ผู้เขียน หัวข้อ: เฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ของ "ซูโหย่วเผิง"  (อ่าน 10726 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
ใช้ความผิดพลาด เป็นบทเรียน ใช้หัวใจทำทุกสิ่งที่หวังไว้ ด้วยตัวเราเอง 把错误当成教训,用心做好每件自己期望着的事情
#苏有朋##苏有朋出道29周年#

กิจกรรม โดย Thaifans
Graphic Design by Lookked

เฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี จากวันนั้น ถึง วันนี้ ของซูโหย่วเผิง
(ผู้ชายที่มีแววตาอ่อนโยนและมีรอยยิ้มที่อบอุ่น)


Celebrating the 29th anniversary of Su YouPeng from that former day today.
(A Man with gentle eyes and a warm smile)


庆祝从出道至今,整整29周年的苏有朋——这个带着温柔的眼神及和煦的笑容的乖乖虎。

19904436_453871431652785_404630123_n.jpg" border="0

27 กรกฎาคม ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ
วันนี้ก็คงเป็นเพียงวันธรรมดาๆวันหนึ่ง 
เช่นเดียวกับวันธรรมดาทั่วไป ผ่านวันเวลาไปด้วยความยุ่งวุ่นวาย 
แต่เป็นเพราะมีคุณอยู่ ทุกอย่างจึงได้แตกต่างไปแบบนั้น 

วันที่ 27 กรกฎาคม 1988 เป็นวันที่พวกเราลืมไม่ลงจริงๆ 
ผู้ที่มุ่งใฝ่ในพุทธศาสนาแบบคุณได้ปรากฏตัวอยู่ในสายตาของพวกเรา   
การเต้น#โชว์สกิล *ร้องเพลง*  นำมาซึ่งรอยยิ้มที่เห็นแล้วสามารถละลายได้  

ปี 1988 ถึง 2017 บนเส้นทางเดินที่ผ่านมา 29 ปีแห่งการเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาว
คุณให้พวกเรามามากมายเหลือเกิน   

ตั้งแต่อัลบั้มเพลง,งานคอนเสิร์ตต่างๆ ตลอดจนถึง photo books ของคุณ    
จากละครโทรทัศน์จนถึงภาพยนตร์
จากการแสดงเพื่อการกุศล ชื่นชอบแสตมป์จนถึงชื่นชอบกล่องพัสดุ
จากบทบาทผู้กำกับจนถึงรายการ reality I Want To meet you ทางBTV(ปักกิ่ง)

ทุกครั้งที่คุณทดลองทำอะไรสักอย่างต่างก็นำความเซอร์ไพรส์มาให้พวกเรา
ทุกครั้งที่คุณบุกทะลวงอะไรสักอย่างต่างก็นำความหวั่นใจมาให้พวกเรา   
ทุกครั้งที่คุณทำบุญกุศลคุณงามความดีต่างก็นำความประทับใจมาให้พวกเรา

จากนี้เป็นต้นไป ชีวิตนี้มีชื่อเพิ่มเข้ามาอีกชื่อนึงนั่นก็คือ ซูโหย่วเผิง    
การได้รู้จักคุณนับว่าเป็นความสุขของพวกเรา ง่ายๆแบบนี้นี่เอง    
ง่ายชนิดที่ว่าแค่ได้คิดถึงคุณอยู่เงียบๆก็พอใจแล้ว   
ง่ายชนิดที่ว่าเมื่อคุณทุกข์ใจเราก็ทุกข์ใจด้วย เมื่อคุณมีความสุขเราก็มีความสุขด้วย   
เป็นแบบนี้ไปอีกสักหมื่นปี พวกเราก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเป็นพยานให้กับคุณจนถึงกาลเวลาสุดท้าย   
ทิวทัศน์ทั้งหลายมองเห็นได้หมด พวกเรายินดีที่จะอยู่เคียงข้างคุณเพื่อดูสายน้ำที่ค่อยๆไหลมาบรรจบกันจนเป็นสายธารที่ยาวไกล

ซูโหย่วเผิง พวกเราอยากจะตะโกนบอกกับคุณดังๆว่า ชายในฝันของพวกเราคือคุณ พวกเรารู้สึกภูมิใจมากจริงๆ ให้คุณพยายามไขว่คว้าหาชีวิตในแบบที่คุณต้องการและพวกเราจะพยายามไล่ตามร่องรอยการเคลื่อนไหวในชีวิตคุณตลอด 29 ปีนี้

ช่วงวัยรุ่นของคุณ เชื่อมกันกับพวกเราอย่างแน่นแฟ้น ในทุกขณะที่พวกเรานั้นเติบโต ต่างก็มีคุณอยู่เคียงข้าง เพราะซูโหย่วเผิง ในทุกๆวันที่แสนจะธรรมดาจืดชืดนี้ ได้สดใสขึ้นมาอย่างกระทันหัน

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
http://www.weibo.com/1269599605/FbEedt6mH?type=repost#_rnd1499687298285

#ซูโหย่วเผิงเปิดตัวครั้งแรกครบรอบ 29 ปี #ทุกท่านคะ เดือนกรกฎาคมมาถึงแล้ว เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันครบรอบ29 ปีของการเปิดตัวครั้งแรกของเฮียซูของพวกเรา พวกเราก็ควรที่จะจัดกิจกรรมอะไรสักอย่างบนสื่อออนไลน์ใช่มั้ย ทุกคนมีไอเดียอะไรก็ระดมความคิดเสนอกันมาได้เลยนะ


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด


อ้างถึง
เฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี จากวันนั้น ถึง วันนี้ ของซูโหย่วเผิง (ผู้ชายที่มีแววตาอ่อนโยนและมีรอยยิ้มที่อบอุ่น)

Celebrating the 29th anniversary of Su YouPeng from that former day today.(A Man with gentle eyes and a warm smile)

"รายการฉันอยากพบคุณ" ไม่มีเงาของคำว่า นักร้อง,นักแสดง หลงเหลือเลยนะค่ะ เป็นรายการปลอดปล่อยซึ่งตัวตน ได้เห็นเฮียในหลายๆมุม เชื่อไหมก่อนนู้เราจะหลงรักเค้าจากบทบาทการแสดงต่างๆเช่นรักองค์ชายห้า,รักเตียบ่อกี้,รักหลู่ซีนั่ว รักเสียงเพลงอันไพเราะ แต่นั้นก็คือการแสดงซึ่งต้องเล่นไปตามบทบาท หากรักเสียงเพลงหรือเวทีคอนเสริต์ก็จะเห็นตัวตนของเฮียมากขึ้น (แต่ก็เห็นเฉพาะบนเวที)

"รายการฉันอยากพบคุณ" ทำให้เห็นหลากหลายมุม ความเป็นผู้นำ, ความน่ารักซนๆๆเหมือนเด็กในร่างผู้ใหญ่ ,ความร่าเริงแบบหน้าหยิก , หล่อเท่ห์และมีบุคลิกที่ภูมิฐาน (อันนี้มีมาตั้งแต่เกิด) 555+

สิ่งที่เห็นได้จากตัวเขาที่แสดงออกมาคือความรู้สึกปลอดภัย ความเป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นพี่ใหญ่ ที่ให้ความใส่ใจ เขาเป็นคนช่างสังเกตุ แค่คำพูดไม่กี่ประโยคก็สามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของ คนอื่นได้ บางทีเขาก็อาจจะแสดงมุมซนๆออกมาบ้าง นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขายังคงมีใจขี้เล่น (เหมือนเด็ก)พูดได้เลยว่าความน่ารักของชายวัย 44 นี้ถึงจะเรียกว่าน่ารักของจริง

ps. ยิ่งนานก็ยิ่งรู้ ยิ่งดูก็ยิ่งชัดเจน ยิ่งรู้จัก ก็ยิ่งรักเธอ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด


เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

มีครั้งนึงที่ได้อ่านบทความนี้อีกครั้ง ทำให้พวกเราได้มองเห็นเฮียเผิงตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จากนักร้องสู่ดารานักแสดง จากการเข้าร่วมงานกุศลจนถึงการถือเอาความเมตตาเป็นเรื่องราวที่สำคัญของชีวิต ได้มองเห็นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงในหนึ่งชีวิต รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
 
ประสบการณ์ที่เป็นแบบอย่างของดาราชายในฝันผู้ที่ฮอตมากๆคนหนึ่ง ในจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตก็เคยสูญเสียเป้าหมายเหมือนกัน ปัจจุบัน ระยะเวลากว่า 29 ปีของเขาได้ผ่านเรื่องราวมาเยอะแยะมากมาย ได้เริ่มไคว่คว้าหาชีวิตที่ฟ้าลิขิตและความรู้สึกสมดุลทางใจ ความสุขอันยิ่งใหญ่ของเขา คือการที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นผ่านการทำบุญกุศล รวมถึงการได้เดินทางเพื่อเรียนรู้ในวัฒนธรรมอันแตกต่างและรูปแบบการใช้ชีวิต 

พวกเราคิดว่าซูโหย่วเผิงเป็นเสือน้อยแสนรู้มาโดยตลอด แต่มีวันนึงได้พบว่า คนหน้าเด็กอย่างเขา อยู่ดีๆก็ไว้หนวดเคราขึ้นมาซะงั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาเป็นเด็กที่มีความตั้งใจสูงคนหนึ่ง แต่พวกเราอาจจะไม่รู้ว่าเขาได้ศึกษาจิตวิทยาด้านการทำผิดกฏหมายเพียงเพื่อรับบทบาทหนึ่งด้วย ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาร้องเพลงเป็น แต่อาจจะไม่รู้เลยว่านักร้องที่เขาชื่นชอบมากที่สุดนั้นคือ Madonna และ Janet JackSon ถ้าไม่ใช่เพราะการเข้ามาในวงเสียวหู่ตั้งแต่แรกๆ บางทีเขา อาจจะไปเป็น ศาสตราจารย์ แล้วก็ได้ อาจจะมีน้อยคนที่จะรู้ว่าประเทศจีนยังมีโรงเรียนแห่งความหวังที่ชื่อว่าซูโหย่วเผิงอยู่ เขาได้รับการแต่งตั้งจากมูลนิธิพัฒนาเยาวชนประเทศจีนว่าเป็น เอกอัครราชทูตผู้ใจบุญของ "โรงเรียนความหวังแห่งแรกของประเทศ" ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าซูโหย่วเผิงยังคงไม่หยุดที่จะโลดแล่นอยู่บนทุกๆเวทีการกุศลด้วย
 
