Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > Magazine Interviews-Thai

คุณรู้จัก"ซูโหย่วเผิง"ดีแล้วหรือยัง?

<< < (2/4) > >>

Alec Love Me:
MingXing Vol. 46  Nov 2006

2006 ซูโหย่วเผิง "ดาบมังกรหยก"


ดาบมังกรหยก

ปลายราชวงศ์หยวน ผู้ใดได้ครอบครองดาบฆ่ามังกรและกระบี่อิงฟ้า ผู้นั้นจะพบความลับสวรรค์ เป็นเหตุให้ชาวยุทธฆ่าฟันกันเพื่อสิ่งนี้

เตียซำฮง ปรมาจารย์สำนักบู๊ตึ้งให้ยู้ไต๋ง้ำ ศิษย์คนที่ 3 ลงเขาไปช่วยเหลือชาวบ้านแต่เข้าไปพัวพันกับสำนักเกลือสมุทรกับสำนักทรายทะเล ถูกลอบทำร้ายจนพิการ เตียชุยซัว ศิษย์คนที่ 5 ออกล่าหาคนร้ายจนได้รู้จักกับ

ฮึงซู่ซู่(แสดงโดยกัวเฟยหยี่) แห่งสำนักอินทรีย์ จนรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ แล้วจู่ๆ ทั้งคู่ก็ถูกราชสีห์ขนทองเจี่ยสุง(แสดงโดยสีจิ่นเจียง)จับตัวไปเกาะร้าง เตียชุยซัวและฮึงซู่ซู่ได้แต่งงานกันจนมีลูกชายชื่อว่าเตียบ่อกี้(แสดงโดยซูโหย่วเผิง) เจี่ยสุ่งจึงสาบานเป็นพี่น้องกับเตียชุยซัว

10 ปีต่อมา ทั้ง 4 คนกลับจงหยวนจึงรู้ว่าฝ่ายธรรมและอธรรมบาดหมางกัน เตียบ่อกี้เห็นพ่อแม่ถูก 2 ผู้เฒ่าทมิฬฆ่า เตียซำฮงพาเตียบ่อกี้ไปวัดเส้าหลินเพื่อยืมคัมภีร์ย้ายเส้นเอ็นขจัดพิษให้เตียบ่อกี้ และเตียบ่อกี้ได้เรียนวิชาแพทย์สำเร็จวิชาเก้าสุริยัน สามารถขจัดพิษในร่างได้ และไกล่เกลี่ยเรื่องบาดหมางระหว่างพรรคจรัสกับชาวยุทธ จนได้เป็นประมุขพรรคจรัส เตียบ่อกี้รักเตียวเมี่ยง องค์หญิงแห่งมองโกล(แสดงโดยเจี่ยจิ้งเหวิน) จิวจี้เยี้ยก(แสดงโดยเกาหยวนหยวน)ที่เติบโตมาด้วยกัน ฮึงลี้ลูกพี่ลูกน้องและเซียวเจียวสาวใช้(แสดงโดยเฉินซิ่วหยี่)ซึ่งเขาไม่รู้จะเลือกใคร

แต่แล้วเตียบ่อกี่และเตียวเมี่ยงก็เข้าไปพัวพันการขัดขวางแผนการอันชั่วร้าย จนรู้ความลับดาบฆ่ามังกรได้ซ่อนคัมภีร์พิชัยสงครามส่วนกระบี่อิงฟ้าได้ซ่อนคัมภีร์นพเก้าถึงเข้าใจความหมายของดาบฆ่ามังกร ปกครองทั่วหล้า กระบี่อิงฟ้าไม่ปรากฎใครกล้าต่อกร จึงทำให้เตียบ่อกี้สละตำแหน่งประมุขพรรคจรัสถอนตัวจากยุทธภพ พร้อมกันกับเตียวเมี่ยงและจิวจี้เยี้ยก

prattana:
2007 ซูโหย่วเผิง เปิดตัวแฟน !!!



ซูโหย่วงเผิง เปิดตัวแฟน!

