Interviews [Thai Translation] | ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ ซึ่งไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน > Online Interviews & Updates

ข่าวซูโหย่วเผิง~SuYouPeng (Alec Su-苏有朋) [General News]

<< < (2/12) > >>

My Dream_ฝน:
http://www.youtube.com/v/?v=xmY_LIRgZzg
http://www.youtube.com/watch?v=xmY_LIRgZzg


[21/4/2012]

ผู้ประกาศข่าวหญิง    : ภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ เป็นภาพยนตร์ของบริษัท เจียง ซู หนาน
                              เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ 3 คุณแม่มือใหม่ รวมถึงความซาบซึ้งและประทับใจจากเรื่องนี้
                              และในวันนี้เราได้เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศกันถึงที่กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้
                              ให้พวกเรามีโอกาสได้สัมภาษณ์กันอย่างใกล้ชิด


ผู้ประกาศข่าวชาย    : ภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ ได้เริ่มเปิดกล้อง และถ่ายทำกันที่ เจียง ซู หนาน
                             ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซูโหย่วเผิง ซึ่งรับบทเป็นว่าที่สามี และยังเป็นบทที่
                             เป็นตัวแทนสื่อถึงความน่ารัก สดใส ของคู่รักอีกด้วย


ซูโหย่วเผิง นักแสดง: มันสามารถใช้ความเป็นธรรมชาติสื่อมันออกมาได้ มันอาจจะต้องแสดงให้ดูเท่ห์
                             และสมาร์ทสักเล็กน้อย และมันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะไกลตัวเราสักเท่าไหร่นะครับ
                             แล้วก็ต้องทำตัวเองให้ดูเป็นสุภาพบุรุษอีกสักหน่อย เมื่อทุกคนได้ดูแล้ว
                             จะรู้สึกมีความสุขไปกับมัน แล้วผมก็ไม่ต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำด้วย
                             หาบทอะไรที่แปลกใหม่มาลองแสดง เติมเต็มให้ตัวเอง


นักข่าวถาม             : คุณอยากที่จะรื้อฟื้นความทรงจำในวัยหนุ่มอีกครั้ง กลับมาเป็นขวัญใจอีกครั้ง


ซูโหย่วเผิง             : อือ...นั่นแหละคือเหตุผล เอาโอกาสที่ได้แสดงบทเป็นหนุ่มหล่อคนนี้แหละ
                             แสดงให้มันเต็มที่


ผู้ประกาศข่าวชาย    : บทบาททางการแสดงที่เค้าเคยได้รับนั้น มีมากมายนับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น
                             จากภาพยนตร์เรื่อง เฟิงเซิง ที่เค้ารับบทเป็นตัวละครที่แฝงด้วย
                             บุคลิกของผู้หญิงอย่าง ไป๋เสี่ยวเหนียน


(เฟิงเซิง)ซูโหย่วเผิง : ไม่ว่าผมหรือใครในด้านมืดล้วนก็ต้องมีด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงคุณด้วย


ผู้ประกาศข่าวชาย    : จากภาพยนตร์เรื่อง ซาเซิง เป็นบทที่เค้าสามารถแสดงได้อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
                             อย่างแพทย์หนิว


(ซาเซิง)ซูโหย่วเผิง  : ฉันจะฆ่าอย่างวัวอย่างควายได้อย่างไรกัน


ผู้ประกาศข่าวชาย    : ไม่เพียงแค่นี้ ผลงานและบทบาทที่เขาได้ทุ่มเทไปนั้น
                             เขาคิดว่าเป็นบทที่ต้องอาศัยความพยายามและความอดทนสูง ดังนั้น
                             เขาจึงอยากที่จะพลิกบทบาทของตนเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ มาเป็นเด็กหนุ่มสมาร์ท
                             ซึ่ง ซูโหย่วเผิง ก็สามารถที่จะเปลี่ยนบทบาทของตนเองได้อย่างราบคราบ
                             ในฉากที่ต้องเป็นฝ่ายขอฝ่ายหญิงแต่งงาน มอบชุดเจ้าสาวให้ฝ่ายหญิง
                             และเค้าก็ได้เสนอข้อคิดเห็นมากมายหลายอย่างในการเข้าฉากนี้


ซูโหย่วเผิง            : หลังจากนั้นมันต้องเป็นแบบนี้ พอนางเอกยังงอนอยู่ก็ รีบควักมันออกมา   
                            แล้วบอกว่า แต่งงานกับผมนะ มันออกจะดูเชยและโบราณมากเลย


ผู้กำกับ                 : คุณคิดว่ามันดูเชยมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
 

ซูโหย่วเผิง            : ก็ใช่น่ะสิ มันไม่เห็นจะมีอะไรที่มันดูแตกต่างไปกว่านี้เลยนิ


ผู้ประกาศข่าวชาย    : เพื่อให้ฉากขอแต่งงานมีอะไรที่แปลกใหม่ไปจากเดิม ซูโหย่วเผิง
                             ได้เสนอตัวเลือกมา 2 ตัวเลือก
                             ตัวเลือกที่ 1 สวมชุดแต่งงานซะเอง


ซูโหย่วเผิง            : คุณจะยอมแต่งงานกับ...มั้ย ?


