ALL About Alec SU YOU PENG | รวบรวมผลงานของ ซูโหย่วเผิง > Movies

2009 The Message [ไป๋เสี่ยวเหนียน]

(1/11) > >>

prattana:


more https://www.facebook.com/baansuyoupeng/media_set?set=a.899786526798859.1073741905.100003025613301&type=3&uploaded=73

http://tieba.baidu.com/photo/p?kw=%E8%8B%8F%E6%9C%89%E6%9C%8B&from=6&tid=2084264718#!/pid00dce71190ef76c695c7bb5e9d16fdfaaf5167ab/pn1

วันที่ฉาย 2009-09-29(中国大陆)
2009 The Message [ไป๋เสี่ยวเหนียน]

ซูโหย่วเผิงรับบท "ไป๋เสี่ยวเหนียน"
เรื่องย่อ : The Message ถอดรหัสล่า ฆ่าไม่เลี้ยง

ปี 1942 เมืองนานกิงและเมืองสำคัญๆ ของจีนถูกกองทัพญี่ปุ่นเข้ามายึดครองและญี่ปุ่นก็เข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศ โดยตั้งคณะปกครองหุ่นเชิดขึ้นมาปกครองจีนระหว่างนั้นเองที่กลุ่มเคลื่อนไหวใต้ดินพยายามจะเข้าสืบความลับและลอบสังหารนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นต้องจับผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสายสืบให้ฝ่ายตรงข้ามไปสอบสวนไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้วญี่ปุ่นสอบสวนผู้ต้องหาเหล่านั้นด้วยวิธีการเช่นไร? เฉินกัวฝู่กล่าวมีแต่เพียงคำบอกเล่าจากผู้ที่รอดชีวิตมาได้เท่านั้น

เนื้อหาบางส่วนจึงเป็นการเสริมแต่งขึ้นมาเองและแม้จะถูกโจมตีอยู่บ้างว่าไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ แต่ผู้กำกับเฉินก็กล่าวว่าผมคิดว่าสิ่งที่เราจะได้เห็นในหนังนั้นยังไม่สาหัสเท่ากับกองทัพญี่ปุ่นทำกับคนจีนในนานกิง ความรุนแรงใน The Message ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเลย โจวซุ่น และ หลี่ปิงปิง สองนักแสดงสาวชื่อดังจากแผ่นดินใหญ่มาประชันบทบาทกันอย่างเข้มข้นในบทสายลับที่ต้องปะทะกับนายทหารญี่ปุ่นและถูกจับไปสอบสวน The Message เป็นหนังที่ถูกจับตามองมากที่สุดของปีด้วยทีมผู้สร้างรุ่นใหม่ที่มีเครดิตยอมเยี่ยมและเนื้อหาที่แปลกใหม่และเร้าความสนใจต่อนักดูหนังทั่วเอเชีย


1. https://www.youtube.com/watch?v=UFZmAMKI-SM
3. https://www.youtube.com/watch?v=DzhkWLCtZuY
4. https://www.youtube.com/watch?v=lXLT-vtoXrM
5. https://www.youtube.com/watch?v=6lkvJB1Kufw

แนะนำตัวละคร



โจวซิ่น (กู้เสี่ยวม่ง) – ผู้รับส่งสารในกองปราบปรามโจร



หลี่ปิงปิง(หลี่หนิงอี้) – หัวหน้าฝ่ายแปลของกองปราบปรามโจร



จางหันหยี่(อู่จื้อกว่อ) – ผู้บัญชาการกองปราบปรามโจร



หวงเสี่ยวหมิง(อุ่เถียน) – หัวหน้าหน่วยพิเศษของญี่ปุ่น



โหย่วเผิง (ไป๋เสี่ยวเหนียน) – หัวหน้ากองปราบปราม



หวังจื้อเหวิน(หวังเถียนเซียง) หัวหน้าหน่วยพิเศษ

prattana:
เรื่องย่อ



ชื่อเรื่อง เฟิงเซิง/The Message

ปี 1942 ช่วงหลังของการต่อสู้สงคราม เป่ยผิง

เพื่อต่อต้านทหารญี่ปุ่นการต่อสู้ของทางการก็ยังไม่หยุดไม่หย่อน จุดบัญชาการของทหารญี่ปุ่นนั้นได้รับความเสียหาย ผู้นำชั้นสูงถูกลอบฆ่า ชาวจีนเป็นสุนัขรับใช้ญี่ปุ่น และสถานการณ์ที่เป่ยผิงก็ตกอยู่ในยามคับขัน

