แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Chomnath

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
61
Interviews & Video Clips / 2010 Suyoupeng 4 Cupids Interview
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 07:27:16 PM »
รายการ  หยิ่งซื่อเฟิงหวิ่นลู่  ; BTV 文艺  (ปักกิ่ง TV Art Channel)


บันทึกรายการ; 6  เม.ย. 2010 

ออกอากาศ: 28  เม.ย. 2010
 









62
Interviews & Video Clips / 2010 Dian Ying Wang
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 06:49:49 PM »
รายการ เตี้ยนหยิ่งหวั่ง

 21 มีนาคม 2010










63
Interviews & Video Clips / 2010 Chu Wan Hui Ke Ting
« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 06:31:42 PM »
บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากรายการ 

“ชุนหวันหุ่ยเค่อทิง-ค่ำคืนแห่งการสนทนาในห้องรับแขก”

11 กุมภาพันธ์ 2010

<a href="http://player.youku.com/player.php/sid/XODgxNjE1NzI4/v.swf" target="_blank" class="new_win">http://player.youku.com/player.php/sid/XODgxNjE1NzI4/v.swf</a>

专访苏有朋(春晚会客厅 搜狐娱乐)part 1
https://www.youtube.com/watch?v=LCjmgDTxXkU

【补】苏有朋专访(春晚会客厅 搜狐娱乐)part 2
https://www.youtube.com/watch?v=iWCj3DfF1u0

新浪网-苏有朋_2010春晚会客厅(清晰完整版)
http://v.youku.com/v_show/id_XODgxNjE1NzI4.html

搜狐春晚会客厅-苏有朋
http://www.tudou.com/programs/view/lczETHA1BT4/



64
Interviews & Video Clips / 2009 Jin Ye Feng Sheng Qi
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2010, 07:40:42 AM »

บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากรายการ Jin Ye Feng Sheng Qi  ; 2009-08-31

ให้สัมภาษณ์กับบทบาท “ไป๋เสี่ยวเหนียน” ใน The Massege (Feng Sheng)






65
Interviews & Video Clips / 2008 Alec Su talks about 10year of HZGG
« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2010, 08:42:03 PM »
บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากรายการ เฉินเฉิน ปี 2008

13645331_1116015568436935_8421306109127415771_n.png" border="0
13700097_1116015868436905_1384169001934533680_n.png" border="0
13707613_1116015895103569_5424302105272814803_n.png" border="0
13709850_1116015515103607_536171009780526136_n1.png" border="0

66
How Well do You Know Alec Su? / ความเป็นมาของ [ซูโหย่วเผิง]
« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2010, 04:35:55 PM »
ความเป็นมาของโหย่วเผิง


จะพูดเรื่องราวโหย่วเผิงของผม แน่นอนต้องเริ่มจากวันที่ 11 ก.ย. ปี  1973  วันนั้นซึ่งเป็นวันไหว้พระจันทร์ของพวกเราพอดีเลย ผมเกิดที่โรงบาลแห่งหนึ่งของไทเป การคลอดทุกอย่างราบรื่น ผมไม่แน่ใจว่าเกิดมาหนักกี่บอนด์ แต่ได้ฟังจากคุณแม่พูดว่าผมไม่ได้เป็นเด็กอ้วน แต่ก็นับว่าแข็งแรงเป็นอย่างมาก ตอนนั้นผมเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว ฉะนั้นได้รับความรักจากพ่อแม่อย่างมากมาย

ทำไมผมถึงได้ชื่อว่าโหย่วเผิงสองคำนี้ เพราะว่าผมเกิดในเทศกาลไหว้พระจันทร์ บังเอิญคุณแม่ก็เกิดในวันนี้เหมือนกัน 月แย่วสองตัวมารวมกันก็ได้กลายเป็น 朋 เผิง ฉะนั้นผมจึงชื่อว่าโหย่วเผิง-有朋

น้องชายผมอายุห่างจากผมหกปี ตอนเด็กนั้นก็เหมือนกับพ่อแม่มีลูกคนเดียว ความรักความห่วงใยของพ่อแม่ล้วนอยู่ที่ผม พวกท่านได้ให้ผมเรียนอะไรมากมาย พูดง่ายๆคือเรียนทั้งหมดที่มีให้เรียนเลย จากจุดนี้สามารถมองเห็นความรักที่พวกท่านมีต่อผม ความคาดหวังต่อผมนั้นสูงมาก นอกจากนี้ พ่อแม่ก็ให้ความสำคัญกับการเรียนของผมเป็นอย่างมากด้วย แท้จริงแล้วคุณพ่อนั้นเคร่งกับการเรียนของผมเป็นพิเศษ เพราะท่านเข้าใจว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะผู้ชายนั้นจำต้องเรียนหนังสือให้จบ ถึงจะมีอนาคตที่ดีได้

จากตรงจุดนี้ทุกคนก็สามารถรู้ได้ว่าพ่อแม่ของผมนั้นล้วนเป็นคุณพ่อที่เคร่งกับคุณแม่ที่ใจดี ฉะนั้นคุณแม่จะสนิทกับพวกเรามากกว่า จนบัดนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเรานั้นดีมากๆ มีเรื่องอะไรผมก็จะบอกกับคุณแม่ สำหรับคุณพ่อนั้นค่อนข้างห่างเหิน อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของพ่อนั้นเคร่งขรึมน่าเกรงขาม ผมกับท่านนั้นก็จะไม่เหมือนกับแม่ที่อะไรก็พูดได้ หรือว่าอายุผมมากหน่อย หรือว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหน่อย ความสัมพันธ์ของผมกับพ่อก็คงจะดีขึ้น พูดถึงความสัมพันธ์ของน้องกับผม

ก่อนอื่นอยากขอบพระคุณพ่อแม่ที่ให้เขาเกิดมาในโลกนี้ นอกจากที่เขาจะเป็นน้องชายของผมแล้ว ทั้งยังเป็นเพื่อนที่รู้ใจที่สุดของผมด้วย หากผมมีเรื่องในใจอะไรก็มักจะระบายให้กับเขา เขาเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งยังให้ข้อแนะนำที่ดีกับผมมากมาย แม้อายุของพวกเราจะต่างกันหกปี และตอนนี้เขาเองก็กำลังเรียนอยู่ แต่พวกเราไม่มีช่องว่างระหว่างวัย ความสัมพันธ์ตอนเด็กกลับไม่ดีเหมือนตอนนี้ เพราะว่าตอนที่เขายังเด็กๆนั้น ผมก็เริ่มทำงานแล้ว เวลาที่ได้เจอกันหรืออยู่ด้วยกันนั้นน้อยมาก

67
Interviews & Video Clips / 2004 Suyoupeng in Super Talk
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2010, 07:43:42 PM »
บทสัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง จากรายการ "ครั้งแรกของซูโหย่วเผิง"
หย่าเชียน เช่าจี่ฝั่นเวิ้น 17-08-2004

Alec Su : ครั้งแรกของซูโหย่วเผิง 1
https://www.youtube.com/watch?v=cbzQTJmtK8E

Alec Su : ครั้งแรกของซูโหย่วเผิง 2
https://www.youtube.com/watch?v=8RtrXgaqgl0&t=168s




13686722_915328648577980_6196545186998861641_n.jpg" border="0
13707784_915328598577985_6034653300514814992_n.jpg" border="0
13726817_915328601911318_5933350199166343120_n.jpg" border="0
13754626_915328605244651_4098571039569184276_n.jpg" border="0

68

การปล่อยวางสองครั้งของโหย่วเผิง

ไม่ว่าหน้าตาโหย่วเผิงจะหนุ่มสักแค่ไหน พวกเราล้วนได้อ่านความร้อนหนาวกับเขาตั้งแต่เข้าวงการมาถึงตอนนี้ก็ยี่สิบปีแล้ว มองออกว่าวันนี้ของเขานั้นก็ไม่เห็นราศีของไกวไกวหู่ในสมัยแรกหนุ่มของเขาแล้ว แม้นว่ารอยยิ้มของเขายังเบิกบานเหมือนเดิม แต่ว่าเบื้องหลังชีวิตนั้นมีเรื่องราวมากมายแน่นอน ภาพลักษณ์ความเป็นขวัญใจผู้ดีนั้นได้มีอิทธิพลต่อคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยฉะเพาะวัยเด็กหนุ่ม เสี่ยวหุ่ยตุ้ยนั้นเป็นภาพติดตาที่พวกเราชื่นชมได้แต่เป็นอย่างเขาไม่ได้ แต่ว่า หากเพียงคุณลองค้นเรื่องราวชีวประวัติของเขาไปดูแล้ว การปล่อยวางสองครั้งของเขานั้นเป็นสิ่งที่น่าคิดสำหรับเรา

กรกฏาคม ปี 1988 ค่ายเพลงไคลี่ไต้หวันได้ประกาศ “โทรทัศน์ที่ว่างสำหรับวัยใส” กลุ่มเป้าหมายนั้นเป็นนักเรียนนักศึกษา เนื้อหานั้นง่ายๆ เป็นผู้ช่วยในรายการ ”เสี่ยวเหมาตุ้ย” ของสามสาว รายการนี้นั้นเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมาก และได้มีคนเสนอให้ทางรายการว่าน่าจะมีผู้ชายเป็นชายหนุ่มอีกสามคนก็จะเป็นรายการที่สมดูลย์ ด้วยเหตุนี้ ทางค่าย เพลงไคลี่ ก็ได้ประกาศรับสมัครหนุ่มสามท่าน หลังจากได้ผ่านการคัดตัวต่างๆนาๆทั้งร้องทั้งเต้นแล้ว สุดท้ายสมาชิก ”เสี่ยวหู่ตุ้ย” ก็ได้มาเป็นที่เรียบร้อย

พวกเขาก็คือ

ผีลี่หู่ = อู่ฉีหลง
เสี่ยวสร้อยหู่= เฉินจื้อเผิง
ไกวๆหู่ = ซูโหย่วเผิง


ใครจะไปรู้ว่าหลังจากเสื้อน้อยสามตัวได้ออกอากาศแล้วไปบดบังรัศมีของ "แมวน้อยสาม" ตัวจนมิด เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กเด็กแดงจะถึงผู้เฒ่าหัว พี่ ป้า น้า อา และเพลงที่พวกเขาร้องนั้นก็ได้ดังระเบิดเร็วอย่างจรวด และแล้วพวกเขาก็ได้กลายเป็นคณะนักร้องกลุ่มแรกที่มากจากเด็กนักเรียน จากเวลาแค่ชั่วค่ำคืนได้กลายเป็นขวัญใจมวลชน เพลงของเสี่ยวหุ่ตุ้ยไม่เพียงดังที่ฮ่องกงเท่านั้น ทั้งยังกระหึ่มถึงจีนจนมีแฟนเพลงมากมายอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ภาพโปรเตอร์ของเสี่ยวหุ่ตุ้ยนั้นยังเป็นของสะสมของคนไปแล้ว



ตอนนั้น เขาอายุ 15 ปี

แต่ว่า การเยินย่อนั้นจะทำให้หัวปักหัวปำไม่ คนเรานั้นย่อมมีการโต หากจะยืนยันเส้นทางเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้น แล้วยังมีเส้นทางเส้นอื่นที่จะให้เดินอีกหรือ? หากว่าจะยืนยันที่จะเดินไปตามเส้นทางเสี่ยวหู่ตุ้ยแล้ว แน่นอนก็ยังสามารถที่จะดังได้อีกหลายปี แล้วต่อจากนั้นไปล่ะ?

และแล้ว ในช่วงที่เป็นที่นิยมของคนอื่นอยู่นั้น โหย่วเผิงกลับเลือกที่จะปล่อยวางมันไป พวกเขาสามคนนั้นลาจากทั้งน้ำตา พวกเขาได้ร้องเพลง “เชื่อเถิดว่าพรุ่งนี้พวกเรายังจะต้องพบกันอีกแน่นอน ก็เหมือนเมฆขาวลอยจากท้องฟ้าไปชั่วครู่” เพลงนี้ในการจากลาแฟนๆของพวกเขา หลังจากนั้น พวกเขาต่างคนก็ต่างเริ่มต้นชีวิตของตัวเอง บ้างก็เรียนต่อ บ้างก็เกณฑ์ทหาร โหย่วเผิงนั้นได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ ในสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเลยนั้น และไม่มีแฟนเพลงอีกด้วย เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา “การที่จากไปนั้น ผมเห็นว่าการที่คนอื่นคาดหวังในตัวผมที่สูงมากกับความเป็นจริงในตัวผมนั้นมันห่างกันมาก” เขากล่าว “รอดูผม อีกหลายปีก็แล้วกัน”

หลายปีผ่านไปโหย่วเผิงเรียนเสร็จแล้วก็ได้กลับมา หน้าที่การงานของเขานั้นก็ได้มีการเปลี่ยนไป นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ร้องเพลง เขาไม่ใช่ไกวๆหู่คนเดิมแล้ว และตัวเขาเองก็ไม่เคยเข้าทำงานในวงการแสดง ด้วยเหตุนี้ทำให้ช่วงนั้นของชีวิตเขานั้นมีความเครียดมากๆ

วันคืนได้ผ่านไป มีสถานีรายการหนึ่งได้เชิญเขาไปเป็นพิธีกรรายการ ถ้าได้เป็นพิธีกรรายการ ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน สามารถที่จะหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวได้ อย่างน้อยก็สามารถที่จะได้โผล่หน้าที่จอทีวีบ้าง แต่ว่า การเป็นพิธีกรรายการนั้นจะมีอนาคตหรือ? ในสายตาของทุกคนแล้ว เขายังเป็นไกวๆหู่ที่ร่าเริงคนหนึ่ง เขาไม่อยากจะเป็นอย่างนั้น เขาโตแล้ว เขาอยากจะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตัวเอง สิ่งที่เขาต้องาการคือเป็นผู้ใหญ่ และแล้ว เขาได้ถามตัวเองอยู่เสมอ นี่เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือ? จะเลือกเป็นพิธีกร? หรือจะเลือกเป็นตัวของตัวเอง?

ในวันคืนที่มืดมิดของเวลานั้น ท้ายสุดโหย่วเผิงเลือกที่จะปล่อยวางมัน เขาได้ปฏิเสธการเชิญมาเป็นพิธีกรของทางสถานีที่ให้เงินตอนแทนสูงมาก แล้วได้ยืนหยัดเฝ้ารอโอกาสสำหรับงานที่ตัวเองชอบต่อไป

5 เดือนให้หลัง เรื่อง(องค์หญิงกำมะลอ)ได้รับสมัครนักแสดง เขาเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงได้สำเร็จ เหตุเพราะละครเรื่องนี้ ทำให้โหย่วเผิงมีแฟนๆที่จีนอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมา และได้เปิดช่องทางในอาชีพการงานของเขาอีกครั้งหนึ่ง จากนี้เขาก็ได้ก้าวกลายเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัวไปแล้ว

พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว 10 ปี ใน 10 ปีนี้ โหย่วเผิงเป็นพระเอกแสดงเรื่องต่างๆ(ฉิงเซิงเซิง หยี่หมงหมง)(แจ๋ไต้ซวงเฉียว)(อีเทียนสู่หลงจี้)(ฉิงติ้งอ้ายฉิงไห่)(หยางเหมินหู่เจียง)(เตียวหมังกงจู่)เป็นต้น หน้าที่การงานของเขานั้นได้ย่างเข้าสู่ช่วงอิ่มตัวหรือจุดสูงสุด ได้ใช้แรงพลังและความสามารถของตัวเองเปิดโลกกว้างให้กับตัวเอง และเขายังได้เข้าร่วมงานการกุศลด้วย ได้ตั้งมูลนิธิซูโหย่วเผิงที่จีน ระดมทุนสร้างโรงเรียนซีว่าง ได้เป็นทูตแห่ง”กิจกรรมช่วยเหลือคุณแม่แห่งประเทศจีน”และ”ทูตแห่งความรักของ “ปกป้องผู้เป็นแม่”

โหย่วเผิงในวันนี้นั้นได้หลุดพ้นจากภาพของไกวๆหู่แล้ว และปล่อยครั้งที่ปรากฏตัวในแต่ละงานที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ ลักษณะของเขานั้นสุภาพธรรมชาติ พูดจาเป็นผู้ใหญ่ เขาในวันนี้นั้นได้มีชีวิตที่เป็นของเขาจริงๆ และนี่ก็เกี่ยวพันกับการปล่อยวางทั้งสองครั้งของเขาอีกด้วย ในช่วงที่น้ำขึ้นให้รีบตักนั้น ตัวเขากลับใจเย็นๆ เขาตั้งมั่นอยู่ เขาไม่ลุ่มหลงไปกับชื่อเสียงชั่วคราวที่ผ่านเข้ามาสู่เขา แต่กลับปล่อยมันไปอย่ากล้าหาญ การนิ่งและคอยท่าอย่างนี้เป็นแบบอย่างให้กับเราทั้งหลาย และจากจุดนี้ก็เป็นการทดสอบสติปัญญาและวิสัยทัศน์ของเขา เพราะสิ่งชั่วประเดี๋ยวที่ปลอ่ยมันผ่านไปนั้น อนาคตเขานั้นล้วนได้รับกลับคืน และได้เยอะกว่าเก่าด้วยซ้ำไป


69
SCOOPS & SPECIALS / 2008 ศิลปินซูโหย่วเผิง
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2010, 01:26:33 PM »
<a href="http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2F1589fbcf.pbw" target="_blank" class="new_win">http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2F1589fbcf.pbw</a>


ศิลปินซูโหย่วเผิง

ไกวๆหู่, อู่อาเกอ สองฉายานี้ไม่เพียงแต่สื่อว่าเป็นโหย่วเผิง ทั้งยังเป็นชื่อในสมัยนั้นๆไปแล้ว เป็นกระแสนิยม และในแวดวงศิลปินนั้น ไม่ค่อยเห็นศิลปินคนไหนสามารถดังได้เป็นสองสมัยเลย และโหย่วเผิงกลับเป็นหนึ่งในนั้น ได้โด่งดังเป็นที่หลงไหลกันในยุคสมัยเสี่ยวหู่ตุ้ยที่ร่วมงานกับอู่ฉีหลงกับเฉินจื้อเผิง ได้ใช้เสียงเพลงในการทะลุทะล่วงในวัยรุ่น และได้ดังระเบิดไปทั่งราชอาณาจักรกับเสี่ยวเยี่ยนจื่อ อู่อาเกอในเรื่ององค์หญิงกำมะลอนั้นได้กลายเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงมากมายไปแล้ว ณ วันนี้ โหย่วเผิงได้เงียบลงไป เพลงใหม่ๆนั้นน้อยมาก ละครทีวีก็น้อยลง และผู้เขียนเองก็เชื่อว่าจากการเปลี่ยนแปลงของเขานั้นสามารถนำคำชมเชยมากมายมาสู่ตัวเขาได้แน่นอน

ภาพลักษณ์ของซูโหย่วเผิง


มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการเข้าสู่วงการบันเทิงที่เร็วมากของเขา หรือว่าอาจเป็นเพราะที่ตัวเขาเป็นคนที่ชอบเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามเราเห็นแล้วว่าเขามีภาพลักษณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมา เริ่มจากภาพลักษณ์ของไกวๆหู่ที่เริ่มเข้าสู่วงการ สไตล์ที่เรียบร้อย สายตาที่เดียงสา เป็นภาพของเด็กนักเรียนมัธยมคนหนึ่ง ในเรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ)อู่อาเกอชายผู้เป็นผู้ใหญ่นั้นแท้จริงแล้วเป็นนักแสดงที่เริ่มต้นเข้าสู่วงการโดยเป็นนักร้องมาก่อน เมื่อถอดคราบนักแสดงแล้ว หัวเป็นทรงเกรียนเด็กนักเรียน บุคลิกดี น่ารัก ทั้งยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ยังมีกลิ่นไอของการเติบโตเป็นหนุ่มอยู่ โหย่วเผิงในวันนี้ บางทีผมก็ยาว บางทีผมก็สั้น บางที่มีหนวด บางทีไม่มี ล้วนให้ภาพลักษณ์ที่สงบกับทุกคน แท้จริงเบื้องหลังของการเงียบสงบนั้นเป็นการเติบโต ก็เหมือนฉายาที่คนอื่นเรียกเขา “สุภาพบุรุษผู้ดี” สิ่งที่เห็นได้จากตัวเขาที่แสดงออกมาคือ ความรู้สึกปลอดภัย ความเป็นผู้ใหญ่จริงๆ

<a href="http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2F4d77184b.pbw" target="_blank" class="new_win">http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2F4d77184b.pbw</a>


บทบาทของนักแสดง


โหย่วเผิงนั้นนับว่าเป็นคนหลายอาชีพ เดินสู่วงการด้วยการเป็นนักร้อง แต่กลับสร้างสีสันโดดเด่นในการแสดงอีกด้วย เขาในเวทีเพลงนั้น ร้องเพลงเต็มไปด้วยบรรยากาศความรู้สึกแห่งกำลังใจ ทั้งเป็นดาราขวัญใจที่เต็มเปรี่ยม

เขาต่อการแสดงหน้ากล้องนั้น เดี๋ยวติ้งต๊อง เดี๋ยวดูเหมือนผู้ใหญ่ เดี๋ยวสนุกเฮฮา เดี๋ยวเศร้าสร้อย เขานับว่าเป็นนักแสดงที่อิงในบทมากในเรื่อง(องค์หญิงกำมะลอ) ทั้งยังว่าได้ว่าเป็นนักแสดงที่ไม่เอาไหนในเรื่อง (เราสองหัวใจเดียวกัน) การเล่นละครที่จีนนั้นเรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัดเลย ในเรื่อง(มนต์รักในสายฝน)ที่แสดงเป็นตู้เฟยนั้นก็ตลกพอสมควร แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่นี้ ในเรื่อง(ยอดวีรบุรุษขุนศึกตระกูลหยาง)นั้นได้รับการถูกดูหมิ่นเหยียบหยามจนเต็มหน้า ในเรื่อง(รักข้ามขอบฟ้า)นั้นได้มีภาพที่ออกมาในแนวลูกผู้ดี ในเรื่อง(ดาบมังกรหยก)ที่แสดงเป็นผู้ที่ซื่อตรงไปตรงมาอย่างจางอู่จี้

