-
ซูโหย่วเผิง จิตเดิมมีใจเมตตาเป็นนักการกุศล
30 - เมษายน - 2010
http://finance.ifeng.com/money/wealth/star/20100429/2125925.shtml
http://www.time-weekly.com/story/2010-04-29/106805.html
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-24.jpg)
เด็กผู้ชายคนนั้นได้ค่อยๆ เดิน ค่อยๆไปไกล “เสี่ยวหู่ตุ้ย” เมื่อก่อตั้งปี 1988 เขาอายุยังน้อย อายุ 15 ปี ในราตรีฤดูใบไม้ผลิปีนี้(เทศกาลตรุษจีน)หวนกลับสู่เวทีขณะนั้น พวกเรารู้สึกตื้นตันใจ “ผู้ชายอายุ 40”
สำหรับความทรงจำของพวกเราที่มีต่อเขาภายใต้เวทีนี้ เสือเชื่อฟัง, องค์ชายห้า , เตียบ่อกี้ , ไป๋เสี่ยวเหนียน . ได้มีชีวิตชีวา กระโดดโลดเต้น แสดงเหมือนจริง สะกดผู้คน ต่อมา เขาต้องการให้พวกเราลืมทีละเรื่อง เพราะท้ายสุดให้มีแต่ชื่อของเขา “ซูโหย่วเผิง”
บัดนี้ เขา ได้เริ่มถอดรูปแบบพระเอกสดใสแสนดีออกแล้ว ในสายตามีความเชื่อมั่นและแน่ใจมากกว่าหนึ่งส่วน รอยยื้มบนใบหน้ามีจืดชืดและเวิ้งว้างมากกว่าหน่อย เสียงมีสภาพการณ์เปลี่ยนแปลงไปและนุ่มนวลหน่อยๆ
วัยรุ่นกล้าท้าทวนความฝันสิ่งนี้ นักสร้างกุศลจิตเดิมมีใจเมตตา เวลานี้ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวที่เด่นสง่า มีหลักอันครบถ้วนสมบูรณ์ของนักแสดง
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-19.jpg)
อ่านประวัติของเขา พวกเราได้เข้าอกเข้าใจหรือไม่.......มีสิ่งของสิ่งหนึ่ง เรียก ซูโหย่วเผิง
“ เชื่อง “ ก็คือฝึกฝนขัดเกลา
“นานมาแล้วผมไม่มีแบบ ต้นแบบวัยรุ่น อยู่บนเวทีต้องหล่อเท่ “ เมื่อนักข่าวสัมภาษณ์ (จากหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ยุคทันสมัย-บอกกล่าวเพื่อสุขภาพ ) ซูโหย่วเผิง ก็เปิดอกพูดความรู้สึกที่ได้รับในราตรีฤดูใบไม้ผลินี้(เทศกาลตรุษจีน)
“เสี่ยวหู่ตุ้ย” ขึ้นเวทีโชว์ตัวจรัสจ้าในราตรีฤดูใบไม้ผลิปีนี้(เทศกาลตรุษจีน) พวกเขาทั้งร้องทั้งเต้น ผู้ชมในเวทีก็คล้อยตามแบบกระโดดโลดเต้นขึ้นมา ดึงดูดทั้งเวทีร่วมร้องเพลงอย่างเอิกเกริกโกลาหล ยิ่งมีผู้คนปิติยินดีจนน้ำตาไหล
ใช่แล้ว ไม่มีใครสามารถหยิบเอาความทรงจำมาแทนที่ “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ใน ช่วงเวลาวัยหนุ่มตอนนั้น พูดแบบไม่ไว้หน้า นั่นเกือบจะไม่มีคู่ต่อสู้ของช่วงเวลาวัยหนุ่ม นิยายของการฝึกฝนขัดเกลาเงาคุณผมร่วมรู้กันแล้ว
เกี่ยวกับการซ้อมแสดงรวมตัวกันครั้งนี้ lซูโหย่วเผิง เปิดอกบอกกับ เฉิน ว่า พอเริ่มก็รู้สึกแปลกถิ่น เวลา 10 กว่าปีในที่สุดทั้ง 3 คนเจอหน้ากันน้อยมาก ปกติเพียงแต่บังเอิญ ติดต่อข้อความสั้นๆ แต่ว่าพอดนตรีดังขึ้น ความรู้สึกเหล่านั้นก็หวนกลับคืนมา เช่นเดียวกับท่านผู้ชม เขาคลับคล้ายหล่นเข้าไปในอุโมงค์
เริ่มแรกการซ้อมแสดง มีเรื่องหนึ่งสอดแทรกเข้ามา เมื่อดูจากชื่อเสียงของภาพรวมของซูโหย่วเผิง สถานีโทรทัศน์ยางซื่อ จึงได้ยื่นข้อเสนอให้เขายืนอยู่ตรงกลาง แต่ถูกทางบริษัทตัวแทนปฎิเสธอย่างสิ้นเชิงทันที เพราะ “ เอกลักษณ์ความคลาสสิคของ “เสี่ยวหู่ตุ้ย” จริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องปรึกษาหารือเลย ย่อมต้องดำรงรักษารูปแบบเดิมไว้”
พลิกโฉมดูรูปถ่าย“เสี่ยวหู่ตุ้ย” ในปีนั้น หลายคนจำได้รูปลักษณะ”เสือเชื่อฟัง” อันบริสุทธิ์ใน “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ของ ซูโหย่วเผิง ยังคงเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อคมเหมือนแสงจรัสจ้า อุปนิสัยฉลาดว่องไวสดใส ลักษณะท่าทางอ่อนโยนสุภาพ ไม่อายเลย เป็นนักเรียนซึ่งมาจากโรงเรียน ม. ปลายเจี้ยงจงกับมหาวิทยาลัยไต้หวัน
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-8.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-27.gif)
.......แต่ว่า “เสือเชื่อฟัง” ให้กระเป๋าใบใหญ่มากแก่ผม ทุกคนต่างหวังว่าได้เห็นทั้งเล่นแสดงบนเวทีได้ ทั้งเรียนหนังสือเก่งของ ซูโหย่วเผิง………….
