ผู้เขียน หัวข้อ: 21. [2551] เย้ออ้าย รับบทซูหมิงเทา  (อ่าน 13108 ครั้ง)

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
21. [2551] เย้ออ้าย รับบทซูหมิงเทา
« เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 02:16:30 PM »
[2008] 热爱 (เย้ออ้าย) รับบท ซูหมิงเทา





[ซีรีย์ไม่เข้าไทย]
2009 热爱(เย้ออ้าย) รับบทซูหมิงเทา


   ปี 2009 ในเรื่อง热爱(เย้ออ้าย) ซูโหย่วเผิง ได้รับบทเป็น ชายหนุ่มผู้ป่วยทางจิต ผู้ร่าเริงสดใสและจงรักภักดีต่อประเทศชาติของเขา ถือเป็นบทบาทใหม่ที่ท้าทายฝีมือการแสดงของเขาอีกครั้งหนึ่ง เพราะปกติแล้วเขามักจะได้รับบทหนุ่มนักรักเพอร์เฟสเป็นซักส่วนมาก การรับบท ซูหมิงเทา ผู้พิการทางจิตครั้งนี้ กลับใกล้ชิดกับสังคมปัจจุบันมากกว่า การที่สามารถตีบทแตกในครั้งนี้ ทำให้เขาฉีกภาพลักษณ์บทชายนักรักตายตัวของเขา กลายเป็นนักแสดงมืออาชีพมากขึ้น


2008 - Re Ai


: เรื่องย่อ :


1950 ในวิทยุกระจายเสียงนั้นได้ประกาศถึงระบบครัวเรือน ทันใดนั้นเสียง “ครึ้ม”ดังขึ้นอย่างดัง จนทำให้เสิ่นหันชิวตะหนกตกใจจนหน้าอย่างไข่ต้ม เมื่อตะวันส่องเข้ามาเห็นถึงแขนของเขานั้นเขียวดำฟกซ้ำไปหมด ลำธารข้างหน้านั้นหมิงเทากำลังขี่จักรยานและร้องเพลงมาด้วย เสิ่นหันชิวได้ถอนหายใจครึ่งหนึ่ง เพราะชีวิตของเขานั้นไม่มีอะไรที่ดีๆเลย บนโต๊ะมีข้อความอันลี้ลับอยู่สองแผ่น แผ่นแรกเขียนว่าT55 อีกแผ่นเขียนไว้ว่าการมองตัวของฉัน


สองคนได้พบกันบนสะพานด้วยบังเอิญ หมิงเทาที่ตกตะลึงพรึงเพริดก็ได้วิ่งไล่ตามหันชิวไปที่สถานีตำรวจ แต่ทางสถานีกลับถูกหญิงโสเภณีกลุ่มหนึ่งก่อกวนเพราะการออกบัตรให้กับพวกเขา ทันใดนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้น ทั้งเลือดทั้งเนื้อกระจัดกระจายไปทั่ว คือโจรได้มาจู่โจมเจ้าหน้าที่เอง หมิงเทาได้อุ้มตัวหันชิวซึ่งในตัวมีระเบิดพลีชีพซ่อนอยู่แล้ววิ่งไปหาโรงพยาบาล กำลังอยู่ในช่วงที่ระเบิดเวลาจะระเบิดก่อนเจ็ดวินาที ทางหมิงเทาก็กำลังตัดสินใจจะตัดสายระเบิดสายสุดท้าย หันชิวก็กดมือหมิงเทาไว้ ไม่ให้เขาตัดสายนั้น เพราะอะไร....การต่อสู่ยิ่งอยู่ยิ่งดุเดือด หมิงเทากับหลี่เสี่ยวเหยียนก็ได้เข้าสู่การต่อสู้ด้วยการหลังพิงหลัง ทันใดนั้นหันชิวก็เสียความมั่นใจกับชีวิตของตนเองได้เดินเข้าไปในสงครามที่เต็มไปด้วยระเบิดและกระสุน

ครึ่งปีผ่านไป หันชิวกับหมิงเทาก็เจอกันอีก เขาสองคนล้วนจำได้ว่าได้จากกันไปกว่า 188 วันแล้ว ความดีใจในการเจอกันยังไม่ทันเกิดขึ้น ทางหันชิวก็มีท่าทีเย็นชาต่อหมิงเทา รักษาระยะห่างไว้ ทุกครั้งที่มีคนเอาหมวกที่มีตัว T55 มาสวมให้กับหันชิวแล้ว หมิงเทาเขามั่นใจในความบริสุทธิ์ของคนที่เขารัก เขาได้อธิบายให้กับทุกคน เมื่อไปที่โรงเรียนเหยียนเฉียวนั้น หลังจากที่หันชิวถูกจับ เขาไปปีนป่ายกำแพงของสถานีตำรวจ ได้เอาตุ๊กตามาบิดเล่นอย่างมือไม้ทื่อๆ ขณะที่มีประกาศว่าหันชิวจะโดนประหารชีวิตนั้น เขาไปพุ่งชนที่สถานีตำรวจ จนกระทั่งใช้ปืนจี้ที่หัวตัวเองแล้วบังคับให้พวกเขาปล่อยหันชิว สุดท้ายเขาได้ใช้มือคุ้ยกำแพงเพื่อเข้าไปที่คุกจนมือเต็มไปด้วยเลือด ......

หมิงเทาได้ไปขอหันชิวแต่งงานอย่างดีใจ หันชิวได้ทำแผลให้กับเขาด้วยความเจ็บปวดใจ แล้วก็ได้ปฎิเสธคำขอของเขาไป หมิงเทาเชื่อว่าปัญหาของหันชิวนั้นเป็นแค่เรื่องอดีตที่... และแล้วเขาก็ได้ไปค้นหาเบาะแสให้กับหันชิวทุกที่ มองเห็นชายที่เคยเรียนที่โรงเรียนเหยียนเฉียว มีคนเดินตามหน้าหลัง และสังเกตุเห็นถึงห้องเก่าหลังหนึ่งที่หันชิวกำลังอาบน้ำ แต่ผู้ชายคนนั้นกลับนั่งอยู่ข้างห้อง หมิงเทามองบุ๊ปเข้าใจแล้วว่าแท้จริงแล้วหันชิวหลบหนีเขาเพราะว่าเธอมีสามีแล้ว ข่าวประกาศจากป้าย ทำให้เขารู้ว่าผู้ชายที่อยู่ในบ้านหลังนั้นแท้จริงเป็นพ่อของหันชิว เป็นนายพลทหารของกั้วหมิงตั่น การเคลื่อนไหวครั้งนี้นั้นทำให้เขาต้องไปมอบตัวกับทางการ และเรื่องราวทั้งหมดก็เหมือนกับเมฆหมอกได้จางไป เป็นฟ้าหลังฝน หมิงเทากลับถูกยกโทษและไม่ไล่เขาออกจากงาน และเขาก็ได้ทำงานของเขาอย่างสบายใจเหมือนเดิม ได้ค้นคิดวิธีการใหม่ๆของเขาต่อไป เพราะในใจของเขานั้นเต็มด้วยหันชิว อิ่มเอิบไปด้วยความรักต่อสังคมใหม่ของเขา


ขณะที่หมิงเทาได้ใช้ความรักทั้งหมดของตัวเองมารักหันชิวนั้น สิ่งที่เขามองเห็นก็คือสองมือที่ประสานกันระหว่างหันชิวกับโจวซือแสและเดินเข้าไปดูหนังด้วยกัน พวกเขาสองคนกอดกันต่อหน้าต่อตาเขา จูบกัน เป็นหันชิวเองที่ไปให้ท่าโจวซือแส ได้นั่งบนตักของโจว และถอดเสื้อตัวเองออก


โรคหมิงเทากำเลิบ แต่ว่าเขาก็ยังสง่าเหมือนเดิม ยังทุ่มเทกับงาน อย่างเดียวคือไม่รู้จักหันชิวแล้ว
แผนชั่ว T55 ของหลิวซื่อชางนั้นหมิงเทารู้แล้ว สุดท้ายถูกประหารชีวิต

เพื่อหมิงเทาแล้ว หันชิวได้ไปที่โรงพยาบาลปรุงยา พยายามอย่างครั้งแล้วครั้งเล่า คนมากมายพูดกับเธอว่าหมิงเทาไม่หายจากโรคนี้แน่ แต่ว่าหันชิว..... หมิงเทาตื่นแล้ว ใบหน้าหันชิวเต็มไปด้วยน้ำตา ขอเขาแต่งงาน นาทีนี้ หลีเสี่ยวเหยียนได้เร่งมุ่งเดินมา หลักฐานการเป็นโสเภณีแผ่นหนึ่งนั้นได้โยนบนใบหน้าหันชิว หมิงเทาที่ถูกหลอกลวงนั้นใช้มือจับหลี่เสี่ยวเหยียนไว้ และประกาศจะแต่งงานกับเธอ หันชิวก็ได้ขอร้องเขาจะหนีไปอยู่ทางซีเป่ย

เมื่อหันชิวไปถึงซีเป่ยแล้ว ได้พบเจอความยากลำบากอย่างนับไม่ถ้วน แต่ในโรงงานฟันจื่อไม่มีการเคลื่อนไหวครั้งแล้วครั้งเล่าภายใต้การกุมแผนของหลิวซื่อชาง หมิงเทาก็เหมือนดังน้ำนิ่งที่ตาย หลี่เสี่ยวเหยียนกับหงยิงกลับเป็นนักเคลื่อนไหวในตอนนั้น..

