ALL About Alec SU YOU PENG | รวบรวมผลงานของ ซูโหย่วเผิง > Movies

2009 A Singing Fairy [หวุ่ยเหวินเต๋อ]

(1/15) > >>

Alec Love Me:

more https://www.facebook.com/baansuyoupeng/media_set?set=a.899757633468415.1073741904.100003025613301&type=3&uploaded=40

วันที่ฉาย 2010-04-30
2009 A Singing Fairy [หวุ่ยเหวินเต๋อ]

หวุ่ยเหวินเต๋อ---นักร้องชาวอเมริกันเชื้อสายจีนผู้หลงใหลในเสียงดนตรี ทว่าเส้นทางดนตรีกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด  ผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “เจ๊หลิวซาน” 

ทำให้โค้ชของเขา ศาตราจารย์ ฮว่าจิน ทึ่งและยอมรับในฝีมือของเขา และแนะนำเขากลับบ้านเกิด เพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เพลงใหม่ๆ  คุณปู่หวุ่ยผู้ชื่นชอบในเสียงของเจ๊หลิวซาน เป็นห่วงหลานเรื่องคู่ครองมาตลอด พอได้ข่าวว่า หวุ่ยเหวินเต๋อ จะกลับบ้าน คุณปู่ได้แอบวางแผนกับเพื่อนสนิท ลุงโม่ เพื่อหาคู่ให้หลานชาย หวังจะให้หลานชายได้แต่งงานกับสาวกวางสี หญิงสาวธรรมดาที่รักการร้องเพลงเหมือน เจ๊หลิวซาน  และแน่นอนว่า หวุ่ยเหวินเต๋อ นั้นไม่รู้เรื่องแผนการของคุณปู่เลย

เมื่อ หวุ่ยเหวินเต๋อ ใกล้ถึงกวางสี ลุงโม่ก็ได้เตรียมการไว้อย่างยิ่งใหญ่ เขาหาไกด์ที่ดีที่สุดในบริษัททัวร์ อาเหม่ย ให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ ในขณะเดียวกัน ลุงโม่ยังได้เตรียมผู้หญิงที่ร้องเพลงเพราะที่สุดจากชนกลุ่มน้อยต่างๆจากกวางสีเช่น ชาวจ้วง แม้ว เย้า ดง เจ้ง ไว้ทั่วเมืองกวางสี เพื่อเตรียมร้องเพลงพื้นบ้านให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ ได้ฟัง แต่ว่าการวางแผนครั้งนี้ยังมีเป้าหมายหลักแฝงไว้ด้วย นั้นคือการนัดบอดให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ  แต่เรื่องกลับไม่เป็นไปตามแผน 

เมื่อไกด์อาเหม่ย ติดธุระด่วน เธอเลยแอบมอบภารกิจยิ่งใหญ่ครั้งนี้ไว้กับเพื่อนสนิทที่ชื่อ หลิวเถียนเถียน สาวน้อยชาวจ้วงคนนี้จำต้องปิดร้านเครื่องประดับของหล่อนเพื่อปลอมตัวเป็นไกด์อาเหม่ยตามที่เพื่อนขอไว้  หลิวเถียนเถียน ได้พา หวุ่ยเหวินเต๋อ เข้าชมหมู่บ้านชนกลุ่มน้อย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านเย้า แม้ว ดง จ้วง และหมู่บ้านเจ้ง ร่วมร้องเพลงเต้นรำกับชนเผ่าต่างๆ ที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อตอนรับของพวกเขา

หลิวเถียนเถียน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าชมรม “ชมรมศิลปะเจ๊หลิวซานน้อย” ก็แอบไปดวลเพลงกับเพื่อนๆด้วย หวุ่นเหวินเต๋อ อินกับบทเพลงท้องถิ่นของชนกลุ่มน้อยในกวางสี ทั้งมีความสุขและอบอุ่นกับการตอนรับของพี่น้องชาวกวางสี เขาปล่อยไก่ครั้งแล้วครั้งเหล่า ทำเอาทุกคนอดขำไม่ได้ เมื่อ หลิวเถียนเถียน ที่รู้แผนการทัวร์กวางสีครั้งนี้ ทำให้เธอเข้าใจผิดว่า หวุ่ยเหวินเต๋ย เป็นพวกเพลย์บอย เลยทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดอีกมากมาย

หลิวเถียนเถียน ตั้งใจว่าจะไม่สนใจ หวุ่ยเหวินเต๋อ อีกแล้ว แต่ความไร้เดียงสาและหลงใหลในเสียงเพลงของ หวุ่ยเหวินเต๋อ ทำให้หลิวเถียนเถียน รู้ว่าแท้จริงแล้ว หวุ่ยเหวินเต๋อ ไม่มีสวนรู้เห็นกับแผนการนี้เลย  เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว หลิวเถียนเถียน จึงช่วยให้เขาได้พ้นจากการนัดบอดที่ไม่เต็มใจครั้งแล้วครั้งเหล่า  ภายใต้เสียงดนตรีอันไพเราะชวนฝัน  ทำให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ และ หลิวเถียนเถียน มีความรู้สึกดีๆต่อกัน

และในขณะเดียวกัน การปรากฏตัวขึ้นของ อาเหม่ย ทำให้ทั้งสองเข้าใจผิดกันอีกครั้ง พอ อาเหม่ย รู้ว่าเป้าหมายของการเที่ยวกวางสีครั้งนี้คือการนัดบอดให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ อาเหม่ย ที่ตั้งใจอยากแต่งงานเข้านามสกุลใหญ่โตมาตลอด และบอกกับ หลิวเถียนเถียน ว่าตนจะแต่งงานกับ หวุ่ยเหวินเต๋อ ให้ได้ หลิวเถียนเถียน ไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เลยแอบหนีกลับบ้านเกิดตัวเอง หวังว่าการทุ่มเทกับการร้องเพลงกับเพื่อนๆ จะทำให้เธอลืมเขาได้  หวุ่ยเหวินเต๋อ เองก็ตกหลุมรัก หลิวเถียนเถียนเข้าแล้ว และได้แต่คิดถึงเธออยู่ข้างเดียว