ทหารญี่ปุ่นกล่าวว่าจะใช้เวลาอันสั้นกำจัดศัตรู ผู้นำหน่วยปฏิบัติการพิเศษของหัวเป่ยนั้นตกอยู่ในอันตราย ข่าวของข้างในของกองบัญชาการนั้นรั่วไหล ทำให้ผู้ร้ายถึงสามารถไปมาได้ สามารถเข้าไปที่ต่างๆได้ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ จากข่าวที่รายงานมาว่า น่าจะมีใส้ศึกอยู่ในกองบัญชาการ

การที่ศัตรูรู้ความลับ นั่นไม่ใช่การคุกคามที่หนัก แต่เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง จากการดูแลของหังเทียนเซียงในกองบัญชาการปราบโจรนั้น อู่เถียนได้ออกอุบายส่งการความลับออกไป เพื่อหลอกล่อพวกก่อการร้ายของ เหล่ากู่

prattana:


เฟิงเซิง(The Message) เปิดเผยบทตำแหน่งต่างๆ

โจวซิ่น (กู้เสี่ยวม่ง) – ผู้รับส่งสารในกองปราบปรามโจร

หลี่ปิงปิง(หลี่หนิงอี้) – หัวหน้าฝ่ายแปลของกองปราบปรามโจร

จางหันหยี่(อู่จื้อกว่อ) – ผู้บัญชาการกองปราบปรามโจร

หวงเสี่ยวหมิง(อุ่เถียน) – หัวหน้าหน่วยพิเศษของญี่ปุ่น

โหย่วเผิง (ไป๋เสี่ยวเหนียน) – หัวหน้ากองปราบปราม

หวังจื้อเหวิน(หวังเถียนเซียง) หัวหน้าหน่วยพิเศษ

อิงต๋า (จิงเซิงห่อ) – หัวหน้าทหารกองปราบปรามโจร


กู้เสี่ยวม่ง. บุคลิกนิสัยของเขาแบบคุณนายคุณหญิงไม่เกรงกลัวในอำนาจ นิสัยแข็งกร้าว การที่ถูกกักขังในชิวจวงนั้น เธอจะขอมีชีวิตอยู่ต่อ เขาพยายามอย่างมากที่จะทำให้อยู่รอดอย่างไร

ผู้กำกับเกาเฉียนซู . โจวซินอยู่ใน เฟิงเซิงนั้นมันแปลกประลาดมากๆ มันเปลี่ยนไปแล้วแหลมมากๆ เสมือนมีดสั้นที่กริบคม นี่แหละเป็นสตรีที่ทำให้ใจผู้ชายหลายคนต้องลอยไปมา แต่ว่าใครก็ยากจะหยั่งรู้ถึงความในใจเขา ก็เหมือนมีด ด้านเดียวแต่คมกริบ

หลี่หนิงอี้ . ความลับสุดยอดแตก ถูกกังขังที่ชิวจวงแล้วถูกทรมานหลายต่อหลายวิธี ตกอยู่ในสภาพความอึดอัดใจตลอด

ผู้กำกับเกาฉินซู . ในเรื่องเฟิงเซิงนั้น หลี่ปิงปิง เสมือนสิ่งของที่ขาวสะอาดยอดเยี่ยมสิ่งหนึ่ง สว่างไสวและพริ้วงามอย่างยิ่ง หนี่อี้อี้เกิดมาก็ประสบกับสังคมที่ยุ่งเหยิง ไม่สามารถจะระมัดระวังได้ ยากจะเป็นผู้ดี

หลี่อี้อี้กับกู้เสี่ยวม่ง . คนหนึ่งลักษณะท่าทางองอาจห้าวหาญ อีกคนหนึ่งนั้นสวยหยาดเยิ้ม คนหนึ่งสุขุม อีกคนความคิดรอบคอบ คนหนึ่งมีวิจารณญาณแยกแย่ คนหนึ่งปลุกปั่นจิตใจประชาชน เมื่อสองคนได้มีอยู่ด้วยกันหรือความคิดได้ขัดแย้งกัน ต่างก็จะรักษาระยะห่างที่จะไม่ใกล้ชิดหรือห่างเกินไป รวมทั้งยังต้องรับศึกนอกอีกด้วย

