง มีรูปร่างลักษณะดี   มีข่าวอื้อฉาวแยกทางกัน   แต่ว่ารูปร่างลักษณะยังรักษาดีอยู่   เพียงแต่พึงพอใจและเหมาะแก่ด้านการโฆษณา   ถ่ายหนัง   สัญญาคิวหนังก็มาก   การถูกเลือกมากขึ้น

        21 ปีให้หลัง วงเสี่ยวหู่ตุ้ย ได้มารวมตัวอีกครั้ง   ซึ่งเคยยืนหยัดอยู่บนกลางเวที “เสือสายฟ้าแลบ” อู๋ฉีหลง ยังเหมือนเดิมยืนอยู่บนกลางเวที ณ. จุดนั้น   เวลาเหมือนไม่ได้ทิ้งร่องรอยเหลืออยู่บนร่างกายของตัวเขา   ยังเหมือนเดิมมีใบหน้าสดใส   ยังเหมือนเดิมมีร่างกายผอมเปรียวแข็งแรง   ยังเหมือนเดิมมีลีลาการเต้นรำคล่องแคล่วว่องไว   ระยะใกล้นี้ อู๋ฉีหลง ถูกนักข่าวหนังสือพิมพ์สัมภาษณ์ยาวเหยีอด   พูดเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองและพี่น้อง 2 คน   กล่าวบอก  วงเสี่ยวหู่ตุ้ย ว่า การพัฒนาหลังเทศกาลตรุษจีน(ราตรีฤดูใบไม้ผลิ) และเหตุการณ์ก่อนมารวมตัวกันอีก


:  ค่าตอบแทนหนังและผู้แทนโฆษณาได้ขึ้นมาหนึ่งเท่าตัว

        มากล่าวถึงเกี่ยวกับ อู๋ฉีหลง ตัวเขาเอง   เทศกาลตรุษจีน(ราตรีฤดูใบไม้ผลิ)เนื่องการพัฒนาธุรกิจกระทบใหญ่มาก   พนักงานฝ่ายโฆษณาบอกกับนักข่าวว่า   ค่าใช้จ่ายผู้แทนโฆษณาฝ่าย อู๋ฉีหลง และค่าตอบแทนถ่ายหนังอย่างน้อยได้ขึ้นหนึ่งเท่าตัว   หลังราตรีฤดูใบไม้ผลิผู้แทนด้านโฆษณาส่วนมากได้ติดต่อกับ อู๋ฉีหลง ทันที   หนึ่งในนั้นผู้แทนโฆษณาอิสระขอติดต่อเจรจาด้วย   ผู้แทนโฆษณาส่วนมากรู้สึกว่าลักษณะรูปร่างและสรีระของ อู๋ฉีหลง ดี   

        ข่าวอื้อฉาวการแยกทางกับภรรยายังคงรักษารูปร่างลักษณะสง่างามดีมาก   เหมาะสมทำโฆษณ์ด้านเสื้อผ้า   แล้วด้านการถ่ายหนัง   การสัญญาถ่ายหนังก็มากขึ้น   ถูกเลือกถ่ายหนังมากขึ้น

        อู๋ฉีหลง ได้แสดงว่า  เดิมตัวเองเป็นนักกีฬา   คาราเต้และยูโดล้วนฝึกถึงขั้นสูง   ดังนั้นตัวเองด้านการแสดงหนัง บทบาทบู้ชอบมากๆ   ขณะเวลาถ่ายหนังการแสดงบทบาทบู้   มีบ้างการแสดงหนังบทบาทบู้ยากที่แสดงออก   เพียงแต่ว่าคุณสามารถสยบบทบาทบู้ให้อยู่ แสดงมันได้   จริงๆแล้วนี่คืองานของตัวเองเพื่อค้นหาด้านแสดงโดยใช้อารมณ์หนัง  เล่นจนบรรลุผลสำเร็จ   เพราะคุณสามารถรู้ได้อย่างชัดเจน   โอหนอ   นี่คือบุคคลอื่นที่ทำไม่ได้   แต่ผมสามารถทำได้    ผมเองก็รู้สึกว่าได้รับจากผู้ชมปลอบขวัญให้กำลังใจมาก

 