จากนั้นเขาก็ได้เซ็นต์สัญญาร่วมงานกับทางบริษัทฯ HY และได้ก้าวย่างอย่างช้าๆ ลงบ้าง รอจังหวะเวลาที่ดีที่เหมาะสม ที่จะทำผลงานออกมาให้เราได้ชมในผลงานของเขาก็คือเรื่อง(เย้ออ้าย) ที่รับบทเป็นผู้ป่วยทางจิตคนหนึ่ง

ในด้านงานทางจอเงินนั้น ก็ยังนับว่าเป็นการลองดูของโหย่วเผิงอีกด้วย และเป็นการท้าทายตัวเองด้วย และได้ร่วมงานกับค่ายจิงเสี่ยงอิ้งโฮ่วด้วย เขารับบทเป็นสันติบาลของจีน(เสี่ยวไป๋เหนี่ยน จากภาพยนต์เรื่อง ฟงเซิง) สำหรับเรื่องฝีมือการแสดงแล้ว ผู้เขียนคิดว่าโหย่วเผิงน่าจะดีกว่านักแสดงมากมายด้วยซ้ำไป เพราะเหตุการณ์จริงจังของเขา



ความสนใจของสื่อ


ถ้าเปรียบกับศิลปินที่มีข่าวแล้ว โหย่วเผิงก็นับว่าเป็นศิลปินที่ดีกว่าเยอะเลย แต่นี่ไม่ได้ทำให้สื่อไม่ให้ความสนใจกับตัวเขา และชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีของเขากลับติดอันดับต้นๆของศิลปิน

แม้ว่าระยะนี้ข่าวของเขาจะดูน้อยลงไปเยอะ แต่ระหว่างการถ่ายทำ(ต้าเจิ้นฝัน/เย่ออ้าย)นั้น เหตุที่โหย่วเผิงได้จริงจังกับการแสดงเพื่อให้มันออกมาได้ดีกลับเกิดอุบัตเหตุ เดิมที่แพทย์สั่งให้เขาพักงานสักสิบวัน โหย่วเผิงห่วงว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุทำให้ทีมงานต้องถ่ายทำช้าไป และได้เข้าถ่ายทำอย่างรวดเร็ว ให้เห็นถึงสปิริตของการทำงานของเขา


<a href="http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2Fe5275972.pbw" target="_blank" class="new_win">http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2Fe5275972.pbw</a>



ความนิยมจากผู้ชม

ณ วันนี้นั้น ศิลปิน“ความเครียดแค้นร่วม”(ของมวลชน)นั้นมีเยอะมาก แค่คำๆเดียว หรือรูปภาพรูปเดียว หรือ กิริยาการวางตัว บทเดียว แม้กระทั่งไม่ได้กระดุกกระดิก ก็ล้วนเป็นเป้าของประชาชนในการจะถูกโจมตี

และการถูกโจมตีเหล่านี้นั้น มันไม่เกี่ยวข้องกับฝีมือการแสดง หรือฝีมือการขับร้องเพลง หรือการเป็นขวัญใจที่โด่งดัง แต่มันเกี่ยวข้องกับจริยธรรมหรือศีลธรรม ความรับผิดชอบ

สิ่งที่น่าภูมิใจก็คือ ในด้านเหล่านี้นั้นโหย่วเผิงเป็นศิลปินคนหนึ่งที่ไม่ถูกการโจมตีจากประชาชน เขาได้สร้างบุญสร้างกุศล ได้ทุ่มเทความรักที่มี แม้กระทั่งในยุคของไกวๆหู่นั้นเขายังอุปการะเด็ก ความประพฤติที่ดีงามเหล่านี้ ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ยึดถือมาโดยตลอด


ในด้านการแสดงทางจอเงิน

ฝีมือเทคนิกการแสดงที่ยิ่งนานวันยิ่งเติบโตของนักแสดงนั้นเป็นต้นทุนสำหรับตัวของเขา โหย่วเผิงกำลังดิ้นหลุดจากคราบของไกวๆหู่ ดิ้นหลุดจากภาพลักษณ์ที่เบาะบาง และได้เบิกทางที่แสนกว้างของเขา ในขณะเดียวกัน สำหรับการที่เขากล้าพุ่งกล้าชนนั้น มันเป็นการท้าทายที่สุดขั่วในชีวิตของเขา และจะมีแนวโน้วในการจะสร้างภาพลักษณ์ที่สุดคลาสสิคของเขาอีกครั้ง และจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจากนักแสดงละครทีวีเป็นนักแสดงภาพยนตร์ของเขานั้นเริ่มได้ดีมาก และบรรยากาศในการเป็นศิลปินด้านนี้ในจีนนั้นไม่ค่อยสู้ดี การจะเดินเส้นทางนักแสดงภาพยนตร์นั้นก็เป็นเส้นทางหนึ่งที่ไม่รู้อนาคต

ตลอดเวลาที่ผ่านมา โหย่วเผิงนั้นมีภาพลักษณ์ที่ดีงามมาตลอด แต่ว่าในด้านธุรกิจนั้นกลับไม่ค่อยราบรื่น คิดว่า จากภาพลักษณ์ที่เขาได้สร้างมาตลอดนั้นสามารถที่จะทำให้เขากลายเป็นตัวแทนของศิลปินได้ และจากลักษณะและสิ่งที่ดีๆของเขานั้นสามารถที่จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าต่างๆมากมาย รวมทั้งเสื้อผ้าด้วย เช่น นาฬิกา โทรศัพท์ รถยนต์ คอมพิวเตอร์น่าจะเหมาะสำหรับเขา


70
<a href="http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2Fd29983cb.pbw" target="_blank" class="new_win">http://w184.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw184.photobucket.com%2Falbums%2Fx178%2Falec_002%2Fd29983cb.pbw</a>