ต่อมา อาเหม่ย พบว่า หวุ่ยเหวินเต๋อ ไม่ได้รักตน สุดท้ายจึงตัดใจจากเขา และสนับสนุนเขาให้ไปตามหา หลิวเถียนเถียน ที่เขารัก หวุ่ยเหวินเต๋อ เดินทางมาถึงบ้านเกิดของหลิวเถียนเถียน  ทันทีที่ได้ยินเสียงเพลงของ หลิวเถียนเถียน เขารู้เลยว่าเสียง เจ๊หลิวซาน ที่เขาตามหามาตลอด คือคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เขาได้สารภาพรักกับเธอ ดั่งสุภาษิตที่ว่า “คนรักกันสุดท้ายก็ต้องลงเอยกัน” และตอนนี้บทเพลงรักบทใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

http://www.youtube.com/v/xSP5bDkBKDQ&feature=relmfu
http://www.youtube.com/v/?v=4hqXBDso8Lo
2010 A Singing Fairy: Xun Zhao Liu San Jie

ชื่อ : ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy/Xun Zhao Liu San Jie

ผู้กำกับ : จูเฟิง

นักแสดง :  ซูโหย่วเผิง,  หวงเซิ่งอี

ประเภท : ความรัก สบายๆ   

สถานที่ : จีน   ภาษา. จีน  ผลิต 2009

บริษัทผู้ผลิต : ค่ายหนังกวางซี ค่ายหนังเด็กจงเหยี่ยน บริษัทวัฒนธรรมกวางซี

เกี่ยวกับเนื้อหา  :  ตามหาพี่หลิวซัน เป็นภาพยนตร์โปรโมทความงามของขุนเขาสายน้ำและชาวเมืองกวางซีด้วย ฉากหลังที่จะถ่ายทำนั้นจะเป็นภูเขากุ้ยหลินเป็นฉากหลัก ได้รู้จักพี่หลิวซันผ่านทางวัฒนธรรมที่ดีงามของชนเผ่าต่างๆเช่น เผ่าจ้วง, ม้ง, เย้า, จิง, ในเมืองกวางซี มันเป็นภาพที่สะท้อนถึงหลังจากที่มีการปฏิรูปแล้วมีการเปิดกว้างของประเทศและการเปลี่ยนแปลงของชนเผ่าต่างๆกับวัฒนธรรมด้วย

ทางผู้กำกับกล่าวว่า  “การถ่ายทำในเรื่องนี้นั้น เป็นการโปรโมทวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยเมืองกวางซี ได้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของชนเผ่าต่างๆและความเจริญก้าวหน้าของพวกเขา การที่จะไปถ่ายที่เมืองกวางซีนั้นมันมีความหมายด้านนี้เป็นอย่างมาก"


 

2010_电影_寻找刘三姐
http://tieba.baidu.com/photo/p?kw=%E8%8B%8F%E6%9C%89%E6%9C%8B&from=6&tid=2084264683#!/pid3c32c895d143ad4baa98fec882025aafa40f0601/pn1

http://tieba.baidu.com/photo/p?kw=%E8%8B%8F%E6%9C%89%E6%9C%8B&from=6&tid=2584724408


หวุ่ยเหวินเต๋อ---นักร้องชาวอเมริกันเชื้อสายจีนผู้หลงใหลในเสียงดนตรี ทว่าเส้นทางดนตรีกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “เจ๊หลิวซาน” ทำให้โค้ชของเขา ศาตราจารย์ ฮว่าจิน ทึ่งและยอมรับในฝีมือของเขา และแนะนำเขากลับบ้านเกิด เพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เพลงใหม่ๆ คุณปู่หวุ่ยผู้ชื่นชอบในเสียงของเจ๊หลิวซาน เป็นห่วงหลานเรื่องคู่ครองมาตลอด พอได้ข่าวว่า หวุ่ยเหวินเต๋อ จะกลับบ้าน คุณปู่ได้แอบวางแผนกับเพื่อนสนิท ลุงโม่ เพื่อหาคู่ให้หลานชาย หวังจะให้หลานชายได้แต่งงานกับสาวกวางสี หญิงสาวธรรมดาที่รักการร้องเพลงเหมือน เจ๊หลิวซาน และแน่นอนว่า หวุ่ยเหวินเต๋อ นั้นไม่รู้เรื่องแผนการของคุณปู่เลยเมื่อ หวุ่ยเหวินเต๋อ ใกล้ถึงกวางสี ลุงโม่ก็ได้เตรียมการไว้อย่างยิ่งใหญ่ เขาหาไกด์ที่ดีที่สุดในบริษัททัวร์ อาเหม่ย ให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ ในขณะเดียวกัน ลุงโม่ยังได้เตรียมผู้หญิงที่ร้องเพลงเพราะที่สุดจากชนกลุ่มน้อยต่างๆจากกวางสีเช่น ชาวจ้วง แม้ว เย้า ดง เจ้ง ไว้ทั่วเมืองกวางสี เพื่อเตรียมร้องเพลงพื้นบ้านให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ ได้ฟัง แต่ว่าการวางแผนครั้งนี้ยังมีเป้าหมายหลักแฝงไว้ด้วย นั้นคือการนัดบอดให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ แต่เรื่องกลับไม่เป็นไปตามแผน เมื่อไกด์อาเหม่ย ติดธุระด่วน เธอเลยแอบมอบภารกิจยิ่งใหญ่ครั้งนี้ไว้กับเพื่อนสนิทที่ชื่อ หลิวเถียนเถียน สาวน้อยชาวจ้วงคนนี้จำต้องปิดร้านเครื่องประดับของหล่อนเพื่อปลอมตัวเป็นไกด์อาเหม่ยตามที่เพื่อนขอไว้