นับตั้งแต่เปิดตัวเร็วเป็นที่รู้จักไว ซูโหย่วเผิงจึงได้พลาดหลายๆโอกาสแห่งความสุขในวัยเด็กไป ดังนั้นตอนที่เขาอายุ 21 จึงได้เลือกที่จะหนีไป พาตัวเองไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่นิด "หันกลับมามองสิ่งที่เจอในตอนนั้น มันก็คือการก้าวกระโดดจากขั้นหนึ่งไปยังอีกขั้นหนึ่ง จริงๆแล้วมันไม่ใช่ใจกลางของความสมดุล" ตอนนี้คนที่ผ่านช่วงอายุ 30,40 มาแล้วอย่างเขา ก็ลดนิสัยความพิถีพิถันแบบผู้หญิงลงไป มีอารมณ์ขันเพิ่มมากขึ้น เรียนรู้ที่จะใช้สายตาอันอ่อนโยนมองทุกสิ่ง  มุ่งไปยังศูนย์กลางความสมดุลของตัวเอง

สำหรับนิยามของความสุขนั้น การตีความแบบง่ายๆของซูโหย่วเผิงก็คือ "ถ้าผมสามารถทำให้ผู้อื่นมีความสุขได้ ผมเองก็มีความสุขมากเช่นกัน" บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาจึงกระตือรือร้นในการทำกุศลความดีอยู่แบบนี้  ปี 2007 เขาเปิดโรงเรียนแห่งความหวังซูโหย่วเผิง อย่างเป็นทางการ ที่มณฑลเหอหนาน เมืองเจิ้งโจว ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านที่นั่นบนสองฟากฝั่งของถนน ผู้อำนวยการโรงเรียนน้ำตานองพูดกับเขาว่า "ขอบคุณนะครับ พวกเราจะไม่ลืมคุณเลย" ตอนนั้นเขาเองก็ได้สัมผัสกับความรู้สึกจากสิ่งที่เขาทำ ได้รู้ว่าการปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นไรก็จะได้รับผลเช่นนั้น

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อน หรืออนาคตต่อจากนี้ พวกเราก็จะเดินตามรอยของเขาตลอดไป

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
20134631_454647284908533_1103670512_n1.jpg" border="0

--องค์หญิงกำมะลอ--

ละครเรื่องนี้เป็นความคลาสสิกที่อยู่ในความคลาสสิก และละครเรื่องนี้เองที่ทำให้พวกเราจดจำซูโหย่วเผิงชื่อนี้ได้ ถ้าจะพูดตามหลักการแล้ว เจ้าเวยน่าจะเป็นนักแสดงหลัก องค์ชายห้าของพวกเราก็น่าจะเป็นพระเอก องค์ชายห้าผู้ที่มีตระกูลผู้ดีติดตัวมาแต่กำเนิด ไม่ว่าจะปิดบังยังไงก็ปิดไม่มิด ใบหน้าเด็กนั้น ถึงดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่แต่กลับมีท่าทางเงียบขรึม ทุกๆการเคลื่อนไหวช่างเป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่ต้องประดับตกแต่งและลงแรงอะไรเลย และภาพนี้ก็ได้สลักไว้ลึกๆในใจของผู้คน วันเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นความคลาสสิก เป็นหนึ่งเดียวตราบชั่วนิรันดร เป็นตำนานที่แท้จริง

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด


--มนต์รักในสายฝน --

ยังคงอ่อนเยาว์ แต่มีพลังทำลายล้างมากเมื่อเทียบกับองค์ชายห้า ตู้เฟยคือผู้ถูกรังแกที่ทำให้ผู้คนรักและสงสาร ตลกแต่กลับมีความจริงใจต่อผู้คน ไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายและต้นทุนใด ๆ แต่ยินดีที่จะทำเพื่อคนๆหนึ่ง เขาไม่ได้เก่งมากพอ แต่ก็ใช้ชีวิตแบบมีความสุขได้ และไม่ลืมที่จะคงเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีไว้ สำหรับเขาแล้วอำนาจทางด้านชื่อเสียงก็เพียงแค่นั้นแหละ อุปนิสัยแบบนี้ก็น่าจะเป็นซูโหย่วเผิงแหละ ที่กล้าจะควักเอาความจริงใจออกมา และกล้าที่จะทิ้งทุกอย่างแล้วทำตามสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ ในทุกๆก้าวเดินล้วนแต่เป็นทิศทางของหัวใจ ไม่มีการดัดจริตมารยาสาไถใดๆ เพียงแค่อยากทำสิ่งที่เป็นตัวเองจริงๆ ความบริสุทธิ์ในตอนแรกนั้นจากที่ทำไม่ได้และทำใจไม่ได้ที่จะทิ้งไป ได้ใช้หัวใจที่เลื่อมใสศรัทธาในการต่อสู้กับเรื่องทางโลกอันสับสนวุ่นวาย

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด


-- เดชเซียวฮื่อยี้ --

ฮวยบ่อข่วย  ความไม่ขาดตกบกพร่องและไม่เสียใจ กลับงดงามจนทำให้ผู้คนหลงรัก  ชุดสีขาวอันพริ้วไหวอย่างรวดเร็ว พัดไม้ไผ่โบกไหวเบาๆ สายตาอันน่าสะพรึง ความเยาว์วัยนั้น ล้วนทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว บอกว่าไม่ขาด ไม่บกพร่อง แต่กลับขาดน้ำใจที่แท้จริงของมนุษย์ไปอย่างมากมาย ตั้งแต่เด็กก็ห่างไกลจากโลกมนุษย์  ปิดบังชื่อเสียง ปิดบังนิสัย แต่กลับปิดบังใจจริงไว้ไม่ได้เลย จิตใจก็ใสๆแบบนั้นแหละ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะโดนจองจำหัวใจ ก็ยังคงสามารถใช้พละกำลังของตัวเองไปตามหาหัวใจที่แท้จริงได้

มักจะคิดเสมอว่าการปรากฏตัวของฮวยบ่อข่วยจะทำให้ผู้คนรู้สึกรักสุดหัวใจ แต่เป็นเพราะการตีความของซูโหย่วเผิงนั้นทำให้ความไม่จริงกลายเป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถลืมความงดงามในการพริ้วไหวตามสายลมของชุดสีขาวนั้นได้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถลืมแสงกระพริบระยิบระยับจากหน้าผากของอัจฉริยบุรุษผู้หยิ่งทะนงนี้ได้ หยิ่งทะนงแต่กลับไม่โดดเดี่ยว เป็นเพียงเพราะหัวใจดวงหนึ่งที่เดินตามทางของตัวเอง ถึงแม้จะก้าวพลาดไปหนึ่งก้าว แต่ก็ไม่เสียใจที่จะก้าวข้ามไป

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
20227305_457131667993428_1527345230_n.jpg" border="0

ขอบคุณที่เดินเคียงข้างกันบนเส้นทางนี้ เปิดตัวโหย่วเผิงครบรอบ 29 ปี

วันที่ 27 เดือนกรกฎาคม ปี 1988 เสียวหู่ตุ้ยได้กำเนิดขึ้นที่ไต้หวัน ในวงเสียวหู่ตุ้ยมีเสืออยู่ตัวหนึ่ง เป็นเสือที่ชอบเล่น ชอบเรียน ทั้งน่ารักทั้งฉลาด เป็นที่รักที่เอ็นดูของผู้ชม เขาคือเสือน้อยแสนรู้ ซูโหย่วเผิง

จำได้ว่า ปี 2000 ช่อง3 เอาละครเรื่ององค์หญิงกำมะลอมาออกอากาศ ซึ่งก็โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง สร้างกระแส องค์หญิงกำมะลอ ฟีเวอร์ไปทั่วเอเชีย พูดตามตรงแอดมินไม่ชอบดูละครเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ไม่ได้มีความประทับใจอะไรกับละครเรื่ององค์หญิงกำมะลอเลย องค์ชายห้ายิ่งแล้วใหญ่ ไม่ได้มีความประทับใจใดๆเลย ในปีเดียวกันช่อง 3 เอา ละครเรื่องเดชเซียวฮื่อยี้มาออกอากาศต่อจนได้มาประทับใจบทบาท ฮวยบ่อข่วย นั้นหละหลงรักอย่างจัง งัง ^^

จากวันนั้นเป็นต้นมาก็ได้รู้จักซูโหย่วเผิง ความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างกับเสียวหู่ตุ้ยก็น่าจะเริ่มจาก CCTV New Year's Gala ปี 2010 ตอนนั้นยังไม่รู้จักเสียวหู่ตุ้ย แต่พอเสียวหู่ตุ้ยได้กระโดดขึ้นมาอยู่บนเวที ก็กรี๊ดกร๊าดหนักมาก(กรี๊ดแต่โหย่วเผิง) จำได้ปี 2010 พี่หมิงแปลข่าวเรื่องราวของเสี่ยวหู้ตุ้ยในบ้านเผิงเยอะมาก บอกว่าหากป๊อปรักโหย่วเผิงก็ต้องสนใจอดีตของโหย่วเผิงด้วย จากตอนนั้นเป็นต้นมา ก็ได้รู้จักเสียวหู่ตุ้ย (พูดจริงๆเพิ่งจะมาสนใจเสี่ยวหู้ตุ้ยปี 2010 นี้เอง)

จำได้ปี 2002 โหย่วเผิงออกรายการทอล์คโชว์ในทีวี เขาพูดถึงเส้นทางการศึกษาของเขา รวมถึงเส้นทางทางศิลปะการแสดง แล้วก็ผลงานเพลงต่างๆของเขา ทันใดนั้น ก็เกิดความรู้สึกประทับใจในตัวเขา จากนั้นก็รีบหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในรายการทอล์คโชว์ของเขา รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขา ความประทับใจที่เขามอบให้นั้นลึกซึ้งมากขึ้นทุกวัน

