ALL About Alec SU YOU PENG | รวบรวมผลงานของ ซูโหย่วเผิง > BSYP Fan Actions

ที่ปรึกษาซูโหย่วเผิง By Hong

(1/6) > >>

prattana:
คืออย่างที่บอกจริง ๆ แล้วเป็นคนชอบดูหนังจีน ฟังเพลงจีนเป็นชีวิตจิตใจ แต่สมัยก่อนก็เช่าดูวีดีโอ และซื้อเทปเพลงจีน ยังไม่ได้มีอะไรกับใครเป็นพิเศษ ตอนนั้นทั้งองค์หญิงกำมะลอ ไทเก็กจางซานฟง เดชเซียวฮื่อยี้ มนต์รักในสายฝน ซึ่งซูโหย่วเผิงเล่นทั้งสิ้นก็ไม่เคยชอบซูโหย่วเผิงเลย แถมยังวิจารณ์เสียด้วย คือไม่ได้เข้าตาเลยสักนิด ถึงแม้นกระแสตอนนั้นซูโหย่วเผิงก็แรงพอสมควร เราเป็นคนชอบฟังและร้องเพลงจีนมาก ๆ


ไม่ว่าจะเป็นกวางตุ้งหรือจีนกลาง ทุกครั้งที่ไปเมืองจีนเราจะซื้อกลับมาทุกครั้ง จนกระทั่งเรื่องเกิดเมื่อ3 ปีก่อน เราไปเที่ยวกุ้ยโจวไปร้านขายซีดีร้านหนึ่ง เราซื้อเอ็มวีเพลงจีนในทีวีและอัลบั๊มคนอื่น ๆ แต่ไม่มีซูโหย่วเผิงเลย เจ้าของร้านเขาแนะนำ ซูโหย่วเผิงมา ซึ่งเราก็ขัดไม่ได้ก็เลยลองซื้อมาฟังดู 1 อัน พอกลับมาเมื่อไทยเราซื้อเยอะมากก็ฟังคนอื่นยังไม่ได้ฟังซูโหย่วเผิงเลยด้วยซ้ำ พอฟังตอนนั้นก็รู้สึกเฉย ๆ จนเวลาผ่านมาเนิ่นนานคือปีกว่าได้ เราก็เอาซูโหย่วเผิงกลับมาฟังอย่างจริงจัง เอ็มวีเพลงหนึ่งถ้าจำไม่ผิด น่าจะใช่ อ้ายฉิงเก้าซู่หว่อ ความรักบอกฉัน เอ็มวีนี่ดูเหมือนไม่มีอะไร มีภาพซูโหย่วเผิงร้องเพลงแค่นั้นเอง แต่นั่นแหละคือจุดประกาย


เริ่มต้นเมื่อเราเห็นแววตาตอนหนึ่งของซูโหย่วเผิงจากเอ็มวีนี้มันประทับใจสุด ๆ แววตาฉายถึงความเมตตาที่มันออกจากใจ หลังจากจบเอ็มวีนี้ ภาพแววตานั่นมันติดอยู่ทำให้เราอยากค้นหา และ อยากรู้จักคนคนนี้อย่างจริงจัง จนนึกขึ้นได้ตอนที่หนังเรื่องรักข้ามขอบฟ้ามาฉาย เดือนก่อนเราไปแชงการีลา เราจำได้ว่าเราก็ซื้อซูโหย่วเผิงเอ็มวีมาอีกแผ่น และมีเอ็มวีฉิงติ้งอ้ายฉินไห่(รักข้ามขอบฟ้า)ด้วยโดยไม่ตั้งใจ เราก็เลยรีบมาเปิดดู และในนั้นมีเพลงเติ้งไต่หน่าอี้เที้ยน ซึ่งเราฟังเพลงนี้เราก็ชอบมาก ๆ ทำให้เราก็เริ่มค้นหาประวัติซูโหย่วเผิงจากเว็บไซด์ไม่ว่าเว็บไทยและเว็บนอกเท่าที่หาได้ พออ่านประวัติโหย่วเผิงเราถึงกับอึ้งที่เขาทำเพื่อสังคมดูแลเด็กและทำมานานไม่ได้ทำต
ามกระแส ประทับใจสุด ๆ เลยล่ะ ถึงแม้นกระแสจีนกับไต้หวันจะแรง โหย่วเผิงก็ไม่สนใจทำงานเกี่ยวกับเด็กจีนที่นั่น ไม่ได้สนใจการเมืองของ 2 ประเทศเลย โหย่วเผิงยึดมั่นในการทำความดีมาก ๆ จนหลายคนที่แอนตี้จีนก็แอนตี้โหย่วเผิงด้วยในสมัยนั้น และกล่าวหาโหย่วเผิง เป็นกบฏด้วยซ้ำไป เรายิ่งประทับใจโหย่วเผิงมาก ๆ


