-
บทสัมภาษณ์ "ซูโหย่วเผิง"
รายการ " Happy Sunday "
ปี 2004
http://w1239.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw1239.photobucket.com%2Falbums%2Fff506%2Fpartana_002%2Fc75009f1.pbw
ญ: :เอาล่ะ พวกเราอยากจะทราบว่า ผู้ที่จะออกมาในวันนี้ คุณกับเขามีความเกี่ยวข้องอย่างไร
หลี่เหวย ;เขานับว่าเป็นผู้ทรงคุณค่าท่านหนึ่งที่ล่อลวง
ให้ผมเข้าสู่เส้นทางที่ไม่ถูกต้อง
ญ :คำพูดมีปัญหา ล่อลวงและยังเป็นทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ว่าเขาก็เป็นผู้ทรงคุณค่า
เอาล่ะเรามาดูทางด้านคุณหวงจื่อเจียว
หวงจื่อเจียว : ผมกับเขาหรอ อื่มผมกับเขานั้นดุเดือดมาก ผมกับเขาก่อนเคยรักผู้หญิงคนเดียวกัน
อั้นมาตั้งนานแล้วไม่อยากจะพูด
ช : แต่อันนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกไม่เหนือความคาดหมายนี่
คุณรักผู้หญิงมากมายขนาดนั้น มันมักจะชนกัน
หวงจื่อเจียว : ไม่ สิ่งที่เหนือความคาดหมายนั้นอยู่ตรงไหนคุณรู้ไหม
พวกเรารักเธอในเวลาเดียวกัน และผมยังแย่งชนะเขา
ช :อันนี้เหนือความคาดหมายจริงๆ
ญ :อันนี้เหนือความคาดหมายที่สุด
หวงจื่อเจียว:เดี๋ยวอีกสักครู่จะบอกกับคุณ
ญ : เอาล่ะ ตอนนี้คุณอย่าพึ่งพูด เดี๋ยวเขาโกรธจนไม่อยากจะออกมา
โอเค มา...หลิวเอ่อจิน
หลิวเอ่อจิน : แค้นมีเหตุ หนี้มีเจ้า วันนี้มาเพื่อจะคิดบัญชีกับเขา
http://www.youtube.com/v/L4r6cV8m5Uo&feature=related
ญ :ที่จริงฉันรู้สึกว่า รายการของเรานั้นดีมากๆ ให้เพื่อนมิตรสหายมาพบปะ
และยังสามารถให้พวกเขาได้คืนหนี้สินกัน
ช :ใช่ สิ่งที่ควรคือก็ต้องทวงคืน
ญ :สิ่งที่ควรยืมก็ยืม โอเค ฉันไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้หล่อขนาดนี้
ทำไมถึงมีความเกี่ยวข้องกับเขาได้ ต่อไปซืออี้หนัน
ซือ อี้หนัน :ส่วนผมนั้น ความเกี่ยวข้องผมกับเขานั้นไม่เหมือนกัน ก่อนนี้
ผมนอนร่วมเตียงกับเขาประจำ และเขากินก็กินของบ้านผม นอนก็ของบ้านผม
ซักล้างก็ของบ้านผม แต่สุดท้ายเขาตอบแทนผมอย่างนี้ ผมไม่ยอมและจะขอความยุติธรรม
ช :ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเสมือนคนใช้ในบ้านคุณ จางล่อจิน
จาง ล่อจิน :กับคำว่า “หลังดื่มพูดความจริง” ก็คือพูดในสิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ
ในวันนี้ผมสามารถอยู่ตรงนี้แฉเขาในภาพที่หลังดื่มเหล้าแล้วสภาพที่ไม่อยาก ให้ใครรับรู้
ญ :ธรรมดาแล้วรายการอย่างนี้จะมีเพื่อนมากมาย ก็คือคนที่ออกรายการจะบอกว่า
ฉันอยากจะให้เพื่อนที่มาเใครเป็นใคร และเพื่อนที่ฉันไม่อยากให้มาเป็นใครเป็นใคร
จางล่อจิน ที่จริงคุณตกอยู่ในกลุ่มที่เพื่อนไม่อยากจะให้มา
จางล่อจิน :ที่จริงก่อนหน้านี้นั้น เคยหาสี่ห้าคนมาแล้ว แต่แล้วก็เหลือเพียงพวกที่อ้วน
จนบังเวทีมิดเลย หรือว่าคนนั้น จนวันนี้ไม่รู้ว่าหาถึงไหน สุดท้ายเลยเชิญผมมา
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H0.png)
ญ :คุณดูสิ อย่างนี้ก็เข้าข่ายกับพวกที่ทุกคนกลัว
ช :เดิมทีไม่มีใครเขาอยากให้คุณมาหรอก เพียงแต่ให้คุณมาเพื่อจะให้มีคนเยอะขึ้นเท่านั้นเอง
เขียนคนนี้ก่อนดีกว่า ดีที่สุดอย่าเจอคนนี้เลย
จางล่อจิน : ไม่นะ วันนี้ที่ผมมานั่งอยู่ทางนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเหมือนกัน
ญ :เอาล่ะ ผู้หญิงคนเดียวในวันนี้ มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขา
หลินเซี่ยวเล่อว :คนคนนี้นั้น เขาเป็นคนแรกที่จูบฉันในหนัง
ญ :ที่จริงฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ต้องโห่ เพราะบทที่เธอแสดงนั้นล้วนเป็นบทผู้ชาย
จูบแรกจะมีประสบการณ์ได้ไง
หลินล่อจิน :ฉะนั้นก็เพราะผู้กำกับคนนี้ เขาเป็นผู้กำกับที่ไม่เหมือนชาวบ้าน
จูหยินผิงคนนี้ เขาคิดว่าฉันทำได้จึงจับฉันลอง
ญ :คุณสามารถอะไร
หลินล่อจิน :ก็จูบแรกกับเขาไง
ญ ;งั้น คุณมาเพื่อ คุณมา
ล่ามช :ผมเป็นล่ามเกาหลีของไฉ่หลิน
ญ :คุณเป็นล่าม ทำไมฉันเห็นเขาเหมือนมีความรู้สึกจะไปกินเนื้อย่างเกาหลีอะไรอย่างนั้น
และจีนกลางที่เขาพูดนั้น สำเนียงออกเป็นภาษาเกาหลี เขาเป็นล่ามแล้วเธอล่ะ
ล่ามญ :ฉันก็เป็นล่ามเกาหลีเหมือนกัน
ช :ทำไมครั้งเดียวต้องใช้ล่ามแปลเกาหลีตั้งสองคน
ญ :ไม่ ไม่ใช่อย่างนี้ พวกเราพูดจีนของเธอ แล้วเธอก็พูดจีนให้เขา
แล้วเขาค่อยแปลเป็นเกาหลีให้ “ไฉ่หลิน-แชริม”ฟัง
ช :พวกเราสามารถพูดกับเธอโดยตรงก็ได้
ญ :ภาษาจีนของเธอยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก พวกเราจำต้องใช้จีนผ่านทางเธอ
เพราะเธอได้จีนแค่นิดหน่อย แต่เขาก็เป็นเกาหลีนิดหน่อย
ช :อ๋อ ช่วยกันอย่างนี้ก็ถูกแล้ว
ญ :แต่ว่าตอนนี้เราต้องมาต้อนรับท่านผู้นี้ เพื่อนของพวกเขาถูกไหม
ไม่รู้ว่าเมื่อเขาเดินออกมา เป็นคนที่หล่อขนาดไหน ตั้งแต่เด็กๆเขาก็มี
ความหล่อมากๆ ให้พวกเรามาต้อนรับ ซูโหย่วเผิง
-
http://w1239.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw1239.photobucket.com%2Falbums%2Fff506%2Fpartana_002%2F5a1885d6.pbw
ซูโหย่วเผิง : สวัสดีครับทุกคน สวัสดีพี่เซี่ยวยิ่น จางหยี
หวงจื่อเจียว :โอ้ หล่อจริง หล่อจริงนะ แน่มากสินะ ไม่ได้เจอะเจอหน้ามานานแล้ว
กางเกงขาดขนาดนั้นยังกล้ามาออกรายการอีก ผมเผ้าไม่เคยตัดเลยนะ (แซวเผิงหน้ารักมากค่ะ)
ซูโหย่วเผิง :พวกนี้เป็นใครกัน พวกเขามานั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรเขานั่งอยู่ที่นี่ผมไม่ค่อยสบายเท่าไหร่
หวงจื่อเจียว :ไง ไม่เคยเห็นสิ่งของสกปรกใช่เปล่า
ญ :เมื่อออกมาปุ๊ปก็เห็นได้ถึงมิตรภาพของเพื่อนที่มีต่อกัน
ซูโหย่วเผิง :ผมไม่ค่อยสนิทกับพวกเขาเท่าไรนัก จริงๆ พวกเขาคงมาผิดรายการแน่
หวงจื่อเจียว :ใครมีมิตรภาพกับเขาหรอ มิตร(ไม้ป่าเดียวกัน)อาจมีบ้าง
ญ :เดี๋ยวก่อน กางเกงคุณขาดใส่ขาดๆ กางเกงในคุณยาวเกินมาหรือเปล่า
หวงจื่อเจียว :ตัวข้างในนั้นยาวจริงๆ
ญ :จริง กางเกงในของเขายาวมาถึงตรงนี้เลย
ช :นั่นเป็นเนื้อในมั้ง
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H3--1.jpg)
ซูโหย่วเผิง :อย่าไปแหย่เลย คนเขาคันเป็นนะ
ช :แหย่ตรงนั้นคันหรอ
ซูโหย่วเผิง :เขาก็คันได้นะ
ญ :นี่คุณหมายความว่าไร
ซูโหย่วเผิง :ไม่ เดิมผู้ผลิตทำก็ทำอย่างนี้แล้ว รูทุกรูก็มีเนื้อผ้าที่ไม่เหมือนกัน
ญ :อ๋อ ฉันรู้แล้ว คนเขามาจากทะเลไอ้ฉิง (ทะเลอีเจี้ยนอ่ะจ๊ะ)
ซูโหย่วเผิง :คนกรีซเขาก็ใส่กันอย่างนี้แหละ
ญ :รักมั่นที่ทะเลไอ้ฉิง(มนต์รักทะเลอี้เจี้ยน) เคยไปที่กรีซจริงหรอ
ซูโหย่วเผิง :จริง พวกเราไปถ่ายกันที่กรีซ
ญ :อ๋อ รักมั่นที่ทะเลไอ้ฉิง(มนต์รักทะเลอี้เจี้ยน) ในเรื่องมีผู้แสดงจากที่ต่างๆใช่ไหม
ซู โหย่วเผิง :ใช่ๆๆๆ เช่นตัวแทนจากไต้หวันมีผมและเหอยุ่นตง
จากนั้นมีตัวแทนจากเกาหลีคือไฉ่หลิน(แชริม)
นอกจากนั้นยังมีนักแสดงมากมายจากประเทศจีนอีกด้วย
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H-00.jpg)
ญ :พวกเรามาชมตอนหนึ่งของเรื่องดีไหม มา
ซูโหย่วเผิง :แม่ผมต้องการบีบผมให้เลิกกับเขา เรียกค่าไถ่เขาแล้วยังจะทำลายใบหน้าเขาอีก
ญ :”มนต์รักทะเลอี้เจียน” ผู้กำกับคนนี้สุดยอดมาก มาม้า มาม๊า
ช :ผู้กำกับคืออู่อี๋เซินแน่เลย ผมว่า โหดร้ายมาก โหดร้ายจนไม่สามารถเลียนแบบ
ญ :มือคุณก็จับมีดเล่มนั้นอยู่ แล้วชื่อคุณก็ยังเหมือนภาษาเกาหลีหน่อย “เอินฉี่”
หวงจื่อเจียว :ภาษาจีนของไฉ่หลิน(แชริม) ก็นับว่าดีขึ้นแล้ว แม้ไม่เจอกันนาน
ซูโหย่วเผิง :ดีๆๆ ตอนนี้เธอได้เยอะมาก พูดได้มากๆ ธรรมดาแล้วเขาจะฟังออกเยอะเหมือนกัน
ช :งั้นคุณควรไปได้แล้ว(ล่าม)
ญ :ตอนนี้พวกเรามาต้อนรับผู้น่ารักท่านนี้ เอ้.... ได้ยินว่า
พวกคุณพูดภาษาเกาหลีได้บ้างใช่เปล่า
หวงจื่อเจียว :ไม่ปิดคุณ วันนี้ที่เรามาไม่ใช่มาเพื่อซูโหย่วเผิงหรอก พวกเรารอเกือบครึ่งวันก็คนเกาหลี
ซูโหย่วเผิง :ไม่ใช่พวกคุณมาผิดรายการเป็นเพราะผมมาผิดเอง ผมไปล่ะ (ขี้เล่นมากๆค่ะ)
หวงจื่อเจียว :ไปเร็วๆ เร็วสิ (นะมีการแซวกันด้วย)
หลิวเอ่อจิน :เจียวเจียวรอ(คำนี้มา)นานแล้ว
ญ :เดี๋ยวก่อน ที่จริงฉันเชื่อว่าไฉ่หลินไม่รู้จักซูโหย่วเผิง วันนี้ฉันเพียงเชิญไฉ่หลินมา
อย่างแรกมาสามารถเห็นตัวจริงของเธอ อย่างที่สองก็คือให้ไฉ่หลินเห็นธาตุแท้ของ
ซูโหย่วเผิงเดี๋ยวคุณต้องแปลให้เธอฟัง ว่ารู้จักธาตุแท้ของซูโหย่วเผิง