อู๋จื้อกว่อ . ซื่อๆ หนึกแน่น ขณะที่ถูกขังอยู่ที่ฉิวจวง ก็จะถูกทรมานอย่างนับไม่ถ้วน ทรมานจนแทบทนไม่ได้ ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ทำอย่างนี้กับคนในฉิวจวงด้วย ไม่เคยยั้งมือเหมือนกัน

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . เขาเสมือนหินอุกกาบาต เขามีธาตุเหล็กถึงร้อยละแปดสิบ เคยฝึกฝนไฟสวรรค์ ใต้สถานการณ์บางอย่างนั้น สิ่งที่ต้องแข่งกันนั้นเป็นความอดทน หากใครยอมก่อน ก็คือเป็นผู้แพ้ เมื่อเขาจะลงมือนั้น คนจะตายแบบถูกทุบ ไม่ใช่เป็นการแทงตาย

อู่เถียน . ลี้ลับไม่เปิดเผย เป็นคนเจ้าเล่ห์ ขี้สงสัย โชกโชน เงียบ มีปัญญาเฉียบแหลม มีความคิด น้ำนิ่งไหลลึก

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . อู๋เถียนเป็นหนอนหนังสือที่ทุกข์ เป็นพวกจิตไม่ปกติ ประเด็นคือจิตผิดปกติ ผิดปกติทางจิตอย่างผู้ดี แค่อยากจะทำงานเล็กๆให้สำเร็จ จนไม่สนว่าจะพริกฟ้าคว่ำแผ่นดิน นี่เป็นความดื่อของเขา รวมทั้งยังเป็นจุดจบของเขาด้วย

ไป๋เสี่ยวเหนียน . เคยเป็นนักร้องละครเพลงมาก่อน เป็นเลขาของผู้บัญชาจาง เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาคนคนเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น แต่ว่าโดยอำนาจเขาสามารถเลื่อนตำแหน่งให้สูงได้

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . เขานั้นเสมือนตัญหา เขาเป็นคนหนุ่มแน่น หน้าตาดี ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้อื่น เสียงเพลงเด่น ดีในการเป็นผู้ตาม ทั้งยังเป็นคนเจ้าสำอางค์

หวังเถียนเซียง . เหลี่ยมจัด เหี้ยม ปลิ้นปล้อนเก่งในทางเป็นไส้สืบ เพื่อที่จะจับ “เหลากุ่ย”ให้ได้ เพื่อจะบีบบังคับให้คนอื่นพูดความจริง ใช้วิธีการโหด สร้างความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . เขาเป็นคนที่เฉลียวฉลาดในด้านนี้ เป็นผู้ที่เปลี่ยนสิ่งที่หมดหวังเป็นปาฏิหาริย์ เป็นพวกรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นทาง จิตสำนึกจะชั่วดีอย่างไรก็ไม่สน

จิงเซิงห่อ . ฉลาดปราดเปรื่องแต่ดูคล้ายกับว่าโง่ เป็นคนที่ไม่มีความคิดของตัวเอง ใครว่าอะไรก็เออตาม

ผู้กำกับเกาฉินซูวิจารณ์ . นี่เป็นคนหนึ่งที่ไม่นิ่ง ทึ่ม จิตใจเป็นทุกข์ ผู้ชายแม้ไม่มีความสามารถก็ยังนับว่ามีคุณธรรมได้

prattana:





ในหนังเรื่องเฟิงเซิงนั้น (เหล่ากุ่ย ) ยังไม่ได้สิ้นสุด "ซูโหย่วเผิง" ได้รับบทรท้าทายทั้งสองด้าน ในช่วงนี้มีเว็ปไซด์บางเว็ปได้เปิดเผยถึงบทในเรื่องและสภาพสถานที่ถ่ายทำ ทำให้กระจ่างว่า "จางหันหยี" นั้นได้รับบทแสดงเป็น "อู่จื้อ" ก่อนั้นเป็น "เหล่ากุ่ย" จากการเปรียบเทียบฉากการแสดงระหว่าง "หลี่ปิงปิง" กับ "โจวซิ้น" นั้นมีความแตกต่างของฉากคือ 56 ฉากกับ 54 ฉาก ในจุดนี้ทางทีมงานได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่า “ข่าวที่ออกมาจากหนังเรื่องเฟิงเซินนั้นเป็นข่างจากภายในจริงๆ แต่ว่ามันมีมานานแล้ว ตัวเนื้อหาหรือบทกับการถ่ายทำนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน บางอย่างก็ไม่ใช่เป็นฉากที่พึ่งถ่ายไปในระยะนี้ ฉะนั้นข่าวที่รั่วไหลออกของครั้งนี้นั้นก็ไม่ค่อยกังวลเท่าไร”