บางครั้งโหย่วเผิงก็มีข่าวคราวที่ไม่ดีเพื่อนมักจะมาเล่าให้ฟังแต่เราไม่ได้สนใจหรอก

เรามักจะบอกกับเพื่อน ๆ ด้วยซ้ำไปว่า ตราบใดที่น้องซูยังทำประโยชน์ให้แก่สังคมอยู่ ถ้าบางอย่างไม่เลวร้ายเกินไป เราก็ยังชอบน้องซูอยู่ดี ดังนั้นเราเลยอยากซื้อผลงานของเขาเพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาดีกับสังคม และไปอ่านว่าเขาเล่นหนังเรื่องที่เราดูทั้งนั้น แต่ทำไมเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาเล่นเป็นใคร จนเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเขาเล่นเป็นองค์ชาย 5 และเพื่อนเราก็ชอบโหย่วเผิงจากเรื่องนี้ด้วย แต่เราทำไมจำไม่ได้เลย โหย่วเผิงถือว่าเป็นคนตกสำรวจจากเราสุด ๆ เลยทีเดียว


ยิ่งค้นหาอ่านประวัติในการทำความดีของเรา เรายิ่งประทับใจมาก ๆ โดยเฉพาะทราบว่าชีวิตประวัติของเขาถูกบรรจุเป็นแบบเรียน ป.6 ของเมืองจีนและให้เป็นทูตไมตรี ยิ่งรู้สึกว่าโหย่วเผิงไม่ธรรมดาจริง ๆ ในเว็บตอนนั้นก็โปรโมทหนังเรื่องใหม่ของเขาคือ เตียวหม่านกง*** ตอนนั้นอ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ ชอบโหย่วเผิงเรื่องนี้มาก


เดือนพฤศจิกายน ปี2005 ก็เริ่มไปคลองถมกับเพื่อนเพื่อไปหาหนังของซูโหย่วเผิงมาดู ก็ได้ซื้อ ดาบมังกรหยกและตระกูลหยางมาดู ตอนนั้นเริ่มชอบบทเตียบ่กี้และหยางซื่อหลาง และเพื่อนพาไปซื้อพากย์จีนที่เยาวราช เดินอยู่หลายครั้งในที่สุดก็ได้เรื่อง เตียวหม่านกง***กับหมอซูฉีหยวน เราดีใจมากที่ได้เตียวหม่านกง***ตอนนั้นหมอซูฉีหยวนเราเฉย ๆ เพราะไม่เคยอ่าน เตียวหม่านกง***ถือเป็นเรื่องแรกเลยทีเดียวที่เราดูพากย์จีน ตอนนั้นอยากดูมาก ๆ แต่ภาษาจีนกลางเราก็ไม่เก่งถึงแม้นจะเคยแอบไปนอนเล่นเมืองจีน 20 วันมาแล้วก็ตาม แต่นั้นก็แค่เปลี่ยนที่นอน ภาษาจีนใต้ล่าง เป็นตัวย่อซะอีก ซึ่งเราไม่รู้เรื่องเลย ตอนนั้นต้องใช้ความพยายามมาก ๆ ในการเปิดดิชไทยจีนเพื่อจะเปิดหาความหมายแต่ละคำ สุดท้ายเราก็แปลจนจบ 36 ตอนนั่นแหละ โดยเฉพาะบทพูดของ ฮ่องเต้เพราะเป็นบทและคำพูดที่สำคัญทีเดียวในเรื่อง หลังจากนั้นเราก็มาดูหมอซูฉีหยวน ซึ่งตอนนั้นดูแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ ด้วยซ้ำ เพราะเพลียจากเรื่องเตียวหม่านกง*** แต่ก็ดูจนจบ และเพลงซูโหย่วเผิงอัลบั๊มเก่าเขาบอกว่าไม่มีลิขสิทธิ์แล้วไปหาซื้อทั้งเมืองไทยและเ
มืองจีนก็ไม่มีแล้ว


