Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > Interviews & Video Clips

2010 Su You Peng Singing Love Song of Kangding (QQ Interview)

<< < (2/4) > >>

Chomnath:

ซูโหย่วเผิง;ขอขอบคุณผู้กำกับให้โอกาสนี้แก่ผม    มีตาทิพย์จริงๆ

พิธีกร:กล่าวได้ว่าอยู่ในภาพยนตร์    สาวสวยเป็นเพราะเบื้องหลังฉากถ่ายยุคนั้นในเวลานั้น ต่อมาจึงได้เป็นแบบอย่างการออกกำลังกาย    ภายนอกสวยไม่ได้บรรลุถึงภายในสวย มองเผินๆสวยอย่างนั้น     สาวสวยได้พูดสักหน่อย    อยู่บนที่ราบสูงถ่ายหนังจะมีการแตกต่างกันบ้างไหม    เพราะผมได้ยินในข่าวสาร มีคนพูดว่าเหมือนกับจะมีถูกสะท้อนบ้าง

จวีเหวินเพ่ย:ก่อนสะท้อนเวลาไปจึงต้องดื่มสุราหงจิ่งเทียน    ที่จริงหลังจากได้ถึงที่นั่น    ทุกๆวันคุณดูอะไรล้วนเหมือนอยากดูภาพยนตร์    แน่ละฉากสีสันสวยมาก ลักษณะท่าทางของร่างกาย คุณจึงต้องการอย่างนี้มากคุณอยากจะหายใจก็แสนลำบาก

ซูโหย่วเผิง;สวยจนหายใจไม่ทัน

เจียงผิง;เฉลี่ยแล้วบนที่ราบความสูงห่างจากใต้ทะเล 3800 เมตร    อย่างสูง 4000 เมตร

ซูโหย่วเผิง;วันแรกผมลงจากเครื่องบินไปที่พักโรงแรมเพื่อรายงานตัว    เป็นเวลาดึกมากเป็นพิเศษ    เพราะว่าหนทางบนภูเขายาวมาก    ไม่ได้หลับนอนตลอดทาง    เวลาผ่านไป 12 ชั่วโมง    ผู้กำกับถูกว่า โหย่วเผิงมาหรือยัง    นำเอาสุราหงจิ่งเทียนมาดื่มแล้ว ขาดแคลน อ๊อกซิเย่น อีก    เหนื่อยลำบากมากอีก

พิธีกร;สาวสวยยอมสนใจไปบนที่ราบสูงสีแดงตากแดดจริงๆหรือไม่

ซูโหย่วเผิง:ผู้กำกับอยากตากผิวให้แดงจริงๆ

จวีเหวินเพ่ย:ผู้กำกับช่างโหดเหี้ยม    ฉันตั้งแต่วันแรกของการเปิดฉาก    ฉันจึงแต่งหน้าแต่งตัวเป็นข้าทาสชาวนา    หลังจากวาดหน้าแต่งตัว ผมบนศีรษะยุ่งเหยิง    สวมใส่เสื้อนวมขาดๆ    ผู้กำกับยังติว่าไม่พอก้นแป้งอันนั้นของพวกเราเป็นก้อนแป้งลึกที่สุด    หลังจากได้ตีขึ้นไปบนที่ราบสูงสีแดงกายยังต้องสกปรกอีก    ทำให้จนน่าสงสาร    ยังมีบนขารับบาดเจ็บ    น่าเศร้ามาก    ผู้กำกับจึงพูดว่า    เมื่อเป็นอย่างนี้คุณก็ไปเปิดเครื่องทานข้าวนะ    ฉันพูดกับผู้กำกับไม่ต้องหละ    ในที่สุดเพราะเมืองคังติ้งเป็นเมืองสวยงามมากเป็นเขตพื้นที่ท่องเที่ยว    ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงามมาก    มีแต่ฉันคนเดียวซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่ง    เวลาฉันไป    จริงๆคนที่มีอยู่มองเห็นฉันจึงมีความรู้สึกน่าสงสารอย่างนั้น    หลังจากนั้นพูดว่าคุณทานข้าวมาจากที่ไหน

พิธีกร;นี่เป็นคนที่มีประกันภัยอุบัติเหตุท่องเที่ยวหรือไม่   

Chomnath:

