ALL About Alec SU YOU PENG | รวบรวมผลงานของ ซูโหย่วเผิง > TV Series

21. [2551] เย้ออ้าย รับบทซูหมิงเทา

<< < (4/6) > >>

prattana:
2009-04-21  8:52:00


โหย่วเผิงจะเป็นคนสายฟ้าแลบถึงที่สุด

รายงานข่าว รวมพล ดาราดังจากละครเย้ออ้ายทั้งหมด 27 ตอนอย่างโหย่วเผิง หักแส เฉิงหลงและแสเจียหนีเป็นต้น จะออกอากาศทั่วประเทศในวันที่  24  จากสถานียูนาน เมื่อวาน พระเอกของละครเรื่องนี้ได้ไปโปรโหมดที่เมืองคุนหมิง ขณะให้สัมภากษ์จากสื่อนั้น ได้ยินเสียงจากนักข่าวบางคนบอกว่าเขาใน(อ้ายฉิงฮูเจี้ยวจ้วนหยี  2)นั้นเขาได้ได้มีการเปลี่ยนแปลงบทไปมาก มันเป็นเหมือนมนษย์สาฟ้าแลบ โหย่วเผิงกล่าวอย่างขำๆว่า “ต่อไปผมก็จะไม่หยุดในการที่จะเป็นคนฟ้าแลบ จะท้าทายการยอมรับของแฟนๆ”

บ่ายวานนี้ เนื่องจากเครื่องลงช้ากว่ากำหนด กิจกรรมระหว่างโหย่วเผิงกับแฟนๆที่ได้นัดหมายกันในช่วง 4โมงกลับถูกเลื่อนออกไป จนถึง 5 โมงเย็น โหย่วเผิงที่แต่งตัวสบายๆก็ได้โผล่ออกมา ทันทีที่เขาปรากฎตัว ทำให้กล้องทุกตัวนั้นโฟกัสไปที่ตัวเขา แม้ว่าเวลานัดหมายนั้นจะช้าไปชั่วโมง แต่เสียงปรบมือเสียงกรี๊ดที่แฟนๆมาต้อนรับเขานั้นยังคงเสียงดังมาก ในงานนั้นส่วนมากจะมีแต่แฟนหนังที่เป็นสาวๆ และยังมีแฟนๆรุ่นวัยกลายคนที่มากจากก่วงโจว ฮ่องกง ได้ยินเสียงที่พวกเขาพร้อมใจกันตะโกนว่า “ จะอดีตหรือปัจจุบัน รักโหย่วเผิงที่สุด” ทำให้โหย่วเผิงซึ้งใจเป็นอย่างมาก ขณะที่สัมภาษณ์นั้น เพื่อทำการเรียกร้องของแฟนๆโหย่วเผิงได้ร้องเพลงประกอบของเย้ออ้ายสดๆให้แฟนๆฟัง เสียงร้องของเขานั้นทำให้แฟนๆกรี๊ดกันสะนั่น

ทีวี .  ผู้ป่วยโรคจิต มันเปลี่ยนภาพลักษณ์จากฟ้าเป็นดินเลย

พูดถึง(เย้ออ้าย) โหย่วเผิงได้แนะนำว่า มันเป็นบทที่ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาที่เป็นแต่ผู้ดีสว่าผ่าเผย ในเรื่องนั้นตัวเองก็รับบทเป็นหมิงเทาที่เป็นโรคจิตที่หลากหลายอารมณ์หน้าตา อารมณ์นั้นมันต่างกันเยอะมาก บางครั้งเขาได้เปลี่ยนเป็นฉิงหลันซึ่งเป็นนิยายในสมัยโบราณ อารมณ์ความรักที่ซึ้งใหญ่ดังทะเล  บางครั้งก็หน้าตาสกปกมอมแมม อาการแสดงออกที่น่ากลัว เป็นภาพคนโรคจิตกำเริบสุดๆอย่างนั้น เอ่ยถึงตัวละครต่างๆของเรื่อง โหย่วเผิงได้กล่าวว่า “ นี่เป็นผู้ป่วยทางจิตเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในร่างกายนั้นมีอาการทางจิตที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าเขาได้ซื่อสัตย์ต่อศาสนาและความรักอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้กำกับฝ่านเรียกเราว่า “ผู้ป่วยทางจิตที่สง่าผ่าเผยคนหนึ่ง” ถามว่าการรับบทครั้งนี้นั้นมันเป็นอะไรที่ต่างกันแบบฟ้ากับดินเลย ไม่กลัวที่จะกระทบต่อภาพลักษณ์ที่อยู่ในใจของแฟนๆหรือ? โหย่วเผิงส่ายหัวแล้วพูดอย่างยิ้มว่าไม่กลัว “คงจะมีแฟนๆบางคนไม่เคยชิน จะมีเสียงตอบกลับมาบ้าง แต่ก็จะมีบางคนที่เห็นถึงความพยายามของผม และจะให้กำลังใจผมต่อไป”

