ผู้เขียน หัวข้อ: 2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?  (อ่าน 11648 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
(1)http://blog.sina.com.cn/s/blog_4fad2fec010175g0.html?tj=1
(2)http://blog.sina.com.cn/s/blog_65dedaef0100nui5.html?tj=1
(3)http://gb.cri.cn/27564/2010/12/09/108s3084547.htm
(4)http://finance.ifeng.com/money/wealth/star/20100429/2125925.shtml
(5)http://yule.sohu.com/20091124/n268423359.shtml

4fad2fecx96fcfee5fb99690.jpg" border="0
65dedaeft96e15e0f8723690.jpg" border="0

คืนวันที่ 7 ธันวาคม 2010  โหย่วเผิง อยู่ในงานภาพยนตร์สากล ณ. เมืองม๋าเก๊าครั้งที่ 2 ได้รับตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยมอันดับ 1 รางวัลอันทรงเกียรติในชีวิตของเขา

ซูโหย่วเผิงกับความหมายของการยืนหยัด ในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม ปี 2010 เวลาบ่าย 14.32 น.

พูดถึง ซูโหย่วเผิง กลัวว่าท่านผู้ชมน้อยมากที่จะไม่รู้จักเขาเลย ท่านผู้ชมที่อายุมากหน่อยจนถึงปัจจุบันยังไม่เคยลืมในช่วงเวลานั้นของ “ไกวไกวหู่ “ ผู้นั้น เพื่อนๆ  “ คนรุ่นอายุ 90 “ ยังมีหลายคน เป็นไปได้ ที่เคยชมดูต่างก็รู้จักเขา เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ  แล้วพวกผู้ชมหนัง-ละครทั้งหลายที่เคยหลงใหลชื่นชอบ ในเวลาไม่กี่ปีนี้ควรจะเฝ้าสนใจดูแลเขา


ท่านผู้ชมที่เคยรู้จัก ในปี 1988 ซูโหย่วเผิงได้โด่งดังเป็นพุแตก จากวง "เสี่ยวหู่ตุ้ย"  ได้เข้าสู่วงการบันเทิง ปี 1997 ได้แสดงละครเรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ)  ปี 2009 ได้แสดงหนังเรื่อง The message อาชีพทางด้านการแสดงของเขาสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับขั้นอย่างชัดแจ้ง ความสมหวังราบรื่นยังห่างไกลที่จะกล่าวถึงได้ มีเพียงลมๆแล้งๆซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว ความขยันขันแข็งของตัวเขาเองยังโด่งดังมากว่า 20 ปี จนกระทั่งเวลาใกล้ๆนี้ได้รับตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยมในงานภาพยนตร์สากลเมืองม๋าเก๊าอย่างแน่นอน พฤติกรรมแท้จริงของเขาซึ่งผู้คนยังเคยรู้จักเขาแล้วจึงเห็นความหมายของ คำว่า "ยืนหยัด" นี้


ซูโหย่วเผิง คือนักแสดงคนหนึ่งที่พวกเราชื่นชอบมาก เพราะว่าไม่เพียงเขาคือ “ไกวๆหู่” ใน “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย” เพราะว่าไม่เพียงเขาทำการบ้านอย่างดีเลิศ ในปีนั้นเป็นผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับที่ 5 ของไต้หวันทั้งประเทศ เพราะว่าไม่เพียงแต่เพลงของเขา และไม่เพียงเขาได้แสดงบทบาทเข้ามานั่งถึงจิตใจคนอีกสิ่งสำคัญกว่านี้ความรักอันยิ่งใหญ่ของเขากับบทบาทการแสดงได้เข้าถึงจิตใจผู้ชมอย่างลึกซึ้ง และยิ่งสำคัญกว่านี้เขามีจิตใจที่เมตตา ชอบการกุศล ความเข้าใจการแสดงยังไม่เพียงพอ แต่ว่าผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ได้ตีพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมการกุศลของเขา คงไม่ใช่เรื่องเท็จแน่นอน


เป็นนักแสดงนั้น เขาแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมกับพลังอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง เรียกร้องผู้คนกระทำการกุศล ไม่คิดว่าตัวเองเป็นดาราที่ยิ่งใหญ่ แต่คิดว่าการกุศลสมควรที่จะได้รับการแบ่งปัน ให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันตัวเขาเองแอบไปช่วยเหลือคนอย่างมากมายแบบเงียบๆ เรื่องเหล่านี้นักข่าวไม่เคยตีพิมพ์ลงข่าว ผู้คนทั่วไปล้วนเป็น “ผู้ชื่นชอบ ซูโหย่วเผิง “ บุคคลต่างๆมากมายที่เคยรับการช่วยเหลือ ได้ปรากฏพบเห็นเขาทำจนเหงื่อโชกท่วมตัวหนทางการกุศล เขาได้นำพาบุคคลผู้ชื่นชอบ(FC) มุ่งหน้าก้าวสู่หนทางระดับชุมชน




งานแสดงภาพยนตร์สากล ม๋าเก๊า ครั้งที่ 2 จาก A Tibetan Love Song ในบท “ หลี่ซูเจี๋ย” บทเดียวได้รับรางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม นี่ก็คือเขาได้รับรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกตั้งแต่เข้าสู่วงการภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งนักแสดงได้รับรางวัลตุ๊กตาทองชิ้นนี้ไม่สามารถเทียบเท่ากับ ไก่ทองคำ, ม้าทองคำ, รูปทองคำ, บุคลิกงาม, เป็นต้น แต่รายการรางวัลไม่ใช่อยู่กับเรื่องเล็กใหญ่ อยู่กับการสนับสนุนและใจมุ่งมั่น เชื่อว่าเขาจะขยันทำเพื่อตัวเองต่อไป และเพื่อผู้ชมสนับสนุนชื่นชอบในตัวเขา


ซูโหย่วเผิง ปีนี้อายุ 37 ได้เป็นดาราขวัญใจ นับว่าชีวิตได้อยู่ระดับต้นของวงการแล้ว เพียงแต่โดยฐานะของนักแสดงมีพลังคนหนึ่งเผชิญกับผู้ชม อายุเท่านี้ยังไปได้อีกไกล แล้วหนทางของเขายังไปอีกไกล หวังว่าใจที่มีเมตตาการกุศลของเขา หนทางตั้งแต่นี้เป็นต้นไปมีแต่เพิ่มขอบเขตกว้างใหญ่อย่างไม่มีขีดจำกัด การแสดงซึ่งมีบทบาทที่แตกต่างกันไป ผู้คนทั้งโลกล้วนยกย่องยอมรับ หลายมานี้ ขณะผู้คนเอ่ยปากชมถึงเขา ไม่เพียงที่เห็นคือความทระนงของ “คุณชายสามแห่งตระกูลหู่”  นั้น ยังสามารถได้เห็นถึง “ซูโหย่วเผิง” ด้วย

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 07:51:24 AM »
http://tieba.baidu.com/f?kz=951897252
http://blog.sina.com.cn/s/blog_4fad2fec010175g0.html

บุคคลตอนวัยรุ่นมีชื่อเสียงมีเรื่องราวไม่น้อย โดยการขอใฝ่ฝันเป็นคนใหม่ที่มุมานะสะเทือนวงการบันเทิง ไม่เพียงแต่เคยเห็นคนวัยเยาว์มากมาย เช่นตัวอย่างมีชื่อเสียงแล้วภายหลังชื่อเสียงได้ร่วงหล่นอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา รู้สึกคนมีชื่อเสียงเร็วเกินไปก็มิใช่เป็นเรื่องที่ดีเสมอๆ พื้นฐานของอาคารตึกไม่แน่นหนาพอ สักวันหนึ่งช้าเร็วต้องถล่มทรุดลงมา ท่ามกลางดาราหลายคนที่มีชื่อเสียงในเยาว์วัย นับว่า ...ซูโหย่วเผิงเป็นบุคคลพิเศษมากท่านหนึ่ง... อายุแค่เพียง 15 ปีได้เป็นนักร้อง "วงเสี่ยวหู่ตุ้ย"  ได้ทำให้วงการบันเทิงสั่นสะเทือนมากว่า 22 ปี โด่งดังมา 20 ปี สามารถพูดได้ว่าปรากฏการณ์ของวงการบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง.....

