ผู้เขียน หัวข้อ: [2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ฯล  (อ่าน 2574 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13289
    • ดูรายละเอียด
专访苏有朋:和贾樟柯同拍东野圭吾作品,没啥怕的!
http://ent.ifeng.com/a/20160330/42597895_0.shtml?_share=sina&tp=1459267200000
[2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ถ่ายหนังซึ่งดัดแปลงจากนิยายของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ กลัวซะที่ไหน!

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13289
    • ดูรายละเอียด
Re: [2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ฯล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2016, 11:08:39 AM »

สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ถ่ายหนังซึ่งดัดแปลงจากนิยายของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ กลัวซะที่ไหน!
วันที่ 30 มีนาคม 2559 เวลา )08:07

ซูโหย่วเผิงรับการสัมภาษณ์กับเฟิงหวงบันเทิง

     เฟิงหวง entertainment news (โดย บิ๊กสตาร์)เพิ่งจะร่วมงานมงคลสมรสของ เพื่อน อู๋ฉีหลง กันไปหมาด ๆ ซูโหย่วเผิงก็รีบบินกลับมาฮ่องกงเลย ค่ำวันที่ 23 ผลงานสารคดีของเขา “ต้ามาบนถนนแห่งความสุข”เข้าฉายเป็นวันแรก สารคดีเรื่องนี้ถ่ายทำขึ้นเนื่องจากคำเชิญชวนของ “เหม่ยฮาวเหอยี 2016 - หนังสั้นอาจารย์” โดยยังมีผู้กำกับอย่าง คุณ เจียจางเคอ คุณกวานจิ่นเผิง และคุณ นากาตะ ฮิเดโอะ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่อาจารย์ ซูโหย่วเผิงบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า “เขาทั้งสามล้วนแต่เป็นปรมาจารย์ทั้งนั้น ผมแค่มาเพื่อเรียนรู้เฉยๆครับ”

    ถึงแม้ว่า“ต้าซือ(ปรมาจารย์)”จะเป็นคำที่สูงเกินไปสำหรับซูโหย่วเผิงในตอนนี้ แต่ในฐานะที่เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งด้านนักร้อง นักแสดง ในปีที่ผ่านมา ซูโหย่วเผิง “ผันตัว”มาเป็นผู้กำกับแทน หลังจากที่ผันตัวสู่เบื้องหลังแล้ว โดยผลงานกำกับการแสดงหนังเรื่องแรกของเขา จั๋วเอ่อ ทำยอดรายได้เกือบ ห้าพันล้านหยวน ในปีเดียวกันได้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัล ม้าทองคำไต้หวัน จนได้รับรางวัลผู้กำกับใหม่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมอีกด้วย หลังจากได้กำกับหนัง จั๋วเอ่อ แล้ว ซูโหย่วเผิงประกาศจะเริ่มหนังเรื่องที่สองของเขา ที่ถูกดัดแปลงจากนวนิยายญี่ปุ่นชื่อดังของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ เรื่อง “การปรากฏตัวของผู้ต้องสงสัย X”

จากหนังวัยรุ่นสู่หนังระทึกขวัญ ซึ่งมีความแตกต่างกันไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อถามถึงสาเหตุแล้ว ซูโหย่วเผิงพูด ตรงไปตรงมาว่า “หัวข้ออื่นสำหรับผมแล้วคิดว่า ดูตื้น ดูเป็นธุรกิจเกิน และน่าเบื่อเกินไป”เขาอยากจะท้าทายดู และตัวแทนผู้กำกับหกสมัยอย่าง คุณ จางเจียเค่อ ก็ได้เข้าร่วมการถ่ายทำสารคดีในครั้งนี้ด้วย อีกทั้งยังเผยว่า ในปีนี้ เขาเองก็กำลังจะถ่ายทำหนังจากนิยายของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ เช่นกัน ทั้งสองจะถูกเปรียบเทียบนั้นเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้แน่นอน ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่า จั๋วเออ จะสามารถทำยอดได้มหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน  ก็ได้รับคำวิจารณ์ไม่น้อยเหมือนกัน  แฟนคลับของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ คงตั้งตารอคอยผลงานดัดแปลงครั้งนี้ด้วยความหวัง หรืออาจจะด้วยความสงสัย เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ผลงานใหม่ของซูโหย่วเผิงได้รับการติดตามมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับ ซูโหย่วเผิง แล้ว เขาเองก็ไม่ได้กดดันมาก “ไม่ได้กลัวอยู่แล้วครับ ถ้าจะต้องทำก็ทำให้มันออกมาดีที่สุดครับ”เขาพูดพรางอมยิ้มไปด้วย