ที่ผ่านมาก็ไม่มีตัวละครอย่างหมิงเทาให้ดูหรือให้เป็นแบบอย่าง  ฉะนั้นโหย่วเผิงก็ได้แต่เพียงไปสอบถามหมอ เข้าอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลที่เกียวกับคนเป็นโรคจิต ไปสัมผัสและเข้าใจถึงคนที่ป่วยทางจิต ในเรื่อง ขณะที่เขาแสดงบทของหมิงเทาตอนที่เข้าร่วมทหารกับรัสเซียได้เจอการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ และทำให้บุคลิกของเขาหักแหไป จนทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพที่สามส่วนปกติเจ็ดส่วนบ้าหรือเจ็ดส่วนปกติสามส่วนบ้าอย่างนั้น และจากตรงนี้ก็ทำให้โหย่วเผิงนั้นต้องเจอกับความลำบากมากมาย “บางครั้งผมอิงกับการแสดงมากเกินไป จนทำให้ตัวเองนั้นสับสนไปหมด ทั้งตัวแสดงบุคลิกอาการของคนบ้าออกมา”

ภาพยนตร์ เฟิงเซิง ยังท้าทายกับการยอมรับของผู้ชมต่อไป

จากฐานะของนักร้องที่เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างโหย่วเผิง ระยะนี้ได้เปลี่ยนทิศทางการงานเน้นไปทางการแสดงภาพยนตร์เป็นหลัก ช่วงก่อนมีข่าวว่าโหย่วเผิงได้เข้าไปที่ห้องบันทึกการขับร้องเพลงไปบันทึกเพลงอัลบั้มใหม่ ทำให้เป็นที่รอคอยของแฟนเพลงเป็นจำนวนมาก สำหรับเรื่องนี้ เมื่อวานโหย่วเผิงยืนยันว่า การที่ตัวเองได้เข้าไปอัดเสียงในห้องนั้นเป็นเพียงการร้องแค่เพลงเดียวเท่านั้น และเพลงเดียวนี้จะออกมาในเร็วๆนี้ด้วย

โหย่วเผิงบอกว่าตัวเองนั้นไม่ได้รับงานแสดงเกือบสองปีเต็มเลย เหตุผลก็คือเพราะตัวเองนั้นไม่ชอบกับบทที่ต้องแสดงแบบสไตล์จำเจมาตลอด บทที่จำเจนั้นไม่ได้นำสีสันมาสู่ตัวเองเลย  “ฉะนั้นผมเองก็ได้รอคอยมาตลอด จนได้มาเจอบทที่วิปลิตอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าโอกาสนั้นมาแล้ว สามารถที่จะสำแดงความสามารถที่ซ่อนอยู่แล้ว” บทของหมิงเทานั้นโหย่วเผิงเข้าใจว่าเป็นบทที่ “ตั้งแต่รับงานแสดงมานั้นบทนี้เป็นบทที่ความยากมากที่สุด” นอกจากนี้ เขาเองยังกล่าวว่าอนาคตนั้นยังจะท้าทายความรู้สึกในภาพลักษณ์ของเขากับผู้ชม เขายังยกตัวอย่างเฟิงเซิงที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น “ในเรื่องนั้นผมก็ยังรับบทที่มันแปลกๆ พิเรนๆ พวกหัวแข็กเป็นต้น เมื่อผู้ชมได้เห็นถึงบทบาทแล้วคงตลึงไม่น้อยเลย”

prattana:
Thanks, http://lm86.net/ent/NewsContent.asp?ArticleID=14831


โหย่วเผิงและหันเสวียพูดขำๆว่าช่วงเวลาการถ่ายนั้นเหมือนกับการร้นหาที่ตาย

เป็นครั้งแรกที่โหย่วเผิงได้สลัดคราบพระเอกมาแสดงเป็นคนบ้า เป็นกุลสตรีที่ฝังอยู่ในจิตใจของคนมากมายอย่างหันเสวียนั้นยิ่งที่จะรับบทที่ท้าทาย และเรื่อง(ก่อปี้หมู่ชิน)ที่จ้างจินแสดงนั้นตอนนี้ได้เปลี่ยนไปรับบทงานเฉพาะกิจที่บ้าระห่ำ (เย้ออ้าย) ตัวละครหลักสามตัวนั้นล้วนมีการเปลี่ยนบทบาทที่เป็นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และพวกเขา ได้อธิบายบทบาทที่ตัวเองแสดงนั้นอย่างไร