มาดูประวัติ ซูโหย่วเผิง ตั้งแต่เข้าสู่วงการบันเทิงมากว่า 20 ปี โดยแท้จริงแล้วการในด้านอาชีพการเป็นนักแสดง...พูดเรื่องความราบรื่นยังห่างไกลมาก สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นหญ่ๆอย่างชัดเจน

(1)  ระดับขั้นแรก :  “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย” เพราะเป็นบุคคลวัยหนุ่มมาก ซูโหย่วเผิงโดยฐานะนักร้องอาชีพ
จึงสามารถฉายแววดังตั้งแต่แรกรุ่น

กรกฎาคม ปี 1988  ซูโหย่วเผิงพร้อมด้วยอู๋ฉีหลงและเฉินจื้อเผิงได้ร่วมวงเป็น “เสี่ยวหู่ตุ้ย” เขาทั้ง 3 คนยังอยู่ในวัยเรียนมัธยมศึกษา อายุที่น้อยที่สุดคือ ซูโหย่วเผิง อายุแค่ 15 ปี คนขนามนามว่า “ไกวๆหู่”

กุมภาพันธ์ ปี 1989 “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ออกอัลบั้มแรก Happy New Year ซึ่งเพลงดังและได้รับความนิยมในสมัยนั้นคือเพลง  彩色天空彩色夢 และเพลง 青苹果樂園  โด่งดังไปทั่วไต้หวัน

พฤษภาคม ปี 1989  “เสี่ยวหู่ตุ้ย”  ได้ออกอัลบั้ม Roaming Leisurely 逍遙游 เป็นเพลงแรก ยอดจำหน่ายทะลุเป้า 2 ล้านแผ่น

กันยายน ปี 1990 “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ออกอัลบั้ม  Dating Stars 星星的約會 ยอดจำหน่ายได้ทะยานโด่งดังอยู่ที่ประเทศจีน

ธันวาคม ปี 1991 เฉินจื้อเผิง หนึ่งใน “เสี่ยวหู่ตุ้ย”  ได้ถูกเกณฑ์ทหาร ต่อมา “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ออกอัลบั้มGoodbye 再見, Best  ออกจำหน่าย แล้วจึงแยกย้ายกันไปแบบชั่วคราว

ต่อมา “วงเสี่ยวหู่ตุ้ย”  ได้แยกย้ายกันในปี 1992 ถึงปี 1995 ซูโหย่วเผิง เริ่มฉายเดี่ยวคืนสู่วงการคนเดียว ได้ออกอัลบั้มเป็นของตัวเองคือเพลง

1993 Only Want You To Love Me
1993 Waiting for That Day
1994 Cherished Backpack
1994 Happens This Way
1994 Wound
1995 Go

ฯลฯ เป็นต้น พร้อมทั้งร่วมถ่ายหนังหลายเรื่อง ขณะนั้นซูโหย่วเผิง- อู๋ฉีหลง-หลินจื้ออิงและจินเฉินอู่ทั้งกลุ่ม 4 คน ได้ถูกชาวไต้หวันขนามนามว่า (4 จตุรเทพไต้หวัน)

2 ปีต่อมาโหย่วเผิงต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าเรื่องการลาออกจากมหาลัย หรือธุรกิจของคุณพ่อ แม้แต่การจะได้ออกอัลบั้มของตัวเองอีกซักครั้ง มันช่างมมืดมน ไร้ทางเดิน

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 08:29:02 AM »
(2)  ระดับขั้นที่สอง : องค์หญิงกำมะลอ ได้จบสิ้นลง ซูโหย่วเผิง ได้เข้าสู่วงการจอแก้วอีกครั้ง จัดว่าโด่งดังไปทั่วมณฑลเจียงหนางและเจียงเป่ย รวมไปถึง เอเชียตะวันออกเฉียงได้เลยก็ว่าได้

ปี 1997 ซูโหย่วเผิงได้ถูกนักประพันธ์ เฉวียนเอี๋ยว หมายตาไว้ ทำลายสถิตินักร้องขวัญใจ โดยใช้ฐานะเป็น ”นักแสดงคนใหม่” เข้าสู่วงการทีวี อยู่ในสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม มณฑลหูเป่ย รับบทแสดง พี่ห้า (หย่งฉี) ในละครเรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ) ถึงแม้ ซีรีย์เรื่ององค์หญิงกำมะลอจะปิดฉากลงแล้ว แต่ทางไต้หวันกลับมาฉายซ้ำรอบใหม่อีกอย่างบ้าคลั่ง  ซูโหย่วเผิง ความสำเร็จจากนักร้องได้รับความยอมรับอีกครั้ง โด่งดังไปทั่ว มณฑลเจียงหนานเจียงเป่ย อีกครั้ง

ตุลาคม ปี 1998 ซูโหย่วเผิง ได้แสดงต่ออีกรอบ (องค์หญิงกำมะลอภาค 2)  แล้วผู้ชมหวนกลับมาชื่นชอบอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง และยิ่งกว่านั้นโหย่วเผิงได้เล่นละครติดๆๆกัน จากเรื่อง

ปี 1999  เดชเซียวฮื่อยี้ เป็นชายหนุ่มอายุราว 20 ปี เป็นน้องฝาแฝดกับเซี่ยวฮื่อยี้ เติบโตใน "วังเคลื่อนบุปฝา" วรยุทธสูงส่งแต่ไม่ทันเล่ห์กลในยุทธภพ จิตใจมีเมตตา แสดงเป็น "ฮวยบ่อข่วย"

ปี 2000 มนต์รักในสายฝน แสดงเป็น "ตู้เฟย" หนุ่มน้อยอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี
ปี 2002 ดาบมังกรหยก แสดงเป็น "เตียบ่อกี้"
ปี 2003 รักข้ามขอบฟ้า แสดงเป็น "ลู่เอินฉี"

เป็นต้น ละครได้ออกอากาศสดๆร้อนๆ ละครโทรทัศน์จบสิ้นลง ล้วนได้รับการยอมรับจากมหาชนซึ่งล้วนเอ่ยปากชื่นชมสุดๆ ทำให้คนติดภาพพจน์ที่ดีมาโดยตลอด แล้วซูโหย่วเผิง อยู่ในปี 2006 ได้ยกเลิกสัญญาละครหลายสิบเรื่อง เพื่อเดินตามฝัน โดยการกระโดดมารับเล่นละครเวทีครั้งแรกในชีวิต  “หอมกลิ่นดอกเบญจมาศ”

โลดเล่นกับบทละครเวที 7 วัน 7 คืน (7-14 กรกฏาคม) แสดง 7 รอบ ทุกรอบเต็มหมด พร้อมกับทำลายสถิติประวัติศาสตร์การแสดงโรงละครใหญ่เหม่ยฉี ถึงแม้ปี 2005 โหย่วเผิงหยุดพักการแสดงทางจอโทรทัศน์ ทำให้คนนึกว่าซูโหย่วเผิงได้หายไปจากวงการแล้ว แต่การทุ่มเทให้กับ ละครเวที เป็นอีกประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 09:35:52 AM »
(3)  ระดับขั้นที่สาม : ได้เซ็นสัญญากับบริษัทหัวฮี้-HY บริษัทยังษ์ใหญ่ของจีน ซูโหย่วเผิงได้มุ่งตรงสู่วงการภาพยนตร์ และในที่สุดจึงได้รับรางวัล "นักแสดงรางวัลตุ๊กตาทองยอดเยี่ยน"

30 พฤศจิกายน ปี 2006 ซูโหย่วเผิง ได้ เซ็นสัญญากับ HY อย่างเป็นทางการ ค่าตัวสัญญาสูงถึง 10 ล้าน กลายเป็นสัญญาของเมืองที่มีค่าตัวสูงสุดของนักแสดงไต้หวัน ซูโหย่วเผิง โดยฐานะ ”แบบกึ่งนักแสดงหน้าใหม่” ....จัดว่าหน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์ค่ะ

การกระโดดลงมาจอเงิน หลังการเซ็นสัญญาระยะเวลา 2 ปี โอกาสน้อยมากที่ ซูโหย่วเผิง ไดัรับบทบาทหน้าที่สำคัญ มีครั้งหนึ่งเหล่าบรรดาแฟนคลับคิดว่า ซูโหย่วเผิง ถูกเก็บตัวเข้ากรุแบบเงียบๆ

ปี 2008 ซูโหย่วเผิง ได้รับเล่น  Fit Lover ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กและบทที่ออกมาน้อยมาก ถือได้ว่าเป็นการฉีกบทบาทที่ได้รับจากเดิมๆ บ้านิดๆๆ โก๊ะหน่อยๆ ตลกฮาๆๆ เรียกได้ว่านี้คือก้าวแรกแห่งการเปลี่ยนแปลง


ปี 2009 The message แสดงบทบาทตอนหนึ่งเป็น (ไป๋เสี่ยวเหนียน) บทกระเทยฝีปากจัดจ้าน จีบปากจีบคอ และโหย่วเผิงยังได้รับความไว้ใจจากผู้กำกับให้ร้องเพลงงิ้วต้นฉบับ “คุนฉวี” บทบาทนี้ได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากผู้เข้าชม ปากต่อปากว่าแสดงดีเยี่ยมมาก นับว่าเป็นก้าวแรก ก้าวเปิดทางแห่งวงการภาพยนตร์อย่างแท้จริง

ปี 2010 ปีนี้ยอมรับว่าเป็นปีทองของซูโหย่วเผิงก็ว่าได้ รับหนังติดต่อกัน 4 เรื่อง 4 บทบาท

9 เม.ย. 2010  The Four Cupids  รับบท ฉีป๋หลินเป็นนักโฆษณากลัวการแต่งงาน

30 เม.ย. 2010  A Singing Fairy  รับบท หวุยเหวินเต๋อ นักศิลปินชาวจีนที่อยู่ที่อเมริกาคนหนึ่งที่ถูกอาจารย์แนะนำให้ กลับไปที่กวางซี ไปตามหาพี่หลิวซันที่มีอยู่ในตำนาน และผู้ซึ่งเป็นคุณปู่นั้นได้มอบให้เพื่อนเก่าคนหนึ่งให้หาคนเป็นผู้นำทางให้ เขา ด้วยเหตุนี้เองการเดินทางของเขาก็เป็น (หลิวเถียนเถียน) ผู้ที่เป็นไกค์แบบปลอมตัวมา และได้เกิดการเข้าใจผิดขึ้น สุดท้ายได้เป็นคู่รักที่ดูแลเขา.