19 มิถุนายน 2007 ให้พ่อแม่กลับมาคืนดีกัน ศิลปินโหย่วเผิงก็มีความหวังที่อยากจะมีบ้านที่สมบูรณ์

ภาพทรงจำของหลายๆคนนั้น ดาราโหย่วเผิงนั้นเป็นคนที่ สง่า ร่าเริง แต่มีใครทราบบ้าง ตอนเด็กนั้นการทะเลาะของพ่อแม่นั้นได้สร้างบาดแผลในใจเขา การแยกกันของพ่อแม่นั้นยิ่งทำให้เขาเป็นเหมือนเด็กกำพร้า เมื่อเติบโตกับกาลเวลา โหย่วเผิงก็สังเกตเห็นถึงพ่อแม่ที่แม้จะต่างคนต่างอยู่นั้นต่างก็ยังห่วงหามีเยื่อใยกันอยู่ และแล้ว เขาได้ใช้ความคิด กำลังของเขา ได้พยายามที่จะทำให้พ่อแม่คืนดีกันครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายทำให้ท่านทั้งสองต่างก็ไม่ถืออคติต่อกัน

พ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน โหย่วเผิงหนีออกจากบ้านเกือบไปตายต่างถิ่น


โหย่วเผิงเกิดเดือนกันยายน ปี 1973  ที่ไทเป คุณพ่อ (ซูหมิงเจีย) เป็นนักธุรกิจ คุณแม่ (วุ้ยจื่อหมิน) เป็นครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง โหย่วเผิงยังมีน้องชายคนหนึ่ง นับตั้งแต่โหย่วเผิงจำความได้ เสียงที่ได้ยินอยู่ข้างหูตลอดมาคือเสียงทะเลาะของพ่อแม่ เป็นวันเวลาที่นับไม่ถ้วน ที่เขาเห็นพ่อแม่ตีกันอย่างไก่ชน ทะเลาะกันอย่างรุนแรง เสร็จแล้วฝ่ายแม่ก็ไปนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ ฝ่ายพ่อก็ไปสูบบุหรี่อีกที่หนึ่ง


วัยเด็กของโหย่วเผิงนั้นได้เติบโตขึ้นท่ามกลางเสียงทะเลาะอย่างนี้ของพ่อแม่ บ้านที่แตกแยก ทำให้โหย่วเผิงขาดความร่าเริงในวัยเด็กของเขาไป แต่กลับเพิ่มความทุกข์ใจคละความหนักใจยากที่เด็กวัยนี้จะรับได้ ตอนนั้น โหย่วเผิงกลัวที่จะกลับบ้าน ทุกครั้งเมื่อแบกกระเป๋าถึงหน้าบ้าน จิตใจของเขาก็เริ่มกลัว ผวา ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะทะเลาะกันอีกหรือเปล่า

พ่อแม่ทั้งสองก็รู้ดีว่าการทะเลาะอย่างนี้นั้นมันทำร้ายจิตใจของลูก พวกเขาไม่อยากจะทะเลาะ แต่ว่าเมื่อโมโหขึ้น ไม่มีใครคุมอารมณ์อยู่ ทุกครั้งที่ทะเลาะเสร็จ ก็จะเห็นลูกทั้งสองคนมีสีหน้าที่ผวาไปหลบอยู่ในมุมมุมหนึ่ง จิตใจของเขาทั้งสองก็ยิ่งเจ็บปวด พวกเขาต่างคนก็ได้กอดลูกหนึ่งคน พูดกับลูกว่า “ลูกจ๋า ต่อไปพ่อแม่จะไม่ทะเลาะกันอีก”





71
Magazine Interviews-Thai / Special Magazing 2000 (สกุ๊ป)
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2010, 11:48:08 AM »

72
Magazine Interviews-Thai / 2000 แวะคุยกันก่อนกับซูโหย่วเผิง
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2010, 11:45:30 AM »
Special Magazing 2000 Vol.3



75
SINCERE 2004




77
SINCERE 2005


78
Magazine Interviews-Thai / 2007 ซูโหย่วเผิง เปิดตัวแฟนสาว
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2010, 11:33:28 AM »
Sincere Vol..5 2007 No.50 ISSN 1905-9655

ซูโหย่วเผิง เปิดตัวแฟนสาว

เดี๋ยวนี้ดาราศิลปินยอมเปิดเผยเรื่องความรักมากขึ้นแล้ว ว่าแต่แฟนสาวของซูโหย่วเผิง ที่จั่วหัวซะหราเนี่ยเป็นใครกันนะ แล้วเขาไปเปิดตัวกันที่ไหน...ต้องตามไปดู

Tencent Entertainment Service (เว็บไซต์ชื่อดังของจีนที่ทำหน้าที่ต่อเชื่อมไปสื่อบันเทิงต่างๆ) ได้จัดงานฉลองวันเกิดครบรอบสองปีที่สุดแสนอลังการขึ้นที่ Peking Starlive House โดยมีตัวแทนจากค่ายเพลงชื่อดังมากมายไปร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีศิลปินชื่อดังอย่าง ซูโหย่วเผิง ,ลี่เฟย,ซาร่า ,โบโบ ไปร่วมอวยพรอีกด้วย โดยเฉพาะ ซูโหย่วเผิง คราวนี้ไม่ธรรมดา อาศัยงานนี้จัดงานวันเกิดให้ตัวเองพร้อมกับจูงมือแฟนสาวมาร้องเพลงรักคู่กัน ทำให้บรรยากาศในงานที่คึกคักอยู่แล้วยิ่งคึกคักมากขึ้นไปอีก

