ผู้เขียน หัวข้อ: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22  (อ่าน 3172 ครั้ง)

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
[Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« เมื่อ: มิถุนายน 17, 2016, 08:04:04 AM »

ไกวไกวหู่ เติบโตเป็นนักบันทึกความทรงจำวัยรุ่น

ซูโหย่วเผิง

ผมเป็นผู้กำกับ Perfectionist ผู้ชอบ  “ทารุณ”นักแสดง

จากนักแสดงสู่ผู้กำกับ ผลงานกำกับเรื่องแรกของ ซูโหย่วเผิง 《โจ่วเอ่อ》ใกล้เข้าฉายแล้ว และได้เข้าสู่ช่วงโปรโมทหนังแสนวุ่น เขานำทีมเหล่านักแสดงร่วมโปรโมทหนังตามเมืองต่างๆ  โอวหาว หยางหยาง และ หม่าซือฉวน ล้วนแต่เป็นนักแสดงใหม่ที่มีฝีมือกันทั้งนั้น ส่วนนางเอก เฉินตูหลิน ไม่ได้เรียนการแสดงมาโดยตรง เหมือนกระดาษขาวที่ไม่มีประสบการณ์การแสดงมาก่อน เมื่อเผชิญกับคำถามของนักข่าว ซูโหย่วเผิง ต้องค่อยสอนให้พวกเขาตอบคำถามกลัวว่างานโปรโมทจะเงียบเหงา เขาจึงค่อยสร้างบรรยายกาศให้ครื้นเครงตลอดเวลา ดาราผู้กำกับคนนี้ที่ต้องเครียดตั้งแต่เริ่มเปิดกล้อง เวลาอยู่กองถ่ายเป็นอย่างไรกันบ้างนะ? เขายอมรับว่าตนเป็นคนเข้มงวด ไม่รู้ว่าจะ “โหด”กับดาราน้องใหม่เหล่านี้ขนาดไหนกัน? กำกับหนังครั้งแรกรู้สึกไม่ชิน หรือตื่นเต้นไหม? ประสบการณ์ที่ผ่านมาช่วยอะไรเขาได้บ้างในการเป็นผู้กำกับ? วันนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิง มาให้คำตอบและพูดคุยความในใจกับหนุ่มผู้รักความสมบูรณ์แบบคนนี้กันค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหา----กวานหมินยี่ (นักข่าวประจำนิตยสาร) อัดเสียง------ เฉินเจียฉี (นักศึกษาฝึกหัด)

ซูโหย่วเผิง กับการทำหน้าที่ผู้กำกับครั้งแรก เขาเข้มงวดทั้งกับตัวเองและนักแสดง

วันเกิดของผู้กำกับชาวราศีกันย์ก็จัดที่กองถ่ายเช่นกัน

   ก่อนสัมภาษณ์ นักข่าวเข้าไปนั่งรอในห้องพักรับรองไปซักพัก ซูโหย่วเผิง ที่อยู่ข้างๆยุ่งกับการโปรโมทหนังเรื่องแรกของเขา พร้อมท่องสโลแกนของหนังไปด้วย:อยากดูวัยรุ่น ดู โจ่วเอ่อ อยากดูXX มา XX เขารู้สึกไม่พอใจมากนัก อ่านไปหลายรอบก็หลุดขำทุกที เขาคิดว่าประโยคมันแปลกๆ “อย่างน้อยผมก็เป็นศิลปินคนหนึ่งนะ” สุดท้ายก็ตกลงแยกอัดสโลแกนโปรโมทหนังอีกรอบหนึ่ง เขามักจะบอกว่าตนเป็นศิลปินเสมอ เขามีความคิดของตนเอง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆอยู่แล้ว และไม่ยอมทำในเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วยแน่นอน อีกทั้งนิสัยรักความสมบูรณ์แบบของเขา ถามจากปากเหล่านักแสดงแล้วต่างบอกว่าในชีวิตจริงเขาเป็นคน “ใช้ความรู้สึกมากกว่าหลักการ” “แอ๊บแบ๊ว” แต่เวลาที่อยู่กองถ่ายกลับต่างกันจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เขาเข้มงวดและสร้างบรรยากาศกดดัน ขอให้นักแสดงแสดงจริงทุกฉาก โดดน้ำก็โดดจริง ตีต้องตีจริง ดื่มเบียร์ไม่ไหวก็ต้องดื่ม พระเอกอย่าง โอวหาว รับความโหดของผู้กำกับไม่ไหวจนถึงขั้นเคยแอบด่าเขาด้วยคำหยาบด้วย เฉินตูหลิน ที่ต้องค่อยให้สอนทุกเรื่อง ฉากไหนที่มีเธอ ซูโหย่วเผิง ต้องแสดงให้ดูก่อน 1 รอบทุกครั้ง ถึงจะถูกคัทบ่อยๆแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้เลย

ซูโหย่วเผิง ไม่มีเวลาอธิบายให้เธอมากนัก เขาพูดตรงๆ : “ทำตอนนี้เลย! Do now! รีบทำตามนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นถ่ายไม่หมดแน่”