29 ต.ค. 2010 Lost In Panic Room รับบทเป็นหลิ่วเฟยหวิน เรื่องนี้เป็นนักเขียนนวนิยาย แต่กลับได้ไปสืบความลับอะไรบางอย่างโดยบังเอิญ เป็นหนังใช้ต้นทุนเล็กน้อย ท้ายสุดกับเป็นหนังที่ได้รับการตอบรับอย่างมากล้น ห้องจำหน่ายตั๋วหนังเกินกว่า 30 ล้านใบ หายเกลี้ยงไปในพริบตา  กลายเป็นจำหน่ายตั๋วหนังทะลุเป้า หนังเรื่อง และกำลังจะมี ภาค 2 ต่อไปในปีหน้า (2011)

5 พ.ย. 2010 A Tibetan Love Song ชนะการประกวดรางวัลยอดเยี่ยมครั้งใหญ่ในงานภาพยนตร์สากล ม๋าเก๋าครั้งที่ 2 เพิ่งสิ้นสุดลง นักแสดงคนใหม่ยอดเยี่ยมที่สุด นักแสดงประกอบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม รายการรางวัลสำคัญ 3 รายการ ซูโหย่วเผิง ถูกตัดสินได้รับรางวัลตำแหน่งอันดับแรก “ตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ของตัวเอง ไม่ว่า” ตุ๊กตาทองฝ่ายชายยอดเยี่ยม” และไก่ทองคำ รูปทองคำ ม้าทองคำ เหล่านี้โดยมาเปรียบเทียบ แสดงว่ามีบางสิ่งไร้ค่าที่จะเอ่ยถึงอย่างชัดเจน แต่เกี่ยวกับ ซูโหย่วเผิง มาคุยแสดงบทฝีไม้ลายมือบนจอหนังใหญ่ แค่เริ่มต้นก็ได้ดีชิ้นหนึ่ง

**จะบอกว่างานภาพยนตร์สากลที่ม๋าเก๋า อาจจะสู้ ไก่ทองคำ,ม้าทองคำ ไม่ได้แต่ถือว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ เป็นรางวัลที่คณะกรรมได้พิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว นับว่าเป็นก้าวแห่งความสำเร็จอีกก้าว**

ที่ควรมีค่าเอ่ยปากคือ ตำแหน่งอันดับหนึ่ง “นักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ม๋าเก๊า ซูโหย่วเผิง ได้รับตำแหน่งอันดับแรกได้รับรางวัล “ ตุ๊กตาทองฝ่ายชาย “ ม๋าเก๊า  ต่อจากรางวัลช่อดอกไม้ “ “นักแสดงชายได้รับความชื่นชอบจากนักศึกษามากที่สุด” ของงานภาพยนตร์นักศึกษา (ซันซี)

ต่อมา ในปี 2010 ได้รับรายการรางวัลสำคัญอันดับที่สามอักษรด้านบนได้ผ่านการตรวจแล้ว สูตรลับดูไม่ยากของ ซูโหย่วเผิง ได้โด่งดังมากว่า 20 ปีจริงๆแล้วง่ายมากๆด้วย การท้าทายตัวเองไม่ได้หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง -นักแสดงจอทีวี-ยังคงเป็นนักแสดงหนัง- ยิ่งกว่านั้นคือละครเวที ซูโหย่วเผิง ล้วนสำเร็จสูงสุด แต่ในที่สุด ซูโหย่วเผิงยังคงท้าทายกับตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ปรับเปลี่ยนโฉมครั้งแล้วครั้งเล่า กลายเป็นนักแสดงทุกบทบาทของวันนี้ รอคอยจนอายุ 37 ปีของ ซูโหย่วเผิงนำพาทั้งดีใจและตกใจมากยิ่งขึ้น...

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 05:03:31 AM »
ที่มาเทศกาลภาพยนตร์มาเก๊า
http://www.uomacau.com/en-us/information/detail/5065?redirect=1

เทศกาลลภาพยนตร์มาเก๊า จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในมาเก๊า ได้นำเอาภาพยนตร์ชั้นดีในอดีตและปัจจุบันมาแสดง รวมถึงภาพยนตร์โทรทัศน์ด้วย  ซึ่งในครั้งนี้ จะมีการจัดตลาดภาพยนตร์ด้วย ( ๒๗-๓๐ ธันวาคม) ทั้งภาพยนตร์ในประเทศและต่างประเทศ และยังได้จัดการแข่งขัน รถบุปชาติด้วย ( ๒๖ ธันวาคม ) โดยจะใช้ “เทศกาลภาพยนตร์” มาเป็นหัวข้อในการแข่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่ สวนสาธารณะ จิน-เหลียน เรื่อยไปในมาเก๊า และรอบนอกมาเก๊า แถมด้วยในวันที่ ๓๐ ธันวาคม จะมีการแข่งขันการชกมวยนานาชาติด้วย ซึ่งในครั้งนี้ จะมีนักชกฝีมือดี มาร่วมการแข่งทั้งหมด ๑๖ คน

 
 

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 06:12:21 AM »
http://blog.sina.com.cn/s/blog_65dedaef0100nui5.html?tj=1

ซูโหย่วเผิง... ถางหญ้า...หว่านพืชแบบเงียบๆ ในที่สุดได้ถูกยอมรับ

คืนวันที่ 7 ธันวาคม 2010 ได้อยู่ในงานเทศกาลลภาพยนตร์มาเก๊า  ซูโหย่วเผิงอาศัย(คังติ้งฉิงเกอ-เพลงรักคังติ้ง) แถมยังได้รับแรงกดดันจากฝูงชนแล้ว ยังได้รับรางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมอันทรงเกียรติ

ขอแสดงความยินดีกับ ซูโหย่วเผิง ฉายา เสี่ยวเทียนหวาง(เทพราชาน้อย)  ในที่สุดอาศัยพลังและความขยันของตัวเอง กลายเป็นตัวเองได้รับรางวัล ตุ๊กตาทองนำฝ่ายชายที่เข้าวงการมา 23 ปี ถึงแม้มาช้าหน่อย แต่สุดท้ายกิ่งบานออกใบ โหย่วเผิง เป็นแบบอย่างที่ดีจริงๆ การกุศลและการงานล้วนมีประโยชน์เอื้อต่อกัน (ฉันคือผู้อาวุโสก็ไม่ละอายใจได้ศึกษาแบบอย่างของเขาแบบเงียบๆ)

การแสดงภาพยนตร์ของ ซูโหย่วเผิงระยะปีใกล้ๆนี้ รู้สึกว่าเขามีประสิทธิภาพในการแสดงของตนเองอย่างลึกซึ้งไม่หยุดนิ่งเรื่อง-อ้ายฮู-Fit Lover - เรียกร้องความรักและ อ้ายเต้าตี่-Love to the End - รักถึงที่สุด ในเนื้อเรื่องตกใจแบบไม่มีหัวไม่มีหางทำให้ดีใจตกใจ ในเรื่อง ทาคาลามะกัน-Taklamakan แสดงบทตำรวจยศน้อยได้ท้าทายตัวเขาเอง ในเรื่อง The Message แสดงอีกบุคคลหนึ่ง ตัวเองเป็น ไป๋เสี่ยวเหนียน นิสัยต่ำทรามสุดๆทำให้ผู้ชมตื่นเต้น แล้ว

ตัวเองปีนี้ก็ชนะการประกวดได้รับรางวัลช่อดอกไม้นักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม นี่คือ 20 กว่าปีมานี้ ซึ่งเป็นบุคคลคนแรกของ ซูโหย่วเผิง ได้รางวัลครั้งใหญ่สุดเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ ในเรื่อง The Four Cupids แสดงบทเป็นคุณพ่อน้อย ซูโหย่วเผิง ได้โชว์ฝีมือการแสดงอารมณ์ที่ดี ในเรื่อง A Singing Fairy  วัยหนุ่มคืนสู่เหย้าโพ้ทะเลสถานะสภาพปล่อยอิสระ ในเรื่อง Lost In Panic Room
ซูโหย่วเผิง ละทิ้งเรื่องขยันค้นหาป้ายเอกลักษณ์แสนเชื่องมากขึ้นจึงชนะยอดจำหน่ายตั๋วหนังทะลุเป้า เรื่อง A Tibetan Love Song  นี้มีการเตรียมพร้อมยอมรับกรรมการตัดสินคะแนนสามารถกล่าวได้ว่าชื่อเสียงได้คืนสู่เหย้า (ชื่อเสียงได้หวนกลับสู่วงการอีกครั้ง...แต่ครั้งนี้เป็นอยู่ในฐานะ นักแสดงชาย บนแผ่นฟิล์ม)