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--34.png)
ซูโหย่วเผิง :พี่พี่ เขาคิดว่าผมเป็นพี่สุดหล่อมาตลอดนะ อย่าเผยความลับผมเลย
ช :พี่ชายสุดหล่อเป็นเพียงภายนอก แต่ตัวตนเป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน
ญ :ใช่ ดี ให้เราใช้เสียงปรบมืออันดังมาต้อนรับคุณไฉ่หลิน โอ้ สวยจริงๆ
หวงจื่อเจียว :นี่ๆๆ ผมนำล่ามมา
ซูโหย่วเผิง :ออกไปๆๆ
หวงจื่อเจียว :ไปไม่เสียเที่ยว ไม่เสียเที่ยว(ได้จับมือกับไฉ่หลิน)
หลิวเอ่อจิน :ผมยังไม่ได้จับ
ซูโหย่วเผิง :ยังไม่ได้จับใช่ไหม มาๆ (5555555 ขำอ่ะ)
หลิวเอ่อจิน :คุณหลีกไปหน่อย
ญ :เอาล่ะ เรายินดีต้อนรับคุณไฉ่หลินอย่างยิ่ง ที่ได้มาในรายการของเรา
พวกเราสามารถเห็นหน้าตาของเขา ดีใจมาก เร็วๆ คุณล่าม เนื้อย่างเตรียมพร้อมยัง
ช :แปลก ก่อนออกรายการคนเกาหลีจะไม่ไปฉี่ก่อนนี่(มาช้า)
ญ :เมื่อกี้ฉันบอกว่า เธอสวยมากๆ และดีใจมากที่เธอมาในรายการสบายวันอาทิตย์
ไฉ่หลิน :ขอบคุณ
ซูโหย่วเผิง :เธอฟังออก เข้าใจ
ญ :เมื่อกี้ในเวที มีผู้ชายมากมายกำลังรอคอยเธออยู่ แต่เธอไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก
หวงจื่อเจียว :โว้ย พี่พี่ นี่อะไรกัน
ญ :ฉันขอแนะนำเธอเป็นพิเศษคุณหลี่เว่ย นี่คือชายผู้หล่อของเรา
เขาหล่อจริงๆนอกเหนือนี้จอมปลอมหมด
หลิวเอ่อจิน :พวกเรามาผิดที่หรือว่าอะไรกัน
หวงจื่อเจียว :ดีร้ายพวกเราล้วนเป็นหนุ่มไต้หวันนะ ทำไมเหลือแค่หลี่เหว่ยเท่านั้น
แล้วซืออี้หนันไม่ใช่ผู้ชายหรอ
หลิวเอ่อจิน :ให้เรามาแสดงการต้อนรับของเราหน่อยสิ รักเธอนะ
ญ :ทางนี้ยังมีแฟนละครของคุณมากมาย มาดูคุณนะ ยังมีตัวแทน
แฟนละครจากฮ่องกง เอ้ ฉันคิดว่าซูโหย่วเผิงคุณแสดงร่วมกับไฉ่หลิน
ที่สวยขนาดนี้แล้ว คุณเคยมีความกดดันหรือเปล่า
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H-05.png)
ซูโหย่วเผิง :เริ่มแรกที่ได้ร่วมงานก็มีบ้าง นิดหน่อย เพราะที่สำคัญคือภาษาของพวกเรา
เริ่มแรกก็สื่อกันไม่ค่อยเข้าใจ อย่างที่สองผมรู้สึกว่าเธอมีความเป็นผู้ดีเหมือน
ดั่งเจ้าหญิงอย่างนั้นฉะนั้นเริ่มแรกก็ไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับเขาอย่างไรดีก่อน
หลังจากนั้นได้ร่วมงานกันมานานแล้วเนี่ย เพราะเราได้ร่วมแสดงมาสองเรื่องแล้ว
นอกจากเรื่อง “มนต์รักทะเลอี้เจี้ยน”หลังจากนั้นก็เริ่ม “หยางเหมินหู่เจี้ยง-วีระบุรุษ
ขุนศึกตระกูลหยาง” ใช่ เธอก็แสดงเป็นแฟนของผม
ญ :หยางเหมินหู่เจี้ยง
ช :นั่นเป็นเรื่องหนังอุปรากรโบราณ(หนังจีนโบราณ) ใช่เปล่า
ซูโหย่วเผิง :ใช่หนังอุปรากรโบราณ ยังเป็นหนังโบราณเรื่องแรกของเธออีกด้วย
เธอได้ทุ่มทำให้กับพวกเราแฟนหนังไต้หวันด้วย
ญ :โอ้ ยอดเยี่ยมจริงๆ ฉันอยากจะถามเธอ คุณถามเธอ ว่าเธอรู้จัก..เข้าใจซูโหย่วเผิงไหม
ล่ามญ :สำหรับฉันแล้วเขาเป็นนักแสดงไต้หวันคนแรกที่ฉันรู้จัก น่าจะไม่มีใครดีอย่างเขา
ช :คนดี ชมเขาดีขนาดนั้นเลยหรอ
ซูโหย่วเผิง :พวกคุณมีแนวคิดอะไรเหรอ
ญ :ดีล่ะ ฉะนั้นรอสักครู่ ในใจของไฉ่หลินนั้นเธอคิดว่าซูโหย่วเผิง
เป็นผู้ชายไต้หวันที่ดียอดเยี่ยมที่สุด
ล่ามญ :รู้จักกันมาแปดเดือนสำหรับเพื่อนแล้วในฐานะที่เป็นผู้ชาย
เธอรู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนที่ไม่เลวเลย
ญ :ก็คือเพื่อนที่ไม่เลวเลย เธอรู้สึกว่าตรงไหนที่เขาดีที่สุด
ล่ามญ :นึกว่าเป็นดาราที่ดังคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าหลังได้รู้จักกันมาแปดเดือนแล้ว รู้ว่ามัน
ซูโหย่วเผิง :เป็นเพียงนักแสดงผู้น้อยคนหนึ่ง รู้สึกว่าไม่ใช่คนดังเลยใช่ไหม
ช :ความจริงแล้วเป็นดาราดัง หลังจากนั้นรู้ว่าไม่ดัง แท้จริงเป็นเพียง
นักแสดงชั่วคราวเอง เป็นแค่ตัวประกอบ
ญ :ถ่อมตนมากๆ น่ารักมากๆ เอาล่ะ วันนี้เราอยากจะให้เธอรู้จักอดีตที่ผ่านมาของซูโหย่วเผิง
ซูโหย่วเผิง :ผมว่ารายการช่วงนี้จะจบตรงนี้แล้ว
ญ :ตรงนี้คุณเสี่ยวเหลอวบอกว่าเมื่อก่อนคุณกับเธอเคยร่วมฉากกับเขา
ซูโหย่วเผิง :ผมนั้นเกรงใจที่จะพูดจริงๆ นี่เป็นฉากแรกจูบของคุณถูกไหม
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H4-0-.jpg)
หลินเซี่ยวเหล่อว :ก็คือเถาไท่หลัน เพราะเมื่อก่อนฉัน
ญ :เดี๋ยวก่อนๆ เหมือกับว่าเธอจะมาชกต่อยกัน เธอเดินมาความรู้สึกเหมือนกับว่าจะมา
ซูโหย่วเผิง :เธอยังมาไม่ถึงที่ก็เริ่มพูดแล้ว
หลินเซี่ยวเหล่อว :เพราะตอนนั้นฉันรู้สึกว่า ตอนนั้นฉันเป็นแค่ตัวประกอบ
แล้วสุดท้ายแสดงหนังเป็นผู้หญิงครั้งแรก
ญ :แล้วเธอมีความรู้สึกอยากมีวรยุทธ
หลินเซี่ยวเหล่อว :พวกเราตอนนั้นเล่นหนัง “หยิวเสียเอ๋อ” ยังมัดผมตั้ง
ซูโหย่วเผิง :ยังมีตอน “หยิวเสียเอ๋อ”
หลินเซี่ยวเหล่อว :ใช่ “หยิวเสียเอ๋อ” เขาแสดงครั้งแรก
ซูโหย่วเผิง :ตายจริง ยังมีเจียวเจียวด้วย เรามีภาพ “หยิวเสียเอ๋อ”ที่อยู่ในเจอภาพยนต์อยู่หรือเปล่า
ซูโหย่วเผิง :อย่าไปหัวเราะคนอื่นเลย หมู่บ้านท่าไจของไต้หวัน
ญ :แต่ว่า “เพ่าหนิวจวงเจีย” เป็นพวกเขาร่วมแสดงใช่ไหม
ซูโหย่วเผิง :ใช่ๆๆ
ญ :นั่นเป็นหลังจากที่หนังเรื่องที่สองที่ร่วมแสดงกันในตอนนั้น
พวกเรามาชมดูจูบแรกนั้นดีไหม “เพ่าหนิวจวงเจีย”
หลินเซี่ยวเหล่อว :ตัวฉันเองก็ยังไม่เคยได้ดูก่อน
หวงจื่อเจียว :โอ้ หลายทีนะ สามครั้ง ยังใช้ลิ้นด้วย
หลินเซี่ยวเหล่อว :ไม่มี
หวงจื่อเจียว :น้ำลายไหล
ช :พวกเรามาแสดงสดๆตรงนี้อีกครั้งสิ
หวงจื่อเจียว :จินเฉิงอู่ยังพูดภาษาพื้นบ้าน
ซูโหย่วเผิง :ในสมัยนั้นเขาก็แสดงเป็นพี่สุดหล่อแล้ว
ญ :นี่น่าจะประมาณสิบกว่าปีที่แล้วนะ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H-2.png)
หวงจื่อเจียว :สิบสามปีแล้ว พวกคุณได้ฆ่าจินเฉิงอู่ตาย
ญ :เขา-หล่อก็ยังหล่อเหมือนเดิม เหลือเพียงคุณ ทะเล้นก็ยังทะเล้นจนแก่เฒ่า
หวงจื่อเจียว :ไม่นะ ซูโหย่วเผิงในสมัยนั้นก็ยังเป็นตัวประกอบ คุณดูลักษณะเขาสิ
ซูโหย่วเผิง :มีไหน
หลินเซี่ยวเหล่อว:ไม่หรอก ที่จริง “หยิวเสียเอ๋อ”หนังเรื่องแรกในตอนนั้น
ซูโหย่วเผิง :ตัวประกอบททำไมถึงมีบทจูบแรกที่โรแมนติกขนาดนี้ล่ะ คุณลองดู คุณมีไหมล่ะ
หวงจื่อเจียว :เดี๋ยวก่อน คุณจะทำไม เดี๋ยวนี้แล้วเป็นอย่างไร
ญ :อะไรกัน คุณอย่าพึงโมโห อย่าพึ่งอารมณ์ร้อน
หวงจื่อเจียว :อะไรก็ยอม แต่อย่ามาตีไฉ่หลินของผมนะ (ไฉ่หลินเกี่ยวอะไรกับแก)
ซูโหย่วเผิง :ไฉ่หลินเป็นของคุณไปตั้งแต่เมื่อไร
หวงจื่อเจียง :อย่าตัดบทแสดงของผม
ญ :ที่จริง ฉันคิดว่าไฉ่หลินน่าจะดูซูโหย่วเผิงสักหน่อย “เผาหนิ่วจวงเจีย”
ในตอนนั้นเป็นแค่จูบแรกของเขา ก็คือมันแค่เบาๆ หนังเรื่องที่เขาโตเป็นหนุ่มจริงๆนั้น
ชื่อคือ “ฉิงเซ่อ” ใช่ไหมพวกเราก็เคยดูแล้วว่าไหม เรียนถามไฉ่หลินว่าเคยดูหนังที่
ซูโหย่วเผิงแสดงที่มันเล้าอารมณ์ที่เปลือย หน่อย
ไฉ่หลิน :ไม่เคยได้ดูเลย
ญ :ไม่เคยดูแล้วอยากดูหรือเปล่าล่ะ ถึง “รักมั่นในทะเลไอิฉิน”จะถ่ายจบลงไปแล้ว
ไม่เป็นไร เขาอยากเพิ่มบทก็สายไปเสียแล้ว เรามาดูสิ
หวงจื่อเจียว :โอ้ อันนี้คงใช้ลิ้นชัวร์เลยใช่ไหม คุณกล้าบอกไหมว่าไม่ใช้ลิ้น
ดูดจนฟันปลอมจะหลุด
ญ :ผู้หญิงเป็นเจิ้นเจียหยินใช่เปล่า นี่เป็นเรื่องแรกของเจิ้นเจียหยินไหม
ซูโหย่ว :ใช่
หวงจื่อเจียว :เพื่อซูโหย่วเผิง ถอดเสื้อให้เห็นร่างอันงามเลย
ญ :ฉะนั้นวันนี้เจิ้งเจียหยินเลยไม่กล้ามา เดี๋ยวก่อน
ตอนนั้นเจิ้งเจียหยินไม่ได้สวมเสื้อจริงหรอ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H8.jpg)
ซูโหย่วเผิง :ผมลืมแล้ว (แกล้งโง่ 555)
ช :คุณอย่างนี้ก็ย่ำยีเขาแย่แล้วนะ
ซูโหย่วเผิง :ก็เมื่อกี้มีกระเบื้องโมเสทก็เลยเห็นไม่ชัด
ญ :เดี๋ยว ฉันอยากถามคำหนึ่ง คุณจูบ ทำไมถามเขาแล้วพูดไม่ออกเลย
ในคอมีน้ำลาย ความรู้สึกที่คุณจูบเธอกับจูบเจิ้งเจียหยิน ในหนังเคยจูบไฉ่หลินไหม
ซูโหย่วเผิง :ก็มี
ญ :ในสามคนนี้มีความรู้สึกที่ต่างกันอย่างไรบ้าง เซี่ยวเหล่อวมีความรู้สึกอย่างไร
ซูโหย่วเผิง :ทำเอาหัวเราะ หนาวมาก ตอนนั้นเป็นฉากฝนยังฉีดน้ำ
หลิวเซี่ยวหยิน :หนาวมาก
ญ :ความรู้สึกที่คุณกับเจิ้งเจียหยินจูบล่ะ
ซูโหย่วเผิง :ตื่นเต้น
ญ :แล้วความรู้สึกที่จูบไฉ่หลินล่ะ
ซูโหย่วเผิง :So sweet
หวงจื่อเจียว :พวกคุณแต่งงานเลย พวกคุณสองคน กับซูไฉ่หลินแต่งเลย
ซูโหย่วเผิง :คุณอย่ามาพูดจุดที่ผมเจ็บปวดอีกนะ