โหย่วเผิง :  พระเอกเสี่ยวเซิงได้เดินสู่เส้นทาง “คนบ้า”คนหนึ่ง

ในเรื่อง(เย้ออ้าย)โหย่วเผิงได้รับบทเป็นหมิงเทาที่ป่วยเป็นโรคจิต ในเรื่องนั้นโหย่วเผิงที่หล่อเหลานั้นได้แต่งตัวมอมแมม เชื่อว่าหลายคนดูแล้วก็จะตกใจ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนพูดว่า บทบาทนี้เป็นเส้นทางที่โหย่วเผิงเปลี่ยนจากภาพพระเอกมาสู่ภาพแห่งความเป็นผู้ใหญ่ แต่ว่าโหย่วเผิงก็มีมุมมองความเห็นที่แตกต่างออกไป เขาได้กล่าวว่าจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ที่ดีหรือไม่ดี “ผมเป็นคนหนึ่งที่แสวงหาการเปลี่ยนแปลง บทนี้นั้นสำหรับผมแล้วมันเป็นการท้าทาย แต่ว่าพูดว่าเป็นการทะลุทะลวงจากพระเอกเปลี่ยนเป็นบทร้ายอย่างนี้นั้นมันเป็นการพูดที่น่าขำและผิวเผินไปหน่อย” และสำหรับการแสดงออกถึงความท้าทายในครั้งนี้นั้น โหย่วเผิงกล่าวว่า สำหรับตัวเองแล้วยังถือว่าน่าพอใจมาก

“ไม่ขึ้นอยู่กับปัญหาของการเปลี่ยนแปลง”

นักข่าว : มีคนบอกว่า (เย้ออ้าย)เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอาชีพการแสดงคุณ จากภาพลักษณ์พระเอกเปลี่ยนเป็นชายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

โหย่วเผิง : ไม่ขึ้นอยู่กับปัญหาของการเปลี่ยนแปลงมั้ง ผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นศิลปินที่แสวงหาการเปลี่ยนแปลง บทของพระเอกนั้นได้แสดงจนถึงจุดสูงสุดไปแล้ว และอยากจะท้าทายบทบาทอื่นที่น่าสนใจ ไม่อยากจะซ้ำๆซากๆ


นักข่าว : ยังไงก็ยากที่จะคิดภาพของคุณในเรื่องที่เปลี่ยนไป ตลอดเวลาทีผ่านมานั้นคุณให้ภาพกับทุกคนคือชายผู้ไม่มีวันแก่


โหย่วเผิง :  (หัวเราะ) ตอนนี้จะมีการแตกต่าง ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองแก่แล้ว โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และอายุก็วางอยู่ตรงนั้นแล้ว ผมยอมที่จะชราไปตามอายุ และผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็มีอายุประมาณนี้แล้ว

นักข่าว :  มีคนบอกว่า บทคนบ้าของคุณครั้งนี้นั้นแสดงจนตีบทแตกเลย ได้เปลี่ยนภาพอดีตที่คงอยู่ในดวงใจของทุกคนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลย

โหย่วเผิง :  จริงๆแล้วผมรู้สึกว่าการพูดอย่างนี้นั้นมันน่าขำและผิวเผินมาก การเป็นนักแสดงคนหนึ่งนั้น ผมไม่ได้ใส่ใจว่าจะเป็นเพียงภาพลักษณ์ที่เป็นเฉพาะพระเอกเท่านั้น หรือจะเป็นเพียงคนดีๆอะไรอย่างนั้น ผมคิดว่าการแสดงเป็นคนบ้านั้น จุดสำคัญไม่อยู่ที่การสร้างภาพแต่เป็นความรู้สึกที่ออกมาทางสายตา

“บางครั้งผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้ว”

นักข่าว : เมื่อกี้คุณบอกว่าบทคนบ้านั้นมันท้าทายมาก ได้ข่าวว่าเพื่องานนี้แล้วคุณยังไปศึกษาที่โรงพยาบาลโรคจิตช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนหน้านี้คุณเคยรู้สึกกดดันกับการแสดงเป็นคนบ้าไหม?

โหย่วเผิง : ก่อนจะถ่ายนั้นได้ทำการบ้านมาบ้าง ความกดดันนั้นก็มีอยู่บ้าง ก็ตอนนั้นก็ได้คิดไว้ว่าจะพลิกแพลงวิธีไปตามเหตุการณ์ เมื่อถึงเวลาก็คลั่งบ้า จะกลัวอะไร?