: หวังว่าการพัฒนาทิศทางของดาราที่มีผลงานได้เดินหน้าต่อไป
 
        เคยถ่ายหนังละครมามากมาย   อู๋ฉีหลง รู้สึกว่าการแสดงบทบู้มีความท้าทายมากกว่าเล่นหนังละครบทภาษา   คุณต้องจดจำการเล่นแสดงบทบาทอันมากมาย   คุณต้องเก่ง   ส่วนด้านหนึ่งต้องอดกลั้นความเจ็บปวดและระวังอันตรายอย่างนั้น   อีกด้านหนึ่งต้องเล่นหนังจนจบ   บทบาทนี้ยากจะผ่านไปได้   ผมก็ไม่เห็นด้วยบทบาทดีกว่าแสดงบทความ   ผมก็เคารพดาราบู้เป็นพิเศษ    นักแสดงอยู่บนเวที   ผมรู้สึกว่ามันไม่ง่ายจริงๆ   

        ถึงเดี๋ยวนี้บนพื้นฐาน อู๋ฉีหลง ขั้นตอนการถ่ายหนังเคยถูกทดสอบอาวุธทุกชนิด   การแสดงบทบู๊ หมัดมวย18 ชนิดทุกอย่างเป็นหมด   เวลาเขาถ่ายหนังอย่าเอาอุปกรณ์ใกล้อาจารย์  ให้นำมีดหอกพ้นไกลตัว   ตัวเองเป็นคนคุ้นเคยอาวุธเหล่านี้   ยิ่งกว่านั้นต้องอบรมอารมณ์บทบู้   เพื่อให้บทบู้กลายเป็นอาชีพส่วนหนึ่ง   ตอนนี้เขาได้แสดงตัวเองออกมาให้เห็น   ถึงแม้ว่าโดนครูฝึกศิลปะกังฟูวิจารณ์ก็ตาม หม่าหวี่เฉินเป็นนักแสดงที่ใช้อาวุธตีรำอย่างสวยงามและน่าดูทีเดียว   เพียงแต่ว่าตัวเองยังไม่เชี่ยวชาญศิลปมวยกังฟู   เขาหวังว่ามีเวลาที่เอื้ออำนวยให้ใช้เพียรพยายามมุ่งพัฒนาทิศทางที่เป็นดารามวยกังฟู 

Chomnath:
: ซูโหย่วเผิง  “ คิวแฟ้มเอกสารงานแสดงเต็มเพียบ ”

 
        ราตรีฤดูใบไม้ผลิในปีเสือทำให้ธุรกิจของ ซูโหย่วเผิง พุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ   ไม่เพียงแต่สัญญาคิวหนังไม่ขาดสาย   ผู้แทนฝ่ายโฆษณามีคนหลายประเภท   ฝ่ายเจรจาของบริษท์ต่างๆได้มาที่บ้านไม่ขาดสาย   นี่เรียกว่าได้ทั้งผลประโยชน์และชื่อเสียง

   
        ขณะสัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง    ราตรีฤดูใบไม้ผลิ ปีเสือ กำลังผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนแล้ว   แต่ว่าจากคำพูดของ ซูโหย่วเผิง   นักข่าวยังคงได้รับความตื่นเต้นจากเขา   “ ปีนี้ผมรู้สึกได้รับสิ่งดีๆจากราตรีฤดูใบไม้ผลิจริงๆ ”   ขณะเดียวกัน   จากคำพูดของ ซูโหย่วเผิง นักข่าวยังคงรู้สึกคำพูดรับแบบจืดชืด    “ ผมเป็นบุคคลที่มีบุพเพคนหนึ่ง   ไม่ใช่เป็นช่วงขณะเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงทำให้ใจสับสน   แน่นอน  ยังมีชายคนหนึ่งซึ่งคุ้นเคยที่ไม่ควรน้อยหน้า  ก็คือเวลาที่โดนดุจาก โจวเจี๋ย    เรื่องก็ผ่านไปแล้ว อย่าเอ่ยถึงมันอีกเลย   อธิบายมากๆ ก็ไร้ประโยชน์   จริงๆแล้ว   ผมกับ โจวเจี๋ย ยังชื่นชอบกันอยู่ ”

 

