Thanks, http://blog.sina.com.cn/s/blog_4ac8003a0100hj1e.html?tj=1 (http://blog.sina.com.cn/s/blog_4ac8003a0100hj1e.html?tj=1)
(http://i518.photobucket.com/albums/u341/alecmoon001/111-vert.jpg)
ปี 2010 รายการราตรีตรุษจีน ที่ได้ระเบิดความมันส์ในสถานีจงหยาง และ“การกลับมาอีกครั้ง” ของพวกเขาได้ทำให้ผู้คนมากมายอบอุ่นใจ พวกเขาได้นำทุกคนหวนย้อนเวลากลับไปสู่อดีต พวกเขาทั้ง 3 คนที่เป็นสมาชิก เสี่ยวหู่ตุ้ย เพลงที่พวกเขาร้องกันบนเวทีนั้นไม่เพียงเป็นเสียงเพลงเท่านั้น แต่ยังเป็นการย้อนกลับไปวัยรุ่นในสมัยนั้นด้วย 21 ปีของ เสี่ยวหู่ตุ้ย แล้วในปี 2010 พวกเขาได้นำความสนุกและวัยหนุ่มสาวกลับมาให้ทุกคนได้สัมผัสอีกครั้ง ช่วงนี้ ซูโหย่วเผิงที่ได้รับตำแหน่งทูตแห่งความรักของมูลนิธิช่วยเหลือคนจนของจีนได้มาเปิดตัวที่รายการซิงฟังเค่อ
ซูโหย่วเผิง - ปฏิเสธการรวมตัวอีกครั้งของเสี่ยวหู่ตุ้ย เหตุผลคือไม่อยากทำให้ภาพลักษณ์ เสี่ยวหู่ตุ้ย เสีย
หลังจากงานราตรีตรุษจีนแล้ว เสียงเรียกร้องให้ เสี่ยวหู่ตุ้ย มารวมตัวอีกครั้งนั้นยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้น การจัดคอนเสิร์ตทัวร์ การรวมตัวกันอีก ซึ่งข่าวที่ออกมานั้นไม่เหมือนกับความต้องการของแฟนๆ เรื่องนี้ได้มีข่าวมาพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะข่าวที่ว่า ซูโหย่วเผิงได้ปฏิเสธเรื่องคอนเสิร์ตทัวร์ ทำให้เป็นที่จับตาของเหล่าแฟนๆ ด้วยเหตุนี้ ทางซูโหย่วเผิงก็เซ็งเหมือนกัน เพราะว่าตัวเองยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย การที่ได้นำความสนุกสนานที่มากมายให้กับแฟนๆนั้น เดิมทีคือ เนื่องในโอกาสปีเสือ เลยอยากให้แฟนๆ ชมรายการที่สนุก แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่า ผลการตอบรับนั้นจะมากมายขนาดนี้ ในช่วงเวลาที่ซ้อมเตรียมการแสดงนั้น ตัวเอง ฉีหลงและจื้อเผิง ต่างก็ได้ทุ่มเทเอาจริงเอาจังมาก เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นมากๆ ขณะที่ตัวเองยืนอยู่บนเวที เมื่อแสงได้โฟกัสที่เขา เสียงดนตรีดังขึ้นมา และเสียงปรบมือของแฟนๆ ดังขึ้น ตัวเองก็เหมือนทุกคน ในใจล้วนมีความรู้สึก ภาพวันวานนั้นล้วนสวยงาม แต่เรื่องราวที่ดีงามนั้น มันไม่อาจหวนกลับมาอีกรอบได้ 20 ปีมันผ่านไปแล้ว การที่เป็นสมาชิก พวกเขาก็ล้วนรักและทนุถนอมวันเวลาของ เสี่ยวหู่ตุ้ย เป็นอย่างมาก แต่ไม่อยากจะทำให้ชื่อ “เสี่ยวหู่ตุ้ย” - 3 คำนี้ต้องหม่นหมองไปด้วยการแสวงหาชื่อเสียงของตัวเอง พวกเขาจะรักษ์และถนอมความทรงจำดีๆ ในวันวานของ เสี่ยวหู่ตุ้ย จะรักษาไว้ตลอดไป
ซูโหย่วเผิง - ได้รับความรักจากคืนราตรีตรุษจีนเป็นอย่างมาก ทำให้มีความกล้าและความมั่นใจมากขึ้น