จนกระทั่ง 2005 ช่อง 3 ได้นำเรื่อง "รักข้ามขอบฟ้า" Love of the Aegean Sea มาออกอากาศอีกครั้ง คุณชายลู่เอินฉีมัดใจได้จริงๆ นับถือลู่เอินฉีจริงๆ ชอบลู่เอินฉี จากนั้นมา ก็ไม่สามารถลบซูโหย่วเผิงออกไปจากตำแหน่งในหัวใจได้เลย เข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อสืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของเขา ถึงได้ล่วงรู้ว่าผลการเรียนของเขาดีมาก หน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ มีแฟนคลับมากมาย จิตใจก็งดงามเหลือเกิน ก็ยิ่งชอบเขาขึ้นไปอีก จากนั้นก็เริ่มดูผลงานซีรีย์,ภาพยนต์,เกมส์โชว์,สัมภาษณ์ต่างๆมากขึ้น ประทับใจก็หลายเรื่องอยู่ค่ะเช่น  ยอดขุนศึกวีรบุรุษตระกูลหยาง ดาบมังกรหยก มนต์รักในสายฝน (เห็นตู้เฟยแล้วขำหนักมาก)องค์หญิงแสนซน ดูหนังของเขาแล้วก็ยิ่งชื่นชมนับถือในงานด้านศิลปะการแสดงของเขา ตั้งใจแล้วที่จะสนับสนุนผลงานการแสดงของเขา ฟังเพลงของซูโหย่วเผิงแล้วรู้สึกว่าเสียงของเขานั้นไพเราะจับใจเหลือเกิน จากนี้เป็นต้นไป เขาจะเป็นฮีโร่คนสุดท้ายในใจ ใครก็ไม่อาจเข้ามาแทนที่ได้

11 กันยายน 2010 ได้สร้างเว็บไซด์บ้านเผิงขึ้น , 20 ธันวาคม 2011 ไปสร้างเว็บเพจที่ facebook, 2012 (จำวันเดือนปีไม่ได้อ่ะ) แหะๆๆ สมัครเข้าใช้เวยป๋อ มีเพื่อนๆที่นั่นมากมายค่ะ แรกๆไม่กล้าคุย เพราะไม่รู้จักใครเลยไป เริ่มโพสต์รูปเป็น เริ่มแท็คชื่อโหย่วเผิงเป็น เริ่มทำนู้นี้นั้นเป็นก็มีเพื่อนๆเข้ามาทักทาย เขาคุยภาษาจีนอ่ะ กำจริงๆ เราก็ตอบเขาไปสั้นๆ ต่อมาก็ได้รู้จัก Micky,nhingo,star พูดคุยถูกคอกันมาก ทุกคนต่างก็เข้ากันได้ดี เมื่อวันเวลาค่อยๆผ่านไป ก็ได้หลงรักครอบครัวใหญ่นี้เข้าอย่างเต็มเปา

ชีวิตประจำวันกับการทำงานบางครั้งก็เครียด,บางครั้งก็เหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เขา ไม่ใช่ละครของเขา ไม่ใช่เพลงของเขา ก็เกรงว่าจะเป็นโรคเครียดไปแล้ว แต่เพราะมีเขาอยู่ ทำให้มีพลังมากโข ทุกวันใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เขามักจะสนทนากับทุกคนในเวยป๋อ มีปฏิสัมพันธ์กับทุกคน มีความรู้สึกว่าเขาเป็นดาราที่ไม่เคยวางมาดใหญ่โตเลย ดาราแบบนี้หายากจริงๆนะค่ะ


ประทับใจคำพูดโหย่วเผิงจากรายการ "มีนัดกับเสี่ยวเยี่ยน" ปี 2002 ซูโหย่วเผิงกล่าวว่า

我一定要争气,ผมจะต้องสู้แน่นอน
我一定要做到好,ผมจะต้องทำออกมาให้ดี
我要这些支持我的人,ตอนที่คนที่สนับสนุนผมเหล่านี้
出去告诉人家说,ออกไปบอกคนอื่นว่า
我的偶像是苏有朋的时候,ไอดอลของฉันคือซูโหย่วเผิง
让他们很光荣,ผมอยากให้พวกเขาภาคภูมิใจ
我会有这种感觉,ผมมีความรู้สึกแบบนี้
因为他们支持很多年,เพราะว่าเพวกเขาสนับสนุนผมมานาน
他们也陪我经过谷底,และพวกเขาก็ผ่านมรสุมไปพร้อมกับผม
他们没有离开我,พวกเขาไม่ได้ทอดทิ้งผม
要替他们争这口气,จะต้องช่วงชิงโอกาสนี้แทนพวกเขา
我会有这种想法 ผมคิดแบบนี้


ขอบคุณนะซูโหย่วเผิง ตอนที่คุณพูดประโยคนี้ ฉันรู้สึกภาคภูมิใจ มากจริงๆ ทุกวันนี้  เขาไม่ใช่เสือน้อยแสนรู้ผู้ใสซื่ออีกต่อไป เขาไว้หนวดเครา ความวัยเยาว์บนใบหน้าของเขาลดลงไปบ้างแล้ว แต่เพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ลงไป มีคำพูดมากมายเหลือเกินที่อยากจะบอก จะเป็นกำลังใจให้เขาตลอดไป ขอให้เป็น 29 ปีที่มีความสุข พวกเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าเดิม

20270006_457652304608031_264056875_n.jpg" border="0

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
20289859_457652531274675_293901060_n.jpg" border="0

“เจินซี”(รักและถนอม)นับเป็นบทเพลงในตำนานที่อยู่ในส่วนลึกในใจของพวกเราเสมอมา โดยเฉพาะ ท่อนฮุก มันทำให้รู้สึกประทับใจจนน้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ

โหย่วเผิงพูดในช่วงเล่นคอนเสริตปี 1995 ว่า :

(ตอนที่ผมอัดเสียง ทำอย่างไรก็คิดไม่ถึง ซักวันหนึ่ง ผมจำเป็นจะต้องแบกเป้ของตัวเองแล้วออกท่องเที่ยวพเนจร

ผมคิดมาตลอดว่าตัวผมเป็นคนอ่อนแอเวลาที่เจอกับความพ่ายแพ้ผิดหวังก็มักจะมองว่ามันไม่มีทางออกและรู้สึกอยากจะยอมแพ้เอามากๆ เป็นเพราะพวกคุณจริงๆที่มอบหน้าที่และพละกำลังให้กับผม ทำให้ผมในวันนี้ได้มายืนในจุดนี้ได้สิ่งที่ผมแบกรับตลอดมา

ตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจพักการเรียน จริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นหลังจากพักการเรียนหรือจะเป็นก่อนหน้านั้นผมก็รับแรงกดดันหนักๆมาโดยตลอดอยู่ดี หนักมากๆเลยด้วย รวมไปถึงความรู้สึกในหัวใจของผมด้วยและกับโลกภายนอกอีก...

โอเค สัญญานะ  ว่าจะไม่ร้องไห้ แน่นอนว่า นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว สิ่งที่ผมอยากจะขอบคุณอีกก็คือวันนี้ที่มีพี่ๆน้องๆแฟนเพลงมาอยู่กันถึงหน้าเวที และยังมีเพื่อนๆทุกคนที่ในระยะเวลา 7 ปีมานี้ได้เคยให้การสนับสนุนผมมาก่อน จริงๆแล้วผมมักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนที่อ่อนแอมาก เวลาที่เจอกับความพ่ายแพ้ผิดหวังก็มักจะมองว่ามันไม่มีทางออกและอยากจะยอมแพ้สุดๆ

พวกคุณคงไม่รู้หรอกว่าพวกคุณนี่แหละที่เป็นคนมอบหน้าที่และพลังให้ผมจนผมสามารถแบกรับเรื่องต่างๆมาเรื่อยๆจนสามารถมาถึงจุดนี้ได้ผมหวังว่าเมื่อผมออกนอกประเทศไปแล้วและเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกคุณประสบกับความพ่ายแพ้ผิดหวังขึ้นมาก็อย่าสิ้นหวังกันนะครับ ผมสามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับพวกคุณได้ตลอดไป ขอบคุณครับ)


เพลง “เจินซี” (รักและถนอม)Cherish นี้กล่าวได้ว่าเป็นผลงานเพลงชิ้นสำคัญของโหย่วเผิงเลยก็ว่าได้มันเป็นผลงานเพลงที่ พวกเราชื่นชอบที่สุดเพลงหนึ่ง ยังมีกระป๋าเป้ Backpack, ความกล้าหาญCourage,ฉันเพียงต้องการเธอรักฉันI Only Want You To Love Me และอีกหลายๆเพลง

ได้ฟังเพลงนี้ในหลายๆเวอร์ชั่นที่แตกต่างกัน แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือการร้องออกมาด้วยเสียงหัวเราะพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าของ โหย่วเผิง ในคอนเสิร์ต 95 ความคาดหวังในอนาคตที่สวยงามของวัยรุ่น จากที่สุดบนก้อนเมฆตกลงมาถึงจุดต่ำสุดของความลังเล ความสิ้นหวังที่ไม่มีใครเข้าใจ นำไปสู่การเลือกที่จะหลีกหนี หนีไปยังต่างประเทศซึ่ง เขาสามารถเนรเทศตัวเองให้ไปสัมผัสชีวิตของคนธรรมดาๆ เมื่อคนส่วนใหญ่ล้วนจากเขาไป ในเวลานี้เองสำหรับเขาแล้วทุกๆคนที่ยังคงอยู่ข้างกายเขานับเป็นสิ่งที่วิเศษณ์มาก เขาเลยพูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างสะอึกสะอื้น จริงๆเขาอยากจะหัวเราะแต่น้ำตาของเขามันไม่ยอมออกห่างจากเบ้าตาเลยซักนิด แรงกดดันที่หนักอึ้งนี้ไม่ควรจะมาอยู่บนบ่าของวัยรุ่นผู้อ่อนแอนี้ตั้งแต่แรก เขาไม่ใช่เทพนะ เขาเป็นแค่เด็กอายุ 22 เท่านั้น!