ซูโหย่วเผิง ผู้โฟกัสไปที่ผู้กำกับเป็นหลัก เขามีความแน่วแน่กับการตัดสินใจในครั้งนี้ ผมเป็นคนค่อนข้างหัวรั้นเหมือนกัน พูดแล้วว่าจะทำ ทำแล้วจะไม่กลับมาอีก ซูโหย่วเผิง อายุ 43 แล้ว และเคยเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาถึง 7 ครั้ง แต่เขากลับไม่รีบร้อนหรือร้อนรนเลย “คุณจะแน่ใจได้อย่างไงว่าการแต่งงานไม่ใช่ภัยพิบัติอีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้ผมค่อนข้างเข้าใจนะครับ”ซูโหย่วเผิงกล่าว


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13289
    • ดูรายละเอียด
Re: [2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ฯล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2016, 11:10:08 AM »

ซูโหย่วเผิงและผู้กำกับอีกสามท่านร่วมเป็นผู้กำกับในกิจกรรม <อาจารย์•สารคดีเรื่องสั้น>

ถ่ายคุณป้าปักกิ่ง : อันนี้เป็นความสนใจของผม ผมชอบเรื่องราวที่เป็นความจริง

เฟิงหวงบันเทิง : เราค่อนข้างแปลกใจที่ครั้งนี้คุณเลือกถ่ายทำเรื่องราวชีวิตบ้านๆแบบคุณป้าปักกิ่ง ทำไมถึงเลือกนำเสนอเรื่องราวของบุคคลเหล่านี้ล่ะครับ

ซูโหย่วเผิง: งบประมาณที่เขาให้มามีจำกัดครับ เวลาก็ค่อนข้างกระชั้นชิด ตอนนั้นผมกำลังเตรียมเรื่อง “การปรากฎตัวของผู้ต้องสงสัย X” ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยุ่งมากมาย แต่ผมไม่สามารถออกจากปักกิ่งไปได้ เลยเลือกทำเรื่องราวนี้ เริ่มถ่ายทำตั้งแต่สิ้นปีจนถึงต้นปีตามปฏิทินจันทรคติ

เริ่มแรกเลย โจทย์ที่เขาให้มาคือต้องสอดคล้องกับ “สิ่งที่งดงาม ดีงาม”ตอนนั้นผมก็เริ่มคิดแล้วล่ะ ผมคิดว่าจะมีความสุข แฮปปี้ไปกับทุกเรื่องมันก็ไม่ใช่ ชีวิตคุณจะสดใส มีความสุขตลอดเลย มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือครับ? ผมคิดว่า ความสุขถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานของความลำบากของชีวิต คุณจะสามารถเห็นถึงสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของชีวิต จากบุคคลธรรมดาเหล่านี้ ผมคิดว่าแก่นแท้ของชีวิตนั้น ทั้งหยิบย่อยและซ้ำซ้อน ที่จริงก็ค่อนข้างน่าเบื่อเลยแหละ ถ้ามองจากมุมมองของ“ต้ามา”(คุณป้า)เองแล้ว แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเลย แต่ผมมองพวกเขาจากมุมมองของบุคคลภายนอก บวกกับพวกเขาถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศจีนไปแล้ว ถึงขั้นมีคำ Dama ในภาษาอังกฤษด้วย นอกจากนี้แล้ว เทศกาลภาพยนตร์ของ ฮ่องกง ถือเป็นเวทีอินเตอร์ ไม่เพียงแค่สร้างมาเพื่อคนในประเทศดูเท่านั้น พวกเขาอาจจะรู้มาก่อนว่าประเทศจีนมีกลุ่มคนกลุ่มนี้ เพราะฉะนั้น เมื่อมองจากมุมมองนี้ ทุกคนคงจะสนใจมากขึ้น มองจากมุมมองนี้แล้ว มาดูชีวิตบ้านๆ ให้เราได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น

เฟิงหวงบันเทิง: นักแสดงในหนังเรื่องนี้เป็นนักแสดงประกอบหรือเป็นนักแสดงมืออาชีพครับ

ซูโหย่วเผิง: เป็นคนธรรมดาทั้งหมดครับ

เฟิงหวงบันเทิง: ถ้าอย่างงั้นคุณป้าท่านนี้ไปหามาได้อย่างไรครับ?