ความสูงต่ำในตลอด 21 ปีในวงการบันเทิง ซูโหย่วเผิง ในอดีตที่ดังระเบิดทั่วเอเซีย จนถึง อู่อาเกอ ในเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ในจอ และปี 2009 ที่เห็นถึงการแสดงที่ยอดเยี่ยมในเรื่อง เฟิงเซิง ตลอดเส้นทางศิลปินของเขานั้น ล้วนราบรื่นเป็นอย่างดี และเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ทางสถานีจงยางก็ได้เชิญเขามาออกงาน ทำให้เขาได้รับความรักความอบอุ่นมากมายจากแฟนๆ เขาเองก็ได้พูดถึงเหมือนกันว่า เขาก็ได้อยู่ในวงการนี้มานานพอสมควร บางเวลาก็อดที่จะถามตัวเองไม่ได้ว่า แรงผลักดันต่อไปในอนาคตคืออะไร? ทำไมตัวเองยังคงจะยืนหยัดอย่างลำบาก? ปีเสือ ขณะที่เขาได้เดินออกมาสู่สายตาชาวจีนนับร้อยล้านนั้น เขารู้สึกว่าได้รับการตอบแทนแล้ว การได้รับสิ่งตอบแทนนั้นไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นการยอมรับ รู้สึกว่า ตลอดเวลานั้นตัวเองก็กำลังขาดสิ่งนี้อยู่ ความรู้สึกอย่างนี้นั้นยากจะบรรยาย ไม่เพียงแต่ตัวเอง ก็ยังมีคนรอบกายมากมายที่สนใจตัวเอง ชื่นชอบผม แม้สิ่งนี้จะเป็นความกดดันที่หนัก แต่ว่ามีแฟนๆ มีเสียงปรบมือ ซึ่งเหล่านี้ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ผมเดินมุ่งหน้าต่อไป
ซูโหย่วเผิง - คอนเสิร์ดทัวร์ไร้ความหวัง แต่ว่า เสี่ยวหู่ตุ้ย จะอยู่นิรันดร์กาล
ขณะที่ซูโหย่วเผิงซ้อมการแสดงนั้นได้เปิดเผยว่า ตารางเวลาของตัวเองนั้นแน่นมาก งานหลักของเขานั้นจะเป็นงานภาพยนตร์ ร่วมทั้งงานกิจกรรมต่างๆ ด้วย และงานโปรโมทภาพยนตร์ แค่ปีนี้ก็จะมี “ตามหาพี่หลิวซัน” “4 กามเทพ” ที่จะฉายในปีนี้ แต่ทางแฟนๆก็สนใจเรื่อง ทัวร์คอนเสิร์ด เป็นอย่างมาก มันคงจะเป็นไปได้ยาก แต่ว่าทาง เสี่ยวหู่ตุ้ย ก็จะลองหาเวลาที่เหมาะสมในการพบปะแฟนๆ เช่น งานการกุศล หรืองานสาธารณะประโยชน์ หากต้องการ เสี่ยวหู่ตุ้ย แล้ว ก็จะขอทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ฉะนั้น เสี่ยวหู่ตุ้ย ยังจะอยู่กับทุกคนตลอดไป และเวลาที่จะมาถึงนั้น ทั้ง 3 คนก็ยังจะมีเวลาเจอกัน จะเป็นเพื่อนที่ดีตลอดไป จะทุ่มเททำงานที่ทุกคนต้องการให้ทำกับทุกคน
ผมที่เป็นผู้กำกับในรายการ “ซิงฟังเค่อ”นั้น จะไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ผมเองก็เคยเป็นแฟนคลับของซูโหย่วเผิง ได้ฟังเพลงมากมายของเขา ได้ดูงานการแสดงของเขามากมายด้วย แต่หลังจากผ่านไปแล้ว 20 ปี คนคนหนึ่งที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นสุภาพบุรุษสุดๆอย่างซูโหย่วเผิงที่ได้มายืนต่อหน้าผม จะหาเงาแห่งอดีตแทบจะไม่มีให้เห็นเลย สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลือคือขณะที่เขายิ้มนั้น ยังเห็นรอยยิ้มที่ร่าเริงเบิกบาน ยังสามารถที่จะสานภาพใบหน้าที่ใสๆในอดีตได้ การแสดงในราตรีตรุษจีนนั้น การที่ซูโหย่วเผิง อู่ฉีหลง เฉินจื้อเผิงได้มารวมตัวกันแสดงบนเวทีนั้น ทำให้พวกเขาได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยวัยรุ่นอีกครั้ง.....Ming
The End