สุดท้ายเพื่อนเราซึ่งสมัยก่อนชอบฟังเพลงซูโหย่วเผิง ก็อนุเคาระห์มาให้ 6 อัลบั๊มและดีวีดีเพลงอีก 1 อัน ตอนที่เราได้มาตอนนั้นปลื้มจนน้ำตาไหลเลยล่ะ เพื่อนเราคุยด้วยว่าของเขาเป็นต้นฉบับแท้ ๆ เสียงจะใสกริ๊ง ไม่เหมือนกับดาวน์โหลด ก็จริงอย่างที่เขาบอกจริง ๆ เสียงใสมาก ๆ พอเรามาแปลงเป็นเอ็มพี 3 เสียงก็ใสก็ดาวน์โหลด เราก็เลยเอามาแปลงเป็นเอ็มพี 3 และลบที่ดาวน์โหลดหมด เราเพิ่งนึกได้สมัยก่อนและก็ชอบซื้อเทปเพลงจีนและซีดีเพลงจีนนี่น่า น่าจะมีโหย่วเผิงติดมาบ้างเพราะบางทีเราซื้อเพราะเกรงใจแม่ค้าเยอะ สุดท้ายนึกไม่ถึง เราก็มีเทปเพลงโหย่วเผิงถึง 3 อัลบั๊มและมีเพลงเสี่ยวหู่ตุ้ยนิดหน่อย และซีดีเพลงมีรวมเพลงซึ่งมีทั้งโหย่วเผิงและเสี่ยวหู่ตุ้ย ด้วย จากนั้นก็มาไล่ซื้อพากย์ไทยซูโหย่วเผิงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงกำมะลอ ตอนดูก็เริ่มนึกได้ทำไมตอนนั้นถึงไม่ชอบ เพราะว่าเราไม่ชอบบทเสี่ยวเยี้ยนจื่อที่เอาแต่ใจจน ไม่มีเหตุผล รับไม่ค่อยได้ ถึงแม้นเรื่องนี้สมัยก่อนดังจะตายไป พี่สาวต้องให้เราไปเช่าวีดีโอด้วยซ้ำ แต่เราก็ไม่ได้ปลื้มเพราะเราว่าเรื่องนี้ไม่มีเหตุมีผลเยอะ พอกลับมาดูกระแสที่เราชอบซูโหย่วเผิงก็ยังไม่ชอบเสี่ยวเยี่ยนจื่อเหมือนเดิมแต่อารมณ์เปลี่ยนไปเป็นสงสารองค์ชาย 5 ของเรามาก ๆ และเราก็เริ่มรู้สึกว่าซูโหย่วเผิงเล่นเรื่องนี้ได้ดี หรือว่าเป็นนิสัยของโหย่วเผิงก็ไม่รู้ เพราะเราสังเกตเรื่องนี้ซูโหย่วเผิงจะคอย ประคอง พาเยี่ยนจื่อเดิน และเป็นคนตักกับข้าวให้เยืยนจื่อเสมอ แต่คู่ของเอ่อคังกับจื่อเหว่ยที่ดูน่าจะหวานแว๋ว แต่ไม่เคยเห็นเอ่อคังทำเลย น่าแปลกจริง ส่วนบทตู้เฟ้ยตอนแรกรับไม่ค่อยได้ดูติงต๋องไปหน่อย แต่พอดูไปดูมากลับเป็นคนฉลาด รักมั่นและมีน้ำใจ และบทหยี่เทียนสิงที่ออกจะดูติงต๋องเด็กไปหน่อย แต่ก็รักมั่น เช่นกัน แต่ในไทเก็กจางซานฟงโหย่วเผิงเป็นแค่รับเชิญเล่นได้ 10 กว่าตอนเท่านั้นเอง


ส่วนเรื่องเราสองหัวใจเดียวกัน บทซูเสี่ยวเผิงเป็นบทที่น่ารักมาก ๆ แต่คนพากย์เรื่องนี้บอกตรง ๆ รับไม่ได้ดูแล้วหนังจืดสนิท รักข้ามขอบฟ้าก็แสนจะสงสารเอินฉีผู้อาภัพและถูกบีบคั้น เรื่องนี้ซูโหย่วเผิงเล่นได้ดีมาก ๆ กับบทเก็บกด เรียกน้ำตาได้พอสมควร แต่เซียวฮื่อยี้หาตามท้องตลาดทั่วไปก็ไม่มีเขาบอกว่าไม่มีลิขสิทธิ์ เลยต้องไปตามหาซื้อตามเน็ต ซึ่งเขาไม่ยอมขายต้นฉบับเราเลยต้องขอซื้อก็อปปี้จากเขาเป็นเรื่องเดียวที่ไม่สามารถห
าลิขสิทธิ์ได้จริง ๆ เรื่องนี้เราชอบซูโหย่วเผิงตรงที่เขาเล่นได้เป็นธรรมชาติมากกว่าคนแต่งเขียนซะอีก เพราะพอดีบ้านเรามีแต่ผู้หญิง เรามีหลานชายคนหนึ่ง ดีนะบางทีพ่อของเขาก็รับไปกินไปเที่ยวไปอยู่ด้วย แต่หลายส่วนหลานก็ได้รับอิทธิพลผู้หญิงไปไม่น้อย แล้วบ่ฮวย อยู่กับผู้หญิงล้วนตามบทประพันธ์ต้องมาดแมน ดูเทห์คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ซูโหย่วเผิงเล่นได้สมธรรมชาติจริง ๆ อาจจะเป็นเพราะโหย่วเผิงเองก็อยู่กับแม่ คงฟรีเซ้นต์ได้ดี หมดซีรีย์โหย่วเผิงระหว่างที่หาซีรีย์เราก็หาหนัง 2 แผ่นโหย่วเผิงด้วยเริ่มไปหาตามห้างตามร้านของวีซีดี จนทั่วทุกห้างในย่านลาดพร้าว และคลองถม ด้วยความพยายามได้มา 3 เรื่อง คือเพื่อเธอเพื่อข้า ฯ รักครั้งนี้ไม่มีวันจาง ซึ่งได้มาพร้อมกันและอีก ครึ่งปีได้เรื่องหงเหนียงมา แต่ระหว่างนั้นก็เริ่มหาหนังพากย์จีนซูโหย่วเผิงทุกเรื่องเท่าที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงกำมะลอ ตระ***ลหยาง ดาบมังกรหยก รักข้ามขอบฟ้า มนต์รักในสายฝน เดชเซียวฮื่อยี้ ไทเก็กจางซานฟง