ซูโหย่วเผิง: โห มันยุ่งยากเหมือนกัน คือพอเริ่มผมก็มีไอเดียนี้ขึ้นมา ทีมงานผมก็ลงไปสำรวจ ไปดูว่าใครบ้างที่จะยอมทำเรื่องแบบนี้ คือหามาเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมที่จะเปิดเผยชีวิตของตนต่อหน้ากล้อง อีกทั้งยังต้องใช้รูปแบบสารคดีด้วย คือต้องเอากล้องไปซ่อนไว้ตามบ้านของพวกเธอครับ พวกเธอก็จะใช้ชีวิตตามปกติผ่านทางกล้อง ส่วนพวกเราเวลาก็มีน้อย ส่วนใหญ่การถ่ายทำสารคดีต้องให้พวกเขาคุ้นชินกับอุปกรณ์เหล่านี้ก่อน พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างธรรมชาติ ไม่ใช่การแสดง แต่เวลามันสั้นมาก ไม่มีเวลาพอที่จะไปให้พวกเธอเคยชินกับกล้องพวกนี้ บางตอนที่ได้ถ่ายออกมา มันเหมือนเขารู้สึกแสดงต่อหน้ากล้อง ในส่วนนี้ก็จะตัดทิ้งเลย อีกอย่างหนึ่งคือ สิ่งที่เราถ่ายได้มันเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องราวธรรมดา และซ้ำซาก สำหรับการจัดการกับเรื่องนี้ค่อนข้างลำบากเหมือนกัน  สุดท้ายแล้วก็คุณป้าหวางท่านนี้ยอมมาร่วมมือกับเรา เพราะว่ามีบางคนที่พอได้ยินเสียงว่า “ต้ามา(ป้า)”เข้า พวกเขาก็มองกลุ่มคนเหล่านี้จากความเชื่อและภาพลักษณ์ที่พวกเขาเคยได้ยินต่อกันมา ต้ามาเองก็ไม่อยากถูกมองถูกตัดสินจากภาพลักษณ์เดิมๆเหล่านั้น ผมคิดไว้ว่าไม่อยากได้ตัวแทนเป็นคนที่มีเรื่องราวชีวิตที่พิเศษ เพราะว่าไม่สามารถสะท้อนเรื่องราวชีวิตของคนส่วนมากได้ หรือไปหาคุณป้าที่ป่วยเป็นโรคร้าย blah blah คุณป้าหวาง เหมาะสมกับบทบาทนี้มากเหมือนกัน อีกอย่าง บุคลิกต่อหน้าและลับหลังผู้คนก็ไม่เหมือนกัน ผมรู้สึกว่าเขาเข้ากับเงื่อนไขของเรามาก อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของคนส่วนมากได้ด้วย

เฟงหวงบันเทิง: ในสารคดีนั้น เหมือนว่าพวกคุณไม่ได้ให้บทพูดที่เจาะจงกับเธอ เหมือนว่าเป็นการสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

ซูโหย่วเผิง:ส่วนมากก็เป็นเรื่องหยิบย่อยในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นตัดต่อค่อนข้างยุ่งยาก สารคดีไงครับ ก็จะแตกต่างจากละครหรือหนังทั่วไป สารคดีต้อง real เป็นจริงๆ เราจะไปยุยง หรือแนะนำอะไรไม่ได้ และดัดแปลงไม่ได้ คุณต้องนำเสนอชีวิตของเขาอย่างซื่อตรง ในขณะเดียวกัน ผมก็หวังว่าจะสามารถสะท้อนถึงชีวิตของคนส่วนมากได้ครับ

เฟิงหวงบันเทิง:ในตอนสุดท้ายของเรื่อง เธอไปที่ๆโปรยอัฐิของสามีเธอ เป็นแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว ส่วนนี้เป็นความคิดของเขาเองหรือเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง:เธอเองเคยคุยเรื่องนี้กับเราหลายครั้ง ที่จริงแล้วเธอไม่ค่อยอยากกลับไปตรงนั้น เพราะก็ไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว ต่อมาเธอก็ทนไม่ได้กับเสียงสนับสนุนของเรา เธอก็เลยยอมไป “ถ้าพวกคุณจะมีความสุข ฉันไปอีกซักครั้งก็ได้”พอไปถึงเรารู้ว่าภาพแล้วสิ่งรอบข้างตรงนั้นจะทำให้เธอมีความรู้สึกขึ้นมา พวกเรารู้ว่าความทรงจำของเธออยู่ที่นั่น พวกเราก็เลยไปกับเธอ ดูว่าเธอจะพูดอะไร จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ประมาณนี้ครับ

เฟิงหวงบันเทิง: แต่คุณก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปถ่ายอารมณ์เธอเป็นพิเศษ ณ ขณะนั้นใช่ไหม?

ซูโหย่วเผิง: อ่อ ไม่หรอกครับ พวกเขาทำไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ ถ้าทำแบบนั้นเธอก็เริ่มตื่นเต้น คุณก็จะมองออกว่าเธอไม่ธรรมชาติ

เฟิงหวงบันเทิง: จริง ๆ แล้วคุณก็คิดมาตลอดว่าอยากจะมีโอกาสที่สามารถลองเรื่องราวอย่างนี้บ้าง ใช่มั้ยครับ?

ซูโหย่วเผิง: ใช่ครับ ไม่ค่อยจะมีโอกาส จริง ๆ แล้วซูโหย่วเผิงกำลังคิดอะไรอยู่ หลายคนอาจจะไม่รู้ใช่มั้ยครับ อะไรที่บ้านๆ ติดดิน เป็นพื้นฐาน หรือใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ผมสนใจมากครับ ผมขอบความจริง real ถ้าหากว่าไม่ใช่โอกาสนี้ คุณก็คงไม่ได้รู้ว่า อันที่จริงแล้ว ผมชอบอะไรแบบนี้ ถ้าหากว่าผมต้องถ่ายทำหนังสายธุรกิจไปเรื่อยๆ พวกคุณก็จะไม่รู้เลย

