ALL About Alec SU YOU PENG | รวบรวมผลงานของ ซูโหย่วเผิง > Movies

2009 The Star and the Sea [เซียวโหยวเหมย]

(1/7) > >>

prattana:


more https://www.facebook.com/baansuyoupeng/media_set?set=a.899800496797462.1073741906.100003025613301&type=3&uploaded=8

วันที่ฉาย 2011-06-17(中国大陆)
2009 The Star and the Sea [เซียวโหยวเหมย]

มิถุนาคม 1904 นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ เสี่ยนซิงไห่ (冼星海) เกิดบนเรือลำเล็กๆของชาวมาเก๊า พ่อของเขากลืนหายไปพร้อมกับท้องทะเลก่อนที่เขาจะเกิด ฐานะทางบ้านค่อนข้างจน อยู่ในชนชั้นต่ำ ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของซิงไห่ (รับบทโดย ซูเจียหั่ง) เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซิงไห่ที่โตขึ้น (รับบทโดย หวังเฉิงหยาง) เริ่มฉายแววพรสวรรค์ด้านดนตรี เขาได้เรียนที่คณะดนตรีในโปรตุเกส จึงมีโอกาสได้ซึมซับดนตรีทางฝั่งตะวันตก แม่ของเขา (รับบทโดย วิเวียนซู) และคุณตาพยายามอย่างสุดกำลังที่จะมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเขาในตอนเด็ก ความเข้มแข็งของแม่มีอิทธิพลอย่างมากกับซิงไห่ ไม่นาน คุณตาจากโลกไป มีอันธพาลอาศัยโอกาสข่มแหงแม่ของเขา สองแม่ลูกจึงได้มาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สิงคโปร์ ซิงไห่ได้พบกับอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขา เซียวโหย่วเหมย (รับบทโดย ซูโหย่วเผิง) การปรากฏตัวของอาจารย์เซียวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของซิงไห่หลังจากนั้น....

The Star and The Sea Trailer

http://www.youtube.com/watch?v=HTsMY84pD2o&feature=related
電影照_少年星海
http://tieba.baidu.com/photo/p?kw=%E8%8B%8F%E6%9C%89%E6%9C%8B&from=6&tid=2084264740

prattana:
(เส้าเหนียนซินไห่) ถ่ายทำที่กองถ่ายภาพยนตร์ของหนังไห่
ข่าวจากผู้สื่อข่าว ภาพยนตร์(เส้าเหนียนซินไห่)หลังจากเปิดกล้องที่จู่ไห่แล้ว 24  พ ค ได้ย้ายไปถ่ายทำที่กองถ่ายภาพยนตร์ของหนังไห่ต่อ ทางนักข่าวอยู่ที่ถนนเก่าฮ่องกงมาเก๊าได้เห็นกองถ่ายทำ ที่นี่ได้เป็นสภาพเป็นโรงเรียนหนิวเชอสุยของสิงคโปร์  ในหอประชุมของโรงเรียนได้ประดับด้วยเครื่องเปียโนใหญ่สามขาตัวหนึ่ง หน้าเปียโนนั้นได้มีรูปโน๊ตใหญ่ๆรูปหนึ่ง รวมทั้งยังมีเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่กำลังรอฟังคำสั่งจากทีมงานก่อนเข้าสู่การถ่าย ครูเซี่ยว(โหย่วเผิง) ได้เตรียมสอนอยู่ในห้อง