ทุกครั้งที่ได้ฟังเขาร้อง ใจก็ถูกผูกไว้อย่างเจ็บปวด เจ็บปวดมากๆ เมื่อกี๊นี้ก็เพึ่งจะฟังไปรอบหนึ่ง จู่ๆก็ทนไม่ไหวที่จะพิมพ์คำพูดที่เขาได้เคยพูดไว้ท่อนนั้นออกมา รู้สึกซาบซึ้งกับข้อความท่อนนั้น และเพื่อเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาของโหย่วเผิงซึ่งมันไม่ใช่เส้นทางเดินที่ง่ายเลย!

คำพูดจริงๆของโหย่วเผิง

ซูโหย่วเผิง: มักจะมีคนออกมาแสดงความไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงของผมเสมอ

จากนักร้องไอดอลกลายมาเป็นดาราที่มีศักยภาพ ไม่ใช่ว่าศิลปินที่ป๊อบปูล่าจะสามารถข้ามผ่านเหตุการณ์พลิกผันแบบนี้ไปได้สำเร็จทุกคนซูโหย่วเผิงคนปัจจุบันได้ถอดความมึนงงสับสนสมัยวัยรุ่นของฉายา “ไกวไกวหู่” ในปีนั้นออกไป  เขาเอาทุกอย่างมามองอย่างเรียบง่าย เบาๆ แล้วพูดถึงการเปลี่ยนแปลงสไตล์ในระยะที่ผ่านมา เขาพูดไปหัวเราะไปว่า “มักจะต้องมีคนที่ออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของผมเสมอ แต่ว่า ใครจะสนล่ะ!”

ซูโหย่วเผิงพูดรำลึกถึงความหลังว่า “ในตอนนั้นมีคนออกมาชี้เยอะมากเลยจริงๆนะครับ ในทุกๆวันทุกๆครึ่งหน้าของหนังสือพิมพ์ก็จะมีแต่ข้อความด่าผมเต็มไปหมด”  ด้วยความเลือดร้อนเมื่อตอนสมัยวัยรุ่น ทำให้ความสุดขั้วในตัวเขาเปลี่ยนจากด้านหนึ่งไปเป็นอีกด้านหนึ่ง ถึงแม้มันจะไม่ใช่จุดที่อยู่กึ่งกลางแต่ทว่า เขาก็ยังมองว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรอยู่ดี เพราะ “ชีวิตไม่ใช่การส่งการบ้าน” ควรทำตามที่ใจตนเองปรารถนาไม่ใช่เสิร์ฟทุกอย่างตามที่คนอื่นต้องการให้เราเป็น ชีวิตแบบนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นชีวิตจริงๆ ถึงจะเป็นชีวิตที่ซูโหย่วเผิงต้องการ “มักจะต้องมีคนที่ออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของผมเสมอ แต่ว่า ใครจะสนล่ะ!555+”

คนที่ฝึกพูดสำเนียงห่อลิ้นและสกิล “ไม่แคร์สื่อ” ได้แล้วอย่างซูโหย่วเผิงจะไม่ชอบถ่ายภาพที่ไม่มีความแปลกใหม่ ไม่ชอบพักอยู่ในสถานที่ที่หนึ่งเป็นเวลานานๆ ไม่ชอบแสดงในบทบาทที่ซ้ำกับที่ตัวเองเคยแสดงมาก่อน ไม่ชอบปิดบังความรู้สึกจริงๆของตัวเอง บางทีก็ตะโกนอย่างเลือดร้อน บางทีก็เล่นสนุกแบบไม่เกรงใจ บางทีก็แอบนั่งอมทุกข์ บางทีก็เป็นคนใสๆและจริงใจ เขาไม่อำพรางจุดอ่อนของเขา แต่ก็ไม่ซ่อนเร้นความมีไมตรีจิตของตัวเองด้วยเช่นกัน

โดยภาพรวมแล้วชีวิตที่ผ่านมาของนักแสดงอย่างซูโหย่วเผิง เขาสามารถเล่นหนังแนวย้อนประวัติศาสตร์ก็ได้ แนวโมเดิร์นก็ได้ เล่นบทนักรบก็ได้ หรือรับบทเพี้ยนๆก็ได้ นับว่าเซ็ตสายงานภาพยนตร์หลักๆให้กับเขาได้ยากมากจริงๆ “อายุสี่สิบกว่าแล้ว ถ้าจะยังเล่นแนวอารมณ์คำพูดที่ลึกซึ้งหรือเล่นหนังแนวไอดอลโอปป้าอยู่ ความคิดก็คงจะมีปัญหาแน่ๆแหละครับ” เขาพูด ตอนนี้ผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลังกำกับภาพยนต์มาแล้ว 2 เรื่อง ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง แจ้งเกิดในฐานะใหม่ "ซูต่าว-sudao" ที่น้องๆทีมพลังอบอุ่นเรียกกัน ซึ่งเป็นชื่อที่ โหย่วเผิงบอกว่า ชอบจัง อิอิ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
20227520_457652591274669_2075390787_n.jpg" border="0

เขียนโดย "ซ่งเหวินซ่าน" (พี่ซ่ง)   อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ "วงเสี่ยวหู่ตุ้ย"

ความหลังของ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui   : ซูโหย่วเผิงการถูกเปลี่ยนตัวกับเหตุผลที่ว่ากลัวเรื่องเรียนแย่ไปนิด

หลังจากการรวมตัวกันของ [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] ปัญหาหนักๆในข้อแรกที่เข้ามาอยู่ตรงหน้าก็คือ พวกเขาทั้งสามล้วนเป็นเด็กเพียงแค่นักเรียน จึงห้ามทำอะไรก็ตามที่จะส่งผลเสียกับการเรียน โดยเฉพาะเด็กที่โตมาในครอบครัวคนจีนที่พ่อแม่มักจะมีความเชื่อว่าในวันข้างหน้าลูกๆจะออกไปทำอะไรที่ไหนก็ได้ แต่เรื่องการเรียนยังไงๆก็ห้ามทิ้งเด็ดขาด

และพ่อแม่ของซูโหย่วเผิงเองต่างก็ยืนหยัดในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะในปีนั้นซูโหย่วเผิงกำลังเรียนอยู่ระดับชั้น ม.ต้น ซึ่งเขาเป็นนักเรียนที่โดดเด่นที่สุดในเครือโรงเรียนมัธยมเจี้ยนกั๋วแห่งไต้หวัน   ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเรียนสไตล์การเรียนหรือจะเป็นด้านของระเบียบวินัยและเกรดเฉลี่ยสำหรับการเลื่อนระดับชั้นก็ตามล้วนนับได้ว่าเป็นดาวเด่นในระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนเจี้ยนจง(โรงเรียนชายล้วน) ของไต้หวันที่ไม่เป็นสองรองใครเลยทีเดียว ซูโหย่วเผิงโตมาจากครอบครัวที่เข้มงวดกวดขัน พ่อแม่ของเขาต่างก็คาดหวังในตัวเขาสูงมาก

การที่ซูโหย่วเผิงเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกของ[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui]นั้น พ่อแม่ของเขามองว่า นั่นถือเป็นความสนใจทั่วๆไปของเด็กวัยรุ่นซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้คัดค้านแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนเช่นกัน และสิ่งหนึ่งที่เตือนให้รับรู้ไว้ก่อนเลยก็คือ จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียนเป็นหลัก ไม่อนุญาตให้การทำเพลง ออกคอนเสิร์ต หรือถ่ายทำวิดิโอของซูโหย่วเผิง มาทำให้ตัวเขาเองต้องเสียการเรียนโดยเด็ดขาด

เรื่องการเรียนนี้ก็นับเป็นแรงกดดันที่อู๋ฉีหลงและเฉินจื้อเผิงเองต่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่ทว่าในตอนนั้นอู๋ฉีหลงเลือกเรียนสายอาชีพในเมืองไทจง ส่วนเฉินจื้อเผิงนั้นเรียนที่โรงเรียนอาชีวะเฉียวไท่ในเมืองไทจงเช่นกัน ซึ่งท่าทีของการพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียนดังกล่าวจะเป็นรูปแบบของการสนับสนุนและให้กำลังใจซะมากกว่า ขอเพียงไม่ขาดเรียนมากจนเกินไป หากมีธุระก็ติดต่อกับอาจารย์ไว้ก่อน ขอลากิจซะ หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมอัดวิดิโอต่างๆนานาที่เมืองไทจงเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาหาอาจารย์เพื่อตามเรียนเสริมในภายหลังแบบนี้แล้ว...ทางโรงเรียนก็สามารถยอมผ่อนผันให้ได้

ซูโหย่วเผิงเป็นคนที่กตัญญูมาก แต่ด้วยเหตุที่ทางบ้านเข้มงวด เขาเองก็เลยไม่อาจขัดได้  และไม่เพียงแต่ตัวเขากับทางบ้านเท่านั้นที่ไม่ยอมให้เขาหยุดเรียนเพื่อไปออกอีเว้นท์โปรโมทผลงานทางบริษัทต้นสังกัดเองก็ไม่ยอมให้เขาหยุดเรียนเพื่อหาเงินด้วยการออกไปโปรโมทผลงานเช่นกัน

ทว่า...นับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1989 จนถึงช่วงซัมเมอร์ของปี 1990 ในช่วงระยะเวลาปีครึ่งนี้ จู่ๆ [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] ก็ดังเป็นพลุแตกในวงการเพลงจีนไปได้อย่างน่าประหลาดใจ ภาพลักษณ์ดีเด่นทั้งในด้านการเรียนและความประพฤติของพวกเขาได้กลายเป็นไอดอลในดวงใจของบรรดานักเรียนนักศึกษาวัยรุ่นทั่วทุกหนทุกแห่ง[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui]ได้ฝากผลงานเพลง “ซินเหนียนไคว่เล่อ” (สุขสันต์วันปีใหม่) ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1989 และเพลง “เซียวเหยาโหยว” (เที่ยวไปอย่างอิสระ) ในเดือนมิถุนายน 1989 ตามลำดับ สองอัลบั้มนี้ต่างก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า งานถ่ายวิดิโอก็มาก งานสัมภาษณ์ก็ไม่น้อย งานนัดถ่ายโฆษณากับกิจกรรมคอนเสิร์ตก็มีอยู่บ่อยๆ

การสัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุที่มีเพียงแค่อู๋ฉีหลงกับเฉินจื้อเผิงนั้นก็ยังถือว่าพอไหวอยู่ แต่ถ้าเป็นการบันทึกเทปผ่านทางสถานีโทรทัศน์   งานโฆษณา หรือคอนเสิร์ตที่ขาดซูโหย่วเผิงไป...ก็คงไม่อาจจะเรียกได้ว่า นี่คือ[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] เรื่องนี้ ทำให้บรรดาสื่อต่างๆพากันกลุ้มใจ แฟนๆ[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui]ก็พากันกลุ้มใจ ส่วนผู้ชมนี่ ยิ่งกลุ้มใจเข้าไปใหญ่! บ่อยครั้งมากที่ในรายการต่างๆเราจะได้เจอเสือน้อยเพียงแค่สองตัวอย่างอู๋ฉีหลงและเฉินจื้อเผิงเท่านั้น

ในเดือนสิงหาคมปี 1989 ซูโหย่วเผิงเลื่อนชั้นจาก ม.4 ขึ้น ม.5 การเรียนก็ต้องหนักขึ้น ตอนเช้าก็ต้องตื่นเช้าขึ้น  การเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนก็ต้องใช้เวลานานมากขึ้นยังมีสายตาของเขาก็สั้นเพิิ่มขึ้นอีก แรงกดดันจากการเลื่อนชั้นรวมไปถึงบรรยากาศการเรียนการสอนที่เข้มงวดนี้ ทางบริษัทต้นสังกัดของพวกเราจึงไม่กล้าที่จะเข้ามารบกวนเวลาเรียนของซูโหย่วเผิงเลยแม้แต่คาบเรียนเดียว

ที่สุดแล้วซูโหย่วเผิงจะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้หรือไม่?สื่อต่างๆ บรรดาผู้ชม รวมไปถึงคนจีนทั้งประเทศต่างก็กำลังจับตามอง ยิ่งกลุ่มคนที่กำลังรอฟังข่าวเด็ดๆอยู่ก็ยิ่งพากันจับตามองเข้าไปใหญ่จากเหตุการณ์ในตอนนั้น ทางบริษัทต้นสังกัดจะส่งตัวซูโหย่วเผิงให้กลับไปตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือที่โรงเรียนเลยก็ได้ เพราะเรื่องการเรียน ใครๆก็ไม่อยากจะเข้าไปถ่วง

ทว่ากิจการของทางบริษัทต้นสังกัดยังจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าต่อไป ยังมีรายการที่จะต้องจัด ยังมีพนักงานอีกหลายปากท้องที่จะต้องเลี้ยง เป็นไปไม่ได้เลยที่ทางบริษัทต้นสังกัดจะต้องปิดกิจการชั่วคราวด้วยสาเหตุเพียงแค่ว่าซูโหย่วเผิงจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย!ในเวลานั้นก็เข้าช่วงเดือนสิงหาคมของปี1989 แล้ว ทางบริษัท Carrier ของพวกเรา(Carrier Entertainment Agency Co., Ltd.)กำลังเตรียมออกอัลบั้มชุดที่ 3 ของ[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] “หนานหายปู้คู” (ลูกผู้ชายอย่าร้องไห้)

พี่เหมียว ผม และโปรดิวเซอร์หลี่จึเหิงต่างก็กำลังวุ่นอยู่กับการรวบรวมเพลงขณะเดียวกันก็คิดถึงปัญหาที่น่าปวดหัวเกี่ยวกับซูโหย่วเผิงที่ว่า ตอนรวม[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui]จะต้องเก็บตัวซูโหย่วเผิงเอาไว้อีกหรือเปล่าพี่เสี่ยวเยี่ยน พี่เหมียวและผมมารวมตัวกันเพื่อวางแผนการของบริษัทCarrierโดยประกาศการจัดประชุมอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าทางบริษัทต้นสังกัดจะถือเอากำไรเป็นเป้าหมาย แต่ก็ไม่อาจทำให้คนคนหนึ่งต้องออกนอกลู่นอกทางเพียงเพื่อการแสวงหาผลกำไรเช่นกันซูโหย่วเผิงเป็นนักแสดงที่มีความรับผิดชอบต่องาน และยังเป็นนักเรียนดีเด่นคนหนึ่งอีกด้วยแค่เรื่องเรียนของตัวเองก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว ถ้าฐานะของ  [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] จะมากลืนเวลาที่เหลืออันน้อยนิดของเขาไปอีกจนเขาไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้ขึ้นมา แบบนั้นแล้วสังคมภายนอกก็มีแต่จะประเมินค่าซูโหย่วเผิง [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] และบริษัทCarrier Entertainment Agency Co., Ltd.  ไปในด้านลบทุกคนต่างเข้าร่วมประชุมการกำหนดนโยบายในครั้งนี้ด้วยความปวดใจ

หลังจากปรึกษาหารือกันเสร็จก็ได้เสนอนโยบายออกมา 2 ข้อคือ

ข้อ1. ให้[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] งดการแสดงไปก่อน รอให้ซูโหย่วเผิงเรียนจบ ม.5 ม.6ฯลฯ สองปีหลังจากนี้พอซูโหย่วเผิงสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] ค่อยปรากฏตัวในวงการเพลงอีกครั้ง 

ข้อ2.  ให้การแสดงของ[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ แต่ตัดซูโหย่วเผิงทิ้งไปแล้วหาคนใหม่มาเปลี่ยนแทน

ในตอนนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับนโยบายข้อที่ 2 เพราะว่าปีนี้กระแสของ [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] มาแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ   [ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] ไม่มีทางจะถอนตัวออกจากวงการเพลงไปง่ายๆ บริษัทยังจำเป็นจะต้องดำเนินกิจการต่อไปเรื่อยๆ    ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ก็มีเพียงใช้วิธี “ออกม้าเปลี่ยนแม่ทัพ” จึงจะสามารถได้รับการยอมรับจากสังคมได้มากที่สุด และซูโหย่วเผิงเองก็ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการเลื่อนชั้นจริงๆ วิธีนี้จึงมีสิทธิ์จะได้รับเสียงสนับสนุนจากพ่อแม่ของซูโหย่วเผิงด้วยสุดท้าย...มติของที่ประชุมก็คือ หาคนมาแทนซูโหย่วเผิงซะ ให้[ เสี่ยวหู่ตุ้ย 小虎队 xiao hu dui] เดินหน้าต่อเต็มกำลัง!อีกทั้งคนที่เตรียมจะให้เข้ามาแทนที่ซูโหย่วเผิง ก็ได้คิดเตรียมกันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนที่เตรียมจะให้เข้ามาแทนซูโหย่วเผิงนั้นดูคร่าวๆแล้วเด็กกว่าซูโหย่วเผิงนิดหน่อย แต่มีความหล่อเหลานุ่มนวลมีความรู้และมาดเท่ห์เช่นเดียวกันกับซูโหย่วเผิงเป็นคนที่ดูมีระดับ ส่วนตัวผม...ได้ถูกมอบหมายให้ไปโน้มน้าวให้ซูโหย่วเผิงถอนตัว!ภารกิจบีบให้ซูโหย่วเผิงถอนตัวนี้มั้นช่างยากเสียเหลือเกินสำหรับตัวผม ผมมองเห็นน้ำใสๆในดวงตาของเขา กับหัวใจที่ไม่อาจจะทนได้ไหว

เขานิ่งไปนานมาก... นานมากๆ... “ผมจะไม่ถอนตัว!”เขาพยายามกลั้นน้ำใสๆที่เอ่อล้นอยู่ในดวงตาของเขาไว้อย่างสุดกำลัง  “การจัดอีเว้นท์ของบริษัท ผมสามารถไปร่วมได้ เรื่องเรียนผมจะรับผิดชอบเอง จะให้ยากลำบากยังไงผมก็สามารถแบกรับมันไว้ได้ทั้งหมดด้วยตัวของผมเอง” เขายืนยืดอกตัวตรง ผมได้เห็นร่างเล็กๆของเขาที่ถูกกระเป๋านักเรียนทับจนผอมแห้งและอ่อนแรงในตอนนั้น ระเบิดความมุ่งมั่นและความแน่วแน่ออกมาอย่างไม่มีขีดจำกัด

มันเป็นความแน่วแน่และกล้าหาญที่พบเห็นได้ยากมากสำหรับเด็กอายุ 17 เป็นความกล้าหาญอันไร้ขีดจำกัดประเภทที่ว่า “แม้ข้าศึกเป็นหมื่นเป็นแสนข้าก็จะบุกเข้าไป”!เมื่อผมกลับไปรายงานพี่เสี่ยวเยี่ยนกับพี่เหมียวถึงความตั้งใจของซูโหย่วเผิง พร้อมกับช่วยพูดเพื่อด็กอายุ 17 คนนี้... พี่เหมียวนับเป็นคนที่ใจอ่อนคนหนึ่ง เธอรู้ซึ้งถึงความตั้งใจที่จะรับผิดชอบเรื่องของตัวเองทั้งหมดของซูโหย่วเผิงเป็นอย่างดี เธอจึงทำร้ายเขาไม่ลง เพราะอย่างนี้เองซูโหย่วเผิงจึงอัดเทปอัลบั้มชุด “ลูกผู้ชายอย่าร้องไห้” ได้อย่างราบรื่นในที่สุด

Siri

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • ดูรายละเอียด
20427803_458118704561391_1308056509_n.jpg" border="0

ยิ่งนานก็ยิ่งรู้ ยิ่งดูก็ยิ่งชัดเจน ยิ่งรู้จัก ก็ยิ่งรักเธอ พวกเราอยากจะตะโกนบอกกับคุณดังๆว่า ชายในฝันของพวกเราคือคุณ พวกเรารู้สึกภูมิใจมากจริงๆ รักคุณตลอดไป
The more we know you it becomes clearer of why we love you, and we want to shout out loud to you that, “you are the man in our thoughts, we are very proud of you and love you forever”.


เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
“Heavens definition is not as good as fighting your own battles.” Meaning creating an opportunity and not waiting for it to happen. Because of your experience, and not because of luck.