เฟิงหวงบันเทิง: ถ้าอย่างนั้น ในอนาคตคุณยังอยากลองการทำถ่ายในรูปแบบนี้อีกรึเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง: ต้องดูสถานการณ์ครับ เพราะผมก็ไม่อาจรู้ได้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น

เฟิงหวงบันเทิง: ครั้งนี้ เจี่ยจางเคอ กวานจิ่นเผิง ฮิเดะโอะ นากาตะ ก็เข้าร่วม “หนังสั้นอาจารย์”ด้วย นิยามคำว่า “อาจารย์”สำหรับคุณคืออะไรครับ

ซูโหย่วเผิง: พวกเขาทั้งสามคนล้วนเป็นอาจารย์จริง ๆ  สารคดีครั้งนี้แตกต่างจากการทำหนังครั้งก่อน สำหรับผมแล้วเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ผมในตอนนี้ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ฝึกฝนตัวเองให้มาก ๆ ดังนั้นเนี่ยกำคำว่า “อาจารย์”ผมยังไม่มีนิยามอะไรทั้งนั้น พวกเขาเป็นผู้กำกับใหญ่ ผมเป็นแค่ผู้มาเรียนรู้เฉยๆครับ


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13289
    • ดูรายละเอียด
Re: [2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ฯล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2016, 11:11:25 AM »

(การปรากฎตัวของผู้ต้องสงสัย X) จะเริ่มถ่ายทำแล้ว

นักแสดงเรื่อง (การปรากฎตัวของผู้ต้องสงสัย X)ก็ได้แล้ว และไม่กลัวการถูกเปรียบเทียบกับ เจี่ยจางเคอ

เฟิงหวงบันเทิง: ไม่ทราบว่า (การปรากฎตัวของผู้ต้องสงสัย X) เตรียมการไปถึงไหนแล้วครับ?

ซูโหย่วเผิง: ตอนนี้พวกเราก็จะเริ่มถ่ายทำกันแล้ว เรื่องนี้เป็นโปรเจคของปีนี้ และจะฉายภายในปีนี้ เพราฉะนั้นเวลาก็ค่อนข้างกระชั้นชิดเลยทีเดียวครับ

เฟิงหวงบันเทิง: พระเอกสองท่านคอนเฟิร์มหรือยังครับ?

ซูโหย่วเผิง:แน่นอนแล้วครับ หายากมากสองคนนี้ ทางค่ายมีขั้นตอนในการโปรโมทหนัง เพราะฉะนั้น ผมยังไม่ได้รับสิทธิ์ให้พูดเรื่องนี้ได้ครับ

เฟิงหวงบันเทิง:ใช่นักแสดงในประเทศรึเปล่าครับ?

ซูโหย่วเผิง:ครับ ใช่ครับ

เฟิงหวงบันเทิง:ที่จริงแล้วตัวบทเล่นยากเป็นกันนะครับ ตอนคัดเลือกนักแสดงเจออุปสรรค์อะไรบ้างไหมครับ

ซูโหย่วเผิง:ครับ อุปสรรค์ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เราคัดเลือกกันลำบากมาก เพราะทั้งสองตัวละครนี้ต้องใช้ฝีมือในการแสดงมากด้วย ต้องสอดคล้องกับตัวละคร ผมพอจะคิดภาพออกว่า พวกคนแปลกที่ไอคิวสูงนั้นหน้าตาจะประมาณไหน เพราะฉะนั้น แววตาต้องดูฉลาด ต้องดูไอคิวสูง ต้องสื่อให้ผู้ชมได้รับถึงความรู้สึกนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ว่า มีรูปลักษณ์ภายนอกหรือหน้าตาดีเท่านั้น พวกเขาต้องเป็นคนประหลาดไอคิวสูงด้วย

เฟิงหวงบันเทิง: เลือกยากไหมครับ ?

ซูโหย่วเผิง:เลือกยากมากเลย ตัวละครของเราที่ต้องการเงื่อนไขเยอะขนาดนี้เลย แม้แต่หนังที่ไม่มีเงื่อนไขมากเท่าเรา ยังหานักแสดงลำบากเลย เพราะว่าตอนนี้นักแสดงค่อนข้างขาดแคลน คุณถ่ายละครซักเรื่องยังหานักแสดงยากเลย  ต้องการนักแสดงที่ทั้งแปลก แสดงเก่ง แล้วอายุต้องใกล้เคียงกัน หายากมากครับ

เฟิงหวงบันเทิง:คนที่ได้เลือกมาครั้งนี้ เคยร่วมงานกันมาก่อนไหมครับ?

