ผู้เขียน หัวข้อ: 2010 ทำไมถึงเลือกเสี่ยวหู่ตุ้ยมาแสดงในงานฉลองตรุษจีน?  (อ่าน 4487 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

ทำไมถึงเลือกเสี่ยวหู่ตุ้ยมาแสดงในงานฉลองตรุษจีน?

เสี่ยวหู่ตุ้ยได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์แห่งดาราขวัญใจ

การมาซ้อมการแสดงที่สถานียางซื่อของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นได้รับการสนใจเป็นพิเศษ และเป็นการสร้างกระแสนิยมอีกครั้งสำหรับขวัญใจวัยรุ่นของไต้หวัน แม้ว่าเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยจะเปิดบ่อยถี่ขึ้นตามสถานีต่างๆ แต่สำหรับคนรุ่นหลังแล้ว เสี่ยวหู่ตุ้ยก็ยังเป็นวงที่ไม่รู้จักไม่คุ้ยเคย และทางนักข่าวก็ได้ไปสัมภาษณ์กับคนรุ่นที่เกิดช่วงปี 80 สองคน พวกเขาล้วนได้โตมากับเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ย เมื่อได้ยินเพลง(อ้าย)(ชิงผิงก่อเล่อเหยียน)ก็ล้วนคิดถึงเสี่ยวหู่ตุ้ย เสมือนมีความผูกพันกันอย่างยิ่ง “เสี่ยวหู่ตุ้ยได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์แห่งดาราขวัญใจ”

A มารู้จักกับเสี่ยวหู่ตุ้ยอีกครั้ง

เป็นบรรพบุรุษแห่งขวัญใจชาวจีน


ในคืนงานนั้นเสี่ยวหู่ตุ้ยจะร้อง 3 เพลงได้แก่ (อ้าย) (ชิงผิงก่อเล่อเหยียน) (หูเตี๋ยเฟยอา) เป็นเพลงที่คลากสิกมากๆ พวกเขาได้เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่ปี 1989  และแยกทางกันปี 1997  เสี่ยวหู่ตุ้ยได้ออกอัลบั้มยอดนิยมกว่า 13 อัลบั้ม ในบรรดาอัลบั้มเหล่านั้น(หงชิงถิง:Red Dragonfly )ได้กลายเป็นอัลบั้มแห่งความแหวกแนว



Part1 ผลงานของเสี่ยวหู่ตุ้ย

เพลงเดี่ยว

(อ้าย:love) “ร้องตะโกนบอกกับฟ้าว่าผมรักคุณ ร้องตะโกนบอกกับสายเมฆว่าผมคิดถึงคุณ” นี่อาจเป็นเนื้อเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในเนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความหวานชื่นของความรัก ความฝันที่สดใส และได้กลายเป็นจุดเด่นของผลงานของเสี่ยวหู่ตุ้ย และสิ่งที่ไม่เอ่ยไม่ได้เลยก็คือ (อ้าย:love) ร้องประสานเสียงสามเสียง ทำให้เพลงจีนกลายเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ตอนนั้นหลังจากเพลงรักที่ดังไปทั่วแล้ว ในโรงเรียนมัธยมก็มักจะมีการจัดกิจกรรมแล้วเลือกชายหญิงคู่หนึ่งมาร้องเพลงนี้ เพลงนี้ได้จุดประกายความรักแห่งปี 80
 
(หู่เตี๋ยเฟยอา:Flying Butterflies) มิวสิคเพลงนี้เป็นการไปถ่ายมิวสิคนอกสถานที่ของทั้งสามคน ได้สื่อถึงช่วงวัยที่ไร้ทุกข์ไร้โศก ทำนองเพลงนี้อาจมีอารมณ์เศร้าบ้าง แต่เมื่อเสี่ยวหู่ตุ้ยได้ร้องแล้วมันกลายเป็นความใฝ่ฝันไป ตอนนั้นทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนหรือเทศกาลต่างๆจะมีนักเรียนนำเอาเพลงนี้ทำเต้นประกอบท่า
 