ไม่มีความพ่ายแพ้ใดที่ได้มาจากความพยายามอันสูงสุด และไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาจากการถอดใจยอมแพ้ 
“There is no defeat derived from your efforts. And no success derived from surrendering.” 


มีครั้งนึงที่ได้อ่านบทความนี้อีกครั้ง ทำให้พวกเราได้มองเห็นเฮียเผิงตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จากนักร้องสู่ดารานักแสดง จากการเข้าร่วมงานกุศลจนถึงการถือเอาความเมตตาเป็นเรื่องราวที่สำคัญของชีวิต ได้มองเห็นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงในหนึ่งชีวิต รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
As I read this article again, we have seen you go from early childhood to maturity. From singer to actor. From attending charities to obtaining compassion, it is a vital part of your life. Having seen the transitional phase of your life, including the quality of life which can move quickly.


Siri

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • ดูรายละเอียด
20370497_458118711228057_549293680_n.jpg" border="0

ขอบคุณตลอดเวลาที่มีคุณ วันเวลาเป็นสิ่งเดียวที่ไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้ แต่คุณกลับอยู่ข้างๆฉันมาโดยตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ก็คือ ความรู้สึกลึกซึ้ง คุณอายุ 50 พวกเราก็จะเอาอายุ 50 ไปพร้อมๆคุณ แก่เฒ่าไปด้วยกัน

Time is the only thing that cannot be reversed; you were at our sides all along, you make us feel profound.  When you are 50 we will be also, we will grow old together.  Thank you for being in our lives.


พวกเราจะร่วมเดินทางไปพร้อมๆคุณ อยู่เคียงข้างคุณ และจะคอยสนับสนุนคุณแบบนี้และตลอดไป มันคือความผูกพันตลอด 18 ปีที่ได้มารัก โชคดีเหลือเกินที่มีคุณ อยู่ด้วยกันก็ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว อบอุ่นไปด้วยกันนะ

In our minds, we will always be together with you in our journey.  We will be by your side and will support you like this forever.   It is your appreciation of us throughout our years that we have come to love.  We are so lucky in being together in spirit that makes us feel happy and less lonely.

Siri

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • ดูรายละเอียด
20400984_458118707894724_316340875_n.jpg" border="0

จาก ”ไกวไกวหู่” สู่ “องค์ชายห้า” เป็นการปรากฏตัวบนจอเงินอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่าง “อนาคต? ในอนาคตผมอยากมีให้มีโอกาสดีๆเข้ามาให้ผมได้ไปทดลอง มีหลายครั้งต้องปล่อยให้มันผ่านไปตามโชคชะตา ทุกช่วงของชีวิตจะมีหัวข้อหลักของมันเสมอ ขึ้นอยู่กับโอกาสและความเป็นไปได้ที่ไม่เหมือนกัน” เขาที่ผ่านมาทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดของชีวิตการทำงาน ชีวิตขึ้นๆลงๆมาตลอด 20 ปี ก็สามารถทำใจยอมรับและรับมือการผ่านไปของกาลเวลาได้นานแล้ว คว้าทุกโอกาสที่เข้ามา เพลินเพลินไปกับทุกๆสถานการณ์ที่เข้ามา

From "Obedient Tiger" 乖乖虎 to "Wu Age" 五阿哥 will show a completely different image on the screen. “In the future, I want to have a great opportunity to challenge myself. There are times when you have to cast your fate to the wind. Every moment of life is only one moment in time. Opportunities and possibilities are not the same.” Whether having highest or lowest points in his life has changed for over 20 years and can accept and handle the passage of time. Grab every opportunity that comes, enjoy every situation that comes in.

-------------------------------------------------------------

ภาพลักษณ์ของซูโหย่วเผิง

มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการเข้าสู่วงการบันเทิงที่เร็วมากของเขา หรือว่าอาจเป็นเพราะที่ตัวเขาเป็นคนที่ชอบเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามเราเห็นแล้วว่าเขามีภาพลักษณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมา เริ่มจากภาพลักษณ์ของไกวๆหู่ที่เริ่มเข้าสู่วงการ สไตล์ที่เรียบร้อย สายตาที่เดียงสา เป็นภาพของเด็กนักเรียนมัธยมคนหนึ่ง

จากนักร้องเป็น "องค์ชายห้า" บุคลิกดี น่ารัก ทั้งยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ยังมีกลิ่นไอของการเติบโตเป็นหนุ่มอยู่ โหย่วเผิงในวันนี้ ล้วนให้ภาพลักษณ์ที่สงบกับทุกคน แท้จริงเบื้องหลังของการเงียบสงบนั้นเป็นการเติบโต  รายการ I want to meet you เขาได้มีตำแหน่งจริงของตัวเอง  "Su Dao" 苏导  สิ่งที่เห็นได้จากตัวเขาที่แสดงออกมาคือ ความรู้สึกปลอดภัย ความเป็นผู้ใหญ่จริงๆ
บางทีเขาก็อาจจะแสดงมุมซนๆออกมาบ้าง นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขายังคงมีใจขี้เล่น (เหมือนเด็ก)พูดได้เลยว่าความน่ารักของชายวัย 44 นี้ถึงจะเรียกว่าน่ารักของจริง

Su YouPeng's personality

As he entered the entertainment industry as a teenager, naïve and innocent, perhaps this is why he was given the “Obedient Tiger” 乖乖虎 moniker (name).

From a singer to the role of “Wu Age” 五阿哥 we see a change in personality but still not quite mature. Today Su YouPeng is at peace with everyone.  His inner self is one of tranquility that is growing.  In an “I want to meet you” program, he is being himself in the role of “Su Dao” 苏导 and what we saw from the show was the feeling of security and maturity.
Sometimes you will see his naughty side, and that show he is playful and young at heart, that is very cute for the man at age 44.

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
20227301_457652644607997_866115473_n.jpg" border="0

Album: Happy New Year 新年快樂 Xin Nian Kuai Le
Year: 1989

Green Apple Paradise 青苹果樂園 Qing Ping Guo Le Yuan
สวนสนุกแอปเปิ้ลสีเขียว:ชิงผิงก่อเล่อเหยียน

https://www.youtube.com/watch?v=wsSEge6ez_8

ปี 1989 ซูโหย่วเผิงได้ร้องเพลงสวนสนุกแอปเปิ้ลสีเขียว:ชิงผิงก่อเล่อเหยียน ดูเด็กมาก สดใสมาก หล่อมาก เสียงเพราะจนจะร้องไห้ ทุกอย่างราวกับว่า...

ถ้าซูโหย่วเผิงไม่ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง เขาจะต้องเป็นเด็กเทพแห่งวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมแน่ๆ(คนที่เรียนเก่งมากๆหรือคะแนนดีที่สุดในห้องหรือในโรงเรียน)

มาดูงานที่เขาให้ความสนใจในตอนเด็กกัน ก็จะมีการคิดเลขโดยใช้ลูกคิดแบบจีน คิดเลขในใจ คณิตศาสตร์โอลิมปิก ภาษาอังกฤษ การเขียนบทความ การเขียนพู่กันจีน เล่นคีย์บอร์ดไฟฟ้า คณะนักร้องประสานเสียง เป็นต้น สิ่งสำคัญนั่นก็คือ เด็กคนอื่นๆอาจจะโดนพ่อแม่เกลี้ยกล่อมบังคับให้ไปเรียน แต่เขากลับมีความสุขที่ได้ไปเรียน ถ้าไม่ให้เขาเรียนสิ่งที่เขาสนใจนี้ก็จะเกิดอาการกระวนกระวายแบบแปลกๆ มิน่าล่ะช่วงนี้การพูดจาของเขาถึงได้ดูสบายอกสบายใจ

ปี 1988 ซูโหย่วเผิงอายุ 15 ปี การสอบเข้าชั้นมัธยมปลายในปีนั้น เขาใช้คะแนนอันดับหนึ่งในโรงเรียนของเขาสอบเข้าโรงเรียน Taipei Municipal Jianguo High School(เจี้ยนจง)  ถือว่าเป็นโรงเรียนท็อปอันดับหนึ่งของไต้หวัน แต่จริงๆแล้วเป็นโรงเรียนมัธยมตัวท็อปของเอเชียเลย

ช่วงเวลามัธยม ซูโหย่วเผิงได้รับโอกาสที่สำคัญที่สุดต่อชีวิตเขา ได้เข้าร่วมวงเสียวหู่ตุ้ย ในซิงเกิ้ลที่ฮอตฮิตชื่อ《ชิงผิงกั่วเล่อหยวน》(แปลตามความหมายคือสวนสนุกแอปปิ้ล) เขากับอู๋ฉีหลงและเฉินจื้อเผิงแทบจะเรียกว่าดังในชั่วข้ามคืนได้เลย การเรียนมัธยมปลายสามปีนี้ ตั้งแต่ปี 1988 ถึงปี 1991 ถือว่าเป็นช่วงที่วงเสียวหู่ตุ้ยโด่งดังมากที่สุด ได้ทำผลงานออกมาเจ็ดอัลบั้ม เล่นคอนเสิร์ตกว่าสามสิบครั้ง ถ่ายภาพยนตร์ ถ่ายโฆษณา ยุ่งจนหน้ามืดตาลาย ถ้าเป็นคนอื่นๆคงถอดใจไปนานแล้ว แต่ “เสือน้อยแสนรู้” เหล่านี้ต่างก็พยายามเรียนต่อไปจนจบ ถึงแม้ว่าความกดดันจะใหญ่โตดั่งภูเขาก็ตาม

ในที่สุด ม.6 ปีนั้น ซูโหย่วเผิงก็ได้ปัดงานด้านการแสดงที่พอจะสามารถปัดทิ้งได้ออกไป และจดจ่อสมาธิอยู่กับการเรียนอย่างเดียว ในที่สุดก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยหมายเลขหนึ่งของไต้หวันได้จนสำเร็จในคณะวิศวกรรมเครื่องกล และได้กลายเป็นเด็กเทพอย่างสมคำร่ำลือ