ซูโหย่วเผิง:อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ เราต้องดัดแปลงหนังเรื่องนี้ให้ทุกคนสามารถที่จะเชื่อได้ว่า เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นที่ภายในประเทศของเรา ดังนั้นแล้วนักแสดงจำเป็นต้องเป็นนักแสดงภายในประเทศด้วย

เฟิงหวงบันเทิง:ก่อนหน้านี้คุณเคยชวนโอวหาวร่วมงานใหม่ด้วยกัน ตอนเจอกันที่งานอีเว้นหนึ่ง หนังเรื่องนี้มีเขาด้วยหรือเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง:ตอนนี้ไม่ขอคอนเฟิร์มครับ เพราะว่าที่จริงแล้วเรายังปรับบทกันอยู่เลย โดยในสัญญาการซื้อลิขสิทธิ์ระบุไว้ว่า การปรับหรือดัดแปลงของเรา อันดับแรกเลยต้องผ่านคุณ ฮิงาชิโนะ เคโงะ เซ็นต์ยินยอมก่อน  สองคือ ต้องแตกต่างจากการดัดแปลงครั้งก่อนๆที่เคยผ่านมา สำหรับเรื่องนี้ เราเพิ่งมารู้ตอนช่วงหลังเหมือนกัน ตอนนั้นเราปรับบทเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ทางเขาถึงแจ้งให้เรา เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ก็ค่อนข้างยุ่งยากเหมือนกัน จนสุดท้ายแล้วเราก็มีไอเดียขึ้นมาใหม่ ผมคิดว่านี่คงเป็นความต้องการของพระเจ้า ทำให้เรื่องราวดำเนินไปในทางที่ดีขึ้นครับ

ขั้นตอนในการติดต่อกับ คุณฮิงาชิโนะ เคโงะ ค่อนข้างลำบากเหมือนกัน เพราะเราต้องแปลภาษาก่อน แล้วเขาก็ไม่ได้อยู่ที่โตเกียวด้วย เขาเป็นศิลปิน ก็เลยค่อนข้างจะรักสันโดด อยู่กับตัวเอง หลังจากที่เราติดต่อไปแล้ว เขาอาจจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์ถึงจะตอบกลับมา แล้วคุณก็ต้องแปลภาษาอีก บางครั้งก็ไป ๆ มา ๆ แบบนี้ก็เสียเวลาไปเยอะเหมือนกันครับ

เฟิงหวงบันเทิง:แล้วบทที่สุดท้ายที่เขายอมตกลงคือ ผ่านการแก้ไขมาแล้วกี่ครั้งครับ?

ซูโหย่วเผิง:จริง ๆ ตอนนี้ก็ยังแก้กันอยู่ เพราะว่าผมเองก็เป็นคนค่อนข้างเอาใจยากเหมือนกัน การได้ดัดแปลงหนังเรื่องนี้มันก็ไม่ง่ายเลย ผมคิดว่าเรื่องนี้ถ้าจะพูดว่าลึกก็ค่อนข้างลึกนะ อาจจะเป็นมันมี...............คือบางครั้งเรื่องราวที่ผู้ชมดูแล้วสนุก พวกเขาอาจจะไม่อยากไปคิดให้ลึกซึ้ง หนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบเหล่านี้ด้วย ถ้าหากว่าคุณมาดูแค่วิธีไขคดี มาดูนักโทษไอคิวสูง เรื่องราวเหล่านี้ก็สามารถตอบโจทย์คุณได้ แต่อาจจะมีคนส่วนน้อยที่ค่อนข้างจะหัวศิลป์ หรือชอบคิดวิเคราะห์เชิงลึก หนังเรื่องนี้ก็มีคุณสมบัตินี้เหมือนกัน ผมหวังเสมอว่าจะสามารถตอบโจทย์ผู้ชมทั้งสองกลุ่มนี้ได้ เพราะฉะนั้นการแก้บทค่อนข้างที่จะลำบากทีเดียวครับ

เฟิงหวงบันเทิง:จากหนังรักวัยรุ่นเรื่อง (โจวเอ่อ) ถึงเรื่อง (การปรากฎตัวของผู้ต้องสงสัยX) เป็นหนังที่แตกต่างกันมากเลย ทำไมคุณถึงเลือกหนังสืบสวนล่ะครับ?เป็นความสนใจส่วนตัวหรือเปล่า?

ซูโหย่วเผิง:ผมเคยอ่านนิยายเรื่องนี้มาก่อน แน่นอนว่าอ่านครั้งแรกผมชอบมาก ครั้งที่ 2 ก็ตอนพักร้อนหลังจากที่ผมทำ (โจวเอ่อ)เสร็จ  เพราะว่าเป็นผลงานกำกับเรื่องแรก มันลำบากกว่าที่คิดไว้มาก เหนื่อยทั้งกายใจ  หลังการพักผ่อน ผมก็เริ่มหาไอเดียในการทำหนังเรื่องต่อไป ตอนนั้นหลายเรื่องที่ผมได้รับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องราวที่ตื้น หรือไม่ก็เพื่อธุรกิจหรือน่าเบื่อเกินไป ผมหวังว่าหนังของผมจะมีส่วนสำหรับการคิด วิเคราะห์ตาม อยู่ด้วย แล้วเรื่องนี้ก็เหมาะสมที่สุด ผมก็เลือกเลยครับ ไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้วครับ

เฟิงหวงบันเทิง:พวกเราก็ทราบกันดีว่า คุณ เจี่ยจางเคอ ก็กำลังจะเปิดกล้องถ่ายทำผลงานของคุณ ฮิงาชิโนะ เคโงะ เหมือนกัน

ซูโหย่วเผิง:อันนี้ผมเพิ่งรู้หลังจากที่ผมตัดสินใจไปแล้วเหมือนกัน

เฟิงหวงบันเทิง: กลัวไหมถ้ามีคนเอามาเปรียบเทียบกัน?