และเราสองหัวใจเดียวกันเรื่องสุดท้ายที่หาซื้อมาได้ พอดีหลายเรื่องที่เป็นเวอร์ชั่นจีน เล่นได้ดีทีเดียว แต่คนพากย์หลายเรื่องไม่ได้อารมณ์ ทำให้หนังจืดโดยเฉพาะเรื่องเราสองหัวใจเดียวกัน พอมาดูพากย์จีน อารมณ์มันคงละอารมณ์เลยจริง ๆ และที่สำคัญได้อัลบั๊มอำลาเสี่ยวหู่ตุ้ย ทำให้เรารักโหย่วเผิงและหู่ตุ้ยมากขึ้น เป็นคอนเสิรต์ที่เราประทับใจจริง ๆ เพราะไม่เหมือนคอนเสิรต์มนต์รักในสายฝนที่พิธีกรพูดมากไป เพราะคอนเสิร์ตนี้ไม่มีพิธีกร มีแค่ 3 คน คือซูโหย่วเผิง เฉินจื้อเผิง อู๋ฉี่หลง และรับเชิญ 3 คน คือหลีจื้อเ***งเหลาซือ จางเค่อฝาน หวงเซินฉี เท่านั้น แต่ทั้งหมดก็ส่งมุกให้กันและกันน่ารักมาก ๆ เลย น้องซูยังเล่นคีย์บอร์ด เพลงชาเจียนเอ๋อกั้ว แล้วยังเอาเพลงหว่อจื้อเย่าหนี่อ้ายหว่อ ตอนต้นมาร้องช้า ๆ แสดงพลังเสียงด้วย และเพลงเจินซี น้องซูจะเริ่มพูดอารัมพบทซึ้งมาก ๆ มีน้ำตาซึมด้วย และที่ชอบอีกเพลงคือ ซิงซิงเต๋อเย่หุย ซึ่งทำจังหวะให้เร็วขึ้น เต้นกันสุดเหวี่ยง และเพลงอ้าย ที่เอาภาษามือ มาใช้ แบบแปลได้ตรงเนื้อหาเพลงเลยทีเดียว ส่วนเรื่อง ซินตงเลียเชอ ไผอันจิงฉี เซียงเย่ชิงชุน ไปแลกมา และเรื่องสุดท้ายได้ความอนุเคราะห์จากน้องที่เรารู้จักตอนไปนอนเล่นที่คุนหมิง เขาซื้อมาฝากคือเรื่อง เจี่ยงจี้จิ่วจี้ ถึงแม้นจะไม่ได้ลิขสิทธิ์ได้ก็ไม่กล้าพูดมาก ได้แคบ่น ๆ ว่าเสียดาย เพราะน้องเขาบอกว่าที่คุนหมิงลิขสิทธิ์ขายหมดแล้ว ให้ตายเถิดหนังเพิ่งออก และแค่เดือนพฤษภาเอง หนังน้องซูขายดีจนหมด คนขายบอกว่าทำเป็นวีซีดีทูดีวีดีเอาหรือเปล่า อาต้วนเลยซื้อมาแล้วบอกคนขายว่าถ้าลิขสิทธ์มาให้โทรบอกด้วย อาต้วนจะกลับเมืองไทยแล้วแต่ก็ไม่มา เรารู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำไป ไม่งั้นไม่มีดู ที่จะขอบคุณอีกไม่ได้ก็ตอนจีนปีก่อน ยังซื้ออัลบั๊มหยี่เฉียนหยี่โฮ่ว และเสี่ยวหู่ตุ้ยมาฝาก

สรุปเพราะตามหาซีรีย์จีน และหนัง 2 แผ่นเทป เอ็มวีซูโหย่วเผิงทั้งเมืองไทยและเมืองจีน ทำให้เกรงใจพ่อค้าแม่ค้าสุดท้ายทำให้ เราได้พากย์จีนเรื่องอื่น ๆ ทั้งโหย่วเผิงและไม่ใช่โหย่วเผิง 50 กว่าเรื่อง และพากย์ไทย ที่เป็นของโหย่วเผิงและไม่ใช่โหย่วเผิงเกือบ 100 เรื่อง คือแบบว่าไปทุกอาทิตย์หาแต่โหย่วเผิงแล้วเกรงใจเลยต้องซื้อติดมือมา เป็นเวลาปีครึ่ง และเรื่องสุดท้ายของโหย่วเผิงพากย์ไทยที่ซื้อมาคือ เตียวหม่านกง***หรือชื่อว่าองค์หญิงจอมทะเล้น เรื่องนี้ถือว่าแมงป่องทำได้น่ารักสุด ๆ คือทำเป็นดีวีดี 9 มีแค่ 9 แผ่นคือแผ่นไม่เยอะเกินไปแถมราคาก็แพง ถ้าเป็นอมิโก้ทำนะ วีซีดี ก็ 33 แผ่น ซีดีก็ 17 แผ่นคงเยอะแผ่นมากไป แต่สิ่งหนึ่งที่โหย่วเผิงให้กับเราแบบไม่รู้ตัวก็คือ ตั้งแต่เราชอบน้องซู ภาษาจีนเราดีขึ้น ถึงแม้นสมัยก่อนและจะอ่านภาษาจีนกลางและกวางตุ้งได้คือชอบร้องเพลงเลยจำตัวหนังสือได

้เกือบทุกตัว แต่ไม่เข้าใจความหมายเลย

prattana:
ก็ต้องบอกว่าย้ำอีกครั้งว่าจริง ๆ เพิ่งมารู้จักซูโหย่วเผิงจริง ๆ เมื่อ 3ปีก่อนค่ะ จากเอ็มวีเพลงอ้ายฉิงเก้าซู่หว่อ ถึงแม้นก่อนหน้านั้นจะดูหนังซูโหย่วเผิงมาแล้วหลายเรื่องไม่ว่า องค์หญิงกำมะลอ เดชเซียวฮื่อยี้ ไทเก็กจางซานพง มนต์รักในสายฝนฯลฯ ก็ตาม ก็ไม่เคยได้สนใจโหย่วเผิงเลยแม้นแต่น้อย