ซูโหย่วเผิงเคยเปิดเผยว่ามีแฟนที่อยู่นอกวงการ แล้วความรู้สึกของทั้งคู่ก็มั่นคง แต่แฟนๆ ก็ไม่ได้เห็นหน้าคาดตากันสักที จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ คราวที่ซูโหย่วเผิงไปร่วมงานดนตรีที่ฮ่องกงแฟนสาวของเขาก็ได้ปรากฎตัวขึ้น! ซูโหย่วเผิงเดินช็อปปิ้งกับแฟน ยิ่งไปกว่านั้น ภาพที่เห็นก็คือ ทั้งสองคนโอบเอวพูดจากระซิบกระซาบกระหนุงกระหนิงกันตลอดเวลา!

ซูโหย่วเผิงเข้าวงการบันเทิงมานานหลายปี แต่เขาเคยมีข่าวกับดาราหญิงเพียงแค่ 3 คน คือ หลินซินหยู จ้าวเวย และดาราเกาหลีแชริม แล้วด้วยเหตุนี้เอง จึงมีข่าวลือว่าโหย่วเผิงเป็น"เกย์" จนในที่สุดเขาก็ออกมาประกาศว่าตนมีแฟนสาวนอกวงการแล้ว เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซูโหย่วเผิงไปร่วมงานดนตรีที่ฮ่องกง พร้อมกับแวะช็อปปิ้งและเตรียมงานอัลบั้มใหม่อยู่ที่นั่น ระหว่างนั้นปาปารัซซี่ก็เจอซูโหย่วเผิงในมาดสบายๆ เดินซื้อของอยู่กับสาวสวยสวมแว่นตาดำที่ย่านจิมซาจุ่ย พวกเขาท่าทางสนิทสนมชิดเชื้อกันมาก โอบเอวกันอย่างโจ่งแจ้ง!

หลังจากสองหนุ่มสาวเดินช็อปปิ้งร้านนาฬิกาเสร็จก็ไปเดินเที่ยวกันต่อที่ถนนชิงกว่าง แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือมา ต่อจากนั้นก็ไปดื่มชากันต่อที่ภัตตาคาร แถมยังกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย ต่อด้วยการไปถ่ายรูปกับแฟนสาว โดยเขาทำหน้าที่เป็นตากล้อง

ข่าวรายงานว่า แฟนสาวของซูโหย่วเผิงคนนี้คือ Amy ผู้จัดการส่วนตัวที่ทำงานร่วมกับเขามา 5 ปีกว่าแล้ว! ทั้งคู่เริ่มปลูกต้นรักกันตอนที่โหย่วเผิงถ่ายละครเรื่อง "ฉิงติ้งอ้ายฉินไห่"(Love of the aegean sea) เนื่องจากเรื่องนี้ถ่ายทำกันเป็นเวลานานหลายเดือน แล้ว Amy ก็คอยดูแลเรื่องอาหารการกินที่พักต่างๆ ให้ตลอด ทั้งคู่จึงเกิดปิ๊งปั๊งกัน

prattana:
2010 ชีวิตในสไตล์ของ...ซูโหย่วเผิง


ชีวิตในสไตล์ของ...ซูโหย่วเผิง

เมื่อเร็วๆ นี้ซูโหย่วเผิงไปถ่ายปกและให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่ง จากนักร้องกลายมาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถไม่ใช่เรื่องง่ายที่ศิลปินทุกคนจะทำได้ การกลับมาสร้างชื่ออีกครั้ง หลังจากทิ้งภาพของ "เสือเด็กดี" ในวัยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมากนัก มองทุกอย่างเป็นของง่ายและไม่สำคัญ สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซูโหย่วเผิงยิ้มและบอกว่า"ทุกคนมักจะแสดงความเห็นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับผม แต่ว่าสไตล์ใครสไตล์มันครับ!"

