ผู้เขียน หัวข้อ: [22-พ.ย.-10] Alec ทำไม"ครอบงำจิตใจ" กับบทบาทโรคประสาท ?  (อ่าน 4357 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
2010 Alec ทำไม"ครอบงำจิตใจ" กับบทบาทโรคประสาท ?
http://www.chinadaily.com.cn/hqyl/dsoumeirihan/2010-11-22/content_1254568.html


รางวัลช่อดอกไม้ไก่ทองคำครั้งที่ 19(Hundred Flowers Awards)  ซูโหย่วเผิง อาศัยหนังเรื่อง The Messag บทบาท ไป๋เสี่ยวเหนียน ชนะขาดลอย  เซี่ยถิงฟง ฝงเหยี่ยนเจิง เฉินเต้าหมิง เป็นต้น ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ได้รับรางวัลประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยมไปครอง 

ชื่อเสียงเกียรติยศอันนี้ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับของมวลชน สู่ความสำเร็จในครั้งนี้  ซึ่งรางวัล Hundred Flowers Awards  เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศอีกเวที


เมื่อไม่กี่ปีนี้ จากสัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิงได้กล่าวว่า เขาจะลองลิ้นชิมรสบทบาทที่แตกต่างกัน ค้นหาสิ่งใหม่ๆ บทบาทดีๆที่แตกต่างให้ถึงเป้าหมาย แท้จริง ที่แล้วมา ซูโหย่วเผิง ได้แสดงเป็นดาราต้นแบบ(ภาพลักษณ์ดี) เช่นหนังจอมยุทธ์มากมาย แต่ว่าบุคคลในละครเหล่านั้นล้วนสมบูรณ์มากเกินไป มาเทียบเหมือนละครงิ้ว แบบนี้ลงไปนานๆ ไม่เบื่อก็เอียน จากเขาดูๆมา บุคคลธรรมดาในชีวิตจริงๆอีกด้านหนึ่งจึงจะมีแสงตะวัน ก็มีในใจอีกด้านหนึ่งมืดมิด แล้วเลือกบทบาทแบบนี้ยังคงใหม่สด แล้วยังมีใจท้าทายต่อสู้ บนความเป็นจริง ซูโหย่วเผิง ก็ทำตามแบบนี้ ยิ่งบทบาทไม่ใช่ธรรมดายิ่งอยากจะแสดง



หนังเรื่อง The Message แสดงเป็น ไป๋เสี่ยวเหนียน

จอภาพยนตร์  ณ. ปัจจุบันนี้ จอมยุทธ์ผู้กล้า วีรบุรุษ ท่านชายเต็มไปหมดกลายเป็นภัยวิบัติ แต่บทบาทเหล่านี้สดใสเจริญตา ง่ายต่อท่านผู้ชมเบื่อหน่าย  กลับกันบทบาทที่ไม่ใช่ตัวเอก แต่สามารถผลิกคาร์แรกเตอร์ใหม่ๆนี้ เป็นสิ่งที่น่าค้นหา

นักแสดงหลายท่านห่วงใยบทบาทชนิดนี้ให้ตัวเองตีกระทบด้านลบ ยิ่งต้องห่างๆออกไป แต่ว่า ไม่กี่ปีมา ซูโหย่วเผิง ได้รับแสดงบทบาทมิใช่ตัวเอกหลายเรื่อง แล้วยังคงมีโรคทางจิตเยอะมาก เช่น

The Message ตัวแปลกประหลาด “ไป๋เสี่ยวเหนียน”
Re Ai  คลั่งไคล้รัก  ได้เป็นโรคประสาททางจิตตอนวัยหนุ่ม
Lost In Panic Room  นักเขียนนวนิยายชายมีบ้านที่มีข้าวของไม่เรียบร้อย อื่นๆ

และแล้วเขาชอบความสุขแบบนี้ไม่ใช่แบบนั้น เวลาถ่ายหนังเรื่อง re ai ซูโหย่วเผิง เคยเปิดอกพูด ผมมีใจเจตนาทำ ขณะเวลาเริ่มแรกแสดงหนังเรื่องนี้ เพราะว่าเจาะเข้าหนังลึกเกินไป เขาเกือบทำให้ตัวเองเป็นบ้า คุยถึงแสดงรับเชิญในหนังเรื่อง (อ้ายฉิงจั่วอิ้ว-Fit Lover ) ความรักบริวาร “เลือกความสวยเด่นจนคลุ้มคลั่ง” เล่นบทบาทแบบนี้ เหมือนมนุษย์ฟ้าเปรี้ยง ซูโหย่วเผิงเรียกเขาว่า “แบบไม่หยุดเหมือนมนุษย์ฟ้าเปรี้ยง” ปล่อยให้คนคิดไม่ออก หลายคนแย่งกันแสดงบทบาทตัวเอก มี ซูโหย่วเผิง ผู้เดียวเลือกผลงานแบบมือเหมือนถูกของร้อน (คงประมาณ ไม่ชอบบทดีๆ แต่อยากได้รับบทที่โหดเลวดี)