ซูโหย่วเผิงมักจะถูกเรียกชื่อแทนคำว่า หนุ่มรูปงาม,หนอนหนังสือ,รักเดียว,จอมยุทธ์ ในสายตาของ นักสร้างหนังและผู้กำกับหลายคน แต่ว่าอายุได้ผ่านไป 37 ปีของซูโหย่วเผิง ไม่คาดคิดเรื่องขอบเขตคับแคบ คนอื่นได้หยิบยื่นให้เขาใส่กรอบไว้ ดังนั้นเขาจำใจยกเลิกละครหลายเรื่อง มีใจเป็นหนึ่งเดียวกันตามหาอุดมคติของตนเอง เพราะฉะนั้น พระเอกหนุ่มรูปงามมาก ทุกปีเปิดเผยรายรับแบบไม่เกรงใจ แล้วสร้างสถิติใหม่โดยขณะนั้นบนป้ายบอร์ด-billboard ตัวเองได้รับความนิยม ซูโหย่วเผิง ยอมเก็บแววซ่อนเร้น สิ้นเปลืองเวลามากเพื่อเติมพลังของตัวเอง คัดเลือกบทที่ดีให้แก่ผู้ชมดู ความไม่เหมือนกันของ ซูโหย่วเผิง โดยแสดงรับผิดชอบต่อตัวเอง


เขายอมทิ้งเงินก้อนโต ตรงกันข้ามกลับใช้แรงกายแรงใจสนับสนุนสาธารณะประโยชน์การกุศล โหย่วเผิง ลดตัวสู่รากหญ้า ไม่สร้างกระแสเหมือนคนอื่นหาเงินแบบเบิกบานใจ แต่เขากลับยอมควักกระเป๋าเงินแบบเงียบๆ คนอื่นมีใจละโมบ เขามีใจรักบุญยิ่งกว่าและยอมจ่าย


โหย่วเผิงฉลาดจริงจัง ใจดี เขาเข้าใจเปรียบเทียบหลายๆชนบท ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากโรงเรียนวิชาหนังละครของนักแสดงทั้งหลาย เขาไม่ใช่มาจากชั้นห้องเรียนหนังละครหรือนักร้อง จำต้องนำออกมาเปรียบเทียบกับนักแสดงคนอื่นยิ่งต้องขยันเพิ่มมากขึ้น การนิ่งเงียบของเขากำลังทำเพื่ออนาคตตัวเอง ยิ่งต้องสร้างพื้นฐานถนนกว้างใหญ่ขึ้น สุภาษิตคน ยูนนานกล่าวไว้ว่า (เทียนกงเถิงฮันเหริน) สวรรค์ชอบคนดีซื่อสัตย์ ก็คนไถหว่าน (ขยันสู้) แบบเงียบๆท้ายสุดสวรรค์จึงเมตตาท่าน


พี่น้องที่ดีสองคนของ โหย่วเผิง ช่างเวลาใกล้ๆนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าง อู๋ฉีหลง ใจกล้าเลื่อนเป็นนักสร้างหนัง โครงสร้างชีวิตไม่ได้คับแคบอีกที่เป็นทั้งนักแสดงและพ่อค้า แล้วเรื่องหนัง (ต้าเสี้ยวเจียงหู) เย้ยหยันยุทธภพ ของ เฉินจื้อเผิง ใกล้ๆนื้ตั๋วหนังขายดียิ่งขึ้น ถูกรับเชิญไม่ขาดสาย อวยพรเริ่มจากปีขาล โหย่วเผิงชมไม่หยุดตลอด ก็อวยพร อู๋ฉีหลง พร้อมกับ จื้อเผิง ล้วนสู้ๆสร้างธุรกิจสู่สุดยอด ----อยากให้วงเสี่ยวหู่ตุ้ยมีทางเลือกที่ดีตลอด

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 06:56:02 AM »
วันที่ 9 ธันวาคม ปี 2010 เวลา 14.47.01 น. งานภาพยนตร์ ม๋าเก๊า ประกวดรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงยอดเยี่ยม ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรในหนึ่งปีประกวดได้รางวัลตุ๊กตาทองยอดเยี่ยม 3 ครั้ง


สิ่งของเก็บเกี่ยวภาคฤดูร้อนฤดูใบไม้ผลิ แล้วคนเล่า ก็มีเก็บเกี่ยวฤดูหนาว สิ้นปีได้มาถึงคึกคักร่าเริง ด้านส่วนตัวขอพูดถึง การทำเงินปลายปีมากที่สุดยังย้อนเวลาและหวังพัฒนาดาราก็ไม่ยกเว้น ปลายปีได้หวังแจกจ่ายรางวัลหลายรายการและสรุปยอดนิยมของคนบันเทิง ก็คือหลายคนร่าเริงหลายคนเศร้าใจ แน่นอนวันนี้ต้องพูดถึงดารา (ซูโหย่วเผิง) แน่ละร่าเริงต้องมากกว่าเศร้าใจ เพราะว่าปีนี้ คือ (ซูโหย่วเผิง) ได้กวาดเรียบทำลายทุบสถิติอย่างทะล่มทะลาย คนเดียวได้รับรางวัลหลายรายการมีแต่ความเชิดหน้าชูตา


เป็นบุคคลธรรมดา กล่าวถึงเหล่าบรรดาแฟนๆของ ซูโหย่วเผิง ก็สนใจมาตลอด ด้านตัวเองได้สนใจข่าวคราวพฤติกรรมจุดเล็กจุดน้อยของดาราดีเด่นท่านนี้ แล้วสรุปยอดการกระทำของตัวบุคคล อักษร 4 คำ ไม่สามารถแยกจากกันได้คือ  “变,火,泪,喜”

“变 เปี้ยน” = เปลี่ยนแปลง

“ 火 หั่ว” = ไฟ หรือร้อน

“泪 เล่ย”= น้ำตา หรือเสียใจ

“喜 สี่” = ดีใจ หรือสำเร็จ


องค์ประกอบ 4 ส่วนนี้กลายเป็นความแตกต่างไม่ธรรมดาของ ซูโหย่วเผิง ในอาชีพนักแสดง ทำไมจึงใช้อักษร 4 คำนี้มาสรุป อาชีพของ ซูโหย่วเผิง  เพียงแต่เป็นคำพูดในตระกูลบ้านหนี่ง วุ้นเส้นห้ามตี เห็นแก่แขกผู้มาเยี่ยมเยือนให้อภัย


กล่าวคำว่า “”เปี้ยน 变” เปลี่ยนแปลงกันก่อน จริงๆต้องการพูดว่าเปลี่ยนแปลง ก็เพราะควรเอ่ยกล่าวถึง The Message หนังเรื่องปีที่แล้ว ซูโหย่วเผิง ได้ผลิกบทบาทครั้งใหญ่ จากที่เป็นพระเอก-ขวัญใจ ได้กลายร่างเป็นนักแสดงละครร้องเพลง  แล้วโยกเยกท่ารูปงามอรชรอ่อนช้อยอยู่ในจอหนังใหญ่แวววาวสง่างาม นี่เป็นการปรับเปลี่ยนฉีกออกมาจากเดิมๆ  ซูโหย่วเผิงได้จารึกชื่ออยู่วงการแผ่นฟิล์มแล้ว ก็  จากนี้ไป ซูโหย่วเผิงอยากให้เรา ลืมภาพดาราขวัญใจ ลืมภาพไกวๆหู่ กลับมายืนอยู่ตรงปัจจุบัน เห็นการโลดเล่น ดุเดือด เห็นถึงธาตุแท้การเป็น นักแสดงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักแสดง แต่ไม่ใช่ดารา โหย่วเผิงได้บินก้าวกระโดด โดยธรรมชาติในปีนี้ผลงานของเขาหลายบทบาทแตกต่างกันไป แทบดีใจแบบไม่หยุด


นี่ก็ขยายความถึงอักษร “หั่ว 火” ไฟ-ร้อน ในปีนี้ ซูโหย่วเผิงมีหนัง 4 เรื่อง เป็นหนังแสดงเป็นพระเอกแน่นอนออกฉายสู่โรงภาพยนต์  แยกฉายหนังเรื่อง The four cupids ของผู้ชายกลัวแต่งงาน หนังเรื่อง A Singing Fairy ในบทตามหาทายาทหลิวซานเจี๋ย หนังเรื่อง -Lost In Panic Room นักเขียนมีความรู้ประสาทบ๊องๆ หนังเรื่อง A Tibetan Love Song) ทหารโปรดปล่อยเสรีมีใจรักแน่วแน่  หนัง 4 เรื่อง อุปนิสัยแตกต่าง 4 แบบ นักแสดงชายคนหนึ่งในปีนี้มีผลงานแน่นหนาเช่นนี้ออกฉายนอกเหนือจากโปรแกรม ซูโหย่วเผิง มีไฟมาก ยังคิดคำพูดอื่นๆไม่ได้ เพื่อส่งระดับรูปโฉมให้สะดุดตา แน่นอน หว่านเมล็ดมากขึ้น ผลเก็บเกี่ยวสามารถเก็บมากยิ่งขึ้น