ญ :โอเค ขอบคุณ มา...เบยองจุนของไต้หวัน เจียวเจียวกับเอ่อจิน
เชิญพวกคุณสองคนมาบนเวที มาๆ พวกเรามาคุยถึงเรื่องของพวกเขาก่อน
บอกไฉ่หลินว่า ที่จริงตอนซูโหย่วเผิงยังเด็กๆนั้น ได้เข้าวงการพร้อมกับพวกเขาสองคน
หวงจื่อเจียว :พวกเราเป็นกลุ่มเดียวกันของต่างกลุ่มเดียวกัน
ญ :ใช่เหรอ
หวงจื่อเจียว :ต่อหน้าคนเกาหลีคุณไว้หน้าผมหน่อยได้ไหม
ญ :ดี พวกเขาเป็น ในตอนนั้น อยู่ค่ายเดียวกัน ในตอนนั้นซูโหย่วเผิงเป็นฮีโร่ที่น่ารักที่สุด
แล้วพวกเขาสองคนเป็นคนประกอบสองข้างของขวัญใจ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H7-copy.jpg)
หวงจื่อเจียว :ที่จริงในตอนนั้นพวกเราได้เข้าร่วมแข่งขันก่อนเขา
หลังจากนั้น “วงเสือน้อย”ได้ชื่อว่า “กลุ่มวงที่สุดหล่อ”
ช :ใช่ทุกครั้งที่เห็นพวกเขาออกรายการ
ซูโหย่วเผิง :ไม่ผิด ชื่อนี้ไม่ผิด แปลก ชื่อห้าตัวนี้เมื่อพูดแล้วมันน่าขำหรือ
ช :มันประชดหรือเปล่า
หวงจื่อเจียง :ไม่นะ นี่ยาวนานที่เรียกเป็นวงศิลปินรูปหล่อ
ญ :ฉะนั้น ตอนนี้เราเชิญไฉ่หลินดูในอดีตของพวกเขาที่ไม่เคยดูมาก่อนแน่นอน
สิบห้าปีก่อน ตัวตนจริงๆของซูโหย่วเผิงว่าเป็นอย่างไร
ซูโหย่วเผิง :ผมออกไปข้างนอกทาหน้าหน่อยนะ
หวงจื่อเจียว :คนที่ควรออกไปน่าจะเป็นพวกเราสองคนต่างหาก
เมื่อก่อนเราสองคนทุเรศกว่าคุณ
ญ :เอาล่ะ เรามาดูกันเลย ตอนนั้นปี 1988
ซูโหย่วเผิง :ในตอนนั้นพวกเขายังไม่ได้ออกอัลบั้ม ยังอยู่ในช่วงเป็นผู้ช่วยรายการ
ใครหรือหวังว่าไม่เป็นฉันนะ สิบห้าปีก่อน
ญ :อยากถามไฉ่หลินหน่อย คุณเห็นภาพสมัยนั้นของซูโหย่วเผิงรู้สึกอย่างไร
ไฉ่หลิน :น่ารักมากๆ อยากที่จะจับใส่กระเป๋าเอาออกไปด้วย
ญ :เขาล่ะ(หวงจื่อเจียว)
หวงจื่อเจียว :ตอนนี้ผมหล่อขึ้นเยอะมากแล้ว คุณขำอะไร
ไฉ่หลิน :มองเห็นร่องรอยแห่งปี
หวงจื่อเจียว :ผมสนิทกับคุณมากหรอ คุณขำอะไร คุณมาจากประเทศไหน
ญ :กลายเป็นภาพแห่งสิบห้าปีที่แล้วเหมือนกัน ที่จริงฉันคิดว่าพวกเขาดูจะแม่นกว่า
เพราะว่าเหมือนอย่างเรานี่มีความรู้สึกมากดดัน ว่าไหม
หวงจื่อเจียว :พวกเขาก็คือที่หนึ่ง เพราะเขาเห็นพวกเราเป็นครั้งแรก
ญ :คุณพูด สักครู่คุณบอกกับเขาว่า
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H-1.png)
หวงจื่อเจียว :ผมกับเขาเคยรักผู้หญิงคนเดียวกันในเวลาเดียวกัน
และยังแย่งชนะ เพราะผู้หญิงคนนี้เราออกไปต่างประเทศ
ญ :ฉันรู้สึกว่า เรื่องเหล่านี้ น่าต้องให้อู่ฉี่หลงมาถึงจะมีเรื่องพูด
พวกคุณมาแล้วจะมีอะไร
หวงจื่อเจียว :อู๋ฉี่หลง ผมกับเขาก็เคยรักผู้หญิงคนเดียวกัน
ในเวลาเวเดียวกันด้วย นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
ซูโหย่วเผิง :ธรรมดาแล้วชีวิตส่วนตัวของเจียวๆนั้นยุ่งเหยิงมาก
หวงจื่อเจียว :ไม่หรอก ผมก็ตามรอย วงเสียวหู่ตุ้ย ของพวกคุณ
ซูโหย่วเผิง :อย่างมาลายนี้นะเธอ
หวงจื่อเจียว :จะให้พูดจริงๆหรอ
ญ :แน่นอน เรื่องนี้ยังจะต้องมีหลักฐานบ้าง
ช :คุณก็มาแล้ว ไม่พูดได้เหรอ
หวง จื่อเจียว :สิบห้าปีก่อนตอนนั้นเรา ไต้หวันไม่มีชาวฮาหยือ หลังจากนั้น
ฉันได้ติดตามรอยเท้าเขา ที่จริงเขาเป็นผู้จุดประกายชาวฮามู่ตัวจริงของฉัน จริงไหม
ซูโหย่วเผิง :ก็จริง
หวงจื่อเจียว :จากนั้นคุณชอบคุณจงเซิงหมิงไฉ
ซูโหย่วเผิง :จงเซิงหมิงไฉ
หวง จื่อเจียว :เลวร้ายขนาดไหนคุณรู้ไหม พวกเราจะคุยกับเขาก็ไม่มีทาง
เขาฟังหูฟังตลอดเลย อยู่ที่นั่นเหมือนกับว่ารู้เป็นจริงๆอย่างนั้น แล้วก็อยู่ที่นั่น
ร้องเพลงของจงเซิงหมิงไฉ่ จนทำให้เราทั้งหลายเงียบเหงาไปเลย
จนสุดท้ายผมตัดสินใจว่าผมจะไปจีบจงเซิงหมิงไฉ่ ยิ่งกว่านั้นผมจะต้องจีบ
จงเซิงหมิงไฉ่สำเร็จ ชนะซูโหย่วเผิง จริง เรื่องนี้ยี่สิบปีที่แล้ว
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H-0.png)
ญ :ฉันรู้สึกว่าคำพูดที่คุณพูดนั้น พวกเรารู้สึกคลื่นเหียน
หวงจื่อเจียว :หลังจากนั้นผมจะ
ซูโหย่วเผิง :เรียกผมไหม พี่เหยี่ยน รู้สึกไม่ค่อยสบาย
หวงจื่อเจียน :คุณมีอีกแล้ว เป็นไปได้ไง ไม่มี ฉะนั้นหลังจากนั้น
ญ : ไม่ใช่ คุณจะจีบจงเซิงหมิงไฉ่ติดได้อย่างไร
หวง จื่อเจียง :จริงนะ หลังจากนั้นผมก็ได้ครองจงเซิงหมิงไฉ่จริงๆ
ผมยังได้ถ่ายรูปคู่กับเธอเป็นที่ระลึกแล้วยังขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์
กลายเป็นพาดหัวข้อข่าวเลย
ซูโหย่วเผิง :จริงหรือเท็จเนี่ย
หวงจื่อเจียว :คุณไม่เคยใช่ไหม
ซูโหย่วเผิง :ตอนที่เขามาไต้หวันเหรอ
หวง จื่อเจียว :ผมได้นำหลักฐานมาด้วยคุณอยากดูไหมล่ะ เกรงใจจัง
ขอผ่านหน่อยนะ ผมกลัวบังถูกเขา เกรงใจจังไม่สนิทกันนี่
ประเทศเกาหลีมีหนังสือพิมพ์ไหม?
ซูโหย่วเผิง :มีแน่นอน
หวงจื่อเจียว :ประเทศเกาหลีน่าจะมีนะ
ซูโหย่วผิง :มีแน่นอน
หวง จื่อเจียว :ผมกลัวว่าเธอจะไม่รู้จักนี่คืออะไร โอ้ คุณดู ผมกับจงเซิงหมิงไฉ่
เห็นยัง อิจฉาสิ มีอีกๆ หัวข้อใหญ่เหล่านี้คุณเห็นยัง ในหลายปี
คุณเคยเห็นตัวจริงของเธอไหม
ซูโหย่วเผิง :ไม่เคยเลย
หวงจื่อเจียว :คุณเคยจับมือกับเขาไหม
ซูโหย่วเผิง :ไม่เคย
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H4-0---.jpg)
หวงจื่อเจียว :ถูก คุณเคยนั่งรถเที่ยวเดียวกันกับเธอไหม
ซูโหย่วเผิง :ก็ไม่มี
หวงจื่อเจียว :คุณดู ข่าวดังทุกฉบับ คุณดู หนึ่ง สอง สาม สี่ฉบับ
ซูโหย่วเผิง :คุณเห็นเขาแล้วรู้สึกอย่างไร
หลิวเอ๋อจิน :มีแค่สามฉบับเอง อย่ามั่วอีกต่อไป แค่สามฉบับเอง
ญ :คุณเจอตัวจริงเขาแล้วคุณมีความรู้สึกอย่างไงกันแน่
หวง จื่อเจียว:เวลานั้นใจผมไม่ทันได้ชื่นชอบเธอหรอก ผมกำลังคิดอยู่แค่เรื่องหนึ่ง
ซูโหย่วเผิงผมชนะแล้ว จริงรอมายี่สิบปีแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ได้จุดประกาย
อีกด้านหนึ่งของผม ประกายแห่งฮายื่อญี่ปุ่น พวกการ์ดเอ
ในเวลานั้นผมไม่ทราบว่าญี่ปุ่นในด้านนี้
หลิวเอ่อจิน :ผมจะมาอธิบายการ์ดเอให้เขาฟังก่อน รอเดี๋ยว
ซูโหย่วเผิง :อะไรกันคุณ
หลิวเอ่อจิน :คุณมานี่ ๆ
ญ :เดี๋ยวก่อนๆ
หลิวเอ่อจิน :คุณพูดออกมาเองเลยนะ
หวงจี่อเจียว :พวกคุณจะเล่นอันนั้น ไม่ได้เล่นนานแล้วนะลมเพลมพัด
หรือว่าจะเล่นสัญญาณไฟแดงเขียว
ซูโหย่วเผิง :ตอนนี้เป็นอย่างไร จะต้องพูดให้เข้าใจ เป็นเรื่องอะไรเหรอ
ญ :การ์ด....เอ....ภาษาเกาหลีพูดอย่างไร
ซูโหย่วเผิง :หนังที่จำกัดอายุในการดู
-
http://w1239.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw1239.photobucket.com%2Falbums%2Fff506%2Fpartana_002%2Ff4e2983e.pbw
หวงจื่อเจียว :พวกเราชนะแล้ว เกาหลีไม่มีการ์ดเอ จะดีชั่วเราก็
ยังมีเซียนเซียน(ดอกชนิดหนึ่งที่หอมมาก)
ซูโหย่วเผิง :ผมยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรกัน ผมจุดประกายให้คุณเมื่อไร คุณบอกกับผมมานะ
หวงจื่อเจียว :ไม่ เพราะตอนนั้นพวกเราไปญี่ปุ่นนับได้ว่า เป็นกิจกรรมคณะช่วยชาติ
ซูโหย่วเผิง :ใช่ๆๆ เพราะในตอนนั้นพวกเรายังไม่ได้เกณฑ์ทหาร ไม่สามารถ
ออกนอกประเทศได้ ฉะนั้นเราเลยเข้าร่วมกิจกรรมของคณะช่วยชาติ
ญ :ก็คือไปเพื่อจะซื้อการ์ดเอหรอ
ซูโหย่วเผิง :แน่นอน ไม่หรอก
หวง จื่อเจียว :ไม่เพียงเท่านั้น พวกเรายังไปถ่ายการ์ดเอกัน(หุ่นอย่างนี้หรอจะไปถ่าย)
ไม่หรอก ก็แค่ไปซื้อ แต่คุณรู้ไหมว่าซูโหย่วเผิงตอบแทนผมอย่างไร
ผมกับเขามีมิตรภาพกันมาหลายปี เอาล่ะเรื่องการ์ดเอนั้นแค่พูดขำๆเท่านั้นเอง
เดือนก่อนผมย้ายบ้าน ซูโหย่วเผิงมาเป็นแขกในบ้านผม เก่งจริงๆ มาสายตั้งสองชั่วโมง
ทุกคนกินจนอิ่มหมดแล้ว ใช่ไหม พี่เสี่ยวเหยี่ยนก็อยู่นี่ จากนั้นวันถัดมาไปดูหนังสือพิมพ์
เขาไปช่วยงานวันเกิดของหลินซินหยู พวกคุณก็รู้ใช่ไหม อย่างแรก
คุณหลินซินหยูสำคัญกว่าผม จำได้นะ
ซูโหย่วเผิง :ไร้สาระ
ซูโหย่วเผิง :อย่างน้อย ผมยังไปถึงที่คุณนะ
หวงจื่อเจียว :จากนั้นคุณส่งของขวัญให้กับผมถูกไหม
ซูโหย่วเผิง :ใช่ ของขวัญของคุณยังแพงกว่าของเขา(หลินซินหยู)อีกนะ
หวงจื่อเจียว :จะดูของขวัญของคุณในสภาพปัจจุบันไหม มาๆๆ
ญ :เป็นอย่างไร
หวงจื่อเจียว :ขอโทษครับ ผมกลัวเธอคิว่าผมจะจู่โจมเธอ ผมเลยพูดกับเธอหน่อย
พกของเยอะเกินไปแล้ว อยากดูซูโหย่วเผิง ส่งให้ผมราคาเก้าพันห้าร้อยเหรียญ
สภาพของ โคมไฟ เกรดเอ กลายเป็นอย่างนี้
ญ :ทำไม
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H---.jpg)