      
: ถ่ายหนังเรื่องใหม่   ผู้แทนโฆษณา(พรีเซนเตอร์) ได้รับประโยชน์

        ซูโหย่วเผิง กล่าวว่า   ราตรีฤดูใบไม้ผลิทำให้ผมรู้สึกมีเรื่องดีๆ   ผมรู้สึกขอบคุณ  เพราะสิ่งที่ยืนยันให้กับตัวผมรู้สึกมีค่ามาก   แน่นอน   ซูโหย่วเผิง  เหตุผลควรขอบคุณ   เพราะว่าราตรีฤดูใบไม้ผลิหลังจากผ่านพ้นไปแล้ว   เขาเป็นบุคคลไม่เพียงแต่โชควาสนาสูงขึ้น   สัญญาคิวหนังชุดหนึ่งก็อีกชุดหนึ่งตามมาติดๆ   

        “ ต่อมาไม่กี่เดือน  หลักใหญ่คิวหนังก็เต็มหมดแล้ว   เดือนนี้มีโปรโมทหนังฉาย 2 เรื่อง   เรื่องหนึ่งเป็นหนังละครรักใคร่แนวร่าเริงสบายใจ   "4 กามเทพ: ซื่อเก้อชิวปี่เท่อ"  กล่าวคือ เป็นเรื่องนิยายที่แม่แสนดื้อรั้นกับลูกสาว 4 คน   ผมก็คือ  หนึ่งในนักแสดงนั้นซึ่งมีประสบการณ์กับหญิงสาวหลายคน   เป็นคนที่กลัวการแต่งงานทำให้กลุ่มผู้คนหลงใหลมากมาย   หนังเรื่องที่ 2  คือ   "ตามหาหลิวซานเจี่ย:สวินเจ่าหลิวซันเจี๋ย"   หนังใช้ดนตรีเป็นหลัก    ก็นับเป็นหนังเรื่องความรัก   มีการแนะนำทิวทัศน์ของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงฯกว่างซี   ผมถ่ายหนังเรื่องนี้ยังต้องฝึกร้องเพลงพื้นเมือง ”


        นอกจากวางแผนถ่ายหนังโฆษณาแล้ว   เดือนพฤษภาคม ซูโหย่วเผิง ยังต้องไปถ่ายหนังเรื่องใหม่   “เดือนพฤษภาคมจะเข้าร่วมหนังแสดงรื่องลึกลับสงสัยเรื่องหนึ่ง   มีจุดหนึ่งคล้าย เรื่อง The Message(ฟงเซิน)   ขึ้นอยู่กับความสงสัยและพิลึก   ให้คุณจับตาดูหนังจนจบ   สุดท้ายผลลัพธ์ออกมาจะทำให้คุณตกใจ   บุคคลที่ผมแสดงครั้งนี้ คือ ไป๋เสี่ยวเหนียง แสดงแตกต่างกัน   เรื่องใหม่นี้แสดงเป็นตัวเอก   โอๆ”

      
        ระหว่างการสัมภาษณ์    ซูโหย่วเผิง เอ่ยปากคำว่าขอบคุณ  ไม่ใช่ครั้งเดียว   พร้อมแสดงออกมาว่า   ผลงานมีในวันนี้   จริงๆเขาดูอย่างมีคุณค่ามาก   ยิ่งคิดแล้วยิ่งจะทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะ   อาศัย ซูโหย่วเผิง แนะนำ   มี 3 รายการสาธารณะประโยชน์   เร็วๆนี้  จะออกโชว์ตัวแสดง 

        “ อันที่หนึ่งคือ   “กิจกรรมห่อหุ้มด้วยหัวใจแห่งความรัก”   ผมในฐานะตัวแทนโฆษณาจะปรากฏโชว์ตัว   เพื่อสหายน้อยในเขตภยันตรายส่งหัวใจแห่งความรักมาให้