ผู้กำกับ                 : พวกคุณเล่นไรกันน่ะ ตกใจหมดเลย คุณเป็นฝ่ายที่ทำให้ผู้ชายร้อนอกร้อนใจ
                             ตอนที่รู้สึกสำนึกผิดและอยากทำโทษตัวเอง คุณก็ห้ามเค้าไม่ให้ทำมัน
                             เหตุผลมันก็มีเพียงเท่านี้


ซูโหย่วเผิง            : ผมผิดไปแล้ว...... (ตบหน้าตัวเอง)


ผู้ประกาศข่าวชาย   : ตัวเลือกที่ 2 มาพร้อมกับหุ่นวิวาห์


ซูโหย่วเผิง            : เหมิงเหมิง คุณยังจำได้มั้ย ชุดแต่งงานชุดนี้เป็นชุดที่คุณเคยบอกว่าชอบมัน


ซูโหย่วเผิง            : แค่อยากจะหาวิธีการอะไรใหม่ๆบ้าง เพราะละครแนวรักโรแมนติก
                            ผมก็เคยเล่นมาแล้วก็ตั้งมาก ที่จะต้องแสดงให้ถูกธรรมนองคลองธรรม
                            ผมว่ามันคงไม่ค่อยเหมาะกับหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่นะ อยากจะทำอะไรที่แบบ
                            ให้ท่านผู้ชมดูแล้วรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใคร

My Dream_ฝน:
http://www.youtube.com/v/?v=laVu1D08kPQ
http://www.youtube.com/watch?v=laVu1D08kPQ


[20/4/2012]

ผู้ประกาศข่าวชาย  : ซู โหย่ว เผิง “ความรัก” กับลูกเล่นต่างๆ กอดหุ่นชุดเจ้าสาวสารภาพรัก


รายงานข่าวภาพยนตร์ประเทศจีน   


ผู้ประกาศข่าวหญิง : ในตอนนี้ ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่อง ซาเซิง ของ ซู โหย่ว เผิง ยังไม่เข้าฉาย
                           แต่ในตอนนี้เค้าก็ได้เข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ใหม่เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ เมื่อวานนี้
                           ทางผู้สื่อข่าวของเราได้ไปที่กองถ่ายที่ เจียงซู เป็นช่วงที่ ซูโหย่วเผิง
                           กำลังเข้าฉากสารภาพรักอยู่พอดี ภาพยนตร์เกี่ยวกับความรัก ซูโหย่วเผิง
                           ก็แสดงมาไม่น้อยแล้วนะค่ะ มาดูกันค่ะว่า เค้าจะมีไอเดียอะไรดีๆกับเรื่องนี้กันบ้าง


ผู้ประกาศข่าวชาย  : (ซูโหย่วเผิง สารภาพรักสลัดความเฉย)  วานนี้ เรื่องราวของ 3 คุณแม่มือใหม่
                           ที่รับอุปการะเด็กน้อยคนหนึ่งที่ถูกทอดทิ้ง ในภาพยนตร์ใหม่เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่
                           ถ่ายทำกันที่มณฑลเจียงซู (เจียงซูหนานทง รายงาน)  เราจะเห็นกันนะครับว่า
                           ในกองถ่าย ท่านผู้กำกับ เจินผิง กำลังซักซ้อมบทให้กับ ซูโหย่วเผิง และนางเอง
                           อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง เตรียมความพร้อมก่อนเข้าฉาก และในฉากนี้นะครับ
                           มันมีความพิเศษตรงที่


ซู โหย่ว เผิง        :  เหมิง เหมิง คุณจำแบรนด์ของชุดแต่งงานนี้ไม่ได้แล้วเหรอ เหมิง เหมิง
                           คุณจำแบรนด์ของชุดแต่งงานนี้ไม่ได้แล้วเหรอ !! ไม่ว่าคุณจะต้องการเด็กคนนั้น
                           ด้วยหรือไม่ ชุดแต่งงานชุดนี้กับตัวผมมันยังคงเป็นของคุณเสมอ (อยากจะอ๊วก!)


