ผู้เขียน หัวข้อ: 11 เรื่องราวสำคัญๆหวนรำลึกถึงเสี่ยวหู่ตุ้ย 19 ม.ค. 2010  (อ่าน 5977 ครั้ง)

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด
19 มกราคม 2010 ชิงผิงก่อเล่อเหยียน (Qing Ping Guo Le Yuan:สวนแห่งความสนุก)

11 เรื่องราวสำคัญๆหวนรำลึกถึงเสี่ยวหู่ตุ้ย


เริ่มตั้งแต่ปี 1997 ข่าวเกี่ยวกับการจะรวมตัวกันของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นเราได้ยินมาแล้ว 12 ปี ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมานั้น ทั้งสามคนก็มักจะมีคนหนึ่งที่ขาดหายไป ทั้งสามคนต่างล้วนมีหน้าที่การงานของตัวเองแล้ว แต่ละคนก็จะพยายามที่จะทำให้สิ่งที่ตั้งใจไว้เป็นจริง ในปีเสือนี้ ในที่สุดพวกเราก็ได้เห็นการรวมตัวของพวกเขาจนได้ สำหรับการหวนรำลึกอดีตของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นมันมากมายหลายเรื่องเหลือเกิน งั้นเราของเจาะเอาประเด็นเรื่องสุดยอดแค่ 11 เรื่องมาหวนระลึกอดีตของเสี่ยวหู่ตุ้ยด้วยกัน

อัลบั้มเพลงไคลี่

การเริ่มต้นรวมตัวของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นมีความเกี่ยวข้องกับไคลี่ หากมิใช่สถานีรายการไคลี่เปิดโอกาสให้ หากมิใช่รายการไคลี่ที่มีสาวน้อยแสนสวยสามคนมาดำเนินรายการ ก็คงจะไม่มีวันที่เสี่ยวหู่ตุ้ยมารวมตัวกัน เริ่มแรกจากการประกาศคัดตัวผู้ที่จะมาเป็นผู้ช่วยของรายการไคลี่ ทั่วเกาะไต้หวันก็ควนหาผู้ชายที่เหมาะสมเพื่อมาเป็นผู้ช่วยในรายการไคลี่ของเสี่ยวเมาตุ้ย

อู่ฉีหลง, โหย่วเผิง, จื้อเผิง ชายหนุ่มทั้งสามคนก็ได้เดินเข้ามาสู่สายตาของทุกคน ตอนนั้นหนุ่มน้อยทั้งสามคนแทบจะไม่รู้เลยว่าวงการบันเทิงคืออะไร การที่พวกเขาไปสมัครคัดตัวนั้นต่างก็มีโชคของตัวเอง เช่นอู่ฉีหลง เขาเป็นคนปกติ แต่เหตุที่เขามีความสามารถตีลังกาหลังได้จึงเป็นที่เตะตาของกรรมการ ทางด้านคุณแม่ของโหย่วเผิงก็กังวลใจว่าการที่เขาเข้าสู่วงการบันเทิงแล้วจะทำให้ผลการเรียนที่ดีมาตลอดของเขาตกต่ำไปมั้ย

แต่ละด่านที่ผ่านมานั้น ทำให้พวกเขาทั้งสามคนกลายเป็นเสี่ยวหู่ตุ้ยผู้ช่วยรายการวัยหนุ่มไป ที่น่าอัศจรรย์คือพวกเขาที่เป็นแค่ผู้ช่วยรายการกลับทำรายการได้โดดเด่นและเป็นที่นิยมของผู้ชมมากกว่าเสี่ยวเมาตุ้ย จนทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากผู้ชนเป็นอย่างมาก


Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

ซินเหนียนไคว่เล่อ: Happy New Year:Xin Nian Kuai Le

เมื่อเอ่ยถึงเสี่ยวหู่ตุ้ยแล้ว คำว่า ซินเหนียนไคว่เล่อ นั้นเป็นประโยคที่แยกจากกันกับพวกเขาไม่ได้ จากรายการซินเหนียนไคว่เล่ออัลบั้มนี้นั้น ทำให้เสี่ยวหู่ตุ้ยจากเดิมเป็นแค่พิธีการได้เหยียบก้าวแรกก้าวสู่นักร้องตัวจริง แม้อัลบั้มชุดนี้จะออกแนวสนุกๆ แต่ทางเสี่ยวหู่ตุ้ยก็เป็นแค่นักร้องประกอบเท่านั้น แต่ว่าการอัดบันทึกของอัลบั้มเช่น

ชิงผิงก่อเล่อเหยียน:Qing Ping Guo Le Yuan
ไฉ่เซ่อเทียนคงไฉ่เซ่อม่ง:Cai Se Tian Kong Cai Se Meng
และเพลงที่ร้องประสานเสียงอย่าง ซินเหนียนไคว่เล่อ:Xin Nian Kuai Le

นั้นก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และยอดขายนั้นพุ่งสูงถึง 250,000 อัลบั้ม เสี่ยวหู่ตุ้ยยังได้มีการร่วมร้องเพลงกับ (วงยิวฮวนไพ่) แม้จะไม่ประสบผลเท่าไร นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าหวนคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง

(วงยิวฮวนไพ่) ก่อตั้งก่อนเสี่ยวหู่ตุ้ย ในปี 1989 พวกเธอก็มีแฟนคลับมากมาย แต่ความร้อนแรงของเสี่ยวหู่ตุ้ยนั้นยากจะหยุด และความนิยมของเสี่ยวหู่ตุ้ยก็ได้กลบความนิยมของ (วงยิวฮวนไพ่) ไปอย่างปริยาย แม้จะมีเพลงสามเพลงที่เสี่ยวหู่ตุ้ยร้องในอัลบั้มของ (ยิวฮวนไพ่) แต่เพลงเหล่านั้นกลับเป็นที่นิยมมากกว่าเพลงของ(ยิวฮวนไพ่) แม้ว่าทางไคลี่จะมีแผนที่จะเปิดทางแห่งการร้องเพลงให้เสี่ยวหู่ตุ้ย แต่ว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่าความสำเร็จมาเยือนพวกเขาเร็วมาก และง่ายมาก ด้วยเหตุนี้พวกเขาก็ได้รีบเตรียมงานอัลบั้มของเสี่ยวหู่ตุ้ย ตั้งเป้าอยากจะประสบความสำเร็จให้มากกว่านี้ มาถึงช่วง เมษายน อัลบั้ม (เซี่ยวเหยายิ๋ว:Xiao Yao You)ได้ออกจำหน่าย และก็ติดอันดับเพลงยอดฮิตอีกด้วย ทำให้เสียวหู่ตุ้ยกลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นอันดับหนึ่งของไต้หวันไปแล้ว


มาราธอนคนนับล้าน

อัลบั้ม(ซินเหนียนไคว่เล่อ:Xin Nian Kuai Le)ประสบความสำเร็จอย่างมากจนทำให้ทางบริษัทนั้นอยากจะตอบแทนแฟนคลับ พวกเขาตัดสินใจจัดงานเซ็นสัญญาของบริษัทที่หออนุสรณ์ของ ดร.ซุ่นยะเซน ผู้ช่วย(ฉีหลง,จื่อเผิง,โหย่วเผิง) ทั้งสามคนรู้สึกเขินอายบ้าง พวกเขาไม่รู้ว่าตอนนั้นพวกเขาดังขนาดไหน พวกเขายังหยอกล้อกันว่าหากวันนี้ไม่มีคนมาดูพวกเขาจะหลบกลับไปอย่างเงียบๆ

ในความเป็นจริงทุกคนก็รู้ข่าวนี้แล้ว ขณะที่พวกเขาเข้าไปที่หออนุสรณ์นั้นก็ได้เห็นคนนับหมื่นแสนแล้ว ผู้คนมากมายได้เบียดเสียดกันเข้าไปในหอ จนทำให้จราจรโดยรอบนั้นติดจนสัญจรไม่ได้ การเซ็นสัญญาครั้งนี้นั้นมีคนมาร่วมงานกว่าสองหมื่นคน เหตุที่ผู้คนเยอะมากจนอยากจะควบคุมได้ สุดท้ายทางบริษัทไม่สามารถจะดำเนินการต่อไปได้โดยต้องขอหยุดการเซ็นสัญญากลางคัน