(ชิงผิงก่อเล่อเหยียน:Green Apple Paradise) เป็นเพลงเดียวของเสี่ยวหู่ตุ้ย แต่ตอนที่ดังไปที่จีนนั้น จะช้ากว่าเพลงอ้าย ฉะนั้นเลยกลายเป็นเพลงอีกด้านหนึ่งของเสี่ยวหู่ตุ้ย ในภาพแห่งความทรงจำนั้น (ชิงผิงก่อเล่อเหยียน)นั้นมักจะเปิดถี่มากในช่วงวันเด็กแห่งชาติ และตอนนั้นได้เข้าไปที่จีนด้วยการทำเป็นคาราโอเกะแล้ว การประกวดร้องเพลงนั้นหลายคนได้เลือกร้องเพลงนี้ เพลงจะเลียนแบบเสี่ยวหู่ตุ้ย
 
(ซินเหนียนไคว่เล่อ:Happy New Year) เป็นเพลงรักซึ้ง ได้พูดถึงคำอวยพรของปีใหม่ ไม่ใช่พูดว่า “ผมรักคุณ”แต่จะขอพูดว่า “สวัสดีปีใหม่” การที่เพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นได้รับความนิยมไม่จำกัดอายุวัย ก็เพราะเนื้อเพลงที่ดี มันไม่เหมือนกับเนื้อเพลงของเพลงรักในสมัยนี้มันยุ่งเหยิงเศร้าระทมอย่างสุดแสน และเป็นการแสดงถึงความรู้สึกที่บริบูรณ์และใสสะอาด ฉะนั้นตอนนั้นอาจารณ์มัธยมก็ไม่ต่อต้านที่เด็กๆจะร้องเพลงของพวกเขา

(หงชิงถิง:Red Dragonfly) เป็นเพลงสุดคลากสิกของเสี่ยวหู่ตุ้ย เพลงนั้นล้วนจะมีท่าเต้นที่น่าตื่นเต้น อีกด้านหนึ่งเพื่อจะกระตุ้นบรรดาแฟนเพลง อีกด้านหนึ่งก็เพื่อจะให้หวนคิดถึงความเดียงสาของวัยรุ่นในสมัยนั้น ในปี 2003 ได้มีการเอาเพลงนี้มาร้องกันอีกครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่าเพลงของเสี่ยวหู่ตุ้ยไม่มีเวลามาจำกัดความดังของมัน



อัลบั้ม

ดังมาก (เซียวเหยายิ๋ว:Roaming Leisurely) เป็นอัลบั้มที่มีความหมายมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งของเสี่ยวหู่ตุ้ย ตอนนั้นค่ายไคลี่ได้มีการวางแผนจัดงานแจกลายเซ็นให้กับบรรดาแฟนคลับของเสี่ยวหู่ตุ้ย และเพลงนั้นได้เปิดไปทั่วไต้หวัน ทำให้เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้า ค่ายไคลี่ฉวยโอกาสที่ไฟแรงรีบตีเหล็กด้วยการออกอีกสองอัลบั้ม(หนันไหปู้คู: Boys Don't )(ซิงซิงเตอแยฮุ้ย: Dating Stars) แต่ว่าช่วงนี้เพลงที่ยอดฮิตที่สุดของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นน่าจะได้แก่ (บอกกับคุณคำหนึ่งว่า มายเลิฟ:Say To Me-My Love) กับ (ซิงซิงเตอแยฮุ่ย:dating stars)

 
จุดสุดยอด ::  (หงชิงถิง) (อ้าย) (ไจ้เจี้ยน) เป็น 3 อัลบั้มที่ยอดฮิตมากๆ และด้วยเหตุที่ธุรกิจการทำเพลงนั้นไปได้ดีมาก ทำให้การทำอัลบั้มได้อย่างไม่ต้องกังวล จนค่ายได้ทำอัลบั้มสองอัลบั้มต่อหนึ่งปี และมียอดขายทะลุกว่าแสนตลับอย่างสบายๆ