หลายปีผ่านไป หันชิวกลับมา เธอสังเกตุเห็นถึงบรรยากาศในโรงงานฟันจื่อไม่เหมือนเดิม หลิวซื่อชางมักจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนเป็นที่น่ากลัวของทุกคน เพื่อจะหาความจริงของ T55 เพื่อจะหาว่าเหตุที่บรรยากาศเปลี่ยนไป หันชิวได้เสี่ยงต่ออันตราย รู้ว่าจะมีภัยถึงต้องตาย ช่วงเวลาที่สำคัญนั้น หลี่เสี่ยวเหยียนปรากฎตัว พลีชีวิตเพื่อศัตรูรักของเขาหันชิว การตายของหลี่เสี่ยวเหยียน ทำให้หมิงเทากับหันชิวได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

ในโรงงานมีการเคลื่อนไหวเริ่มแล้ว หลิวซื่อชางอาการสั่นบ่อยๆ เหมือนกับว่าแยกแยะไม่ออกว่านั่นเป็นภาพหลอนหรือว่าความจริง หันชิวกับหมิงเทานั้นเตรียมจะแผนซ้อนแผน ได้เล่นละครตกตา หมิงเทาได้สวมเสื้อที่หลี่ซื่อชางเคยใส่ ได้นั่งสามล้อลากสามล้อของหันชิวครั้งแล้วครั้งเล่าในการเดินผ่านหน้าเขา ได้เผชิญกับสงครามประชาชน หลิวซื่อชางรู้ว่าแผนตัวเองนั้นค่อยๆล้มเหลว เขาไม่พอใจ ขณะที่ให้เขานำเอาหนูตายมาให้นั้น เขากล่าวว่า “ฉันเป็นหนูหรือ? ฉันเหมือนหนูหรือ? “หลิวซื่อชางบ้าแล้ว....

ก่อนที่จะล้มเหลวไม่เป็นท่านั้น เขาอยากจะทำการบ้าคลั่งครั้งสุดท้าย จะทำการฆ่ากันครั้งใหญ๋ เขาอยากจะฆ่าทุกคนที่เคยต่อต้านเขา เขาอยากจะฆ่าทุกคนที่เคยทำให้เขาเสียใจ เขาอยากจะฆ่าทุกคนที่เคยไม่เชื่อฟังเขา ฆ่าพวกเขาให้ตาย....






prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 02:25:06 PM »
แนะนำตัวละคร



ผู้กำกับ >> ฟ่านเสี่ยวเทียน


ซูโหย่วเผิง รับบท ซูหมิงเทา



หันเสวี่ย รับบท เซิ่นหานชิว


จ้าวจวิน รับบท หลิวเยี่ยนชาง



ซ่งเจี๋ย รับบท เฉิงหย่าหรู



เสวียเจียหนิง รับบท หลี่เสี่ยวหยวน



เฉินหลง รับบท ซวี่จวิน



หวังอี้เฉียว รับบท ซือหงอิง



จางเพ่ยฮวา รับบท โจวซื่อเสวีย



ชรื้อหลง รับบท สารวัตรหลิน หรือหลินหนาน



สวีเฉิน รับบท หยีว์ซรื้อฉวิน



ฟู่เฉิงเผิง รับบท หมอฟู่



จางเฉินกวง รับบท เซิ่นซือสิง




prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 02:29:19 PM »
Re Ai  Closing Theme



http://www.youtube.com/watch?v=Wx97rgA8Gmw&feature=related

为你写的歌

听 又唱这首歌
想爱 爱得太难
在日记里写了一首歌
和想对你说的话
有一天当作礼物纪念这份爱

夜 太难眠的夜
想哭 哭不出来
不要再让我的心颤抖
不要让人后悔的理由
别说爱我
转身不会难过

想要的并不多
留下拥抱的温度
想要的并不多
记住相伴这一生的誓约

就让我独自
为我们的歌写下结尾
没有你 就没有人懂得
为你写的歌

วุ้ยหนี่เสี่ยเตอเกอ

ทิงอิ้วช่างเจิ้อโส่วเกอ
เสี่ยงอ้าย อ้ายเต๋อไท้หนัน
ไจ้ยื่อจี้หลี่เสี่ยเลออี้โส่วเกอ
เหอเสี่ยงก็หนี่โซวเตอฮั่ว
โหย่วอี่เทียนตังจ้อหลี่อู้จี้เนี่ยนเจิ้อเฟิ้นอ้าย

แย่ไท้หนันหมินเตอแย่
เสี่ยงคู คูปู้ชูไหล
ปู๋เย่าไจ้ย่างหว่อเตอซินชั่นโต่ว
ปู๋เย่าย่างเหยินโฮ่วหุยเตอหลี่โหย่ว
เปี๋ยโซวอ้ายหว่อ
จ่วนเซินปู๋ฮุ้ยหนันโก้ว

เสี่ยงเย่าเตอปิ้งปู้ตวอ
หลิวเซี่ยยงเป้าเตอวุนตู้
เสี่ยงเย่าเตอปิ้งปู้ตวอ
จี้จู้เซียงปั่นเจิ้ออี้เซิงเตอซื่อแย

จิ้วย่างหว่อตู๋จื้อ
วุ่ยหว่อเมินเตอเกอเสี่ยเซี่ยเจี๋ยหวุ่ย
เหมยโหย่วหนี่ จิ้วเหมยโหย่วเหยินโต่งเตอ
วุ่ยหนี่เสี่ยเตอเกอ



เพลงที่เขียนเพื่อเธอ

ฟังแล้วร้องเพลงเพลงนี้
อยากรัก แต่รักแสนจะลำบาก
ได้เขียนเพลงหนึ่งในอนุทิน
กับคำพูดที่อยากบอกกับเธอ
สักวันจะเสมือนของขวัญเพื่อระลึกถึงความรักนี้

คืน คืนที่ยากจะหลับ
อยากร้องไห้ ก็ร้องไม่ออก
อย่าทำจิตใจฉันสั่นอีกเลย
อย่าให้เหตุผลที่ต้องเสียใจ
อย่าเอ่ยว่ารักฉัน
หันกลับแล้วจะไม่เสียใจ

ที่ต้องการนั้นไม่มากมาย
ฝากไว้เพียงความอบอุ่นที่โอบกอด
ที่ต้องการนั้นไม่มากมาย
จดจำสัญญาจะเคียงคู่กันตลอดไป

ให้ฉันนั้นโดดเดี่ยว
เขียนประโยคสุดท้ายเพื่อเพลงของเราสอง
ไม่มีเธอก็จะไม่มีใครเข้าใจ
เพลงที่เขียนเพื่อเธอ

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 02:35:12 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 03:34:21 PM »






prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 03:35:39 PM »






prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 03:37:39 PM »






prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 03:40:17 PM »




prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 03:41:15 PM »



prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:08:04 PM »


ตอนที่หนึ่ง

เจอกันครั้งแรก การเจอกับโดยบังเอิญครั้งที่ไม่สมบูรณ์แต่สวยงาม ตอนนี้นั้น ได้บ่งบอกถึงเบื้องหลังประวัติศาสตร์ และตัวละครสำคัญของเรื่องอย่าง หมิงเทา หลี่เสี่ยวเหยียน สี่จิน โจวซือแส หลิวซื่อชาง หยีปิงล้วนออกมาแล้ว แต่ว่า ตัวละครที่ผมประทับใจมากคือเฉิงหย่าหยู ขณะที่เธอได้เอาระเบิดโยนออกมานั้น จะให้ความรู้สึกกับเราว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงหญิงโสเภณีคนหนึ่งเท่านั้น ฮ่าๆๆ ฉะนั้น เวลาดูนั้น ก็จะมีใจที่จะดูต่อไปแล้ว รวมทั้งหยีปิงที่ลอบแทงหมิงเทานั้น เริ่มแรกก็สามารถมองเห็นแล้ว อย่างน้อยก็รู้ได้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนดีแน่นอน