และแล้ว พวกเราได้เห็น "เล่ย 泪" “น้ำตา”   ของ ซูโหย่วเผิง ใช่แล้ว ลูกผู้ชายมีน้ำตาไม่ไหลออกง่ายๆ นักแสดงชายท่านหนึ่งสามารถน้ำตาไหลปลื้มใจต่อหน้าผู้ชมนับล้านๆคนอย่างไม่คาดฝัน ซูโหย่วเผิง คือมีความรู้สึกบางเวลา น้ำตาอารมณ์ความรู้สึกชนะความสุภาพของอารมณ์เหตุผล บนใบหน้าของเขาได้ร้องไห้เช่นนี้ เบื้องหลังต้องมีน้ำตาที่ปลื้มใจของการแจ้งข่าวทุกข์ร้อน ต้องรู้ว่าเขาแสดงบท “ไป๋เสี่ยวเหนียน” ในใจดิ้นรนในใจหลายครั้ง เตรียมพร้อมการฝึกฝนงานมาเท่าไร ในปีนั้นเขาได้พลาดโอกาสหลายครั้ง เช่นได้กลายเป็นนักแสดงไต้หวัน การเริ่มต้นจนถึงสุดท้ายเขาเห็นความสำคัญรางวัลม้าทองคำไม่ให้พลั้งมือไป ได้จ่ายออกอย่างคุณค่ามากมาย นี่เป็นการ ตอบสนองความดีจากฟ้าดิน

ไม่เพียงแต่น้ำตาของ ซูโหย่วเผิง ยังคงไหลออกจริงๆอย่างมีคุณค่า นี่ก็ถึงปลายปี ซูโหย่วเผิง “喜 สี่” ดีใจ ที่จริงในปีนี้ ซูโหย่วเผิงได้รับงานภาพยนตร์รางวัลช่อดอกไม้ ไก่ทองคำครั้งที่ 19 (ได้รับรางวัลช่อดอกไม้ภาพยนตร์ต้าโจ้ง ครั้งที่ 30 ) “ ก่อนหน้านั้นรางวัลนักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม เคยได้รับรางวัลดีเลิศด้านที่มาจากภาพยนตร์แล้ว อีกกรณีหนึ่ง ในเดือนกันยายน...เขายังได้รับนักแสดงนิยมยอดเยี่ยมในงานภาพยนตร์จีนในนิวยอร์ค ครั้งที่ 1 รวมทั้ง  “นักแสดงชายได้รับนักศึกษาชื่นชอบยอดเยี่ยมในงานวัฒนะธรรมภาพยนตร์นักศึกษา เมืองซันซีไท่เหยียน” นี่ เพิ่งได้รับ “รางวัลนำแสดงฝ่ายชายยอดเยี่ยมในงานภาพยนตร์สากล ม๋าก๊า ครั้งที่ 2 “ พอดีอีกครั้ง สามารถกล่าวได้ว่าเป็นมงคลครั้งใหญ่

ในที่นี้ขอกล่าวถึง”นักแสดงชายยอดเยี่ยมจากงานภาพยนตร์สากล ม๋าเก๊า” ซูโหย่วเผิง ครั้งนี้อย่างละเอียดหน่อย เขาอาศัยหนังเรื่อง  A Tibetan Love Song  หลักทำนองเพลง แล้วเด็ดมงกุฎชนะรางวัลตุ๊กตาทอง ถ้าหากคุณเคยดูหนังเรื่องนี้ คุณจะรู้สึกว่ารางวัลนี้เป็นของ ซูโหย่วเผิงมิใช่ใครอื่น ความสำเร็จของเขาในเรื่องนี้ สวมบทเป็นทหารโปรดปล่อยซ่อนเร้นแล้วช่วยเหลือคน ซูโหย่วเผิง เข้าใจบททหารท่าทางสง่าเป็นบุคคลซื่อตรง อีกทั้งใจดีบริสุทธิ์ของบทเอาใจใส่ผู้หญิง แล้วเริ่มแรกจึงมีนิยายรักตอนหนึ่ง ในหนัง ซูโหย่วเผิง ไม่ว่าแสดงบทเป็นทหารที่จริงจังรับผิดชอบ ยังเป็นเรื่องรักแบบรางๆและปกป้องรักนางเอกจนกระทั่งรักกัน พร้อมทั้งสุดท้าย ซูโหย่วเผิง แสดงบทหนักแน่นไม่เกียจคร้านเฝ้ารอคอยอย่างทุกข์ใจจนทำให้น้ำตาไหล สามารถกล่าวได้ว่า นี่คือ ซูโหย่วเผิงใกล้ๆนี้ได้หล่อพิมพ์รูปเอกลักษณ์อย่างสมบูรณ์และหนึ่งในนั้นมีสีสันที่สุด


แน่นอน ไม่ว่าอักษร 4 คำได้สรุปยอดแล้ว ยังเป็นบุคคลหนึ่งได้รับข่าวดี รางวัล “นักแสดงนำฝ่ายชายตุ๊กตาทองม๋าเก๊า “ นี่มากล่าวถึงเรื่อง ซูโหย่วเผิง ล้วนเป็นเรื่องในอดีตของประวัติศาสตร์ทั้งนั้น หรือว่าปีนั้นเขาไม่ได้กระทำอารมณ์อย่างแท้จริงสักนิดในรายการ “รางวัลม้าทองคำ” ที่พึ่งไม่พอใจ และแล้ว ต่อมาจึงได้ยืนยัน ซูโหย่วเผิง มีฝีมือการแสดงที่ได้การยอมรับจากสายวิชาชีพ ... มากล่าวเรื่องนักแสดงคนหนึ่ง ขอเพียงแต่ขยัน ทุกสิ่งล้วนสามารถเป็นไปได้ ซูโหย่วเผิงก็เป็นคนเช่นนี้ เขาขยันทำดี ไม่มีผลเก็บเกี่ยวจึงขยันต่อไป เมื่อมีผลเก็บเกี่ยวแล้ว หัวเราะแล้วร้องไห้แล้วลืมเรื่องแล้ว หนทางก็ต้องก้าวเดินต่ออีก

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 11:09:57 AM »
ทุกๆครั้งเวลามองเห็น ซูโหย่วเผิง แล้วต้องคิดถึง หลินจื้ออิ่ง ไม่เพียงเพราะว่าพวกเขาเคยเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง แล้วก็เพราะบางคนมีหน้าตาคล้ายกัน.......วัยหนุ่มสาวหน้าตาเหมือนเทวดาจางปู้เหล่า หน้าตุ๊กตาแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยผ่านวงการบันเทิง หลังจากขณะ อู๋ฉีหลง ได้ก้าวถึงสู่สุดยอด ก็ไม่มีใครเหนือกว่าเขาอีก แล้ว ซูโหย่วเผิงเมื่อไม่กี่ปีมายังคงรับการต้อนรับเรืองแสงแวววาวในครั้งที่สอง ไม่ว่าบริษัท หัวอี้ แต่ไหนแต่ไรมาล้วนไม่ทราบว่าการเข้ารอบชนะคือความหมายอะไร ซูโหย่วเผิงในหนังใหม่เรื่อง A Tibetan Love Song แสดงบทแอบซ่อนช่วยเหลือได้มองเห็นเป็นลายมือปากกาของบริษัทหัวอี้ เช่นในหนัง ((หวินสุ่ยเอี๋ยว)) ลือกันน้ำอยู่เหนือเมฆ สี่ยั่วเซียน แสดง พฤติกรรมฝีมือการแสดงต่อความรู้สึกเข้าทะลุปรุโปร่งการปรองดองและแปลกประหลาดพู่กันอักษรวาดภาพแสดงสวยงาม ข้อมูลล้มลงถึงก้นสุดๆ

ลักษณะของไกวๆหู่ทหารแอบซ่อนช่วยเหลือในหนังA Tibetan Love Song บังเอิญ ยังสามารถมองเห็น ซูโหย่วเผิงอีกด้านหนึ่งโผล่ออกเป็นเด็กผู้ชาย หรือว่าหน้าตุ๊กตาทำแปลกประหลาดพิกล ขณะเดียวกันกลายเป็นเล่าลือไม่แก่ บางครั้งจะถูกสงสัยไม่พอต่อมั่นคง และแล้ว สมองว่องไวจากต้นถึงท้าย การพูดจาเหมาะสมของ ซูโหย่วเผิง ช่างชัดเจนมาก เรื่องโครงการอนาคตตัวเองก็ทราบดีในทรวงอก หลังจาก ซูโหย่วเผิง เข้าสู่วงการ แสดงบทบาทผู้ชายคนดีสนใจเฉพาะรักลึกซึ้งมาโดยตลอด แต่ว่าไม่กี่ปีมานี้ เขาทำลายทะลุเอกลักษณ์แบบไม่ขาดสายต้อนรับท้าทายต่อสู้ ผมอยากกลายเป็นพรรคจอมพลัง ผมอยากจะทำลายทะลุเป้าคนหนึ่ง ซูโหย่วเผิงพูดอย่างไม่ปิดบัง