ครบรอบ20 ปีของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นก็หมายถึงเข้าครบรอบ 20 ปีของการที่ซูโหย่วเผิงได้เข้าสู่วงการบันเทิงเช่นกัน ถึงแม้นจะไม่ได้ชอบโหย่วเผิง ตั้งแต่แรก แต่เมื่อได้เห็นเอ็มวี เสี่ยวหู่ตุ้ย จากการแสดงคอนเสิร์ต ออกตามรายการต่าง ๆ หรือแม้นแต่หนังภาพยนต์ สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า โหย่วเผิงมีการพัฒนาตัวเอง อย่างไม่เคยหยุดอยู่กับที่


กับเด็กวัยอายุ 14 ย่างเข้าอายุ 15 ซึ่งถือว่ายังเด็กเข้าสู่วัยรุ่น ตอนเป็นเสี่ยวหู่ตุ้ยจะได้เห็นความน่ารักของโหย่วเผิง ทั้งในเรื่องของหน้าตาและการแสดงที่บ่งบอกถึงความเป็นวัยรุ่นแรก ๆ ในบางครั้งการออกไปงานต่าง ๆ ของเสี่ยวหู่ตุ้ย โหย่วเผิง อาจจะลืมบท หรือ การเต้นอาจจะผิดจังหวะ ช้าหรือเร็วกว่าคนอื่น ๆ ในบางครั้ง แต่ก็เป็นความน่ารักแบบ เด็ก ๆ ซึ่งแววตา อันแสนซื่อของโหย่วเผิง ก็ทั้งให้หลายคนไม่ได้สนใจข้อบกพร่องของเขาเลยแม้นแต่น้อย กลับเห็นเป็นความน่ารักอีกต่างหาก


ความดังของเสี่ยวหู่ตุ้ยตอนนั้น ต้องยอมรับได้เลยว่าดังมาก ๆ และก็เป็นต้นแบบของนักร้องหลายชาติเลยทีเดียว ด้วยเป็นครั้งแรก ที่นักร้อง ได้ออกมาร่วม กับคนดูแบบ จับมือถือแขน ร่วมกันร้องเพลงเสมือนสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งก็ว่าได้ ความแปลกใหม่ ของเสี่ยวหู่ตุ้ยที่ออกมาแบบเป็นกันเองนี่เองเป็นแรงให้เสี่ยวหู่ตุ้ยดังจนถึงขีดสุด ๆ


ในระหว่างที่อยู่เสี่ยวหู่ตุ้ยนั้น ซูโหย่วเผิง ก็ได้ออกอัลบั๊มเดี่ยวเป็นของตัวเองครั้งแรกในปี 1992 ซึ่งประสบ
ผลสำเร็จอย่างงดงาม และก็ได้ออกมาอย่างต่อเนื่อง คู่กับการออกอัลบั๊มเสี่ยวหู่ตุ้ย

ในปี 1995เสี่ยวหู่ตุ้ยก็ต้องอำลา ด้วยเหตุผลบางประการ แต่คอนเสิร์ตอำลาเสี่ยวหู่ตุ้ยกับเป็นคอนเสิร์ตแรกที่ไม่มีพิธีกรทั้งชายและหญิง อู๋ฉี่หลง เฉินจื้อเผิง และซูโหย่วเผิง เป็นพิธีกรรับและส่ง และเล่นกันเองอย่างลงตัว ถือเป็นคอนเสิร์ตในรูปแบบใหม่ในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ และก็ทำให้เป็นคอนเสิร์ตที่ยังตราบตรึงผู้ชมจนถึงบัดนี้


หลังจากเสี่ยวหู่ตุ้ยเลิกลากันไปก็ดูเหมือนว่าซูโหย่วเผิงจนเริ่มตกต่ำ ในชีวิตจนถึงที่สุดตอนนั้นไม่มีทั้งงานร้องเพลงและงานแสดงเลย และแทบไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย แต่มีค่าใช้จ่ายที่รอต้องจ่ายอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่มีกระแสข่าวบางคนได้บอกว่า สาเหตุที่ตกต่ำไม่ใช่เกิดการอำลาเสี่ยวหู่ตุ้ยอย่างเดียว แต่เกิดจาก ที่ซูโหย่วเผิงด็อปการเรียน ไปอังกฤษ นั่นเอง เพราะว่าในสมัยที่ซูโหย่วเผิงเรียนมัธยมนั้น ถือว่าเป็นแบบอย่างของเด็กรุ่นนั้นเลยทีเดียวที่ทั้งเรียนและทำงานและประสบผลสำเร็จอย่างงดงามทั้งสองอย่าง แต่เมื่อเขาด็อปการเรียนไม่ว่าด้วยเหตุอะไรก็ตาม แต่ข่าวตอนนั้น ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับโหย่วเผิงแต่อย่างไร