หลิวเถียนเถียน ได้พา หวุ่ยเหวินเต๋อ เข้าชมหมู่บ้านชนกลุ่มน้อย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านเย้า แม้ว ดง จ้วง และหมู่บ้านเจ้ง ร่วมร้องเพลงเต้นรำกับชนเผ่าต่างๆ ที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อตอนรับของพวกเขา หลิวเถียนเถียน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าชมรม “ชมรมศิลปะเจ๊หลิวซานน้อย” ก็แอบไปดวลเพลงกับเพื่อนๆด้วย หวุ่นเหวินเต๋อ อินกับบทเพลงท้องถิ่นของชนกลุ่มน้อยในกวางสี ทั้งมีความสุขและอบอุ่นกับการตอนรับของพี่น้องชาวกวางสี เขาปล่อยไก่ครั้งแล้วครั้งเหล่า ทำเอาทุกคนอดขำไม่ได้ เมื่อ หลิวเถียนเถียน ที่รู้แผนการทัวร์กวางสีครั้งนี้ ทำให้เธอเข้าใจผิดว่า หวุ่ยเหวินเต๋ย เป็นพวกเพลย์บอย เลยทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดอีกมากมาย หลิวเถียนเถียน ตั้งใจว่าจะไม่สนใจ หวุ่ยเหวินเต๋อ อีกแล้ว แต่ความไร้เดียงสาและหลงใหลในเสียงเพลงของ หวุ่ยเหวินเต๋อ ทำให้หลิวเถียนเถียน รู้ว่าแท้จริงแล้ว หวุ่ยเหวินเต๋อ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับแผนการนี้เลย เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว หลิวเถียนเถียน จึงช่วยให้เขาได้พ้นจากการนัดบอดที่ไม่เต็มใจครั้งแล้วครั้งเหล่า ภายใต้เสียงดนตรีอันไพเราะชวนฝัน ทำให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ และ หลิวเถียนเถียน มีความรู้สึกดีๆต่อกัน และในขณะเดียวกัน การปรากฏตัวขึ้นของ อาเหม่ย ทำให้ทั้งสองเข้าใจผิดกันอีกครั้ง พอ อาเหม่ย รู้ว่าเป้าหมายของการเที่ยวกวางสีครั้งนี้คือการนัดบอดให้ หวุ่ยเหวินเต๋อ อาเหม่ย ที่ตั้งใจอยากแต่งงานเข้านามสกุลใหญ่โตมาตลอด และบอกกับ หลิวเถียนเถียน ว่าตนจะแต่งงานกับ หวุ่ยเหวินเต๋อ ให้ได้ หลิวเถียนเถียน ไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เลยแอบหนีกลับบ้านเกิดตัวเอง หวังว่าการทุ่มเทกับการร้องเพลงกับเพื่อนๆ จะทำให้เธอลืมเขาได้ หวุ่ยเหวินเต๋อ เองก็ตกหลุมรัก หลิวเถียนเถียนเข้าแล้ว และได้แต่คิดถึงเธออยู่ข้างเดียว ต่อมา อาเหม่ย พบว่า หวุ่ยเหวินเต๋อ ไม่ได้รักตน สุดท้ายจึงตัดใจจากเขา และสนับสนุนเขาให้ไปตามหา หลิวเถียนเถียน ที่เขารัก หวุ่ยเหวินเต๋อ เดินทางมาถึงบ้านเกิดของหลิวเถียนเถียน ทันทีที่ได้ยินเสียงเพลงของ หลิวเถียนเถียน เขารู้เลยว่าเสียง เจ๊หลิวซาน ที่เขาตามหามาตลอด คือคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เขาได้สารภาพรักกับเธอ ดั่งสุภาษิตที่ว่า “คนรักกันสุดท้ายก็ต้องลงเอยกัน” และตอนนี้บทเพลงรักบทใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Alec Love Me:


28 ธันวาคม 2009  ข่าวโดย ไฉ่ชี่เหมย

“โหย่วเผิงหล่อจริงๆ”  2 ทุ่มของวันที่ 28  ธันวาคม นักแสดงหลักในเรื่อง(ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy) อย่าง (โหย่วเผิง) (หวงเซิ่งอี)  (จีหย่งลี่) ได้ปรากฏตัวในพิธีฉายรอบปฐมฤกษ์ด้วย ทางแฟนคลับนั้นได้กรี๊ดออกมาอย่างอดไม่ได้ บางคนถึงขนาดยกกล้องแล้วตามถ่ายข้างหลังของเขา เวลานี้ยังมีแฟนคลับมากมายที่ไม่สามารถเข้ามาในงานได้เพราะคนเต็มแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเอาของที่ระลึกไปแจกจ่ายให้กับพวกเขาเพื่อจะดึงพวกเขาออกจากที่นั่น ภาพยนตร์(ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy)ของกวางซี ที่มีผู้แสดงอย่าง (โหย่วเผิง) (หวงเซิ่งอี) (จีหย่งลี่) ทำให้ตั๋วหนังนั้นขายดีมาก ช่วงเวลาสองชั่วโมงในการมีพิธีเปิดรอบปฐมฤกษ์และการพบกับสื่อนั้นทำให้พวกเขาได้รับเสียงชมและเสียงปรบมือเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดอย่างไม่ขาดสาย  นี้แสดงให้เห็นถึงความนิยมในภาพยนตร์เรื่องนี้ของเหล่าแฟบคลับ ในการที่เจอกับสื่อนั้น (โหย่วเผิง) ได้ถามแฟนคลับว่า “พวกคุณจะซื้อตั๋วเข้าชมไหม?” ทางแฟนคลับได้ตอบอย่างใจเกินร้อยว่า “แน่นอน ฉันเหมาแล้วสามร้อยใบ”
 
“น้ำกวานซีหวาน” นำเสียงปรบมือมา

การเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเริ่มโดยเพลงของภาพยนตร์เก่า(พี่หลิวซัน) คุณปู่ของ(หวุ่ยเหวินเต๋อ) นักร้องชาวจีนพ้นทะเลในอเมริกาคนหนึ่งซึ่งรับบทโดย (โหย่วเผิง) นั้นได้ดูหนังเรื่อง(พี่หลิวซัน)ในบ้าน ไม่รู้ว่าม้วนที่ฉายไม่รู้กี่ร้อยรอบของคุณปู่นั้นขาดไปแล้ว จะซ่อมต่อมันก็ซ่อมไม่ได้ คุณปู่ว่า แม้แต่ความฝันก็ยังฝันอยากจะกลับไปที่กวางซี และเมื่อได้ดื่มน้ำใสๆอึกครั้งหนึ่ง ท่านก็ได้พูดต่อว่า “น้ำนี้มันก็ใสดี แต่เสียตรงที่มันหวานไม่เท่าน้ำกวางซี”   ว้า ทันใดเสียงปรบมือดังขึ้น บรรดาแฟนคลับนั้นส่วนมากเป็นนักศึกษา พวกเขานั้นรู้สึกเข้าใจความรู้สึกของคำนี้เป็นอย่างดีและตื้นตันใจมาก เสียงปรบมือไม่หยุดในการที่ปรบมือให้กับเมืองกวางซี

ในเรื่อง(ตามหาที่หลิวซัน/A Singing Fairy)นั้น ได้นำเอาเรื่องราวการตามหาพี่หลิวซันของ(โหย่วเผิง) นั้น ได้รวบรวมไว้ในกลอนและภาพวาดน้ำและหุบเขาของเมืองกวางซี บวกกับเสียงดนตรีและเพลงพื้นเมืองที่เล่นโดยนักดนตรีที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ทำให้ผู้ชมนั้นอิงไปกับบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามของกวางซี บวกกับคำพูดในบทที่ชวนให้เพ้อฝันหลงไหลซึ้งใจที่มีไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้ได้รับปฏิกิริยาโต้ตอบจากผู้ดูเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ ขณะที่ (หวงเซิ่งอี) ที่เป็นไกค์ปลอมให้กับ (โหย่วเผิง) นำ (โหย่วเผิง) ท่องเที่ยวอิ๋วหลีเจียง (โหย่วเผิง) นำเอาเงินยี่สิบหยวนไปดูภาพวาด และเทียบกับธรรมชาติจริง เวลานั้น (หวงเซิ่งอี) บอกว่า ภาพวาดของเจียงซานนั้นเพียงสิบหยวน แต่ภาพวาดของกุ้ยหลินนั้นยี่สิบหยวน ของกุ้ยเหลินจะแพงกว่าเจียงซานสองเท่า ประโยคนี้นั้นทำให้ทุกคนที่ได้ยินปรบมือเสียงดังเลยทีเดียว