ได้เขียนหนังสือเบื้องหลังและเรื่องราวของ เสี่ยวหู่ตุ้ย 3 คน โดยอดีตผู้จัดการศิลปินผู้ทรงคุณวุฒิอันล้ำลึกแห่งไต้หวัน คุณซ่งเหวินซ่าน ระยะใกล้ๆ นี้ออกหนังสือเปิดเผยว่า.....ปีนั้นเนื่องจาก ซูโหย่วเผิงยอดกตัญญู ทางบ้านเข้มงวด การเรียนการบ้านหนักมาก รายการแสดงมากมายเพียงแต่มองเห็น อู๋ฉีหลง เฉินจื้อเผิงทั้ง 2 เสือ ดังนั้นบริษัทคิดดูแล้วเอา ซูโหย่วเผิง เปลี่ยนตัวออกไป จากนั้นต่อมาเอาตัวสำรองที่เลือกเรียบร้อยแล้ว
“ผมไม่ต้องการถอนตัวออก” ซูโหย่วเผิง อดกลั้นน้ำตาซึมในขอบตา ในตากระพริบน้ำตานั้นได้กลิ้งไปมา “การเรียนของผม ตัวผมเอง ขอแบกรับเอง ลำบากแค่ไหนผมคนเดียวรับผิดชอบไหว”
เมื่อแรงกดดันธุรกิจและการเรียนหนักหน่วง ซูโหย่วเผิง ไม่รู้สึกเจ็บปวด เจ็บปวดจริงๆ คือมาจากความเศร้าสลดทางใจ......ต้นแบบที่เข้าสู่วงการมา 6 ปีคนหนึ่ง ความรู้สึกสดชื่นของเขาไม่มีแล้ว อนาคตจะทำอะไรหนอ เพื่อปลดปล่อยตัวเอง ค้นหาทิศทางอนาคต ซูโหย่วเผิง ตัดสินใจตัดขาดธุรกิจการแสดงร้องเพลงซึ่งเจริญรุ่งเรืองอยู่ เพียงตัวคนเดียวไปศึกษาต่อที่อังกฤษ เพราะไปศึกษาต่อที่เมืองนอกเป็นความใฝ่ฝันของเขา เขาย่อมเป็นเช่นนี้กล้าไปไล่ตามความใฝ่ฝัน
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-11.jpg)
-
ปฏิเสธหุ่นจำลองร้องเพลง (บทบาทไอดอลด้านการเป็นนักร้องลดน้อยลง)
หลังจากเรียนจบกลับมา ซูโหย่วเผิง ได้ค้นพบรอบๆ ตัวของโลกซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไป เคยคึกคักก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเย็นชาไป จากบนยอดเขาถึงก้นเหว เขาได้ผ่านวันเวลาที่ทนทุกข์ทรมานมาก จนถึงปี 1997 ละครเรื่องหนึ่งโด่งดังไปทั่วแม่น้ำฉางเจียงเหนือใต้ เรื่อง “องค์หญิงกำมะลอ” จึงนำเขาเข้าสู่ธุรกิจใหม่อีกครั้ง เพื่อมุ่งไปสู่บนยอดเขาอีก
ต่อจากนั้น ละครของเขาออกฉาย เขาไม่สามารถแจกแจงได้นัก เพื่อนำเอกลักษณ์โดดเด่นมากมายสู่จอเงินให้แก่ผู้ชม ใน “เดชเสี่ยวฮื่อยี้” เย็นนอกแต่ในร้อน ฮวยบ่อฮ่วย (อ่านจีนกลาง-ฮัวอู๋เชวีย) และ “มนต์รักในสายฝน” ความรักแท้ของ “ตู้เฟย” , ใน “ดาบมังกรหยก” ซื่อสัตย์ใจกว้างของ เตียบ่อกี้ (อ่านจีนกลาง-จางอู๋จี้) ใน “รักข้ามขอบฟ้า” ไม่สงบเสงี่ยมใจอันแท้จริงของ ลู่เอินฉี เป็นต้น นอกจากละครโทรทัศน์ ซูโหย่วเผิง ยังมีอัลบั้มเพลง เพลงเรียบเรียงโดยเฉพาะ ถ่ายหนังและโฆษณามากมาย เขามอบใบผลคะแนนยาวเหยียดเป็นกองๆ กลายเป็นนักแสดงที่มีความสามารถสูง
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-17.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-31.jpg)
จากต้นแบบนักร้องวัยรุ่น เปลี่ยนแปลงเป็นนักแสดงที่มีเพาเวอร์อันแท้จริง ซึ่งไม่ใช่นักแสดงแต่ละคน พอโด่งดังแล้วล้วนสามารถบรรลุความสำเร็จก็จบสิ้นเป้าหมายนี้ ต่อเมื่อมาโด่งดังอีกครั้ง ซูโหย่วเผิงได้ถอนเขี้ยวเสือแสนเชื่องในปีนั้น สำหรับความมุ่งมั่นวัยรุ่นโง่ๆ เซ่อๆ เขานำเอาสิ่งของมากมายมามองดูแบบจืดชืดแล้วไม่ใส่ใจมาก