ในปี 1996 โหย่วเผิงก็รับหนังอยู่สองเรื่อง ซึ่งผิดกับคาราเตอร์ของโหย่วเผิงอย่างสิ้นเชิง เรื่องหนึ่งคือเรื่อง สามหนุ่มทะเล้นรัก เล่นเป็นชายหนุ่มเจ้าชู้แบบหลายคนรับไม่ได้เลย กับเรื่องฉิงเซ่อ ที่นางเอกเปลือยกายมีฉากเร่าร้อน จนกลายเป็นหนังเรต์อาร์ จนทำให้ซูโหย่วเผิงถึงกับ ถูกกล่าวว่าตกต่ำเล่นหนังเรตอาร์ในที่สุด ถึงแม้นว่าโหย่วเผิงบอกว่าตอนที่รับเรื่องนี้เขามองว่าเป็นเรื่องของศิลป แต่ตัวเขาเองกลับไม่ทราบว่าได้มีการหมกแบบเปลือยกายนางเอกกับพี่ชายตัวเองในเรื่องแบบเร่าร้อนเลยทีเดียว และนั้นก็เป็นสาเหตุว่า ทำไมโหย่วเผิงถึงไม่อ่านเฉพาะบทตัวเอง จะอ่านบททั้งเรื่อง ก่อนรับงานแสดงเสมอในคราวต่อไป


ปี1997 ซูโหย่วเผิง ก็ได้รับเชิญหนังเรื่องหนึ่ง เล่นเป็นนักจิตกรปั้นดินจากกระโหลกให้เป็นหน้าคน แถมขาเป๋ต่างหาก ซึ่งเล่นเพียง 6 ตอนเท่านั้น หลังจากนั้นซูโหย่วเผิงก็ถูกทาบทาม มาเล่นเป็นองค์ชายหย่งฉี เรื่ององค์หญิงกำมะลอ ตอนนั้นโฉว่งเหยาการันตีด้วยว่า ไม่ว่าใครเล่นเรื่องนี้ต้องดังโดยเฉพาะบทเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ตอนนั้นได้มีการคัดเลือกกันแบบมหัศจรรย์พันลึก (แต่ไม่ขอพูดเพราะไม่เกี่ยวกับเรื่องของโหย่วเผิง) และโหย่วเผิงก็ได้โด่งดังอีกครั้งจากเรื่องนี้ แต่น่าเสียดาย ที่โหย่วเผิงไม่สามารถร้องเพลงได้แม้นแต่เพลงเดียวเพราะติดสัญญากับบริษัทค่ายเพลง ซึ่งก็ได้ดองเค็มโหย่วเผิงไม่ได้ออกอัลบั๊มเลยแม้นแต่อัลบั๊มเดียว

ปี1998 ความดังขององค์หญิงกำมะลอทำให้ต้องมีภาค 2 แบบนักวิจารณ์ว่า ไม่ควรจะมีเสียด้วยซ้ำเพราะสมบูรณ์แล้วในภาคแรก แต่ก็ถูกใจวัยรุ่นของจีนและไต้หวันในขณะนั้น นักจิตวิทยาบอกว่า เป็นเพราะหญิงจีนถูกจำกัดสิทธิ์มากมาย พอมีหนังแนวนี้ ก็เหมือนว่า ชีวิตจริงทำไม่ได้ สะใจในหนังแล้วฝันว่าเป็นตัวเองก็แล้วกัน เหมือนกับสาว ๆ ชอบเป็นซินดอลเลล่า นั่นเอง

ปี1999 ทำให้โหย่วเผิงมีผลงาน ออกมาอีก สองเรื่องคือ เราสองหัวใจเดียวกัน และเซียวฮื่อยี้ จากบทซูเสี่ยวเผิงกับฮวยบ่อข่วย ซึ่งก็ทำให้ความดังของโหย่วเผิงได้กลับมาระดับหนึ่ง

ปี2000 ผลงานอีกเรื่องที่ซูโหย่วเผิงออกมา แบบพลิกคาเร็ตเตอร์จากบทองค์ชายคุณชาย เป็นบทตลกตู้เฟย ตอนนั้น แฟนคลับรับกับบทนั้นไม่ได้เลย แต่พอไปสักพัก กับหลงรักตู้เฟย แบบ ไม่ได้ตั้งใจ เพราะว่า การแสดงเรื่องนี้ โหย่วเผิง เล่นได้สมบทบาท แบบไม่น่าเชื่อ ในระหว่างการเล่นเรื่องนี้ ทำให้โหย่วเผิงมีปัญหากับโฉว่งเหยา เพราะว่าโฉว่งเหยาจะไม่ยอมให้ดาราที่เล่นหนังตัวเองอยู่ขณะนั้น ไปรับงานที่อื่นแต่อย่างใด แต่โหย่วเผิงได้เกิดอุบัติเหตุจากการตกม้าในเรื่องนี้ ทำให้กลับไปพักรักษาตัวที่ไต้หวัน และก็ออกอัลบั๊มเพลงหนี่ไคว่ปู่ไคว่เลอ ถึงแม้นจะบอกว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่หลังจากนั้นโฉว่งเหยาก็ไม่ได้ ให้โหย่วเผิงเล่นหนังของเขาอีกเลยดูเหมือนว่าโหย่วเผิงจะสิ้นสุดวงการแสดงอีกแล้ว