โหย่วเผิงได้ดื่มเหล้ากับสาวชาวเย้า ทำให้บรรยากาศคึกคัก

ในเรื่องนั้น โหย่วเผิงได้ไปตามหาพี่หลิวซันที่หมู่บ้านเย้า ฉากนี้นั้นได้ไปถ่ายทำที่ "หลงเซิ่ง" ซึ่งเป็นที่นาของชาวเย้า ในเรื่องนั้น (โหย่วเผิง) สวมเสื้อแจ็กเก็ทสีแดง มีผ้าพันคอด้วย กางเกงยีนส์ที่ยอดฮิต ทรงผมที่สุดเท่ห์ ทั้งยังใช้ภาษาอังกฤษที่พูดอย่างคล่องแคล้ว เวลาพูดภาษาจีนนั้นมักจะชอบพูดโดดไปโดดมา

ที่น่าขำก็คือฉากที่เขาไปสัมผัสการเป็นเจ้าบ่าวในเกี้ยวของชนพื้นเมือง ได้แบก (หวงเซิ่งอี)ขึ้นเขา และก็ได้หกล้มไป และในฉากที่หมู่บ้านเย้านั้น และทางเพื่อนเก่าของคุณปู่ได้พาเขาไปเล่นรอบกองไฟในคืนวันหนึ่ง และโหย่วเผิงก็ได้ไปร่วมดื่มกับสาวเย้าคนหนึ่ง ในฉากนี้นั้น หน้าแก้มสีแดงๆของ (โหย่วเผิง) ได้ปรากฏในจอ ทำให้แฟนคลับร้องกรี๊ดขึ้น และเวลาที่เล่าถึงช่วงถ่ายทำนั้น( โหย่วเผิง) กล่าวไปยิ้มไปว่าตอนนั้นได้ดื่มเหล้าจริงๆ “แท้จริงแล้วผมไม่ได้แสดง แก้มแดงๆที่เห็นนั้นล้วนเป็นฤทธิ์ของเหล้า” (โหย่วเผิง) พูดเปิดเผยว่า “ทุกขั้นตอนการถ่ายทำนั้นสนุกมาก ไม่ว่าจะไปในหมู่บ้านไหนก็ล้วนมีแต่สาวสวยทั้งนั้น” เมื่อพูดถึงตอนนี้ทำให้เขาหัวเราะขึ้นมา และทาง (หวงเซิ่งอี) ก็บอกว่า “ทุกๆหมู่บ้านก็จะมีสาวๆมาโยนลูกบอลกับฉัน”

(โหย่วเผิง) ยิ้มแล้วกล่าววา  เวลาถ่ายทำนั้น สิ่งที่ทำให้เขาจำฝังใจและประทับใจคือเหล้าที่หมักด้วยตัวเองของหมู่บ้านเย้านั้นกลมกล่อมมาก เมื่อดื่มไปแล้วรู้สึกคึก “ขณะว่างจากการถ่ายทำนั้น ผมได้ดื่มกับคุณลุงคนหนึ่ง ดื่มจนเมาจริงๆ” ทางพิธีกรรายการนั้นได้พูดกับ(หวงเซิ่งอี) (จีหย่งลี่) (โหย่วเผิงป ว่า “ตอนนั้นพวกเธอไม่อยู่ข้างๆ”




หวงเซิ่งอี, โหย่วเผิง ร้องเพลงคู่ (ฝันถึงพี่หลิวซัน)

(ฝันถึงพี่หลิวซัน) ได้เปิดกล้องธันวาคมของปีที่แล้ว  เป็นภาพยนตร์ที่จะฉายฉลองครบรอบ60 ปีแห่งการสถาปนาประเทศจีน เป็นภาพยนตร์แนวสบายๆ

ในเรื่องนั้น โหย่วเผิงกับหวงเซิ่งอี นั้นมีการ้องเพลงเต้นรำด้วยกันด้วย (โหย่วเผิง) ที่โด่งดังจากเสี่ยวหู่ตุ้ย การร้องเพลงนั้นถือว่าเป็นเรื่องกินขาดอยู่แล้ว เขายังบอกว่าตัวเองปรารถนาอยากจะแสดงเรื่องแบบ  (middot)  อย่างนั้นสักครั้ง ครั้งนี้ที่ได้เล่น(ตามหาพี่หลิวซัน) สามารถบอกได้ว่าสามารถทำตามใจฝันแล้ว เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสถึงเพลงพื้นเมืองของกวางซี เขารู้สึกสนุกมาก เนื้อเพลงสนุกมาก ไพเราะมาก”  และ (หวงเซิ่งอี) ที่ได้ฉายาว่านักแสดงภาพยนตร์มืออาชีพนั้น เดิมทีก็เคยเรียนการเต้นระบำ การเต้นนั้นไม่ยาก “แต่การร้องเพลงพื้นเมืองนั้น ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา”  เพื่อจะแสดงให้ดีในเรื่องนี้นั้น (หวงเซิ่งอี) ได้ให้ผู้กำกับเทรนให้ตลอด ยังเชิญนักร้องมืออาชีพของกวางซีมาแนะนำการร้องเพลงพื้นเมืองด้วย “เวลาที่นั่งเรือไปอี้โจวนั้น ไกค์นั้นได้มอบเนื้อเพลงให้กับพวกเรา พวกเราฝึกร้องไปตลอดทาง ครูสอนหนึ่งท่อนก็ฝึกร้องตามไปหนึ่งท่อน”

ในเรื่องนั้น (อาเหมย) ที่เป็นไกค์ของโหย่วเผิงที่เล่นโดย (จีหย่งลี่) ที่สอน (โหย่วเผิง) ร้องเพลงพื้นเมือง แต่ทาง (จีหย่งลี่) กล่าว่า “ในเรื่องนั้นฉันสอนเขา จริงๆแล้วนอกจอนั้นเป็นเขาที่สอนฉัน เขาสอนฉันจนเป็นแล้วฉันก็ไปสอนเขาในจอ” จากการเรียกร้องของบรรดาแฟนๆทำให้ (โหย่วเผิง) กับ (หวงเซิ่งอี) ร่วมกันร้องเพลง(ฝันเห็นพี่หลิวซัน)ช่วงทางรายการ และได้รับเสียงกรี๊ดมากมาย