ผู้กำกับ               : คัต !
 

ซู โหย่ว เผิง        : นี่มันไม่เหมือนกับที่บทเขียนไว้นะครับ เพราะฉะนั้นแล้วผมขอศึกษาดูให้ดีก่อนแล้วกัน
                           มันเปลี่ยนไปหมดเลย


ผู้ประกาศข่าวชาย : เดิมที ซูโหย่วเผิง ต้องสารภาพรักกับนางเอก อ้าย ซิน จูเว โลว ฉี่ ซิง ที่นิวยอร์ก
                           แต่ทางผู้กำกับเห็นว่า ซูโหย่วเผิง นั้นน่าจะชำนาญด้านการแสดงนี้
                           คาดไม่ถึงเลยนะครับว่าเค้าจะมีความคิดที่เหนือชั้นขนาดนี้


ซู โหย่ว เผิง        : ดูดูแล้วไม่ว่าคุณจะพูดบทไหนก็รู้สึกอึดอัดไปหมดเลยนะ ไม่ได้รู้สึกอึดอัด
                          นั่นมันก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งนะ ก็มันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแปลกใหม่เลยนิ
                          มันไม่มีอะไรที่ทำให้คนอื่นเค้ารู้สึกว่ามันเซอร์ไพส์เลย ใช่ไหมล่ะ
                          แล้วมันก็ยังเหมือนรู้สึกว่านางเอกยังงอนอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็ควักมันออกมา
                          (แหวนหมั้น) แต่งงานกับผมนะครับ นี่มันอะไรกันเชยสิ้นดี ว่ามั้ย
                          (บทรักเรื่องนี้เชยได้ใจจริงๆ !)


ผู้ประกาศข่าวชาย : ที่แท้ ซูโหย่วเผิง นั้น ให้ความสำคัญและรายละเอียด กับบทรักโรแมนติก
                          มากเลยทีเดียว เค้าอยากจะอุ้มหุ่นชุดเจ้าสาวเข้าไปในฉาก


ซู โหย่ว เผิง       : ไม่ว่าผมจะแต่งตัวเป็นกรรมกรก็ดี หรือไม่ก็แอบอยู่ในหุ่นนี้ล่ะก็
                         คุณก็ต้องเล่นไปกับผมด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นถึงจะแสดงให้ดูหวานเลี่ยนอีกหน่อย
                         มันถึงจะให้คุณใจอ่อนได้ คุณต้องแสดงให้มันดูหวานหยาดเยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบ
                         ต้องหยาดเยิ้ม (หวานเลี่ยนยังได้รับเลือกพิจารณา)


อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง : มันไม่ง่ายเลย


ซู โหย่ว เผิง             : จำได้มั้ย นี่คือชุดแต่งงานที่คุณชอบมากที่สุด คุณจะแต่งงานกับผมไหม


ผู้กำกับ                   : ตอนที่คุณ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ น่ะ ผู้ชายเค้าเกร็งแล้ว ฟังผมพูดนะ ตลกเป็นบ้า


ผู้ประกาศข่าวชาย     : เพื่อให้ฉากสารภาพรักมีอะไรที่แปลกใหม่ ซูโหย่วเผิง
                              ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมของเค้าก็ว่าได้


ซู โหย่ว เผิง            : สารภาพรักมันง่ายไหม


อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง : ไม่ง่ายเลย ไหนลองแสดงใหม่ซิ เมื่อไหร่ที่คุณจะสารภาพรักกับเค้าบ้างล่ะ
                               จะได้เอาไปใช้ ฮาฮา


ซู โหย่ว เผิง             : ผมคิดว่าจะเอาหุ่นนี้เข้าฉากด้วย


อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง : ใช่ ใช่ ใช่


ซู โหย่ว เผิง             : เพราะว่าผมกับหนังแนวรักรัก เล่นมาก็ไม่น้อยแล้วนะครับ
                                ที่จะให้ดูแบบถูกธรรมนองคลองธรรมอ่ะนะ มันออกจะดูไม่ค่อยเข้ากับผม
                                สักเท่าไหร่ อยากที่จะปรับแต่งอะไรบ้าง ก็อะไรที่มันไม่เหมือนคนอื่น
                                ที่เค้าเคยทำกันน่ะ


ผู้สื่อข่าวถาม             : แล้วถ้าคุณต้องเป็นคนที่สารภาพรักเองจริงๆล่ะ คุณจะมีลูกเล่นอะไรเยอะแยะ
                                ขนาดนี้ไหม