หวงจื่อเจียว :วันนั้นผมเอาไฟอันนี้ คุณดูนะในไฟนี้มีกระจกแก้ว แล้วเอาหลอดใส่ลงไป
แล้วไปเสียบปลั๊ก แล้วไหม้ขึ้นมาในทันใดเลย
ซูโหย่วเผิง :นี่เป็นผลงานของนักออกแบบที่ได้รับรางวัลเชียวนะ
หวง จื่อเจียว :ฉะนั้นผมย้ายบ้านวันแรกคุณก็คิดจะเผาบ้านผม หลังจากผมไม่อยากจะพูด
เพราะทุกคนก็อยู่ ผมก็เลยเก็บมันไว้ พี่เสี่ยวเหยี่ยน พวกคุณไม่เคยรู้เรื่องใช่ไหม
ผมเลยเก็บมันไว้อย่างเงียบๆ แอบร้องไห้คนเดียว แต่ว่ามิดยังไงก็ยังได้กลิ่นไหม้หน่อย
ก็คือเขา จริงนะ โคมไฟของผมอันนี้เป็นของคุณที่ให้มา คุณยังจำได้ใช่ไหม
ซูโหย่วเผิง :ในเมื่อมันไม่สำเร็จ ผมยังจะส่งให้คุณอีกอันหนึ่ง
หวงจื่อเจียว :เกินไปแล้วนะ เรื่องนี้ผมจะแปลให้เธอฟังเอง
ซูโหย่วเผิง :คุณกำลังพูดอะไร นำลงไปได้แล้ว
หวงจื่อเจียว :นี่เป็นความจริง นี่เป็นความจริงนะพี่เสี่ยวเหยี่ยน
ญ :เรื่องนี้แท้จริงแล้วเขาก็มีน้ำใจอยู่ เพียงแต่เขาให้บ้านคุณรุ่ง
หวงจื่อเจียว :มีน้ำใจ ก็สามารถเผาบ้านของคนอื่นได้หรือ
ญ :ไม่ใช่ เขาอยากจะให้บ้านคุณรุ่งเรือง รุ่ง ให้คุณรุ่ง
หวงจื่อเจียว :ให้ฉันรุ่งขึ้นมา ถ้างั้นจะต้องเผาจริงๆหรือเปล่า
ญ :เอาล่ะ แล้วคุณเอ่อจินล่ะ
หลิว เอ่อจิน :ไม่ใช่ เมื่อครู่เจียวเจียว ผมไม่เคยทราบว่าพวกคุณเคยไปญี่ปุ่น ความจริง
ของเรื่องการ์ดเอคือเรื่องจริง ตัวเขาในวันนี้กับเมื่อก่อนไม่เหมือนกัน คุณดูสิ วันนี้ตอนเขาเข้ามาปุ๊บ
คุณอย่าแหย่ตรงนั้นของผมอีก ผมจั๊กจี้เป็นนะ เขาเมื่อก่อนพูดอย่างนี้ไม่เป็น ในสายตาผมแล้ว
เขาเป็นดังกระต่ายตัวน้อยที่น่ารัก จริง หลังจากนั้น พวกเราผู้ชายทั้งหลาย
ผมกับซ่งเส่วเจพวกเรามักจะคุยกันคุยเรื่องพวกลามกที่ตลกๆ
หวงจื่อเจียว :ตัวการ(ที่คุย)คืออาเลี้ยงกับเอ่อจิน
หลิวเอ่อจิน :ไม่ใช่ ผู้ชายอยู่ด้วยกันเมื่อไรก็จะพูดเรื่องนี้แหละ ที่จริงเขาอยาก
เขาอยู่ข้างๆ คอยดักฟังตลอด เขาอยากจะเข้าร่วมมาก และแล้วเขาก็อายไม่กล้า
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H4-0--.jpg)
ญ :ตอนนั้นเขายังเด็กและยังอายอีก
หลิวเอ่อจิน :มักจะถามเราบ่อยๆ แผ่นเออันนั้นเนื้อเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง
หวงจือเจียว :เขากระหายฟังแต่ก็ไม่กล้าฟัง อยากดูแต่ไม่กล้าดู
ญ :ที่จริงคือเขาดูไม่เป็น
หลิวเอ่อจิน :พี่เสี่ยวเหยี่ยน พี่ดูเขาเดียงสาเกินไป
หวงจื่อเจียว :ลูกสาวเอ่อจิน ตอนนี้ป.หนึ่งก็ยังดูเป็นเลย
หลิวเอ่อจิน :ไม่หรอก
ญ :วันนี้ที่จริงพวกเรามีรายการแสดงอันหนึ่ง นี่เราเตรียมไว้สำหรับไฉ่หลินเป็นพิเศษ
ที่จริงในตอนนั้น ซูโหย่วเผิงนั้นดังมากๆ ดังไปทั่ว
หวงจื่อเจียว :ตอนนี้คุณเอาเรามาทำให้เขาประสบความสำเร็จหรือ
ญ :ใช่ๆ วันนี้เราพูดเรื่องดังกึกก้องไปทั่วหล้า ขอให้เป็นวัยรุ่นก็ร้องเพลงของเขาเป็น
หวงจื่อเจียว :แต่ว่าเขาชอบเผาบ้านของคนอื่น
หลิวเอ่อจิน :เขายังชอบดูแผ่นเอด้วย
ญ :เอาล่ะ เรามาดู ชิงผิงก่อเล่อเหยียน
ซูโหย่วเผิง :คุณหรือทําให้ผมหน่อยซิ
หลิวเอ่อจิน :ผมรับผิดชอบจับเขาไว้
ญ :ทุกคนลองสังเกต ซูโหย่วเผิงจะช้ากว่านิดหน่อย
ซูโหย่วเผิง :ผมทำไมเงียบเหงา
หวงจื่อเจียว :เขาดูเหมือนเซ็งๆ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/5---.jpg)
ญ :คุณดูยังไงซูโหย่วเผิงก็ช้าหน่อย
อยู่ต่อหน้าคนเกาหลี พูดภาษาญี่ปุ่นทำไม ฉันรับหน้าที่ช่วยคุณจับเขา
ซูโหย่วเผิง :สวยดีนะ เพียงแต่ต้นแขนใหญ่ไปหน่อย
ญ :ดูเขาแล้วน่ารักมากๆใช่ไหมล่ะ ยังไงก็ช้าหนึ่งจังหวะ น่ารักจริงๆ
ซูโหย่วเผิง :ขอโทษที ผมเหนื่อยแล้ว
ญ :ที่จริงพวกเราดูเห็นก็คือ ปีนั้นพวกคุณก็อยู่ข้างๆ สร้างภาพดังทำทำไป เงียบเหงา
หวงจื่อเจียว :ผมไม่เคยทำผ่านๆไปนะ
ญ :ชัดเจนจริงๆ อย่างผู้หญิงอย่างนั้น คุณเป็นอย่างนี้
หลิวเอ่อจิน :เขาล้วนทำความรู้สึกเป็นเซ็งเหยียดหยาม
ญ :เซ็งและเหยียดหยาม และยังก็คือ ทำอะไร
หวง จื่อเจียว :ตอนนั้นผมกับพี่เลี้ยง พวกเราคนละหนึ่งกลุ่ม หัวหน้ากลุ่ม
จริง พวกเขาอยู่ข้างหน้าก็คือหล่อ จุดศูนย์กลางของแฟนเพลง และทุกครั้งทีออกมานั้น
ชุดก็สวยมากๆ คุณดูที่ผมใส่เหมือนหมีอย่างนั้น จากนั้นก็แค่แจ็คเก็ตตัวเดียวก็ขึ้นไปแล้ว
จากนั้นก็ให้เรานำปรบมือ
หลิวเอ่อจิน :พวกเราก็เหมือนกันหมด ดีไหม พวกเราผลัดเปลี่ยนกันก็เหมือนกัน
หวงจื่อจิน& #65306;ที่จริงเริ่มแรกผมอยากจะเข้า สู่แวดวงศิลปินก็เพื่ออยากเป็นขวัญใจ
(แฟนเพลง)หลังจากนั้นเดินเข้าสู่เจซิง
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/5--.jpg)
ซูโหย่วเผิง :คุณยังมีอะไรที่จะพูดอีกหรือ วันนี้คุณพูดครั้งเดียวให้มันจบแล้วจบเลยดีไหม
หวงจื่อเจียว :ผมกลายเป็นเจซิงแล้วคุณจะเอาอย่างไรล่ะผมไม่มีอะไรจะพูดแล้วนะ
หลิวเอ่อจิน :คนมีผมอยู่ใครอยากจะเป็นไอ้ล้านล่ะ
หวงจื่อเจียว :อยู่ต่อหน้าผมพูดเรื่องหัวล้านมันหมายความว่าไง
ญ :ว่าแล้วที่จริงซูโหย่วเผิงคนนี้ในตอนนั้นเขาเป็นคนเล็กที่สุด
ซูโหย่วเผิง :ใช่ๆ
ญ :อายุของคุณในตอนนั้นรวมทุกคนด้วยใช่เปล่า ฉันไม่ทราบว่าตอนนั้น
จางหยี ในตอนนั้นคุณสังเกตเวทีเพลงไหม
ช :ใช่ในตอนนั้นคุณน่าจะจบมหาลัยแล้วมั้ง
ซูโหย่วเผิง :ไม่ ยังอยู่มหาลัย
ช :โม้เปล่า
ซูโหย่วเผิง :จริงๆ ปีสาม
ช :คุณไม่น้อยขนาดนั้นมั้ง ในตอนนั้นหัวคุณก็ใหญ่ขนาดนี้เลยมั้ง
ญ :คุณเคยสังเกต วงเหล่านี้ไหม คุณเคยเห็นไหม
ช :ไม่มีค่าควรแก่การ(ทำ)
หวง จื่อเจียว :ถูก ใช่หรือไม่ ประเทศเดียว เราเป็นพวกเดียวกัน ในตอนนั้นก็คือไม่มีค่า
ควรแก่การ(ทำ) พวกเราสามคนรวมกันเป็นอีกวงก็ดีกว่า จะดังไหมเนี่ย
หลิวเอ่อจิน :แต่ว่าผมตีลังกาหลังไม่เป็นนี่
ญ:ดี ที่จริงแล้วเนี่ย
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/5-.jpg)
หวงจื่อเจียว :พวกผู้ชายก็ไม่มีค่าควรแก่การเท่าไร ผมจะบอกกับคุณว่าในตอนนั้น
ญ :จริง เพราะผู้หญิงก็คือชอบเฮฮา และซูโหย่วเผิงก็เล็กเป็นพิเศษ
ช :น่ารัก
ญ :ในตอนนั้น เขาน่าจะมาร่วมในเวลานั้น คือมัธยมต้นปีสามถูกต้องไหมล่ะ
ซูโหย่วเผิง :ก็คือจบมัธยมต้นในตอนนั้น
ญ :เพิ่งสอบปลายภาคเสร็จแล้วก็มาสมัครเลย หลังจากนั้นก็ฝึกฝน ฝึกฝนนานมาก
และเขาก็ยังช้าอยู่หนึ่งจังหวะ พวกเรามาดูดีไหม
หวงจื่อเจียว :คุณดูซิ เต้นจนตกขอบเลย ระยะความห่างไกลมาเลย ไม่ดูระยะดีๆ
ญ :ในตอนนั้นเราสังเกตเห็นว่า ซูโหย่วเผิงไม่ใช่ช้าหนึ่งจังหวะ ก็เต้นเลยจุดศูนย์กลาง
หวงจื่อเจียว :เส้นประสาทขาดไปหนึ่งเส้น
ญ :คนอื่นหมุนไปแล้วเขาก็
หวงจื่อเจียว :คุณไฉ่หลิน สงบสติอารมณ์หน่อยได้ไหม ขำขนาดนี้ ขำอย่างนี้ เขาขำมาตลอด
หลิวเอ่อจิน :เขาเอาความรู้สึกของสองสามเดือนนี้แสดงออกมาหมดแล้วคุณรู้ไหม
ญ :หลังจากที่ทุกคนพูดแล้วเขาก็
หวงจื่อเจียว :และเขาก็ใช้แรงไปมั่ว เพราะเหมือนอู๋ฉีหลง
หลิวเอ่อจิน :จื่อเผิงเต้นเก่งที่สุด เขามีพื้นบาเล่(ท่าเต้นบราซิล)
ซู โหย่วเผิง :ไม่หรอก นี่ต้องขออธิบายหน่อย เพราะในตอนนั้น
เพราะในตอนนั้นเพึ่งสิบหกปีเอง ในตอนนั้นไหล่ของผมยังเต็มที่ยังเล็กอยู่
ฉะนั้นดูของตนแขนผมใหญ่มาก ต้นแขนใหญ่ คุณก็รู้สึกว่ามันเกินไป
หวงจื่อเจียว :ตอนนี้มันโตเต็มที่แล้วใช่ไหม ลองอีกครั้งซิ ก็จากตรงนั้นหมุนไปถึงที่ไฉ่หลินนะ
ญ :เดี๋ยวนี้นิ่งมากขึ้นตั้งเยอะเลย และใจตอนนั้นเนี่ยตลกจริงๆ แค่คำพูดไม่กี่คำก็ยังลืมเลย
ช :ใช่แล้ว ทำไมคุณจำไม่ได้หรือ
ซูโหย่วเผิง :ผมก็จำไม่ได้ว่ายังมีตอนเหล่านี้อยู่
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/H--0.jpg)
ญ :ทีจริงในตอนนั้น เขามีประวัติที่น่าตื่นเต้นมากมาย ในปีนั้น
เขาได้จัดงาน คอนเสิร์ต สุดท้ายก็ทำให้ถนนเต็มไปด้วยผู้คน คอนเสิร์ต
คนนับหมื่น การเซ็นต์สัญญา เรามาดู
หวงจื่อเจียว :โฮ้โห คนเยอะมากๆ
ญ :และในตอนนั้นพวกเขาได้จัดคอนเสิร์ตในห้าง
ซูโหย่วเผิง :อันนี้ให้ความทรงจำที่ลึกซึ้งมาก
หวงจื่อเจียว :เป็นงานแรก ในตอนนั้นเขาได้ไปกับพวกเขา พวกเราตามไป วิ่งไปมาหลายรอบ
ญ :พวกคุณไปทำอะไร
ซูโหย่วเผิง :ไปทำอะไรล่ะ นอกจากไปจัดรายการ
หลิวเอ่อจิน :พวกเราเป็นผู้รับผิดชอบในด้านนำบรรยากาศให้สนุกก่อนเป็นงาน
เรายังอยู่ข้างหลังจัดเต้นของ วงเสี่ยวหู่ตุ้ย
ญ :แล้วซืออี้หนันล่ะ
จางหล่อจิน :ในตอนนั้นเขายังไม่เกิดเลย เขายังไม่มี เขาเป็นทหาร
หลิวเอ่อจิน :เขาช่วยจางล่อจินเต้น
จางล่อจิน :ยังไม่มีเขา ยังไม่มีเขา