ซูโหย่วเผิงในวัยสามสิบเศษๆ พูดถึงการก้าวออกมาในเวลานั้นว่า"เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พูดถึงในเวลานั้นครับ หนังสือพิมพ์ลงข่าวทุกวัน"เป็นแค่ความเลือดร้อนของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาอยากจะกระโดดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรที่อยู่ตรงกลางพอดี แต่ซูโหย่วเผิงก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะ "ชีวิตของคนไม่ใช่เรื่องของการส่งการบ้าน เผชิญหน้ากับความต้องการของตัวเองไม่ใช่รับเอาและทำตามแต่ความปรารถนาของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ชีวิตแบบนี้ถึงจะเป็นชีวิตจริงๆ เป็นชีวิตที่ซูโหย่วเผิงต้องการ สไตล์ใครก็สไตล์มันครับ ฮ่า ฮ่า"

สไตล์ของซูโหย่วเผิง ไม่ชอบถ่ายภาพในแบบเดิมๆ ไม่ชอบอยู่ที่ไหนเป็นเวลานานๆ ไม่ชอบเล่นเป็นตัวละครที่เคยแสดงแล้ว ไม่ชอบปกปิดความรู้สึกของตัวเอง บางเวลาเอะอะโวยวาย บางเวลาอยากไปเที่ยวแล้วปล่อยทุกอย่างทิ้งไป บางเวลาก็ดูซื่อๆ บริสุทธิ์ไม่ปกปิดข้อผิดพลาดของตัวเอง และไม่ซ่อนความจริงใจ

ชีวิตการแสดงของซูโหย่วเผิง มีทั้งในแบบชุดโบราณ ชุดปัจจุบัน เล่นเป็นจอมยุทธหรือแม้กระทั่งเพศที่สาม ยากที่จะบังคับให้เขาอยู่บนหนทางการแสดงแต่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง"คนที่อายุสามสิบกว่า ถ้ายังคงเล่นแต่ละครรักโรแมนติกหรือละครวัยรุ่นอยู่เหมือนเดิม ผมว่ามันต้องมีปัญหาแน่ๆ ครับ"

Alec Love Me:

ซูโหย่วเผิง ย้ายบ้านแล้ว...

เมื่อก่อนซูโหย่วเผิงมักจะไปๆ มาระหว่างฮ่องกงและไต้หวันอยู่บ่อยๆ แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ งานของซูโหย่วเผิงเกือบทั้งหมดจะอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นที่จะมีเวลาทุ่มเทให้กับการทำงานมากขึ้น ซูโหย่วเผิงก็เลยตัดสินใจโยกย้ายตัวเองไปอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่นับวันก็ยิ่งทวีความดังมากขึ้นทุกที แถมบรรยากาศที่โน่นก็ยังสงบ ซูโหย่วเผิงก็เลยคิดที่จะอพยพไปตั้งรากฐานอย่างเป็นจริงเป็นจังมา...กขึ้น ถึงขนาดคิดที่จะไปเป็นประชากรของแผ่นดินใหญ่กับเค้าด้วย พร้อมทั้งได้ซื้อบ้านในปักกิ่ง และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้ซื้อบ้านใหม่อีกหลังที่เซี่ยงไฮ้อีก และซูโหย่วเผิงยังบินไปรับคนในครอบครัวของตนมาอาศัยอย่างถาวรที่จีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย

ซื้อและตกแต่งบ้านใหม่..