ซู โหย่ว เผิง             : น่าจะเป็นอย่างนั้น ผมจะลากเค้าลงทะเล (ลอกเลียนแบบ ไททานิค ?!)
                                อะไรอย่างนั้น ก็ผมมันเป็นคนที่ไม่ธรรมดานิ ที่ชอบทำอะไร แผลง แผลง


My Dream_ฝน:
http://www.youtube.com/v/?v=GMcFWwrD5zY
http://www.youtube.com/watch?v=GMcFWwrD5zY



[21/4/2012]

พิธีกร          : บทบาทของ ซู โหย่ว เผิง ในแต่ละเรื่อง ล้วนแล้วแต่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง
                    ไม่ว่าจะเป็น "ฮวยบ่อข่วย" จากเรื่อง เดชเซียวฮื่อยี้ "เตียบ่อกี้" จากเรื่อง ดาบมังกรหยก
                    "ตู้เฟย" จากเรื่อง มนต์รักในสายฝน แล้วยังมี "ลู่เอินฉี" จากเรื่อง รักข้ามขอบฟ้า
                    แล้วเค้าจะรู้สึกประทับใจกับบทบาทไหนกันนะ เราไปฟังกัน..ว่าเค้าจะตอบว่าอย่างไร


ซูโหย่วเผิง  : กับการเปลี่ยนแปลงจาก “ ไกว ไกว หู่ ”
                   ถามผมว่ารู้สึกประทับใจกับบทไหนน่ะเหรอ ผมคิดว่าในแต่ละบทมันก็
                   อืม....เพราะตั้งแต่เราได้บทมา ก็ต้องใช้เวลาร่วมเดือนในการศึกษามัน ผมจึงคิดว่า
                   ทุกบทบาทมันก็เป็นอะไรที่เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่มีค่าสำหรับผมครับ
                   แล้วบทเหล่านั้นก็ เอ่อ....มันก็ใช่ว่าจะเล่นได้กันง่ายง่ายนะครับ
                   เลยทำให้ผมมีความทรงจำดีดี และมีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้นด้วย


พิธีกร         : ซูโหย่วเผิง กับการเข้าวงการครั้งแรกเพียงอายุ 15 ปี กับผลงานเพลง
                   และเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา ไกวไกวหู่ เป็นก้าวแรกที่สร้างชื่อเสียงของเขา
                   ให้ก้าวเข้าสู่วงการ และจากผลงานเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ในบทของ องค์ชายห้า
                   เค้าก็ยังได้รับเสียงตอบรับที่ดี และได้รับความสนใจจากแฟนแฟน และจากชื่อเสียง
                   ในบทบาทของ องค์ชายห้า ทำให้เค้าถูกตั้งคำถามว่าเป็นนักร้องที่ผันตัวเอง
                   มาเป็นนักแสดง


ซูโหย่วเผิง : ความจริงในตอนนั้น มันค่อนข้างที่จะมีโอกาสที่ประจวบเหมาะพอดี
                  และเริ่มมีความคิดวางแผนในการทำงานในอนาคต
                  แล้วผมเองก็อยากที่จะลองทำงานอะไรใหม่ๆด้วยล่ะครับ



พิธีกร       : ในปี 2008 ซูโหย่วเผิงได้มีโอกาสร่วมงานแสดงภาพยนตร์ ต่อมาในปี 2010
                 เค้าก็มีผลงานจากเรื่อง เฟิง เซิง ซึ่งผลงานในเรื่องนี้ ทำให้เค้าได้รับรางวัล
                 ตัวประกอบฝ่ายชายดีเด่นจาก งานรางวัลป๋ายฮัวครั้งที่ 9
                 HUNDRED FLOWERS AWARDS ซึ่ง ซูโหย่วเผิง ยอมรับกับทางเราว่า
                 กว่าจะได้รางวัลนี้มา เล่นเอาเค้ากดดันไม่ใช่น้อย