ปี 2001 โหย่วเผิงได้รับเชิญให้มาเล่นหนังเรื่อง ไทเก็กจางซานฟงเพียง 10 กว่าตอน และเรื่องเดชเซียวฮื่อยี้ภาค 2 เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และได้เล่นเป็นพระเอกเต็มตัวอีกครั้งจากเรื่องเซี่ยงเย่ชิงชุนซึ่งก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จมากนักจากเรื่องนั้น และเขาก็ได้ออกอัลบั๊ม ปู๊จื่อเซินฉิง(102 %อ้ายฉิง) ถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง

ปี2002 ซูโหย่วเผิง ได้ถูกทาบทามจากบริษัทยักษ์ ให้มาเล่นเรื่อง ดาบมังกรหยก และ ไผอันจิงฉี(อู่ตี้เซี่ยนหลิง) และทำให้เขาโด่งดังแบบไม่มีใครคาดคิด และเขาก็ได้ออกอัลบั๊มหว่านเจินเตอ ใครจะไปทราบว่าความดังของเขาในตอนนั้น จะทำให้เขาได้อยู่ในวงการได้ถึงบัดนี้ อย่างไม่มีใครสามารถ ที่จะมาล้างเขาได้เลย ตอนที่หนังเรื่องดาบมังกรหยกไปฉายที่ไต้หวัน โหย่วเผิงต้องร้องเพลง อีกสองเพลงเพื่อมาเป็นเพลงไต้เติ้ลและเพลงจบในเรื่องนั้นคือ เซียไหล่เตอซื่อโฮว กับ อ้ายฉิงจ้านเจิ้งเซียเตอฝูลู และทำให้เขาได้ออกอัลบั๊มรวมคือจุ๋ยอ้ายด้วย

ปี2003 ถือว่าเป็นซีรีย์เรื่องแรก ในหลายปีที่เขาได้กลับมาเล่นที่ไต้หวันอีกครั้งหนึ่ง ในเรื่องซินตงเลี่ยเชอ เพียง ตอนหนึ่งเท่านั้น ใน 4 ตอนของทั้งหมดในเรื่องนี้ และตอนนั้นเองโหย่วเผิงก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศกับทีมงานเพื่อไปถ่ายทำเรื่อง รักข้ามขอบฟ้า ที่กรีซ และหลังจากจบเรื่องนี้ เขาก็รับงานเรื่อง ยอดขุนศึกวีระบุรุษตระกูลหยาง และได้ออกอัลบั๊ม หยี่เฉียนหยี่โฮ่ว

ปี 2004 โหย่วเผิงก็ได้เล่นเรื่องหมอซูฉีหยวน

ปี 2005 เรื่ององค์หญิงจอมทะเล้น ถือว่าซูโหย่วเผิงได้เป็นซุปเปอร์สตาร์ในที่สุดอย่างถาวร

และปี 2006 โหย่วเผิงก็ได้เล่นเรื่อง เจี้ยงจี้จิ่วจี้

หลังจากนั้นโหย่วเผิงดูเหมือนว่าโหย่วเผิงจะไม่มีทั้งงานแสดงและอัลบั๊มเพลงออกมาเลย มีแต่งานเดินสายไปตามที่ต่าง ๆ แต่โหย่วเผิงก็ยังครองนักแสดงที่มีรายได้มาก คนหนึ่งเลยทีเดียว เขาไม่ได้ตกต่ำ ไปอย่างที่ใครออกข่าวจงใจทำลายเขาอย่างน่าเกลียด เพราะรายได้ของเขาเป็นตัววัดได้เลยว่าความนิยมของเขาไม่เปลี่ยนแปลงกับทวีขึ้นเสียงด้วยซ้ำมิเช่นนั้นใครจะจ้างเขาออกไปรายการและงานต่าง ๆ มากมายขนาดนั้น และในเร็ว ๆ จะได้เห็นบทของเขาในเรื่องต้าเจิ้นฝานด้วยค่ะ


สรุปถึงแม้นโหย่วเผิง จะเป็นอย่างไร สิ่งที่เราภูมิใจที่สุดก็คือ โหย่วเผิงได้ทำประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่งคิดว่าคนหลายคนก็ไม่สามารถที่จะทำได้ อย่างที่เคยบอกมาหลายครั้งว่า ไม่มีใครดีหรือเลวทั้งหมด เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้เลวเกินไป และทำประโยชน์ให้สังคม เขาก็สมควรเป็นคนที่เราควรยกย่อง และสรรเสริญไม่ใช่หรือ เมืองจีนก็ได้ยกย่องโหย่วเผิงด้วยการเอาชีวิตของโหย่วเผิง มาอยู่ในบทเรียนของเด็กจีนด้วย

prattana:
ถ้าพูดเรื่องตระกูลหยาง ชีวิตที่จบแบบ อนาจจริง ๆ แล้วก็ต้องบอกว่า
เริ่มจากต้นสมัยเจ้าควางยิ่น จากแม่ทัพ สถานปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้ แทน ตระกูลไช่ที่ฮ่องเต้ยังเยาว์วัย หลังจากเจ้าควางยิ่นครองราชไม่นาน ก็ได้ตายลง บางกระแสก็บอกว่า เจ้ากวางอวี้ผู้เป็นน้องเป็นคนวางยาลอบฆ่า และขึ้นตัวเองเป็นฮ่องเต้ ซึ่งไม่ใช่บุตรชายเจ้าควางยิ่นด้วยเหตุผลด้วยกันว่าบุตรเจ้าควางยิ่นยันเด็กอยู่อาจจะเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลไช่

