ชื่อ สกุล . ซูโหย่วเผิง
อาชีพ . นักแสดง
ประวัติส่วนตัว
คำว่าโหย่วเผิงนั้นเป็นชื่อมาจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ของชาวจีน คุณแม่ของเขาได้เกิดในวันนั้น และวันเกิดโหย่วเผิงก็ตรงกับวันนั้นด้วย ฉะนั้นก็เลยมี 月 เดือนสองตัวมารวมกันก็เลยกลายเป็นเผิง
ปี 1989 โหย่วเผิง จื้อเผิง ฉีหลงได้รวมตัวกันก่อตั้งเสี่ยวหู่ตุ้ย ปี 1991 เสี่ยวหู่ตุ้ยแยกทางกัน
ปี 1998 ได้เล่นละครโทรทัศน์ (องค์หญิงกำมะลอ) ได้เป็นศิลปินดังอีกครั้งหนึ่ง
ปี 2009 ฝีมือการแสดงโดดเด่นจากเรื่องเฟิงเซิงที่เล่นในบทของไป๋เสี่ยวเหนียน
15 ปี โหย่วเผิง จื้อเผิง ฉีหลงได้ร่ำลาชีวิตของมัธยมปลาย ได้มาตั้งเสี่ยวหู่ตุ้ยซึ่งดังระเบิดในใต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นรูปโปสเตอร์ต่างๆของพวกเขาได้ถูกติดตามท้องถนนหรือตรอกซอยเป็นว่าเล่น ไกวๆหู่ที่เดียงสานั้นยังมีความเขินอายอยู่เลย
มีชื่อเสียงแต่เด็ก ทำให้เขากลายเป็นบุคคลตัวอย่างของเหล่านักเรียน ช่วงหนึ่งที่เขาพยายามทำตัวให้สมกับตำแหน่งที่ทุกคนให้กับเขา เพื่อจะสอบเข้ามหาลัยให้ได้ เขาตัดสินใจหยุดงานหนึ่งปี ตั้งใจเรียน สุดท้ายก็สอบเข้ามหาลัยไต้หวันคณะช่างกล ตอนนั้นเขาไม่เคยคิดถึงว่าชอบสายนี้หรือเปล่า สิ่งที่ตั้งใจที่สุดคือต้องสอบให้ได้คะแนนสูงๆ จะเลือกเรียนคณะที่ยอดนิยม เพราะคิดว่าทำอย่างนี้แล้วจะทำให้คนอื่นจะไม่ดูถูก
โหย่วเผิงบอกว่าเขาเสมือนสิ่งของทดลองชิ้นหนึ่ง “ตอนนั้นคำถามนี้เกิดขึ้นกับผม ผมได้ตั้งใจเรียนขนาดนี้ เพื่อจะเป็นนักเรียนต้นแบบในใจของทุกคนที่หวังไว้อย่างนั้นหรือ หรือว่าเรียนเพื่อตัวเอง ตอนนั้นคนอื่นดูผมแล้วเป็นคนที่เพรอร์เฟรก เรียนเก่ง ทำงานเก่ง สามารถพูดได้ว่าการงานที่ดีของผมนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการเรียนผมด้วย แต่การทำงานนั้นมักจะกระทบต่อการเรียนผม ผมไม่สามารถที่จะสร้างความสมดูลย์ในสองเรื่องนี้ได้”
โหย่วเผิงสัมผัสถึงการสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างในสมัยวัยรุ่นไป เขาไม่มีเวลาส่วนตัวเลย คนวัยเดียวกันนั้นมีเวลาไปเที่ยวเล่นกัน ไม่ต้องห่วงอะไรมากมาย แต่เขากลับไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นความเสียใจที่ไม่อาจลืมของเขา “สิ่งที่ผมเสียใจที่สุดคือครั้งหนึ่งผมเดินผ่านประตูโรงเรียนแห่งหนึ่ง มองเห็นนักเรียนมากมายเดินออกมา กลุ่มละสามห้าคน ใจผมนั้นมันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากๆ มันสะเทือนใจผม อยากจะหลุดพ้นตัวเอง อยากไปทำงานในร้านอาหาร อยากไปหาชีวิตที่แท้จริงของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง”
อีกครั้งที่ทุกคนหันไปสนใจโหย่วเผิงคือปี 1998 เรื่ององค์หญิงกำมะลอได้ดังไปทั่วสารทิศ อู่อาเกอที่โหย่วเผิงแสดงนั้นมันฝังใจผู้ชม จากจุดนั้นทำให้เขาได้เข้าสู่วงการแสดงอย่างไม่ยากเย็น ชีวิตแห่งการแสดงที่พริกผันนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิด คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้หลังจากที่ฉายในไต้หวันแล้ว มันดังระเบิดขึ้นในทันใด และระเบิดลูกนี้ยังอิทธิพลถึงจีน ฮ่องกงและเอเซียตะวันตกเฉียงใต้ด้วย และเฟิงเซิงในปี 2009 ที่โหย่วเผิงเล่นในบทของไป๋เสียวเหนียน ทำให้ทุกคนเห็นถึงฝีมือการแสดงของเขาอีกครั้ง จากจุดนี้ทำให้เขาพลิกเปลี่ยนไปแสดงภาพยนตร์
ราตรีตรุษจีนของปีนี้ เสี่ยวหู่ตุ้ยได้ทำความฝันของหลายๆคนเป็นจริง โหย่วเผิงกล่าวว่า “ มันยังทำความฝันผมเป็นจริงอีกด้วย อยากรู้ว่ามีวงไหนบ้างที่แยกวงไปตั้งนานแล้วยังมีแฟนๆรอคอยการกลับมาของพวกเขาอีก ? มันเป็นอะไรที่น่าภูมิใจมากๆ เมื่อยืนอยู่ในจุดนี้คิดแล้ว มันเป็นอะไรที่ต้องขอบคุณจริงๆ ทุกคนล้วนคิดถึงเสี่ยวหู่ตุ้ย พวกเราก็รู้สึกคิดถึงทุกคนเหมือนกัน”
ช่วงนี้โหย่วเผิงได้เขียนในเว็ปบล็อคของตัวเองว่า “วันนี้ได้มาจัด iTunes ของตัวเองแล้วเจออัลบั้ม(อี่เฉียนอี่โฮ่ว)นี้ บางอย่างก็ไม่ค่อยรู้จักแล้ว บางอย่างก็ยังอยู่ในความทรงจำอยู่ อยากจะแบ่งปันความรู้สึกที่แตกต่างกันให้กับทุกคน” สำหรับโหย่วเผิงแล้ว ช่วงเวลาเสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นช่วงที่มีคุณค่าและไม่มีอะไรมาแทนได้ “ทุกวันเราสามคนจะอยู่ด้วยกัน” แต่เวลานี้พวกเราต่างคนต่างไปแล้ว ความสนิทสนมที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาของสมัยก่อนกับวันนี้ที่อยู่ด้วยกันนั้นความรู้สึกมันต่างกัน”ming