องค์หญิงกะมะลอ, ดาบมังกรหยก เป็นได้ออกฉายละครแบบสดๆร้อนๆ ปล่อยให้ ซูโหย่วเผิง ดำเนินโด่งดังต่อไป ไม่เพียงแต่ว่า ซูโหย่วเผิง พลิกรูปลักษณะกลับด้านแสดงบทบาทมิใช่ตัวเอก สาเหตุก็คือ เมื่อก่อนเคยแสดงบทบาทเยอะแยะ เช่นจอมยุทธ์ ตัวเอกคนดีมีใจรักแบบลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่ว่า ล้วนแต่แยกออกห่างวงล้อมตัวเอกไม่ได้ บทบาทเหมือนตะวันวิ่งฟ้าเปรี้ยงของวันนี้ นักแสดงอยากจะพัฒนา จำต้องเดินเส้นทางอีกสายหนึ่งไม่ใช่เส้นหนทางตัวเอก ทำจนตัวของตัวเองพลิกกลับไปกลับมา ผู้มีโรคทางจิต ก็คือบทบาทพิเศษคนหนึ่ง ต้องแสดงจิตใจเหมือนรูปแบบลักษณะเหมือนมิใช่เรื่องง่าย หลังจาก ซูโหย่วเผิง เข้าถึงความสำเร็จแสดงบท ไป๋เสี่ยวเหนียนแล้ว ยิ่งเพิ่มความแน่ใจแล้ว

เขาตัดสินใจไม่ใช่แสดงบทบาทตัวเอก ตัวเขาเองจึงเลือก “ถูกทางแล้ว” ไป๋เสี่ยวเหนียน บทบาทนี้รอคอยมานานแล้ว อีกทั้งเขาไม่ชอบบทบาทซ้ำไปซ้ำมา เห็นว่าการทำซ้ำไม่มีความหมาย ควรทำเปลี่ยนแปลง เรื่องทำไม “ใจกระตือรือร้น” บทบาทโรคประสาท ซูโหย่วเผิงกล่าวว่า จริงๆทุกคนล้วนมีธาตุจิตด้านหนึ่ง ผมจะต้องสนใจระวังเจาะขุดลึกๆอีกหน่อย




หนังเรื่อง Re Ai คลั่งไคล้รัก แสดงบท ซูหมิงเทา

ตั้งแต่ “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย” เข้าสู่วงการจนถึงปัจจุบัน ซูโหย่วเผิง ได้รางวัลนับไม่ถ้วน แรกเริ่ม ล้วนได้รับรายการรางวัลด้านดนตรีมากมาย ต่อมาอยู่วงการทีวีค่อนข้างเยอะ

เช่น “นักแสดงยอดเยี่ยม 10 ท่านหนังละครทีวีแห่งปี”
“นักแสดงชายหนังละครท่าทางสง่าที่สุด”
“รางวัลบินก้าวกระโดดที่สุด”

รายการรางวัลต่างเป็นต้น ณ . ตอนนี้ ซูโหย่วเผิงได้เปรียบเทียบ ชอบแสดงหนังใหญ่(จอเงิน) มากกว่า  เรื่องภาพยนตร์มีความสนุกชื่นชอบเป็นพิเศษ ผมรู้สึกว่าภาพยนตร์เป็นศิลปะนักแสดงในเรื่องอาชีพหนึ่ง ต้องแสดงให้ดีมิใช่ง่ายๆ ไม่กี่ปีมานี้ เขาทำลายทะลุเป้าเอกลักษณ์อย่างไม่ขาดสายเพื่อต้อนรับการท้าทายต่อสู้ ความห่วงใยถูกกำหนดลักษณะเป็นพี่ชายเพื่อนบ้านของนักโฆษณา แสดงบทโรคประสาทก็ดี แสดงมิใช่ตัวเอกก็ดี ที่จริงในที่สุดเขาคิดอยากเป็นพรรคผู้มีจอมพลัง

ผมหวังว่าสามารถอยู่ในการฝึกฝนเรียนรู้มาโดยตลอด ก้าวหน้าต่อไปโดยตลอด ขณะนั้น เพื่อถ่ายภาพยนตร์ให้ดีขึ้นเรื่อง  Re Ai  ในหนังโรคประสาท ซูหมิงเทา เขาเจาะจงเดินทางไปโรงพยาบาลบ้าสัมผัสชีวิตจริงๆ กับผู้เป็นโรคประสาทเข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิด ระหว่างจอเงินและจอแก้ว ซูโหย่วเผิงเปรียบเทียบโน้มเอียงไปสู่คนรุ่นหลัง ได้ปรับปรุงมา 2 ปี ฝึกฝนเรียนรู้ เคล็บลับใหม่

ซูโหย่วเผิงได้แสดงหนัง Lost In Panic Room แสดงบทเป็นนักนวนิยายชาย

อยู่วงเสี่ยวหู่ตุ้ยต้องต่อสู้ดิ้นรนมากว่า 20 ปี ซูโหย่วเผิงก็นับว่าเป็นดาราชายที่มียี่ห้อเก่าแก่ เพียงแต่มีใครบ้างที่รู้ จากปีนั้นถูกตั้งได้รับตำแหน่งคนดีเชื่อฟัง แล้วในที่สุดอยากเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นคนใหม่ (อยากทำในสิ่งที่ตัวเองค้นหา) หลายปีนี้ทำไมลำบากและยาวนานทุกก้าวได้โตขึ้น แล้วตอนนี้ การชิงดีชิงเด่นในวงการเพลงกลายเป็นอดีตไปแล้ว

วงการภาพยนตร์เป็นทิศทางเดินปัจจุบันต่อไปไม่สิ้นสุด  Hundred Flowers Awards  ครั้งนี้ได้รับการตัดสินนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม ธุรกิจนักแสดง ซูโหย่วเผิง ก็คือคนนักแสดงคนใหม่ที่วงการภาพยนตร์จะต้องจารึกไว้บน แผ่นฟิล์ม