เจ้ากวางอวี้เป็นคน ขึ้ระแวง โหดเหี้ยม และหลงในสุรานารี ดังนั้นไม่แปลกเลยที่ตระกูลหยาง จะเจอมรสุม เช่นนี้เพราะมีฮ่องเต้เช่นนั้น

ถ้าได้อ่านประวัติราชวงศ์ซ้องแล้ว ฮ่องเต้จะมีดีเพียงไม่กี่พระองค์ นอกนั้นจะหูเบาเชื่อในขุนนางกังฉิน หลงใหลสตรี ดีแต่ว่า ในสมัยราชวงศ์ซ้อง มีขุนนางจงรักภักดีและผู้มีความรู้ความสามารถมากมายไม่เช่นนั้น ราชวงศ์ซ้องก็คงล่มสลายไปนานแล้วค่ะ

แต่ถ้าฮ่องเต้ดี จะเกิดวีระบุรุษมากมายในประวัติศาสตร์ซ้องได้อย่างไร เพราะฮ่องเต้ไม่ดี ก็เลยเกิดวีระบุรุษหรือคนดี มากมาย และมีชื่อที่เรา ๆ รู้จักดี

เช่นตระกูลหยาง เปาบุ้นจิ้น ตี้ชิง งักฮุย 108 วีระบุรุษเหลียงซานเป็นต้น

prattana:
ตลกฮกเกี่ยน โหย่วเผิงรับเชิญให้รับบทเป็นลูกกตัญญู แม่ป่วย อยู่บนเตียง สมัยก่อนคนโบราณ จะดูอุจิและจิ้มชิมเพื่อดูอาการค่ะ(ของปลอมในเรื่องใช้ของหวานเห็น ๆ ค่ะ) เทวดา เห็นใจในความกตัญญูก็เลยบอกให้โหย่วเผิงไปหาปลาวิเศษมาให้แม่กินเพื่อรักษาอาการป่วยค่ะ ปลาก็อยู่ใน ก้อนน้ำแข็งคะ โหย่วเผิงต้องเอาตัวแนบเพื่อให้น้ำแข็งละลายค่ะ (จริงๆ พิธีกรแกล้งโหย่วเผิงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ)เทวดาเห็นใจก็เลยเอาอาวุธมาทุบน้ำแข็งเอาปลาออกมาให้ค่ะ ปลาหยิบออกมาเหมือนจริงมาก ๆ ค่ะ โหย่วเผิงก็อุตสาห์โชว์ปลา พิธีกรก็แกล้ง เอาอีกด้านออกมาเลยรู้ว่าเป็นปลากระดาษอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ทำไปได้ค่ะ อาจจะตลก คาเฟ่ซะนิดค่ะ แต่เนื้อเรื่องสนุกแค่ 10 กว่านาทีค่ะ


ภาษาฮกเกี้ยนทั้งหมดแต่ไม่ต้องห่วงมีภาษาจีนใต้ล่างค่ะ ดูแล้วสนุกมากค่ะ

ปล. เล่นกันไปหัวเราะกันเองอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

prattana:
โหย่วเผิง ร้องเพลงที่ไม่ได้อัลบั๊มของตัวเอง เอาไปฟังดูนะคะ แล้วจะประทับใจหลายเพลงเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของจางเซียะโหย่ว เพลงจีนเก่า ๆ ซึ่งบอกได้เลยว่า มีเพลงหนึ่ง ที่มีนักร้องจีนและโหย่วเผิงนักร้องไต้หวันคนเดียว ออกมาร้องเพลงปลุกใจจีน โหย่วเผิงร้องได้ถูกอักขระ ของเพลงจีนโบราณเลยค่ะ ซึ่งภาษาจีนสมัยนี้ได้เปลี่ยนคำออกเสียงไปพอสมควร แต่นักร้องกลุ่มนี้ได้รักษาคำโบราณได้อย่างน่ารักค่ะ โดยปกติแล้วคนจีนมักจะบอกว่าคนไต้หวันจะออกเสียงจีนไม่ชัด แต่ลองไปฟังดูค่ะ ว่ากลมกลืนเลยทีเดียวค่ะ

ส่วนอีกเพลงหนึ่งคิดว่าน่าประทับใจคือเอานักร้องจีนและไต้หวัน กลุ่มหนี่งออกมาร้องเพลงฉี่เต้า หาเงินช่วยเหลือคนจีนที่ถูกแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนด้วยค่ะ

จะเน้นว่าโหย่วเผิงร้องเพลงจีนเก่า ๆ หลายเพลงบอกได้เลยว่าร้องได้เหมือนคนจีนรุ่นเก่า ร้องเลยคะ ซึ่งหาได้ยากในคนไต้หวันรุ่นใหม่ค่ะ

ลองฟังดูนะคะ ถ้ารู้สึกซึ้งถึงเพลงจีนเก่า ๆ จะรักและชื่นชอบโหย่วเผิงมากขึ้นค่ะ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version