โหย่วเผิงรับบทเป็นครูสอนเปียโนของเสี่ยวซิงไห่ กำลังสอนเปียโนให้กับเสี่ยวซิงไห่
"เรื่อง..เส้าเหนียนซินไห่" นั้นเป็นเรื่องหนึ่งที่ได้พูดถึงร้อยปีก่อนเสี่ยวซินไห่ได้เกิดมาในตระกูลตั้นซึ่งเป็นชาวประมงที่มาเก๊า และช่วงวัยเด็กได้เติบโตอย่างยากลำบากในมาเก๊า  ในเรื่องนั้น แม่ของเขานั้นได้เป็นผู้หญิงที่รับภาระในตระกูลตั้นซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นต่ำ ตอนยังสาวก็ได้เสียสามีไป ได้เป็นหญิงในบ้านตั้น แต่เดิมนิสัยของแม่เขานั้นเป็นคนดีจิตใจอารีย์และสู้ชีวิต ได้รับความทุกข์ยากของชีวิตมากมาย ในความลำบากนั้นได้จุดประกายให้เสี่ยวซิงไห่รู้ถึงพรสวรรค์ของตนเอง ตอนหลังทางเสี่ยวซิงไห่ได้รับการชี้แนะสอนจากครูเปียโนสเปนคนหนึ่ง ได้รับการพัฒนาทางด้านดนตรีเป็นอย่างยิ่ง ตอนหลังได้กลายเป็นผู้แต่งเพลงให้กับกลุ่มต่อต้านทหารญี่ปุ่น




เสี่ยวซิงไห่ฝึกฝนอย่างหนัก

การถ่ายทำโดยใช้ฟิล์มนั้นเป็นการถ่ายทำที่น้อยมากแล้วสำหรับภาพยนตร์ จะเด่นของมันคือสามารถที่จะย้อนกลับไปในสภาพการณ์อดีตได้ ทางผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมอย่างคุณหลี่กับคุณกุ้ยหยินนั้นได้เลือกใช้วิธีนี้ในการถ่ายทำ แม้ว่าทุนในการถ่ายทำนั้นจะสูงกว่าก็ตาม ผู้กำกับหลี่ก็ยอมรับได้ เพื่อที่จะให้ภาพของภาพยนตร์ออกมาสวย ทางซ่งเสี่ยวเฟยซึ่งเป็นผู้พิถีพิถันในเรื่องความงามนั้นได้มาเป็นมือกล้องให้เอง ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับรางวัลเพลงที่ยอดเยี่ยมนั้นเป็นผู้มาเขียนเพลงให้กับเรื่องนี้ รวมทั้งหวังตี้กับเกาเฉินฮุ่ยที่เป็นผู้ยอดเยี่ยมในงานศิลปะก็ได้มาช่วยงานด้านศิลป์อีกด้วย


เสี่ยวซิงไห่ตื่นเต้นและรักการเรียน

ตัวแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวสำคัญนั้นมี


นางเอกสี่ยั่วเซียน  ในบทเป็นแม่ของเสี่ยวซิงไห่

พระเอกซูเจียหัน แสดงเป็นเสี่ยวซิงไห่ นักเรียนจากประถมศึกษาสองของปักกิ่ง แม้อายุแค่เจ็ดขวบ แต่ฝีมือแสดงยอดเยี่ยมมาก ได้รับการคัดเลือกจากนักเรียนทั้งประเทศ

โหย่วเผิง รับบทเป็นครูสอนเปียโนของเสี่ยวซิงไห่

ซูเซียงกุ้ย พิธีกรทีวีของมาเก๊า รับบทเป็นอาสาวของเสี่ยวซิงไห่

เรื่องนั้น  (เส้าเหนียนซินไห่) ได้ถ่ายทำที่จูไห่ เหิงฉินเต่า จงซัน กองถ่ายภาพยนตร์หนังไห่ กว่างโจวและมาเก๊า เรื่องนี้นั้นจะปิดกล้องที่มาเก๊าช่วงเดือนมิถุนายน เสร็จก่อนวันชาติ จะจำหน่ายทั่วประเทศ เป็นของขวัญในงานฉลองครบรอบหกสิบปีและมาเก๊ากลับสู่จีนครบรอบ 10 ปี





prattana:

โหย่วเผิงรับบทเป็นครูของซินไห่
เรื่อง(วัยซามซิงไห่)ได้สะท้อนถึงวิถีชีวิตของนักดนตรีดังในเมืองมาเก๊า ตอนนี้นั้นกำกังถ่ายทำอย่างเร่งที่จูไห่ ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นกำกับโดยผู้กำกับชื่อดังหลี่เฉียนควง เซียวกุ้ยหยินสองสามีภรรยา ผู้รับบทเป็นพระเอกนางเอกคือดาราดังไต้หวันสี่ยั่วเซียน(วิเวียน) และดาราวัยรุ่นปักกิ่งอย่างซูเจียหัง เป็นภาพยนตร์ในการฉลองการสร้างชาติครบรอบหกสิบปีและการครบรอบสิบปีของที่มาเก๊าคืนสู่จีน ทางทีมงานได้วางแผนว่าเดือนหน้านั้นจะไปถ่ายทำที่เมืองมาเก๊า จะฉวยโอกาสในการเปิดฉลองงานปีที่สิบแห่งการคืนสู่จีน