ซุโหย่วเผิง: การที่จะมีคนเอามาเทียบกันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว  ไม่เพียงแต่เทียบกับเขาเท่านั้น เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เกาหลีเขาก็ต้องเอามาเทียบกันหมด ผมก็ไม่ได้กลัวเรื่องการถูกเปรียบเทียบหรอกครับ ก็ทำให้มันดีที่สุดนั่นแหละครับ

เฟิงหวงบันเทิง: งานเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้เขาก็มาด้วย ได้คุยกันไหมครับ?

ซูโหย่วเผิง: ยังเลยครับ ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย แต่ผมเองก็แปลกใจไม่น้อยเลย  เพราะมันไม่เหมือนแนวของคุณเจี่ยจางเคอเลย ดังนั้นผมคิดว่าก็ทำให้คนตั้งตารอคอยเหมือนกัน


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13289
    • ดูรายละเอียด
Re: [2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ฯล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2016, 11:12:22 AM »

ซูโหย่วเผิงเขาร่วมรายการวาไรตี้โชว์ (Hidden Singer)

โฟกัสกับงานเบื้องหลัง: หลายปีมาแล้วผมก็ยังคิดประเด็นไม่ออกอยู่ดี

เฟิงหวงบันเทิง: หลังจากถ่ายเรื่อง(โจวเอ่อ)จบไป กว่าจะแถลงการถ่ายทำหนังเรื่องที่สองก็หายไประยะหนึ่งเหมือนกัน?

ซูโหย่วเผิง: ผมตั้งใจโฟกัสเรื่องงานเบื้องหลังแล้ว และจะค่อยๆลาออกจากวงการหน้าจอ

เฟิงหวงบันเทิง: หมายความว่า ต่อไปคุณจะไม่ทำงานเบื้องหน้าแล้วใช่ไหมครับ?

ซูโหย่วเผิง: ตอนนี้ขอเป็นอย่างนี้แล้วกันครับ อนาคตยังไม่กล้าแน่นอน ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องผู้กำกับก่อน ไม่ใช่ว่าจะมาเล่นๆ ผมก็เป็นอย่างนี้มาตลอด ตอนที่ผมออกจากวงการนักร้องมาเป็นนักแสดงก็เหมือนกันครับ ทุกครั้งที่ผมต้องการผันตัว ต้องผ่านช่วงเวลาความไม่เชื่อใจและความคุ้นชินอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วก็จะพบว่า อ๋อ ซูโหย่วเผิง ไม่ได้มาเล่นๆนะ มันต้องผ่านช่วงเวลานี้อยู่แล้วครับ

เฟิงหวงบันเทิง: รู้สึกว่าคุณจะเป็นพวกที่ผันตัวที่มีความเด็ดเดี่ยว แน่วแน่ นะครับ ผันตัวแล้วจะไม่กลับมาอีก

ซูโหย่วเผิง: ครับ มีแต่คุณที่สังเกตเห็นเรื่องนี้ ผมชอบที่คุณพูด มากเลย ใช่ครับ ผมค่อนข้างเด็ดเดี่ยว พูดแล้วว่าจะทำก็ต้องทำ ทำแล้วจะไม่กลับมาอีก

เฟิงหวงบันเทิง: ต่อไปจะทำแต่งานเบื้องหลังใช่ไหมครับ?

ซูดโหย่วเผิง: ไม่ครับ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น แค่อยากทำงานในมือให้ออกมาดีที่สุดก่อน แฟนๆนักอ่านของเขาเยอะขนาดนั้น ผมได้ดัดแปลงเนื้อเรื่องที่ดีขนาดนี้ ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด หน้าที่งานเบื้องหลังในตอนนี้ ผมรู้สึกสบายใจดีนะ เพราะว่าตัวผมเองไม่ได้เป็นคนเฮฮามากมาย ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้มีประเด็นให้ได้คุย การที่ต้องแข่งขันกับคนอื่นๆ ผมก็รู้สึกเหนื่อยนะ แต่พอทำงานเบื้องหลัง คุณชอบคิด ชอบวิเคราะห์ ก็นั่งคิดอะไรไปเงียบๆ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ผมรู้สึกว่าเป็นงานที่เหมาะกับผมเหมือนกัน เมื่อเทียบกับการเป็นดาราที่ต้องมีข่าวคราวบันเทิงบ้าง อันนั้นผมเหนื่อยเหลือเกิน หลายปีมานี้ ผมก็ไม่มีประเด็นหรือข่าวอะไรที่ใหญ่โตเลย

เฟิงหวงบันเทิง: แล้วที่คุณเข้าร่วมรายการ (Hidden Singer)แบบนี้รู้สึกเหนื่อยรึเปล่าครับ?