ซูโหย่วเผิงได้ซื้อบ้านหลังใหม่มีเนื้อที่ประมาณ 70 ตารางเมตร 1 หลังที่ปักกิ่ง อยู่ในตัวเมือง แต่เงียบสงบ และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตกแต่งซ่อมแซมโครงสร้างแล้วก็การดีไซน์ภายในบ้านนั้นเป็นการตัดสินใจของซูโหย่วเผิงกับมัณฑนากร เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์โหย่วเผิงเป็นผู้เลือกซื้อด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเครื่องเรือนโบราณเค้าใช้เวลาว่างไปเลือกซื้ออย่างพิถีพิถัน จากที่ปักกิ่ง ,เซี่ยงไฮ้, หยางโจว และก็กวางเจา ส่วนวัสดุจากต่างประเทศโหย่วเผิงได้ไหว้วานให้เพื่อนในแต่ละประเทศช่วยซื้อหา และช่วยหาข้อมูลหรือจองสินค้าแล้วก็ส่งสินค้าให้ ซึ่งบ้านหลังนี้นั้นเป็นบ้านพี่ๆ ซูโหย่วเผิงซื้อไว้เพื่อมาอาศัยอยู่เอง เพราะว่าพ่อแม่ของโหย่วเผิงกลัวหนาว และไม่คุ้นกับอากาศหนาวเย็นของฤดูหนาวในปักกิ่ง ด้วยเหตุนี้โหย่วเผิงผู้ซึ่งกตัญญูก็เลยตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่ให้กับพ่อแม่ที่เซี่ยงไฮ้อีกหลังหนึ่ง

และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโหย่วเผิงได้เปิดงานแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวแบบเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้ และพ่อแม่ของซูโหย่วได้รับเกียรติเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้กับโหย่วเผิงด้วย และนับเป็นครั้งแรกของที่พ่อแม่ของโหย่วเผิงมีโอกาสเห็นลูกชายจัดการแสดงคอนเสิร์ตของตนเองอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ท่านทั้งสองรู้สึกปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้โหย่วเผิงยังถือโอกาสที่พ่อและแม่บินมาที่เซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้ด้วยการเปิดโอกาสให้ท่านทั้งสองไปเลือกบ้านใหม่ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งไปเป็นเพื่อนพาไปเลือกดูบ้านใหม่ให้พ่อแม่จนทั่วเซี่ยงไฮ้

โฆษณาชิ้นใหม่..

นอกจากโหย่วเผิงจะยุ่งกับบ้านหลังใหม่ของเค้าที่ปักกิ่งแล้ว ธุรกิจของโหย่วเผิงก็กำลังเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา หรือว่าถ่ายแฟชั่นก็ตาม และโฆษณาชิ้นใหม่ล่าสุดเครื่องเรียนภาษาพูดของจีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้เชิญโหย่วเผิงไปถ่ายโฆษณา โดยคอนเซ็ปของโฆษณาชิ้นนี้ค่อนข้างเป็นแนวแฟนตาซี เพราะในโฆษณานี้เมื่อโหย่วเผิงพูดกับเครื่องๆนี้ว่า “Apple” ก็มีแอปเปิ้ลจริงๆ ตกลงมาจากฟ้า แล้วพอพูดว่า “Dinosour ก็มีไดโนเสาร์จริงๆ วิ่งตามเค้ากันยกใหญ่ เรียกว่าได้เห็นไอเดียบวกกับความสามารถของนักแสดงอย่างโหย่วเผิงแล้ว เชื่อได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้คงจะติดตลาดทั่วจีนแผ่นดินใหญ่อีกไม่นานเกินรอแน่นอน..

แต่เอ ถ้าโหย่วเผิงพูดว่า “Money”จะมีเงินตกมาจากฟ้าหรือเปล่าน้อ..

Alec Love Me:
MingXing Vol. 46  Nov 2006

2006 ซูโหย่วเผิงอำลาบทหนุ่มหน้าใสใน "เจียงจี้จิ้วจี้"



ซูโหย่วเผิงอำลาบทหนุ่มหน้าใสใน"เจียงจี้จี้วจี้"

ละครเรื่องใหม่ของซูโหย่วเผิงเป็นที่จับตามองกันมาก เนื่องจากมีเหล่าดารามาประชันบทบาทกันอย่างร้อนแรง เช่น เยี่ยถง หลี่เชี่ยน ฉินเพ่ย เป็นต้น เรื่องที่ว่านี้คือเรื่อง"เจียงจี้จิ้วจี้"(แผนรักแผนลวง)ที่ชาวประชาสนใจจับตามองมากคือซูโหย่วเผิงจะเปลี่ยนภาพลักษณ์จากหนุ่มกิ๊กหน้าใส มาเป็นผู้ใหญ่เคร่งขรึม เอ...หรือว่าโหย่วเผิงฝีมือในการแสดงแก่กล้าเลยจะเปลี่ยนตัวเองเสียแล้วหนอ