แค่ค่าภาษีก็รวยแล้ว ยอดขายที่ดีนั้นทำให้เสี่ยวหุ่ตุ้ยได้สร้างอัลบั้มเพลง (หงชิงถิง)(อ้าย)(หูเตี๋ยเฟยอา)(ฟ่างซินฉี่เฟย)(ลี่เกอ)เหล่านี้ขายดีมาก และความนิยมในตัวของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นพุ่งกระฉูดไม่อยู่ ได้ข่าวว่าตอนนั้นโรงเรียนมัธยมในไต้หวัน แค่มีใครพูดคำเดียวว่า “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ก็จะมีเสียงกรี๊ดออกมาอย่างแก้วหูจะแตก อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงอัลบั้ม(ไจ้เจี้ยน:Goodbye) ตอนนั้นโหย่วเผิงเตรียมสอบเข้ามหาลัย จื้อเผิงต้องไปเกณฑ์ทหาร เสี่ยวหู่ตุ้ยก็ต้องพบการการแยกทางเป็นครั้งแรก
 
เกิดการเปลี่ยนแปลง :  รอการกลับมาของจื้อเผิง เสี่ยวหู่ตุ้ยได้มีการทำอัลบั้มใหม่(ซิงกวางอีจิ้วชั่นลั่น:Bright Starlight) ชื่อตรงกับสถานการณ์ของเสี่ยวหู่ตุ้ยในตอนนั้นมาก แม้ว่ายอดขายจะสู้ที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ยอดขายก็ไม่เลวเหมือนกัน ทางค่ายก็ได้ฉวยโอกาสในการจัดคอนเสิร์ดทัวร์ทั่วเอเซีย ยังรวมถึงจีนด้วย กระแสยังร้อนแรงอยู่ แต่ว่าเห็นว่าทั้งสามคนก็เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้วทางบริษัทก็อยากจะสร้างพวกเขาให้เดินในเส้นทางของผู้ใหญ่ แต่ว่าก็กลัวจะทำให้ยอดขายต้องตก อีกด้านหนึ่งก็กลัวแฟนเพลงหดหาย สุดท้ายก็ยังคงเหมือนเดิมแต่จะมีท่าเต้นที่เพิ่มให้เด่นขึ้น แต่การทำอัลบั้ม(ไคว่เล่อเตอกั่นแจ๋หยงเหยี่ยนอีย่าง: Same Happy Feeling )(ยงเหยินจื้อยิว: Imaginary Worries )ก็เงียบๆ กระแสนิยมก็เริ่มตกต่ำ นี่ก็เป็นเหตุทำให้พวกเขาจำต้องแยกทางกันอีกครั้ง

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

Part 2 ความเป็นมาของเสี่ยวหู่ตุ้ย

ชื่อ >>  กรกฏาคม  ปี 1988  ค่ายไคลี่ได้มีการจัดรายการโทรทัศน์ของวัยรุ่น รายการนั้นมีพิธีกรสาวสวยสามคน ชื่อว่า เสี่ยวเมาตุ้ย และทางรายการอยากจะหาผู้ช่วยผู้ชายสามคนมาช่วยรายการ มีการคัดเลือกผู้ที่มาสมัคร สุดท้ายทางไคลี่ได้เลือก ฉีหลง จื้อเผิง โหย่วเผิงสามหนุ่มมาเป็นผู้ช่วยรายการ เลยตั้งชื่อวงว่า  เสี่ยวหู่ตุ้ย
 
รูปแบบ >> ตลอดเวลานั้นเสี่ยวหู่ตุ้ยล้วนมีภาพลักษณ์ที่ใสสะอาด ไร้ตำหนิ ตอนที่มีการร้องเพลงออกคอนเสิร์ดนั้น พวกเขาก็จะแต่งกายสวมเสื้อสีขาว สูท และเนทไทน์ แต่เมื่อผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนโดยแต่งตัวสไตน์ยุโรป การแต่งกายนั้นฉีหลงกับจื้อเผิงนั้นทันสมัย แต่โหย่วเผิงก็ยังคงสวมสูทที่น่ารัก