ซูโหย่วเผิง : ก่อนที่ผมจะได้เข้าฉากจริง ผมจะชอบกังวลกลัวว่าจะเล่นบทไม่ได้
                 เพราะตัวละครที่ผมเล่นนั้น เป็นตัวละครที่เล่นค่อนข้างยาก
                 แล้วผมก็ใช่ว่าจะเป็นนักแสดงมืออาชีพอะไรขนาดนั้น
                 มันจึงทำให้ผมกังวลว่าผมจะสามารถเล่นมันออกมาได้ไหม
                 แล้วจะมีใครสนับสนุนเห็นด้วยกับตัวละครนี้ของผมไหม แล้ว....
                 ก่อนวันที่จะเปิดกล้อง นานอยู่หลายเดือนที่ผมขยันไปฝึกเรียนร้องเพลง
                 พอมานั่งคิดคิดดูนะครับ มันก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อนะครับ
                 ตอนแรกคิดว่าจะทำมันไม่ได้ซะอีก เป็นครั้งแรกที่ เริ่มเรียนร้อง เรียนรำ เป็นกับเค้า
                 แล้วหลังจากนั้นจะเริ่มร้องเพลงกล่อมตัวเองทุกวัน ฮาฮา...
                 นี่ก็เป็นการเตรียมตัวของผมก่อนที่จะได้เข้ากล้องแสดงจริง

                 แล้วหลังจากที่ภาพยนตร์เปิดกล้องแล้วมันก็ยังแอบรู้สึกติดติดขัดขัดอยู่บ้าง
                 มันยังแสดงไม่ออก ตอนอยู่ในฉากมันแสดงไม่ออก รู้สึกขอโทษจริงจริง
                 แล้วหลังจากนั้น........ก็ค่อยๆที่จะเรียนรู้ว่าจะแสดงมันออกมาได้อย่างไร ต้องตั้งใจ
                 มุ่งมั่น เพราะว่าบทที่ผมได้เล่นนั้นเป็นตัวเด่นของเรื่องเลย

                 ดังนั้นผมจึงใช้ความกดดันตรงนี้ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
                 ทำให้ตนเองสามารถที่จะพลิกบทบาทในการแสดงได้
                 ผมใช้เวลากว่าครึ่งปีที่คลุกคลีอยู่กับบทนี้ สิ่งที่ผมคิดว่ายาก
                 ผมก็สามารถที่จะทำมันได้สำเร็จ มันเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ผมนั้นยากจะลืมเลือน
                 เก็บไว้ในส่วนลึกในความทรงจำของผม ผมว่ามันก็คุ้มค่านะครับ

                 มันก็ใช่ว่าจะเป็นบทที่เลวร้ายนัก เพราะตัวละครตัวนั้นเท่าที่ผมจำได้
                 พอผมแสดงเสร็จปั๊บจะต้องกลับมาดูว่าเป็นอย่างไร
                 มันก็เป็นอีกมุมมุมหนึ่งของคนเราที่ถูกหยิบยกออกมาจากชีวิตคนเรานั้นแหละครับ


พิธีกร       : อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ยังน้อย ซูโหย่วเผิง ยังต้องอาศัยความพยายาม
                 ด้านการแสดงมากกว่านักแสดงคนอื่นๆ ถึงแม้ผลงานด้านภาพยนตร์ของเค้า
                 อาจจะยังไม่มากนัก แต่ผลงานของเค้าทุกชิ้นเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว


ซูโหย่วเผิง : หลังจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง เฟิงเซิง ที่เป็นงานที่ท้าทายสำหรับผม
                 แล้วไหนจะต้องถ่ายเรื่อง ซาเซิง ที่ผมครั้งแรกรับเล่นเป็นตัวร้าย ถ้าจะให้ผมพูดนะครับ
                 มันก็เป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับผมมากเลยล่ะ เพราะว่าผม....คิดว่า
                 แสดงบทร้ายเนี่ยมันไม่สามารถที่จะยิ้มได้เลย ที่จะมาแสดงอารมณ์สดใส ร่าเริง
                 เป็นคนดี ได้ ผมคิดว่าบทนี้ต้องใช้ความพยายามอีกเช่นกัน
                 จริงๆแล้วผมก็แค่อยากให้บทที่เล่นนั้นมีความท้าทาย
                 อยากจะให้บทที่ได้เล่นนั้นมีความยากง่ายต่างกันออกไป
                 เพราะว่าก่อนหน้านี้บทที่ผมเล่นส่วนใหญ่ มันมีคาร์แรกเตอร์คล้ายกับตัวผมมากเกินไป


พิธีกร        : จากแรกเข้าวงการของ ไกวไกวหู่ ในวัยเพียง 15 ปี ตลอดเวลากว่า 20 ปี
                 เค้าได้รับความสำเร็จด้านการแสดงกว่า 50 เรื่อง พวกเรามาร่วมเป็นกำลังใจให้กับ
                 ภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ของเค้า ขอให้เค้าสร้างสรรค์ผลงานการพลิกบทบาท
                 ให้พวกเราได้ชมกันในเร็วๆนี้


ซูโหย่วเผิง : สวัสดีแฟนคลับทุกคนที่กำลังรับชมอยู่ทุกท่าน ผม ซูโหย่วเผิง
                 ขอขอบคุณทุกท่านที่มาให้กำลังใจผมกันถึงที่นี่