สิ่งที่ควรจะกล่าวมากคือ เพลง(ฝันเห็นพี่หลิวซัน)นั้น ผู้เขียนและผู้ร้องนั้นเป็น (เหมายี่) หนุ่มหลงเซิ่ง ในพิธีนี้นั้นก็ได้เชิญเขามาร้องเป็นพิเศษ และเสียงปรบมือที่ทางแฟนๆให้กับเขานั้นก็ไม่น้อยไปกว่า โหย่วเผิงและเซิ่งอี เหมือนกัน ช่วงนี้การจะออกแสดงคอนเสิร์ทของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นหนาหูขึ้นมาอีกครั้ง ทางนักข่าวถาม (โหย่วเผิง) ว่าจะร้องเพลงอะไรบ้าง (โหย่วเผิง) กลับหัวเราะแล้วตอบว่า “ก็จะร้อง ฝันถึงพี่หลิวซัน ผมฝันถึงพี่หลิวซัน ผมจะเสนอให้พวกเขาเปลี่ยนเพลง”

จีหย่งลี่บอกว่า ตัวเองนั้น แสดงได้ “เหิ่นสือซันเตี่ยน”

(จีหย่งลี่) เป็นสาวน้อยตัวแสบที่มาจากเมืองหลวง เคยแสดง (สิงจิ่งยื่อจี้) (ฉ่วงกวงตง) (อ้ายฉิงฟูเจี้ยวจ่วนอี๋) (เจี้ยนก๋อต้าแย่) เป็นต้น บทที่เธอแสดงนั้นเป็นไกค์ที่อยากจะแต่งงานเข้าไปที่ห้าวเหมิน เพราะอย่างอยากจะให้ทาง หวงเซิ่งอี ไปเป็นไกค์ให้กับ โหย่วเผิง และก็ได้พรากไปกับการแต่งงานกับโหย่วเผิง ตลอดในเรื่องนั้นมีแต่เสียงหัวเราะ ประโยคหนึ่งที่เขาพูดกับโหย่วเผิง “เขาไม่สนใจคุณ คุณมาหาฉัน ฉันสนใจคุณ” ทำให้ทุกคนในงานหัวเราะ และการแสดงของเขานั้นมันตลกดี ตัวเธอเองก็ได้บอกว่าในเรื่องนั้นเธอเป็น เหิ่นสือซันเตี่ยน (ภาษาเซี่ยงไฮ้แปลว่า โง่เขลา ) โหย่วเผิงหัวเราะแล้วเห็นด้วย
 
ในบทที่เธอเล่นนั้นสามารถบอกได้ว่าเป็นบทที่เฉื่อยๆและเธอกล่าวว่า “เป็นบทที่ทะลุทะลวงบทที่ตัวเองคือแสดงมา” ผู้กำกับบอกฉันว่า คุณคิดว่าตัวเองแสดงได้โง่เขลาไปหน่อย ตัวละครตัวนี้นั้นเดิมทีก็เป็นอย่างนี้ โง่แบบน่ารักๆ” และด้วยการจำกัดของเวลา เวลาตัดต่อนั้นหลายฉากของอาเหมยก็ถูกตัดทิ้งไป และสิ่งนี้ก็เป็นที่เสียดายของเธอด้วย

Alec Love Me:

29 ธันวาคม 2009 โหย่วเผิงเข้าร่วมฉายเรื่อง(ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy)รอบปฐมฤกษ์ แฟนคลับเรียกร้องให้ออกอัลบั้ม

ข่าว ค่ำ 28 ธันวาคม ของสำนักข่าวซินลั่น พิธีเปิดฉายรอบปฐมฤกษ์ภาพยนตร์(ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy)ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ห้องประชุมจื้อจื้อชี ให้พระเอก (โหย่วเผิง) และ นางเอก (หวงเซิ้งอี) ได้มาร่วมงานนี้ด้วย ในเรื่องนั้นโหย่วเผิงรับหน้าที่เป็นไกค์นำเที่ยวทิวทัศน์ที่สวยงามของ เมืองกวางซี ทั้งยังได้ร้องเพลงอังกฤษและอิตาลี่ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังได้ศึกษาเพลงพื้นเมืองที่นั่นด้วย จนทำให้แฟนคลับและผู้ที่มาร่วมงานนี้ต่างก็ร้องเรียกเป็นเสียงเดียวกันว่า ออกอัลบั้มใหม่

โหย่วเผิงรับหน้าที่เป็นไกค์

เรื่อง(ตามหา พี่หลิวซัน/A Singing Fairy)นั้นเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตภาพยนตร์กวางซี และบริษัทวัฒนธรรมของกวางซีร่วมกันสร้างขึ้น เป็น ภาพยนตร์ความรักร้องเพลงที่แบบสนุกๆ แกนเรื่องนั้นจะพูดถึงความรักที่สนุกๆ ได้ถ่ายฉากที่เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามต่างๆในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยเช่น จ้ว เย้าและม้ง ทั้งยังมีเพลงพื้นเมืองที่ยอดฮิตของ (กวางซี) ด้วย ได้ใช้ศิลปินเทพอย่าง “พี่หลิวซัน” เป็นตัวละครเดินเรื่องนี้ซึ่งเป็นชนเผ่าในเมืองกวางซี ทั่งยังสามารถบอกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่โปรโมททิวทัศน์ที่สวยงามน่าหลงไหลของ เมืองกวางซีอีกด้วย เรื่องราวความรักที่แสนจะโรแมนติกนั้นทำให้เห็นทิวทัศน์ขุนเขาสายน้ำที่สวย งามและความสมัคสมานสามัคคีของชนเผ่าต่างๆด้วย ทำให้เรียกเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือของบรรดาคอหนังเป็นอย่างมาก