วัยเด็กของซี่ซิงไห่อีกครั้ง

เรื่อง(ซามวัยซินไห่)เป็นการบรรยายถึงร้องปีที่แล้วซี่ซินไห่มาเกิดอยู่ในครอบครัวของชาวประมงตั้น รวมทั้งยังมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นในวัยเด็กที่เมืองมาเก้า ในความลำบากยากจนนั้นทางแม่ของเขาหวงไฉ่อิงได้จุดประกายพรสวรรค์ของเขาขึ้นมา ตอนหลังได้รับการสอนแนะนำจากครูสอนเปียโนสเปนคนหนึ่ง ทำให้ความสามารถในจุดนี้ของเขาได้รับการพัฒนา ช่วงวัยผู้ใหญ่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านทหารญี่ปุ่น ได้สร้างงานเพลง(หวงต้าเหอช่าง) (ไท้ซิงซันสร้าง) เป็นเพลงแนวปลุกใจในการต่อสู้กับญี่ปุ่น

เรื่องนี้นั้นสร้างขึ้นแนวต่อสู้ที่ดุเดือด ผู้กำกับหลี่เฉียนควง และเซียวกุ้ยหยินกับภรรยา ช่างกล้องซ่งเสี่ยวเฟย ประกอบดนตรีซูหนัน เทคนิกหวังตี้ จัดสร้างเรื่องเกาเฉินฮุ่ยเป็นต้น ฝีมือในการทำนั้นนับว่าเป็นผู้สุดยอดของประเทศเลยก็ว่า ผู้รับบทเป็นนางเอกอย่างซีย่อเซี่ยงนั้นเป็นนางเอกดังจากไต้หวัน ฝ่ายพระเอกซูเจียหังเปรียมไปด้วยความสามารถในการแสดง เซียวโหย่วเหม่ยครูของเสี่ยวซินไห่นั้นรับบทโดยโหย่วเผิง และซูเซียงกุ้ยรับบทเป็นอาสาวของเสี่ยวซิงไห่ 


หนังที่เร้าใจสะท้อนประวัติศาสตร์

หลี่เฉียนควงกล่าวว่า (เรื่อง ซามวัยซิงไห่)เป็นการร่วมมือของสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหนัง การวางแผน เตรียมงาน ถ่ายทำผลิตล้วนทำที่มาเก้า เมืองมรดกโลกที่มาเก้านั้นมีฉากในหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงป้ายของต้าซันปา วัดมาจู่ ยอดกัง รวมทั้งโบสถ์ที่สร้างแบบสไตล์สเปนอีกด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นฉากหลังของเรื่องนี้ทั้งสิ้น

หลี่เฉียนควงยกย่องว่า สี่ซิงไห่เป็นนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมในจีน แต่คนในประเทศไม่เคยรู้เลยว่าวัยเด็กของเขานั้นโตมากับความยากลำบากในชนชั้นที่ต่ำที่มาเก้า ในเรื่องนั้นจะเน้นถึงวิถีชีวิตในเติบโตตั้งแต่เกิดจนถึงอายุสิบสอง ได้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมสเปนที่มาผสมประสานกันแล้วกลายเป็นประวัติศาสตร์ หวังอยากจะสร้างเรื่องให้น่าดูน่าสนใจ แต่ก็ต้องไม่ผิดเพี้ยนไปจากประวัติศาสตร์อีกด้วย ก็จะทำออกในแนวประวัติศาสตร์และเร้าใจดุเดือดด้วย