พิธีกร        : ค่ะ แล้วหลังจากนี้เราจะร่วมกันย้อนวันวานจากวง (เสี่ยวหู่ตุ้ย) แก๊งค์เสือน้อย
                 กับผลงานเพลง (ชิงผิงกั่วเล่อหยวน) สวนสนุกแอปเปิ้ลเขียว
                 เรามาร่วมย้อนความทรงจำนั้นอีกครั้ง ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ


วง เสียว หู่ ตุ้ย : แก๊งค์เสือน้อย
เพลง ( ชิง ผิง กั่ว เล่อ หยวน )  สวนสนุกแอปเปิ้ลเขียว อัลบั้ม สุขสันต์วันปีใหม่


เดินเตร็ดเตร่ยามเที่ยงคืนในวันหยุด เดินมาจนถึงสวนสนุกแอปเปิ้ลเขียวที่ต้อนรับเด็กหนุ่มพเนจร ไม่ต้องยืนงง มาตะโกนร้องกันให้สุดเสียง พูด bye bye ให้กับความเหงายามค่ำคืน ดนตรีและแสงดาวมันช่างแสนโรแมนติก ความกลัดกลุ้ม กังวลใจ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเราทั้งนั้น ที่นี่คือเวทีของพวกเรา ตอนนี้เรามาบริหารเสน่ห์กันหน่อย ปล่อยให้เหงื่อไหลออกมาให้ท่วมกาย บอกฉันสิ what’ s your name ตอบรับคำเชิญของฉันสิ I love you ออกมาจากความมืดมิด don’t you know มอบความรักที่มีมาให้ฉัน I need you มาปลอบใจฉันให้ฉันสบายใจ มาเต้นโยกย้ายไปกับฉัน มากับฉันจะไม่เสียใจ มากับฉันจะทำให้เธอมีสีสัน มาทำให้ท้องฟ้าสว่างไสวในยามมืดมิด ลา..ลา..ลา..ลา.. โยกย้ายกันให้สุดไปเลย ลา..ลา..ลา..ลา.. โยกย้ายกันให้สุดไปเลย (ซ้ำ)

what’ s your name, I love you, don’t you know, I need you
ลา..ลา..ลา..ลา.. โยกย้ายกันให้สุดไปเลย ลา..ลา..ลา..ลา.. โยกย้ายกันให้สุดไปเลย
 



My Dream_ฝน:
http://www.youtube.com/v/?v=YwvxgpZd2O4
http://www.youtube.com/watch?v=YwvxgpZd2O4


[18/10/2012]

จาง เจีย อี้           : ไม่กลับมาแล้ว

รปภ หญิง            : วันนั้นฉันโทรไปหาเค้าแล้วนะค่ะ

อ้าย ซิน จูเว๋ ฉี่ ซิง : ฉันไม่เชื่อคุณ

แม่เด็ก                : แม่ไม่ยอมบอกฉันสักทีว่า ลูกสาวของฉันไปอยู่ที่ไหน

เชอ หย่ง ลี่          : ฉันจะทิ้งมันไปให้หมด

นักแสดงนำ          : Ai xin jue Qi xing อ้าย ซิน จูเว๋ ฉี่ ซิง
                         : Su You Peng ซู โหย่ว เผิง
                         : Che yong li เชอ หย่ง ลี่
                         : Ju Wen Pei จู เหวิน เพ่ย
                         : Zhang Jia Yi จาง เจีย อี้
                         : Huang Lei หวง เล่ย

หวง เล่ย             : แล้วเด็กคนนั้นหายไปได้ยังไง

จู เหวิน เพ่ย         : ไม่นะค่ะ มันไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ

เชอ หย่ง ลี่          : เลิกหลอกลวงฉันสักทีได้ไหม!

บรรยาย               : 3 คุณแม่มือใหม่ 26 ตุลาคมนี้ เริ่มออกเดินความรักไปด้วยกัน

My Dream_ฝน:
http://www.youtube.com/v/?v=WDwufIH4pUk
http://www.youtube.com/watch?v=WDwufIH4pUk


[24/4/2012]

พิธีกร        : เรามาเริ่มกัน ที่ชิ้นแรกเลยดีไหมครับ

ซูโหย่วเผิง : โอเคครับ ลองทายสิครับว่านี่คืออะไร? (ซูโหย่วเผิง โชว์ของใช้สำหรับคนขี้เกียจ)