ญ :หลี่วุ่ยยังไม่ทันเกิดใช่ไหม
หลี่เหว่ย :ยังไม่เกิด ไม่หรอก
หวงจื่อเจียว :พี่เสี่ยวเยี่ยนพี่คิดว่าเขาน้อยขนาดนี้เลยหรือ
หลี่เหว่ย :ไม่น่ะ ผมดูอยู่หลังเวที
หลิวเอ่อจิน :ยังไม่รวมวง ไม่ใช่ยังไม่ได้เกิด
หวงจื่อเจียว :อย่างไรในตอนนั้นเสี่ยวไกวน่าเอ็นดู เขายังถูกบีบีตี ผมจำได้มีครั้งหนึ่ง
ซูโหย่วเผิง :มีครั้งหนึ่งถูกโยนด้วยไข่หรือเปล่า
หลิวเอ่อจิน :ยังมีถูกข้วางด้วยดอกไม้นั้นเป็นเรื่องธรรมดา
ญ :ที่จริงพวกเขาดีใจเกินไป ไม่ระวัง แต่เขาคงดวงซวย
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/-3-6.jpg)
หวงจื่อเจียว :เพราะว่า อู๋ฉีหลง พวกเขาโยกได้เร็ว เขาช้าไปครึ่งจังหวะ
ฉะนั้นเขาจะโดนทุกครั้ง ถูกขว้าง ว่าไหม
ซูโหย่วเผิง :มันเกี่ยวกับที่ผมช้าครึ่งจังหวะอีกแล้วเหรอ
ญ :ในตอนนั้นพวกเขาได้ชื่อว่า “เซียวเหยาเย่อว”
หวงจื่อเจียว :เซียวเหยาฮ่อกุ้ยเสียวหู่ตุ้ย
ญ :ใช่ มีโฆษณาชิ้นหนึ่งยังมีเวลา พวกเรามาชมการโฆษณาอันนั้นดีไหม
ญ :ในตอนนั้นพวกเขาชื่อว่า “แซวเหยาหยิว”
เจียวเจียว :แซวเหยาฮ่อกุ้ยเสี่ยวหู่ตุ้ย (แซวเหยาแปลว่าอิสระสบายๆ)
ญ :ใช่ๆๆ มีโฆษณาชิ้นหนึ่งก็เป็นอย่างนี้ พวกเรามาดูโฆษณาชิ้นนั้นดีไหม
ญ : “แซวเหยาหยิว”บทเพลงนี้ยังจำได้ไหม
ซูโหย่วเผิง :แน่นอนต้องบอกว่าจำไม่ได้แล้ว
ญ :จำได้ไหม
หลิวเอ่อจิน :ก็คืออันนั้น บินไป บินไป ดูแมลงปอสีแดงนั้น
ญ :ฉันรู้สึกว่าวันนี้อยู่ต่อหน้าคุณไฉ่หลิน จะต้องแสดงให้เห็น
พวกคุณก็เป็นสามคนอยู่ ก็คือให้พวกเราหวนระลึกสักหน่อย
หลิวเอ่อจิน :รอเดี๋ยว แก้ฝันใช่หรือไม่ให้พวกเราแก้ฝัน
ญ :ให้พวกคุณสองคนแก้ฝัน
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--35.jpg)
หลิวเอ่อจิน :งั้นผมจะเป็นอู๋ฉีหลง
ช :ผมขอเป็นปี่ลี่หู่
ญ :วันนี้พวกคุณปรับเปลี่ยนบทบาทของตัวเองดีไหม
ซูโหย่วเผิง :พวกคุณสามคน เป็นคณะเสี่ยวหู่ตุ่ย ผมจะสวมบทเป็น “เจียวเจียว” ในสมัยนั้น
เจียวเจียว :เอ้ๆๆ ผมเป็นอย่างนี้ด้วยหรือ ผมไม่เคยเท้าใส่เอวเลย
ญ :เดี๋ยวก่อน เอาพี่จางหยีเข้ามาด้วยเนี่ย นี่มันเหมือนไม่มีสามัญสำนึกแล้ว
ซูโหย่วเผิง :ในตอนนั้นผมไม่ค่อยสนใจเพลงนี้เท่าไร
ญ :แก้ฝันก่อน ก็ให้พวกเขาสามคนได้แก้ฝันก่อน (ก่อนเคยฝันอยากเป็นแต่ไม่ได้เป็น)
หลิวเอ่อจิน :สามารถยืนอยู่บนเวทีร่วมร้องเพลงนี้กับคุณนี่เป็นเกียรติของพวกเรา
เจียวเจียว :ไม่เคยมีโอกาสเลย
หลิวเอ่อจิน :ไม่เคยเลย
ญ :ยิ่งกว่านั้น เพราะว่าคุณไฉ่หลินอยู่ ฉะนั้นพวกคุณจำเป็นจะต้องมีท่าเต้น
เจียวเจียว :ปัญหาก็คือคุณยังจำได้ไหม ผมว่า โหย่วเผิง ลืมหมด ผมยังจำได้
ซูโหย่วเผิง :งั้นคุณเต้น ผมเป็นคนร้อง
เจียวเจียว :ไม่หรอก แค่ล้อเล่น
ญ :รอเดี๋ยวก่อน
เจียวเจียว :คุณสวมบทของอู๋ฉีหลง มีหลายท่าคุณต้องสอนพวกเราก่อน
ซูโหย่วเผิง :ท่าของตัวผมเองยังจำไม่ได้เลย ยังจำของอู๋ฉีหลงอีก
ญ :พวกเขาสองคนก็ล้วนจำได้นี่
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--37.jpg)
ซูโหย่วเผิง :ถึงไงพวกคุณสองคนจากตั้งแต่เริ่มต้นจนจบตามพวกเรา “แซวเหยา” พร้อมกัน
ญ :ดี เตรียมตัว มา “ แซวเหยาหยิว”
เจียวเจียว :ในที่สุดผมก็ได้กลายเป็นทีมเสียวหู่ตุ้ยแล้ว 555
หลิวเอ่อจิน :ในที่สุดผมก็ได้เป็น “ผีลี่หู” แล้ว
เจียวเจียว :ดี ผมรู้นะว่าคุณอยากจะจัดการกับเขา ช่วยด้วย ๆๆ
ช :ไม่เลวนี่
ซูโหย่วเผิง :มันสูงมาก
หลิวเอ่อจิน :สวรรค์ เหมือนกับ หยีเทียน มาออกรายการเลย
ญ :ที่จริงเอ่อจินใช่
หลิวเอ่อจิน :ผมไม่ยอมรับนะว่า ผมใช่
ญ :เอ่อจินนั้นร้องได้ดีมาก แต่ท่าเมื่อกี้ที่คุณทำนั้น ไฉ่หลินขำจนไม่ไหวแล้ว
เจียวเจียว :ถูกต้อง มันไม่ใช่มาจี่ ทำไมมันออกมาคนหนึ่งตัวอ้วนขนาดนี้ แปลก
หลิวเอ่อจิน :คนเขาพึ่งลดน้ำหนักมาได้สำเร็จ คุณว่าเขาอ้วน ผมผอมลงตั้งเยอะแล้ว
ญ :ผอมลงจริงๆ ที่จริงสักครู่ใครบอกว่าใครที่ไปงานวันเกิดของ “หลินซินหยู” นะ
เจียว เจียว :ผม ผมพูด เขาไม่มา ก็คือมาถึงบ้านผมสาย จากนั้นวันต่อไปมาดูหนังสือพิมพ์
เขากับ “ซื่ออี้หนัน” ไปช่วยงานวันเกิดของ “หลินซินหยู” แน่นอนคุณไม่ใช่
คนที่น่าเกลียดที่สุดคนที่น่าเกลียดที่สุดคือซืออี้หนัน
เขาไม่มาบ้านผมเลย คุณจะดีร้ายยังไงก็ยังมาใช่ไหม
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--40.jpg)
ญ :มา ซืออี้หนัน
ซูโหย่วเผิง :ใช่ วันนั้นผมยังเรียกเขามาทั้งวัน
ญ :มาๆๆ ซืออี้หนัน ฉันอยากจะคุณไฉ่หลินรู้สักหน่อย ว่ารู้จักคุณหลินซินหยูไหม
ไฉ่หลิน :รู้จัก
เจียวเจียว :เกลียดเขาเปล่า
ซูโหย่วเผิง :อย่าพูดไปเรื่อย
เจียวเจียว :ทำไร ผมไม่ได้พูดมั่วนะ
ญ :ซูโหย่วเผิงกับคุณหลินซินหยูเคยร่วมงานละครมามากมาย คุณเคยไหม
ซืออี้หนัน :มี ผมเคย
ญ :คุณกับเจียวเจียวรู้จักกันมากี่ปีแล้ว
ซืออี้หนัน :สิบกว่าปีมั้ง กว่าสิบปีมั้ง
เจียวเจียว :เริ่มเขาสู่วงการวันแรกก็รู้จักแล้ว
ซืออี้หนัน :ใช่ เขายังบังคับผมให้ไปช่วยงานโรงเรียนเขาอะไร
เจียวเจียว :เอ้ ตอนนี้ผมเป็นพระเอกหรือ
ญ :เดียวก่อน ฉันเพียงแค่ถามหลินซินหยู หลินซินหยูคุณร่วมงานกับเขา
หนึ่งเรื่องเท่านั้น จากนั้นก็เป็นมิตรกันสิบกว่าปี(กับเจียวเจียว) ตลอดชีวิตของเขา
ซื้อบ้านหลังแรก คุณไม่ไปเลย ไปเพียงงานของหลินซินหยู
ซูโหย่วเผิง :ใช่ วันนั้นผม ผมจะเป็นพยาน ผมไม่เพียงแต่บอกกับเขาว่าคุณจะต้องไปนะ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/-0-1.jpg)
ซืออี้หนัน :มีหรือ
ซูโหย่วเผิง :จริงจะต้องไปนะส่งของขวัญไปแล้วมีอะไร ถึงแม้ว่า
จะนำเอาโครมไฟที่ไหม้มาก็จะต้องไป
ซื่ออี้หนัน :ดี ผมก็จะเป็นพยาน ผมบอกกับคุณ เขาไม่ได้ตั้งใจไปซื้อของขวัญ
เพื่อจะไปบ้านคุณ เขาถือโอกาสซื้อ
ญ :คุณรู้ได้อย่างไง
ซืออี้หนัน :ผมบอกกับคุณ วันนี้ผมจะต้องมาของความเป็นธรรม ความคิดเขาเด่นชัดมาก
ซูโหย่วเผิง :คุณน้อยๆหน่อย
ญ :คุณพูด ให้เขาพูดให้จบก่อน
ซูโหย่วเผิง :จิตสำนึกอยู่ตรงไหน
ช :แยกกันก่อน
ซืออี้หนัน :คุณเห็นตัวตนจริงๆของเขายัง ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ
เจียวเจียว :ใช่ คุณดูเขาเป็นอย่างนี้แหละ
ซื่ออี้หนัง :คุณเป็นพิธีกรไม่ช่วยแยก ทำไมยังจะสุมไฟด้วย
ช :ถ้าให้ดีที่สุดต้องชกต่อยกัน
ญ :และคุณยังต้องรับรู้นะ เขาสัมผัสใจคนอื่นตลอดเลย แต่ใจก็ไม่ไม่อยู่ที่นั่น
ช :ก็ว่ามันแปลก
ซูโหย่วเผิง :ไม่มีจิตสำนึกเลย คนชั่ว
ซืออี้หนัง :ไม่ผมจำได้ว่าในตอนนั้นผมเองเป็นศิษย์น้องของพวกเขา
ผมเป็นน้องรุ่นที่สามของพวกเขา
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/---.jpg)
ซูโหย่วเผิง : ดูดิ ติดอ่างแสดงว่าโกหก
ซืออี้หนัง :จากนั้น ที่จริงเริ่มตั้งแต่แรกก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีแผน
ซูโหย่วเผิง :น้อยๆหน่อยนะ
ญ :พวกคุณสองคนอย่างโต้เถียงบนหัวฉันไปๆมาๆ
ซืออี้หนัง :พี่เสี่ยวเยียน ทั้งหมดมันไม่มีปัญหาหรอก มันไม่มีอะไรกีดขวางหรอก
ญ :ฉันรู้สึกแปลกใจมาก พิธีกรอย่างฉัน แล้วสองคนที่เป็นแขกรับเชิญ
โต้เถียงกันบนหัวฉันตลอดเลย พวกคุณยังเห็นฉันอยู่ในสายตาเปล่า
ซูโหย่วเผิง : เอาล่ะๆๆ คุณน้อยๆหน่อย
ญ :เอาล่ะ แท้จริงคุณจะพูดว่าวันนั้น
ซืออี้หนัง :ไม่ผมกำลังพูดว่าก่อนหน้านั้นก็รู้สึกว่า เขาเป็นคนที่มีแผน
ญ :แล้วใครบ้างที่ไม่มีแผนความคิด
ซืออี้หนัน :แผนความคิดเขาเนียนมาก
ญ :หัวใจอุดตันแล้วมั้ง
ซืออี้หนัน :ใช่หัวใจอุดตัน
ญ :เพราะอะไร
ซือ อี้หนัน :ตอนนั้นผมเริ่มเลือกออกมานั้นต้องไปฝึกงาน สมมุติว่าการร้องเพลง
ของวงของสี่ยวหุ่ยตุ้ย ไปที่ห้องอัดเสียงฟังพวกเขาร้องเพลง ผมได้ฟังของอู๋ฉีหลง
ฟังของเฉินจื่อเผิง ฟังของซูโหย่วเผิง ในตอนนั้นมีครั้งหนึ่งเขาได้รับส่งผมกลับ
เพราะเขาขี่มอเตอร์ไซค์ หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็เป็นอย่างนี้ ผมจะพูดให้คุณฟัง
เขาร้ายมากๆ ผมจะบอกกับคุณ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--.jpg)
ซูโหย่วเผิง :ไม่ง่ายนะตอนนั้นในวงเสี่ยวหุ้ยตุ้ยนั้นเขาอายุน้อยที่สุด
ไม่ง่ายที่จะมีมาดทหาร ถ้ารังแกเขาแล้วจะไปรังแกใครได้ล่ะ
ซือ อี้หนัน :ในตอนนั้นผมอายุน้อยที่สุด ที่จริงตอนนั้นที่ผมฟังแล้วเนี่ย
รู้สึกว่าเสียงที่เขาร้องนั้นไม่เลวนะ ผมนั่งซ้อนท้ายเขา ผมจะบอกกับคุณว่า