ทีมถ่ายทำถ่ายทำที่จู่กั่น

ก่อนจะถ่ายฉากวิถีชีวิตนับร้อยปีก่อนของตระกูลตั้นนั้น ทีมงานได้สร้างบ้านใหญ่ของตระกูลตั้น ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่นั่นอยู่ ยังไปถ่ายทำอย่างไม่หยุดไม่หย่อนทั้งกลางวันและกลางคืนที่สายน้ำจู่ไห่เหม่ยและที่จงซัน วางแผนไว้ว่าเดือนหน้าวันที่หนึ่งจะไปถ่ายทำที่มาเก้าต่อ แล้วกลางเดือนจะปิดกล้องที่นั่น ก่อนวันชาติจะทำผลิตให้แล้วเสร็จ ถ่ายในปีนี้จะออกจำหน่ายได้ จะทำเป็นของขวัญในการครอบรอบหกสิบปีแห่งการก่อตั้งชาติและครบรอบสิบปีที่มาเก้าได้กลับสู่จีนจะออกฉายครั้งแรกที่มาเก้า ฮ่องกง ปักกิ่ง เซี่ยงไห้ ต้าเหลียนเป็นต้น

(ซามวัยซิงไห่)ได้ลงทุนในการสร้างกว่าสิบแปดล้านหยวน ซี่ซินเป็นผู้รับหน้าที่บรรณาธิการเรือง ภายใต้การวางแผนของมูลนิธิภาพยนตร์จีน ได้ร่วมประสานกันสร้างขึ้นโดยบริษัทภาพยนตร์อิงม่งปักกิ่ง บริษัทภาพยนตร์ต้าเหลี่ยนตงฟาง ศูนย์วัฒนธรรมมาเก้าและบริษัทภาพยนตร์ซาหลงของฮ่องกงเป็นต้น






prattana:

1 มิถุนายน 2009  (ข่าว) โหย่วเผิง แต่ละอาทิตย์ได้ปฎิเสธภาพยนตร์ 3 เรื่อง

ข่าวจากสำนักซินลั่น(Sina)  ภาพยนตร์เฟิงเซิงที่ยิ่งใหญ่ของค่ายหัวอี้ยังไม่ทันเสร็จสิ้น จางหันอี๋นักแสดงหลักก็ได้รับเรื่องใหม่ และทางด้านโหย่วเผิงก็ได้รับแสดงภาพยนตร์เรื่อง(เส้าเหนียนซิงไห่) ตามที่ทราบ ในเรื่องนี้นั้นโหย่วเผิงรับบทเป็นนักดนตรีชื่อดังคนหนึ่ง โดยเฉพาะได้เป็นเลขาของผู้นำปฏิวัติอย่าง ดร.ซุนยัดเซนอีกด้วย

มีชะตากับผู้กำกับหลีเฉียนควง
หลี่เฉียนควงและแซวกุ้ยหยินได้ร่วมกำกับเรื่อง(เส้าเหนียนซิงไห่) ด้วยกัน และหลี่เฉียนควงทั้งยังเป็นประธานค่ายภาพยนตร์ที่จีนอีกด้วย อดีตยังเคยกำกับภาพยนตร์ที่จะฉายในงานวันชาติจีนอีกด้วย ผลงานของผู้กำกับท่านนี้นั้นเรียกได้ว่ามีสีสันอย่างมาก ขณะที่กล่าวถึงโหย่วเผิงนั้น  ผู้กำกับหลี่กล่าวว่า “ผมกับเขา(โหย่วเผิง)นั้นเรามีวาสนาต่อกัน ครั้งแรกที่เสี่ยวหู่ตุ้ยได้มาเปิดคอนเสิร์ดที่ปักกิ่งในปี 92 นั้น ผมก็ได้เจอเขา ยิ่งกว่านั้นตอนนั้นผมเองก็ยังเป็นผู้กำกับงานคอนเสิร์ดครั้งนั้นด้วย”  ทั้งสองคนได้เจอกันอีกครั้งหลังจากเคยเจอกันเมื่อ 17 ปีก่อน ถือว่าพวกเขามีวาสนากันจริงๆ