        อันที่ 2   กิจกรรมคือครูผู้ฝึก  COACH   อยู่ในประเทศจีนและดาราฮอลลีวูดที่เลือกแล้ว 50 คน   แต่ละคนออกแบบกระเป๋าผ้า(ถุงผ้า)รักษาสิ่งแวดล้อมคนละหนึ่งแบบ   กระเป๋าผ้า(ถุงผ้า)รักษาสิ่งแวดล้อม 50 ใบนี้อยู่ที่ประเทศจีนทำโชว์การแสดงลาดตระเวนไปก่อน   หลังจากนั้นจึงออกจำหน่าย   รายได้ทั้งหมดบริจาคให้แก่มูลนิธิ เฉินหลง   หนึ่งในนั้น   ผมออกแบบกระเป๋าผ้า(ถุงผ้า)รักษาสิ่งแวดล้อม  ในที่สุดแผนกผู้อำนวยการของอเมริกาได้คัดเลือกถูกส่งเข้าโรงงานผลิต   รายได้ทั้งหมดก็บริจาคให้แก่ มูลนิธิ “ อ้ายซิง ”หมายถึง “ หัวใจแห่งความรัก ”

        กิจกรรมที่ 3 คือ  “หมู่ชิงสุ่ยเจี้ยว”  หมายถึง  สายธารอุโมงค์ใต้น้ำแห่งมารดา   ซูโหย่วเผิง คือ บุคคลผู้แทนโฆษณา(พรีเซนเตอร์) ”



: รอคอยประวัติศาสตร์ภาพยนตร์หนังที่เหลือชื่อไว้อาลัย   ค่อยถอนตัวออกจากวงการบันเทิง

        สามารถกล่าวได้ว่า  ราตรีฤดูใบไม้ผลิ ปีเสือ ทำให้อาชีพในวงการบันเทิงของ ซูโหย่วเผิง พุ่งสู่ท้องฟ้า   ไม่เพียงแต่ภาพยนตร์ที่มีมาให้ลงนามสัญญาไม่ขาดสาย   ผู้แทนโฆษณาแต่ละราย   ฝ่ายเจรจาของบริษท์ต่างๆมาถึงบ้านอย่างไม่ขาดสาย   เรียกได้ว่ามีทั้งประโยชน์และชื่อเสียง   นั่นก็คือเหตุการณ์เวลาล่วงหน้าที่ดีอย่างนี้   

        ซูโหย่วเผิง มีการตัดสินใจให้เวลากับตัวเองโดยการถอนตัวออกจากวงการ   “บัดนี้ คือสิ่งที่ใจปรารถนามากที่สุด   หากว่ามีโอกาสที่ดี   สามารถอยู่ในภาพยนตร์ที่สร้างชื่อที่หนึ่งหรือที่ 3 ดีกว่าบทบาทอันมนต์ขลัง   สามารถอยู่ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ที่อยู่ในใจทุกคนได้ ผมรู้สึกว่าพื้นฐานธุรกิจละครโทรทัศน์ของผมก็เรียบร้อยดี   หากคำพูดโชคดีเพียงพอ   เหมือน เสี่ยวหู่ตุ้ย แบบนั้นมีรุ่งเรืองอย่างนั้นชั่วขณะ (MOMENT)  ชั่วขณะหนึ่ง  ผมสามารถเลือกสรรหาบทภาพยนตร์ที่เหมาะสม เอาด้านหนึ่งที่ดีที่สุดเก็บเหลือไว้ในใจทุกคน”


        “ตัวผมเองก็ไม่มีอุปนิสัยที่มั่นคงอย่างหนึ่ง   จริงๆแล้วผมต้องการเปลี่ยนบุคลิกไปเรื่อยๆ   อีกทั้งผมชอบปฏิวัติตัวเอง   เพียงแต่ว่าที่ผ่านมา  เป็นไปไม่ได้จะโชคดีและมีพลังแบบนี้ไร้โอกาส   เพราะทุกคนจะเหนี่ยวรั้งให้ผมคงดำรงตำแหน่งสิ่งนั้นๆไว้   เหมือนเสือที่แสนเชื่อง   ทุกคนคุ้นเคยเห็นผมบ่อยๆ ก็คือ เสือที่แสนเชื่อง-ไกวไกวหู่   ดังนั้นผมรู้สึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “ฟงเซิง”  ทุกคนจึงได้เห็น   ที่แท้อายุผมได้เติบใหญ่ขึ้น   มีบุคลิกของตัวเอง   ปกติขณะที่ผมดูหนังอยู่   จะเห็นตัวเอกปั้นเป็นบทบาทคนป่วยชนิดแตกต่างกันบ้าง  บ่อยๆก็รู้สึกว่าแสดงดีมาก   คนพวกนั้นหล่อมาก   เหมือนกับผมรู้สึกอายุอย่างนี้เป็นไปได้   รู้สึกว่าหากมีบทบาทแบบนี้(ในเรื่อง-เฟิงเซิง)บ้าง  สามารถทำให้ผมแสดงดีมากทีเดียว"