เจียงผิง:เพราะว่าพวกเราล้วนจบการ ศึกษาจากสถาบันวิชาสายอาชีพ    เวลาพวกเราเรียนหนังสืออยู่    ครูบาอาจารย์จะพูดกับพวกเราว่า    ในปีนั้นพวกเราที่มีอยู่ได้เรียนการแสดง ล้วนเอาเขามาบูชาเป็นครูบาอาจารย์รุ่นปู่ของอาจารย์ภาพยนตร์รัสเซียกล่าวคำพูดสองคำ    อันดับแรกไม่มีนักแสดงรุ่นเล็ก    แต่มีบทบาทเล็กน้อย    อันดับที่สองในสายตาต้องรักศิลปะแสดง    ตัวเองไม่รักศิลปะแสดง    นี่คืออาจารย์สแตนนีกล่าวคำพูดไว้สองประโยคพวกเราทำได้แล้ว    ผมพูดกับพวกเขาซ้ำไปซ้ำมา    ในสายตาต้องรักศิลปะแสดง    อย่าเที่ยวชมเชยศิลปะแสดงของตัวเอง    อย่าคิดว่าผมอยู่หน้ากล้องมองดูดีไม่ดี    สายตาของผมมีหรือไม่    ริมฝีปากของฉันไม่ปริแตก    อย่างนี้ไม่ได้    ริมฝีปากต้องแตกแห้ง    นี่จึงเป็นเหตุการณ์สาวข้าทาสชนเผ่า ธิเบต คนหนึ่งเติบโตในชีวิตทุกข์ยากสุดๆแบบนั้น    ถ้าไม่เช่นนั้นทำไมถึงแสดงความรู้สึกพลิกกายยืนหยัดขึ้นมาอย่างแท้จริงละหนอ    ซูโหย่วเผิงก็เป็นอย่างนั้นด้วย    ผมก็พูดเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างใหม่    ผมหยิบรูปถ่ายผู้ไม่มีความรู้ยุค 40 ปีก่อนหลายรูปให้เขาดู    ผมพูดกับเขาว่าเส้นผมของพวกเราจำต้องผลักไสแบบนี้    เส้นผมสองข้างขาวหงอกออกมา    ในอดีตทางโลกเรียกว่าถังอุจจาระครอบหัว    ถังขี้ครอบหัวคือชาวบ้านผลักไส    ผู้มีความรู้ข้างบนยังต้องเปิด 3 ส่วนหรือ 7 ส่วน    ค้นหาแว่นตาแต่ละแบบ   ในที่สุดยืนยันแน่ใจว่าต้องพลาสติกสีขาว    วันแรกถ่ายหนังหมัดมวย    จึงทำเอาแว่นตาอันนี้ชำรุดแล้ว    ผมพูดอันนี้ดี    ผู้มีความรู้ในปีนั้นต่อมาก็โทรมลง    มีเงินน้อยมากที่จะไปซ่อมแซม    จึงใช้หนังยางรัด    พอเหมาะพอดี

ซูโหย่วเผิง:เวลานั้นผมตกใจมากจริงๆ    เพราะมีแว่นตาอันนี้อันเดียว    วันแรกแว่นตาเอียงไปนิดหน่อย    ธรรมดาผมก็เคยชินแล้ว    เพราะสมัยเด็กๆก็สวมแว่นตา    หลังจากเอนเอียงผมใช้มือแยกออก    ผลที่สุดก็ชำรุดเสียแล้ว

พิธีกร;พูดถึงทำรูปลักษณะอย่างนั้น    ซูโหย่วเผิงจำต้องไม่เคยมีการแต่งตัวแสดงบทบาทอย่างนี้    ครั้งแรกมองดูการแต่งตัวเพราะรูปถ่ายถึงได้ปรากฏตัวเองยังมีอีกด้านหนึ่ง

ซูโหย่วเผิง:รู้สึกขอบใจมากจริงๆผู้กำกับได้ให้โอกาสนี้    เป็นตาทิพย์จริงๆ    เมื่อก่อนนักสร้างหนังทั่วไปหรือว่าผู้กำกับทั่วไป    ความประทับใจยากที่จะคิดถึงบุคคลเติบโตในไต้หวัน    สามารถแสดงบทบาทอย่างนี้กับยุคสมัยอย่างนั้นรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน    เมื่อก่อนผมก็มีความเกี่ยวข้องกับหนังยุคสมัยในอดีตรู้สึกสนุกสนานมาก    แต่ส่วนใหญ่พวกเขาไม่ให้โอกาสอย่างนี้แก่ผม    พวกเขาจะสงสัย    ผมก็ขอขอบคุณหลังจากมีประสบการณ์อันนี้ครั้งแรก    เป็นไปได้ผลลัพธ์ข้างหน้าได้ยินแล้วก็ใช้ได้     ต่อมาหวังว่าสามารถเปิดบทภาพยนตร์มากหน่อย