ขณะที่ประเมินบทของ "แซวโหย่วเหม่ย" นั้น หลังจากที่ "โหย่วเผิง" ได้ถ่ายภาพเสร็จ ทางผู้กำกับหลี่ได้ยกนิ้วโป้งชมว่า “หล่อมากๆ ภาพลักษณ์อย่างนี้นั้นผู้กำกับคนอื่นมองไม่เห็นเลย เสียดายจริงๆ โชคดีที่ผมสังเกตเห็น นี่จะเป็นภาพลักษณ์ที่สุดยอดที่สุดของเรื่องนี้”



นักดนตรีผู้รักชาติ
ในเรื่องที่แล้วที่โหย่วเผิงรับบทเป็นหนึ่งใน “เหลากุ่ย” แม้จะไม่ชัดเจนว่าเขาเป็นคนรักชาติมากน้อยแค่ไหน แต่ในเรื่อง(เส้าเหนียนซิงไห่)นั้น เขากลับเป็นคนหนึ่งที่รักชาติอย่างไม่มีข้อกังขาเลย

ตามที่ทราบมา บท "แซวโหย่วเหม่ย" ที่ (โหย่วเผิง) รับแสดงนั้นเป็นคนหนึ่งที่มีความเป็นชาตินิยมในตัวสูงมาก  ทั้งยังเป็นครูสอนดนตรีให้กับ "ซี่ซิงไห่"  นอกจากจะมีความรักชาติแล้ว เขายังเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในแวดวงดนตรีอีกด้วย โดยเฉพาะเป็นครูสอนดนตรีที่สำคัญมากๆของ "สี่ซิงไห่"  ตามที่ทราบ (แซวโหย่วเหม่ย) นั้นมีความเกี่ยวข้องกับ (ดร.ซุนยัดเซน) ด้วย หลายครั้งที่ (ดร.ซุนยัดเซน)  ตกทุกข์ได้ยากนั้นเขาได้ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ตอนที่ (ดร.ซุนยัดเซน) สมัครเลือกประธานธิบดีนั้น ได้ถูกเชิญเป็นเลขาของท่านอีกด้วย เห็นได้ว่าเขามีความเป็นนักปฏิวัติอย่างยิ่ง

ในเรื่อง โหย่วเผิงรับบทเป็นนักดนตรี (แซวโหย่วเหมย)  ไม่เพียงแค่ได้แสดงความรักชาติในช่วงเวลาที่โกลาหนเท่านั้น ในเส้นทางดนตรีนั้นเขาเองก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของ "สี่ซิงไห่"

แต่ละอาทิตย์ปฏิเสธภาพยนตร์สามเรื่อง
หลังจากเรื่อง(อ้ายฮู 2: Fit Love ) แล้ว โหย่วเผิงได้หันไปเอาดีทางด้านภาพยนตร์ และภาพพจน์อันโดดเด่น มากด้วยประสบการณ์ ความหล่อเหลาคมคายของเขานั้นยังคงตรึงอยู่ในดวงใจของทุกคน และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เขาเองเป็นที่ดึงดูดสนใจของเหล่าผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อยมา
 

กล่าวกันว่า ช่วงที่ถ่ายทำเรื่องเฟิงเซิงนั้น เฉลี่ยแล้วทุกอาทิตย์จะปฏิเสธภาพยนตร์สามเรื่อง เห็นว่าเขานั้นเนื้อหอมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปีที่แล้วก่อนจะฉายเรื่องเย้ออ้ายนั้นเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนคลับเป็นอย่างมาก ในเรื่องที่ไม่ได้รับบทเป็นพระเอกนั้นก็ได้รับการตอบรับและชื่นชมจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม

การเป็นนักแสดงแบบมืออาชีพนั้น โหย่วเผิงได้ปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างมากมายในการรับบท ทางแฟนคลับก็ตั้งหน้ารอคอยการเปลี่ยนบทของเขาอย่างตื่นเต้น หลังจากที่รับบทของนักร้องละครเพลงแล้วมารับบทเป็นนักปฏิวัติ คิดว่าบทที่ยิ่งท้าทายก็จะยิ่งทำให้โหย่วเผิงยิ่งตื่นเต้น ไม่ว่าในจอหรือนอกจอเขาเปลี่ยนบทแบบไม่ซ้ำเลย ก่อนหน้านั้นยังคุยกันอยู่ดีๆ เผลอแป๊ปเดียวก็เปลี่ยนไปอีกบทแล้ว