เมษายนที่มีการเซ็นสัญญาที่สุดจะคึกคัก จากนั้นพฤษภาคมก็มีอัลบั้มแรกของพวกเขาก็ได้ออกมาวางขาย(เซียวเหยายิ๋ว:Xiao Yao You) ทางบริษัทได้ตัดสินใจจัดงานกิจกรรมโปรโมทที่ไม่เคยทำมาก่อนให้กับพวกเขา และงานกิจกรรมครั้งนี้ให้ตั้งชื่องานว่า “เซียวเหยา ฮ่อควง เสี่ยวหู่ตุ้ย” เป็นคอนเสิร์ททัวร์

งานคอนเสิร์ทครั้งแรกนั้นเริ่มที่ไถจงในวันที่ 6 พ.ค. และจะกลับมาถึงไทเปในเดือน มิ.ย. และเป็นงานคอนเสิร์ทที่สถานที่ใหญ่ที่สุด จราจรติดขัดที่สุดและคนเยอะที่สุด ในงานจะมีสโลแกนว่า “รักเกียรติ มีระเบียบ” เพื่อจะสามารถช่วยให้ผู้คนที่เข้ามาจะมีความเป็นระเบียบและสงบ การระบบการจราจรนั้น ทำให้มีอะไรที่แปลกใหม่ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ


โหย่วเซี่ยเอ๋อ "Wandering Heroes"

ช่วงที่ดังระเบิดในปี 1990 แน่นอนก็ต้องมีการพัฒนาก้าวหน้าต่อไป และมีผู้กำกับที่มีชื่อของไต้หวันได้เชิญพวกเขาแสดงภาพยนต์ (โหย่วเซี่ยเอ๋อ) เป็นงานใหญ่ที่หลังจากออกอัลบั้ม(หงชิงถิง:Hong Qing Ting)ไปแล้ว

สไตน์ของหนังเรื่องนี้เป็นการกำกับของจูเหยียนผิง เป็นเรื่องออกแนวตลก ในเรื่องมีโจรสลัดในทะเล มีหลายๆอย่าง ทั้งสามคนได้มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ก็ทำให้ค่าโฆษณาหนังต้องเพิ่มอีก 20 ล้านเหรียญไต้หวัน

ในเรื่องก็ไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องแรกของเสี่ยวหู่ตุ้ย แล้วชื่อของทั้งสามนั้นก็ไม่วายที่จะใช้ชื่อจริง และเทคนิการแสดงก็ไม่ได้เรียกร้องมากมาย ทางแฟนๆก็ขอแค่ได้เห็นหน้าพวกเขาสามคนก็พอใจแล้ว ตามที่คาดการณ์ไว้ ตั๋วหนังนั้นขายทะลุนับหมื่นใบ นับว่าผ่านได้เลยทีเดียว แม้ว่าการแสดงครั้งแรกจะไม่เด่นดัง แต่ทำให้พวกเขาสามคนกลับได้ไปลองชิมบรรยากาศในเป็นนักแสดงอย่างไม่ได้นัดหมายไว้ ได้กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของพวกเขา

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

อ้าย:Love

“นำใจของคุณและใจของฉันมาร้อยเข้าด้วยกัน ร้อยเป็นพวงร้อยเป็นใจเดียวกัน” นี่เป็นภาพความทรงจำที่ฝังใจของแฟนคลับในประเทศจีน เนื้อเพลงนี้ได้นำทำนองที่ไพเราะมาประกอบและบวกกับท่าเต้นที่สวยงาม ทำให้เป็นที่นิยมของคนสมัยนั้น