แต่ว่าตอนแรกของละครนั้น มีหลายๆฉากที่ผมยากจะลืมมัน

ประการแรก การออกมาของหมิงเทา หน้าตาที่ยิ้มแย้ม เสียงเพลงที่ชื่นบาน เสียงหัวเราะที่ร่าเริง ไม่เพียงแต่จะทำให้นักแสดงคนอื่นมีสุขไปด้วย ยังทำให้คนข้างนอกจอมีความสุขไปด้วย ผมชื่นชอบที่หมิงเทาได้พูดความรักกับหันชิว ทั้งยังใช้การหวนคิดของหมิงเทาในช่วงวัยกลางคน ตัวผมเองรู้สึกถึงเสียงประกอบของวัยกลางคนนั้นไม่เลวเลยทีเดียว เสียงวัยกลางคนที่หนักแน่นนั้นเริ่มแผร่ออกมา ได้บวกกับความเป็นหนุ่มของหมิงเทา ทำให้มีอารมณ์เป็นอย่างมาก ทำให้ผมรู้ถึงวัยกลางคนของหมิงเทานั้น ก็ยังจะไม่หยุดที่จะหวนคิดต่อไป ทั้งยังอยากจะกรอกกลับไปดูเริ่มแรกของหมิงเทาถึงรู้ว่า จริงๆแล้วหมิงเทานั้นเคยรัก เคยบ้า จากนั้นก็สงบลง แค่เสียงเดียวนั้นได้ร้องเรียกเอาการหวนคิดออกมาอีก และยังเป็นการหวนคิดของหมิงเทากับหันชิว

ประการที่สอง บนสะพานนั้น มุมที่หมิงเทาได้เจอกับหันชิว ส่วนตัวแล้วก็จะชอบนิทานรักที่สวยงาม การแสดงออกบนสะพานของหันชิว รวมทั้งรอคอยของหมิงเทานั้น มันให้ความรู้สึกจริงๆ มันสวยงามมาก เรื่องราวก็เริ่มจากที่นั่น ผมจำได้ว่าสุดท้ายยังมีอีกฉากหนึ่ง คือฉากที่ตะวันจะตกดิน หมิงเทาได้เอาสองมือล้วงกระเป๋าอยู่ข้างบน หันชิวอยูข้างล้าง ได้มองไปที่หมิงเทา ฉากนั้นทำให้ผม hc นานมาก

ประการสาม ระหว่างที่หมิงเทาได้ไปตามหาหันชิวในหมู่หญิงโสเพณี ฉีกบัตรโสเพณีของพวกเขา และทั้งยังสอนพวกเขา หมิงเทาที่เป็นอย่างนี้นั้น มันเป็นที่เตะใจของผู้คน รวมทั้งฉากหลังๆที่เขาได้ปะทะคาราให้กับเสี่ยวเหยียน เป็นที่ชื่นชอบของผม คิดแล้วก็รู้สึกว่าหัวเราะออกมาจากใจ โหย่วเผิงนั้นหล่อมาก

ในแง่บวกแล้วว่าการพบกันของเขานั้นสายงามมาก เป็นเพราะครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน ก็สามารถที่จะร่วมเป็นร่วมตายแล้ว ในแง่ที่บอกว่าไม่สมบูรณ์คือ พบกันเพียงครั้งเดียว หันชิวก็ได้เลือกที่จะหนีจากหมิงเทาไปในเวลาที่เขาไม่ทันตั้งตัว


prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:17:42 PM »


ตอนที่ 2 – นั่นไม่ใช่ชื่นชอบ แต่เป็นความรัก

ตอนที่สองแล้วนิ เริ่มต้น ก็สามารถจะมั่นใจได้ เฉินหย่าหยู่นั้นมีปัญหามากๆ หัวหน้าติงถูกเขาฆ่าใช่หรือเปล่า ฮ่าๆๆ

ต่อไปจะพูดอะไรที่จริงๆจังๆ

การสนทนาโต้ตอบฉากนี้นั้น ผมชอบมาก

เสี่ยวเหยียน . ซูจื้อโถง คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะ คุณชอบเขาแล้วก็ให้เขาจูงคุณไปอย่างนั้นไม่ได้นะ

หมิงเทา. ผมไม่ได้ชอบ

เสี่ยวเหยียน. ถ้าไม่ชอบแล้วทำไมคุณถึงเชื่อเขาขนาดนั้นล่ะ

หมิงเทา. นั่นเป็นความรัก

เสี่ยวเหยียน. ความรัก?

หมิงเทา . ใช่ คือความรัก

เสี่ยวเหยียน. ความรัก .....

การแสดงของเสียวเจียหนิงในฉากนี้นั้นดีมาก ทำให้หลี่เสี่ยวเหยียนได้เข้าใจและไม่งงกับ “ความรัก”สองคำนี้ ยิ่งกว่านั้นที่เธอได้ยิ่งสองคำนี้อย่างมั่นใจจากปากของหมิงเทา ก็อาจเป็นไปได้ เธอไม่สามารถเข้าใจได้ หรือว่าเธออาจรับไม่ได้ หรือว่าเธออาจมีความสงสัยอยู่ นี่ไม่ใช่ความรักที่เขาเข้าใจ ก็จากการสนทนาฉากหนึ่งนี้ จนถึงครึ่งปีหลัง วันเวลาที่ผ่านไปนั้น มันพิเศษมาก มันทำให้คนฝังใจมากๆ ฉะนั้นการเขียนเรื่องนั้นเห็นได้ว่าทุ่มเทเหมือนกัน

ครึ่งปีผ่านไป จากสนามรบสู่สนามบริษัท เมื่อมองตัวละครในเรื่อง แต่ละคนนั้นต่างก็มีความคิดของตัวเอง ต่อสู้กับชั้นวรรณะของตัวเอง สุดท้ายก็เข้าใจว่าสมัยก่อนทำไมปู่ย่าตายายถึงได้พูดถึงเรื่องพวกนี้บ่อยๆ แต่ว่าพวกที่ปิดหูปิดตาต่อสู้กันไม่ไม่น้อยเลย เช่น หลี่เสี่ยวเหยียน ที่อกเต็มไปด้วยความร้อนรัก แต่ว่าสำหรับเขาใจเข้าอันถ่องแท้ของความรักสำหรับเขาแล้วมันยังถือว่าไกลเหมือนกัน เพราะว่าความแยกแยะของเธอนั้นน้อยมาก ฉะนั้นเขาก็ได้รับบทที่มีนิสัยบุคลิกอย่างนี้ไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามนอกจากจุดนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าหลี่เสี่ยวเหยียนก็ยังนับว่าเป็นหญิงที่น่ารักเหมือนกัน


มาถึงฉากที่หมิงเทากับหันชิวได้เจอกัน ความรู้สึกแรกนั้น เสียงดนตรีประกอบนั้นมันเข้ากับบรรยากาศจริงๆ ได้ร่วมในอารมณ์มาก เพราะว่าภาพแรกนั้นมีบางตอนบางฉากที่ประกอบเสียงดนตรีแล้วผมเองก็รู้สึกว่ามันยังขาดอะไรไปอย่าง ก่อนหน้านี้ที่ทางสื่อมาทำข่าวนั้น กับฉากที่หมิงเทาได้ปกป้องหันชิวที่ถูกมัดอยู่นอกโรงงานนั้น ได้ยินเสียงของโหย่วเผิงเอง ก็รู้สึกถึงน้ำเสียงของเขานั้นมันได้อารมณ์จริงๆ แต่ว่าเมื่อฟังเสียงดนตรีประกอบแล้วมันรู้สึกว่าขาดอะไรไปอย่าง บางครั้งก็รู้สึกว่าเสียงอัดที่ผู้แสดงพูดออกมาในตอนนั้นน่าจะเวิกดิ์กว่า


ในเรื่องตอนนี้นั้น มีช่วงหนึ่งของหมิงเทาสับสนทางจิต ด้านหลังมีภาพหลอนที่คอยวิ่งหนีมาตลอด ฉากนี้ผมขอใช้การวิจารณ์ของซันซันมาวิจารณ์ความรู้สึกของผม เริ่มแรกนั้นหมิงเทาเองก็เป็นคนป่วยทางจิตมาเหมือนกัน ตอนที่เขาอยู่ในรัสเซียก็เป็นแล้ว ฉะนั้นเริ่มแรกเลยก็มีภาพหลอนของ “หนิงหนิง หรือ ติงติง หว่า 55+ ” ตลอด ผมคิดว่าทางผู้กำกับคงใช้แนวสไตล์เรื่อง ”ฟุ่นเก่าจ้วง” เรื่องฟุ่งเกานั้นทั้งชีวิตคิดแต่เรื่องของชีวิต รักในศิลปะ ในสายตาเขานั้นทางดวงอาทิตย์ แผ่นดิน และต้นหญ้าล้วนเป็นชีวิต ฟุ่งเกาเป็นคนที่อยู่ไม่นิ่ง (รวมทั้งก่อนจะเป็นโรค)