พิธีกร        : ฉันรู้นะ

ซูโหย่วเผิง : อะไรครับ

พิธีกร        : นี่มันที่ถูพื้นนี่ มีแต่คนขี้เกียจแหละที่ใช้กัน (โอ้ว!เจอพวกเดียวกันแล้ว)
                 คุณใช้อันนี้ด้วยเหรอ

ซูโหย่วเผิง : ก็เคยใช้นะ

พิธีกร        : และที่สำคัญคือตอนที่ถูพื้น ก็ต้องทำท่าแบบนี้ใช่ไหม
               : ใช่ๆๆๆ ดีมากเลย
               : และยังได้ออกกำลังด้วยนะ
               : เพราะถ้าเราตั้งไว้ มันก็จะไม่มีพื้นที่สัมผัส ดังนั้นต้องวางแนวราบ
                 (ที่แท้ตัวพ่อคือคนนี้นี่เอง) โหย่วเผิง คุณลองโชว์บ้างซิ เวลาถูบ้านคุณทำยังไง

ซูโหย่วเผิง : ขอเชิญผู้ช่วยสาวของผมครับ

พิธีกร        : ลำบากเอาการเลยนะเนี่ย

ซูโหย่วเผิง : เป็นครอบครัวที่น่าสงสารมาก

พิธีกร        : มันดูลำบากยากแค้นมากจริงๆนะครับ
               : อันนี้เหมาะมาก สำหรับสามีภรรยาไว้ช่วยกันถู
               : จริงครับกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว
               : เพิ่มความสัมพันธ์แล้วยัง

ซูโหย่วเผิง : กระชับความสัมพันธ์ แล้วยังออกแบบมาให้สามารถซักได้ด้วยนะครับ

พิธีกร        : โอ้โห
               : ซื้อที่ซักได้ด้วยนะเนี่ย งั้นคงแพงหน่อยใช่ไหมคะ

ซูโหย่วเผิง : ใช่ครับ

พิธีกร        : ของฉันเป็นแบบ ซักไปทั้งคู่เลยน่ะค่ะ

ซูโหย่วเผิง : ไปซื้อรุ่นใหม่ได้แล้วนะครับ (แชร์ประสบการณ์กันออกสื่อเลยทีเดียว..)

พิธีกร        : อ๋อ แล้วนี่ซื้อที่ไหนคะเนี่ย

ซูโหย่วเผิง : ซื้อจากในเนตน่ะครับ คุณจะลองสั่งดูซักชุดไหมล่ะ

พิธีกร        : เดี๋ยวก่อนนะครับนี่ให้มาโชว์นะครับ ไม่ใช่ให้มาขายสินค้า โอเคครับ
                  ต่อเลยครับชิ้นที่สอง


ซูโหย่วเผิง : มามามา, ดู

พิธีกร        : นี่มันร่มนี่คะ
               : ใช่ครับร่ม

ซูโหย่วเผิง : นี่คืออะไร

พิธีกร        : คือร่มนะครับ

ซูโหย่วเผิง : ร่ม.... มันไม่ใช่เป็นแค่ร่มธรรมดา เวลาออกไปนอกบ้าน แล้วเกิดฝนตก
                  แถมในมือมีของอีกตั่งหาก ปกติมันก็จะถือร่มได้ลำบากใช่ไหมครับ

พิธีกร        : ใช่ครับ

ซูโหย่วเผิง : ตอนนี้มีการออกแบบใหม่ที่ดีมากเลยครับ อันนี้ต้องรบกวนผู้ช่วยผมแล้วล่ะ
                  กลัวไหมครับนี่

พิธีกร        : ไม่ค่ะ
               : นี่อะไรคะ เอาหัวใส่เข้าไปเหรอ

ซูโหย่วเผิง : ใช้ครอบหัวได้เลยคร้าบบบ (ร่มส่วนตัวสำหรับคนขี้เกียจ)
                 ทีนี้คุณก็มีมือไว้ถือของอย่างอื่นได้แล้วครับ

พิธีกร        : อะไรเนี่ย.. (มาจากภาษาญี่ปุ่นน่ะค่ะ)
               : ไม่ใช่แค่มีมือถือของอย่างเดียวนะ ตรงนี้ก็ยังแขวนได้อีกด้วยนะ
               : ดูทะแม่งยังไงไม่รู้
               : ถ้าพี่ใช้ร่มคันนี้ แล้วใส่รองเท้าคู่นั้น คงดูมีความพยายามดีนะครับ
               : ดูน่าสงสารจริงๆด้วย พอแล้วพอแล้ว โอเคชิ้นต่อไป อันนี้คือ