อีกอย่างที่ทราบมาว่า ในเรื่อง เส้าเหนียนซิงไห่นั้น (สี่ยั่วเซียน) รับบทเป็นแม่ (สี่ซิงไห่)






prattana:


10 มิถุนายน 2009 รายงานข่าวจากกวงโจว สี่ยั่วเซียนและโหย่วเผิงได้เข้าฉากเพียงวันเดียวเท่านั้น


จากข่าวว่า เรื่อง เส้าเหนียนซิงไห่ ที่สะท้อนวิถีชีวิตของ (สี่ยั่วเซียน) นั้น ถ่ายเสร็จสิ้นในวันที่ 8 ที่มาเก๊า นี่เป็นภาพยนตร์ระลึกฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณะประชาชนจีนและครบรอบ 10 ปีที่มาเก๊ากลับคืนสู่จีน จะเริ่มออกฉายในท้ายปีนี้ (ธันวาคม 2009)

18 เม.ย. ของปีนี้ เรื่อง เส้าเหนียนซิงไห่ ได้เปิดกล้องที่กวางตุ้ง และหลังจากที่ทีมถ่ายภาพได้เก็บภายที่เกาะเหิงฉิง, จูไห่, ค่ายถ่ายหนังจงซัน ค่ายถ่ายภาพยนตร์หนันไห่และค่ายถ่ายทำในกวางโจวเสร็จแล้วนั้น จะเริ่มเข้าฉากที่มาเก๊าในวันที่ 2 มิ.ย.

ผู้กำกับหลี่เฉียนควงกล่าวว่า เรื่อง เส้าเหนียนซิงไห่ นั้นได้ถ่ายทำที่ต้าซันปา ค่ายถ่ายภาพยนตร์กังติ่ง โบสถ์เซนโจเซฟ วัดหาจู่ ภูเขาเทียนจู่และมรดกโลกที่มาเก๊าเรียบร้อยแล้ว เดือนกันยาจะกลับมาตัดต่อที่ปักกิ่ง

(สี่ซิงไห่) เป็นลูกชาวประมงที่เกิดที่มาเก๊าในปี 1905 วัยเด็กเขานั้นอยู่ในสภาพของชนชั้นต่ำ ทำให้เขาสะสมการรักชาติและต่อต้านพวกญี่ปุ่น ได้แต่งเพลงต่อต้านญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะเพลงประสานเสียงหวงเหอที่เป็นวรรณกรรมที่ล้ำค่ามากๆ นักแสดงหญิง (สี่ยั่วเซียน) และเด็กๆอย่าง (เจียหังเฟิง) นั้รับบทเป็นแม่และช่วยวัยเด็กของ (สี่ซิงไห่)

ตามข่าว ในเรื่อง เส้าเหนียนซิงไห่นั้น (โหย่วเผิง) เป็นดารารับเชิญ เขารับบทเป็น (เซียวโหย่วเหม่ย) นักดนตรีที่มีชื่อในจีน (เซียวโหย่วเหม่ย) นั้นยังเคยเป็นเลขาของ ดร.ซุนยัดเซน ในเรื่องนั้น (โหย่วเผิง) ได้สวมชุดซานจวง สวมแว่นดำอันหนึ่ง มีมาดของการเป็นนักดนตรีอย่างยิ่ง

สำหรับ (เซียวโหย่วเหม่ย) นั้นเป็นนักดนตรีแห่งศตวรรษที่ 20 ที่สำคัญคนหนึ่ง ในเรื่องนั้น (โหย่วเผิง) ต้องโชว์ฝีไม้ลายมือในการเล่นดนตรีด้วย ในเรื่องไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือเล่นดนตรี เขาล้วนเล่นด้วยตนเอง

โหย่วเผิงกล่าวว่า ผู้ที่เข้าฉากเป็นศัตรูกับเขานั้นยังมี (สี่ยั่วเซียน) แต่ที่น่าเสียดายคือ เขากับ (สี่ยั่วเซียน) นั้นมีฉากเพียงแค่วันเดียวเอง จนทั้งสองรู้สึกว่ายังไม่ได้สนุกเลย...



นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version