นักข่าว  : ขอพูดบทของคุณให้ชัดเจนคร่าวๆได้ไหม


โหย่วเผิง :  นี่เป็นบทบาทหนึ่งที่มีความหมายมากๆ สังคมวัฒนธรรมยุคนั้นพิเศษมาก ตัวบทเองก็น่าสนใจน่าตื่นเต้น การบ้าคลั่งของมันก็มีหลายขั้นเหมือนกัน มันซับซ้อนไม่น้อยเลย จริงๆแล้วเขาเป็นวัยรุ่นที่ใจร้อน แต่เด็กก็มีอาการทางจิตแล้ว ได้กำเริบที่รัสเซียครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ได้เกิดเรื่องบางอย่างที่รัสเซีย หญิงสาวที่ตนรักนั้นถูกใส่ร้ายว่าเป็นฝ้ายตรงข้าม และนี่ก็ยิ่งทำให้โรคของเขานั้นหนักขึ้น เมื่อเขากลับมาในประเทศตัวเองใหม่ๆ ก็เป็นช่วงที่ได้เห็นที่ตี่ผิ่ง แม้ว่าเขามีโรคจิตในตัวเขาแล้ว แต่ดูผิวเผินแล้วเขาเป็นคนปกติทั่วไปที่มีความสง่า ไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่นเลย จากนั้นถูกเรื่องบางอย่างกระทบจิตใจ ก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย ตอนหลังก็ถูกแฟนทิ้งและถูกกดดันจากการเมือง ก็ได้บ้าคลั่งขึ้นมา ในโรงพยาบาลนั้นได้โรคได้กำเริบอย่างหนัก ตอนหลังก็ได้หลบออกมาจากโรงพยาบาล ได้เร่ร่อนพเนจรไปทั่วสารทิศ เป็นผู้ป่วยทางจิตที่มีสติคนหนึ่ง จนกระทั่งหันชิวเจอเขาได้ไปรักษาโรคที่บ้านแล้ว ลักษณะของเขานั้นเปลี่ยนไปจนหมด ตอนหลังเขาได้แต่งงานกับหญิงอื่นและเป็นพ่อคน และก็สงบลงไปเยอะมาก ไม่มีอะไรที่แบบอารมณ์ร้อน

นักข่าว : คุยเคยบอกว่าทั้งเรื่องนั้นคุณได้แสดงในอารมณ์ที่บ้าๆบอๆอยู่ตลอดเวลา?

โหย่วเผิง :  (ฮ่าๆๆ) ผมคิดว่าผมเข้าใจพวกเขา เวลาที่ใจลอยนั้นผมก็รู้สึกว่าผมนั้นบ้าไปแล้วจริงๆ ก็คงไม่ได้เป็นอย่างนี้จนหมดเรื่อง แต่ว่าในบางฉากนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนบ้าเลยแหล่ะ ตอนนี้ย้อนหลังมาดูฉากที่ตัวเองเล่นไปแล้วนั้น อารมณ์สายตาของคนบ้า แม้แต่ตัวเองก็ยังตกใจเลย ว่าตอนนั้นผมเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

นักข่าว :  ได้ข่าวว่าคุณอินกับมันมากจนนอนไม่หลับบ่อยๆ

โหย่วเผิง : ตอนนั้นทั้งคนได้กลายเป็นแบบประสาท ตอนที่ถ่ายเสร็จใหม่ๆนั้นก็ยังไม่ลืมมัน สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ ตอนนั้นพอดีไปหาผู้กำกับเกาเฉียนซู เขาประหลาดใจผมมากๆว่าทำไมผมไม่เหมือนคนเก่า ก็เพราะโดยเหตุนี้เอง ตอนหลังเขาจะทำหนังเฟิงเซิง สิ่งแรกที่เขาคิดถึงก็คือโหย่วเผิงที่บ้าๆบอๆ (หัวเราะ)ผมเองก็ดีใจที่เขาเองได้มองเห็นจุดนี้ของผม


Alec Love Me:
เว็บ
http://tv.sogou.com/series/reai.html


http://www.youtube.com/watch?v=A2eDXfIJTCI&feature=related

一九五几 热爱插曲
http://v.youku.com/v_show/id_XMTcxNjA1OTg4.html


mp3
http://music.sina.com.cn/yueku/m.php?id=1184505&FLAG_ADDLIST=0&coFlag=100013

 一九五几(电视剧《热爱》插曲
http://www.eou.cn/player/song599778.aspx

Alec Love Me:
一九五几 热爱插曲
http://v.youku.com/v_show/id_XMTcxNjA1OTg4.html

花依旧还是月依旧 春花秋月青衫袖
月依旧还是人依旧 岁月在楼头挥挥手
山悠悠还是水悠悠 青山绿水自风流
水悠悠还是船悠悠 谁在桥头再回首

mp3
http://music.sina.com.cn/yueku/m.php?id=1184505&FLAG_ADDLIST=0&coFlag=100013

prattana:










นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version