เรื่องคือ เขาเคยลองลิ้นชิมรสบทบาทอีกชนิดที่แตกต่างกัน เหมือนในทีวีในหนัง ((เย่ออ้าย)) ผู้ป่วยเป็นโรคประสาท ซูหมิงเทา ในหนัง ((เฟินเซิน)) บทหนังร้องเพลง ไป๋เสี่ยวเหนียน ผมหวังว่าสามารถฝึกฝนเรียนรู้โดยตลอด และมีความก้าวหน้ามาโดยตลอดสามารถดูออก เขากำลังทดลองใช้บทบาทเล่ห์เหลี่ยมกลลวงเหล่านี้บ้างเพื่อให้ทุกคนเอาอดีตของเขาทั้งหมดโยนทิ้ง-------ความเคยชิงผู้คน “ไกวๆหู่” ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อง ทั้งยังในกระดูกแท้จริงพุ่งสะเทือนสาเหตุคิดการกบฎทางใจ ต้นเหตุเริ่มแรกสุดมาจากวงเสี่ยวหู่ตุ้ยเรียบเรียงเพลง ((จ้ายเจี้ยน))---ลาก่อน อำลาวง เหตุเรื่อง เฉินจื้อเผิง จะไปเกณฑ์ทหาร วงเสี่ยวหู่ตุ้ยจำใจยอมแยกย้าย ผู้กำกับ MV ((จ้ายเจี้ยน)) ---- อำลา เพื่อให้บรรลุปลุกปั่นถึงประสิทธิผล หวังว่า ซูโหย่วเผิง สามารถอยู่หน้ากล้องมีอารมณ์รู้สึก “แต่ว่าผมก็ร้องไห้ร้องไม่ออก คนที่เหลืออยู่ล้วนร้อนใจมาก มีบางคนหาของขวัญที่ส่งมาจากแฟนเพลงชื่นชอบของแต่ละชนิดแฟนเพลง มีบางคนพลิกเขียนแบบเร้าใจมากของจดหมายแฟนเพลง ช่วยผมบลิ้วอารมณ์” ใบหน้า ซูโหย่วเผิง พูดยิ้มๆและกล่าวว่า “เพราะว่าทุกคนล้วนรู้สึกต้องแยกย้าย แยกย้ายจากกันเป็นเรื่องที่เศร้าใจเรื่องหนึ่ง คุณควรร้องไห้อย่างง่ายๆนะ ปัญหาคือ ผมรู้สึกว่าชีวิตคนเรื่องรวมเรื่องแยกเป็นเรื่องปกตินะ ทำไมต้องร้องไห้ด้วย

“จริงๆผมยืดงอให้ตรงมาโดยตลอด จึงพูดนับได้ว่ามิใช่คิดขบถทางใจ ก็มิใช่เป็นเด็กเชื่องมากอย่างแน่นอน” ซูโหย่วเผิงใช้คำพูดเร็วมาก สำนวนชัดเจน “แต่ว่าผมพูดตลอด พูดตลอดก็ไม่มีใครเชื่อ ดังนั้นผมก็แสดงเป็น ไป๋เสี่ยวเหนียน แบบสบายใจ เริ่มต้นใหม่ เริ่มต้นจากศูนย์ ภาพลักษณ์ ไกวๆหู่หมดไป-----ทุกคนไม่ใช่ไม่เชื่อผมคิดกบฏทางใจไหม ? ดีละ อย่างนั้นผมทำให้พวกคุณดู ครั้งนี้เชื่อแล้วใช่ไหม” เรื่องคือ เขาพูดถึงท่าทางละม่อมและนิ่งเล็กน้อยของเขา มีสิ่งของบางอย่าง เขาคิดว่าไม่สำคัญ คนอื่นพูดว่าสำคัญอีกก็คือเรื่องรอง เปรียบเทียบเรื่องหน้าตาภายนอก หวังเสี่ยวหมิงเป็นเจ้าลัทธิเพราะตัวขี้นที่สูงสูงถูกโวยวายจนเวียนหัวเป็นเวลาเปลี่ยนทิศทาง ....ซูโหย่วเผิงตั้งแต่ไหนแต่ไรมายังคงไม่ยอมห่วงใย ไม่อยากคิดเรื่องทำใสสะอาด “จริงๆผมไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องภาพลักษณ์ชนิดแจกันดอกไม้ คุณดูที่จออินเตอร์เนต... บางครั้งลือว่าตัวสูงส่ง ผมก็ไม่ได้ออกมาแก้ข่าวลือ ...ผมไม่ใส่ใจสิ่งนี้ คิดอยากแสดงบทบาทพิเศษเพราะหวังว่าผู้กำกับสามารถยอมรับผม” ....ในที่สุดรู้สึกว่าบุคลิกภายนอกของ ซูโหย่วเผิง มีการโกหกหลอกลวงมาก กล่าวคำพูดแบบนี้ เหมือนกับหน้าตาวัยเด็กไม่เหมาะสมเลย แต่เขายังคงกล่าวเรื่องคำพูดที่โบราณมาก... “เข้ามาวงการ 20 กว่าปีแล้ว ความชำนาญล้วนเป็นความช่ำชอง ผมไม่อยากคิดแสดงอะไรผู้ชายหล่องามอีก แต่จริงๆแล้วผมทั้งไม่ใช่ตามหา เปลี่ยนแปลงบุคลิกภายนอกเดี่ยวๆ มีคนจงใจให้ ผมไม่ได้จงใจ ผมก็แสดงบทบาทนี้ ไม่ได้รังเกียจถึงรูปลักษณะ ผมเพื่อบทบาท คุณอยากพูดอะไรก็พูดในที่สุดได้แสดงหนังที่ตัวเองชอบล้วนมีความสนุกสนาน

เยาว์วัยประสบความสำเร็จ เป็นนักร้องขวัญใจร โด่งดังไปทั่วเอเชีย.......ช่วงนั้นรุ่งโรจน์แบบนี้ ซูโหย่วเผิง ตั้งแต่อายุ 15 ปีเข้าสู่วงการบันเทิงความเจริญมาอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งผู้คนต่างกล่าวถึงเขา ถึงอย่างไรยังคงไม่อิสระหวนคิดขึ้นมา ใบหน้าอ่อนวัยของหน้าตาหนุ่มๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไป แต่ถึงอย่างไรยังคงไม่อดกลั้นนำเอาวัยหนุ่มไม่ราบรื่นมารำลึก จากในส่วนสมองลบล้างในส่วนที่ลึกออกไป

บัดนี้ ซูโหย่วเผิง อายุ 30 ปีต้นๆแล้ว ที่ข้างหลังกายได้ถือใบเอกสารผลงานยาวๆพวง ความเดิมๆนึกว่าเป็นแรมเดือนแรมปีขึ้นๆลงๆของเขา สามารถทำให้ตัวผมได้ เล่าความชำนาญของชีวิตอย่างหรูๆเป็นช่วงเป็นตอน และนิยายรักความทุกข์เวทนาที่พูดออกมาไม่ได้สับสนกัน แล้วเขายังคุยเรื่องบุพเพสันนิวาส- ธุรกิจความรักใคร่ ดำรงชีพ มากกว่า.......ทุกสิ่งในโลกนี้ช่างสับสนตามที่เขามองเห็นมา ล้วนเกิดจากบุพเพสันนิวาสในอดีต ดับด้วยบุพเพในอดีต บุพเพเมื่อมาถึงแล้ว ก็คือน้ำมาถึงคูคลองแล้ว ผมเชื่อว่ามีบางสิ่งถูกกรรมลิขิตมา ผมไม่รู้สึกว่าตัวคนเดียวสามารถอาศัยแรงคนก็คิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้ นี่คือทรรศนะคติของผม เปรียบเทียบผมได้ตามกรรมบุพเพสันนิวาส(ดวง) แต่ผมรู้สึกว่าการกระทำความเพียรขยันก็มิใช่ถูกทั้งหมด แต่ผมรู้สึกว่ามีผลสนองตอบรับบางอย่างคือแรงคนที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ผมไม่สามารถบังคับผลกรรม ตัวคุณเองเพียงแต่สามารถใช้เพียรพยายาม แต่แท้จริงผลกรรมมิใช่ตัวผม ใช้ขยันหมั่นเพียรก็สามารถกำหนดได้” เขาอธิบายสภาพลักษณะการดำรงชีพของตัวเองแบบนี้