แน่นอน มีอัลบั้มมากมายของเสี่ยวหู่ตุ้ยที่ขายดีมาก แต่จะขอนำเอาอัลบั้ม (อ้าย..Love) มาพูด แน่นอนอัลบั้มนี้ต้องมีเอกลักษณ์อะไรที่พิเศษ อัลบั้ม (อ้าย:Love) นั้นทำต่อจากอัลบั้ม(ซิงซิงเตอแยฮุ่ย:Xing Xing De Yue Hui)หลังประมาณ 11 เดือน การที่จะทำอัลบั้มในระยะครึ่งปีต่อหนึ่งอัลบั้มนั้นเป็นอะไรที่ไม่ง่าย จริงๆแล้วตอนที่ออกอัลบั้ม(ซิงซิงเตอแยฮุ่ย:Xing Xing De Yue Hui)  โหย่วเผิงมีความกดดันที่จะสอบเข้ามหาลัย ทางบริษัทก็ได้ให้เขาลาพักเป็นพิเศษ เรื่องการโปรโมทนั้นจะเป็นหน้าที่ของฉีหลงและจื้อเผิง ช่วงเวลาการบันทึกอัลบั้ม(อ้าย) เวลาส่วนใหญ่จะใช้อัดคือหลังโหย่วเผิงสอบเสร็จแล้ว การดำเนินการอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นที่รักของคนทุกรุ่น หลังจากที่โหย่วเผิงสอบเข้ามหาลัยไต้หวันได้แล้ว เสี่ยวหู่ตุ้ยก็ยิ่งเป็นที่ชื่นชอบและเป็นขวัญใจของทุกวัย ผู้ปกครองก็วางใจที่จะให้ลูกๆชื่นชอบในตัวเสี่ยวหู่ตุ้ย ฉะนั้นสามารถพูดได้ว่าอัลบั้ม(อ้าย)นั้นทำมาเพื่อให้กับทุกๆคนเลย

อัลบั้มนี้ไม่เพียงแค่ทำให้คนไต้หวันชื่อชอบสนใจพวกเขา ทั้งยังดังระเบิดไปถึงประเทศจีนอีกด้วย ภาพลักษณ์ที่ดี นิสัยที่งาม หลังจากที่อัลบั้มนั้นออกได้ไม่นานพวกเขาก็ได้มีโอกาสไปแสดงที่ประเทศจีน หลังจากเดือนกันยายนปี 1991 แล้ว เสี่ยวหู่ตุ้ยได้มีการจัดคอนเสิร์ทเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติที่ปักกิ่งแล้ว จากนั้นยังได้มีการทัวร์คอนเสิร์ทอีก 12 ครั้งเหมือนกัน มีการจัดที่ศูนย์วัฒนธรรมของซีอันด้วย จากงานคอนเสิร์ดเหล่านี้ทำให้พวกเขาดังระเบิดจนไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนเลียนแบบท่าเต้น ฉันรักเธอ จนไม่มีใครทำไม่ได้  และทางโรงเรียนก็มีการจัดรายการด้วยหนุ่มสามคนเพื่อเลียนแบบเสี่ยวหู่ตุ้ย

 
เกณฑ์ทหาร

ธันวาคม 1991 จื้อเผิงต้องไปเกณฑ์ทหารและทางเสี่ยวหู่ตุ้ยก็ได้มีการจัดทำอัลบั้มที่ 6 ของพวกเขาคือ (ไจ้เจี้ยน:Zai Jian: ลาก่อน) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายกว่าที่ทุกคนคิดไว้ โหย่วเผิงที่สอบเสร็จกำลังจะทำอัลบั้ม(อ้าย)แต่เสียดายที่จื้อเผิงต้องไปเกณฑ์ทหารเป็นการด่วน และเวลาการร่วมงานของพวกเขาก็กลายเป็นอุปสรรค์และต้องแยกทางกัน