: หวังว่าโลกส่วนตัวยิ่งใหญ่มาก

        มีคนมากล้วนกล่าวว่า   หลังจาก ซูโหย่วเผิง เซ็นสัญญาบริษัทในจีนดูเงียบสงบมาก   ถึงเดี๋ยวนี้ไม่มีโอกาสได้แสดงตัวเองมากนัก   ไม่เพียงแต่ว่าด้าน ซูโหย่วเผิง ตัวเขาเองไม่ใช่ดูในลักษณะนี้   “เมื่อก่อนผมถ่ายหนังละครมากกว่า   แสดงบทบาทก็มากกว่า    ผมหวังตลอดสามารถแสดงบทบาทที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนบ้าง   เพราะฉะนั้นในช่วง 3 ปีนี้ ผมไม่ได้รับบทบาทชนิดนี้อีกเลย   ผมได้เพียงแต่คิดตัดสินใจไม่กลับมาแบบเดิมอีก”


        ในการดำรงชีวิต  ซูโหย่วเผิง ก็มีการกำหนดทิศทางของตัวเองแน่นอน   ตลอดดำรงชีพ  - แบบอย่างผู้ชายของผม   ต้องสมดุลกัน   ไม่เพียงแต่มีการงาน   ในช่วงเวลาดำรงชีพของผม   บัดนี้ยิ่งมายิ่งเล็กอย่างแปลกประหลาด   ผมก็หวังว่าช่วงมีเวลาว่าง   การใช้ชีวิตส่วนตัวสามารถให้พื้นที่ยิ่งใหญ่บ้าง   เนื่องจากมาเป็นนักแสดงคนหนึ่ง   มีหลายสิ่งต้องเสียสละ   เช่นพ้นข้ามปีในเทศกาลปีใหมี   ช่วงเวลาเพื่อนในวัยเด็กนอกวงการของผม   ทุกคนต่างกล่าวว่าจะไปชายหาดตากแดดพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว   ผลลัพธ์คือ สบายใจ   ผมต้องการความสบายใจอย่างนี้อีก   ผมไม่สามารถจะมีเพื่อนอีก   จริงๆแล้วเพียงแต่เพื่อน  ในสายตาของผมเป็นสิ่งสำคัญมาก   เพื่อนแบบนี้มีคุณค่ามาก   ผมหวังว่าวันข้างหน้าชีวิตแบบนี้คบเพื่อนที่ดีมากขึ้น”




Chomnath:
: เฉินจื้อเผิง

ภาคฤดูร้อนต้องผลักดันแผ่นเสียงใหม่ ๆ


        เฉินจื้อเผิง มุ่งการพัฒนาแผนโครงการตลอดทั้งปี   แล้วคำนวณอย่างละเอียด    ละครเวทีเต้นรำ  ดนตรีต้องดูแล   เอาใจใส่ธุรกิจบนด้านหนังโทรทัศน์  หนังจอเป็นเรื่องหนักแล้วหนักอีก


        เดี๋ยวนี้ เฉินจื้อเผิง ชอบหัวเราะเยาะตัวเอง   เพราะว่าเส้นทางนักแสดงเส้นทางนี้ล้มลุกคุกคลาน   โดยเฉพาะหลังรับงานแสดงเดี่ยวได้มีประสบการณ์ทุกอย่าง   ถ่ายหนังมาหลายเรื่อง   ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถโด่งดังได้   ทุ่มเทการแสดงกับพี่ จางกั๋วหยง(เลสลี่จาง) ได้เจอผู้ชมหลงใหล จางกั๋วหยง   เลยประชดเยาะเย้ยกับตัวเองอย่างดุเดือด.