ฟังได้ฟังเพลงนั้น คุณร้องเพลงนั้นได้ไม่เลวจริงๆ แล้วเขาได้ถามผมประโยคหนึ่ง
“นี่ คุณพูดอย่างนี้กับรุ่นพี่ทุกคนหรือเปล่า” (ชมว่าร้องได้ดี) ผมก็ เขาพูดอย่างนี้
กับผมได้ไง ที่จริงนี่เป็นคำที่ออกมาจากใส้พุงเลยนะ ผมโดนเขาทักอย่างนี้แล้วเนี่ย
สุดท้ายก็คิดว่าชั่งมันแล้ว หลังจากนั้นเขา เพราะบ้านผมอยู่เขตทางตะวันออก
มันใกล้กับกองถ่ายมาก เขามาในบ้านผม กินของบ้านผม ดื่มของบ้านผม
นอนก็บ้านผม ใช้ก็บ้านผม
ซูโหย่วผิง : ไม่นะ แม่เขารักผมมาก
ซืออี้หนัน :ใช่ ตอนนั้นเขาติดผู้ใหญ่
ซูโหย่วเผิง :ไม่นะ ก็ตอนนั้นเขาไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ คุณแม่เขารู้สึกว่าผมเป็นคนที่เก่ง
ซืออี้หนัน :เขากับพ่อแม่ผมนั้นดีมาก จากนั้นพ่อแม่ผมก็เริ่มเกลียดผม
ญ :ดูดิ ที่จริงฉันรู้สึกว่า พ่อแม่ก็ควรเกลียดชัง ก็คือว่า คุณดูเขาซิ
ทั้งร้องเพลงทั้งเรียนหนังสือ ดูซิ เขาร้องเพลงไปด้วยเรียนไปด้วย
แล้วคุณเพลงก็ร้องไม่ดี แถมหนังสือก็เรียนไม่ได้เรื่อง (ฉะนั้นต้องโทษตัวเองแล้ว)
ช :คนอื่นชอบเกลียดคนประเภทนี้มาก ว่าไหม
ซืออี้หนัง :ใช่ดิ มันน่าโมโหจริงๆ
ญ :แล้วหลินซินหยูล่ะ
ซือ อี้หนัน :ใช่เรื่องนี้ผมจะต้อง เสียวเยี่ยน ความจำยังดีนะ วันนั้นที่จริง ก็เพราะพวกเรา
ก็คือพวกเขากลับจากจีนแผ่นดินใหญ่ และผมเองก็พึ่งถ่ายหนังเสร็จ
และกลับมาพอดี ยังคิดว่า วันเกิดของหลินซินหยู อยากจะจัดให้เขาหน่อย
มันไม่ง่ายที่พวกเราได้อยู่พร้อมเพียงกัน และแล้ววันนี้ก็นัดกับเขาว่า
ตอนเช้าจะไปซื้อของขวัญ หลังจากนั้นก็ได้ไปกับเขา
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/-3-5.png)
ญ :พวกคุณสองคนไปซื้อของขวัญ
ซืออี้หนัน :ใช่ ก็คือจะไปหาซื้อของขวัญของหลินซินหยู
ไม่ใช่ไปหาซื้อให้คุณนะ (เจียวๆ) แต่นั้นมันถือโอกาส
เจียวๆ :ไม่มีปัญหา ผมตายใจต่อ ซูโหย่วเผิง ไปตั้งนานแล้ว
ซือ อี้หนัน :นั่นเป็นการถือโอกาสซื้อ ไม่เป็นไร สุดท้ายตอนเช้าก็ไป เขาบอกว่าไปนวด
กระดูกสันหลังกันผมก่อน ผมบอกว่า ไม่ใช่ว่าจะไปหาซื้อของขวัญก่อนหรือ
สุดท้ายก็ไปเป็นเพื่อนกับเขานวดกระดูกสันหลัง ร้องเสียง วาวาอย่างนั้น
ก็ว่าชั่งมัน จากนั้นก็ไปซื้อของขวัญจริงๆ ซื้อของขวัญเราก็เดินไปเรื่อยๆ
จากเริ่มต้นจนจบก็ล้วนแต่ซื้อเสื้อผ้าของเขาเท่านั้น เปลี่ยนชุดแล้วชุดเล่า
ตัวแล้วตัวเล่า ลองตลอด สุดท้ายหลินซินหยูมาแล้วนั้น ผมเอาของขวัญของผม
มอบให้กับเธอ สุดท้ายนักข่าวหนังสือพิมพ์ถ่ายไว้แล้ว แต่ไม่ได้ถ่ายถูกช่วงของผม
ซูโหย่วเผิง :คุณจะต้องบอกว่าของขวัญ ที่คุณส่งให้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่จริงใจ
คุณจะบังคับให้ผมพูดไหมว่าไม่มี
ซืออี้หนัน : เดียวก่อน ผมรู้สึกว่า พี่เสียวเยี่ยน คุณต้องมานี่
ช :พูดเร็วๆ พูดออกมา ไม่ต้องกลัว
ญ :ซืออี้หนัน คุณได้เล่ามาตั้งมากมาย ยังไม่สามารถ...เอคนอื่น
คนอื่นพูดแค่คำเดียว ก็ทำให้คุณแพ้ไปแล้ว
ซืออี้หนัน :ไม่หรอก ส่งของขวัญนั้นต้องดูที่ความจริงใจ น้ำใจ ว่าดีเปล่า
ผมซื้อเตรียมไว้ตั้งเช้าแล้ว
ญ :เดียวก่อน ฉันรู้สึกว่าตอนนี้อย่างเพึ่งพูดเลย คุณให้อะไรกับหลินซินหยู
ซูโหย่วเผิง :ผมส่งให้เขาอันนั้น
ช : พูด ก็เป็นโคมไฟอันนั้นเปล่า ซื้อโคมไฟตั้งสองอัน
ซู โหย่วเผิง :ไม่ๆๆๆ ไม่เหมือนกันแน่นอน เขานั้นได้ย้ายไปที่ใหม่ ฉะนั้นผมเลย
ซื้อสิ่งของอันนั้นไม่เหมือนกัน ซินหยูที่ส่งให้เธอคือ
กาที่ใช้ชงกาแฟ สวยงามมาก เป็นสิ่งที่ง่ายๆอย่างนั้น
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/---5.png)
เจียวๆ :ผมจะเอาอันนี้
ซูโหย่วเผิง :ของคุณอันนั้นแพงกว่า
ญ :ไอ้ที่ชงกาแฟนั้นมันแตกได้ แตกจนทั้งบ้านเต็มไปด้วยกาแฟ
เจียวๆ :ที่จริงผมกับไฉ่หลินผวาจริงๆ พวกเราสองคนกลัวมาก
หลิวเอ่อจิน :มาทางนี้หน่อย
เจียวๆ :น่ากลัวๆ มันระเบิดนะ
ซูโหย่วเผิง :จะให้อะไรไม่สำคัญ เมื่อมันแตกระเบิดแล้วก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ
ญ :ระเบิดแล้วเนี่ย จะเปลี่ยนเป็น คาปู้ฉี่น่อ คุณรู้ไหม เอาล่ะ คุณให้อะไรกับเธอ
ซูโหย่วเผิง :พูดซิๆๆ
ซืออี้หนัน :การให้ของนั้นมองที่น้ำใจมีไหม
ญ :ให้อะไร
ซูโหย่วเผิง :เอาความมีน้ำใจของคุณออกมาให้ดูหน่อยซิ
ซืออี้หนัน : ซีดี
ซูโหย่วเผิง :ซีดีไม่ใช่ว่าไปซื้อด้วยตัวเองมั้ง
ซืออี้หนัน :ไม่นะ ผมพูดจริงๆ เพราะในตอนนั้น
ญ :คุณส่งซีดีของใคร
ซือ อี้หนัน :เพราะว่าหลินซินหยูเธอถ่ายหนังที่นั้น เธอชอบเพลงหนึ่งมากๆ
แล้วผมก็ไปหาเพลงนั้นเป็นพิเศษ และเธอชื่นชอบ “จางก่อหยง” มากๆ
ผมก็ซื้อซีดีของ “จางก่อหยง” ให้เธอโดยเฉพาะ ผมนั้นมีใจให้จริงๆแต่เขานั้น
น่าเกลียดจริงๆ วันต่อมาลงหนังสือพิมพ์ เขาไม่ได้แก้ข่าวเพื่อนผมเลย
หนังสือพิมพ์ลงว่าอย่างไร ว่าซูโหย่วเผิงได้ใช้เงินมากมาย ใจกว้าง
ซืออี้หนันเห็นว่าเขาจ่ายเงินมาก ก็เลยก้มหัวกินเค๊กแล้วก็อะไรอีก
ตอนเอาของขวัญหัวผมได้หลบไป
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--39.png)
ญ :รอก่อน
ช :เขาดีต่อคุณนะ แค่ซีดีแผ่นเดียวพูดออกไปแล้วน่าอายขนาดไหน
ซูโหย่วเผิง :ผมรู้สึกว่าเรื่องที่จะให้อธิบายนั้น มันก็เป็นสิ่งที่ไม่เป็นจริง
ญ : ในวันนั้นเป็นวัน คุณจ่ายเงิน
ซูโหย่วเผิง :แน่นอน ฉะนั้น ความจริงจะไปอธิบายให้ชัดเจนทำไม
ญ : พวกเราอยากจะถามคุณไฉ่หลินว่า ตอนที่ซูโหย่วเผิงได้ร่วมถ่ายละครนั้น
เคยชวนคุณไปกินบ่อยๆไหม มีพาพวกคุณไปเลี้ยงไหม
ไฉ่หลิน :ถ้าหากว่าเลิกงานเช้า อาหารเย็นนั้นล้วนเป็นซูโหย่วเผิงเลี้ยง
เจียวๆ : มันจริงหรือเท็จ คุณอย่าไปช่วยเขานะ
ไฉ่หลิน : จริงๆ
เจียวๆ :เธอพูดภาษาจีนได้ตั้งแต่เมื่อไร
ซูโหย่วเผิง :ฉะนั้นคุณอย่าพูดเล่นๆกับเธอนะ เธอฟังออกนะ
เจียวๆ :และผมยังมองข้างๆเขารู้ว่าหูเธอสะอาดดีมาก ไม่เคยเห็นมานานแล้ว
หลินเอ่อจิน :คนนี่แปลกคนจริงๆ
เจียวๆ :ผมมากที่ขี้หูกลิ้งออกมาอย่างนั้น
ญ :ซูโหย่วเผิง ขอให้เพื่อนๆทุกคนจำไว้ให้แม่น ทีหลังทุกครั้งที่ถ่ายทำ
ถ้าถ่ายทำเสร็จเร็วหน่อย ควรเป็นซูโหย่วเผิงเลี้ยงทุกครั้ง
ช :อย่างนี้ร้ายกาจ อย่างนี้มันใจกว้าง ยอดเยี่ยม
ญ :อันนี้ใจกว้างภูมิฐานจริง ฉะนั้นซืออี้หนันคุณเคยเลี้ยงเขาเปล่า
ซูโหย่วเผิง :อื่ม แล้วทำไมผมจะต้องมาอธิบายล่ะ คุณสามารถบอกกับ
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--41.png)
ซือี้หนัน :เขาซื้อของของเขาเองจริงๆ แล้วช่วงว่างสามสิบนาที่นั้นก็เลยถือโอกาส
ไปซื้อของขวัญของเจียวๆกับหลินซินหยู กลับมากลับพบกันโดยบังเอิญ
ซูโหย่วเผิง :น้ำใจก็พอเหมาะแล้วนิ
ซืออี้หนัน :เมื่อถูกถ่ายแล้วก็กลับกลายว่าผมเป็นคนขี้เหนียว
แล้วผมก็ไม่มีน้ำใจอีก ผมยังพูดไม่จบเลย
หลิวเอ่อจิน :กลับมา
ญ :คุณนั่งลง
เจียวๆ :บ้านผมกำลังจะไหม้ขึ้นมาแล้ว
ช :การนัดพบกันวันนั้นมันแย่จริงๆ แย่มากๆ
ซืออี้หนัน :ยังมีอีกๆๆ ต่อๆ เดียวก่อนผมจะแฉคุณต่อ พี่เสียวยินนั่งก่อน
รอแป๊ป ผมซี้กับคุณขนาดนี้เลยหรือ จะบอกกับคุณไปร้อง เคทีวี
จางล่อจิน :เรื่องนั้นหรือ ผมก็รู้ อันนั้นดี
ญ :เขาไปที่เคทีวี เดี๋ยวก่อน พวกคุณก็เคยไปใช่เปล่า
ซูโหย่วเผิง จางล่อจิน: เคย เคย ๆๆ
ญ :เขาเลียบแบบใครเป็น
ซืออี้หนัน :หม่าตันน่า(มาดอนน่า) ผมจะบอกกับคุณ
เจียวๆ :รักข้ามรุ่น
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--38.jpg)
จางล่อจิน :ครั้งแรกที่ผมเห็นภาพวาดของ เหว่ยแซ่ ก็เพราะเขา
เมื่อกี้เจียวๆก็พูดไปแล้วมิใช่หรือ ว่าจงเซิงหมิงไฉ้
ที่จริงพวกเราอาจเพราะว่าเจียวๆเป็นรุ่นพี่
เจียว : เป็นรุ่นก่อนพวกเขา
จางล่อจิน :พวกเราเป็นรุ่นน้อง โหย่วเผิง ที่เราเห็นนั้น
เขาก็ได้แต่ฟังอันนั้น หม่าตันน่า(มาดอนน่า)
ญ :เดี๋ยวก่อน ๆ ฉันอยากจะถามคุณไฉ่หลินก่อน คุณไฉ่หลิน ตอนที่เขาถ่ายทำนั้น
เขามีไหมที่เล่นสนุกๆกับเพื่อนๆ เขาเคยเลียนแบบอย่าง หม่าตัน(มาดอนน่า) ไหม
ไฉ่หลิน :ไม่เคยดูเลย แต่ก็อยากจะดูมาก
ซูโหย่วเผิง :ทำได้ดีมาก เขาร้ายจริงๆ
เจียวๆ :เขาเป็นจริงๆ เพราะในตอนนั้นเขาถูกผมชิงเจ้าแห่ง ฮายื่อ แล้วเขาก็เปลี่ยนแล้ว
เขาก็เริ่มสนใจดนตรีฝรั่งแล้ว รักล้ำ ทำนอง ท่าทาง มั่วเลยเถิด ชั่วทราม
ญ :ฉันคิดว่าอย่างนี้ดีแล้ว ฉันคิดว่า ไฉ่หลิน อยู่ที่นี่ พวกเราก็ไม่ต้องเสียหน้า
เพียงแค่คุณร้องเพลงภาษาอังกฤษเพลงหนึ่ง ในเวลาร้องนั้นก็มีท่าทางของ