การแยกออกอ่านบทของแต่ละตัว

ตัวบทละครที่สำคัญในเรื่องแม้ว่าสอดคล้องกับตัวละครในต้นฉบับเดิม แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันอย่างไม่ผิดเลยก็ไม่ใช่

สองนางเอกสาวอย่าง "หลี่ปิงปิง" และ "โจวซิ้น" นั้นได้รับบทเป็นหัวหน้าทหารหน่วยปราบโจรผู้ร้ายแสดงเป็น "หลี่หนิงอี้" และ "กู้เสียวม่ง" ซึ่งเป็นผู้ตรวจการพิเศษ ฐานะตำแหน่งทั้งสองเป็นหัวหน้ากับลูกน้อง นิสัยส่วนตัวนั้นคนหนึ่งเงียบและอดทน อีกคนดูผิวเผินเหมือนจะเซ่อแต่ข้างในลึกๆ ในเรื่องนั้นทั้งสองคนก็ได้มีการขัดแย้งต่อสู้กันไม่น้อยเลยทีเดียว

"จางหันหยี" รับบทเป็น "อู่จื้อก่อ" ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยปราบโจร บุคลิกลักษณะของเขาคือ ผู้ชอบใช้กำลังอย่างผู้ชาย เพราะในเรื่องนั้นเขาชอบใช้กำลังหรือใส่อารมณ์ต่อสตรีสาวสองคนอย่าง "หลี่ปิงปิง" กับ "โจวซิ้น" "หวงเสี่ยวหมิง" รับบทเป็น " อู่เถียน" ซึ่งเป็นหัวหน้าทหารปืนกลของญี่ปุ่ญ ตัวบทดั้งเดิมนั้นก็ถือว่ามีสีสันเหมือนกัน

จากการเปิดเผยของ "หวงเสี่ยวหมิง" เขาเป็นผู้วางแผนเกมส์การฆ่าคนในเรื่อง "หวังจื้อเหวิน" รับบทเป็นหัวหน้าหน่วยทหารซึ่งเป็น "หวังเถียนเซียง" เขาเป็นลูกน้องของ "อู่เถียน" เต็มใจที่จะเป็นไส้ศึก พวกเขาจะใช้เครื่องมือทรมานบีบบังคับให้สารภาพกับคนที่แอบแฝงเข้ามาในหน่วย วิธีการของพวกเขานั้นเฮี้ยมโหดมากๆ

"ซูโหย่วเผิง" ได้รับบทเป็น "ไป๋เสี่ยวเหนียน" ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยทหาร และบทบาทนี้นั้นได้แตกต่างจากบทดั้งเดิมอย่างมากมีเรื่องเกี่ยวกับนักโอเปร่าด้วย และโหย่วเผิงก็มีสองบุคลิกคือทั้งอ่อนน้อมและเข้มแข็ง

จากการเปิดเผยไปข้างต้นของเหล่านักแสดงอย่าง จางหันหยี , หวงเสี่ยวหมิง, หลี่ปิงปิง, โจงซิ้น, หวังจื้อเหวิน, และ ซูโหย่วเผิง แล้วหนังในเรื่องเฟิงเซินนี้ยังมีตัวละครอีกสามบทที่สำคัญนั้นก็ได้ลงตัวแล้ว ที่จัดออกมาคือ อิงต๋า หนี่ต้าหง กับ สือจ้าวฉี หนังเรื่องนี้นั้นก่อนหน้านี้ได้ปิดฉากในการถ่ายทำที่เทียนลี่ และช่วงนี้ได้เปลี่ยนฉากและสถานที่ถ่ายทำไปที่จ่อโจว และสำหรับเนื้อหาของเรื่องที่ได้หลุดออกไปเป็นข่าวนั้น ทางผู้รับผิดชอบนั้นก็ได้จัดการอย่างเรียบร้อยแล้ว “ฉากและเนื้อหาที่ได้หลุดออกไปเป็นข่าวนั้นเป็นเพียงแค่ฉากเก่าๆ ไม่ใช่ฉากที่พึ่งถ่ายทำ”

