ผู้เขียน หัวข้อ: [2015.11.27] ให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ  (อ่าน 2980 ครั้ง)


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13319
    • ดูรายละเอียด
Re: [2015.11.27] ให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 24, 2016, 01:00:52 PM »
ซูโหย่วเผิงพูดเรื่องความฝัน 5 คำจากหวงจื่อเจี่ยวกระแทกใจเขา

ค่ำวานนี้ (26 พฤศจิกายน) ซูโหย่วเผิงและหวงจื่อเจี่ยว (黄子佼) ได้เข้าร่วมกิจกรรม “เวทีความฝัน” ได้แบ่งปันแผนในอนาคตของกันและกัน ทั้งสองมีอายุห่างกันเพียง 1 ปี แต่ทั้งคู่ก็เข้าสู่วงการบันเทิงปีเดียวกันในปี 1988 คำพูดหนึ่งประโยคของหวงจื่อเจี่ยว “เข้าวงการมา 27ปี” คำนี้  ทำให้ซูโหย่วเผิงรู้สึกถึงร่องรอยแห่งกาลเวลาที่ผ่านไป บนใบหน้าปรากฏความรู้สึกที่ลึกล้ำ ทำให้ที่นั่นค่อนข้างมีชีวิตชีวาและเสียงหัวเราะ เขาเกือบได้รางวัลม้าทองคำสาขาผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม เขาบอกอย่างถ่อมตนว่า “นั่นหมายความว่าควรจะสงบจิตสงบใจ และตั้งใจต่อไป” เขาได้เผยต่อว่าภาพยนตร์เรื่องที่ 2 กำลังเริ่มเตรียมตัวแล้ว เป็นเรื่องที่ยากเรื่องหนึ่งเลย หวงจื่อเจี่ยวก็ได้ให้กำลังใจว่า “ครั้งต่อไปก็คว้ารางวัลผู้กำกับนะ”

ทั้งคู่ ทั้งร้องทั้งพูดคุยกันอย่างสนุนสนานบนเวที ซูโหย่วเผิงเผย “ตอนนั้นผมกำลังเรียกแท็กซี่อยู่ ถ้าหากว่ารถไม่หยุด ก็จะทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอาย” หลังจากนั้น เขาก็แบกความฝันไปสมัครคัดเลือก อาศัยได้คุณน้าขอเพื่อนสอนเต้นพื้นเมือง เขายิ้มและบอกว่า “ตอนนั้นเลือกเพลง รองเท้าเต้นสีแดงที่ไม่อยากหลับ (不想睡的红舞鞋) ของวงเฉิงซื่อซ่าวหนี่ (城市少女)” ด้วยเหตุนี้เองจึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกวงเสี่ยวหู่ตุ้ย ปัจจุบัน ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือ ทำเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวให้ดีที่สุด นั่นก็รวมไปถึงการสร้างภาพยนตร์ด้วยอย่างแน่นอน”

▲ ซูโหย่วเผิง (ซ้าย) และหวงจื่อเจี่ยว อยู่บนเวทีแห่งความฝันสนทนากันอย่างสบายใจ

▲ ซูโหย่วเผิง (ซ้าย) และหวงจื่อเจี่ยวเข้าสู่วงการบันเทิงปีเดียวกัน และก็เป็นเพื่อนรักกันมานาน