รวมทั้งชอบไปตากแดดที่ร้อนเกินกว่าสี่สิบองศา ฉะนั้นผมคิดว่า ภาพหลอนในเรื่องนี้นั้น เป็นการเริ่มต้นขียนที่จะให้หมิงเทาเป็นโรคจิต การที่จะผ่านเลนกล้องในการแสดงออกถึงอาการโรคจิตนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่าย ผมคิดว่าทางผู้กำกับก็ได้มีการทำการบ้านเกี่ยวกับเรื่องมามาก่อน จึงจะได้ฉากที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างนี้ ทีแรกนึกว่าฉากนี้เป็นส่วนเกินมาหรือเปล่า แต่คิดดูดีๆแล้วก็เป็นฉากที่ขาดไม่ได้เหมือนกัน มันให้ภาพจริงๆ จึงรุ้ว่าโลกแห่งความคิดของผู้ป่วยทางจิตนั้นเป็นอย่างนี้นี่เอง เพ้อ หลอน มันจึงเป็นบ้า ถึงรู้ว่าผู้กำกับเขียนขึ้นมาอย่างนี้ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ พูดนอกเรื่องไปแล้วมั้ง ยังมีอีกก็คือขณะที่โรคหมิงเทากำลังกำเลิบ อารมณ์การแสดงออกของโหย่วเผิงนั้น ก่อนหน้านี้นั้นผมไม่เคยเห็นเขาแสดงออกอย่างนี้มาก่อนเลย

พูดจริงๆว่าผมประทับใจมาก เพราะว่านักแสดงท่านหนึ่งสามารถที่จะแสดงในสิ่งที่อดีตไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนได้เป็นอย่างดีนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย มันเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ เหตุที่ว่ามันประทับใจจริงๆ เลยไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไรดี


และอีกฉากหนึ่งที่ควรจะคุยคือหันชิว ก่อนหน้านี้นั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเขาเลย นอกจากจะรู้ว่าเขาเป็นคนสวยและมากด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครแล้ว ในเรื่อง หากเปรียบกับตัวละครอื่นแล้ว บุคลิกนิสัยของเขาอาจไม่ชัดเจน (นี่กำลังพูดถึงนิสัยในเรื่อง ไม่ใช่นิสัยจริงๆของเขา ผมขอย้ำอีกครั้งเพื่อความเข้าใจผิด) แต่ในเรื่องนี้นั้น เขากล่าวว่าพวกเขาได้จากกันเป็นเวลา๑๘๘วัน ทำให้คนอื่นสนใจเขา ยังมี่ช่วงที่เขาหันกลับไปเก็บตั๋วภาพยนตร์นั้น คนคนหนึ่งที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อความรักนั้นได้แสดงให้เห็นแล้ว ขอพูดนอกเรื่องหน่อย ทรงผมที่ยุ่งเหยิงของหันเอ็มๆนั้นมีเสน่ห์กว่าตอนที่หวีอย่างเรียบร้อย นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว

เมื่อพูดแบบรวมๆแล้ว เนื้องเรื่องคร่าวๆของตอนที่๑นั้นแม้จะดูแล้วจะไม่เลวแต่ก็ทำให้ผมผิดหวังนิดๆ แต่ว่าตอนที่๒นี้ก็ได้ทำให้ความชื่นชอบของผมกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง นี่อาจเป็นเพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบเรื่องราวสไตล์แบบนี้หรือเปล่า

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:20:37 PM »


ตอนที่ 3 แม้ว่าเธอจะเป็นงานเฉพาะกิจ แต่ผมก็รักเธอ

ตอนที่ 3 จะไม่แสดงความเห็นส่วนตัวแล้วเพราะไม่มีอะไรพูดอีก พูดเพียงตัวละครในเรื่องดีกว่า

ก่อนอื่นนั้นฐานะของหันชิวเป็นจุดสนใจของผู้คน เช่น เขาอยากที่จะเปิดปากเอ่ยถึงฐานะของตัวเอง เขาได้ถือดาบสั้นแล้วบังคับถามผู้ว่าเมือง ผมคิดว่าหากว่าผุ้เขียนได้เพิ่มความดุดันของบุคลิกของผู้แสดงหน่อยก็น่าจะดี เพราะจากตัวของเขาเองนั้น ความรักที่ร้อนนั้นมันแสดงออกมาได้ไม่ค่อยเด่น แต่สำหรับคนคนนี้นั้น ผมเต็มไปด้วยใจแห่งการศึกษาพิจารณา ยังมีเฉินหย่าหยู่ ในตอนนี้นั้น ก็สามารถที่จะมองออกว่าเขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ใส่ชุดขาวรองเท้าขาวแล้วเป็นคนรับส่งโทรสาร จริงๆแล้วตอนหลังยังมีดนตรีที่ประกอบฉากนี้อีกมากมาย บวกกับอารมณ์แล้ว สามารถที่จะทำให้ผู้ชมหายใจลำบากเหมือนกัน

สำหรับหมิงเทาแล้ว จนถึงตอนที่ 3 ไม่สิ น่าจะเริ่มจากตอนแรกเลย ก็สามารถยืนยันได้เลยว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับ T55 เลย เช่น หลี่เสี่ยวเหยียน มีเพื่อนบางคนบอกว่าบทของเขานั้นอาจมีก็ได้ไม่มีก็ได้ น่าจะประเมินมาจากมุมมองของซิ่นหนี แต่ว่าประเด็นของเรื่องนี้นั้น เป็นการบ่งบอกถึงช่วงสมัยที่พิเศษ ผู้ป่วยทางจิตที่ แข็งแรง สง่าคนหนึ่งอย่างหมิงเทา เป็นเรื่องราวที่มีความรักกับหันชิวที่ถูกบังคับเป็นหญิงขายตัว ผู้กำกับเคยกล่าวไว้ว่า “ผมจะใช้ภาพยนตร์เรื่องนี้มาสื่อถึงความรัก วัยรุ่นของสังคมปัจจุบัน ระลึกถึงวันเวลาที่ตกต่ำ เดือนปีที่โหมกระแทกของสังคม และหมิงเทาจะเป็นคนที่จะรักทั้งชีวิตอะไรอย่างนั้น อย่างน้อยวันนี้ในเรื่องนั้น สามารถแสดงออกถึงคนในสมัยนั้นที่โหมกระแทก ก็คือหมิงเทาเอง


หากว่าเพื่อนๆที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มด้วยที่ซิ่นหยีแล้ว เชื่อว่าเมื่อดูจนจบแล้ว ก็จะรู้สึกผิดหวัง เพราะนี่ไม่เพียงแค่เป็นความรักที่เดียงสาเท่านั้น และไม่ใช่เป็นว่าเรื่องราวที่เบื่อหน่ายอย่างซิ่นหยีแน่นอน แต่มันเป็นเรื่องราวความรักในสมัยโบราญกาล ก็เหมือนกับในตอนที่ 3 ที่หมิงเทาพูดว่า “ แม้ว่าเธอจะเป็นคนไม่ปกติทั่วไป แต่ผมเองก็ยังจะรักเธอ” เขาได้เข้าใจว่าจริงๆแล้วจิตใจของเขาต้องการอะไร ใครที่เขารัก เขายืนหยัดในความมั่นใจของเขา ทำในสิ่งทีอยากทำ ไม่เคยกลัวจะมีคนมาว่าเขาบ้าไปแล้ว เขาได้ไปเคาะประตูกลางดึกเพื่อจะซื้อผลไม้ให้กับคนที่เขารัก แล้วได้ไปตามหาตัวของเธอทั่วท้องถนน อาจใช่ที่สมองของเขาอาจมีปัญหา แต่ว่ามีใครกล้าปฏิเสธว่าจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ร้อนแรง ต่อคน ต่อชีวิตของเขา ต่อสังคมภายนอกเขานั้นล้วนมองในแง่บวกเสมอ มีเป้าหมายชัดเจน ฝ่าฝันขนาดไหน เมื่อคนมองเห็นเขา ก็เสมือนมองเห็นความหวัง

จริงๆตอนแรกไม่ได้ดูช่วงหลัง มองเห็นแต่เพียงตอนนี้ หวังที่จะให้นางเองหันชิวนั้นรักเขา เพราะก่อนหน้านี้สามตอนไม่มีเลย จริงๆแล้วทั้งสองฝ่ายต้องรักพร้อมกันถึงจะมีไฟขึ้นมา นี่อาจเป็นเพราะผู้เขียนตั้งใจจะเขียนอย่างนี้ งั้นเราก็จงรอดูต่อไป สำหรับตอนหลังจะมีไฟหรือไม่มีนั้น นั่นเป็นเรื่องของหลังจากตอนที่สามแล้ว ก็จะไม่ขอพูดต่อไปก็แล้วกัน

ตอนนี้มีฉากหนึ่งที่มันเด่น เป็นช่วงที่หลิวซื่อชางสนทนากับหันชิว ก็มีความรู้สึกแต่แรกที่ดูตัวอย่างของภาพยนตร์แล้ว จังหวะที่ตื่นเต้น การสนทนาที่ตื่นเต้น ภาพที่จับอย่างน่าเร้าใจนั้น ทำให้ผู้ชมก็คอยตื่นเต้นไปด้วย


prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:28:19 PM »
จากน้องเอม...บ้านหันเสวี่ย


เซื่นหานชิวเป็นผู้หญิงที่ดูลึกลับ เเต่ฉลาด ตั้งเเต่ที่ครอบครัวยกเว้นพ่อถูกT55ฆ่าก้ออยู่อย่างลำบากมาคนเดียว มีพ่อก้อเหมือนไม่มีจะดีกว่าอะนะเพราะพ่อปฏิบัติกับหานชิวเเบบว่านะ เเละเพื่อที่จะตามหาตัวตนที่เเท้จริงของคนที่ฆ่าครอบครัวเลยไปขอให้เพื่อนพ่อช่วยเเต่ก้อกลับโดนเพื่อนพ่อหลอกเเถมดันต้องจ่ายค่าตอบเเทนเป็นความสาวของตัวเองซะอีกเเหนะ เท่านั้นไม่พออีตาเพื่อนคนนี้บอกช่วย ช่วยพาไปรู้จักคนใหญ่คนโตเพื่อให้คนพวกนี้ช่วยตามหาอีกเเรง เเต่วัวเเก่เขี้ยวหญ้าอ่อนอะ ไม่เพียงไม่ช่วยดันเเบบว่าอะนะ หานชิวโดนถูกบังคับให้เดินเข้าเส้นทางของพวกโสเภณี มีใบประกอบอาชีพนี้อีก ที่ทำไปเพียงเพราะต้องการหาความจริงเท่านั้นเอง โอ๊ยเเม่ใจจะวาย

พอได้งานทำที่โรงงานที่หมิงเทาทำงานก้อโดนตบตี รังแกสารพัดเเถมโดนกล่าวหาว่าตนเป็นสปาย เป็นT55เกือบโดนยิงเป้าเเหนะ หมิงเทาเป็นคนเดียวที่ปกป้องเเละเชื่อในความบริสุทธิ์ของหานชิวมาโดยตลอด ตอนเเรกหมิงเทาเจอหานชิวก้อหลงรักเลยเพราะหานชิวเหมือนกับ หนิงหนิงคนรักเก่าของตัวเอง เเต่ตอนหลังก้อรักในความเป็นตัวของหานชิว เเละก้อนะหมิงเทาหนุ่มไฟเเรง มีความมุ่งมั่นในการทำงาน รักสังคมใหม่ของจีนมีเหรอจะยอมรับได้เรื่องโสเภณีหน่ะ หานชิวปิดบังเรื่องนี้มาโดยตลอดเเถม โดนอีตาเจ้าของโรงงานใส่ร้ายสารพัด กระทั่งถึงต้องเเกล้งทำเป็นไม่ต้องการหมิงเทาเเล้วเพื่อความปลอดภัยของหมิงเทาเองทั้งๆที่รักสุดๆ หมิงเทาเองเมื่อก่อนไปรบก้อมีปัญหาด้านประสาทมาก่อนเเล้วพอเจอเรื่องเเบบนี้เข้าก้อรับไม่ได้ มีการลืมเรื่องทั้งหมดของทั้งสองด้วยเเต่เรื่องอื่นจำได้หมด บวกกับโดนอีตาเจ้าของโรงงานวางเเผนใส่ร้ายเกือบโดนยิงเป้า ดีที่ไม่ตายเเต่ทว่าเรื่องราวต่างกลับดันให้หมิงเทากลายเป็นบ้าไปซะอีก

หมิงเทาเป็นบ้าคนที่คอยดูเเลเเน่นอนหล่ะเป็นหานชิว วันๆทำงานเสร็จก้อกลับมาดูเเล ไม่ค่อยกินไม่ค่อยนอน อ้อมีช่วงนึงที่หมิงเทาเป็นบ้าเเรกๆ หานชิวมาหาที่โรงพยาบาลหานชิวกระอักเลือดเกือบตายเพราะโดนตบตีจนช้ำในบวกกับเจอพระเอกสภาพนี้อีก หานชิวเอาตัวเองเป็นหนูทดลองยาเพื่อที่จะรักษาหมิงเทา สุดท้ายพอหมิงเทาหายเเล้ว เเละกำลังจะรับปากการเเต่งงานของทั้งสอง อีกตาหัวโรงงานมาเปิดเผยเรื่องที่หานชิวมีอาชีพเป็นโสเภณีจนหมิงเทารับไม่ได้ไปขอหลี่เสี่ยวหยวนเเต่งงาน หานชิวเองก้ออายเเละเข้าใจเลยเดินทางจากซูเหลียนหรือซูโจวเพื่อไปหาพ่อที่เรือนจำไปใช้เเรงงานเเทน อันนี้เป็นรายละเอียดคร่าวๆมันมีอะไรอีกเยอะ ตอนหลังเป็นยังงัยต่อต้องดูเองเเล้ว สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก







prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:33:36 PM »

(เย้ออ้าย) เริ่มฉายทั่วประเทศ “สมองเสื่อมไปแล้ว” (คงประมาณว่าได้รับการตอบรับอย่างดูจากผู้ชอบ จนทำให้ใครต่อใคร สมองเสื่อมไปตามๆกัน...อาจจะรันทดไปตามๆกัน)

20 เมษายน  2009

ข่าวบันเทิงซินลั้ง(Sina)  ละครทีวี เย้ออ้าย ได้ดำเนินพิธีเปิดในการจะฉายทั่วประเทศที่สถานนีซูโจวอย่างคึกคัก ในขณะเดียวกันก็ยังมีกิจกรรมเปิดฉากหอสมุดความรักในสถานีซูโจว ผู้กำกับฝ่านเสี่ยวเทียน พระ-นางโหย่วเผิงและหันเสวี่ย ก็มาด้วย

(เย้ออ้าย)เป็นละครทีวีเป็นที่สนใจของคน ไม่นานมานี้มีคนเอาละครเรื่องนี้ไปแอบฉายและแอบไปก๊อปปี้จนทำให้ผู้ถือลิขสิทธิ์รีบที่จะพูดคุยกับสถานีต่างๆเพื่อดำเนินการออกอากาศให้เร็วที่สุด และสิ้นสุดวันนี้ (เย้ออ้าย) นั้นได้เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตสูงถึง 5800 ครั้ง(หุหุ เร็ตติ้งกระฉูด)  ในพิธีเปิดฉายนั้น นอกจากการสนทนากันระหว่างทีมงานละครกับพิธีกรแล้วยังมีกิจกรรมตัวอย่างของละครอีกด้วย ทางผู้กำกับกับนักแสดงก็ได้เปิดเผยข้อมูลขณะทำกิจกรรมมากมาย เพื่อจะให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงบรรยากาศทั้งในจอและนอกจอที่น่าประทับใจ


ผู้กำกับฝ่านเสี่ยวเทียน ตัวละครในเรื่องนั้นยากจะหาคนมาแทน

ก่อนอื่นทางผู้กำกับได้แสดงความเห็นว่า ในละครเย้ออ้ายนั้น มีนักแสดงที่โด่งดังซึ่งไม่น้อยกว่าสิบคน สำหรับพระเอกและนางเอกของละครนั้นแสดงโดย ซูหมิงเทากับ เซิ่นหันชิว

และผู้กำกับยังได้ประเมินการแสดงอีกว่า เขาใช้เวลาเป็นอย่างมากและครั้งแล้วครั้งเล่าในการคิดที่จะหานักแสดงเอกมาแทน ซูหมิงเทากับเซิ่นหันชิว แต่ว่า เมื่อดูบทอารมณ์ของซูหมิงเทา(โหย่วเผิงรับบท) ไม่ว่าจะเป็นด้านความสง่าผ่าเผย ความนิ่งเงียบอารมณ์เศร้า หรือแม้แต่ความบ้าระห่ำ...

และบทของเซิ่นหันชิว (หันเสวี่ยรับบท)ที่มีอารมณ์ความรักความทุกข์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งยังไม่สามารถกระทบกระเทือนได้นั้น บวกกับความเวทนาที่อยากจะแก้แค้นแต่ไม่รู้ว่าศัตรูนั้นอยู่ที่ไหนนั้น ความมุ่งมั่นที่แม่ตายก็ไม่ยอมลามืออย่างนั้น

ฟ่านเสี่ยวเทียน พูดอย่างไม่ลังเลว่า “ผมรู้ว่าผมไม่สามารถที่จะไปหาคนอื่นมาแทนพวกเขาได้ ไม่ใช่ว่าฝีมือการแสดงของศิลปินท่านอื่นไม่ดี ไม่โดดเด่น แต่เป็นเพราะในใจผมนั้นคิดว่าบทอารมณ์ของซูหมิงเทากับเซิ่นหันชิว นั้นใช่เลยที่โหย่วเผิงกับหันเสวี่ยได้สะท้อนออกมาอย่างดีมาก ก็เหมือนละคร(อังสงเปิ่นเซ่อ)กับซินหลงเหมินเค่อเสี่ยน)นั้นที่เสี่ยวหม่าเกอกับจิงไน้อี้ได้แสดงออกมาโดยหาใครมาแทนก็คงไม่ได้อารมณ์อย่างนั้น (อ่านแล้วภูมิใจแทนโหย่วเผิงและหันเสวี่ยมากๆค๊ะ ผู้กำกับชอบเอ๊าชอบเอา)


พระเอกโหย่วเผิง คนบ้าคนนี้สุดระห่ำ

ในเรื่องนั้น โหย่วเผิงแสดงเป็นซูหมิงเทาซึ่งเป็นคนที่ป่วยทางจิตที่สง่าคนหนึ่ง เป็นคนที่สมองไม่ดี เขาเล่าว่าขณะที่ถ่ายทำนั้น ก็มักจะไปคิดจิตนาการณ์ดูว่าสภาพอารมณ์ของหมิงเทาในตอนนี้น่าจะเป็นอย่างไร เจ็ดส่วนบ้าสามส่วนปกติหรือเจ็ดส่วนปกติสามส่วนบ้า บางครั้ง แม้กระทั่งตัวเองก็ยังไม่ชัดเจนเลยว่าตัวเองกำลังเป็นโหย่วเผิงหรือว่าหมิงเทา (555+) รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะไม่ปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าสมองของผู้กำกับฝ่านนั้นบางทีก็จะเปรอ ๆๆ ในตัวผู้กำกับเองบางอย่างก็เหมือนกับหมิงเทาอีกด้วย ผู้แสดงที่เข้าฉากกับเขามากที่สุดอย่างหันเสวี่ยกับคนอื่นนั้นก็ได้ให้ความช่วยเหลือกับเขาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาย้อนมองดูผลงานแล้ว มันมีความรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าเขาใช้เวลาอันสั้นๆสองเดือนนี้สามารถแสดงอารมณ์ความรุ้สึกของหมิงเทาออกมาได้ “ผมรู้สึกว่ามันสนุกมาก โหดด้วย นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน และน่าจะเป็นสิ่งที่ผมจะแสวงหาในอนาคต” โหย่วเผิงกล่าว (อ๊ากกกกกกก เพิ่มความอยากดูมากๆ)

นางเอกหันเสวี่ย หนึ่งเรื่องเหมือนสิบเรื่อง (สาวกหันเสวี่ยเห็นด้วยมั้ย)

ในเรื่องนั้น หันเสวี่ย รับบทเป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกแข็งและสับสนในชีวิต เธอกล่าวว่า ที่ผ่านมาละครที่เธอแสดงนั้นล้วนเป็นประเภทหญิงสาวเพื่อนบ้าน มีรอยยิ้มที่จืดๆ บุคลิกที่เรียบๆ แต่เย้ออ้ายในครั้งนี้นั้น ในใจของเธอนั้นมีทั้งไฟและน้ำแข็งมารวมกัน ต่อหน้าคนที่รัก เดี๋ยวหัวเราะก็เปลี่ยนเป็นร้องไห้  “อารมณ์ของละครเรื่องนี้นั้น ฉันจำเป็นต้องปรับอารมณ์ทั้งหมดของอวัยวะในร่างกาย มิฉะนั้น ฉันก็จะไม่สามารถแสดงอารมณ์ของเซิ่นหันชิวออกมาได้ พูดจริงๆ การทุมเทอารมณ์ความรู้สึกต่อละครเรื่องนี้นั้น มันเยอะแยะมากกว่าละครที่ฉันเคยแสดงมาทั้งสิบเรื่องมาร่วมกัน เนื้อเรื่องกับตัวบทละครนี้เป็นบทที่ฉันชื่นชอบที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยได้รับบทมา ก็เหมือนกันกับโหย่วเผิง ฉันเองก็ไม่กล้าเชื่อเหมือนกัน ฉันแสดงผ่านมาได้ไงก็ไม่รู้”  แล้วเธอยังกล่าวต่ออีกว่า “มันอาจจะเป็นอย่างที่ผู้กำกับฝ่านได้เคยพูดไว้ว่าสมองเขาไม่ดีแล้ว มิเช่นนั้นแล้วเนี่ย เขาจะมาสร้างละครที่พิเรนอย่างนี้ได้อย่างไร

ละคร ตั้งแต่ 4 เมษายนนั้น  27 ตอนนั้นได้ทยอยออกอากาศตามสถานี ยูนาน, จี่หลิน, ซูโจว เสียซี,เป็นต้น




ภาพงานโปรโมทซีรีย์-เย้ออ้าย ที่ซูโจวค๊ะ ผู้กำกับ-ฟานเสี่ยวเทียน, ซูโหย่วเผิ ง และ หันเสวี่ย









prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:39:38 PM »
2009-4-21 8:52:00 


(เย้ออ้าย) จะออกอากาสทางสถานีหยูนานในวันที่ 24  วันนี้โหย่วเผิงไปโปรโมทที่เมืองคุนหมิง

เวลาที่แถลง 20 เม.ย. 2009

หนังเรื่อง(เย้ออ้าย)ที่นักแสดงพระเอกโหย่วเผิงกับนางเอกหันเสวี่ย ได้แสดงนั้นจะเริ่มออกอากาสในวันที่ 24 ของสถานีหยูนานทุกวันและวันละสามตอน ละครเรื่องนี้นั้นได้แตกต่างจากละครเรื่องเดิม จะออกแนวไปทางของนักจิตวิทยาคนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นสงครามจิตวิทยา และสามารถจะเห็นได้ถึงการเปิดเผยออกมาของคนในท้องถิ่น สามารถที่จะกล่าวได้ว่าละครเรื่องนี้จะเป็นละครจิตวิทยาเรื่องแรกของจีน วันนี้โหย่วเผิงพระเอกในละครจะไปโปรโมทเริ่มออกอากาศ  ละครเรื่องนี้ที่เมืองคุนหมิง ครั้งนี้นั้นโหย่วเผิงได้แสดงในแนวที่ต่างจากอดีตที่รับแต่บทที่ภาพลักษณ์ดีมากลายเป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคจิต ได้รักกับเสิ่นหันชิวที่รับบทโดยหันเสวี่ยอย่างลืมตาไม่ขึ้น ได้รับความสับสนจากความบ้าคลั่ง ความรัก ความระแวงหลายอย่างนั้น โหย่วเผิงแสดงบทความรักที่สับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกอย่างนี้ได้เป็นอย่างดี และทีมงานต่างก็ทึ่งและชมเชยการแสดงของเขา แม้กระทั่งผู้กำกับฝ่านยังหยุดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชม “จากผลงานของเขามันกล่าวแก่ผมว่า เขาเป็นคนที่มีสปีริตจริงๆ”

20  เม.ย.  2009 รายงานข่าวจากสถานียูนาน . 24เม ย สถานียูนานจะออกอากาสละครเย้ออ้ายที่โหย่วเผิงและหันเสวี่ยได้แสดงเพื่อผู้ชมทุกท่าน

จากเจ้าชายในวังเป็นเป็นผู้ป่วยทางจิต จากภาพลักษณ์เจ้าหญิงสลัดมาเป็นหญิงสาวบ้าคลั่ง โหย่วเผิงกับหันเสวี่ย ได้ลสัดภาพลักษณ์เก่าในละครเรื่องเย้ออ้าย ได้ร่วมแสดงเรื่องที่ผิดปกติบวกกับความรัก ละครเรื่องนี้นั้นได้เอ่ยถึงสมัยเริ่มแรกของการสร้างราชอณาจักร หนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่รักในสังคมนิยมได้ทำลายอำนาจ ได้มีการประลองกำลังทั้งในที่มืดและที่แจ้ง นางเอกหันเสวี่ยที่ลสัดคราบของความเป็นผู้มียศศักดิ์รับบทเป็นหญิงโสเภณี เซิ่นหันชิวที่สูงศักดิ์ หนักแน่น อารีย์ ไม่เพียงแต่จะได้รับหน้าที่ในการต้องไปทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ยังต้องมีฉากที่ไปมีความรักที่ทั้งสูขทั้งน้ำตากับหมิงเทาที่โหย่วเผิงรับบทอย่าง ในเรื่อง ทั้งสองคนล้วนมีผลงานที่ดี จนได้กลายเป็นจุดสนใจของทั้งเรื่อง มันคุ้มค่าแก่การรอคอยจริงๆ


prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:42:59 PM »
2009-04-21  8:52:00


โหย่วเผิงจะเป็นคนสายฟ้าแลบถึงที่สุด

รายงานข่าว รวมพล ดาราดังจากละครเย้ออ้ายทั้งหมด 27 ตอนอย่างโหย่วเผิง หักแส เฉิงหลงและแสเจียหนีเป็นต้น จะออกอากาศทั่วประเทศในวันที่  24  จากสถานียูนาน เมื่อวาน พระเอกของละครเรื่องนี้ได้ไปโปรโหมดที่เมืองคุนหมิง ขณะให้สัมภากษ์จากสื่อนั้น ได้ยินเสียงจากนักข่าวบางคนบอกว่าเขาใน(อ้ายฉิงฮูเจี้ยวจ้วนหยี  2)นั้นเขาได้ได้มีการเปลี่ยนแปลงบทไปมาก มันเป็นเหมือนมนษย์สาฟ้าแลบ โหย่วเผิงกล่าวอย่างขำๆว่า “ต่อไปผมก็จะไม่หยุดในการที่จะเป็นคนฟ้าแลบ จะท้าทายการยอมรับของแฟนๆ”

บ่ายวานนี้ เนื่องจากเครื่องลงช้ากว่ากำหนด กิจกรรมระหว่างโหย่วเผิงกับแฟนๆที่ได้นัดหมายกันในช่วง 4โมงกลับถูกเลื่อนออกไป จนถึง 5 โมงเย็น โหย่วเผิงที่แต่งตัวสบายๆก็ได้โผล่ออกมา ทันทีที่เขาปรากฎตัว ทำให้กล้องทุกตัวนั้นโฟกัสไปที่ตัวเขา แม้ว่าเวลานัดหมายนั้นจะช้าไปชั่วโมง แต่เสียงปรบมือเสียงกรี๊ดที่แฟนๆมาต้อนรับเขานั้นยังคงเสียงดังมาก ในงานนั้นส่วนมากจะมีแต่แฟนหนังที่เป็นสาวๆ และยังมีแฟนๆรุ่นวัยกลายคนที่มากจากก่วงโจว ฮ่องกง ได้ยินเสียงที่พวกเขาพร้อมใจกันตะโกนว่า “ จะอดีตหรือปัจจุบัน รักโหย่วเผิงที่สุด” ทำให้โหย่วเผิงซึ้งใจเป็นอย่างมาก ขณะที่สัมภาษณ์นั้น เพื่อทำการเรียกร้องของแฟนๆโหย่วเผิงได้ร้องเพลงประกอบของเย้ออ้ายสดๆให้แฟนๆฟัง เสียงร้องของเขานั้นทำให้แฟนๆกรี๊ดกันสะนั่น

ทีวี .  ผู้ป่วยโรคจิต มันเปลี่ยนภาพลักษณ์จากฟ้าเป็นดินเลย

พูดถึง(เย้ออ้าย) โหย่วเผิงได้แนะนำว่า มันเป็นบทที่ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาที่เป็นแต่ผู้ดีสว่าผ่าเผย ในเรื่องนั้นตัวเองก็รับบทเป็นหมิงเทาที่เป็นโรคจิตที่หลากหลายอารมณ์หน้าตา อารมณ์นั้นมันต่างกันเยอะมาก บางครั้งเขาได้เปลี่ยนเป็นฉิงหลันซึ่งเป็นนิยายในสมัยโบราณ อารมณ์ความรักที่ซึ้งใหญ่ดังทะเล  บางครั้งก็หน้าตาสกปกมอมแมม อาการแสดงออกที่น่ากลัว เป็นภาพคนโรคจิตกำเริบสุดๆอย่างนั้น เอ่ยถึงตัวละครต่างๆของเรื่อง โหย่วเผิงได้กล่าวว่า “ นี่เป็นผู้ป่วยทางจิตเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในร่างกายนั้นมีอาการทางจิตที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าเขาได้ซื่อสัตย์ต่อศาสนาและความรักอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้กำกับฝ่านเรียกเราว่า “ผู้ป่วยทางจิตที่สง่าผ่าเผยคนหนึ่ง” ถามว่าการรับบทครั้งนี้นั้นมันเป็นอะไรที่ต่างกันแบบฟ้ากับดินเลย ไม่กลัวที่จะกระทบต่อภาพลักษณ์ที่อยู่ในใจของแฟนๆหรือ? โหย่วเผิงส่ายหัวแล้วพูดอย่างยิ้มว่าไม่กลัว “คงจะมีแฟนๆบางคนไม่เคยชิน จะมีเสียงตอบกลับมาบ้าง แต่ก็จะมีบางคนที่เห็นถึงความพยายามของผม และจะให้กำลังใจผมต่อไป”

ที่ผ่านมาก็ไม่มีตัวละครอย่างหมิงเทาให้ดูหรือให้เป็นแบบอย่าง  ฉะนั้นโหย่วเผิงก็ได้แต่เพียงไปสอบถามหมอ เข้าอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลที่เกียวกับคนเป็นโรคจิต ไปสัมผัสและเข้าใจถึงคนที่ป่วยทางจิต ในเรื่อง ขณะที่เขาแสดงบทของหมิงเทาตอนที่เข้าร่วมทหารกับรัสเซียได้เจอการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ และทำให้บุคลิกของเขาหักแหไป จนทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพที่สามส่วนปกติเจ็ดส่วนบ้าหรือเจ็ดส่วนปกติสามส่วนบ้าอย่างนั้น และจากตรงนี้ก็ทำให้โหย่วเผิงนั้นต้องเจอกับความลำบากมากมาย “บางครั้งผมอิงกับการแสดงมากเกินไป จนทำให้ตัวเองนั้นสับสนไปหมด ทั้งตัวแสดงบุคลิกอาการของคนบ้าออกมา”

ภาพยนตร์ เฟิงเซิง ยังท้าทายกับการยอมรับของผู้ชมต่อไป

จากฐานะของนักร้องที่เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างโหย่วเผิง ระยะนี้ได้เปลี่ยนทิศทางการงานเน้นไปทางการแสดงภาพยนตร์เป็นหลัก ช่วงก่อนมีข่าวว่าโหย่วเผิงได้เข้าไปที่ห้องบันทึกการขับร้องเพลงไปบันทึกเพลงอัลบั้มใหม่ ทำให้เป็นที่รอคอยของแฟนเพลงเป็นจำนวนมาก สำหรับเรื่องนี้ เมื่อวานโหย่วเผิงยืนยันว่า การที่ตัวเองได้เข้าไปอัดเสียงในห้องนั้นเป็นเพียงการร้องแค่เพลงเดียวเท่านั้น และเพลงเดียวนี้จะออกมาในเร็วๆนี้ด้วย

โหย่วเผิงบอกว่าตัวเองนั้นไม่ได้รับงานแสดงเกือบสองปีเต็มเลย เหตุผลก็คือเพราะตัวเองนั้นไม่ชอบกับบทที่ต้องแสดงแบบสไตล์จำเจมาตลอด บทที่จำเจนั้นไม่ได้นำสีสันมาสู่ตัวเองเลย  “ฉะนั้นผมเองก็ได้รอคอยมาตลอด จนได้มาเจอบทที่วิปลิตอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าโอกาสนั้นมาแล้ว สามารถที่จะสำแดงความสามารถที่ซ่อนอยู่แล้ว” บทของหมิงเทานั้นโหย่วเผิงเข้าใจว่าเป็นบทที่ “ตั้งแต่รับงานแสดงมานั้นบทนี้เป็นบทที่ความยากมากที่สุด” นอกจากนี้ เขาเองยังกล่าวว่าอนาคตนั้นยังจะท้าทายความรู้สึกในภาพลักษณ์ของเขากับผู้ชม เขายังยกตัวอย่างเฟิงเซิงที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น “ในเรื่องนั้นผมก็ยังรับบทที่มันแปลกๆ พิเรนๆ พวกหัวแข็กเป็นต้น เมื่อผู้ชมได้เห็นถึงบทบาทแล้วคงตลึงไม่น้อยเลย”



prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 04:48:05 PM »

โหย่วเผิงและหันเสวียพูดขำๆว่าช่วงเวลาการถ่ายนั้นเหมือนกับการร้นหาที่ตาย

เป็นครั้งแรกที่โหย่วเผิงได้สลัดคราบพระเอกมาแสดงเป็นคนบ้า เป็นกุลสตรีที่ฝังอยู่ในจิตใจของคนมากมายอย่างหันเสวียนั้นยิ่งที่จะรับบทที่ท้าทาย และเรื่อง(ก่อปี้หมู่ชิน)ที่จ้างจินแสดงนั้นตอนนี้ได้เปลี่ยนไปรับบทงานเฉพาะกิจที่บ้าระห่ำ (เย้ออ้าย) ตัวละครหลักสามตัวนั้นล้วนมีการเปลี่ยนบทบาทที่เป็นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และพวกเขา ได้อธิบายบทบาทที่ตัวเองแสดงนั้นอย่างไร