ตามกฏหมายของไต้หวันแล้ว ผู้ชายทุกคนที่อายุครบ 18 จะต้องไปเกณฑ์ทหาร นอกเหนือจากกรณีพิเศษเช่นร่างกายไม่สมบูรณ์หรือติดเรียนเท่านั้น ปี 91 (จื้อเผิง) ต้องเข้าเกณฑ์ จะมีการสมัครในปลายปี และอัลบั้มใหม่ “ลาก่อนแฟนๆ” ก็ได้มีการจัดขึ้น และเรื่องราวครั้งนั้นก็เป็นที่จำฝังใจของบรรดาแฟนๆ เพราะทุกคนก็รู้ดีว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงจากจุดสูงสุดของเสี่ยวหุ่ตุ้ยมาเป็นอย่างนี้ แม้เวลาเกณฑ์ทหารแค่ปีเดียว แต่ในวงการบันเทิงที่เปลี่ยนแปลงร้อยแปดพันเก้านั้น แค่ปีเดียวก็สามารถที่จะเกินหลายๆอย่างได้ ปี 1992 (หลินจื้ออิง) เข้าสู่วงการ ได้กลายเป็นขวัญใจของผู้คนไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 1993 (จื้อเผิง) เข้าสู่วงการบันเทิงอีก ความนิยมของผู้คนก็ล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

สิ่งที่น่าทึ่งคือ ไม่นาน (หลินจื้ออิง) ก็ได้ไปเกณฑ์ทหารต่อ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็ไม่มีใครจำได้แล้ว ด้วยสาเหตุนี้ทำให้เหล่าดาราต้องประสบกับปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้ดาราผู้ชายหลายคนต้องหนีการไปเกณฑ์ทหาร

มาถึงปี 1995  (อู่ฉีหลง) ได้ต้องเผชิญกับการไปเกณฑ์ทหาร จากเวลาที่ไม่เคยคอยใครนั้น ทำให้ทางบริษัทก็ต้องจำใจ หลังจากที่ (จื้อเผิง) กลับเข้ามาสู่วงอีกครั้งนั้น อัลบั้มของพวกเขาก็ลดน้อยลง ออกแค่ปีละหนึ่งอัลบั้ม และยอดขายก็ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน การจากไปของ (อู่ฉีหลง) ทำให้การแยกทางของเสี่ยวหู่ตุ้ยที่ไม่หวนกลับ
....

Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

เรื่อง (องค์หญิงกำมะลอ) ข้างหนึ่งเป็นจื้อเผิง ข้างหนึ่งเป็นโหย่วเผิง

องค์หญิงกำมะลอ

การแยกทางครั้งที่สองของเสี่ยวหู่ตุ้ย ทำให้เห็นถึงการงานในอนาคตของแต่ละคนแล้ว ตอนนั้นอาชีพการแสดงของพวกเขานั้นยังไม่มีทิศทาง หลายคนคิดว่าหลังจากที่พวกเขาต่างคนต่างเดินแล้วคงจะไม่มีอะไรที่ทำให้พวกเขากลับมาดังอีกครั้งแล้ว ไม่คิดเลยว่า หลังจากที่ (ฉีหลง) เกณฑ์ทหารผ่านแล้วสองปี จื้อเผิงและโหย่วเผิงก็ได้เริ่มเข้าสู่วงการแสดงโดยเรื่อง(องค์หญิงกำมะลอ)

เรื่องนี้นั้นก่อนจะมีการถ่ายทำนั้นเป็นละครที่ไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ แม้ว่าทางบริษัทจะมีละครหลายๆเรื่องที่สนุกให้กับผู้ชมก็ตาม แต่นักแสดงกลับไม่ดังเลย แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่ององค์หญิงกำมะลอออกอากาศแล้วเป็นที่นิยมของผู้คนมากมาย แม้ว่าตอนนั้นคนที่ดังจะเป็นจ้าวเว่ยและซินหยู แต่อู่อาเกอที่โหย่วเผิงเล่นก็ทำให้เขาเป็นที่นิยมของผู้ชมด้วยเหมือนกัน ทำให้เขาเริ่มมีแฟนคลับที่จีนและไต้หวัน แฟนคลับของเขาก็ไม่ต่างจากแฟนคลับตอนเสี่ยวหู่ตุ้ยมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จื้อเผิงที่แม้จะไม่ดังในวงการนี้แต่อย่างน้อยก็ได้มีประสบการณ์ความทรงจำในเรื่องราวอย่างนี้

คนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดคือโหย่วเผิง เรื่อง(องค์หญิงกำมะลอ)ได้กำหนดอนาคตแห่งการแสดงของเขา อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนได้คิดถึงความรุ่งเรืองของเสี่ยวหู่ตุ้ยโดยผ่านทางเรื่ององค์หญิงกำมะลอ จนได้กลายเป็นแฟนคลับของพวกเขา



อัลบั้มส่วนตัวของโหย่วเผิง (Zhen Xi De Bei Bao)

1994 อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ 3 ที่โหย่วเผิงทำขึ้นคนเดียว และเป็นอัลบั้มที่ 2 ที่หลังจากจื้อเผิงกลับมาสู่เสี่ยวหู่ตุ้ย ก่อนหน้านี้มีอัลบั้ม(หว่อจื่อเย่าหนี่อ้ายหว่อ:Wo Zhi Yao Ni Ai Wo)กับ(เติ่งเต้าน่าอี้เทียน:Deng Dao Ni Yi Tian)นั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร่ สองอัลบั้มก่อนหน้านั้นไม่สามารถทำได้ แต่อัลบั้มที่ 3 นี้โหย่วเผิงทำสำเร็จแล้ว




Chomnath

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1307
    • ดูรายละเอียด

อัลบั้มส่วนตัวของฉีหลง (จุยเฟิงเส้าเหนียน)

ลักษณะพิเศษที่ฉีหลงมีในวงเสี่ยวหู่ตุ้ยคือเวลาถ่ายรูปห้ามยิ้ม แต่อัลบั้มนี้หวังว่าเขาจะมีหน้าตาที่เท่ อัลบั้มแรกที่หลังจากเขาแยกทางออกมานั้นคือ(จุยเฟิงเส้าเหนียน)และอีกอัลบั้มคือ(จู้หนี่อีลู่ซุ่นเฟิง)ได้กลายเป็นตัวแทนของเขาไปแล้ว มาจนถึงวันนี้ก็ยังมีคนหวนคิดถึงเพลงของเขา แต่ที่น่าเสียดายคือ ตอนนี้เขาเปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักแสดงไปแล้ว หลังจากปี 1997 เขาก็ไม่ทำอัลบั้มของตัวเองแล้ว



อัลบั้มส่วนตัวของจื้อเผิง (เส่อปู้เต่อ)

หลังจากที่เขาแยกทางกันแล้วพูดได้ว่าจื้อเผิงนั้นแทบจะเงียบไปเลย ถ้าเปรียบเทียบอัลบั้มของทั้งสามคนแล้ว เขาเป็นคนที่ออกอัลบั้มน้อยที่สุด ทั้งยังใช้เวลานานมาก แฟนคลับที่จำเขาได้แม่นมากจากอัลบั้ม(ฉิงฉง) อัลบั้มนี้ไม่ดังในจีน แต่เพื่อจะช่วยเขาเข้าสู่จีน มีสถานีหลายสถานีได้เปิดเพลงของเขาและติดรูปของเขา แต่เสียดายยอดขายของอัลบั้มนี้ไม่ดี จื้อเผิงก็ไม่ทำอัลบั้มให้กับค่ายเป่าลี่อีกต่อไป ต่อจากนั้นก็ได้ออกอีกอัลบั้มหนึ่ง (เส่อปู้เต๋อ) ที่ร้องด้วยกันกับจางก๋อหยง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซน์จิวเฉินเชียร์ เสี่ยวหู่ตุ้ย ในงานคืนตรุษจีน จื้อเผิงได้รับการเชิญแล้ว
เสี่ยวหู่ตุ้ยไปซ้อมการแสดงปลายเดือนมกราคม โหย่วเผิงกล่าว: ซ้อมแค่สามวันก็พอ
คืนนั้นร้องเพลงเก่า การแต่งตัวของเสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นปัญหาใหญ่
วันที่ 21 เสี่ยวหู่ตุ้ยเข้าซ้อมการแสดง จื้อเผิงต้องลดน้ำหนัก
เสี่ยวหู่ตุ้ยจะมาในงานอย่างแน่นอน