คลั่งไคล้มากๆของหนังเรื่อง The messag หลังจากผ่านพ้นไป ซูโหย่วเผิงเหมือนกับชอบฉายารูปโฉมตัวเองพร้อมทั้งไม่คู่ควรกับบทบาท สับสนหลงใหล หรือบทบาทหยาบกระด้างเช่นนั้น ปล่อยให้ ซูโหย่วเผิงสำรวจรู้สึกการแสดงหนังสนุกสนานแล้ว ไม่คู่ควรในคู่ควรถึงจะเป็นตัวเขาที่ชื่นชอบ การสมภาษณ์ก่อนหน้านั้นหลายครั้ง เขาแสดงถึงตอนนี้ ยิ่งหันเหเปลี่ยนทิศทางถ่ายหนัง “ละครจอทีวีและความรู้สึกของนักผลิตสร้างภาพยนตร์ยังคงไม่เหมือนกัน ปริมาณหนังละครจอทีวีจำนวนมหาศาล คนรุ่นหลังเป็นการทดสอบความอดกลั้นอดทนและกำลังกายของคุณ ไม่มีวิธีอื่นเหมือนภาพยนตร์ละเอียดลออเช่นนั้น เพื่อหนึ่งนาทีทุกคนจะรู้ว่าแข็งแกร่ง ละครหนังจอทีวีจึงเป็นไปไม่ได้ ละครหนังจอทีวีไม่ปรากฏละเอียดสวยงาม


ง่ายนักของสิ่งที่มา รสชาติของผมถูกหนัง The messag ยกระดับสูงขี้นแล้ว ต่อไปหวังว่ามีโอกาสสามารถรับสร้างผลิตหนังแบบนี้ แต่ว่า เขาไม่สามารถเที่ยวบังคับขอให้ชัดเจน “เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาที่ผมเลือกผู้กำกับ ผู้กำกับดีเลิศหลายคน ตัวเองหวังว่าแสดงบางเรื่องบุคคลที่ล้มลงมากกว่า เช่นบทนักสืบบ้าง บทโรคกลัดกลุ้มบ้าง อุปสรรคคติธรรมทางใจน่าจะแสดงดี ในใจทุกคนล้วนมีก้อนๆนั้น ผมก็มี มีโอกาสไปเอาแบบนี้มาปรากฏก็ยิ่งดี

อายุ 36 ปีของ ซูโหย่วเผิง แต่แรกได้ถอนตัวออกจากเอกลักษณ์ของการเป็นพระเอกมานานแล้ว ใบหน้าดำมืดได้เขียนเต็มไปทั่วสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ชายเวลาอันควร เคยถาม ซูโหย่วเผิง ทำไมตอนนี้ได้ถ่ายหนังจึงสุขุมดีกว่า ซูโหย่วเผิงกลับถามว่า “สมมุติตอนนี้ผมยังเหมือนในปีนั้นน่ารักบริสุทธิ์ผุดผ่อง นั่นควรจะน่าเกลียดไหมละ ? มีคนส่วนมาก เรื่องความทรงจำของ ซูโหย่วเผิง ยังหยุดอยู่กับ วงเสี่ยวหู่ตุ้ย ไกวๆหู่ที่เรียกลมเรียกเมฆที่เริ่มครั้งแรก ถึงเวลาอันควร นำพาให้ ซูโหย่วเผิง ไม่เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงบุคลิกภายนอก ยิ่งกว่านั้นคือสภาพทางจิตใจอย่างหนึ่ง ผมรู้สึกว่าตัวผมอายุผ่านมา 30 ปี ก็เรียนรู้หลักการใช้สภาพจิตใจไปดูเรื่องราวที่ให้อภัย ผมรู้สึกแล้วแต่โชคชะตาลิขิต ไม่ให้พันติดกันอีก แต่ละอย่างล้วนมีคุณค่าของสิ่งนั้นยังหลงเหลืออยู่ ทรรศนะการมองที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องมีรับไม่เหมือนกัน ขณะวัยเยาว์ของ ซูโหย่วเผิง เรื่องดนตรีคลั่งไคล้เร้าใจเกือบจะยึดครองชีวิตคนทั้งหมด แม้แต่เป้าหมายการเริ่มแสดงหนัง ล้วนทำเพื่อการหาเงิน

ในภายหลัง สามารถหวนรำลึกร้องเพลงอีกครั้ง แล้ววันนี้ จากธุรกิจของเขา ดนตรียังคงค่อยๆจางหายไป ต้นเหตุเพราะ นักร้องขวัญใจระยะเวลาคุ้มครอง ธาตุแท้มีขีดจำกัด แล้วกำลังชีวิตของนักแสดงคนหนึ่งสามารถอยู่ยาวนานกว่า “การเปลี่ยนแปลงสามารถเปลี่ยนแปลงได้” สภาพลักษณะชีวิตคน ผู้กระทำได้มีเพียรพยายามแล้ว ยอมรับไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ยิ่งคือความใจกว้างและเปิดเผยอย่างหนึ่ง

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 10-12-2010 ซูโหย่วเผิง อาศัยอะไรจึงโด่งดังมากว่า 20 ปี ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 11:13:48 AM »
http://tieba.baidu.com/f?kz=927129572
http://tieba.baidu.com/f?kz=927036213

วันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 2010

ซูโหย่วเผิง : เพียงเพื่อให้บทบาทรอด ไม่แต่งเป็นชายรูปหล่ออีก ความฝันอยากได้รางวัลม้าทองคำไต้หวัน
หนังละครเรื่อง Lost In Panic Room  ห้องลับบอกใครไม่ได้


ดาราหลายคนเวลาผ่านพ้นขีดสูงสุด ล้วนแล้วผ่านการลำบากมามาก  เป็นปลาพลิกกายอีกด้าน แต่ ซูโหย่วเผิง
เป็นข้อยกเว้น ในช่วงเวลาหลังไอดอลของเขาได้อาศัยในความขยันของเขาพิสูจน์ให้คนอื่นๆ "ที่จริงผมมีศักยภาพที่ดีของความแข็งแรงและความสามารถในเมื่อเร็วๆนี้ โหย่วเผิง ผู้ได้รับการกับความท้าทาย

การแสดงในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งหลังจากที่อื่น ได้กลายเป็นประเด็นร้อนของจอภาพยนตร์ ไม่เพียง แต่เขาเพิ่งได้รับการสนับสนุนที่ดีที่สุด เขาพึ่งได้รับรางวัลประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยมรางวัลช่อดอกไม้ โดยเฉพาะการลงทุนต้นทุนเล็กน้อยของการแสดงหนังสยองขวัญ คือหนังค้นหาเหตุผลเรื่อง Lost In Panic Room เรื่องที่กำลังทำกล่องสำนักงานขายตั๋วดี อีกประการหนึ่งในภาพยนตร์ที่เขาเล่นบทบาทนำชาย, เพลงรักคั้งติ้ง ก็จะนำออกฉาย จะได้รับการคัดเลือกในเดือนนี้  บทบาทเหล่านี้ ผู้สังเกตการณ์อย่างรอบคอบจะพบว่าบทบาทตัวละครของเขาจะไม่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ (หล่อ-งาม-ดี) เป็นจุดขาย ยกเว้นในขอบและตัวอักษรมีทั้งประหลาด, ผิดปกติหรือเลอะเทอะ

เมื่อวันนี้ ซูโหย่วเผิง ได้รับการยอมรับการสัมภาษณ์พิเศษของเรา  พูดถึงหลายปีนี้เพียรพยายามเปลี่ยนรูปโฉม เขาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาได้ทุ่มเททำงานหนักตัวเป็นเกลียว   ผลก็คุ้มค่าความพยายาม ในรางวัลช่อดอกไม้ไก่ทองคำหลังจากถูกยอมรับแล้ว เปิดเผยว่าต้องการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือการจะสามารถได้รับรางวัลม้าทองคำในบ้านเกิดไต้หวันของเขา

ตัวเองรับรางวัลม้าทองคำผมไม่อยากแสดงผู้ชายหล่อ-งามอะไรอีก แต่บนความเป็นจริงผมไม่ใช่ตามหาเปลี่ยนแปลงบุคลิกลักษณะเดี่ยวๆ มีคนเจตนา ผมไม่ใช่เจตนา ผมก็แสดงบทบาทนี้ ไม่ไปรังเกียจถึงเอกลักษณ์ ผมทำเพื่อบทบาทนี้ คุณอยากกล่าวหาอะไรก็เชิญกล่าวหาอะไร ในใจขอให้มีหนังแสดงเยอะหน่อย เป็นไปได้การรับแสดงอันดับแรกต้องพิจารณาถึงธาตุแท้ ยกตัวอย่างพิเศษเช่น ไป๋เสี่ยวเหนียน ไม่มีชามอะไรใหญ่โตกว่า ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ได้


