ผู้เขียน หัวข้อ: [03-ก.พ.-10] เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นความภูมิใจของเราในช่วงเวลาหนึ่ง  (อ่าน 4720 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

3 กุมภาพันธ์ 2010  “เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นความภูมิใจของเราในช่วงเวลาหนึ่ง “ โหย่วเผิงได้พูดในเว็ปไซต์

จากสถานีโทรทัศน์ซานตง ทางบริษัทหลงซื่อเทียนเซี่ยได้จัดฉลองเทศกาลตรุษจีน 2010  และจะมีการอัดรายการที่ศูนย์สถานีซานตงในวันที่ 1 ก.พ โหย่วเผิงที่ห่างจากเวทีไปนานก็ได้หวนกลับมาอีกครั้ง ได้ร้องเพลง(เป้ยเปา) (ไต้เจออ้าย) สองเพลงที่เป็นเพลงเก่า และเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ภาคภูมิใจ หรืออุปสรรค์ ทุกคนล้วนได้เดินเคียงข้างผมมาจนถึงวันนี้ จะขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง”

บุคลิกเป็น ไป๋เสี่ยวเหนียน

โหย่วเผิงที่ได้มาร่วมงานในเมื่อวานซืนนั้นดูเขาไม่มีภาพของความหนุ่มอย่างอดีตแล้ว แต่งสูททั้งชุด รองเข้าหนังและเนทไทดำ ดึงความทรงจำของทุกคนไปในตัวของไป๋เสี่ยวเหนียน แม้กระทั่งพิธีกรยังแซวว่าเขามาในภาพของไป๋เสียวเหนียน เรื่องเฟิงเซิงเป็นเรื่องพิสูจน์ฝีมือการแสดงของเขา สำรับเรื่องนั้น ผู้ชมได้ดูแล้วก็มีคำชมต่อเขามากมาย โหย่วเผิงเองก็กล่าวว่า “คิดไม่ถึงเลย”

วันคืนของเสี่ยวหู่ตุ้ย ภาคภูมิใจมาก

ด้ร่วมงานแสดงฉลองตรุษจีนของยางซื่อ ทำให้เสี่ยวหู่ตุ้ยกลายเป็นจุดโฟกัสของทุกคนโดยปริยาย โหย่วเผิงพูดตรงๆว่า “มีข่าวเขียนว่าตอนที่พวกเราเจอกันใหม่ๆนั้นดูเหมือนคนแปลกหน้า มันเป็นไปได้ไง? เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจมาก ปีนี้ทุกคนได้มารวมกัน บางเวลาอาจมีความรู้สึกที่แย้งนิดๆ แต่ขณะที่รวมซ้อมการแสดงนั้นเหมือนเวลากำลังไหลย้อน แต่เมื่อกลับไปถึงที่พักก็มีความรู้สึกปกติ แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่ไกวๆหู่ แต่เป็นโหย่วเผิงแล้ว” ตามที่โหย่วเผิงกล่าว ตอนนี้ที่ซ้อมช่วงหนึ่งนั้น แต่ละคนต่างก็กำลังปรับอารมณ์ของตัวเอง อีก 9 วันก็ถึงวันรวมตัวกัน ซ้อมกันแสดง

โหย่วเผิงเปิดเผยว่า ขอเพียงเวลากับโอกาสเหมาะ เสียวหู่ตุ้ยยังจะมีการปรากฏในอีกหลายแง่มุม เพื่อจะสนองความต้องการของแฟนๆ

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

3 ก.พ. 2010: โหย่วเผิงเสร็จจากงานแสดงภาพยนตร์เปลี่ยนภาพจากไกวๆหู่เป็นหมงหู่ (เสือเชื่องเป็นเสือดุ)

การรวมตัวกันอีกครั้งหลัง 20 ปี ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงเทศกาลตรุษจีน 1 ก. พ อดีตไกวๆหู่ของเสี่ยวหู่ตุ้ยได้ปรากฏตัวที่จีหนัน ได้ร่วมอัดรายการสถานีโทรทัศน์ของซานตง ในช่วงอัดรายการนั้น โหย่วเผิงถูกห้อมล้อมด้วยสื่อ จะปรากฏภาพลักษณ์ในคืองานอย่างไรเป็นประเด็นร้อนของสื่อ

ภาพลักษณ์ของเขาถูกตั้งฉายาว่า เสี่ยวไป๋ โหย่วเผิงหน้าแดงและโต้ตอบ

หากจะหาคนที่มีหน้าที่การงานที่รุ่งที่สุดหลังจากที่ได้แยกทางกันแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นโหย่วเผิง หลังกจากที่บินเดี่ยวในปี 1993 แล้ว โหย่วเผิงก็ได้ทำอัลบั้มใหม่มากมาย และปี 90  โหย่วเผิงก็ลองหันไปเล่นละครโทรทัศน์  และได้ดังระเบิดด้วยผลงานแสดงเรื่ององค์หญิงกำมะลอที่รับบทเป็นอู่อาเกอ เสือน้อยไกวๆหู่ได้แปลงร่างเป็นจิงหนังเหลียง (นักแสดง) และทั้งยังได้ร่วมงานแสดงกับหลินซินหยูและจ้าวเว่ย แน่นอนความตั้งใจของเขาก็อยู่ในงานนี้ ปี 2005 เขาประกาศตัวจะหันไปเอาดีทางด้านการแสดงภาพยนตร์ แต่แสดงไปแล้วหลายเรื่องก็ไม่มีอะไรโดดเด่น จนมาถึงปี 2009 เรื่องเฟิงเซิงที่รับบทเป็นไป๋เสี่ยวเหนียนจนได้รับการยอมรับในฝีมือการแสดง และบทไป๋เสี่ยวเหนียนของเขานั้นเป็นที่ฝั่งใจของผู้คนมากมาย