ซูโหย่วเผิง: เหนื่อยสิ เหนื่อยเหมือนกันครับ อันนั้นถือเป็นงานที่ไม่ค่อยหนักแล้วนะ ถ้าหนักเกินไปผมคงเข้าร่วมไม่ได้อยู่แล้ว ผมคิดว่าถ้าเราไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นจริงๆเราไม่มีวันรู้หรอกครับว่ามันเป็นอย่างไง อย่างพิธีกร นักพูด ก็เป็นความสามารถเฉพาะเหมือนกัน ถ้าคุณไม่เคยผ่านการฝึก ทำงานกับพวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้พูดเลย อย่างเน็ตไอดอล ก็ไม่ใช่ว่าใครก็เป็นกันได้ ใช่มั้ยล่ะครับ

เฟิงหวงบันเทิง: แล้วทำไมถึงยังตัดสินใจเข้าร่วมรายการล่ะครับ?

ซูโหย่วเผิง: ไม่ได้ออกมานานแล้ว ออกมาหารายได้บ้าง ฮ่าๆๆ ล้อเล่นครับ ก็เป็นงานที่สนุกดีครับ

เฟิงหวงบันเทิง: และไม่ต้องใช้พลังงานด้วย ใช่มั้ยครับ?

ซูโหย่วเผิง: ก็สนุกดีครับ ผมรู้สึกว่าเกมส์โชว์สมัยนี้เล่นกันค่อนข้างแรงนะ ยิ่งเล่นยิ่งโหด บ้างก็เล่นจนเกินความพอดี แบบนั้นผมก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ

เฟิงหวงบันเทิง: รายการโหด ๆ แบบนั้นเคยเชิญชวนคุณไหมครับ?

ซูโหย่วเผิง: ผมออกแนวศิลป์ซะขนาดนี้ ไม่เหมาะสมหรอกครับ

เฟิงหวงบันเทิง: ไม่ทราบว่าคุณได้ติดตามซีรี่ย์ออนไลน์บ้างไหม ช่วงนี้ดังมาก

ซูโหย่วเผิง: ผมรู้ว่ามันดัง แต่ผมไม่ดูเหมือนกัน ทางค่ายเตือนผมเสมอว่า ถ้าผมไม่เข้าสังคมวัยรุ่นบ้างละก็ พอแก่อีกหน่อย ผมต้องเอ้าท์แน่ ผมก็บอกตกลงว่าผมจะทำ ก่อนผมจะทำหนัง(โจวเอ่อ) ผมไม่เคยรู้เลยว่าในเว่ยป๋อสามารถดูหัวข้อที่ถูกค้นหามากที่สุดได้ ผมเลยถามคุณ เหยาเซี่ยม่าน อีกทั้งการหาหัวข้อข่าว ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ในตอนนี้ต้องทำหนังจริงแล้ว ก็เลยบังคับตัวเองให้เรียนรู้ไว้บ้าง ช่วงนี้มีเรื่อง (Addiction) ใช่มั้ยล่ะครับ ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่อง.. (เฟิงหวงบันเทิง: เรื่อง( Go princess go) ใช่ๆ พวกนี้ผมทราบดี เพียงแต่ยังไม่ได้ดูเฉย ๆ

เฟิงหวงบันเทิง: แล้วคุณได้สังเกตนักแสดงจากซีรี่ย์ออนไลน์บ้างรึเปล่าครับ เคยคิดว่าจะเอาพวกเขามาร่วมงานด้วยรึเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง: มีคนหนึ่ง ชื่อ อะไร。。เว่ยโจวนะ (เฟิงหวงบันเทิง:ฉวี่เว่ยโจวครับ) ใช่แล้วครับ เค้าได้เซ็นต์สัญญากับค่ายเราด้วย หลีเสี่ยวผิง ชอบเขามากเหมือนกัน ผมไม่ต่อต้านนะ สำหรับผมแล้ว ฝีมือการแสดงสำคัญกว่าอยู่แล้ว ถ้าหากว่าคุณเหมาะสมกับบทนี้ ทุกอย่างก็โอเคครับ


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13289
    • ดูรายละเอียด
Re: [2016.03.30] สัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง: ร่วมกับเจี่ยจางเคอ ฯล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2016, 11:13:07 AM »


ซูโหย่วเผิงเข้าร่วมงานวิวาห์ของ อู๋ฉีหลง ในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว

ถึงจะซาบซึ้งและมีความสุขกับงานวิวาห์ของ อู๋ฉีหลงมาก ตนเองก็ยังคงไม่มีความคิดเรื่องความรัก
เฟิงหวงบันเทิง: เพิ่งจะกลับมาจากงานวิวาห์ของคุณ อู๋ฉีหลงมาหมาด ๆ และยังเคยเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาหลายครั้งมาก คุณมีความคิดเกี่ยวกับการแต่งงานรึยังครับ?