ทั้งคู่ได้พบกันที่งานม้าทองคำครั้งที่ 52 หวงจื่อเจี่ยวเป็นพิธีกรในงานนั้น ซูโหย่วเผิงก็เข้าร่วมงานในฐานะผู้เข้ารอบและผู้ประกาศรางวัล เขาเผย “บางทีนี่ก็ใกล้เคียงกับคำว่าคิดถึง ตั้งแต่ต้นจนจบงาน ผมรู้สึกตื้นตันมาก” ในภาพยนตร์เรื่อง L-O-V-E (爱到底) ที่หวงจื่อเจี่ยวกำกับ เขาก็ได้ไปเป็นนักแสดงรับเชิญด้วยมิตรภาพส่วนตัว แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันยาวนานของทั้งคู่ เมื่อการสนทนามาถึงเรื่องการความแตกต่างระหว่างนักแสดงและผู้กำกับ เขาเผยว่า “เป็นผู้กำกับต้องดูแลไปหมดทุกอย่าง ผมให้อิสระในการสร้างสรรค์กับทุกคน แต่ก็ยังมีข้อกำหนด ยังมีบางอย่างให้กับนักแสดง”

▲ ซูโหย่วเผิง (ซ้าย) และหวงจื่อเจี่ยว ตั้งใจและไม่ประมาทในหน้าที่การงานของตัวเอง











Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13319
    • ดูรายละเอียด
Re: [2015.11.27] ให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 24, 2016, 01:13:59 PM »
<a href="https://www.youtube.com/v/?v=Gx4S2UXDNew" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/?v=Gx4S2UXDNew</a>

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13319
    • ดูรายละเอียด
Re: [2015.11.27] ให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 24, 2016, 01:17:32 PM »
【GQ梦想讲堂】跑道随时可以突破从乖乖虎进化成新导演─苏有朋
http://www.gq.com.tw/life/culture/content-24845.html

“GQ เสวนาความฝัน” บนเส้นทางพัฒนาจากไกวไกวหู่สู่ผู้กำกับมือใหม่-ซูโหย่วเผิง

เมื่อพูดถึงซูโหย่วเฟิงจะคิดถึงช่วงเวลาไหน เป็นไกวไกวหู่ที่ร้องเพลง “ชิงผิงกว่อเล่อหยวน”? หรือเป็นอู่อาเกอจากองค์หญิงกำมะลอที่แสดงได้อย่างเข้าถึงบทบาทกับจ้าวเวย? จากไอดอลกลายเป็นนักแสดง มีรางวัลมากมายมารับประกัน กระทั่งปีนี้ก็หันไปจับงานด้านการกำกับ ทำ “โจ่วเอ่อ” ผลงานเรื่องแรกขึ้นมา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำรายได้ที่จีนกว่า 2500 ล้าน ยังได้เข้ารอบชิงรางวัลม้าทองคำสาขาผู้กำกับมือใหม่ยอดเยี่ยมประจำปีนี้อีกด้วย ดูเหมือนจะเป็นความสำเร็จอันงดงาม แต่เขากลับบอกว่าเป็นเพราะโชคดี ในความเป็นจริงแล้วซูโหย่วเผิงก็ยังคงตำหนิผลงานของตนเองอยู่ บนเส้นทางแห่งความฝันเส้นนี้ เขาหกล้มคลุกคลานหลายครั้งกว่าจะถึงเส้นชัย ปีนี้ GQ Men of the year เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ซูโหย่วเผิงและหวงจื่อเจี่ยวมาร่วมแบ่งปันความฝันของตัวเอง เพื่อนรักทั้งสองที่รู้จักกันมาร่วม 27 ปีแล้วไปแล้ว จะมีความฝันที่น่าสนใจแบบไหนกัน? ก่อนที่จะเริ่มบรรยาย พวกเราก็เชิญซูโหย่วเผิงมานั่งคุยกันซักครู่ มาฟังกันว่าผู้กำกับหน้าใหม่คนนี้ มีความคิดเกี่ยวกับ “ความฝัน” อย่างไร?   

GQ:ตั้งแต่เสี่ยวหู่ตุ้ยถึงตอนนี้ ความฝันของคุณเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรือว่าก้าวไปตามทางที่ตัวเองได้วางแผนไว้?

ซูโหย่วเผิง:ที่จริงแล้วความฝันของผมจะแตกต่างไปกันตามช่วงเวลา ยกตัวอย่างเช่นช่วงที่อยู่วงเสี่ยวหู่ตุ้ย ที่นอกจากจะต้องทำเรื่องเรียนให้ดีแล้ว ตอนนั้น ความหวังที่สูงที่สุดก็คือจะร้องเพลงให้ดี พัฒนาทักษะการร้องเพลงของตัวเอง หรือช่วงที่เปลี่ยนตัวเองเป็นนักแสดง ที่สำคัญที่สุดก็คือทำให้ผู้ชมรู้ว่าผมก็แสดงละครเป็นนะ ดังนั้นความฝันในช่วงนั้น นอกจากที่จะพัฒนาทักษะการแสดงให้ดีขึ้นแล้ว ก็ยังต้องแสดงให้เข้าถึงทุกบทบาทที่ได้รับ 10 ปีมานี้ ผมก็เปลี่ยนบทบาทอีกครั้งหนึ่ง เป็นนักแสดงภาพยนตร์ คิดเริ่มอยากท้าทายทักษะการแสดงที่ผมมี ดังนั้นก็เลยเลือกรับแต่บทที่ยากๆ บังคับตัวเองให้กลายเป็นนักแสดงมืออาชีพ ยกตัวอย่างเช่นไป๋เสี่ยวเหนียน (白小年) จากเรื่อง The Silent War (听风者- ทิงเฟิงเจ่อ) หลี่ซูเจี๋ย (李苏杰) จากเรื่อง A Tibetan Love Song or The Love Song of Kang Ding (康定情歌-คังติ้งฉิงเกอ) หวังจื้ออี้ (王志毅) จากเรื่อง Sweet Alibis (甜蜜杀机-เถียนมี่ซาจี) ล้วนแต่เป็นบทบาทที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ล้วนแต่มีส่วนต่อการเติบโตของผมทั้งนั้น

GQ:นักร้อง นักแสดง ผู้กำกับ บทบาทไหนที่ยากที่สุดสำหรับคุณ?

ซูโหย่วเผิง:ปัญหานี้คล้ายๆกับเกมที่มีเป็นด่านๆ ที่จริงแล้วทุกๆช่วงล้วนแต่มีช่วงที่ยากลำบาก  เช่นช่วงที่อยู่ในเสี่ยวหู่ตุ้ย ผมคิดว่าการจะร้องเพลงให้ออกมาดีนั้น ยากมาก ต้องระวังการออกเสียง ทักษะการร้อง รวมไปถึงการเต้น ในตอนนั้นรู้สึกว่ายากมาก พอกลายเป็นนักแสดงแล้ว จะแสดงออกมาให้ดีก็กลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายครั้งใหญ่ แค่ทำความเข้าใจบทบาทก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่แล้ว ยังต้องหาวิธีสื่อมันออกมาอีกด้วย แน่นอนว่าการเปลี่ยนบทบาทเป็นนักแสดงก็เป็นความยากลำบากอีกหนึ่งระดับ นักแสดงต้องมีความเข้าใจในเนื้อเรื่องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นต้นเรื่องหรือท้ายเรื่อง ถึงจะสามารถทำผลงานที่ดีออกมาได้ ดังนั้นเมื่อผมมาชิมลางด้านถ่ายภาพยนตร์ พอมองย้อนกลับไปดูก็รู้สึกว่าไม่ยากอีกต่อไป

GQ:ถ้าหากว่ามีคนพูดถึงซูโหย่วเผิง คุณคิดว่าอยากให้เขารู้จักคุณในฐานะอะไร หรือมีความสำเร็จแบบไหน?

ซูโหย่วเผิง:ดูเหมือนว่าผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย (ยิ้ม) ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นเสี่ยวหู่ตุ้ย เป็นนักแสดง หรือเป็นผู้กำกับในตอนนี้ ผมก็หวังว่าจะสามารถมอบภาพลักษณ์ที่มีประโยชน์ให้กับทุกคนและสังคม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะกำหนดว่าตอนนี้ผมอยู่ในบทบาทไหน

GQ:ในการเปลี่ยนแปลงทั้งสองครั้งของคุณล้วนแต่ได้รับผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม คุณคิดว่าอะไรที่ช่วยให้มันประสบความสำเร็จ?

ซูโหย่วเผิง:สิ่งที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นเพราะโชคดี ผมต้องยอมรับว่าตอนที่เป็นนักแสดงและเป็นผู้กำกับนั้น ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนหลายๆคน ความช่วยเหลือของพวกเขาล้วนเป็นส่วนที่ทำให้ได้รับผลที่ปรากฏในทุกวันนี้ แน่นอนว่าก็ได้พบกับอุปสรรคเช่นกัน ตัวผมเองก็เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆอยู่แล้ว ในช่วงลุ่มๆดอนๆ ก็จะมานั่งวิเคราะห์ว่าตัวเองมีส่วนไหนบ้างที่ต้องปรับปรุง ใช้จิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ไปจัดการในทุกๆรายละเอียด ที่จริงแล้วผมค่อนข้างมีแนวโน้มที่จะกดดันตัวเอง มักบังคับตัวเองให้ร้อนรนอยู่เสมอ เมื่อได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้วถึงจะปล่อยมือ

GQ:ผลงานชิ้นต่อไปเลือกผลงานของเคโงะ ทาคาชิโนมาทำ ความคิดคร่าวๆตอนนี้คืออะไร?

ซูโหย่วเผิง:หลังจากเรื่องที่ผมจะนำผลงานของอาจารย์เคโงะมาถ่ายเผยออกมา แฟนหนังสือทั้งหมดล้วนแต่ถามผมว่าจะถ่ายอย่างไร? ทำไมถึงถ่าย? ตอนแรกไม่ได้มีความกดดันอะไรมากนัก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว ที่จริงแล้วความสงสัยทั้งหลายก็จะถูกนำมาพิจารณาแน่นอน แต่ก็ยังคงเอาความคิดของตัวเองเป็นหลักไว้ก่อน ไม่ใช่เปลี่ยนความคิดของตัวเองเพราะความเห็นของพวกเขา สำหรับผมแล้ว ต้องให้ความสำคัญกับตัวเนื้อเรื่องไว้ก่อน ถึงจะสามารถทำผลงานที่ตรงกับจินตนาการออกมาได้ ประกอบกับครั้งนี้ก็ได้หวงจื้อหมิงมาเป็นโปรดิวเซอร์เหมือนเดิม ทั้งยังเป็นการร่วมมือในระดับนานาชาติ  ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือในการถ่ายทำมากมาย เชื่อว่าจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่สามารถเข้าไปตราตรึงในใจของผู้คนออกมาได้

GQ:สำหรับคนที่อยากทำความฝันให้เป็นจริง คุณอยากจะแนะนำอะไรแก่พวกเขา?

ซูโหย่วเผิง:ความฝันเรียกได้อีกอย่างว่า ความคาดหวัง การไม่ยอมแพ้ หรืออาจเรียกได้ว่าการทำในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นความหมายไหน สิ่งที่สำคัญก็คือการปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้เป็นไปตามกาลเวลา เมื่อพบช่วงเวลาที่ดีๆ ก็สามารถทำให้มันดียิ่งขึ้นไป แต่ในขณะที่พบกับความทุกข์ยากก็ต้องมีนิสัยที่ไม่กลัวการหกล้ม อดทนต่อความเป็นไปได้ที่จะพ่ายแพ้ และพยายามไล่ตามความฝันที่ตนเองมีต่อไป เมื่อคนอื่นบอกคุณว่าคุณทำในสิ่งไม่ดีอยู่ ก็แสดงว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้ว

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13319
    • ดูรายละเอียด
Re: [2015.11.27] ให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2016, 01:41:46 PM »