ถูกเรียกร้องให้ออกอัลบั้มใหม่ในงานฉายรอบปฐมฤกษ์

ใน งานฉายรอบปฐมฤกษ์นั้น (โหย่วเผิง) ได้พรรณนาถึงความสวยงามของทิวทัศน์สายน้ำและวัฒนธรรมทุกอย่างมากมายในพิธี นี้ ยังชมว่ากวางซีนั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่พิเศษมากสวยทั้ง ภูเขา สายน้ำและชาวเมือง หวังว่าผ่านทางภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถเชิญชวนผู้คนมากมายเข้าไปท่อง เที่ยวที่กวางซี ในเรื่องนั้น (โหย่วเผิง) ยังได้ร้องเพลงไม่ว่าจะเป็นเพลงอังกฤษ เพลงอิตาลี่ เพลงพื้นเมืองอีกด้วย และ ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่สนใจของสื่อ ภายใต้การเรียกร้องนั้น โหย่วเผิงได้โชว์เพลง(ฝันถึงพี่หลิวซัน) อีกด้วย และได้รับการชมเชยจากชนพื้นเมืองไม่น้อยเลยทีเดียว บวกกับทางสื่อก็ได้เรียกร้องให้โหย่วเผิงรีบออกอัลบั้มใหม่ด้วย จนทำให้ผู้มาร่วมงานต่างก็เรียกร้องเป็นเสียงเดียวกันเลยทีเดียว

ใน เรื่องนั้นจะพูดถึง (หวุยเหวินเต๋อ) นักศิลปินชาวจีนที่อยู่ที่อเมริกาคนหนึ่งที่ถูกอาจารย์แนะนำให้ กลับไปที่กวางซี ไปตามหาพี่หลิวซันที่มีอยู่ในตำนาน และผู้ซึ่งเป็นคุณปู่นั้นได้มอบให้เพื่อนเก่าคนหนึ่งให้หาคนเป็นผู้นำทางให้ เขา ด้วยเหตุนี้เองการเดินทางของเขาก็เป็น (หลิวเถียนเถียน) ผู้ที่เป็นไกค์แบบปลอมตัวมา และได้เกิดการเข้าใจผิดขึ้น สุดท้ายได้เป็นคู่รักที่ดูแลเขา.

Alec Love Me:


29 ธันวาคม 2009 โหย่วเผิง หวงเซิ่งอี จีหย่งลี่ ได้มาทำพิธีเปิด(เรื่องตามหาพี่หลิวซัน)

รายงาน ข่าว 29 ธันวาคม ภาพยนตร์ฉลองครบรอบ 60 ปี(เรื่องตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy)ได้มีพิธีเปิดรอบปฐมฤกษ์ในวันที่ 28 ธันวาคมที่ หอประชุมจื้อจื้อชีเมืองกวางซี ถงกัง ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายภาพยนตร์ของประเทศและ (ถึงหัว) ซึ่งเป็นรองผู้ว่าการได้มาร่วมในพิธีนี้ด้วย นักแสดงนำโดย โหย่วเผิง, จีหย่งลี่, หวงเซิ่งอีและผลิตเรื่องนี้เหลียงสุ่ยคัง หลี่หัวหย่งก็มาในงานนี้ด้วย ในพิธีนี้นั้น ทางจีหย่งลี่ยังเปิดเผยว่าขณะที่ถ่ายทำเรื่องนี้นั้นเขาได้เล่าประสบการณ์ ที่ไปเรียนการร้องเพลงพื้นเมืองกับโหย่วเผิง

ในเรื่อง(ตามหาพี่ หลิวซัน/A Singing Fairy) นั้น (จีหย่งลี่) ได้รับบทเป็นไกค์ เพื่อจะสานรักของโหย่วเผิงกับหวงเซิ่งอีให้เกิดขึ้น เธอจึงไปเป็นครูของโหย่วเผิง สอนโหย่วเผิงร้องเพลง ในเรื่องนั้นเธอได้ร้องเพลงพื้นเมืองได้ดีมาก ขณะที่ถูกถามว่าทำไมถึงร้องได้ดีขนาดนี้ เธอกล่าวว่า “เพราะผู้สอนมืออาชีพอย่างอาจารย์โหย่วเผิงนั่นเอง จริงๆแล้วพวกเราสองคนนั้นเขาเป็นคนสอนฉันก่อน แล้วฉันถึงไปสอนเขาในจอ ถือว่าฝึกเรียนรู้กันและกัน” สำหรับการร้องเพลงในภาพยนตร์ของเธอนั้น โหย่วเผิงเองก็เอ่ยปากชมตลอด และ (จีหย่งลี่) ที่นำการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจนั้น ไม่รู้ว่าหลังจากที่ได้ร้องสดในเรื่องภาพยนตร์แล้ว อีกหน่อยจะมีการไปร้องเพลงเป็นอาชีพหรือไม่

ตามที่ทราบ เรื่อง(ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy)นั้นเป็นเรื่องราวความรักของคนกวางซีซึ่งเรื่องนี้จะฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ใน เรื่องนั้น (จีหย่งลี่) นั้นไม่มีวาสนากับทางโหย่วเผิง นอกจอนั้น การแสดงที่ตลกสนุกอย่างเธอนั้น โหย่วเผิงได้ประเมินเธอว่าเป็นคนที่ปากมาก

ตลอด ในเรื่องนั้น (จีหย่งลี่) เป็นคนที่น่ารัก แต่ทั้งเรื่องเธอจะเล่นออกแนวตลก และด้วยบทของเธอนั้น การแสดงที่ร่าเริงของเธอทำให้ตัวเธอสง่า เต็มไปด้วยไฟ ประโยคที่ว่า “เขาไม่สนคุณ คุณมาหาฉัน ฉันสนคุณ” ซึ่งขำมาก ทำให้บรรยากาศทั้งเรื่องสนุก และทาง(โหย่วเผิง) เองก็บอกว่า (จีหย่งลี่) นั้นโง่แบบน่ารัก

ในเมื่อ เรื่องนี้ยังไม่ฉายทั่วประเทศ แต่ว่าทิวทัศน์ความงามของกวางซีนั้นเป็นสิ่งที่มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ได้ข่าวว่าเรื่องนี้จะเข้าโรงช่วงตรุษจีน และทาง (จีหย่งลี่) จะเป็นคนที่ไม่มีวาสนากับผมและเธอเป็นคนที่โง่แบบน่ารักๆอย่างไรนั้นก็ต้อง ไปติดตามที่โรงหนังก็แล้วกัน.