หลังจากที่ซาร่าได้ออกมาโชว์ลีลาการเต้นที่สุดแสนจะร้อนแรง ตามด้วยเพลงรักสุดซึ้งที่ร้องโดยสี่เฟยแล้ว การปรากฏตัวบนเวทีของซูโหย่วเผิงก็ทำให้แฟนๆพากันกรี๊ดสนั่นแบบสุดๆ จนทำให้งานฉลองครบรอบ 2 ปีของ Tencent ดูเหมือนเป็นงานพบปะแฟนเพลงของซูโหย่วเผิงไปเลย วันนั้นซูโหย่วเผิงได้พาแฟนมาด้วย เขาจูงมือเธอขึ้นเวทีพร้อมกับร้องเพลงรักสุดซึ้ง “อ้ายฉิงเจี่ยนเจีย” คู่กัน ที่จริงแล้วแฟนสาวที่เราพูดถึงคนนี้ก็คือนางเอกละครเพลงของเขานั่นเอง โดยเธอได้รับคัดเลือกจากเว็บไซต์ QQ (แฟนในการแสดงว่างั้นเถอะ)

79
Mingxing Vol.57 2007


Alec Su & Jang nara

ซูโหย่วเผิงเยือนแดนกิมจิ โปรโมท "เตียวหมานกงจู่"

เมื่อไม่นานมานี้ ซูโหย่วเผิงบินไปกรุงโซล เกาหลีใต้เพื่อโปรโมทละครเรื่อง "เตียวหมานกงจู่" ที่กำลังแพร่ภาพที่เกาหลี ทางฝ่ายผู้จัดงานก็ได้ส่งบอดี้การ์ด 4 นายไปดูแลคุ้มกันซูโหย่วเผิงตลอด 24 ชั่วโง สื่อมวลชนเกาลีที่มาในงานแถลงข่าวครั้งนี้ถือว่ามีจำนวนไม่น้อย เวลาที่สื่อต่างๆเรียกซูโหย่วเผิงก็มักจะเพิ่มคำนำหน้าว่า "ดาราดังแห่งเอเชีย" ศิลปินที่โด่งดังที่สุดในวงการจีน, ดาราใหญ่, เป็นต้น ซึ่งมีดาราต่างชาติน้อยคนนักที่จะได้รับการยกย่องเช่นนี้ในเกาหลี

ในวันที่ซูโหย่วเผิงจะมาถึงกรุงโซล มีแฟนๆมากกว่า 100 คนไปยืนรอชูแผ่นป้ายต้อนรับที่สนามบิน ส่วนชาวเกาหลีที่อยู่ข้างๆ เมื่อทราบว่าซูโหย่วเผิงกำลังจะมาถึง พวกเขาก็รออยู่ที่นั่น ไม่ไปไหน และแล้วเมื่อโหย่วเผิงเดินออกมา สนามบินก็เกิดความอลหม่านวุ่นวายอยู่พันหนึ่ง แต่เขากลับไม่ได้รีบเดินหนีออกไป เขาทักทายและร่วมถ่ายรูปกับแฟนๆ ชาวเกาหลีที่มารออยู่หลายชั่วโมงอย่างใกล้ชิด เป็นกันเอง

ร่วมร้องเพลงกับจางนารา

แรกเริ่มเดิมที กิจกรรมโปรโมทละคร "เตียวหมานกงจู่" ครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน แต่เนื่องจากจำนวนสื่อมวลชนและแฟนๆมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาจัดที่โรงแรมโชซอนชื่อดังของกรุงโซลแทน สาวน้อยจาง นารา (ซัง นารา) ที่ร่วมแสดงกับซูโหย่วเผิงในเรื่องนี้ก็มาร่วมงานด้วยในงานทั้งซูโหย่วเผิงและจาง นารา ต่างได้รับรางวัลจากทางสถานี "จงหัว TV" เพื่อเป็นการขอบคุณทั้งสองที่ช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจีน - เกาหลี นอกจากซูโหย่วเผิงจะบินมาร่วมงานโปรโมทละครแล้ว เขายังจัดงานแฟนมีทติ้งด้วย โหย่วเผิงทั้งร้องทั้งเต้นโชว๊ลีลาเต็มที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ด้านล่างเวทีได้ไม่หยุด เพิ่งจะผ่านพ้นวันเกิดของโหว่วเผิงมาไม่นาน แฟนๆ ชาวเกาหลีจึงอวยพรด้วยการร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เวอร์ชั่นเกาหลีให้ฟัง พร้อมกับมอบของขวัญเยอะแยะมากมายที่บรรจงทำด้วยตัวเอง จากนั้งซูโหย่วเผิงและจาง นารา ก็ร่วมร้องเพลง ประกอบละคร "เตียวหมานกงจู่" อีกเพลง ทำให้บรรยากาศในงานดูคึกคักมากขึ้น

สื่อเกาหลีลงข่าวซูโหย่วเผิงเยือนเกาหลี

ละคร "เตียวหมานกงจู่" เคยแพร่ภาพที่จีนเมื่อปี 2005 และสร้างกระแสโด่งดังไปทั่ว แถมยังได้เรตติ้งเป็นอันดับ 1 ด้วย แฟนๆ ชาวเกาหลีเองก็รอคอยอยากที่จะดูละครเรื่องนี้เช่นกัน จนในที่สุดก็ได้นำเข้ามาฉายที่ประเทศตน

สำหรับการได้ร่วมงานกับ จาง นารา ซูโหย่วเผิงพูดชมว่า "จาง นารา ฉลาดมากครับ เป็นนักแสดงที่แสดงเก่งคนหนึ่ง" เขายังพูดหยอดท้ายว่า "หลังจากถ่ายละครเสร็จ ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยนัก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะร่วมงานกับจาง นารา อีกครั้งครับ"