นักข่าวทราบข่าวว่า สุดท้ายนักแสดงเอกสามท่านก็ได้ลงมติกัน "อิงต๋า" เขาได้รับบทเป็น "จิงเซิงห่อ" เป็นหัวหน้าทหารผู้ปราบปราม ซึ่งมันเป็นหัวหน้าของหลี่หนิงยี่กับกู้เสี่ยวม่งผิวเผินนั้นดูเหมือนมุทะลุแต่จริงๆแล้วเก็บกด หนี่ต้าหงนั้นรับบทเป็นเหล่าแป่ซึ่งเป็นนักการของหน่วยปราบปราม แต่เนื้อบทดั้งเดิมนั้นเขาเป็นสายสืบของหน่วย บทพูดนั้นน้อยมาก ส่วนมากจะออกในแนวมีท่าทางบู้ๆ เป็นผู้กองในหน่วยอย่างจางอี้ถิงนั้นสือเจ่าฉีรับบทนี้ไป หน้าที่หลักของเขาคือในการเคลื่อนไหวต่อต้านทหารญี่ปุ่น 

prattana:


เรื่อง เฟิงเซิงนั้นความสัมพันธ์บุคคลนั้นได้เป็นข่าวออกมา มีความสับสน

จากสำหนักข่าวซินลั้น ภาพยนตร์เฟิงเซิงนั้นเริ่มเปิดกล้องก็มีข่าวเป็นระลอกระลอกแล้ว โลกแห่งภาพยนตร์ของชาวจีนที่ได้มีขบวนการต่อสู้มาตลอดนั้นได้กลายเป็นที่สนใจของสื่อ พึ่งได้เปิดกล้องไปได้เดือน เนื้อหาละครก็สับสนเหมือนเดิม และตัวละครหน้าใหม่ที่ออกมาให้เห็นนั้นมีแปดคนแล้ว และจากตัวแสดงทั้งแปดคนนั้นก็มีข่าว สามารถที่จะเห็นได้ชัดกับการยุ่งเหยินของความสัมพันธ์ของนักแสดงในเรื่องเฟิงเซิง


3 . ซูโหย่วเผิงได้ทำลายภาพลักษณ์ของขวัญใจ ได้กลายเป็นคนที่มีบุคลิกทั้งอ่อนโยนทั้งเข้มแข็ง
"ไป๋เสี่ยวเหนียน" เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการกองปราบ (ซูโหย่วเผิง)ท้าทายบทบาทของละครอย่างมาก นับว่าเป็นอีกบทหนึ่ง ซึ่งฉีกออกไปจากบทเดิมๆที่เขาได้รับเลยทีเดียว

จะพูดถึงไป๋เสี่ยวเหนียนนั้น ก็ไม่อาจที่จะลืมพูดถึงจางอีถิงที่เป็นผู้กองจางนั้นมีหน้าที่หลักคือการโต้ตอบกับพวกทหารญี่ปุ่น ไป๋เสี่ยวเหนี่ยนเป็นเลขาของท่าน ตำแหน่งนั้นพูดได้ว่า อยู่ภายใต้บังคับบัญชาคนคนเดียวเท่านั้น แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น ตำแหน่งไม่สูง แต่ว่าสามารถที่จะเลื่อนยศสูงได้ จากการรายงานข่าวของสื่อแล้ว ไป๋เสี่ยวเหนียนในเรื่องนั้นเป็นนักโอเปร่า สามารถเห็นได้ว่านี่เป็นการคาดเดาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

สำหรับบทละครในเรื่องนี้นั้นเป็นที่พิเศษต่อโหย่วเผิง “ นักแสดงคนหนึ่งสามารถที่จะแสดงในบทที่ต่างจากตัวเองอย่างหน้ามือเป็นหลังมือนั้น เป็นการท้าทายอย่างหนึ่ง เป็นความสนุกน่าสนใจอย่างหนึ่ง และเป็นวาสนาอีกด้วย ตอนนี้ยังไม่รู้ถึงบททั้งหมดของเรื่องเลย และยังไม่ทราบว่าบทของตัวเองนั้นสุดท้ายจะจบลงอย่างไร มันรู้สึกตื่นเต้นมาก ในเรื่องนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัดและความระแวง ฉะนั้นขณะที่ถ่ายทำนั้นต่างคนก็ต่างมีความตื่นเต้นกดดัน มีโอกาสที่จะร่วมแสดงกับนักแสดงรุ่นพี่รุ่นน้องมากมายขนาดนี้นั้น และถือเป็นโอกาสที่หาได้

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version