หลังจากที่วงเสียวหู่ตุ้ยสลายตัวไป ซูโหย่วเผิงก็หลุดออกจากเปลือกของไอดอลวัยรุ่น และได้มารุ่งเรืองในวงการบันเทิงแทน เขาได้หันไปให้ความสนใจกับละคร,ภาพยนตร์ ผลงานเรื่องแรกของการเป็นนักแสดงก็คือ(องค์หญิงกำมะลอ)และเรื่องราวหลังจากนั้นพวกเราก็รู้จักกันดี “องค์ชายห้า” ทำลายสถิติบนหน้าจอทีวีเป็นระยะเวลายาวนาน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จ เข้าสู่ตลาดภาพยนตร์ในจีนแผ่นดินใหญ่ได้

หลังจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็น "เตียบ่อกี้" ในหนังจีนกำลังภายใน (ดาบมังกรหยก) หรือว่าไป๋เสี่ยวเหนียนในเรื่อง The Message คุณก็จะเห็นซูโหย่วเผิงในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยพอใจ ไม่หยุดที่จะบุกเบิกอาณาจักรแห่งการแสดง ท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง ได้รับการขนานนามว่าเป็นฮีโร่ผู้มีคุณภาพเยี่ยมยอด สมควรได้แล้วจริงๆ

หลังจากอายุ 40 เขาก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง โดยการผันตัวจากนักแสดงไปเป็นผู้กำกับ จากเรื่อง จั๋วเอ่อร์-The Left Ear จนถึงเรื่อง The Devotion of Suspect X ในตอนนี้ มุ่งมั่นพากเพียร มีผลงานยอดเยี่ยมมากมาย ดาราที่ทำได้ขนาดนี้ ก็ควรจะให้รางวัล ”แบบอย่างดาราที่ดี” แก่เขาถึงจะถูกเนาะ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
20289572_457652707941324_909389960_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิง ชายหนุ่มคนหนึ่งหลังจากที่ได้มีชื่อเสียง ชีวิตที่จมปรักอยู่อย่างนั้น ก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งในฐานะดารานักแสดง

ประสบการณ์จากการเป็น”ไกวไกวหู่”สู่การเป็น”องค์ชายห้า”นั้น

ซูโหย่วเผิงผ่านความยากลำบากที่คนอื่นไม่รู้มาเยอะมาก

ภายใต้ฉาก เขามีท่าทีกระตือรือร้นอยู่ตลอด เป็นคนมองโลกในแง่บวก ดั่งตู้เฟยในเรื่อง(มนต์รักในสายฝน) ที่มักจะเผยเสียงหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า” ออกมา

เขาเคยเป็นนักร้อง นักแสดง แม้กระทั่งเป็นผู้กำกับ และได้มีตำแหน่งจริงของตัวเอง   苏导演 "ซูเต่าเหยียน" หรือ "ซูต่าว" 苏导  ตั้งแต่เรื่อง (จั๋วเอ่อร์-The Left Ear) ถึงเรื่อง (The Devotion of Suspect X) แต่พอย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวเก่าๆเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เขาก็มักจะไม่เป็นตัวของตัวเอง

ซูโหย่วเผิงมักจะมีมาตรฐานในตัวเองสูงมาก บางทีนี่อาจจะเป็นคุณสมบัติของศิลปินที่ประสบความสำเร็จมักจะต้องมีก็ได้ ประโยคนึงที่เขาชอบพูดติดปากเลยก็คือ “มีตั้งหลายคนที่จ้องจะจับผิดผม ผมก็ต้องบังคับตัวเองแหละ”

สามารถรับรู้ได้ว่าในใจลึกๆของเขานั้นมีความกังวลที่ ”คิดไม่ตก” อยู่

ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเป็น "ไกวไกวหู่"  แห่งวง “เสี่ยวหู่ตุ้ย” ” องค์ชายห้า” ละครที่อยู่ในใจของทั่วทุกมุมโลก "องค์หญิงกำมะลอ" เคยทำให้เขาสว่างพร่างพราว แต่ก็ทำให้รับรู้ได้ว่าในใจของเขามีความรู้สึกแสลงใจอยู่บ้างกับสองชื่อนี้

ปัจจุบัน เขาอายุ 44 ปี เริ่มศรัทธาในศาสนาพุทธ ปล่อยเป็นไปตามวาสนา ไม่ได้บังคับว่าต้องเป็นหลักของชีวิตเลย บางทีอาจเป็นที่เขาเคยผ่านชีวิตแบบ” วิธีบวก” มาแล้ว ผ่านขั้นตอน "วิธีลบ" มาแล้ว เริ่มเรียนรู้การปล่อยวาง เริ่มปรับความเข้าใจกับตัวเองในเมื่อก่อน

ปัจจุบัน เขาที่ได้กลายเป็นผู้กำกับ ยังคงรักษารูปแบบการทำงานในแบบเดิม ฟื้นฝอยหาตะเข็บ เสาะหาความจริง

อาจเป็นเพราะชาวราศีกันย์มักจะทำอะไรละเอียดยิบ ได้เจอแบบนี้ถึงจะเป็นซูโหย่วเผิงวัย 40 ที่แท้จริง

ในสถานที่ถ่ายทำ (The Devotion of Suspect X) ซูโหย่วเผิงแทบจะโหดกับทุกๆฉาก ถ้าไม่พอใจก็จะให้ถ่ายใหม่อีกครั้ง ทำให้นักแสดงหลักสองท่าน จางหลู่อีกับหวังข่ายอยากจะบ้าตาย สงสัยว่าตัวเองแสดงไม่ได้เลยเหรอ “ผมทำการแสดงมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ฉากเดียวถ่ายทำอยู่ทั้งวัน”

20 กว่าปีที่ผ่านมา เขาพยายามเป็นอย่างมาก

เขาอาศัยความโด่งดังของ”องค์ชายห้า” มาแสดงเรื่อง (ดาบมังกรหยก)และ(องค์หญิงแสนซน) ได้ตำแหน่งดารานักแสดงไอดอล คิดและทำนอกเรื่องอย่างเงียบๆ “ทุกคนต่างก็คิดว่านั่นเป็นธาตุแท้ของเขา” 《ดาบมังกรหยก》เป็นอีกบทบาทที่เขาเล่นแล้วฉีกไปจากบทเดิมๆ กลายเป็น "เตียบ่อกี้" ที่อยู่ในใจคอหนังจีนกำลังงภายในไปแล้วในปีนั้น

ต่อมาเขาได้แสดงเป็นไป๋เสี่ยวเหนียนผู้สง่างามและมีท่าทางลึกลับในเรื่อง The Message นายแพทย์หนิวผู้โหดเหี้ยมอำมหิตในเรื่อง Design of Death ผู้ป่วยทางจิตที่สติฟั่นเฟือนในเรื่องอดีตรักแรงปรารถนา และภาพลักษณ์ฮีโร่อื่นๆที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี

 “เป็นช่วงที่ไป๋เสี่ยวเหนียนได้รับรางวัลมั้ง”  ปี 2015  ซูโหย่วเผิงได้เผชิญกับคำถามที่ว่า “เส้นทางที่ผ่านมาคุณได้รับชื่อเสียงเกียรติยศมากมาย ตอนนั้นสิ่งที่คุณภาคภูมิใจมากที่สุดคืออะไร” เขาได้ตอบว่า “เหมือนกับว่ายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ในที่สุดก็มีคนมองเห็นว่าแท้จริงแล้วเขามีความพยายามมาก”

ความเอาจริงเอาจัง พยายามในตอนหนุ่ม นอกจากอาศัยการไม่ยอมแพ้และความดื้อรั้นในวัยหนุ่ม ส่วนใหญ่ก็ควรที่จะไม่ถูกยอมรับ ยอมรับความเดียวดาย แล้วเอาใจหนึ่งดวงไปต้านทานกับหัวใจทั้งหมด

 “ถ้าเจอตัวเองตอนที่อายุ 15 ปี อยากจะบอกอะไรกับตัวเอง” มีคนเคยถามเขาแบบนี้

ซูโหย่วเผิงเงียบไปพักนึงแล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม แกไปเถอะ”

Siri

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
อดีตเคยเป็นไกวไกวหู่ #ซูโหย่วเผิง #ผู้กำกับ ที่จริงแล้วลักษณะนิสัยของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด เขายังคงรักษารอยยิ้มกว้างๆไว้ จิตใจที่งดงาม มีคุณธรรม มีจิตสาธารณะ อารมณ์ขัน ร่างกายกำยำล่ำสัน จิตใจทรงพลัง ทำงานอย่างไม่ย่อท้อ กตัญญูต่อบุพการี และการเปลี่ยนแปลงหนึ่งเดียวที่พวกเรามองเห็นนั่นก็คือลักษณะนิสัยที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น

20228810_1227798153997693_159001159515712056_n.jpg" border="0

อ้างถึง
บนเส้นทางละครภาพยนตร์ตลอด20ปีของซูโหย่วเผิง ได้ต่อสู้กับความยากลำบากต่างๆ เพื่อแสวงหาความงดงามทางศิลปะ ผลงานทุกเรื่องต่างถือว่าเขียนได้เป็นแบบฉบับคลาสสิก เขียนลงไปด้วยความพยายามที่เขามีต่อการแสดง ขอให้พวกเราอวยพรกับเขา ขอให้งานของเขาสว่างพร่างพราวอย่างไร้ขีดจำกัด ขอให้การปีนป่ายนี้เป็นบันไดขั้นที่สวยงามที่สุดในชีวิตศิลปินของเขา

20258429_1228526397258202_8625960481332133406_n.jpg" border="0


2017.071.png" border="0
2017.072.png" border="0
2017.073.png" border="0
2017.074.png" border="0
2017.075.png" border="0
2017.076.png" border="0
2017.077.png" border="0
2017.078.png" border="0
2017.079.png" border="0
2017.0710.png" border="0
2017.0711.png" border="0
2017.0712.png" border="0
2017.0713.png" border="0

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
ใช้ความผิดพลาด เป็นบทเรียน ใช้หัวใจทำทุกสิ่งที่หวังไว้ ด้วยตัวเราเอง
  把错误当成教训,用心做好每件自己期望着的事情

