ผู้เขียน หัวข้อ: ESSAY 3: RECALL OF MYSELF THEN…...  (อ่าน 4044 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
ESSAY 3: RECALL OF MYSELF THEN…...
« เมื่อ: ตุลาคม 13, 2010, 11:57:19 AM »
3. Recall of myself then…


ผมได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในวง little tiger ในช่วงวันปิดเทอมหลังจบม.ต้น และได้ทำงานกับกลุ่มสาว ๆ ที่ชื่อว่า little kitten ซึ่งพวกเธอมาทำงานในฐานะผู้ช่วยของผม พวกเราเคยขำกันว่าเราคือ “Tai Ju”---คนที่แบกเสาอยู่หลังเวที ในระหว่างที่ปิดเทอมฤดูหนาวของม. 4 ผมได้ออกอัลบั้ม (Happy New Year) กับ “You Huan Pai Dui” (เป็นน้องสาวร่วมโลกของผมเอง) ซึ่งมีเพลงเดี่ยวแรกของพวกเรา (ชื่อว่าเพลง Qing Ping Guo Le Yuan) ซึ่งต่อมาก็ฮิตกันใหญ่ พวกเราออกอัลบั้มแรก (ชื่อว่า Xiao Yao Yu) พร้อมกับมีคอนเสิร์ตถึง 20 คอนเสิร์ต ในช่วงเวลาเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น (เกือบ ๆ 3 ครั้งต่อสัปดาห์แบ่งเป็น บ่ายวันเสาร์ 1 ครั้ง และ อีก 2 ครั้งในวันอาทิตย์) หลังจากนั้นก็บินกลับมาเรียนที่โรงเรียนตามปกติ

ผมมีความสุขในวง little tiger จนกระทั่งเราเริ่มทำงานหนักขึ้นและผมยังคงไม่สามารถจดจำตัวเองได้ แม้ว่าโรงเรียนใกล้จะเปิดแล้วก็ตาม ผมไม่ชอบการโกงและการทบทวนในนาทีสุดท้าย (ผมเคยช่วยอาจารย์กาหัวกระดาษคนที่โกงข้อสอบ) เพราะผมสามารถทำได้ดีในทุก ๆ การสอบ ท้ายที่สุด ผมก็ได้รับรู้รสชาติของความเลวร้ายที่ไม่ยอมทบทวนตำราให้ทันเวลาเมื่อเรียนม.ปลายแล้ว เพราะผมต้องไปถ่ายหนัง ร้องเพลง แสดงละคร เรียนเต้นแบบวันเว้นวัน ทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนเพื่อเตรียมตัวทดสอบประจำเดือนที่กำลังจะมาถึงได้ ผมมีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก และปลอบใจตัวเองว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีก แต่ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากการสอบผ่านพ้นไปและก็เป็นอย่างนี้ซ้ำ ๆ เป็นปี ๆ พร้อมกับความรู้สึกสำนึกผิดและละอายใจของผม



การเป็นนักเรียนที่ติดอันดับต้นในการเรียนม.ต้นนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่การสอบผ่านไปได้แบบกลาง ๆ ในการเรียนม.ปลายนี่สิถึงว่ายาก (เพราะมีหัวกะทิมากมายเต็มโรงเรียนไปหมด) เพราะงั้นก็ไม่ต้องไปพูดถึงการติดอันดับต้น ๆ เลย แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะทำให้ผมไม่พอใจเพราะผมสามารถเอาชนะตัวเองมาได้เสมอ แต่ยังไงก็ตามผมได้เตรียมเหตุผลไว้แล้วว่าเพราอะไรผมถึงได้เกรดไม่ดีเลย ในช่วงม. 5 ผมได้ออกอัลบั้มที่ 2 (Nan Hai Bu Ku) ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าบริษัทพยายามที่จะให้พวกเราทำงานกันในช่วงปิดภาคเรียนเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการเรียนของเรา และผมได้บอกกับตัวเองว่าต้องหยุดความสนุกสนานที่เคยมีเอาไว้และเริ่มมีสมาธิกับการเรียนให้มากขึ้น แต่การเรียนของผมก็ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ดีเมื่อมีการถ่ายทำภาพยนตร์ (You Xiaer:โหย่วเซียเอ๋อ) แม้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทตั้งไว้ก็ตาม ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกกังวลมาก มีวิชาเรียนเพิ่มมาอีกสองวิชาที่หินสุด ๆ นั่นคือฟิสิกส์ (การเปรียบเทียบพลังงานต่าง ๆ)

และวิชาเคมี (เกี่ยวกับปฏิกิริยาทางเคมีและสูตรต่าง ๆ ฯลฯ) ซึ่งมันยากมากเลย การขาดไปเพียงหนึ่งหรือสองบทเรียนก็ทำให้ผมสับสน ไม่เข้าใจเนื้อหาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงการขาดเรียนบ่อย ๆ เพื่อไปถ่ายหนังเลย ทำให้ little tiger ต้องหยุดทำงานไปในช่วงม. 6 แต่ว่าก็ยังมีการอัดเสียงในช่วงปิดเทอมอยู่ ซึ่งมันทำให้ผมไม่มีความสุขและไม่พอใจบริษัทเลย การเสียเวลา (วันละ 24 ชั่วโมง) ก็เหมือนกับการพลาดการแข่งขันอะไรสักอย่างไป มีเส้นบาง ๆ ที่เราไม่สามารถเอาชนะได้เชื่อมโยงระหว่างการแข่งขัน ความกดดัน สถานะ มุมมองของสังคม ความใส่ใจ หน้าตาและอนาคต ผมจำเป็นต้องเรียนติวเพิ่มเติมเพื่อตามคนอื่นให้ทัน ครั้งหนึ่ง พี่ Song และ Qilong มารับผมจากถนน Nanyang เพื่อไปซ้อมเต้นที่ Mafu ซึ่งผมไม่อยากไป ผมสวมแว่นตาหนาเตอะเดินหนีโดยผ่านคนที่เหลือโดยไม่สนใจว่าจะมีใครสังเกตเห็นผมหรือไม่ ในหัวผมไม่มีอะไรอีกแล้วนอกจากหนังสือ ผมเกลียดทุกสิ่งที่พยายามทำให้ผมละสายตาจากหนังสือ โดยไม่สนใจว่าพวกเค้าจะมารับผมไปและผมก็เริ่มเดินไปรวมกับคนอื่น ๆ ซึ่งอยู่ในโลกเดียวกับผม พวกเค้าคงแปลกใจว่าทำไมผมถึงไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการเรียน บางทีผมคงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่แข็งข้อกับบริษัทและกับเพื่อนร่วมวงอีกสองคนที่เหลือ แต่ว่ามันคือสิ่งที่ดีสำหรับการเรียนของผมนี่นา