โหย่วเผิง :  พระเอกเสี่ยวเซิงได้เดินสู่เส้นทาง “คนบ้า”คนหนึ่ง

ในเรื่อง(เย้ออ้าย)โหย่วเผิงได้รับบทเป็นหมิงเทาที่ป่วยเป็นโรคจิต ในเรื่องนั้นโหย่วเผิงที่หล่อเหลานั้นได้แต่งตัวมอมแมม เชื่อว่าหลายคนดูแล้วก็จะตกใจ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนพูดว่า บทบาทนี้เป็นเส้นทางที่โหย่วเผิงเปลี่ยนจากภาพพระเอกมาสู่ภาพแห่งความเป็นผู้ใหญ่ แต่ว่าโหย่วเผิงก็มีมุมมองความเห็นที่แตกต่างออกไป เขาได้กล่าวว่าจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ที่ดีหรือไม่ดี “ผมเป็นคนหนึ่งที่แสวงหาการเปลี่ยนแปลง บทนี้นั้นสำหรับผมแล้วมันเป็นการท้าทาย แต่ว่าพูดว่าเป็นการทะลุทะลวงจากพระเอกเปลี่ยนเป็นบทร้ายอย่างนี้นั้นมันเป็นการพูดที่น่าขำและผิวเผินไปหน่อย” และสำหรับการแสดงออกถึงความท้าทายในครั้งนี้นั้น โหย่วเผิงกล่าวว่า สำหรับตัวเองแล้วยังถือว่าน่าพอใจมาก

“ไม่ขึ้นอยู่กับปัญหาของการเปลี่ยนแปลง”

นักข่าว : มีคนบอกว่า (เย้ออ้าย)เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอาชีพการแสดงคุณ จากภาพลักษณ์พระเอกเปลี่ยนเป็นชายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

โหย่วเผิง : ไม่ขึ้นอยู่กับปัญหาของการเปลี่ยนแปลงมั้ง ผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นศิลปินที่แสวงหาการเปลี่ยนแปลง บทของพระเอกนั้นได้แสดงจนถึงจุดสูงสุดไปแล้ว และอยากจะท้าทายบทบาทอื่นที่น่าสนใจ ไม่อยากจะซ้ำๆซากๆ


นักข่าว : ยังไงก็ยากที่จะคิดภาพของคุณในเรื่องที่เปลี่ยนไป ตลอดเวลาทีผ่านมานั้นคุณให้ภาพกับทุกคนคือชายผู้ไม่มีวันแก่


โหย่วเผิง :  (หัวเราะ) ตอนนี้จะมีการแตกต่าง ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองแก่แล้ว โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และอายุก็วางอยู่ตรงนั้นแล้ว ผมยอมที่จะชราไปตามอายุ และผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็มีอายุประมาณนี้แล้ว

นักข่าว :  มีคนบอกว่า บทคนบ้าของคุณครั้งนี้นั้นแสดงจนตีบทแตกเลย ได้เปลี่ยนภาพอดีตที่คงอยู่ในดวงใจของทุกคนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลย

โหย่วเผิง :  จริงๆแล้วผมรู้สึกว่าการพูดอย่างนี้นั้นมันน่าขำและผิวเผินมาก การเป็นนักแสดงคนหนึ่งนั้น ผมไม่ได้ใส่ใจว่าจะเป็นเพียงภาพลักษณ์ที่เป็นเฉพาะพระเอกเท่านั้น หรือจะเป็นเพียงคนดีๆอะไรอย่างนั้น ผมคิดว่าการแสดงเป็นคนบ้านั้น จุดสำคัญไม่อยู่ที่การสร้างภาพแต่เป็นความรู้สึกที่ออกมาทางสายตา

“บางครั้งผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้ว”


นักข่าว : เมื่อกี้คุณบอกว่าบทคนบ้านั้นมันท้าทายมาก ได้ข่าวว่าเพื่องานนี้แล้วคุณยังไปศึกษาที่โรงพยาบาลโรคจิตช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนหน้านี้คุณเคยรู้สึกกดดันกับการแสดงเป็นคนบ้าไหม?

โหย่วเผิง : ก่อนจะถ่ายนั้นได้ทำการบ้านมาบ้าง ความกดดันนั้นก็มีอยู่บ้าง ก็ตอนนั้นก็ได้คิดไว้ว่าจะพลิกแพลงวิธีไปตามเหตุการณ์ เมื่อถึงเวลาก็คลั่งบ้า จะกลัวอะไร?

นักข่าว  : ขอพูดบทของคุณให้ชัดเจนคร่าวๆได้ไหม


โหย่วเผิง :  นี่เป็นบทบาทหนึ่งที่มีความหมายมากๆ สังคมวัฒนธรรมยุคนั้นพิเศษมาก ตัวบทเองก็น่าสนใจน่าตื่นเต้น การบ้าคลั่งของมันก็มีหลายขั้นเหมือนกัน มันซับซ้อนไม่น้อยเลย จริงๆแล้วเขาเป็นวัยรุ่นที่ใจร้อน แต่เด็กก็มีอาการทางจิตแล้ว ได้กำเริบที่รัสเซียครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ได้เกิดเรื่องบางอย่างที่รัสเซีย หญิงสาวที่ตนรักนั้นถูกใส่ร้ายว่าเป็นฝ้ายตรงข้าม และนี่ก็ยิ่งทำให้โรคของเขานั้นหนักขึ้น เมื่อเขากลับมาในประเทศตัวเองใหม่ๆ ก็เป็นช่วงที่ได้เห็นที่ตี่ผิ่ง แม้ว่าเขามีโรคจิตในตัวเขาแล้ว แต่ดูผิวเผินแล้วเขาเป็นคนปกติทั่วไปที่มีความสง่า ไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่นเลย จากนั้นถูกเรื่องบางอย่างกระทบจิตใจ ก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย ตอนหลังก็ถูกแฟนทิ้งและถูกกดดันจากการเมือง ก็ได้บ้าคลั่งขึ้นมา ในโรงพยาบาลนั้นได้โรคได้กำเริบอย่างหนัก ตอนหลังก็ได้หลบออกมาจากโรงพยาบาล ได้เร่ร่อนพเนจรไปทั่วสารทิศ เป็นผู้ป่วยทางจิตที่มีสติคนหนึ่ง จนกระทั่งหันชิวเจอเขาได้ไปรักษาโรคที่บ้านแล้ว ลักษณะของเขานั้นเปลี่ยนไปจนหมด ตอนหลังเขาได้แต่งงานกับหญิงอื่นและเป็นพ่อคน และก็สงบลงไปเยอะมาก ไม่มีอะไรที่แบบอารมณ์ร้อน

นักข่าว : คุยเคยบอกว่าทั้งเรื่องนั้นคุณได้แสดงในอารมณ์ที่บ้าๆบอๆอยู่ตลอดเวลา?

โหย่วเผิง :  (ฮ่าๆๆ) ผมคิดว่าผมเข้าใจพวกเขา เวลาที่ใจลอยนั้นผมก็รู้สึกว่าผมนั้นบ้าไปแล้วจริงๆ ก็คงไม่ได้เป็นอย่างนี้จนหมดเรื่อง แต่ว่าในบางฉากนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนบ้าเลยแหล่ะ ตอนนี้ย้อนหลังมาดูฉากที่ตัวเองเล่นไปแล้วนั้น อารมณ์สายตาของคนบ้า แม้แต่ตัวเองก็ยังตกใจเลย ว่าตอนนั้นผมเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

นักข่าว :  ได้ข่าวว่าคุณอินกับมันมากจนนอนไม่หลับบ่อยๆ

โหย่วเผิง : ตอนนั้นทั้งคนได้กลายเป็นแบบประสาท ตอนที่ถ่ายเสร็จใหม่ๆนั้นก็ยังไม่ลืมมัน สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ ตอนนั้นพอดีไปหาผู้กำกับเกาเฉียนซู เขาประหลาดใจผมมากๆว่าทำไมผมไม่เหมือนคนเก่า ก็เพราะโดยเหตุนี้เอง ตอนหลังเขาจะทำหนังเฟิงเซิง สิ่งแรกที่เขาคิดถึงก็คือโหย่วเผิงที่บ้าๆบอๆ (หัวเราะ)ผมเองก็ดีใจที่เขาเองได้มองเห็นจุดนี้ของผม




Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2011, 01:50:45 PM »
一九五几 热爱插曲
http://v.youku.com/v_show/id_XMTcxNjA1OTg4.html

花依旧还是月依旧 春花秋月青衫袖
月依旧还是人依旧 岁月在楼头挥挥手
山悠悠还是水悠悠 青山绿水自风流
水悠悠还是船悠悠 谁在桥头再回首

mp3
http://music.sina.com.cn/yueku/m.php?id=1184505&FLAG_ADDLIST=0&coFlag=100013

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 2008 Re Ai
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2014, 05:15:55 PM »