ปี 2006 การแสดงละครเวทีของ ซูโหย่วเผิง เรื่อง (จวี๋ฮัวเซียง) “หอมดอกเบญจมาศ” อยู่ที่โรงละครใหญ่เหม่ยฉี นครเซี่ยงไฮ้แสดง 7 รอบ ทุกรอบเต็มหมด ทำลายสถิติการแสดงของโรงละครใหญ่ เหม่ยฉี ไม่ว่าค่าตอบแทนละครเวทีน้อยนิด แต่เพื่อความใฝ่ฝันสมบูรณ์ เขาปฏิเสธสัญญาหนังละครทิ้งนับไม่ถ้วน เอาเวลาครึ่งค่อนปีนี้ปักหลักบนเวทีละคร ใช่แล้ว เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงสักนิด......ยังคงเหมือนเดิมที่ติดตามความฝันคนนั้น
โดยเฉพาะเป็นคนกำเนิดจากต้นแบบของวงการ ตลอดเวลาสำหรับทุกคนเอกลักษณ์ของ ซูโหย่วเผิง ล้วนเป็นเจ้าชายงามสง่าขาวสะอาด ไม่ว่าเมื่อเป็นนักร้อง หรือเมื่อเป็นนักแสดง บทบาทที่ได้รับ เขาย่อมเป็นนักแสดงตัวเอกที่สะอาดบริสุทธิ์ ดังนั้น ซูโหย่วเผิงจึงเริ่มเบื่อหน่าย เขาบอกกับนักข่าวว่า (จากสำนักข่าวเจี้ยนคาง จงเก้า-บอกกล่าวเพื่อสุขภาพ) “ไม่อยากจะออกมาแสดงชายที่ดีงามเบอร์หนึ่งอีก ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่ออย่างนั้นหรือ ? ผมอยากจะลบภาพลักษณ์นี้”
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-32.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-20.jpg)
ในที่สุด เขารอคอยบทบาทอันเหมาะสมในบท “ไป๋เสี่ยวเหนียน” บทนี้ เพื่อนักแสดงนักร้องมีชื่ออธิบายอย่างเข้าใจ ไม่มีพื้นฐานทำนองสักนิด เขาซ้อมเรียนกับครูฝึกทุกถ้อยคำอักษรทุกวัน วิ่งรอบครบถ้วน ฝึกเสียงคอ ต้องท่องจำทั้งเนื้อเพลงให้ได้ (อิ๋วเหยียน จิงโม่ง – ความฝันสะดุ้งเมื่อเดินเที่ยวสวน) บทร้องส่วนหนึ่งในหนังร้องสั้นๆ ไม่กี่วินาที เมื่อผลลัพธ์ท่องเรียนลำบากมา 2-3 เดือน หลันฮัวจื่อ (นิ้วดอกต้นลั้ง), หลิ่วเอี้ยเหมย (คิ้วเรียวโค้ง), เหนียนๆเชียง (สำเนียงผู้หญิง), อิ๋วโถวเฝิ่นเมี้ยง (บนใบหน้ามีแต่แป้งที่ต้องแต่งหน้าไว้),
ซูโหย่วเผิงนำเอาเสียงอันนุ่มนวลแสดงต่อเนื่องจนเหงื่อเปียกโชก จนทำให้สะดุ้งตกใจเหลือนับคณา จึงทำให้คนมองเห็นธาตุลึก(พรสวรรค์+ความสามารถ)ของเขา ผู้กำกับฝงเสี่ยวกัง หลังจากดูหนังจนจบก็วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านี้ “จริงๆผมนึกว่าเขาเพียงแต่แสดงหนุ่มต้นแบบที่ดีงาม ในหนัง “ฟงเซิน – ข่าวลือ” เขาแสดงบทแตกสมบูรณ์ เกินกว่าผมคาดคิดไว้”
ไป๋เสี่ยวเหนียน คือ ซูโหย่วเผิง เพียรพยายามมากแต่แสดงออกน้อยของบทบาทนี้ ตีบทแตก เขาหวังอย่างยิ่งว่า 1-2 ปีนี้ตั้งใจอยู่กับวงการภาพยนตร์
เพราะฉะนั้น เขาจึงเข้มงวดคัดสรรบทภาพยนตร์ เขาตัดสินใจยืนหยัดปฏิเสธ ถูกเชื้อเชิญเล่นแสดงต้นแบบที่ดีชนิดใด เพราะไม่อยากรับบทเหมือนฟ้าผ่าอีก มาพูดเกี่ยวกับ ซูโหย่วเผิง เกลียดที่สุดก็คือ “หวนกลับคืนตัวเองโดยไม่ขาดสาย หรือการอยู่กับบทเดิมๆ ไม่ไปไหนเลย” “การท้าสู้บ่อยๆ เป็นสิ่งจำเป็น”
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-9.jpg)
-
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-15.jpg)
การกุศล พูดน้อยทำมาก
ระยะเร็วๆนี้ ซูโหย่วเผิง วิ่งไปมาตลอดเพื่อทำกิจกรรมการกุศลทุกชนิด ไม่ว่าเรื่องบริจาคยังต้องใช้รูปเอกลักษณ์ศิลปินดาราของตัวเองมาเป็นราชทูต เขาล้วนไม่เหนือบ่ากว่าแรง ทำสิ่งที่ต้องการด้านการกุศล อีกทั้งการช่วยเหลือกลุ่มคนหาเช้ากินค่ำ