คืนนั้นโหย่วเผิงได้แต่งตัวอย่างในเรื่องนั้นมาในงาน ทำให้ทุกคนยากจะอดคิดถึงเรื่องเฟิงเซิง และตอนให้สัมภาษณ์กับสื่อนั้น ทางโหย่วเผิงก็ถูกแซวจากทางพิธีการอีกด้วย บอกว่าชุดนี้ของคุณคงจะตัดโดยสไตน์ให้เหมือนกับไป๋เสี่ยวเหนียนเลยหรือเปล่า? โหย่วเผิงรู้สึกเขินเล็กน้อย “ไม่นะ ผมก็เป็นคนที่ชอบอะไรใหม่ๆตลอด ไป๋เสี่ยวเหนียนนั้นสำหรับผมและผู้ชมแล้วล้วนเป็นบทที่แปลกตา แต่ผมเองไม่ชอบทำอะไรที่ซ้ำๆ ต่อไปผมเองก็จะของลองอะไรที่มันไม่เคยลอง” หรือว่าถูกถามอย่างนี้แล้ว ทำให้เขากลับไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา ดูเขาเหมือนเหงื่อไหลซิบๆเลย


คิดถึงวันวานที่วานอยู่การจะจัดคอนเสิร์ดทัวร์เป็นเรื่องของวาสนา



ปี 80 นั้น โหย่วเผิง ฉีหลงและจื้อเผิงได้สร้างปฏิหาริย์เป็นวงดาราขวัญใจของชาวไต้หวัน ได้มีการทำอัลบั้มต่อเนื่องกว่า 10 อัลบั้ม แทบทุกอัลบั้มขายอย่างเทน้ำเทท่า เมื่อเอ่ยถึงความรุ่งโรจน์ในสมัยนั้น ทำให้โหย่วเผิงที่ชอบเปลี่ยนแปลงชอบลองสิ่งใหม่ได้หวนคิดถึง เขากล่าวว่า “ตัวเองไม่อยากจะมีชีวิตที่จมกับอดีต นั่นไม่ได้หมายความว่าตนไม่หวนคิดถึงเรื่องอดีต นั่นเป็นเวลาวัยหนุ่มที่ดีที่สุดและมีคุณค่าที่สุด”

คืนเทศกาลตรุษจีนปีเสือ เสี่ยวหู่ตุ้ยที่เป็นอดีตไปแล้วก็ได้นำเพลงเก่าอดีตมาร้องบนเวทีอีกครั้ง ตอนซ้อมนั้น โหย่วเผิงกับจื้อเผิงที่มีอารมณ์อาวรณ์นั้นได้แต่ร้องไห้หวนคิด ก็เหมือนกับปีที่ผ่านมา มีวงหนึ่งที่ได้มารวมตัวกันอีกครั้งแล้วได้รับการตอบรับที่ดีจนสามารถใช้โอกาสนั้นสร้างกระแสของวงพวกเขา ในปีนี้เหมือนกัน เสียวหู่ตุ้ยก็ได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะใช้โอกาสทองนี้เป็นการสร้างปลุกกระแสเสียวหู่ตุ้ยอีกครั้งไหม? เรื่องนี้โหย่วเผิงบอกว่า ก็แล้วแต่วาสนา


โกนหนวดกลายเป็นเด็กหนุ่ม ความสำเร็จในการแสดงเป็นสิ่งที่สำคัญ
 
สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ความเป็นหนุ่มหน้าใสในช่วงเสี่ยวหู่ตุ้ยของพวกเขาตอนนี้กลับเป็นศิลปินที่ต่างคนต่างอยู่ จะทำอย่างไรถึงจะให้พวกเขาหวนกลับมาเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง ตามที่ทราบมา เพื่อจะตามหาความหนุ่มของสมัยนั้น ทางผู้จัดงานได้ให้พวกเขาปรับปรุง โดยให้ฉีหลงลดน้ำหนัก และโหย่วเผิงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะที่สุดนั้นโกนหนวด

1 กุมภาพันธ์  ตอนซ้อมการแสดง หน้าตาของโหย่วเผิงหนุ่มกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด หนวดคราวใต้คางและริมปากนั้นถูกโกนเรียบร้อย เหลือเพียงบนริมฝีปากเล็กน้อยที่อนุรักษ์ไว้ แต่ได้ข่าวว่า ก่อนจะมีการถึงปีใหม่ในคืนนั้น ที่เหลือไว้นิดเดียวกันก็จะถูกโกนจนหมดสิ้น นอกจากนี้ เขาที่ไว้ผมตลอดนั้น และยังจะมีการจัดทรงให้หนุ่มที่สุด

หลังจากเรื่องเฟิงเซิงแล้ว ความตลกของเขาเป็นที่แตะตาของผู้กำกับหลายคน ตอนสัมภาษณ์ เขายังพูดตรงๆว่า ตอนนี้มีผู้กำกับหลายคนมาจีบเขาไปเล่นแนวตลกสนุกสนาน นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า ปี 2010 เขายังคงทุ่มเทกับการแสดงภาพยนตร์เป็นหลัก รอการฉายเรื่อง ตามหาพี่หลิวซัน และกำลังเลือกบทภาพยนตร์ที่จะเล่นในอนาคตต่อไปด้วย