ตำแหน่งการยืน >> ตั้งแต่หน้าปกของอัลบั้มถึงการแสดงบนเวที ตำแหน่งการยืนนั้นฉีหลงจะยืนตรงกลางไม่เคยเปลี่ยน ทางซ้ายเป็นจื้อเผิง ทางขวาเป็นโหย่วเผิง แต่มีเพียงหน้าปกอัลบั้มเดียวที่แตกต่างคือ(ยงเหยินจื้อยิว:Imaginary Worries ) ที่โหย่วเผิงเปลี่ยนมายืนตรงกลาง ตอนหลังทางค่ายมาอธิบายว่า ฉีหลงเป็นหนุ่มหล่อที่มีผู้หญิงชื่นชอบทั้งน้อยใหญ่ จื้อเผิงก็หน้าตาคลายจางก่อหยงที่มีแฟนคลับของจางก่อหยงสนับสนุนอยู่ แต่ทางโหย่วเผิงหน้าตาเด็กดีและเรียนเก่ง เป็นที่รักของวัยรุ่นนักเรียนและผู้ปกครอง

ยี่ห้อ >> เสี่ยวหู่ตุ้ยดังระเบิด ได้มีการโฆษณากันหลายๆรูปแบบ ทางบริษัทนอกจากจะมีการจัดทำอัลบั้ม จัดคอนเสิร์ด และเล่นละครสั้นแล้ว ยังมีการจัดทำปฏิทิน ภาพโปสเตอร์ นามบัตร กระดาษจดหมายและซอง และอุปกรณ์เครื่องเขียนก็ล้วนมีชื่อภาพพวกเขา จนได้กลายเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งขวัญใจวัยรุ่นของจีนไป


B  ทำไมไม่ใช่พวกเขา - Sean

อีกหลายเรื่องราวของเสี่ยวหู่ตุ้ย

มีหลายวงที่ร่วมดังไปกับเสี่ยวหู่ตุ้ยในสมัยนั้น มี (วงยิวฮวนไพ่) ที่ร่วมร้องเพลง(ซินเหนียนไคว่เล่อ:Happy New Year )กับเสี่ยวหู่ตุ้ย วงเส้าหนี่ตุ้ย, วงหงฉุนจู่,   แต่วงที่สามารถที่จะเทียบกับเสี่ยวหู่ตุ้ยได้นั้น น่าจะเป็นวง เป้าเสี่ยวจื่อ ,วงหงไหเอ๋อ, เฉ่าหมงซัน,  แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่มาร่วมงานในคืนตรุษจีนล่ะ ? ขณะที่ทางSean ได้ให้สื่อสัมภาษณ์ได้บอกว่า แม้วงเหล่านี้จะมีจุดเด่นของแต่ละวง แต่หากเทีบบกับเสี่ยวหู่ตุ้ยแล้ว ไม่ว่าด้านไหนก็ตามก็ล้วนเทียบไม่ได้ ฉะนั้นคืนตรุษจีนก็เลยเลือกเสี่ยวหู่ตุ้ย
 
(เป้าสเสี่ยวจื่อ) น่าจะเป็นวงที่ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับเสี่ยวหู่ตุ้ย สมาชิกทั้งสองคนล้วนเป็นนักเต้น ลักษณะเพลงที่เด่นของพวกเขาคือการเอาเพลงเก่ามาปัดฝุ่นร้องใหม่ ตั้งแต่เพลง (อ้ายหนี่ไจ้ซินโข่วหนันไค) (เฟิงฉงหนาลี่ไหล) จนถึง(จินเทียนปู้หุยเจีย)จนสามารถที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขา แต่ทาง Sean ได้บอกว่า แม้จะประสบความสำเร็จมากมาย หลังจากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาสองคนแล้ว บอกว่าทางแฟนคลับของพวกเขาแทบจะจำเพลงของพวกเขาไม่ได้เลย ผู้ชมอาจจะไม่รู้จักพวกเขาแล้ว ฉะนั้นเปอร์เซ็นที่พวกเขาจะมาแสดงด้วยกันคงเป็นศูนย์