มาดอนน่า หน่อยๆ ว่าไหม ฉันรู้สึกว่านักแสดงกับการเลียนแบบก็เป็นสิ่งหนึ่ง
เอาล่ะตอนนี้พวกเรามาชมกัน เขาร้องเพลงที่ มาดอนน่า ร้อง คุณเป็นจริงๆใช่ไหม
ซูโหย่วเผิง :ร้องนั้นก็ร้องเป็น แต่เต้นท่าเต้นของเขา(หมายถึงมาดอนน่า) ไม่ค่อยได้
ซืออี้หนัน :อย่าโม้ ธรรมดาบ้าคลั่งกับเคทีวีมาก คุณก็คิดเสียว่าที่นี่เป็นหน้าตู้ก็ดีแล้วนี่
ญ :พูดแล้วต้องรับผิดชอบด้วยนะ เอาล่ะ มาๆ ร้องนำหน่อย
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/---3.png)
ซูโหย่วเผิง :อันนี้ผมไม่เป็น คุณรีบมาช่วยหน่อย เร็ว
ซืออี้หนันถึงจะเต้นเป็นจะบอกให้ เต้นดิ ผมร้องคุณเต้น
ญ :หยุดก่อน
เจียวๆ :ร้องเพลงที่คุ้นๆหน่อยได้เปล่า ไล้ อะ เวอกิง ดีไหม
อย่าตามเลย เร็วหน่อย
ซูโหย่วเผิง :ตอนนี้เสียงมันไม่ไหวแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังพอไหว
อย่างนี้ มาดอนน่า ทำก็จะมีผล ถ้า มาดอนน่า เห็นคงบ้าตาย
ญ :ไม่นะ เขาตอนนั้นฉันคิดว่า เขาคงเด็กมากๆอยู่เลย
ซูโหย่วเผิง :ก็ชอบฟังเพลงของเขา แต่ท่าของเขาเต้นไม่เป็น
เจียวๆ :ไม่หรอก เพระเขาเป็นขวัญใจมาตั้งนานแล้ว เลยต้องการมีอวัยวะ
ที่จะต้องระบาย เพราะลักษณะของเขานั้นดีมากๆ แล้วโดนสอนว่า
คุณทำอย่างนี้ ไม่ฉะนั้นเมื่อไปที่หน้าตู้ ปิดประตูอะไรก็ออกมาหมด
หลิวเอ่อจิน :กลางวันเป็นพวกลูกผู้ชาย กลางคืนเป็นลูกลิง ความรู้สึกอย่างนี้
เขาขึ้นบนโต๊ะเก้าอี้เต้นเลยนะ แล้วทำบ้าๆ เว่อร์ๆ
ซูโหย่วเผิง :ผมไม่เคยเลย ยืนยันได้ว่าไม่มี
ซืออีหนัน :คุณหละยืนยันว่าไม่มี
ญ :จางล่อจิน คุณพูดสิ
เจียวๆ :คุณชกต่อยกันขึ้นมาผมจะปกป้องเขา(หมายถึงไฉ่หลิน)
ซูโหย่วเผิง :ออกห่างไปไกลจากเธอหน่อย
ญ :คุณไฉ่หลิน ภาษาเกาหลีของหวงจือเจียวพูดอย่างไรล่ะ
มันไม่น่าฟังหรือ หวงจือเจียวคือ ผีจือ เขาเป็น ตัว ผีจือ
เจียวๆ :ไอ้อ้วน พูดยังไงหรือ ไอ้อ้วน เขาเป็นไอ้อ้วน
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/26c23585.jpg)
หลิวเอ่อจิน :ยังผงกหัวอีก
ญ :คุณพูดอะไรนะ
หลิวเอ่อจิน :ผมว่าผมเป็นหมู
เจียวๆ :เธอไม่มีสัมมาคาราวะเลย หัวเราะได้ทั้งวัน หัวเราะได้มีความสุขมาก
ญ :ไม่ใช่ คุณลองคิดดู หากพวกเราเป็นคนที่สุภาพเรียนร้อยแล้ว
ถ้าพวกเราเป็นแขกรับเชิญพิเศษแล้ว มีคนบอกว่าฉันเป็นหมู
คุณจะไม่หัวเราะหรือ ว่าไหม
เจียวๆ :ผักดอง คุณฟังรู้เรื่องหรือ ผมก็นึกว่าคุณฟังไม่ออกว่าคุณเป็นผักดอง
ญ :ที่จริงในนี้ฉันเพิ่งสังเกตเห็น หลี่เหวย มา หลี่เหวย พูดว่าเพราะว่าเขา
เขาประโยคหนึ่งที่เขาพูดนั้นแปลมาก ให้ฉันอะไรนะ
ซูโหย่วเผิง :เป็นผู้ทรงเกียติที่ให้ผมเดินเข้าสู่ทางที่ไม่ค่อยถูกต้อง
มาเรามาให้ผู้ทรงเกียรติมาพูดตรงนี้ให้ชัดๆ
หลี่เหวย :ไม่หรอก วันนี้ที่จริงน่าจะเป็นผู้ไม่มีจุดยืนที่สุด เพราะว่าผมเป็นคนรุ่นหลัง
ญ :รุ่นหลัง แต่เขาเป็นผู้ทรงเกียรติของคุณนะ ก็คือทำไมต้องเป็นเพราะเขา
ที่ให้คุณเดินเข้าเส้นทางที่ไม่ค่อยถูกต้องล่ะ
หลี่เหวย :เออ อันนี้น่าจะพูดถึงประมาณสี่-ห้าปีที่แล้ว
ซูโหย่วเผิง :ประมาณสี่ห้าปีก่อน ที่จริงก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่เส้นทางนี้ผมก็รู้จักแล้ว คิดไม่ถึงล่ะสิ
หลี่เหวย :หลังจากวงเสี่ยวหู่ตุ้ยจนถึงตอนหลัง ก็คือตลอดมาก็รับสะสมอย่างนี้มาอย่างดี
ใจตอนนั้นมีผู้กำกับคนหนึ่ง ก็คือผู้กำกับคนปัจจุบันของ โหย่วเผิง
ก็เป็นคนที่นำฉันเข้าสู่วงการ ชื่อ “พี่ซ่ง” หลังจากนั้นก็พูดกับข้าพเจ้าว่า
คุณหลี่เหวย ผมรู้สึกว่าคุณมีคุณสมบัติไม่เลวนะ และตอนนี้ผมก็กำลังจะหาคนใหม่
และผมรู้สึกว่าคุณเหมาะสมมาก
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/dd95bc25.jpg)
ญ :ตอนนั้นคุณมองดู คนนี้เป็นคนอย่างไร ใช่ไหม
หลี่เหวย :ใช่ ผมก็ไม่แน่ใจเขา
ซูโหย่วเผิง :พิลึก พิกล ชอบกล ลักษณะนี้
หลี่เหวย :พิลึก พิกล อย่างนี้แหล่ะใช่ ผมก็ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
ผมอยากจะบอกว่าทำไมผมถึงว่าคุณ ผมก็บอกกับคุณว่าอย่ามาพูดกับผมมากมาย
ผมไม่มีความสนใจอย่างนั้น หลังจากนั้นเขาก็บอกว่า เอาอย่างนี้
ผมจะเรียกซูโหย่วผิงออกมา ผมก็พูดกับคุณว่า ผมเคยชักชวนเขา และยัง
ซูโหย่วเผิง :ที่จริงเรื่องเป็นอย่างนี้หรือ ธาตุแท้ก็กระจ่างแล้ว เอามาเป็นป้ายยี่ห้อ
หลี่เหวย :เขาก็พูดกับผมตลอด ผมก็ยังไม่เชื่อ ผมบอกว่า เอาล่ะ
ญ :จะต้องเห็นตัวตนแท้จริงของซูโหย่วเผิงใช่เปล่า
หลี่เหวย :ใช่ ผมก็พูดกับเขาว่า คุณนัดเขาออกมาซิ ผมก็สามารถ ผมก็จะเชื่อประมาณนี้
สุดท้ายเมื่อผมไปร้องเพลงในขณะนั้น ตอนนั้นยังมี “หลินเย่อวเหวย” อยู่ สุดท้ายมาดูอีก
มีซูโหย่วเผิงมาจริงด้วย ผมก็ตกใจ ผมก็แปลกใจ ว่า เอ้ คนนี้มันมีอะไรที่เหมือนนิดหน่อย
จากนั้นดูเหมือนว่าใช่ แต่ก็ดูเหมือนไม่เหมือน เพราะคุณใจคอนั้นมันสุภาพมาก
และยังเรียบร้อย ไม่นะ หลังจากนั้น
ซูโหย่วเผิง :หลังจากนั้น หลังจากนั้นแล้วอะไร เรื่องเคทีวีมาอีกแล้ว
ญ :เขามาดูอย่างไร เขามาดูคุณอย่างไม่สุภาพอย่างไร
หลี่เหวย :ไม่นะ ไม่ใช่ว่าไม่สุภาพ ก็คือเราเจอกันเป็นการส่วนตัว เขาก็พูดคุยเก่ง
และยังร่าเริง เขาร้องเพลงอินมากๆ ผมก็รู้สึกว่า
ญ :ร้องเพลงร้องได้อินมากๆ ร้องเพลงอะไรหรือ ในตอนนั้นเขาร้องเพลงอะไร
ซูโหย่วเผิง :อันนี้จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ว่าพวกเขาสองคนก็ล้วนได้ร้องเพลง “หลี่เหวย”
กับตอนนั้นกับ “หลี่เย่อวเหวย” สองคนก็ร้องเพลง
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/17eddaf0.png)
หลี่เหยย :อันนี้อย่าไปเอ่ยถึงเลย มันทุเรศมาก
ซูโหย่วเผิง :ไม่นะ ตอนนั้นที่จริงก็ร้องได้ไม่เลวแล้วนะ เพียงแต่รู้สึกว่า
พี่สุดหล่อนี้ รุ่นแรงๆอย่างคุณคุณรู้ไหม และเข้าใจตอนนั้นนี่ เพราะแท้จริง
เขาก็เป็นประเภทที่ว่า พี่สุดหล่อลักษณะอย่างนั้น ฉะนั้นเขาเห็นผมแล้วเขาก็รู้สึกว่า
“ซูโหย่วเผิง” ก็คือ เขาเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยอย่างนั้นแล้ว เมื่อเห็นผมแล้วก็เหมือนกับว่า
พึ่งเลิกจากโรงเรียนมาอย่างนั้น เขาเนี่ยก็เป็นประเภทพวกกลุ่มหล่ออย่างนั้น
ญ :ก็คือผมก็หล่อ คุณก็หล่ออย่างนี้
ซูโหย่วเผิง :ใช่ ใครจะหล่อกว่ากัน ฉะนั้นก็เลยมีภาพประทับที่ฝังลึกเหมือนกัน
ก็รู้สึกว่า เงื่อนไขในตัวเขานั้นก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
ญ :แล้วพวกคุณสองคนเคยร่วมร้องเพลงด้วยกันไหม
มีร้องด้วยกันในตอนนั้นไหม
หลี่เหวย :ที่จริงผมเองก็นับว่าคนหน้าด้าน เพราะเขากำลังเลือก โหย่วเผิง
ชอบร้องเพลงมาก เพลงที่คนอื่นเลือกเมื่อเขาร้องจนอินแล้วเนี่ย
ผมก็เอาไมค์มาร้องด้วยกับเขา เมื่อผมร้องไปเขาก็ไม่ยอมร้อง
ซูโหย่วเผิง :จริงเหรอ
หลี่เหวย :ไม่หรอก คือผมยืนยันจะร้องเอง
ซูโหย่วเผิง :ที่จริงแล้วก็จำไม่ได้แล้ว ใจตอนนั้นร้องอะไรก็จำไม่ได้แล้ว
แต่ในตอนนั้นพวกเราก็เคยเจอกันแล้วอย่างนั้น หลังจากนั้นก็เริ่มโด่งดังแล้ว
พวกเขาสองคนก็โด่งดัง
หลี่เหวย :ใช่ในตอนนั้นผมรู้สึกว่า ที่จริงจนถึงตอนนี้ผมยังรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ
ญ :ที่จริงฉันว่า ในตอนนั้นถ้าซูโหย่วเผิงไม่ได้มา อาจจะไม่อยากจะลงนาม
ในใบสัญญาอันนั้นใช่ไหม “หลี่เหวย” ก็อาจจะ
ซูโหย่วเผิง :อาจจะรู้สึกว่าวงการศิลปินนั้นไม่รู้จะเข้าไปอย่างไร
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/-1-6.png)
ญ :ใช่นะ มีพวกพิลึกพิเรนมากมายอย่างนั้นว่าไหม
ซูโหย่วเผิง :ใช่ จะไม่ได้ซื่อๆอย่างนี้ คนที่พิกล สุดๆก็มีแค่คนเดียว “พี่ซ่ง”
หลี่เหวย :แต่ที่จริงก็คือ พวกเขาก็เล่าว่า โหย่วเผิง ดังมากมายอย่างนี้
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมยืนยันได้ ก็คือครั้งหนึ่งพวกเราอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ประมาณปีกว่าก่อนโน้น
และเป็นรายการทีวีอย่างนั้น อันนั้นผมเองก็เข้าวงการแล้ว ก็เป็นดาราคนหนึ่ง
ก็เริ่มจะมีผู้คนรู้จักกันแล้ว ในครั้งนั้นผมกับเพื่อนของผมพอดีคืนนั้น เราคิดว่าพวกเราจะออก
ไปดื่มไรหน่อย เมื่อเข้าไปปั๊ปก็สังเกตเห็นตู้เพลงตู้หนึ่ง ในตอนนั้นที่ได้เห็น
“ซูโหย่วเผิง” ใช่ยังมี “ซินหยู” อีก
เจียวๆ :เป็น “ซินหยู” อีกแล้ว
หลี่เหวย :พูดได้เปล่า
ญ :ฉะนั้นข่าวลือก็เป็นความจริงหมด