ทางด้านจาง นาราก็บอกว่า "ช่วงที่ถ่ายทำละคร ซูโหย่วเผิงดูแลฉันตลอดเหมือนพี่ชายแท้ๆเลยค่ะ เขาแสดงละครเก่งมาก แล้วก็มักจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆ เวลาอยู่ในกองถ่าย ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนผู้นำเลยค่ะ" หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมต่างๆซูโหย่วเผิงก็เดินทางออกจากเกาหลีทันทีวันต่อมา สื่อมวลชนเกาหลีต่างก็ลงข่าวรายงานการมาเยือนเกาหลีของซูโหย่วเผิงเสียยาวเหยียด

80
MingXing : Vol.21 August 2005 P.32-33

ซูโหย่วเผิง Top 5 นักแสดงต่างชาติขวัญใจสาวกิมจิ

ไม่หยุดความแรงไว้ให้อาหมวยจีนได้กรี๊ดกันเท่านั้นตอนนี้ซูโหย่วเผิงมาแรงแซงทางโค้งขึ้นแท่นเป็นดาราหนุ่มในดวงใจสาวๆ เกาหลีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งช่วงที่ผ่านมาผลงานที่เขาได้แสดงร่วมกับดาราสาวเกาหลีก็ออกฉายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นละครสุดโรแมนติกเรื่อง Love of the Aegean sea หรือละครจีนกำลังภายในอย่าง Tiger Brother ที่ซูโหย่วเผิงประกบคู่กับดาราสาวแชริม รวมทั้งเรื่องล่าสุด Sassy Princess ที่ได้จางนารามารับบทคู่กัน ก็ยิ่งทำให้กระแสความดังของหนุ่มคนนี้นับวันจะเปรี้ยงปร้างมากขึ้นในเกาหลี และไม่ว่าซูโหย่วเผิงจะจัดงานแถลงข่าวหรือปรากฎตัวขึ้นที่ใดก็จะมีสาวๆกิมจิแห่แหนกันมาให้กำลังใจล้นหลามไปเสียทุกครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนของปีนี้เป็นต้นมา ซูโหย่วเผิงกลายเป็น Topic สุดฮอตของสาวๆ เกาหลีในเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Yahoo และ Naver เรื่องราวของเขาถูกตั้งเป็นกระทู้อยู่ไม่ขาดสายเลยทีเดียว จนในที่สุดซูโหย่วเผิงก็ได้กลายเป็น 1 ใน Top5 ของนักแสดงต่างชาติที่สาวๆเกาหลีชื่นชอบมากที่สุดและที่น่าปลื้มใจยิ่งกว่าก็คือ เขาเป็นดาราชายเพียงคนเดียวจากอันดับ 1-5 ซึ่งมีรายชื่อดังนี้

1. ก่งลี่(นักร้องหญิงจีนยอดนิยม)
2. Avril Lavigne
3. Brooke Christa Shields
4. Beyonce
5. ซูโหย่วเผิง



ซูโหย่วเผิง "หนุ่ม Time Tele-Movic" VS พรีเซ็นเตอร์โฆษณา


ในที่สุดผลการคัดเลือกหา "หนุ่ม Time Tele-Movie" ของนิตยสาร "Time Tele-Movie ซึ่งเป็นนิตยสารบันเทิงชั้นนำของจีนก็ผ่านพ้นไปโดยเสียงโหวตจากแฟนๆ นิตยสารต่างก็พร้อมใจกันเทคะแนนให้กับดาราหนุ่มไต้หวัน

ซูโหย่วเผิงคนนี้ แต้มของเขาเป็นต่อนักแสดงชายคนอื่นแบบกินขาด ไม่ว่าจะเป็นฝางจู่หมิง หวงไห่ปิง และ พานเหว่ยป๋อ ก็ต้องยกธงขาวยอมให้กับความแรงไม่ยั้งของซูโหย่วเผิงในชั่วโมงนี้ และแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นแต่เขาก็กล่าวว่า

"ผมดีใจมากครับและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ตำแหน่งที่ได้รับในครั้งนี้ผมขอมอบให้กับแฟนๆ ทุกคนที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างผม เป็นกำลังใจให้ผมมาโดยตลอด และหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อตอบแทนแฟนหนังแฟนละครของผมที่อยู่ในเมืองจีนด้วยครับ"

นอกจากนี้ซูโหย่วเผิงยังจับมือกับบริษัท รองเท้าชั้นนำของจีนเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้รองเท้าเดินทางคอลเลคชั่นใหม่ของปีนี้ ทางด้านผู้บริหารบริษัทแสดงความยินดีอย่างชัดเจนถึงโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมงานกัน

"ก่อนหน้านั้นเราได้สำรวจตลาดเพื่อดูว่าภาพลักษ์ของนักแสดงคนใดเหมาะกับสินค้าของเราที่สุด ซูโหย่วเผิงมีบุคลิกร่างเริงแจ่มใสเต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา และเขาก็ยังหมั่นพัฒนาทักษะทางการแสดงของตัวเองอยู่เสมอ นอกจากนี้เขายังทุ่มเทให้งานเป็นอย่างมาก ช่วงที่ถ่ายทำโฆษณาต้องกินเวลาช่วงวันหยุดแรงงานแถมยังต้องไปถ่ายที่เมืองอู๋ซีที่นั่นอากาศร้องมากด้วย แต่ซูโหย่วเผิงก็พยายามสุดความสามารถของเขาเลย"

และทันทีที่โฆษณาแพร่ภาพออกไปยอดขายสินค้าก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างงดงามงานนี้นับว่าประสบความสำเร็จร่วมกันทั้งสองฝ่ายเลยก็ว่าได้


7011_469904943048004_975729437_n.jpg" border="0

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7