        .....ตัวเขาหัวเราะเยาะบอกกับนักข่าวเรื่องราวเก่าๆ เรื่องหนึ่ง   เวลาพ้นทหารเกณฑ์กลับมาสู่วงการอีก  มีผู้อาวุโสในวงการท่านหนึ่งก็พาเขาไปดูหมอดู   ดูชีวิตการแสดง   หมอดูเมื่อได้ดูเขาแล้ว  ก็กล่าวทันทีว่า   “เขาไม่เหมาะสมเดินสายอาชีพนี้   ขอให้เขารีบเปลี่ยนอาชีพใหม่ “   แล้ววันนั้น   ผู้ที่ติดตามไปด้วยได้เอาไปบอกกับนักข่าว    วงการบันเทิงผู้ผลิตนายทุนใหญ่   “ผมพร้อมที่จะรับการถูกโจมตี” “ คุณรู้ว่าผมอยู่ต่อหน้าคนเหล่านี้คงเงยหัวขึ้นมาได้ไหม ?   นี่เป็นสื่อมวลชนทำกับผม  ไม่ว่าเรื่องอะไร  วิธีคิด วิธีดู วิธีการกระทำคือ   ผมต้องสู้มากกว่านี้   และดีกว่าผู้อื่นอย่างแน่นอน”


        เสือก็มีเรื่องน่าเกรงขาม   ปีเสือต้องโชคดีแน่   หรือไม่ชีวิตของ เฉินจื้อเผิง มีประสบการณ์มากกว่า   เปลี่ยนแปลงมากกว่า   เฉินจื้อเผิง กับผจก.ส่วนตัวของเขา   เกี่ยวกับพัฒนาแผนโครงการตลอดทั้งปี   ได้คำนวณอย่างรอบคอบ   ละครเวทีและดนตรีต้องดูแล   เพียรพยายามเจียดเวลาออกมา   เอาใจใส่ดูแลธุรกิจ  บนจอหนัง   และหนังละคร  คือเรื่องหนักแล้วหนักอีก   โดยเฉพาะ เสี่ยวหู่ตุ้ยได้รวมตัวกันอีกครั้ง เหมือนปรากฏการณ์ลมพายุหมุน   ณ ปัจจุบันได้มีบริษัทแผ่นเสียงเคาะประตูขอเจรจาเรื่องการร่วมมือ   ด้านวงดนตรี   “เสือที่มีสง่างาม(เสือหล่อ)”   เพราะไม่ปล่อยโอกาสผ่านหลุดไปอย่างแน่นอน   ดนตรีก็คือของเขา   สำคัญมาก   บริษัทต้นสังกัดได้คำนวณในภาคฤดูร้อนผลักดันแผ่นเสียงใหม่ของ เฉินจื้อเผิง ออกสู่ท้องตลาด

   

        ผจก.ส่วนตัวชื่อ วิลเลียม บอกกับนักข่าวหนังสือพิมพ์นี้ว่า   จากบทบาทและทางหนังด้านละครหนังโทรทัศน์ให้ทำลายสถิติ   “คัดเลือกบทบาทที่มีอารมณ์ปะทะรุนแรงบ้าง”   “หวังว่าได้ร่วมมือกับผู้กำกับดีกว่านี้”   เดี๋ยวนี้   ในมือของพวกเขามีบทละครโทรทัศน์ 2 เรื่องที่กำลังติดต่ออยู่   เป็นหนังยุคใหม่เรื่องหนึ่ง   หนังย้อนยุคเรื่องหนึ่ง   เกี่ยวเนื่องการวางแผนหนังหนักมาก   คุณวิลเลียมไม่ยอมปริปากสักนิดเดียว   “การวางแผนโครงการหนังจอใหญ่   ที่จริงมาคุยด้านตรงข้าม   จำเป็นต้องพูดบ้างบางเวลามีความเคร่งเครียดนิดหน่อย   เพราะเมื่อก่อนพวกเราได้รับหนังจอหนังใหญ่รับน้อยมาก   ผมมีจุดหมาย   เพียงแต่สามารถบอกกับคุณอย่างนี้   อย่างอื่นไม่สามารถพูดได้อีก”

Chomnath:
บทความนี้จาก วารสารรายสัปดาห์บุคคลภาคใต้
: วารสารรายสัปดาห์บุคคลภาคใต้ :

05 – 03 – 2010  : วงเสี่ยวหู่ตุ้ย  ชายอายุ 40
ขอบคุณภาพ : Baidu - Su youpeng

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version