ซูโหย่วเผิงเปิดเผยว่าไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนภาพลักษณ์อะไรจนกระชากขนาดนั้น แต่ในเรื่องเขารับบทคุณชายที่เรียนมากก็เลยต้องเคร่งขรึมไปตามบท และบทกุ๊กกิ๊กหวานแหววกับหลี่เชี่ยนก็ไม่ได้เป็นประเด็นหลักของเรื่อง"เจียงจี้จิ้วจี้"นี้ เลยทำให้เคร่งขรึมเข้มข้นเป็นพิเศษ แล้วเรื่องนี้เน้นเนื้อหาทางด้านไหน? ซูโหย่วเผิงบอกว่าขออุบไว้ก่อน เมื่อละครออกฉายทุกคนก็คงทราบเอง อ้าว...มีการอุบให้ชวนติดตามกันต่อไปอีก

ละครเรื่องนี้เปลี่ยนทั้งเครื่องแต่งกายตลอดทั้งทรงผมจนสามารถแสดงความเป็นจวงยั่วหลง นักสะกดจิตทายาทหนุ่มตระกูลจวงที่ดูสุภาพ ลุ่มลึก เงียบขรึมและสง่างามออกมาได้เป็นอย่างดี ในเรื่องเนื่องจากจวงยั่วหลงเข้าใจผิดคิดว่าอวี้เอ๋อร์(หลี่เชี่ยน)ทำร้ายพ่อเขาจนตาย เพื่อจะให้เธอสารภาพจึงสะกดจิตเธอโดยไม่คลายการสะกด ทำให้อวี้เอ๋อร์ถูกสะกดจิตนานเกินไปจนเกิดอาการเบลอๆ ตลอดทั้งวัน แต่หลังจากจวงยั่วหลงคลายการสะกดจิตให้เธอแล้ว เธอก็กลับกลายเป็นคนเอ๋อๆ ไป

ในจอคู่พระนางต้องทะเลาะกันแบบรักๆ แค้นๆ แต่นอกจอ หลี่เชี่ยนกับซูโหย่วเผิงทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดี โหย่วเผิงชมว่าน้องหลี่เชี่ยนฝีมือการแสดงดี ส่วนหลี่เชี่ยนก็พยายามให้กำลังใจกับการเปลี่ยนแปลงบุคลิกใหม่ของพี่โหย่วเผิง สงสัยว่าซูโหย่วเผิงคงได้แฟนละครเพิ่มอีกกลุ่มที่ติดใจกับบทหนุ่มมาดขรึมเสียแล้ว

พอมีข่าวออกมาว่าหนุ่มซูโหย่วเผิงขวัญใจสาวๆ จะพลิกบทบาทจากหนุ่มน้อยไปเป็นหนุ่มใหญ่มาดขรึมแฟนๆ ก็เริ่มรับไม่ได้เสียแล้ว เพราะจะไม่ได้เห็นภาพลักษณ์ของหนุ่มน้อยขวัญใจอย่างเคย แรกๆ ซูโหย่วเผิงเองก็รับไม่ได้กับบุคลิกใหม่ที่เคร่งขรึม เป็นผู้ใหญ่ในหนังเรื่องนี้ที่ต้องหวีผมปาดไปด้านหลังเรียบแปล้และใส่สูทซะดูเชย แต่โดนผู้กำกับเจิ้งจีเฉิงกล่อมซะอยู่หมัด ทั้งยังให้ลองภาพลักษณ์ใหม่ของหนุ่มใหญ่จนแต่งออกมาแล้ว ซูโหย่วเผิงก็พอใจในที่สุด

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version