ซูโหย่วเผิง: อันนี้มันก็ไม่ใช่ว่าแค่ผมบอกว่าไม่อยากแต่งก็จะไม่แต่งได้หนิครับ

เฟิงหวงบันเทิง: งั้นในใจลึก ๆ ของคุณไม่รู้สึกรีบร้อนบ้างหรอครับ?

ซูโหย่วเผิง: ไม่เลยครับ  ผมยังโอเคอยู่ งานวิวาห์ครั้งนี้ทำเอาผมซาบซึ้งมากเลยครับ ที่ผ่านมางานวิวาห์สำหรับผมคืองานรื่นเริง ทุกคนแฮปปี้ แต่ครั้งนี้ อาจเป็นเพราะผมสนิทกับ อู๋ฉีหลง ด้วย ก็เลยรู้สึกไม่เหมือนกับทุกครั้ง ทั้งสุขและทั้งกินใจเหมือนกันครับ

เฟิงหวงบันเทิง: รู้สึกเสียใจไหมครับ ที่เพื่อนสนิทของเรากลายเป็นของหญิงอื่นไปแล้ว ฮ่าๆๆ

ซูโหย่วเผิง: ผมควรตอบตามสิ่งที่เค้าฮิตกันตอนนี้ว่า ผมรู้สึกเสียใจนะ อย่างนี้รึเปล่าครับ ฮ่าๆ ไม่เลยครับ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกซะหน่อย ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน ผมก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าเขาอยู่แล้ว เขาเองก็ยุ่งเหมือนกันครับ

เฟิงหวงบันเทิง: ได้ยินมาว่าคุณไม่ได้ให้อั่งเปากับเขาด้วย จริงไหมครับ?

ซูโหย่วเผิง: ทำไมผมต้องให้ด้วยล่ะ? ผมยังคิดไม่ถึงเรื่องนี้เลย ทำไมต้องให้ซองแดงเขาหรือ ! แต่ในตอนท้าย เขาก็ให้อั่งเปาพวกเราด้วยนะ เล่นเอาผมตกใจเลย

เฟิงหวงบันเทิง: งานครั้งนี้คงใช้ไปไม่น้อยเหมือนกัน ทำไมยังไม่รีบโกยล่ะ ฮ่าๆ?

ซูโหย่วเผิง: เขาไม่ขาดสิ่งนี้หรอกครับ พวกเราสนิทกันจนผมไม่ได้คิดเรื่องต้องให้ของขวัญ หรืออั่งเปา สนิทจนไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เลย

เฟิงหวงบันเทิง: ครั้งนี้ข่าวของเขาดังเต็มหน้าฟีดของทุกคน บอกว่าเขาก็ลำบากมากเหมือนกันกว่าจะได้พบกับความสุข คุณรู้สึกแบบเดียวกันรึเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง: เขาก็ไม่ได้ลำบากมากมายขนาดนั้นครับ ทุกคนล้วนแต่ลำบากกันหมดแหละ แต่เป็นเพราะว่า พวกคุณรู้แค่เรื่องราวบางส่วน ยังมีบางส่วนที่พวกคุณไม่รู้ งั้น คุณว่า จื้อเผิง ลำบากมั้ยครับ ถ้าคุณมองจากฐานะของจื้อเผิง เค้าก็ลำบากเหมือนกัน ถ้าคุณมองจากมุมมองของผม ผมลำบากมั้ย ก็ลำบากใช่มั้ยล่ะครับ ฉะนั้นเราก็เหมือนกันหมดแหละครับ

เฟิงหวงบันเทิง: คุณก็ลำบากมามากเหมือนกัน รีบแต่งงานได้แล้วครับ

ซูโหย่วเผิง: คุณแน่ใจหรอว่าการแต่งงานจะไม่เป็นหายนะอย่างหนึ่ง? เรื่องนี้ผมมองว่าผมค่อนข้างเข้าใจนะ

เฟิงหวงบันเทิง: ในงานวิวาห์ครั้งนี้ ทำให้หลายๆคนคิดถึงภาพความทรงจำเก่าๆ ในอนาคตมีโอกาสกลับมารวมตัวกันอีกครั้งมั้ยครับ

ซูโหย่วเผิง: หวังว่าหลังจากนี้จะได้ร่วมคอนเสิร์ตของ จื้อเผิง ในวันที่ 21 พฤษภาคม ผมให้สัญญาเขาแล้วว่าผมต้องไปแน่นอน ผมบอกเขาว่า วันนั้นผมให้เขาหมดเลย ให้ผมทำอะไรผมก็ทำหมด ผมสนับสนุนเขาอยู่แล้วครับ ก็ต้องดูอีกทีว่า อู๋ฉีหลงจะมีเวลารึเปล่า ดังนั้น เร็วที่สุดก็น่าจะเป็นวันที่ 21 พฤษภาคม มาลุ้นกันว่าจะมีโอกาสมารวมตัวกันอีกครั้งไหม !

บทความนี้เป็นเอกสิทธ์ของสำนักข่าวเฟิงหวงบันเทิงแต่เพียงผู้เดียว ห้ามนำข้อความไปดัดแปลงใช้ต่อก่อนได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย