ผู้เขียน หัวข้อ: 07. [2543] เดชเซียวฮื้อยี้ รับบทฮวยบ่อฮ่วย  (อ่าน 48936 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 11:59:57 AM »
http://tieba.baidu.com/p/1012668463?pn=1



รูปอยู่ที่ scanbymoon

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 04:38:36 AM »

พึ่งดูเรื่องนี้จบ กำลังอินได้ที่  บ่อข่วย แปลว่า  ไม่ขัดสน

แต่ทำไมเจ้าขัดสน ขัดสนๆๆๆๆ

รักบ่อข่วยจัง เรื่องนี้โหย่วเผิงหล่อมากกก หล่อโฮก เลย

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 06:41:41 AM »
<a href="http://www.youtube.com/v/mYYawEaTjhg&amp;feature=player_embedded" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/mYYawEaTjhg&amp;feature=player_embedded</a>

Dao Cao Ren (稻草人)

Jimmy Lin
(Ost.เดชเซียวฮื่อยี๊ / The Legendary Siblings)

Dao Cao Ren (稻草人)
http://www.yymp3.com/play/146/779.htm

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:30:00 PM »
scanbymoon

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:31:00 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:31:12 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:31:22 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:31:47 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:32:00 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:32:14 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:32:28 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:33:05 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:33:29 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 12:33:38 PM »

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 11:08:35 AM »

เดชเซียวฮื่อยี้ ตอนที่1

ในยุทธจักรไม่มีใครไม่รู้จักกิตติศัพท์ของ"เทพบุตรหน้าหยก"กังปัง และจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ อี่น่ำที!

เนื่องจากตามเสียงล่ำลือไม่มีใครต้านทานยิ้มเสน่ของกังปังได้ และไม่มีใครต้านทานเพลงกระบี่ของอี่น่ำทีได้เช่นกัน เพลงกระบี่ของอี่น่ำทีสามารถเด็ดหัวแม่ทัพท่ามกลางเหล่าทหารนับพันนับแสน ส่วนยิ้มเสน่ห์ของกังปังก็สามารถขยี้หัวใจของดรุณีเป็นผุยผง อาจเป็นเพราะมีหญิงสาวที่หัวใจสลายและคนที่ตายเพราะคมกระบี่ของพวกเขาเป็นจำนวนมาก สุดท้ายจึงกลายเป็นโศกนาฏกรรมในบู๊ลิ้ม


ย้อนเวลากลับไปเมื่อ20กว่าปี "เหยาเยี่ย"ประมุข"วังเคลื่อนบุปผา" หญิงสาวหน้าตางดงาม ได้มอบหัวใจให้กับ"อี่น่ำที" โดยไม่เผื่อความผิดหวังเอาไว้เลย ด้วยความที่รักมากความแค้นจึงมากเท่าทวีคูณ เมื่อถูกอี่น่ำทีปฏิเสธรัก เหยาเยี่ยจึงเกลียดผู้ชายนับแต่นั้น นางฆ่าผู้ชายทั่วหล้าเพื่อระบายความแค้นที่มีต่ออี่น่ำที ที่นางอาฆาตแค้นไว้ว่าจะต้องทำให้เขาเสียใจจนกระอักเลือดนางให้จงได้ เหยาเยี่ยฝึกวิชา"หยกหิมะ"ซึ่งเป็นวิชามารจนเกือบบรรลุถึงขั้นสูงสุด ระหว่างที่นางกำลังฝึกวิชา...

วันหนึ่ง กังปังน้องร่วมสาบานของอี่น่ำทีถูกคนชั่วทำร้าย ในช่วงเวลาคับบขันเขาได้รับการช่วยเหลือจาก"เลี่ยงแช"ประมุขรองของ"วังเคลื่อนบุปผา" นางนำกังปังไปพักรักษาตัวอยู่ที่วังเคลื่อนบุปผา แม้ช่วงเวลาที่พบกันจะไม่นาน แต่ก็ทำให้เลี่ยงแชหลงรักกังปังมาก นางคิดถึงเขาทุกลมหายใจนึกไม่ถึงว่ากังปังกลับไปหลงรัก"เยี่ยหนู" สาวใช้ในวังที่คอยดูแลปรนนิบัติเขา หลังจากหายเป็นปกติ กังปังจึงหนีออกจากวังเคลื่อนบุปผาพร้อมกับเยี่ยหนู เขารู้ดีว่าในหล้านี้มีคนเดียวที่จะคุ้มครองเขาให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเหยาเยี่ยได้ คนคนนั้นคืออี่น่ำที เขาจึงนัดพบกับอี่น่ำทีในวันขึ้น 15ค่ำเดือน8 ที่ดอยกุนซัน

อีกด้านหนึ่ง...อี่น่ำทีก็เร่งรีบเพื่อไปพบกับกังปังทิ่นัดหมาย ระหว่างทางได้พบกับเจ้าคุ้มภัยอุยเอี๊ยงโดยบังเอิญ เนื่องจาก12นักษัตรออกปล้นสะดมทรัพย์สิน เขาจึงขอให้อี่น่ำทีช่วยเหลือและจะมอบทองหนึ่งตำลึงเป็นรางวัล แต่อี่น่ำทีปฏิเสธเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของกังปัง

นึกไม่ถึงว่าเป็นเพราะ"กังคิ้ม"บ่าวรับใช้ของกังปัง เป็นคนทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง จึงหักหลังกังปังด้วยการไปส่งข่าวบอกเส้นทางให้กับอี่น่ำที ทำให้อี่น่ำทีคลาดเวลาการนัดหมายกับกังปัง


พลันที่ได้ข่าวว่ากังปังและเยี่ยหนูออกจากวัง แม้จะเสียใจเพียงใดแต่เลี่ยงแชก็ยังมีใจเมตตา นางพยายามให้ความช่วยเหลือคนทั้งคู่ ในขณะที่เหยาเยี่ยสาบานว่าจะต้องฆ่าพวกเขาให้ได้ กังปังถูกกังคิ้มให้ร้ายจนเกือบถูก12นักษัตรฆ่าตาย แม้เลี่ยงแชมาช่วยไว้ได้ทัน นางฆ่า12นักษัตรตายไปหลายคน แต่ชะตาลิขิตให้ทั้งคู่หนีความตายไม่พ้น เมื่อเหยาเยี่ยมาถึงนางไม่ละเว้นชีวิตของกังปังและเยี่ยหนู ก่อนตายเยี่ยหนูได้ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝดคู่หนึ่ง และกังปังได้มอบกระพรวนให้กับลูกชายทั้งสองของเขาไว้คนละอัน

แต่แรกประมุขวังเคลื่อนบุปผาตั้งใจจะฆ่าลูกชายฝาแฝดของกังปังและเยี่ยหนู นางตวัดกระบี่ลงไปที่เด็กน้อยคนหนึ่งแล้ว แม้จะยังไม่กดลึกจนกระชากวิญญาณเด็กน้อยออกจากร่าง แต่คมกระบี่ก็เฉี่ยวเนื้อที่แก้มข้างซ้ายเด็กน้อยคนนั้นจนโลหิตไหลซึมออกมา ด้วยผลของคมกระบี่เช่นนั้นเชื่อว่าหากเด็กน้อยคนนี้โตขึ้น เขาจะต้องมีรอยแผลเป็นติดตัวตลอดไปแน่ คมกระบี่ของเหยาเยี่ยหยุดยั้งลงได้ด้วยใจเมตตาขงเลี่ยงแช นางพยายามถ่วงเวลาให้เด็กน้อยสองคนตายช้าที่สุด ด้วยการออกอุบายกับประมุขเหยาเยี่ย ว่าให้แยกพี่น้องสองคนออกจากกัน วังเคลื่อนบุปผานำเด็กไปเลี้ยงคนหนึ่งแล้วฝึกยุทธให้ ส่วนอีกคนหนึ่งให้อี่น่ำทีนำไปเลี้ยงและฝึกยุทธให้เช่นกัน

แล้วอีก20ปีให้หลัง ให้เด็กทั้งสองฆ่าฟันกันเองต่อหน้าอี่น่ำที! เพื่อเป็นการระบายความแค้นในใจ เพราะหากอี่น่ำทีรู้ว่าลูกชายฝาแฝดของร้องร่วมสาบานของเขาฆ่ากันเอง เขาต้องเจ็บปวดจนกระอักเลือดแน่ เหยาเยี่ยแม้จะรู้ว่าอุบายที่เลี่ยงแชคิดขึ้นนี้เป็นเพราะต้องการยืดเวลาการตายของสองเด็กน้อย แต่นางก็เห็นด้วย และจัดการแยกเด็กชายไปเลี้ยงดูหนึ่งคน ส่วนอี่น่ำทีเมื่อมาถึงจุดนัดพบช้ากว่ากำหนด และได้เห็นภาพการตายของกังปังกับน้องสะใภ้ อี่น่ำทีเสียใจยิ่งนัก เขาประกาศจะฆ่ากังคิ้ม และถล่มวังบุปผาให้จงได้

อี่น่ำทีกระเตงทารกน้อยตามหากังคิ้ม เขาเข้าใจว่ากังคิ้มหนีไปซ่อนตัวอยู่ใน"หุบเขาคนโฉด"จึงอุ้มทารกน้อยเข้าไปในหุบเขาเพื่อจะแก้แค้นแทนกังปัง ทว่า กลับถูกสี่คนโฉดในหุบเขาคนโฉดทำร้ายจนสูญสิ้นวรยุทธ กลายเป็นคนพิการ สี่คนโฉดเห็นเด็กน้อยที่รอดจากความตายจึงตั้งชื่อให้ว่า"เซียวฮื่อยี้" ที่แปลว่า ลูกปลาน้อย...

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 11:12:09 AM »

เดชเซียวฮื่อยี้ ตอนที่ 2

เซียวฮื่อยี้ในวัยเด็กได้รับการสั่งสอนจากห้าคนโฉด"โต่วสั่ว"ฉายามือโลหิต "ลีตัวฉุ่ย"กินเนื้อมนุษย์ "โต่วเกียวเกียว"ไม่ใช่ชายไม่ใช่หญิง "ฮาฮายี้"ผู้ที่ฆ่าคนได้ขณะที่กำลังหัวเราะ และราชสีห์บ้า"ทิเจี่ยง" ไม่เพียงเรียนรู้สิ่งชั่วร้ายทุกอย่าง แต่ยังทำให้เขากลายเป็นคนที่มีนิสัยแปลกประหลาดด้วย นอกจากนี้ยังมีหมอเทวะ"บ่วงหลิ่วซุน" ที่วันๆเอาแต่อยู่ในห้องยารักษา ท่านลุงหม้อยาที่เซียวฮื่อยี้สงสัยว่าเป็นใคร ทำไมเอาแต่นั่งนิ่งเฉย แต่เซียวฮื่อยี้ก็ได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของเขา และได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาต่างๆจากหมอเทวะท่านนี้

ส่วนฮวยบ่อข่วย พี่น้องร่วมสายโลหิตที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากเหยาเยี่ยก็ฝึกฝนวิทยายุทธและสำเร็จเคล็ดวิชาของวังเคลื่อนบุปผา จนถึงขั้นไม่มีใครใต้หล้าต่อการได้ แต่ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นพี่น้องฝาแฝดจึงมีความสัมพันธ์ทางใจต่อกัน ทั้งคู่สื่อจิตถึงกันตลอดเวลา เมื่อคนหนึ่งเจ็บป่วย อีกคนหนึ่งก็จะเจ็บไปด้วย แม้แต่ในความฝัน เซียวฮื่อยี้บอกกับฮวยบ่อข่วยว่า"ข้าก็คือเจ้า เจ้าก็คือข้า" ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับทั้งคู่เป็นอย่างมาก ในช่วงที่ทั้งสองกำลังเติบใหญ่ เหยาเยี่ยและเลี่ยงแชได้เฝ้าดูเด็กทั้งสองตลอดเวลา ทั้งยังหาโอกาสให้พี่น้องร่วมอุทรต้องมาเข่นฆ่ากันเอง

ตอนที่เซียวฮื่อยี้กำลังเด็ก มีคนลึกลับลอบสวมหน้ากากทองเข้าไปในหุบเขาคนโฉดและบอกกับเซียวฮื่อยี้ว่าคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาก็คือวังเคลื่อนบุปผา ทว่าเซียวฮื่อยี้แสร้งเป็นไม่ใส่ใจ แต่เขาก็จำกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจของบุคคลลึกลับผู้นี้ได้ และหน้ากากทองผู้นี้ก็เป็นคนที่ช่วยรักษาอาการเจ็บของอี่น่ำทีด้วย...

ด้วยความที่เป็นเด็กช่างสงสัย เซียวฮื่อยี้ต้องการรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องยาของบ่วงหลิ่วซุนเป็นใคร เขาจึงพยายามลักลอบเข้าไปในห้องยา รวมทั้งปะติดปะต่อเรื่องราวที่แอบได้ยินจากเหล่าคนโฉด จนบ่วงหลิ่วซุนต้องยอมเล่าความจริงถึงกำเนิดของเขาให้ฟัง ทำให้เซียวฮื่อยี้แค้นกังคิ้มและวังบุปผามาก เซียวฮื่อยี้ตั้งปณิธานว่าจะต้องล้างแค้นให้พ่อแม่ให้ได้

ในจำนวนคนโฉดที่เลี้ยงเซียวฮื่อยี้มา ราชสีห์บ้าทิเจี่ยง คือคนที่รักและเอ็นดูเซียวฮื่อยี้มากที่สุด เป็นเพราะในอดีตกังปังเคยช่วยชีวิตเขาไว้
ทิเจี่ยงจึงอาสาออกจากหุบเขาคนโฉดเพื่อตามหากังคิ้ม แล้วนำมาให้ฮื่อยี้ได้ฆ่าล้างแค้น
ส่วนเซียวฮื่อยี้นั้นจะตามไปทีหลัง

ในที่สุดโอกาสก็มาถึง! เนื่องจากนิสัยที่ไม่อยู่สุขและชอบแกล้งคนอื่นของเซียวฮื่อยี้ ทำให้คนโฉดทั้งห้าตัดสินใจส่งเซียวฮื่อยี้ออกจากหุบเขาคนโฉด เพื่อให้ไปก่อกวนยุทธภพให้วุ่นวาย แต่ในใจของเซียวฮื่อยี้กลับคิดว่า ห้าคนโฉดคงเอือมระอาไม่อาจรับมือเขาได้ หารู้ไม่ว่าการที่เซียวฮื่อยี้ถูกห้าคนโฉดเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ทำให้พวกเขาเกิดความรักและความเอ็นดูต่อเซียวฮื่อยี้ หลายครั้งหลายคราที่เซียวฮื่อยี้
เกือบสิ้นชีพใต้อุ้งเท้าของห้าคนโฉดแต่เพราะความรักทำให้เขาอยู่รอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มีนาคม 29, 2012, 12:44:12 PM »

เดชเซียวฮื่อยี้ ตอนที่ 3

ประมุขเลี้ยงแชที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเซียวฮื่อยี่มาตลอด 20 ปี แจ้งให้พี่สาวเหยาเหยี่ยรู้ว่า เซียวฮื่อยี้ออกมาจากหุบเขาคนโฉดแล้ว ฝ่ายเหยาเยี่ยก็เฝ้ารอทุกค่ำเช้า จึงมีคำสั่งให้ฮวยบ่อข่วยที่ตัวเองฟูมฟักมา ไปฆ่าเซียวฮื่อยี่

ฮวยบ่อข่วยแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องฆ่าคนที่ไม่มีความแค้น แต่เขาก็น้อมรับคำสั่งประมุขวังเคลื่อนบุปผาไปปฏิบัติ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนรอลงมือฆ่าฮวยบ่อข่วยอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เหยาเยี่ยนึกไม่ถึงมาก่อน

คนที่คิดฆ่าฮวยบ่อข่วยก็คือ "จอมยุทธกังน้ำ"กังเปี๊ยกเฮาะ กังเปี๊ยกเฮาะก็คือกังคิ้ม เมื่อ 20 ปีก่อน การที่กังคิ้มมีทุกวันนี้ได้เป็นเพราะบารมีของเหยาเยี่ย แต่สิ่งที่แลกมาก็คือเขาต้องเชื่อฟังเหยาเยี่ยตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่กังคิ้มทนไม่ได้หลังจากที่ตัวเองได้เป็นจอมยุทธกังน้ำ


ระหว่างเดินทางฮวยบ่อข่วยได้พบกับ "ทิซิมลั้ง" ที่ถูก "เตียเจ็ง" ตามฆ่า ฮวยบ่อขวยจึงเข้าไปช่วยเหลือทิซิมลั้ง  ทิซิมลั้งเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม เดินทางตามลำพังเพื่อไปหาราชสีห์บ้าทิเจียง  ผู้เป็นบิดาที่หุบเขาคนโฉด

ภาพของสาวงามสองคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายทำให้บ่อขวยสนใจเข้าไปดู นี่ไม่ใช่ของของเจ้า เจ้าจะมาแย่งทำไมล่ะ เจ้าน่ะหรือจอมยุทธหญิงข้าว่าเป็นนางโจรหน้าหนามากกว่า" ทิซิมลั้งตะโกนบอกหญิงสาวคู่ต่อสู้ที่สวมอาภรณ์สีแดงสด

"นี่คือของของแม่ข้ามอบให้ไว้แต่มันหายไป ถ้าเจ้าไม่ได้ขโมย จะมาอยู่ในมือเจ้าได้ยังไง" เตียเจ็งฟาดเชือกหนังใส่ทิซิมลิ้งก่อนจะร้องบอกกลับไป

ของชิ้นนี้ข้าได้มาเมื่อสองปีก่อนเจ้าจะบอกว่าเป็นของแม้เจ้าได้ยังไง" ทิซิมลั้งย้อนกลับ แต่เตียเจ็งไม่ฟัง "เจ้าหัวโขมย เอาของของข้าคืนมา" ฮวยบ่อข่วยที่ยืนมองทั้งสองต่อสู้กัน และเห็นทิซิมลั้งกำลังพลาดท่าเสียที จึงอดรนทนไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยทิซิมลั้ง การปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เขาต้องทำร้ายผู้หญิงอีกคนหนึ่ง

“แม่นางข้าต้องขอโทษด้วย ที่ต้องล่วงเกิน แต่ข้าทนไม่ได้หรอกที่เจ้ารังแกนางแบบนี้นะ มีเรืองบาดหมางกันก็เจรจากันได้ ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันแบบนี้ด้วย ข้าน้อยไม่อยากจะล่วงเกินหรอก ข้าจึงต้องใช้วิชา ตัดกิ่ง คาบใบ” ฮวยบ่อข่วยก้มหัวคารวะเตียเจ็งอย่างให้เกียรติ

“คนของวังเคลื่อนบุปผาหรอ” เตียเจ็งแสดงความแปลกใจมากกว่าตกใจ

“ข้า ฮวยบ่อข่วย เป็นศิษย์เอกของประมุข เหยาเยี่ย เลี่ยงแช” ฮวยบ่อข่วยก้มหัวคารวะเตียเจ็ง... อีกครั้งหลังจากแสดงตน

“หน้าตาเจ้าก็ดูสุภาพดีนี่ ทำไมถึงเป็นศิษย์เอกของนางมารร้ายนั่นได้ล่ะ”

“แม่นาง จะด่าข้าก็ได้นี่ แต่ว่าอย่าสบประมาทอาจารย์ข้า”

”วังบุปผาฝึกปรือวิชาอธรรมต่ำช้า อาจารย์ของเจ้าสองคนก็คือนางมารร้ายของยุทธภพ พวกเจ้าจึงเป็นศัตรูของฝ่ายธรรมมะ สบประมาทอาจารย์เจ้าแล้วมีอะไร”

”แม่นางสบประมาทอาจารย์ข้าและวังบุปผา งั้นข้าน้อยจะไม่เกรงใจเจ้าแล้ว”

”ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าหรอกจะฆ่าจะแกงก็เชิญ”

“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าบาดเจ็บ แต่ว่าอยากขอร้อง ปล่อยนางไปเสีย”

“ปล่อยเขาหรอ...ก็ได้ แต่ว่าเจ้าต้องทำงานให้ข้า 3 ชิ้น”

“งานอะไรหรอ?”

“เราตกลงกันก่อน หากเจ้าทำสำเร็จ นางไปได้ แต่ถ้าเจ้าทำไม่สำเร็จ เจ้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องของข้ากับนาง”
... “ได้” ฮวยบ่อข่วยรับคำท้า ด้วยท่าทีองอาจ

สิ่งที่เตียเจ็งให้ฮวยบ่อข่วยทำสิ่งแรกคือให้เขายืนเหมือนกระต่ายขาเดียว แล้วให้คนจำนวนมากผลัก ถ้าหากฮวยบ่อข่วยล้มก็ถือว่าเขาแพ้ ผลปรากฏว่า นอกจากฮวยบ่อข่วยจะไม่ล้มแล้ว พลังภายในของเขายังทำให้คนที่ผลักเขากระเด็นไปคนละทิศทางอีกด้วย ข้อที่สอง เตียเจ็งให้เขาไปซื้อขนมให้โดยที่เท้าของเขาต้องไม่ติดพื้น ซึ่งก็แน่นอนว่าวิชาตัวเบาที่เขาฝึกมาทำให้เขาได้ขนมมาอย่างไม่ยากเย็น ส่วนข้อที่สามนั้น เตียเจ็งให้เขาเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งโดยห้ามเอามือเปิดประตู ด้วยปฏิภาณไหวพริบของเขา และ ทิซิมลั้ง ฮวยบ่อข่วยจึงยืนตะโกนเรียกคนในบ้าน

สวนทิซิมลั้งก็ใช้วิชาตัวเบาเข้าไปในบ้านหลังนั้นทางหน้าต่างแล้วเปิดประตูให้ฮวยบ่อข่วย เป็นอันว่าฮวยบ่อข่วยสามารถทำตามสิ่งที่ตียเจ็งสั่งได้ทุกข้อ นางจึงจำใจปล่อยทิซิมลั้งไป

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มีนาคม 29, 2012, 01:00:13 PM »

เดชเซียวฮื่อยี้ ตอนที่ 4

การที่เซียวฮื่อยี้ออกจากหุบเขาคนโฉดก็เหมือนกับปลาได้น้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่นอกหุบเขาล้วนเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเซียวฮื่อยี้ แม้แต่ขี้สุนักยังหอมน่าดมกว่าขี้สุนักที่หุบเขาคนโฉดด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เซียวฮื่อยี้จึงท่องเที่ยวไปทั่ว และกลั่นแกล้งคนทั่วไปด้วยความสนุก จนกระทั่งได้พบกับทิซิมลั้ง ที่ติดตามเขาเพราะได้ยินว่าเขาคือคนที่ออกมาจากหุบเขาคนโฉด

“คนถอยน้อย เจ้าออกมาจากหุบเขาคนถ่อย พอมาถึงก็สำแดงเดชแล้ว” ทิซิมลั้งในคราบหนุ่มน้อย แสดงตนต่อหน้าเซียวฮื่อยี้

“ข้าจะทำอะไร มันกงการอะไรของเจ้า”

“เจ้าโกงเอาของของเขามา ทำไมเอามาทิ้งล่ะ”

“พวกเขาอยากมาหลอกข้าก่อนนี่นา ข้าก็เลยสั่งสอนพวกมัน ของห่วยๆพวกนั้นน่ะ ข้าไม่อยากจะได้หรอกของมีค่ามีราคาข้ามีมากมาย หากอยากได้ข้าก็เอามาได้ทันที”

“ยโสโอหังนัก” ทิซิมลั้งว่า

“นี่หาว่าข้ายโสโอหัง หรือไม่ก็ว่าข้าเป็นคนถ่อยน้อย ปากของเจ้าบางเฉียบ แต่ว่าคมยิ่งกว่ากรรไกรเสียอีกข้านึกออกแล้วนะ ข้าเอาของมาโยนทิ้งกลางทาง เดี๋ยวต้องมีคนเก็บได้ หากเป็นคนยากคนจนเก็บได้ เขาต้องดีใจใช่ไหม ข้าเห็นเขาดีอกดีใจ ข้าก็ดีใจไปด้วย ดีกวาเก็บเอาไว้กับ

"ตัวแล้วข้าก็นอนไม่หลับ”

“หากคนถ่อยเก็บของนี้ได้ล่ะ” ทิซิมลั้งแย้งขึ้นมา

“หากคนถ่อยเก็บของนี้ไป ตกลงกันไม่ได้ก็ต่อยต...ีกันไงล่ะ บางทีเอาเป็นเอาตายจนเลือดตกยางออก”

“แบบนี้เจ้าก็ดีใจเหรอ?”

“ก็ดีใจซิ ดีใจที่สุดเลย แล้วยังมีอีกนะ หากว่าคนขี้เกียจเก็บของนี้ได้เขาก็จะไม่ทำอะไรอีก วันๆก็จะไปหาเก็บของตามพงหญ้าอีก มัวแต่คอยของเก็บได้ สักวันก็จะต้องอดตาย คิดดูซิ ข้าแค่ทิ้งข้างของไม่กี่ชิ้น สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตคนได้มากมาย แหม...มันเป็นการเล่นที่สนุกที่สุดในแผ่นดินเลย” เซียวฮื่อยี้หัวเราะด้วยความสนุกสนาน

“เจ้านี่มันเลวจริงๆเลย รีบเก็บของไปคืนเจ้าของเขาเดียวนี้ อย่ามาทำโยกโย้ไม่เข้าท่านะ”

“ข้าว่าเจ้าตามข้ามาไกลน่าดู หน้าแดงอย่างนี้ สวยเหลือเกิน ถ้าหากเจ้าเป็นผู้หญิง ข้าว่าคงไม่ใช่ อยากให้คืนของจึงได้ตามข้ามาไกลโข ข้าชักสงสัยแล้วว่าเจ้าหลงรักข้าก็เลยตามมาน่ะซิ” เซียวฮื่อยี้จงใจพูดยั่วคู่สนทนา

“ใช่ ข้ามาเพราะเจ้าเป็นต้นเหตุเพราะว่าตัวแค่นี้ก็เลวอย่างนี้แล้ว ปล่อยเจ้าไว้ก็จะเป็นภัยกับคนอื่น”

“งั้นก็ฆ่าข้าสิ จะได้ไม่เป็นภัยกับคนอื่น” เซียวฮื่อยี้ยอกย้อนไปด้วยอารมณ์สนุก

“จะฆ่าเจ้ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แต่ว่าข้าดูแล้วเจ้าก็ไม่ใช่เด็กเกเรเกินไป หากเจ้ายอมเป็นศิษย์ข้า ให้ข้าอบรมสั่งสอนเจ้าสักหน่อย วันหน้าเจาจะเป็นคนดีได้” ทิซิมลั้งวางท่าข่ม

“จะมาเป็นอาจารย์ข้า ต้องดูว่ามีฝีมือหรือเปล่า” ว่าแล้วทั้งสอง ก็ประลองยุทธกัน แต่เพียงไม่นาน ทิซิมลั้งพลาดท่าหลงกลอุบายของเซียวฮื่อยี้ที่หลอกให้นางสะกัดจุดตัวเอง

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มีนาคม 29, 2012, 01:01:20 PM »

เดชเซียวฮื่อยี้ ตอนที่ 5

ทิซิมลั้งยังถูกเตียเจ็งตามล่า โชคดีที่เซียวฮื่อยี้ที่ตามดูอยู่ไม่ไกลยื่นมือเข้ามาช่วยไว้ทัน แต่ทิซิมลั้งในคราบของทิซิมนั้งที่ได้รับการช่วยชีวิตกลับไม่ซาบซึ้งในบุญคุณของเขา แต่อย่างใด ฝ่ายเซียวฮือยี้เองก็รู้สึกแปลกใจว่าหนุ่มน้อยวัยไมห่างจากเขาแต่มีรูปร่างที่อ้อนแอ้นไฉนจึงเดินทางมาเพียงลำพัง เขาต้องมีความลับบางอย่างที่มิอาจบอกกล่าวให้คนอื่นทราบได้ เมื่อคิดได้เช่นนี้เซียวฮื่อ...ยี้ก็ตามติดทิซิมลั้งโดยที่ไม่ยอมให้หนีห่างไปไหน ทิซิมลั้งซึ่งมีแผนที่ซ่อนขุมทรัพย์พยายามทุกวิถีทางที่จะสลัดเซียวฮื่อยี้ให้พ้น แต่นึกไม่ถึงว่าทุกวิธีที่เธอใช้ตัวเองกลับเป็นผู้รับเคราะห์

เตียเจ็งตามมาเจอทิซิมลั้งที่หลับใหลด้วยฤทธิ์ยาสั่งของตัวเอง เตียเจ็งไม่ได้ทำร้ายนาง แต่ค้นหาลายแทงขุมทรัพย์ในตัวทิซิมลั้งอย่างละเอียดเมื่อไม่พบ นางจึงวางท่าข่มขู่เซียวฮื่อยี้ แต่ก็พลาดท่าถูกเขาสะกัดจุดและกลั่นแกล้งจนได้ นางกล่าวคำอาฆาตก่อนที่เซียวฮื่อยี้จะอุ้มทิซิมลั้งหนีไป

“เจ้าทำอะไรข้าน่ะ” ทิซิมลั้งที่ฟื้นขึ้นมา ร้องถามเซียวฮื่อยี้ด้วยความตกใจ

“ข้าไม่ได้ทะอะไรเจ้านะ เพียงแต่ข้าค้นเจ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าเที่ยวนึงที่จริงแล้วไม่ได้ค้นหรอก แต่เป็นการคลำๆซะมากกว่า ข้ายอมรับว่าข้าทำแค่นั้น... แล้วทำไมไม่บอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงเล่า หากบอก ข้าคงไม่คลำเจ้าหรอก แม้อายุยังน้อยอยู่ แต่ข้าก็เป็นชาย เป็นชายที่มีเลือดเนื้อนะ ถ้าให้คลำ จะคลำอย่างเดียวเหรอ”

“เจ้าคนถ่อย เจ้าคนต่ำช้า เจ...้าพูดได้ยังไงน่ะ” ทิซิมลั้งตะโกนใส่หน้าเซียวฮื่อยี้ด้วยความโกรธ นั่นยิ่งทำให้เขาสนุก

“ก็ข้าคลำจริงๆนี่นา ข้าไม่ปฏิเสธไม่ดีหรือยังไง ข้าว่าเราแต่งงานกันเถอะ” จบคำ ทิซิมลั้งก็บันดาลโทสะจี้สกัดจุดเซียวฮื่อยี้แล้วชักมีดออกมาจ่อที่คอเขา

“สั่งเสียเลย รีบสั่งเสียมาเลย”

“ทำไมต้องฆ่าข้าด้วยล่ะ เจ้าแต่งงานกับข้าได้บุญดีกว่านะ การฆ่าคนมันเป็นบาปนะ โดยเฉพาะฆ่าข้าน่ะ” เซียวฮื่อยี่ยั่วนางต่อ

“ข้าไม่แต่งกับเจ้าหรอก”

“เอาซิอยากจะแต่งกับใครก้เชิญเลย แต่ว่าข้าขอร้องนะ อย่าแต่งงานกับข้า ข้าไม่ชอบผู้หญิงเลย”

“เจ้ามีอะไรจะพูดอีก”

“มีซิ เจ้าช่วยบอกชาวโลกให้รับรู้ด้วย ข้อห้าม ห้ามช่วยผู้หญิงที่สลบ ถ้าเขาฟื้นเขาจะต้องฆ่าเจ้าทันที”

“จริงด้วย เจ้าช่วยข้าเอาไว้ แต่...แต่ว่าเจ้าเห็นนะ โธ่เว้ย จะทำไงดีจะทำยังไงดี” ทิซิมลั้งสำนึกได้แต่ก็ยังขัดเคืองที่ถูกลวนลาม

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
Re: 1999 The Legendary Siblings Part I
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มีนาคม 29, 2012, 01:02:05 PM »


“เจ้าอย่าร้องเลยน่า เจ้าฆ่าข้าเสียซิ ข้าตายไปเจ้าคงไม่กลุ้ม สัดส่วนเจ้าก็จะเป็นความลับ ข้าตายด้วยมือเจ้าคือความสุขของข้า”

“คนบ้า” ทิซิมลั้งร้องด้วยความโกรธและอายแล้ววิ่งหนีไป

“เอ๊ะ นี่ๆๆๆ เจ้าอย่าทิ้งข้าไว้คนเดียวซิ ผักกาดขาวๆเจ้าเห็นไหมนายเจ้าเดือดร้อนแล้ว จำไว้นะ ถ้าเจ้าเห็นผู้หญิงฆ่าคน เจ้าต้องลับมีด อย่าได้ใจอ่อนกับเขานะ” เซียวฮื่อยี้รำพึงรำพันกับม้าที่เพิ่งได้มาจากตลาด
เพียงไม่นาน ทิซิมลั้งโผ...ล่ออกมาจากพุ่มไม้ในเสื้อผ้าชุดใหม่

“เปลี่ยนใจจะแต่งงานกับข้าแล้วใช่ไหม?”
เซียวฮื่อยี้ยังคงยั่วนางอยู่

“ความจริงข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ลวนลามข้าหรอก”

“เพิ่งรู้ความจริงตอนนี้น่ะเหรอ” เซียวฮื่อยี้บอกเพราะคิดว่าตัวเองถูกสกัดจุดให้ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นนานไปแล้ว

“แต่ปากเจ้าอยู่ไม่สุข ชอบพูดเรื่อยเปื่อยเพราะฉะนั้น...”

“เพราะฉะนั้นอะไร?”

“ไปเป็นเพื่อนข้าหน่อยได้ไหม”

“ได้ ข้าจะไปด้วย แต่เจ้าต้องคลายจุดให้ข้าก่อน หรือว่าเจ้าจะอุ้มข้าไปจะได้ไม่เมื่อย” เซียวฮื่อยี้ยังยั่วต่อ ทิซิมลั้งจึงคลายจุดให้ด้วยอาการกระแทกกระทั้น

“ความจริงข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนดีนะ ข้าเลยตัดสินใจให้เจ้าไปสถานที่นึงกับข้า”

“ไปที่ไหนล่ะเจ๊”

“ไปหุบเขาคนโฉด”

“หุบเขาคนโฉดเหรอ? ไปทำไมที่นั่นล่ะ”

“ข้าจะไปหาทิเจี่ยง”

“ปัทโธ่ ข้าบอกเจ้าไปแล้ว ว่าทิเจี่ยงน่ะออกจากหุบเขาคนโฉดไปแล้ว”

“แต่ข้าอยากไปนี่ จะได้สืบหาข่าวคราวของเขา”

... “เจ้าไม่ต้องไปแล้ว บุญนะที่เจ้าได้เจอกับข้า หุบเขาคนโฉดทีข้าเติบโต หญ้ากี่ต้นๆข้ารู้หมดทีเดียว แต่พูดก็พูดเถอะนะ ตอนนี้ลุงทิไปไหนข้าไม่รู้จริงๆ ใจจริงข้าอยากพบท่านมากทีเดียว”

“เจ้าอยากพบเขาทำไม”

“คิดถึงเขาไง อยากพบเขาเพื่อถามถึงร่องรอย คนนึง”

“พูดน่าปวดหัว”

“แล้วบอกข้าได้หรือยังว่าเจ้ากับลุงทิมีความสัมพันธ์อะไร เป็นญาติกันเหรอ”