วงหงไหเอ๋อท่าเต้นพิชิตเสียงร้อง

วงหงไหเอ๋อถือว่าเป็นศิษย์น้องของเสี่ยวหู่ตุ้ย ก็ตามเคยที่ได้คัดสรรคนเก่งทั้งหมดเจ็ดคนมาเป็นวงหงไหเอ๋อ พวกเขามีแฟนคลับในชั่วพริบตา ทางแฟนๆได้ขนานนามพวกเขาว่า “ฮีโร่ของวัยรุ่น สหายที่แสนดี” อัลบั้มทั้ง 5ชุดของพวกเขานั้น ยอดขายที่ต่ำที่สุดยังคงที่ 250000 ชุด ตอนนั้นวงหงไหเอ๋อได้มีฉายาว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเสี่ยวหู่ตุ้ย แฟนๆทางประเทศจีนจำฉีหลงและจื้อเผิงได้ดีด้วยภาพยนตร์(เสี่ยวเจียหลงเจี้ยนเฟิง) แต่ทางวงหงไหเอ๋อเป็นผู้ร้องเพลงประกอบเรื่องนี้

แม้ว่าความนิยมและผลงานจะสู้เสี่ยวหู่ตุ้ยไม่ได้ เพลงที่หงไหเอ๋อร้องนั้นอาจน้อยมาก แต่พวกเขาเด่นในด้านการเต้น Sean คิดว่านี่จะเป็นจุดที่เด่นของพวกเขา แต่สำหรับคือตรุษจีนแล้ว เขากล่าว่า “แฟนๆคงไม่อยากจะเห็นความเก่าๆของวงหงไหเอ๋อแล้ว”


วงเฉ่าหมงก็ยิ่งยากที่แฟนๆจะสนใจ

ปี 1990  ขณะที่เพลง(อ้าย:love)ของเสี่ยวหู่ตุ้ยดังระเบิดไปทั่วทุกซอกทุกซอย วงดนตรีเฉ่าหมงของฮ่องกงก็กำลังดังด้วย และวงเฉ่าหมงก็ได้รับรางวัลมากมายในฮ่องกง และได้ดังมาถึงไต้หวันด้วย มีอัลบั้มเพลงหลายชุดได้เป็นที่นิยมของแฟนๆ อัลบั้มหลายชุดมียอดขายที่ดีมาก ปี 2000 วงเฉ่าหมงได้แยกวง ทั้งสามคนต่างคนต่างเดิน แต่ก็ยังมีสมาชิกบางคนมาทำงานเพลงต่อ และปี 2005 พวกเขาได้รวมตัวร้องเพลงอีกครั้ง และผลงานก็ออกมาได้ไม่เลวด้วย

แต่หากเปรียบกับเสี่ยวหู่ตุ้ยแล้ว แม้ท่าเต้นต่างๆของพวกเขาจะเหนือเสี่ยวหู่ตุ้ย แต่เรื่องเพลงแล้วสู้เสี่ยวหู่ตุ้ยไม่ได้เลย แต่ก็อาจจะมีสิทธิ์มาแสดงในงานคืนตรุษจีนได้เหมือนกัน แต่ทาง Sean ได้กล่าวว่างานคอนเสิร์ดของวงเฉ่าหมงนั้นมีผลงานที่ไม่เลวเลย แต่ว่าข่าวคราวของพวกเขานั้นดูเหมือนจะเงียบไปหน่อย ไม่ค่อยมีคนสนใจสักเท่าไร ความหมายก็คือ จะเลือกเอาวงเสี่ยวหู่ตุ้ยที่เป็นข่าวและเป็นที่สนใจของผู้คนมาแสดงคงจะดีกว่า