หลี่เหวย :ที่จริงในตอนนั้นพวกเราก็ไม่ใช่ว่ารู้จัก เพราะอะไรคุณรู้ไหม
ผมรู้สึกว่าคนนี้หน้าคุ้นๆ แต่ว่า เพราะว่าผมพบกับคนที่รู้จัก ผมจะทักเขาแน่นอน
ในตอนนั้นยังมี “พี่โต้ว” พวกนั้น จากนั้นคนนี้เขาได้ยิ้มให้กับผม ผมก็คิดว่าเอ้คนนี้เป็นใคร
เพราะเขาใส่แว่นที่ใหญ่มากๆ แล้วใส่เสื้อเชิ้ตลาย แล้วนั่นอย่างหล่อเหลาอย่างนี้นั่นอยู่ที่นั่น
ผมคิดว่าคนนี้แท้จริงเป็นใคร ตอนหลังมองอีกครั้ง โหย่วเผิง จริงหรอ ใช่โหย่วเผิง
จากนั้นผมก็ไปหาเขา เพราะในตอนนั้นเขานะ ท่าทางเท่ห์มาก
ซูโหย่วเผิง : แล้วใส่เสื้อผ้าได้โบราณอย่างนั้น มันใช่ผู้กำกับ ฮ่องกงคนใดคนหนึ่งหรือเปล่า
หลี่เหวย :ถ้าผมจำไม่ผิดนะน่าจะเป็น
ญ :เอ๋ มันอาจเป็นผู้กำกับฮ่องกงที่ชื่อสามพยางค์เปล่า ถูกเปล่า คุณก็ปลอมเป็นเขา
ซูโหย่วเผิง :ทำไมเอาผมไปเปรียบกับ “เหยียนอู่ถำ” ล่ะ
หลี่เหวย :ไม่หล่ะ ที่จริงผมได้พูดหลายอย่าง
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/-2-3.png)
ญ :ที่จริงหลี่เหวย พูดไปแล้ว ศิลปินคนนี้ก็เต็มไปด้วยความสนุก
คุณดูสิตอนเริ่มแรกของซูโหย่วเผิง กับตอนนี้ที่เขาแสดงหนังนั้นที่จริงก็ต่างกัน
ที่จริงหลี่เหวยนั้น เรื่องแรกคือเรื่อง “หมาลาเซียนซือ”
หลี่เหวย :ก็คือ “หมาลาเซียนซือ”
ช :ดูหน่อยนะ พวกเราก็กล้าให้เขาดู
ญ :ไฉ่หลินบอกว่าได้ดูหนังเรื่องแรกของเขา
เจียวๆ :ไม่ใช่ เขาถามว่า ซาลาเปาที่เขาสั่งเมื่อไรจะมาสักที
นั่งนานขนาดนี้ยังไม่มีอาหารหรือ
ญ :เอาล่ะเรามาดูก่อน
หลี่เหวย :ไม่นะ พูดตามจิตสำนึกแล้ว ผมรู้สึกว่าเมื่อเปรียบกับอดีตของโหย่วเผิงแล้ว
ญ :ของคุณก็ดีกว่าเยอะเลย
ซูโหย่วเผิง :คุณอย่างเปลี่ยนเรื่องได้เปล่า
ช :พูดอย่างนี้ไม่ได้ เพราะในสมัยของคุณ
ญ :ฉะนั้นก็คือบอกกับคนอื่น อย่าเข้าวงการตอนสิบห้าปี
เข้าวงการเร็วไปใช่หรือเปล่า
เจียวๆ :เอางี้ดีไหม พวกเราคิดแผนจัดการเขาดีเปล่า คุณร้องเพลง
“ชินเจียนไต้ใจ้เซินเปียนไหลทิงๆคัน” (เจียวๆร้องเพลง) เอาของคุณอันนั้นก็ได้
คุณไปนั่งบนโถส้วมให้เราดูหน่อย คุณอุจจาระ คุณคิดว่าคุณไม่มีอะไรน่าขำเหรอ พวกเราดีต่อคุณ
ญ :ที่จริงสุดหล่อที่มาในวันนั้น แต่ในสุดหล่อ ก็คือก่อนหน้าที่ยังไม่มีสุดหล่อคนนี้
ก็อาจจะมีอะไรที่มีความหมายมากๆ แต่คุณนั้น คุณในตอนนั้นก็หล่อมากๆแล้วดูซิ
หลี่เหวย :ในตอนนั้น ใช่แล้ว ประมาณสามปีก่อน ไม่ จะพูดไปเมื่อกี้ว่า
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--36.jpg)
ญ :ฉะนั้น ฉันจะแนะนำเธอให้กับคุณไฉ่หลินเป็นทางการแป๊ป ไม่แน่อนาคตคุณ
อาจได้ร่วมงานกับเขาก็ได้เอาล่ะ จะแนะนำอย่างเป็นทางการกับคุณไฉ่หลินหน่อย
นี่คือ “พี่เหวย” พี่เหวย พูดอย่างไร
เจียวๆ :ปู่เหวย พวกเขาก็เรียกเขาอย่างนี้แหล่ะ
ไฉ่หลิน :แต่ก็ไม่เคยเรียกพี่ชายง่ายๆสำหรับ คนที่เคยเจอกันครั้งแรก
ญ :ครั้งแรกจะพูดอะไรล่ะ
ช :ใช่ งั้นจะเรียกเขาว่าอะไร
ไฉ่หลิน :ก็เหมือนกับคนญี่ปุ่นอย่างนั้นก็คือ “ซัม” อะไรๆ ถ้าเกาหลีก็คือ “ซี่” อะไรๆอย่างนี้
เจียวๆ :ก็เรียกเขาอันนั้น ลุงใหญ่
ซูโหย่วเผิง :คุณอย่าเรียกมั่วๆได้หรือเปล่า พวกเขาตั้งใจในการฝึกนะ แปลกจริงๆ
เจียวๆ :คุณพูดกับเขา “ไต้หวันมู่ชุ่น” คู่ไจ คุณเหวย เขาหันกลับมาพูดกับผมคำเดียว
ของปลอม จีนกลางเขารู้ไม่น้อยเลยนะ ซูโหย่วเผิง คุณสอนเขาอะไรบ้าง
ซูโหย่วเผิง :เขาเก่งนะ
เจียวๆ :คุณอย่าไปสอนคำพูดไม่ดีให้กับเขาดีไหม
ญ :ขอบคุณหลี่เหวย
ช :สุดท้ายผมก็ได้เจอกับคุณไฉ่หลินแล้ว
เจียวๆ :เกี่ยวอะไรกับคุณ
ซูโหย่วเผิง :ผมรู้สึกว่า...ผมทนไม่ได้แล้ว
-
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--42.jpg)
เจียวๆ :เมื่อก่อนก็แค่ได้ดูแต่หนังเกาหลี อยากจะหาโอกาสอย่างนี้นะ
ซูโหย่วเผิง :คุณยังมีอะไรที่จะพูดกับผมไหม
เจียวๆ :ไม่หรอกอยากมากที่จะได้ใกล้อย่างนี้ คุณอย่ามากั้นขวางอยู่ตรงกลาง
หลิวเอ่อจิน :คุณอย่า ไปนั่งใกล้เขาอย่างนั้นได้ไหม เขาแต่งงานแล้วนะ
เจียวๆ :และพวกเราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานแล้ว ผมก็อยากที่จะนั่งใกล้ๆอย่างนี้
กับคุณด้วย ไม่หรอก เธออยากจะมองผมผ่านทางคุณมาตลอด คุณอย่าเป็นอย่างนี้
ญ :ที่จริงไฉ่หลินมี fans มากมายจริงๆ
เจียวๆ :ฉะนั้นจะต้องดู “หัวซื่อปาเตียนตาง”
ญ :ใช่ๆ “หัวซือปาเตียนตาง” นั้นมี “ซูโหย่วเผิง” ยังมีเขา
ยังมี “เหอหยินตง-ปีเตอร์” ร่วมแสดงพร้อมกัน
ซูโหย่วเผิง :ที่นั่งอันนี้ กว้างพอไหม
เจียวๆ :ดี มาๆ เพื่อนเก่า
ญ :และยังรู้ว่าตอนนั้นที่ ไฉ่หลินแต่งงานที่เกาหลี
พึ่งแต่งงานไปยังไม่นาน ประมาณปีกว่า สามีก็หล่อมากๆ
เจียวๆ :ไม่ใช่
ซูโหย่วเผิง :อย่าอย่างนี้ดีไหม
เจียวๆ :แปลกจริง แท้จริงคุณเป็น แฟนของใคร แปลกนะ
ให้ผมพูดหน่อยจะตายไหมเนี่ย
-
http://w1214.photobucket.com/pbwidget.swf?pbwurl=http%3A%2F%2Fw1214.photobucket.com%2Falbums%2Fcc484%2Fsandy2503%2F51e696b7.pbw
ญ :พวกเราจะนำเทปที่อัดในวันนี้ตัดและเอาไปให้สามีของเธอดู
เจียวๆ :ใครจะกลัวใคร
ซูโหย่วเผิง :ทีหลังเราเข้าไปเกาหลี ไม่ได้แล้วนะ ไม่ดีเลย
ญ :สุดท้ายวันนี้เราขอเชิญ คุณไฉ่หลิน
หลิวเอ่อจิน :ไม่ง่ายที่ เจียวๆออกจากที่นั่งนี้
ญ :เชิญไฉ่หลินและซูโหย่วผิงพร้อมกัน หวังว่าให้ ไฉ่หลิน ใช้จีนกลางพูด
หนึ่งประโยคว่า “ไอ้ฉินไห่ ฉันมาแล้ว”
ซูโหย่วเผิง :”ไอ้ฉินไห่ พวกเราจะไม่มาอีก” นี่จริงนะ ตอนนั้นที่ถ่ายทำจบ
เราก็ให้ประโยค คัมภีร์ ของคำนี้เปลี่ยนมาเป็นอย่างนี้
ช :ทำไมเราสอนคนต่างชาติพูดจะต้อง อ้ายฉินไฮ (ลากเสียวยาว)
ญ :ไม่หรอก ที่จริงเขาพูดก็น่าจะ พวกเขาพูดชัดกว่าเราไม่ได้
ไอ้ฉิงไห่ ฉันมาแล้ว คุณพูดรอบหนึ่งก่อน
ซูโหย่วเผิง :ไอ้ฉิงไห่ ฉันมาแล้ว
ไฉ่หลิน :ไอ้ฉิงไฮ ฉันมาแล้ว
ญ :เอาล่ะขอบคุณ หวังว่าผู้ชมทุกคนอย่างลืมให้เราเปิดช่องดูหนัง
“ไอ้ฉิงไห่ฉันมาแล้ว” “รักมั่นที่ไอ้ฉิงไห่/มนต์รักทะเลอี้เจี้ยน” พรุ่งนี้เขาก็จะเปลี่ยนชื่อแล้ว
ก็จะเปลี่ยนเป็น “ไอ้ฉิงไห่ฉันมาแล้ว”
*** จบบริบูรณ์ ***
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc484/sandy2503/--30.gif)
-
http://www.youtube.com/v/uEzdC8ftbAs
happysunday thaisub Part 1
-
http://www.youtube.com/v/kujebVEadCY&feature=related
happysunday thaisub Part 2
https://www.youtube.com/watch?v=kujebVEadCY
https://www.youtube.com/user/thexman49/videos
-
http://www.youtube.com/v/Bok-Y1RndPw&feature=related
happysunday thaisub Part 3
-
http://www.youtube.com/v/SuHm_euKOIM&feature=related
happysunday thaisub Part 4
-
http://www.youtube.com/v/1t4pxooQaNw&feature=related
happysunday thaisub Part 5
-
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_002244344.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_002244344.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_002202369.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_002202369.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_001734901.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_001734901.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_001719320.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_001719320.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_001695929.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_001695929.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_001235169.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_001235169.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_000388756.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_000388756.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_000370804.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_000370804.jpg.html)
(http://i1239.photobucket.com/albums/ff506/partana_002/YouTube--flv_000367034.jpg) (http://s1239.photobucket.com/user/partana_002/media/YouTube--flv_000367034.jpg.html)
-
http://www.youtube.com/v/?v=uEzdC8ftbAs&list=PL75C544580AE2F4BE
ดูทั้งหมด