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-33.jpg)(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-38.jpg)
วันที่ 14 เมษายน 2010 ซูโหย่วเผิงได้เป็นทูตสาธารณะประโยชน์รายการ “กระเป๋าเงินน้อย ใจรักยิ่งใหญ่” ของ มูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ในประเทศจีน ได้บริจาคเงินแสนหยวน ช่วยเหลือเด็กนักเรียน 1000 คนในเขตภัยแล้ง
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-35.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-37.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-36.jpg)
วันที่ 29 มีนาคม ซูโหย่วเผิง เป็นตัวแทนไปประเทศเคนย่า เข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะประโยชน์คุ้มครองสิ่งแวดล้อม “พระจันทร์สดใส , ไปสู่ที่เอเชีย” ไม่เพียงแต่ทางร่างกายขยันเดินคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสนับสนุนปลูกต้นไม้ ยังเจาะลึกเข้าไปโรงพยาบาลลูกช้าง สอดส่องมองดูช้างแก้ว
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-34.jpg)
วันที่ 22 มีนาคม ซูโหย่วเผิง เป็นประธานกิจกรรมโฆษณา “อุโมงค์น้ำแห่งมารดา, ชุ่มชื่น 10 ปี” พร้อมแบกรับเป็น “ทูตสาธารณะประโยชน์” ตะโกนร้องเรียกทั้งสังคมเพื่อให้ดำเนินการสนับสนุนต่อไป ได้เข้าร่วมกิจกรรม “อุโมงค์น้ำแห่งมารดา"
กิจกรรมการกุศลเรียงรายอยู่ข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน สำหรับ ซูโหย่วเผิง นั้น เส้นทางงานบุญกุศลยาวเหยียดเหมือนถูกเงาย่อลงติดตัวไม่ห่าง ที่จริง เริ่มแรกเขาก็เป็นศิลปินนักบุญที่มีชื่อเสียงในวงการแสดง ไม่เพียงแต่เข้าร่วมกิจกรรมการงานกุศลสาธารณะประโยชน์นับครั้งไม่ถ้วน แล้วยังดำรงตำแหน่งเกียรติยศอันสูงส่งได้เป็น “ทูตในงานวันคุ้มครองเด็กของฮ่องกง” , “ทูตแห่งใจรักคุ้มครองสายมารดาแม่น้ำ” , “ทูตใจรักเด็กเล็กที่พิการ และเด็กสมองพิการของประเทศจีน” , “ศิลปินที่ส่งผลในการทำกิจกรรมการกุศลมากที่สุด” “ศิลปินดารานักบุญ” เป็นต้น ซึ่งล้วนขนานนามเหล่านี้ให้แก่เขา
เปิดใจคุยเรื่องคลื่นลูกใหม่เป็นคนใจกว้างของ ซูโหย่วเผิง ข้อความหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ซึ่งตื่นตาตื่นใจได้นำเสนอ มูลนิธิผู้ใจบุญท่านหนึ่งซึ่งแนะนำวิธีบริจาคทำการกุศล นี่คือปี 2005 เขาอยู่ประเทศจีนภายใต้มูลนิธิเด็กยากไร้ ก่อตั้ง “มูลนิธิการกุศล ซูโหย่วเผิง” ร่วมแรงร่วมใจบริจาคเงินการกุศลหวังเพื่อก่อสร้างโรงเรียนประถม” ที่เปิดเรียนแล้ว ช่วยเหลือคนยากไร้เหล่านี้และพวกเด็กๆ ที่ไม่มีสถานที่เพียงพอต่อการเรียนหนังสือ ปี 2007 มาพูดคุยกับ ซูโหย่วเผิง เป็นสิ่งที่มีคุณค่าแห่งการรำลึกเป็นพิเศษในช่วงปีหนึ่ง โดยได้เตรียมการก่อสร้างมาปีกว่าของ “โรงเรียนประถมศึกษาซีว่างซูโหย่วเผิง” ซึ่งได้เปิดเทอมแล้ว นี่ได้ใช้ชื่อ ซูโหย่วเผิง เพื่อเริ่มต้นก่อตั้งกิจกรรมสาธารณะประโยชน์คนแรก
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-5.jpg)