ซูโหย่วเผิง : ส่วนใหญ่เวลาเราอยู่บ้าน กินมาม่าหรือว่าอาหารอื่นๆ ก็จะมีเหงื่อออกใช่ไหมครับ
                 ก็ไม่มีมือไว้ถือกระดาษทิชชู่ อันนี้ก็จะช่วยได้ครับ ขอเชิญคุณผู้ช่วยครับ

พิธีกร        : นี่มันใช้ยังไงคะ (นี่จงใจแกล้งฉันใช่ไหม)
               : ดูเหมือนขุนนางเลยนะ (เป็นผู้ช่วยที่ไม่ไหวเอาซะเลย!)
                 งั้นมือข้างนี้ยังไงก็เอามาใช้ไม่ได้อยู่ดี

ซูโหย่วเผิง : ลากลงมาแบบนี้ดีกว่าเนอะ เอาไว้ตรงหน้านี่แหละ ลากลงมาก็โอเคแล้ว

พิธีกร        : ปัญญาอ่อนสุดๆ
               : พวกเราชาวถิ่นซินเกียงลันลา
               : ไปไกลแล้ว
               : โอเค ผมว่าเขาได้รางวัลชนะเลิศละ ผมว่าหวงป๋อ กับพี่ฮว๋าคงจะกดดันแล้วหล่ะ
               : มันดูอนาถมากเลยค่ะ


ซูโหย่วเผิง : ยังมีอีกชิ้นหนึ่งครับ ชิ้นนี้ฮาสุดละ จริงๆนะครับ เอาล่ะ

พิธีกร        : อันนี้ต้องเอาครอบหัวไหมคะ

ซูโหย่วเผิง : ใช่ครับ บางครั้งเวลาเราหวังให้ตัวเอง เวลาเหนื่อยๆ ล้มตัวลงปุ๊บก็นอนได้เลย
                 เราสามารถเตรียมหมอนเองได้

พิธีกร        : วิเดียวก็กลายเป็นองค์หญิงได้ (คิดได้เนอะ)
               : ร้ายกาจมาก

ซูโหย่วเผิง : สุดๆเลย

พิธีกร        : นอกจากเหมือนองค์หญิง รู้ไหมว่ามันยังคล้ายอะไร เหมือนนิ่งไฉ่จวี้
                  (ตัวละครหนึ่งในหนังสือนิยาย เป็นเด็กนักเรียนดีที่มีฐานะยากจน)
               : น่ารักจริงๆ
               : ว้าวน่ารักมากเลย น่ารักจริงๆ
               : ฮาได้อีก ครับ นี่ก็คือของ ของซูโหย่วเผิง
               : ฉันว่าเขาชนะเลิศค่ะ
               : ยังครับ ยังมีที่หนักกว่านี้อีก อย่ารีบร้อน
               : ไม่จริงมั้ง
               : ใจเย็นครับ ดูตรงนี้ครับ
               : ผมขอดูหน่อยได้ไหม

ซูโหย่วเผิง : ลองใส่ดูก็ได้นะ ดูลงทุนมาก (องค์หญิงทรงพระเจริญ)

พิธีกร        : ซูโหย่วเผิงคุณอยู่ที่บ้าน เคยเอาขนมเปี๊ยะ แล้วก็เอามาแขวนไว้ตรงนี้ไหม

ซูโหย่วเผิง : ผมก็อยากมาตลอดแหละครับ จริงๆนะ

พิธีกร        : แล้วก็เอากระดาษทิชชู่มาแขวนไว้ตรงนี้ เอาขนมเปี๊ยแขวนไว้นี่
               : คุณจะเอาของทุกอย่าง มาแขวนไว้บนหัวได้ไงคะ ร่างกายมีพื้นที่อีกตั้งเยอะ
               : ใช่ๆๆ ดูแต่ละอย่าง มีแต่ต้องเอามาใส่ไว้ที่หัว
               : อ่อๆๆมีอันนี้ใส่ที่เท้า
               : เค้าเป็นคนที่ใช้ประโยชน์ของศรีษะได้เต็มที่มาก พัฒนาไปก้าวไกล
                 ถ้าจะบอกว่าเค้าลำบากลำบน ก็ลองดูที่เด็กผู้ชายบนเวทีคนนี้สิครับ
                 ไม่ได้อยู่ในมุมที่ไครๆมองเห็น ทำงานแฮนเมด (อย่าลืมผมนะ)
                 คุณต้องคอยเตือนเราเรื่อยๆเลยนะว่าอย่าลืมคุณ เพราะอย่างคุณนี่จะถูกลืมได้ง่ายมาก
                 เอาล่ะต่อไป...
 



นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version