30 ธันวาคม 2009 (ตามหาพี่หลิวซัน/A Singing Fairy)โหย่วเผิงนักร้องขึ้นเทพ

เรื่อง นี้จะมีการจัดพิธีฉายปฐมฤกษ์ที่กวางซี ในเรื่องนั้น โหย่วเผิงรับหน้าที่เป็นไกค์นำเที่ยวทิวทัศน์ความงามของขุนเขาและสายน้ำที่ สวยงามของกวางซี ทั้งยังร้องเพลงอังกฤษและอิตาลี่ด้วย ยิ่งกว่านั้นร้องเพลงพื้นเมืองด้วย ทำเหมือนเป็นนักร้องเทพเลย แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงคือ เขาได้สร้างกระแสการร้องเพลงพื้นเมืองขึ้น และนี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้แฟนๆรอคอยต่อจาการร้องละครเพลงของเขา

เรื่อง(ตามหา พี่หลิวซัน/A Singing Fairy)เป็นภาพยนตร์รักที่แนวสบายๆสนุกๆ ได้ถ่ายทำในหมู่บ้านต่างๆเช่น หมู่บ้านจ้วง หมู่บ้านม้ง หมู่บ้านเย้า ซึ่งต่างมีทิวทัศน์ที่สวยงามน่าหลงไหลเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ยังสื่อถึงเพลงพื้นเมืองอีกด้วย ในเรื่องนั้นยังได้สื่อถึงวัฒนธรรมของเข้าม้ง เย้า จ้วงอีกด้วย เป็นชนเผ่าที่มีอัธยาศัยดีในการต้อนรับแขก ขยันขันแข็ง ใจกว้างขวางและมารยาทดีงาม

ในเรื่องโหย่วเผิงได้ร้องเพลงอังกฤษและ อิตาลี่ ร้องเพลงพื้นเมืองอีกด้วย สิ่งนี้ก็ทำให้ผู้มาในงานสนุกตื่นเต้นไปด้วย ในงานนี้ ทางผู้เข้าร่วมงานได้เรียกร้องให้โหย่วเผิงร้องเพลง (ฝันถึงพี่หลิวซัน)อีกด้วย เริ่มแรกนั่นโหย่วเผิงได้รับเสียงปรบมือจะชนเผ่าต่างๆที่ไม่เหมือนกัน และนี่เป็นก็อีกเรื่องที่โหย่วเผิงได้มาร้องเพลงในงานต่อจากเรื่องของเฟิง เซิง

เนื้อหาสำคัญนั้นเป็นการ กลับไปยังบ้านเกิดที่กวางซีของชาวจีนโพ้นทะเลคนหนึ่ง เขาไปตามหาพี่หลิวซัน เวลานั้นก็ได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามและจิตใจคนที่ดีงาม สุดท้ายก็ได้เจอคนรักเป็นเรื่องราวที่ประทับใจที่น่าติดตาม

Alec Love Me:
30 ธันวาคม 2009 พิธีเปิดฉายรอบปฐมฤกษ์(ตามหาพี่หลิวซัน)ยังเรียกเสียงหัวเราะอย่างไม่หยุด โหย่วเผิงและหวงเซิ่งอีร้องเพลงชาวเขาคู่กัน




ข่าวชีวิตความเป็นอยู่

พิธี ฉายภาพยนตร์(ตามหาพี่หลิวซัน)รอบปฐมฤกษ์ได้เปิดขึ้นในคืน 28 ธันวาคมอย่างอลวน โหย่วเผิง เซิ่งอี หย่งลี่ สามดาราก็ได้เดินเข้ามาในงาน ทำให้บรรยากาศคึกคัก ทำให้นักข่าว นักศึกษา พิธีกร รวมทั้งผู้มาร่วมงานต่างก็รีบวิ่งไปใกล้ดาราและถ่ายรูปกันอย่างวุ่นวาย ในขณะเดียวกัน แฟนคลับจำนวนมากยังถูกกั้นไม่ให้เข้าไปข้างในงานด้วย พวกเขาต้องตากลมตากความหนาวร่วมพิธีนี้อยู่นอกโดยผ่านทางวีดีโอ

พิธีรอบปฐมฤกษ์

นักแสดงได้ร้องเพลงคู่

พิธีรอบปฐมฤกษ์นั้นเป็นการโปรโหมดครั้งแรกของภาพยนตร์ตามหาพี่หลิวซัน เหลียงหย่งคัง ผู้สร้างภาพยนตร์ได้เปิดเผยกับสื่อว่า มีนาคมปีหน้า ทางค่ายยังจะมีการจัดฉายรอบปฐมฤกษ์อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งที่เมืองปักกิ่ง ทางทีมงานยังได้เชิญนักแสดงเรื่องนี้อย่างหวงหวั่นชิวและลูกสาวกับหลานสาวมาร่วมงานนี้ด้วย และสิ่งที่เวอร์กว่านี้คือ ทางทีมงานยังได้วางแผนพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของเรื่องนี้ไปจัดที่ฮ่องกง




ดูรอบปฐมฤกษ์แล้ว : โหย่วเผิงจริงจัง นักแสดงสาวทั้งสองก็ขั้นเทพ

รวม ทั้งโหย่วเผิงก็ไม่นอกเหนือที่ทั้งนักแสดงก็เป็นครั้งแรกที่ได้ดู ภาพยนตร์(ตามหาพี่หลิวซัน) ทางนักข่าวก็ได้อยู่ข้างๆสังเกตุการณ์ตลอดเวลา เห็นได้ชัดเลยว่าโหย่วเผิงนั้นดูอย่างใจจดใจจ่อ และปฏิกิริยาของเขาต่อการดูรอบนี้นั้นแปลกจริงๆ บางครั้งคนดูทั้งห้องหัวเราะกัน แต่เขากลับนั่งเงียบ ไม่หัวเราะสักนิด และบางครั้งเรื่องราวดูแล้วก็ไม่น่าขำ แต่เขากลับขำกลิ้ง ทั้งยังพูดหัวเราะกับเซิ่งอี หย่งลี่อย่างไม่หยุด พวกเขาพูดซุกซิกกันตลอดเวลา หรือว่าเวลาที่พวกเขาถ่ายทำนั้นได้เกิดเรื่องราวอะไรที่น่าขำขึ้น เพียงแต่พวกเราซึ่งเป็นคนดูนั้นอาจจะไม่รู้?