ความจริง กิจกรรมเหล่านี้ได้มีอยู่แล้วนับตั้งแต่“เสี่ยวหู่ตุ้ย” ซูโหย่วเผิง กำลังเริ่มต้นทำงานการกุศล ไม่เพียงแต่ถ่ายแบบโฆษณาการกุศลหลากหลาย ยังเป็นคนโฆษณาป่าวประกาศ กิจกรรมกุศลอีกมากมาย หลายครั้งยังเป็นแนวหน้าเริ่มต้นก่อน และยังได้เชิญชวนทุกคนร่วมบริจาค จนถึงเดี๋ยวนี้ ซูโหย่วเผิงไม่ว่าจะอยู่ในเมือง ในชนบท เขตฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย แม้กระทั่งทั่วโลก ได้เข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมการกุศลมากมาย อีกทั้งได้รับผิดชอบเป็นทูตการกุศล และยังเข้าร่วมการแสดงเพื่อการกุศลช่วยเหลือภัยต่างๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่นับครั้งไม่ถ้วน เบื้องหลังธุรกิจการแสดงรุ่งโรจน์สดใสของเขา ยังมีหนทางการกุศลฉายแสงกระพริบเหมือนกันสายหนึ่ง
ตลอดการทำงานการกุศลที่ไม่เคยกล่าวปฏิเสธของ ซูโหย่วเผิง ทำตัวติดดินจนมีชื่อ นักข่าวจากสำนักข่าวเจี้ยนคาง จงเก้า(บอกกล่าวเพื่อสุขภาพ) นักข่าวกล่าวว่า “ เขาได้แสดงให้เห็น ที่จริงพูดจาน้อยลง ทำงานมากขึ้น” จุดนี้ไม่มีสื่อผู้ใดกล้าปล่อยข่าว ไม่มีเสื้อผ้าหรูหราแวววาว ไม่แสดงคำพูดมากเกินไป ซูโหย่วเผิงใช้จิตกุศลบุญออกมาจากตัวเอง ใจรักเมตตา ไปดูแลเอาใจใส่อย่างแท้จริง ไปช่วยเหลือบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านั้น
ถ้าหากติดตามซักถามให้ได้ว่าทำไม ซูโหย่วเผิง ยังยืนยันหนักแน่นเรื่องการกุศล แล้วในอุดมการณ์ของเขาตอนหนึ่งหรือคำอธิบายที่ดีที่สุดคือ “ ช่วยเหลือคนมีความสุขซึ่งมาจากจิตใต้สำนึกของมนุษย์ อยากได้อะไรตามใจชอบ ห่วงใยที่สุดคนรอบข้าง ที่จริงคุณกำลังขยันทำให้โลกสดสวยงดงามดีกว่านี้”
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-1.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-7.jpg)
-
ท่องเที่ยว ปลูกตื่นบ้านอยู่ที่ไหน
จากการค้นหาในความทรงจำเมื่อ 20 ปีก่อน “ เสือเชื่อฟัง” ยังเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ไม่มีกิเลส แสงอาทิตย์จรัสจ้า มีชีวิตอยู่ในภาษาเด็กเป็นเด็กผู้ชายสะอาดบริสุทธิ์ 20 ปีต่อมา เขาไว้หนวดเครา ผิวหนังโดนแดดเผาจนเป็นสีทองแดง ร่างกายก็มีเส้นขอดเกิดขึ้นตามทั่วร่างกาย สายตาลึกๆ
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-10.jpg)
......อยู่ในช่วงเวลาเดือนปีได้สะสมความนิยมมั่นคง เขามีการเจริญเติบโตกระจายไปทั่วทั้งตัวเป็นหนุ่มที่มีเสน่ห์แรง
ใกล้ๆ ไม่กี่ปีมานี้ พวกเราทั้งดีใจทั้งตกใจได้ค้นพบว่า ซูโหย่วเผิงยิ่งโตยิ่งทันสมัยขึ้น เวลาเขาปรากฏตัวกิจกรรมทันสมัยหรืองานราตรีสโมสรขนาดใหญ่ ทุกครั้งเขาเป็นผู้ออกหน้าเป็นหลัก ล้วนยิ่งได้รับความนิยมได้รับการยอมรับมากขึ้น รสนิยมอันทันสมัยแสดงสู่สุดยอด เดินตามแนวสมัยนิยมล่วงหน้า ซึ่งเขาเตรียมรับศึกษามองดูความทันสมัย การก้าวไปข้างหน้าของวงการ
สิ่งที่เป็นรายละเอียดของของ ซูโหย่วเผิง นอกจากใบหน้าที่มีริมฝีปากแดงฟันขาว บนตัวเขายังมีบุคลิกกับท่าทางเศร้าใจกลัดกลุ้มปรับตัวลดต่ำแบบอังกฤษ และรสนิยมสูงส่งสละสลวยทางฝรั่งเศส หรือไม่ก็ นี่แหละเขา มักต้องมีความเกี่ยวพันธ์กับความชอบการเดินทางท่องเที่ยว