เจียงผิง;ซูโหย่วเผิงสามารถเปลี่ยนแปลงได้    ทั้งไม่ใช่นักแสดงหนังเพียงอย่างเดียว

Chomnath:

พิธีกร:เมื่อกี้นี้ผมก็อยากถามอย่างนี้    เพียงแต่ไม่กล้า    นั้นพวกเราเช็คสายตารอคอย    ทุกคนก็สามารถเดินเข้าไปในโรงหนังดูๆ    ดูๆผู้เติบโตทะเลช่องแคบฝั่งตรงข้าม ซูโหย่วเผิงแต่งแสดงบทบาทอย่างนี้    เหมือนตาทิพย์ของผู้กำกับใช่หรือไม่

เจียงผิง;ที่จริงผมก็ไม่ใช่ตาทิพย์    เมื่อไม่กี่ปีมานี้ผมได้สำรวจและค้นพบ    ผมแนะนำ โหย่วเผิงแสดงหนังมาสี่หรือห้าเรื่อง    ในท่ามกลางหนังสี่หรือห้าเรื่องนี้    ผมค้นพบตัวเขาสามารถแสดงบทบาทรูปแบบต่างๆ    อีกทั้งศิลปะแสดงของเขาท่ามกลางในการฝึกฝนค่อยๆเก่งขึ้น    เขากำลังไม่ใช่เหมือนแบบเดียวกับในหนังเรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ) ในปีนั้น ของดาราวัยหนุ่ม พี่ชายรูปหล่อหรือเป็นรูปโฉมไอดอน    เขาก็สามารถแสดงบทบาทอันนี้ได้    เขาสามารถขุดคุ้ยบทบาทสิ่งของที่อยู่ในใจ    พิเศษที่เขาค้นหาบทบาทแม่นยำทะลุเส้นทางเคลื่อนไหว    ยังจะกลัวบทบาทอันเล็กน้อยหรือ   

พวกเราได้ถ่ายหนังเรื่องหนึ่ง    เป็นเรื่องที่เขาและอีเหนินจิ้ง แสดงด้วยกัน    เป็นภาพยนตร์เด็กๆ    ยุคต่อต้านสงคราม    เขาบริสุทธิ์ใจเพื่ออุทิศถวาย    เขาแสดงเป็นนักล่ามแปลคนหนึ่ง    เขาถ่ายความรู้สึกอย่างนั้นออกมา    ผมค้นพบเขาเป็นนักแสดงแล้ว    ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นว่าซูโหย่วเผิง ก็คือไอดอนคนหนึ่ง    แต่หลังจากผมได้ค่อยๆค้นพบเขาเป็นนักแสดงคนหนึ่ง    ผมรู้สึกเป็นนักศิลปะแสดงง่ายๆ    เป็นไอดอนคนหนึ่งยิ่งง่ายๆ    เป็นไปได้สักวันหนึ่ง   คืนหนึ่งเพื่อนดารานักข่าวกลุ่มหนึ่งได้ช่วยเหลือ    เป็นไปได้เขาจึงได้กลายเป็นดารา    แต่เพื่อเป็นนักแสดงคนหนึ่ง     นักแสดง   นักแสดง    เป็นหนึ่งในท่ามกลางคณะทีมงานศิลปะแสดง    นั่นก็ไม่ใช่ง่ายๆเลย เพราะว่าเขาต้องเข้าสู่สายอาชีพศิลปะแสดงอย่างแท้จริง

ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าเขาพร้อมที่จะมีธาตุแท้อันนี้    ดังนั้นเขาอยู่ในท่ามกลางหนัง (คังติ้งฉิงเกอ) แสดงออก    ผมรู้สึกเป็นการบังเอิญ    ก็ต้องเป็นเช่นนั้น    เมื่อเขาได้ถ่ายทอดออกมาแล้ว    ก็เป็นการสะสมน้ำตื้นๆ    เขาจึงเป็นเช่นนั้น   