20370245_457655944607667_1065350817_n.jpg" border="0

ซูโหย่วเผิง ในบรรดาไอดอลที่ฉันรู้จักมาทั้งชีวิต คุณคือดวงตะวันที่งดงามที่สุดในใจของฉัน ส่องแสงนำทางในชีวิตของฉัน บนเส้นทางเส้นนี้ คุณได้เติมเต็มจิตวิญญาณของฉัน จุดประกายแสงสว่างอันรุ่งโรจน์ขึ้นมาในชีวิตของฉัน คุณเป็นดั่งความงามอันสง่างามและเงียบสงบ รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน เข้ากันอย่างยิ่งกับรูปร่างหน้าตาอันแสนมีเสน่ห์ของคุณ สง่างามดั่งแสงแดดทางตะวันออกที่ไม่มีวันจาง ที่สดใสเปล่งประกายอยู่เสมอ

ซูโหย่วเผิง ฉันชอบคุณ ชอบที่นิสัยอันหนักแน่นของคุณ ชอบที่จิตวิญญาณนักสู้ของคุณ ชอบการพัฒนาตนอยู่เสมอของคุณ แน่นอนว่าการต่อสู้ย่อมมีแรงกดดัน หากไม่มีแรงกดดันก็ไม่มีวันรู้ว่ามีกำลังมากแค่ไหน หากไม่มีความมั่นใจในตนเองก็ไม่มีวันรู้ว่าจะสามารถเดินไปได้ไกลเพียงไร แน่นอนว่าจะต้องมีความปรารถนาเมื่อตอนยังเยาว์ ต้องกล้าที่จะฝ่าฟัน แทนที่จะรอการตอบรับ ไม่สู้เผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญ นกหยุดพักที่ชายคา ไม่สู้กางปีกต่อสู้กับลมฝน ผลที่ได้จะต้องออกมาดีแน่นอน หากคุณไม่กล้าหาญเอง ใครเล่าจะมาต่อสู้เพื่อคุณ

ซูโหย่วเผิง คุณคือผู้กล้าที่แท้จริง เรื่องราวของคุณเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้นมา ทุกย่างก้าวของคุณที่เต็มไปด้วยดอกไม้และเสียงปรบมือ แสดงถึงจุดสูงสุดในชีวิตของคุณ ความเป็นมาอันรุ่งโรจน์ของคุณเป็นสิ่งที่คุณรังสรรค์ขึ้นมาเองทั้งนั้น ทุกย่างก้าวของคุณล้วนถูกบันทึกอยู่ในชีวประวัติของคุณ บรรเลงออกมาเป็นบทเพลงชีวิตอันไพเราะ ความฝันของคุณก็ต้องโลดแล่นต่อไป ความเชื่อมั่นของคุณก็คือปีกของความฝันที่คุณฝันไว้ คุณคืออัจฉริยะ เป็นความภาคภูมิใจ คุณคือตำนาน คุณคือเทพบุตรบนโลกมนุษย์ ชีวิตของคุณเหมือนเทียนที่เผาไหม้จากยอดสู่โคน ที่เปล่งแสงตลอดเวลา

ซูโหย่วเผิง ฉันชอบมองรอยยิ้มที่เบิกบานของคุณ เพียงคุณยิ้ม ใจของฉันก็เป็นสุขแล้ว ฉันชอบฟังเสียงหัวเราะของคุณ นั่นคือเสียงหัวเราะที่ออกมาจากใจของคุณ และก็เป็นเสียงหัวเราะที่ไพเราะที่สุดที่ฉันเคยได้ยิน อยากให้คุณหัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้ต่อไป นี่คือเสียงเล็กๆจากใจของแฟนคลับที่เต็มไปด้วยความรักต่อคุณ โหย่วเผิง ฉันชอบฟังเสียงร้องของคุณที่ทั้งแสนเศร้าและอ่อนหวาน น่าดึงดูดเหมือนเสียงแห่งกาลเวลากำลังลูบไล้จิตวิญญาณของฉัน ฉันรักเพลงทุกเพลงของคุณ พวกมันล้วนถูกเก็บไว้ในใจของฉันแล้ว รสชาติที่ค่อยๆออกมาเป็นมนต์เสน่ห์ที่งดงามที่สุด

โหย่วเผิง ฉันขอมอบความสุขที่งดงามที่สุดให้กับคุณ ผ่อนหนักเป็นเบา ให้กลีบดอกไม้ทุกกลีบที่ถูกพัดไป หลอมรวมเข้ากับความคิดและความสุขของคุณ การดูแลในแต่ละวัน คำทักทายทุกคำ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ฉันอวยพรให้คุณมีความสดใส และมีความสุขเบิกบานใจในทุกๆวัน (ซูโหย่วเผิง) คุณคือดวงตะวันที่งดงามที่สุดในใจของฉัน



ถึง คนๆหนี่ง ที่เขาทำให้เรา”รัก” ได้ขนาดนี้
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขามีความหมายกับเรา
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้เรายิ้มอย่างไม่รู้ตัว
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้เรากลายเป็นคนใหม่
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้ลมปราฌเราปั่นป่วน
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้เราได้ฟังเพลงที่ไพเราะที่สุดในโลก
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้ชีวิตเราไหวหวั่น อ่อนละลาย
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้ ทุกวันของเรามีเขาอยู่ด้วย
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้เราหัวเราะ ร้องไห้ไปกับเขา
ถึง คนๆหนึ่ง ที่เขาทำให้เราเป็นหญิงสาว(สวย)ได้ตลอดเวลา
ถึงเขาคนนั้น SU YOUPENG


เริ่มจาก “เสี่ยวหู่ตุ้ย”
เริ่มอีกครั้งจาก “องค์ชายห้า”
โด่งดังบนแผ่นฟิล์ม จาก "ไป๋เสี่ยวเหนียง" "เฉินปอหลิน" "วุ่ยเหวินเต๋อ"
เรื่องราวที่มหัศจรรย์ได้รวบ...รวม
อยู่ที่ ชายหนุ่มผู้นี้
เรื่องราวที่สมควรเอาเยี่ยงอย่าง
อยู่ที่ ชายหนุ่มผู้นี้
เรื่องราวที่น่ายกย่อง
อยู่ที่ ชายหนุ่มผู้นี้
จวนจนปัจจุบัน
ใบหน้าที่อบอุ่น จริงใจ
ความคิดอ่านที่ฉลาด และไม่ละโมบ
คนรักที่เขาตั้งชื่อว่า รอคอย
เชื่อในรักที่บริสุทธิ์
มุ่งมั่นในหน้าที่การงาน
ความกตัญญูที่ลึกซิ้ง เด่นชัด
เป้าหมายอยู่ที่ “การให้”
เขาคือคุณ
เขาคือ Su You Peng

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด
MV เพลงรักและถนอม
https://www.youtube.com/watch?v=GcMuvKdT0Jk
https://www.facebook.com/AlecfanclubinThailand/posts/1471844432854045

รำลึกผลงานเพลงฮิต "เจินซี"(1994) สมัย "องค์ชายห้า-ซู โหย่วเผิง" ยังหนุ่ม
https://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9600000070670



รำลึกผลงานเพลงฮิต "เจินซี"(1994) สมัย "องค์ชายห้า-ซู โหย่วเผิง" ยังหนุ่ม


เพลง "เจินซี(珍惜)" ซึ่งแปลว่า รักและถนอม เป็นเพลงเก่าที่เคยโด่งดังเมื่อปี 1994 ต้นฉบับร้องโดยศิลปินชายชาวไต้หวัน ซู โหย่วเผิง
       
       ในยุคสมัยหนึ่ง หากเอ่ยชื่อของ ซู โหย่วเผิง หรือผู้รับบทองค์ชายห้า ในละครจีนยอดฮิต องค์หญิงกำมะลอ เชื่อแน่ว่ามีน้อยคนที่จะไม่รู้จักเขา
       
       ซู โหย่วเผิง เข้าวงการตั้งแต่อายุแค่เพียง 15 ปีเท่านั้น เป็นนักร้องรุ่นราวคราวเดียวกับหลิน จื้ออิง เขาร่วมกับ อู๋ ฉีหลง และเฉิน จื้อเผิง ร้องเพลงในนามวงเสี่ยวหู่ตุ้ย(小虎队) ต่อมาเพราะ เฉิน จื้อเผิง สมาชิกในวงจำเป็นต้องเกณฑ์ทหาร เสี่ยวหู่ตุ้ย จึงปิดตำนานลง




"เสี่ยวหู่ตุ้ย" บอยแบนด์ที่เคยดังที่สุดในไต้หวัน มีสมาชิกคือ อู๋ ฉีหลง, เฉิน จื้อเผิง และ ซู โหย่วเผิง

        ปี 1992 ซู โหย่วเผิงก็มีโอกาสออกอัลบั้มเพลงเดี่ยวเป็นครั้งแรก กับอัลบั้ม หว่อจื่อเย่าหนี่อ้ายหว่อ 《我只要你爱我》 และมีผลงานเพลงออกมาให้ได้ฟังไม่ขาด ซู โหย่วเผิง อู๋ ฉีหลง จิน เฉิงอู่ (ทาเคชิ คาเนชิโร่) และหลิน จื้ออิงได้รับขนานนามว่าเป็น 4 จตุรเทพแห่งไต้หวัน
       
       ปี 1995 ซูโหย่วเผิงเดินทางไปเรียนคอร์สสั้นที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษประมาณ 4 เดือน       




รับบทองค์ชายห้า คู่กับ เจ้า เวย ใน "องค์หญิงกำมะลอ" จนโด่งดัง

 อย่างไรก็ตาม โชคยังเข้าข้างซู โหย่วเผิง ในปี 1997 เขามีโอกาสแสดงละครของฉงเหยา เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ(还珠格格) ประกบคู่กับ เจ้า เวย  หลิน ซินหยู ฟาง ปิงปิง ซึ่งเรื่องนี้ส่งให้ องค์ชายห้า โด่งดังเปรี้ยงปร้างทั่วเอเชีย หลังจากนั้นก็มีงานละครวิ่งชนกันเป็นว่าเล่น และมีโอกาสร่วมงานกับเจ้า เวยอีกครั้งในเรื่อง เราสองหัวใจเดียวกัน และปัจจุบัน ซูโหย่วเผิงกับเจ้าเว่ยก็ได้จับมือทำธุรกิจภาพยนต์ร่วมกัน นับว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมิตรภาพที่ยาวนานมากๆเลยหละค่ะ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13250
    • ดูรายละเอียด