นิตยสารสากลโลก ลงข่าวนักท่องเที่ยวดารารุ่นใหญ่ 10 คนรับพิธีมอบรางวัล ซูโหย่วเผิง ได้รับสมญานามอันทรงเกียรติเป็น “นักท่องเที่ยวที่ฉลาดและมีสติปัญญา” นี่คือ นักแสดงชาวจีนชักนำเขตแดนแบบการท่องเที่ยวที่ทันสมัย คัดเลือกจนได้รับการยอมรับสูงสุด การท่องเที่ยวทำให้พวกเรามองเห็น ซูโหย่วเผิง ได้อีกหนึ่งมุม.....นักท่องเที่ยวผู้สุภาพดีเด่น
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-21.jpg)
หวนระลึกเมื่อตอนอายุ 21 ปี ซูโหย่วเผิง กำลังอยู่ในช่วงธุรกิจตกต่ำสู่ก้นเหว เขาก็เลือกกระเป๋าเป้ใบหนึ่ง แบกกระเป๋าง่ายๆไปท่องเที่ยว ออกเดินทาง ไม่ใช่เหตุเพราะหลบหนี เพียงแต่เป็นการรู้จักตัวเองมากขึ้น หรือเพราะสาเหตุนี้ ในชีวิตต่อมา ขณะเหนื่อยหน่ายหลงทาง เขาอยากจะไปทุกแห่งหน ปล่อยวางชีวิตตัวเองให้อยู่อีกจังหวะหนึ่ง ทุกสิ่งจึงไม่ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต
สวมร้องเท้าสบายๆ คู่หนึ่ง หยิบแผนที่และกล้องถ่ายรูป ฟังดนตรี ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น อินเดีย อเมริกา ปารีส ดอนลอน เนปาล ในท่ามกลางการท่องเที่ยวของ ซูโหย่วเผิง ด้านหนึ่งเดินด้านหนึ่งพิจารณาไตร่ตรอง เขาได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว(จากหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ยุคทันสมัย -บอกกล่าวเพื่อสุขภาพ) เขากล่าวว่า...สักวันหนึ่งถ้าไม่เป็นนักแสดงแล้ว เขาก็เป็นนักพเนจรท่องเที่ยวผู้หล่อสง่าคนหนึ่ง เที่ยวพเนจรทุกหนทุกแห่ง ท่องเที่ยวเดินทางทุกแห่งหน…
ท่องเที่ยว ...มากล่าวอีกด้านของ ซูโหย่วเผิง เป็นบุคคลคนหนี่งที่(สามารถ)กระโดดออกจากวงการได้ นำพาเขาแยกออกจากสภาพแข็งกระด้างของชีวิต แต่ว่าเมื่อได้ถูกถามถึง สถานที่ซึ่งให้เขาผ่อนคลายมากที่สุด เขากลับหวนมาสู่ทางเริ่มต้นใหม่ทางจุดออกเดินทาง......บ้าน..... “ที่จริงการท่องเที่ยวก็เป็นเช่นนี้ เป้าหมายของบนท้องถนนใช่ที่จะปลุกตื่นให้กับตัวเอง บ้านอยู่ที่ไหน? “ คำพูดคำเดียวที่บอกออกมา ซึ่งเป็นปรัชญาท่องเที่ยวของเขา บทความดีๆลึกๆ ง่ายๆ แฝงรสชาติลึกซึ้ง
จริงๆ การท่องเที่ยวและการดำรงชีวิตเหมือนประโยคที่มีความหมายใกล้เคียงกันคู่หนึ่ง จิตที่คล้อยตามกัน การท่องเที่ยวในชีวิตของ ซูโหย่วเผิง เป็นคนเรียบง่ายจริงๆ คนหนึ่ง เขาชอบคลาสสิคของสีดำและสีขาว ไม่ว่านาฬิกา เสื้อผ้า ล้วนเป็นแบบเรียบง่ายที่สุด พบเจออุปสรรคหรืออารมณ์ไม่ดี เขาก็ไปห้องกีฬาเพื่อออกกำลังกาย ปลดปล่อยอารมณ์และแรงกดดัน หาเวลาว่างยาก เขาก็อยู่ในบ้านเพื่อประกอบทำงานที่เขาชอบ เขาไม่เคยใช้ชีวิตสุรุ่ยสุร่าย แล้วไม่ใส่ใจกับชื่อเสียงวงการแสดง ไม่เคยเทียบเคียงกับข่าวลือเสียดสี “ ปล่อยให้ชีวิตมีสีสัน” จึงจะคือจุดเป้าหมายของเขาอย่างดีเยี่ยมเสมอ
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-14.jpg)
-
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-12.jpg)
“ ผมกำลังเบื่อหน่ายบทบาทที่สมบูรณ์แล้ว"…….คำสนทนาของ ซูโหย่วเผิง ( นิตยสารรายสัปดาห์ยุคทันสมัย บอกกล่าวเพื่อสุขภาพ )
นิตยสาร: ราตรีสโมสรร่วมจัดฉลองตรุษจีนช่องสถานีโทรทัศน์ยางซื่อในปี 2010 ตั้งแต่แยกย้าย“เสี่ยวหู่ตุ้ย” มา 10 กว่า ปีแล้วมาพบเจอกันใหม่อีกครั้ง มีความรู้สึกอย่างไรและแตกต่างกันอย่างไร ?