จวีเหวินเพ่ยก็เป็นเช่นนั้น    เพราะคุ้นเคยกับ จวีเหวินเพ่ย ท่านผู้ชมต่างก็ทราบแล้ว    เธอเป็นคนรุ่นสาวสวยแจ๋ว    เด็กสาวรูปโฉมอารมณ์เซ็กซี่เฉียบแหลม    ปล่อยให้เธอเวลาเพิ่งเริ่มออกสนามถ่ายแสดงเป็นสายตาเซ่อๆคนหนึ่ง    ข้างหลังอันแน่วแน่ผิดปกติ    ดื้อรั้น    เป็นเด็กสาวกล้าหาญด้านความรักพรหมจรรย์    เป็นไปได้คนอื่นเห็นว่าเธอไม่สามารถรับหน้าที่นี้ได้    ท่ามกลางดำรงชีวิตเธอเป็นสาวผู้น่ารักคนหนึ่ง    ผมรู้จักเธอมาหลายปีแล้ว    เพียงแต่ผมรู้ว่าเธอมีความจริงใจถึงในกระดุกและถือทิฎฐิในกระดุก    ดังนั้นผมมั่นใจว่าเธอสามารถแสดงได้อย่างดี    นี่ก็คือสาเหตุของผมที่ใช้พวกเขากล้าตัดสินใจอันนี้

Chomnath:

ซูโหย่วเผิง;แม้กระทั่งอยู่ที่ประเทศอเมริการับรางวัลแล้ว

พิธีกร;พวกเรากล่าวว่าเหตุการณ์ที่ต้องการเอารางวัลสักครั้ง    รูปธรรมคือเหตุการณ์ณ์อะไร

เจียงผิง;ซูโหย่วเผิงได้เปิดกล้องให้เป็นฤกษ์ชัยก่อน    ก่อนอื่นเขาอยู่ที่งานแสดงภาพยนตร์ช่อดอกไม้ไก่ทองคำรับเอาหนึ่งรางวัล    ของไป๋เสี่ยวเหนียน   ต่อมาเขามีหนังเรื่อง (คังติ้งฉิงเกอ) เป็นหนังที่มีคู่แข่งอย่างรุนแรง    ทำให้ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ได้เกิดมีความรู้สึก    ซูโหย่วเผิงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทีเดียว    ทั้งไม่ใช่เป็นนักแสดงซึ่งมีหนังเส้นทางเดียว    หรือว่าหลี่ซูเจี๋ยบทบาทอันนี้คือผลักดันให้เขาขึ้นชิงบนเวทีรางวัลช่อดอกไม้ทำเอาไป๋เสี่ยวเหนียนบทบาทอันนี้มีความสำคัญอันหนึ่งของแรงหนุนหลัง    เขาอยู่ที่อเมริกา    ก่อนครึ่งค่อนเดือน ก่อนที่พวกเราไปรับรางวัลถ้วยแก้วทองคำอันนี้    เป็นรางวัลภาพยนตร์อันหนึ่งของประเทศอเมริกา     จึงเป็นการเฝ้าดูตัวเขา ระยะอันใกล้ๆนี้อยู่ในภาพยนตร์แสดงอย่างมีสีสัน    รวมทั้งแสดงออกหนังเรื่อง (เฟิงเซิน)    ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมคนหนึ่ง    เพราะรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอันนี้    เพราะนอกเหนือจากบทบาทไป๋เสี่ยวเหนียน    หนัง (คังติ้งฉิงเกอ)  ได้โฆษณาครึ่งปีมาแล้วและท่านผู้ชมที่ได้ชมดูการแสดงออกท่ามกลางหนังทุกรูปแบบ    รวมทั้งคณะกรรมการตัดสินคะแนนหลังจากได้ชมดูหนังไม่กี่เรื่อง    ให้ยอดสรุปแก่เขา    สุดท้ายเขาได้เอารางวัลนี้    ผมรู้สึกหลังจากเขาให้พวกเราเปิดฤกษ์ชัยดีแล้ว

ต่อมาพวกเราจึงได้ไปที่ ฮอลลีวูด    อยู่ในงานแสดงภาพยนตร์ของอเมริกาในงาน ฮอลลีวูดสมัยครั้งที่ 6    พวกเราเมื่อดำเนินจัดการชิงรางวัลได้รับรางวัลใหญ่ๆ 3 รายการ    กล่าวขึ้นมาผมก็ตื่นเต้นดีอกดีใจ    แต่ผมก็ละอายใจ    เพราะผมรู้สึกมีหนังดีๆหลายเรื่อง    มีผู้กำกับดีๆหลายคน    ครั้งนี้ ฮอลลีวูดอยู่ในสหภาพแรงงานผู้กำกับอเมริกาแจกรางวัล    สหภาพแรงงานผู้กำกับอันนี้เป็นครั้งแรกเพื่อดำเนินการพิธีแจกรางวัลอย่างนี้จริงๆ


วันนั้นมี 80 เปอร์เซนต์ขึ้นไปล้วนเป็นคนทุกชนิดของ ฮอลลีวูด    มีชื่อเสียงมากทีเดียว    เหมือนผู้กำกับ (ซือจื่อหวัง)---ราชาสิงห์โต    เหมือนผู้กำกับ (ไชตั้นปู้ตุ้ย)---ทีมงานถอดกระสุน    บุคคลที่มีชื่อเสียงอันมากมายล้วนไปที่นั่น    พิเศษคือมีภาพยนตร์ 10 เรื่องของจีนและอเมริกาอยู่ในงานแสดงภาพยนตร์นี้ได้รับรางวัลหนังภาพยนตร์ดีเด่น    แม้กระทั่งหนังเรื่องสุดท้ายได้รับรางวัลใหญ่คือหนังเรื่อง (คังติ้งฉิงเกอ) ของพวกเราชั่วเดี๋ยวเดียวนั้น ผมจึงถูกกระตุ้นอารมณ์ใจจริงๆ    ผมรู้สึกงานเหน็ดเหนื่อยของพวกเราไม่ได้สูญเสียเปล่า    แม้กระทั่งก่อนหน้านี้    พวกเราสามารถปลอบโยนกันคือ    ดาราหญิงทั้งสองท่าน    นักแสดงหญิงทั้งสองท่านล้วนได้รับรางวัลแล้ว    ท่านหนึ่งก็คือ จวีเหวินเพ่ย ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงดีเด่นที่สุด    เพราะท่ามกลางหนัง(คังติ้งฉิงเกอ) ของต๋าอัว    อีกท่านหนึ่งก็คือ ไอ้ซินเจวี๋ยหลัวฉี่ซิน    เพราะเหมยตั่วในหนัง (คังติ้งฉิงเกอ) ได้รับรางวัล คนใหม่ดีเด่น    ดังนั้นขึ้นเวทีรับรางวัล 3 ครั้ง    ทางด้านพวกเรามากล่าวถึงได้รับรางวัลแล้ว    ก็เฆี่ยนตีแส้ม้า    พวกเขาพูดว่ายังไม่มีหนังภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง    สามารถอยู่ในงานแสดงภาพยนตร์อเมริกาในงาน ฮอลลีวูด    หนังภาพยนตร์ภาษาจีนเรื่องหนึ่งได้รับ 3 รางวัลอย่างต่อเนื่อง    ดังนั้นพวกเราจึงตื่นเต้นดีอกดีใจ ซูโหย่วเผิง โชว์ตัวเอง “ได้พบหญิงงาม” สาวสวย ตันปาโชว์แสดงร้องเพลงเต้นรำอย่างมีจังหวะเป็นพิเศษ

Chomnath:

พิธีกร:พวกเราขอปรบมือเพื่อเป็นการสนับสนุนสักหน่อย

เจียงผิง;หลังจากวันนั้นเสร็จสิ้นลง    เวลาดูหนัง    นอกจากเพื่อนสหายเคยชมภาพยนตร์บ้างแล้วก็ติดตามพวกเราไปฉลองยามราตรีด้วยกัน    พื้นฐานที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของหนังภาพยนตร์อเมริกา    พนักงานสำคัญหรือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง    หลังจากชมจบแล้ว    มีอยู่ท่านหนึ่งเป็นดาราได้เคยรับรางวัลออสก้าหลายครั้ง    ดูจบน้ำตาร่วง    หลังจากออกมาเขาพูดว่า    สังคมยุคปัจจุบันนี้เป็นเวลาทุกคนที่ถือเงินตราและกามตัณหารักใคร่มองเป็นเรื่องสำคัญทีเดียว    มีภาพยนตร์อย่างนี้เรื่องหนึ่ง    ทำให้ผมรูสึกกระตุ้นอารมณ์    จริงๆไม่ใช่เรื่องง่ายๆทีเดียว

พิธีกร;คนอเมริกันจะพูดว่า    ในหนังไททานิค นางเอกได้แต่งงานแล้ว

เจียงผิง:ในหนังไททานิค นางเอกยังมีความรักคืนหนึ่ง    เขาทั้งสองแม้กระทั่งมือยังไม่เคยจูง    คุณมีความเสียดายนิดหน่อยใช่หรือไม่

ซูโหย่วเผิง:ไม่มีการจูงมือสักครั้ง

เจียงผิง:วิธีคิดของซูโหย่วเผิงคือเขาทั้งสองได้ควบขี่ม้าบนทุ่งหญ้าด้วยกัน    หลังจากนั้น ต๋าอัว จากม้าของเธอกระโดดข้ามไปที่ม้าของซูโหย่วเผิง    หลังจากนั้นไปที่ภูเขาลูกหนึ่งในทิศตะวันออก    ข้างหลังก็คือ......ผลที่สุดไม่มีการถ่าย

พิธีกร;ผมในที่นี้ต้องการถามสักหน่อย    นอกจากภาพยนตร์ของพวกเรา    พวกเราทราบว่าหนัง (คังติ้งฉิงเกอ)ตัวผมเองมีทำนองเพลงแบนี้เพลงหนึ่ง    จึงได้ร้องมาหลายปีแล้ว    จวีเหวินเพ่ยต้นกำเนิดคือเรียนดนตรี    คุณได้ยินศิลปะแสดงของซูโหย่วเผิง    วิจารณ์คุณค่าสักหน่อย

จวีเหวินเพ่ย;เวลาพวกเราอยู่เมืองคังติ้ง    เวลาพวกเราอยู่ระหว่างการถ่ายทิวทัศน์อันนั้น    แน่นอนผู้กำกับต้องพาพวกเราย้อนกลับไปในยุคนั้น    ทุกครั้งผู้กำกับล้วนเล่านิทานมากมายให้พวกเราฟัง    พวกเราได้ยินนิทานเรื่องนั้นจึงร้องไห้    ขณะนั้นเล่านิทานเรื่องหนึ่ง    ตอนถ่ายหนังจริงๆมีครูท่านหนึ่งได้โปรดปล่อยช่วยเหลือข้าทาสชาวนาแล้ว   เอาเด็กๆเหล่านั้นพาไปศึกษาเรียนที่สถาบันศึกษาละครหนังเมือง เซี่ยงไฮ้ และสถาบันดนตรีเมือง เซี่ยงไฮ้    เป็นทหารโปรดปล่อยเสรีท้องถิ่นและสาวๆท้องถิ่นจริงๆ     ความรักระหว่างทหารโปรดปล่อยและสาวๆชนเผ่า ธิเบตเหล่านั้น

นี่คือนิยายจริงๆเรื่องหนึ่ง    ดังนั้นหนัง (คังติ้งฉิงเกอ) อยู่ในท่ามกลางนิยายเรื่องนี้    จึงจะแสดงออก ความหมายของหนังเป็นปกติพวกเราได้ยินแตกต่างกันทีเดียว    เป็นครั้งแรกเวลาได้ยิน โหย่วเผิงอยู่เมืองคังติ้งร้องเพลง    เวลาร่วมกับเด็กสาว ตันปา 8 คนร้องเพลงด้วยกัน    ขณะนั้นร้องเพลงร่วมคู่กัน    เมื่อโหย่วเผิงร้องเพลง    เพราะพวกเราล้วนเคยได้ยินเพลงของซูโหย่วเผิงมามากมาย    รวมทั้งเมื่อพวกเราอยู่ในยามราตรีชุนหวั่น---ราตรีฤดูใบไม้ผลิ    พี่โหย่วเผิงอยู่ในใจของพวกเราเหมือนคนหนุ่มโสดคนหนึ่ง    เป็นความสุขอย่างหนึ่ง    เป็นพลังอย่างหนึ่ง    เป็นแสงตะวันอย่างหนึ่ง    ดังนั้นทุกครั้งเมื่อได้มองเห็น โหย่วเผิง    รู้สึกล้วนเป็นเรื่องราวเหมือนแสงตะวันสว่างมากๆอย่างหนึ่ง    แต่โหย่วเผิงเวลาร้องเพลง (คังติ้งฉิงเกอ) ช่างลึกซึ้งใจจริงๆ    เขาไม่ใช้แบบบริสุทธิ์ใจใช้แบบวิธีชนเผ่า ธิเบต มาร้องเพลง    แต่เขาใช้หัวใจของเขาหนึ่งดวงเวลานำความรู้สึกต่อแผ่นดินผืนนั้นไปร้องเพลง    เป็นความรักลึกซึ้งกินใจอีกอย่างหนึ่ง    เมื่อพวกคุณอยู่ในภาพยนตร์ได้ยินโหย่วเผิงร้องเพลง เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งซึ่งไม่เหมือนเลยทีเดียว

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version