เมื่อเปรียบกับโหย่ วเผิงแล้ว ความสนใจของสองสาวนั้นก็สู้โหย่วเผิงไม่ได้ เวลาที่เริ่มฉาย ทางเซิ่งอีก็ได้ถามทีมงานอย่างเซ็งๆว่า “ไม่ดูได้ไหม?” อย่างไรก็ตามเธอก็ได้อดทนดูไปกว่าครึ่งเรื่อง สุดท้ายก็ได้ถอยออกจากโรง ตอนนั้น ในภาพยนตร์นั้นพี่หลิวซันยังไม่ได้รักพี่อาหนิว ฉากคลายแม็คหรือฉากจุดสุดยอดยังอีกยาวนานพอสมควร สำหรับหย่งลี่ก็ดูไปด้วยก้มหัวส่งข้อความโทรศัพท์ไปด้วยจนหนังจบ แน่นอนฉากของเธอส่วนมากจะอยู่ช่วงเริ่มและช่วงท้าย ฉะนั้นเมื่อถึงหนังใกล้จะจบฉากของเธอก็เยอะมาก จนไม่เห็นเธอก้มหัวส่งข้อความอีกเลย




ในงานแถลงข่าว : เซิ่งอีร้องเพลงดอยแล้วลืมเนื้อ

เมื่อ ภาพยนตร์ฉายเสร็จก็ประมาณสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ทางทีมงานได้ย้ายสถานที่ไปจัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ทางนักข่าวรู้สึกว่าตอนดูพวกเขาทั้งสามคนร้องเพลงในภาพยนตร์นั้นยังรู้สึก ไม่สะใจพอ เลยขอเชิญพวกเขาร้องสดๆในงานอีกครั้ง ตอนแรกทั้งสามก็ยังปฏิเสธ สุดท้ายทนการเรียกร้องของทุกคนไม่ได้ เลยไปปรึกษากันเกือบครึ่งวัน สุดท้ายก็ตัดสินใจร้อง

แม้ว่าตามในภาพยนตร์แล้วโหย่วเผิงเป็นคน ที่ร้องเพลงดอยไม่เก่งที่สุดเลย แต่เวลาที่ได้ร้องในงานนั้น เขากลับเป็นคนที่ร้องได้เพราะที่สุด เสียงดีและให้อารมณ์ “ฉันฝันเห็นพี่หลิวซัน” เสียงเพลงเริ่มดังขึ้น คนก็มีเสียง “ว้าว..กรี๊ด...ปรบมือชื่นชม” ดังขึ้น น่าจะเป็นเซิ่งอีที่เครียดตื่นเต้นไปหน่อย เริ่มร้องเสียงก็เหมือนดำน้ำไป และเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติก็ลืมเนื้ออีก(กรรม)



บรรยากาศในงาน

ผู้ชมหัวเราะอย่างไม่หยุด

ภาพยนตร์ เรื่องนี้นั้นเป็นภาพยนตร์โปรโมทการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เรื่องดำเนินเริ่มจากนาหลงเซิ่งไปจบที่เมืองถู่ซือ พูดจากทางเหนือไปจนถึงแม่น้ำเสี่ยน ตลอดทางนั้น ชาวเย้าร่วมดื่มเหล้า ชาวม้งเป่าขลุ่ย ชาวถงร้องเพลง โหย่วเผิงได้แสดงออกมาอย่างดี ตอนท้ายเขายังร้องเพลงยอดฮิตของชาวจ้วงอีกด้วย ก่อนจะฉายรอบปฐมฤกษ์ ทางผู้ชมอาจจะไม่รู้เลยว่า หนังเรื่องนี้นั้นมันตลกสนุกน่าขำขนาดนี้

หัวเราะ 1 : เป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวโดยตรง

ส่วน มากของภาพยนตร์นั้น เริ่มแรกก็ได้มีฉากทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองกวางซี วัฒนธรรมของชนเผ่า ทำให้ผู้ชมนั้นร้อง โอ้โห ออกมาเลย และบางฉากนั้นเป็นฉากที่ถ่ายเพื่อการโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ผู้ชมชมแล้วก็หัวเราะ เช่นตอนที่โหย่วเผิงยืนที่ข้างแม่น้ำหลีเจียง หยิบเงินยี่สิบหยวนขึ้นมา ได้ถ่ายรูปกับภาพวาดขุนเขากับสายน้ำและถ่ายกับทิวทัศน์จริง เซิ่งอีอยู่ข้างๆกระซิบว่า “สิบหยวนเป็นการถ่ายซันเสีย ยี่สิบหยวนนั้นเป็นการถ่ายเขากุ้ยหลิน นี่แสดงให้เห็นว่ากุ้ยหลินซันนั้นแพงกว่าซันเสียสองเท่า”

หัวเราะ 2 : โหย่วเผิงร้องเพลงคู่กับเพลงดอย

เพราะ ว่าโหย่วเผิงนั้นก็นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชม ฉะนั้นเมื่อถึงฉากที่โหย่วเผิงร่วมดื่มกับสาวน้อยชาวเย้า ร้องเพลงคู่โต้ตอบ พูดอย่างไม่มั่นใจต่อกล้องว่า “เกือบจะเป็นเจ้าบ่าวในหมู่บ้านแล้ว” ทุกคนได้ยินแล้วก็ขำ

สุดท้ายโหย่วเผิงใช้เพลงอิตาลี่ร้องคู่กับเซิ่งอีที่ร้องเพลงจ้วง ทำ ให้ผู้ชมยิ่งขำไปใหญ่ โหย่วเผิงได้ร้องใส่ทำนองหย่งฮั่นที่ซึ้งกับเนื้อว่า “ผู้ชายมองเห็นดอกกุหลาบป่า เป็นกุหลาบป่าที่บานในกวางซี” ทางเซิ่งอีได้ร้องตอบด้วยเพลงดอย “ไอ้ทึ่มอยากเป็นเต่า ไอ้หมูอย่าเป็นช้าง” โหย่วเผิงก็ตอบว่า “หอมหวานเอย ดวงอาทิตย์ของฉัน ..” เซิ่งอีตอบทันทีว่า “ดวงอาทิตย์ของคุณตกไปตั้งนานแล้ว รีบกลับบ้านไปทำการบ้านดีกว่า”

หัวเราะ 3 : วุ่ยจงวั่น จีหย่งลี่

ใน เรื่องนั้นเรื่องราวที่สนุกที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องของชายกับหญิง แต่เป็น ”เหล่าซี่กู่” ม่อสูที่วุ่ยจงวั่นรับเล่น ในเรื่องนั้นวุ่ยจงวั่นอยู่ในสถานการณ์ ”you don t know” ที่ใช้พูดเป็นภาษาอังกฤษ ดังวิญญาณแห่งความขำได้ติดตามโหย่วเผิงไป ทั้งยังวางแผนในการที่จะแต่งกันโหย่วเผิง ทำให้ผู้ชมหัวเราะกันอย่างเมามัน ความสนุกความมันนั้นไม่เป็นรองเรื่อง(ซันเหมาฉงจินจี้)เลย

แต่ทาง หย่งลี่นั้นแสดงออกมาได้น่ารักน่าชังมาก เมื่อดูตอนที่เขาปลอมเป็นสาวน้อยชาวจิงแล้วมาร้องเพลงพื้นเมืองกับโหย่วเผิง นั้น โหย่วเผิงที่นั่งชมอยู่ข้างล้างยังหัวเราะเลย ....

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version