ซูโหย่วเผิง : ความคุ้นเคยแล้วก็แปลกหน้า ความเงียบแบบนั้นเพิ่งหาเจอ ก็จะจบสิ้นลง นานมาแล้วผมไม่มีแบบ “ต้นแบบวัยรุ่น” อยู่บนเวทีหล่องาม รวมทั้งตอนนี้ฟังดนตรีแล้ว ล้วนไม่เหมือนเมื่อก่อนแบบนั้น ดังนั้นผมเพียงแต่พยายามหวนคืนสู่สภาพเดิมในความทรงจำของผู้ชม รูปแบบ ซูโหย่วเผิง เมื่อ 20 ปีก่อนโน้น
นิตยสาร : ร่วมแยกดีใจเสียใจเมื่อ 20 ปีก่อน “เสี่ยวหู่ตุ้ย” กับ อู๋ฉีหลง เฉินจื้อเผิง ความรักใคร่อารมณ์จะเป็นอย่างไร ?
ซูโหย่วเผิง : มีพี่น้องที่แสนดีมากๆ ผมหวังว่า“เสี่ยวหู่ตุ้ย” นอกเหนือจากเป็นตัวแทนความประทับใจในวัยหนุ่มทุกคนแล้ว ก็ยังเป็นตัวแทนมิตรภาพคนหนึ่งซึ่งเป็นเทพนิยายที่ไม่ดับสูญ เพียงแต่ผมโชคดี กลายเป็นความคลาสสิคได้เป็นนักแสดง 1 ใน 3 คนของ“เสี่ยวหู่ตุ้ย” ดำรงป้องกันมิตรภาพส่วนนี้ก็เป็นมาตรฐานสูงสุดของผม
นิตยสาร : เสือเชื่อฟังในปีนั้น ผลงานเพลงล้ำเลิศ ธุรกิจกำลังเจริญเติบโต ทำไมจึงเลือกทางไปศึกษาต่อที่เมืองนอก
ซูโหย่วเผิง : ปลดปล่อยตัวเอง ค้นหาทิศทาง ระยะหนทางเดินในปีนั้น “เสือเชื่อฟัง” ให้กระเป๋าใบใหญ่แก่ผม(ให้บทเรียนที่มีค่า) ทุกคนล้วนหวังว่าจะได้เห็น คนที่เป็นทั้งนักร้องนักแสดงและเป็นทั้งนักเรียนใฝ่เรียนหนังสือของ ซูโหย่วเผิง .....การที่ผมหยุดเรียนนั้นกระทบสะเทือนใหญ่มาก ผมไม่มีกำลังสามารถเผชิญกับสายตาของทุกคน แรงกดดันการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งยังพูดความจริง เวลานั้นผมไม่ทราบจะทำอย่างไรกับอนาคต การเข้าสู่วงการนักร้องต้นแบบมา 6 ปี ความรู้สึกสดชื่นของผมกำลังหมดลง เวลานั้นผมลังเลใจอยู่ ดังนั้นจึงตัดสินใจไปต่างประเทศ
นิตยสาร : ต่อมา“เสี่ยวหู่ตุ้ย” แสดงเดี่ยว แต่ละคนล้วนมีประสบการณ์ในเวลายากเข็ญช่วงเวลาหนึ่ง คุณจะเดินอย่างไรเพื่อผ่านหุบเขาก้นเหวนี้? หุบเขาจะกระทบได้อย่างไร ?
ซูโหย่วเผิง : มีผู้คนมากมายช่วยเหลือผม ต่อมาจึงได้ไปถ่ายละครโทรทัศน์เรื่อง “องค์หญิงกำมะลอ” ก็เป็นสมดุลทางจิตใจของตัวเอง ขยันขันแข็งเพื่อศึกษาเรียนกับผู้อื่น
นิตยสาร : ในภาพยนตร์ เฟิงเซิง(The Messege) คุณย้อนอดีตลักษณะแสงอาทิตย์กลับไปมา นำนิ้วดอกต้นหลัน (ดอกกล้วยไม้) -ทำท่าทางของงิ้ว , เหนียนๆ เชียง - สำเนียงผู้หญิง , บนใบหน้าของ ไป๋เสี่ยวเหนียน เต็มไปด้วยการตกแต่งด้วยแป้ง แสดงต่อเนื่องจนเหงื่อโชกทั้งตัว เกี่ยวกับบทบาทแสดงนี้ คุณลังเลใจบ้างไหม ? ทำไมกล้าย้อนรูปลักษณะกลับไปกลับมาหรือ ?