คุยเรื่องแสดงหนัง

ก่อนหน้านั้นเพราะไม่เคยรอคาดหวังทั้งหมดมาก่อนที่จะได้รับรางวัล ก่อนไป ผมยังคงรู้สึกว่า ฝงเหยี่ยนเจิง และ หวงป๋อ มีพละกำลังมากกว่ามาโดยตลอด หวงป๋อ ยังคงเป็นดารานำแสดงม้าทองคำ แต่อยู่ข้างล่างเวทีมองเห็นคณะกรรมการตัดสินลงคะแนนคัดเลือก ผมงวยงงตกใจหมดสิ้น เวลาขึ้นเวทียังคงวิงเวียนงงๆ เลอะๆเลือนๆจึงร้องไห้ออกมา น้ำตาจึงไหลออกมา ความหวังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือได้รับรางวัลม้าทองคำ อยู่บ้านเกิดก็ได้รับรางวัล

คุยเรื่องได้รับรางวัล

ผมต้องการจะพบบุคคลของฉัน จูลี่เชี่ยน ผู้ที่จะสนับสนุนผมและผมเฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ
แต่น่าเสียดายมากผมยังไม่ได้พบ ผมไม่อยากคาดหวังโจ่งแจ้งอย่างนี้อยู่ภายใต้แสงสุริยะ(publicly)


คุยเรื่องอนาคต

ซูโหย่วเผิง :: ฝีมือการแสดง “มิใช่เจตนาแสดงบทอันน่าเกลียด ในใจมีแต่ มีหนังแสดงเยอะๆคือมาตรฐานการรับหนังแสดง”

นักข่าว :: ไอดอลหลายคนเมื่อมีอายุมากแน่นอน ล้วนจะตามหาการเปลี่ยนโฉมเพื่อความก้าวหน้ารูปแบบชนิดนี้ใช่หรือไม่ ?

ซูโหย่วเผิง ::  เข้าสู่วงการมากว่า 20 ปีแล้ว ความจัดเจนล้วนเป็นความช่ำชอง ผมไม่ต้องการทำหน้าที่เป็นผู้ชายที่อ่อนโยน แต่ในความเป็นจริงผมไม่ต้องการทีเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก บางคนจะทำมันอย่างระมัดระวัง แต่ผมไม่ได้ทำมันจงใจ ผมเพียงทำหน้าที่บทบาทตัวละครและไม่ได้ให้ความห่วงใยใดๆ เกี่ยวกับรูปภาพของผม ผมเพื่อแสดงบทบาทนี้  แต่คุณสามารถพูดสิ่งที่คุณชอบ

นักข่าว ::  คุณพูดแบบนี้ใช่ใฝ่ใจคนอื่นพูดว่าคุณคือดาราขวัญใจหรือไม่

ซูโหย่วเผิง :: ที่จริงผมไม่ใฝ่ใจมากว่าพูดอะไรชนิดแจกันไอดอล คุณมองดูบนจออินเตอร์เนต บางครั้งลือว่าตัวสูงส่ง ผมล้วนไม่มีออกมาแก้ไขข่าวลือ ผมไม่ใส่ใจสิ่งนี้ คิดอยากแสดงบทบาทพิเศษเป็นเพราะหวังว่าผู้กำกับสามารถยอมรับผม

นักข่าว :: บทบาท ไป๋เสี่ยวเหนียน เป็นตำรับตำรา-คลาสสิก โดยภายหลังจะห่วงใยรับบทบาทแบบนี้อีกหรือไม่

ซูโหย่วเผิง :: ไป๋เสี่ยวเหนียนนับว่าเป็นเรื่องตัวอย่างเรื่องหนึ่ง เพราะว่าภาพยนตร์ของโฉมหน้าขบวนนักแสดงและทีมงานฝ่ายผลิต ยังมีบทละครก็คือบทบาทนี้ ธาตุแท้ทุกชนิดเร่งถึงพร้อมกัน ไม่มีเรื่องหนังชามใหญ่ๆโตๆ ก็ไม่แน่จะมีผลในเวลานี้ ผมจะไม่ตั้งใจเฉพาะเพื่อบทบาทแบบนี้แล้วไปแสดง

PS..ถ้าไม่มีองค์ประกอบที่ดีหลาย ๆ อาจจะไม่ได้มีความสำเร็จในปัจจุบัน


นักข่าว :: หลังมาตรฐานรับหนังแสดงคืออะไร ได้เคยคิดเรื่องห้องขายตั๋วมีหรือไม่-บ็อกซ์ออฟฟิศ ?

ซูโหย่วเผิง ::  ก็คือความในใจอยากมีหนังแสดงเยอะหน่อย เรื่องนี้เป็นไปได้คือการพิจารณาธาตุแท้อันดับหนึ่ง เรื่องห้องขายตั๋วผมพิจารณาน้อยมาก ถ่ายหนังเรื่อง Lost in Panic  ก็เพราะมีใจรักสนุก ได้รับรางวัล :"ไปบนเวทีในความงุนงงและน้ำตาไหลในความงุนงง"

นักข่าว :: โดยปกติแล้วคุณไม่ได้จริงๆคนอ่อนไหว คุณร้องไห้มากๆดังนั้นเมื่อคุณได้รับรางวัลในระหว่างพิธีแจกรางวัลรับรางวัลช่อดอกไม้จึงร้องไห้โฮขนาดนี้ ?

ซูโหย่วเผิง ::  ก่อนหน้าพักหนึ่งเพราะว่าไม่เคยคาดหวังเอารางวัลมาก่อน ก่อนจะไปผมยังรู้สึกว่า ฝงเหยี่ยนเจิง และ หวงป๋อ ถูกเสนอชื่อมากกว่ามาโดยตลอด แต่อยู่เวทีข้างล่างมองดูเวลานับคะแนนบัตรการตัดสินคัดเลือก ผมตกใจงวยงงหมดก็ร้องไห้ออกมา

นักข่าว :: ก่อนๆคุณกล่าวกับตัวเองว่ามีเป้าหมายที่ใหม่กว่านี้คืออะไร ?

ซูโหย่วเผิง :: ความหวังครั้งใหญ่สุดก็เอารับรางวัลม้าทองคำ อยู่ที่บ้านเกิดได้เอารางวัลจริงๆ เวลาหนังเรื่อง The Message เดิมทีเดียวมีความหวัง ผลสุดท้ายจดหมายเอ่ยชื่อนักแสดงชายประกอบยอดเยี่ยมแล้ว จริงๆเขารับบทแสดงนำฝ่ายชาย

นักข่าว : เรื่องส่วนตัวตัวคุณเองมีนิสัยอย่างไร ?

ซูโหย่วเผิง :: บางครั้งผมกล่าวคำพูดมาบ้าง ทุกคนล้วนไม่มีผลสะท้อน รอผ่านไปพักหนึ่งถึงหัวเราะจนไม่ไหวแล้ว ปกติผมชอบยิ่งพูดหัวเราะเย็นชา อนาคต “จะไม่ละทิ้งล้มเลิกการร้องเพลงคิดหาสนับสนุนคนของตัวเองแบบเงียบๆ”

นักข่าว ::  อนาคตมีแผนการการงานใหม่ๆอะไรบ้างไหม ? ร้องเพลงยังจะทำต่อไปหรือไม่ ?

ซูโหย่วเผิ ::  แน่นอนละ ปีนี้มีหนังถ่ายยุ่งมาก เพียงแต่เรื่องร้องเพลงผมไม่ละเลิก คุณ มองดูผมแสดงหนังภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องนี้ล้วนเป็นผมร้องเพลงไตเติ้ง (ธีม)แล้ว เกี่ยวกับการร้องเพลงถ้ามีเวลาในปีหน้าผมจะรวบรวมคอลเลกชันของเพลง

นักข่าว :: หนัง  A Tibetan Love Song จะออกฉายแสดงทันที สามารถแนะนำบทบาทนี้หน่อยหรือไม่ ? อาศัยการพูดเวลาถ่ายภาพยนตร์ได้รับทุกข์ลำบากมาก

ซูโหย่วเผิง ::  หนังเรื่องนี้กล่าวถึงเรื่องราวความรักใน ซีจ้าง (ธิเบต) เกิดขึ้นเรื่องหนึ่ง ที่จริงทุกข์ก็คือทุกข์ในสถานที่ถ่ายภาพยนตร์ สะท้อนเรื่องที่ราบสูง ยังต้องวิ่งแบบไม่หยุด ใบหน้าก็ทาสีดำแล้ว ก็ต้องใส่เสื้อขาดๆอีก ผู้กำกับหยอกล้อหัวเราะกล่าวว่าคุณเป็นชายหล่อสวยจริงๆแปลงกายชนกำแพงสวยหรู

นักข่าว :: เรื่องธุรกิจจะให้ถึงสู่สุดยอดเขาอีก แล้วเรื่องความรักเล่า ?

ซูโหย่วเผิง :: ก่อนหน้านั้นผมก็พูดแล้วละ ผมคิดอยากหาตัว จูลี่เชี่ยน เองอย่างมากสามารถได้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนและหนุนหลังอย่างเงียบๆ แต่น่าเสียดายมากยังหาไม่พบ แต่ผมไม่ต้องการนี​​้ถูกเปิดเผยในที่สาธารณะ