ซูโหย่วเผิง : บทบาทแสดงนี้คุณต้องเก่งมาก จึงจะสามารถแสดงออกมาได้ดี เป็นไปได้ว่าสามารถมีโอกาสมีชื่อเสียงในช่วงข้ามคืน โอกาสแบบนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียว ล้วนไม่มีเหตุผลปล่อยให้ผ่านไป แพ้ไม่ละอายผู้คน กลัวแพ้จึงละอายผู้คน
นิตยสาร : ถ่ายละครหนังหนึ่งเรื่องก็มีค่าตอบแทน 1 ล้าน แต่รายได้ละครเวทีเพียงมีเลข ศูนย์ ทำไมคุณเลือก เล่น ( จวี๋ฮัวเซียง ) “หอมดอกเบญจมาศ” ทันที
ซูโหย่วเผิง : ที่จริง ตั้งแต่เล็กเกี่ยวกับละครพูดแบบนี้ ผมมุ่งสู่ด้านนี้มาก สามารถอยู่บนเวทีแสดงละครพูด เป็นความใฝ่ฝันของผมมาตลอด
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-18.jpg)
นิตยสาร : เวลารับงานภาพยนตร์ละครอยู่ คุณสนใจรับงานแสดงบทบาทอะไร?
ซูโหย่วเผิง : อย่างน้อยบทการแสดงเหมือนฟ้าผ่ามากเกินไปผมก็จะไม่รับแสดง เกี่ยวกับบทแสดงเป็นคนสมบูรณ์แบบอย่างนั้นผมกำลังเบื่อแล้ว ผมชอบรับหนังแบบที่มีอารมณ์ทางใจมีท้าทายหรือการต่อสู้บ้าง
นิตยสาร : ทำบุญกุศล คุณปรับตัวลดต่ำมาตลอดใช่ไหม ?
ซูโหย่วเผิง : ที่จริงแต่ละคนล้วนมีใจทำงานบุญเพื่อสาธารณะประโยชน์ มีเงินออกเงินมีแรงออกแรง
นิตยสาร : ในฐานะพิเศษของการเป็น “ศิลปินนักแสดง” เกี่ยวกับงานการกุศลยิ่งต้องช่วยเหลือหรือไม่ ?
ซูโหย่วเผิง : แน่นอน บุคคลที่มีกลุ่มฝูงชนมาสนใจ และยังได้รับการดูแลเอาใจใส่จากกลุ่มฝูงชนจำนวนมาก ยิ่งจำเป็นต้องเอาตัวเองไปใช้เป็นแบบอย่าง ผมหวังว่าตัวเองสามารถนำคนส่วนหนึ่งมาร่วมกันทำบุญกุศล ทำความดีที่จริงเพียงแต่ยื่นมือออกแรงช่วยเหลือ
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-30.jpg)
นิตยสาร : พอใจลักษณะการดำรงชีวิตเวลานี้หรือไม่ ?
ซูโหย่วเผิง : ยังดีอยู่ครับ เออๆ
นิตยสาร : งานยุ่งมาก มีเวลาออกกำลังกายบ้างไหม ? จัดแบ่งเวลาชองตัวเองอย่างไร?
ซูโหย่วเผิง : เมื่อก่อนจะถ่ายหนังเรื่องหนึ่งก็ไปออกกำลังกายบ่อยๆ ต่อมาถ่ายหนังเรื่อง เฟิงเซิง ต้องลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ระยะใกล้นี้มีเวลาล้วนอยู่กับงานทั้งหมด เกือบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย
นิตยสาร : เวลาเจออุปสรรคหรืออารมณ์ไม่ดี โดยทั่วไปเลือกวิธีแก้ไขแบบไหน ?
ซูโหย่วเผิง ช่วงเวลาบ่ายผมจะไปห้องออกกำลังกาย ให้ออกเหงื่อ ก็รู้สึกตัวเองเบาสบาย อะไรๆ ก็ไม่อยากคิดแล้ว อารมณ์ปลดปล่อยออกมา ก็จะเย็นใจของมันเองเพื่อไปแก้ไขปัญหา
นิตยสาร : ตั้งแต่อายุ 15 ปีเข้าสู่วงการถึงเดี๋ยวนี้ คุณจะเอาตัวเองมาเป็นอาชีพนักแสดงทั้งชีวิตหรือไม่ ?
ซูโหย่วเผิง : ไม่เป็น ถึงเวลา แน่นอนผมจะไปทำการกุศลบ้าง เพื่อใช้ชีวิตแบบเบาๆ บ้างก็แล้วกัน
นิตยสาร : สมัย 30 ปีก่อนกับสมัย 30 ปีหลัง เกี่ยวกับชีวิตมีอะไรแตกต่างกันบ้าง
ซูโหย่วเผิง : มีเรื่องให้คิดมากมาย
นิตยสาร : ถ้าหากกล่าวถึงชีวิตเป็นบทละคร คุณจะเขียนบทละครแก้ไขใหม่หรือไม่ แล้วจะกำกับชีวิตของคุณเองได้อย่างไร ?
ซูโหย่วเผิง : ปล่อยให้ชีวิตมีสีสัน คือ จุดเป้าหมายเลิศที่สุดของผม
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-13.jpg)
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/lmh_04/b4k-26.jpg)
The End
(http://i954.photobucket.com/albums/ae25/lmh_03/de6b1c4d.gif)