   ซูโหย่วเผิง เป็นนักแสดงจากทศวรรษที่ 8-9 เป็นสมัยที่เข้มงวดกับฝีมือการแสดงของดารามาก “ไกวไกวหู่” มีวิธีตามแบบฉบับของเขา “สิ่งที่ทางค่ายสอนผมตอนนั้น คือ ไม่ว่าก่อนขึ้นเวทีคุณเจออะไรมาก เช่นสุนัขของคุณเป็นอะไรไปก็ช่าง ผู้ชมไม่มีวันรู้หรอก สิ่งที่คนจำได้มีแค่ผลงานของคุณเท่านั้น ฉะนั้นสำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าผมต้องทำงานให้ออกมาดีที่สุด”อ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงจะได้เห็นว่า เด็กหนุ่มไร้เดียงสาจากเสี่ยวหู่ตุ้ย องค์ชายห้านักรักจากเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ เป็นอดีตไปแล้ว คนที่อยู่ตรงนี้ คือ ซูโหย่วเผิง ที่ตั้งเป้าไว้ให้ตัวเองสูงเสมอ

เป็นผู้กำกับอย่างไร

ผมคงได้แต่ใช้วิธีสร้างบรรยากาศกดดัน

   ช่วงการให้สัมภาษณ์ระหว่างโปรโมทหนัง โจ่วเอ่อ มีแฟนคลับแย่งไมค์แล้วตะโกนว่า “ฉันชอบ จางอู๋จี้ ที่คุณแสดงมากที่สุดเลย” เขายิ้มขอบคุณ พอถึงช่วงสัมภาษณ์ เขายกตัวอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่า ถึงยุคนี้จะมีหนังวัยรุ่นเต็มตลาด แต่เขายังคงมีความมั่นใจในหนังของตน “คุณก็รู้ว่าตามสไตล์การทำงานของผมแล้ว ผมไม่เคยจะไปเช็คว่าคนอื่นเคยทำอะไรไปบ้าง เหมือนเมื่อก่อนตอนที่ผมรับบทเป็น จางอู๋จี้ แต่อันที่จริง ผมไม่เคยไปศึกษา จางอู๋จี้ เวอร์ชั่นก่อนๆที่ประสบความสำเร็จเลย แสดงไปตามรูปแบบของผม ตามสไตล์ของ ซูโหย่วเผิง”ซูโหย่วเผิง ทำแบบนี้ตอนเป็นนักแสดง พอย้ายมาเป็นผู้กำกับ ก็ไม่เปลี่ยน “ผมไม่ได้เลียนแบบหนังวัยรุ่นในประเทศที่ประสบความสำเร็จ เนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจและอยากถ่ายทอดเท่านั้น”

   ระหว่างการถ่ายทำ ต้องเผชิญกับตารางงานที่ “แทบเป็นไปไม่ได้”ในแต่ละวัน เขากดดันมากกว่าทุกครั้ง  เริ่มถ่ายทำกันตั้งแต่หน้าร้อนถึงหนาว เขาพยายามเร่งงานอยู่ทุกวัน เสื้อยืดที่มีรอยขาด กับผ้าเช็ดที่ถูกพาดไว้บนไหล่ ซูโหย่วเผิง วิ่งวุ่นสั่งงานทั่วกองถ่าย หลังถ่ายทำจบ หัวของเขาเริ่มมีผมงอกขึ้นแซม “คุณสามารถเห็นได้จากวีดีโอบันทึกการถ่ายทำว่าตอนนั้นผมโหดมาก เป็นเพราะแรงกดดันที่ทับผมจนแทบจมมิด” ก่อนถ่ายทำ เขาก็ระเบิดไป1 รอบ เพราะเมื่อเขามาถึงห้องที่เตรียมไว้สำหรับอบรมนักแสดงใหม่ กลับเห็นทุกคนยืนถ่ายรูปกันเฮฮา เขาอารมณ์ขึ้นเลยทันที “พวกคุณคิดว่า ซูโหย่วเผิง จะกำกับหนังอะไรกันเหรอ หัวเราะเฮฮาแบบนี้จะทำงานให้สำเร็จได้ใช่ไหม ผมอยากให้บรรยากาศในกองถ่ายค่อนข้างจริงจัง เพราะนี่เป็นหนังซีเรียส”  เขารู้ว่าบางครั้งทำให้ดาราน้องใหม่เหล่านี้กลัวเขาเหมือนกัน “แต่ก็ช่วยไม่ได้ครับ ต้องเผชิญหน้ากับนักแสดงใหม่ เวลาก็ค่อนข้างจำกัด ผมกดดันมากจริงๆ ระหว่างการถ่ายทำอาจจะไม่ได้เวลาไปนั่งปรึกษานั่งสอนดีๆด้วย ผมก็เลยได้แต่ใช้วิธีสร้างแรงกดดัน”

เบื้องหลังการถ่ายทำ ผู้ชมจะเห็นว่า กวานเสี่ยวถง นอนกลิ้งบนพื้น โอวหาว โดดทะเลนับครั้งไม่ถ้วน หนาวจนตัวสั่น บอกตรงๆว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ หลังการถ่ายทำ ซูโหย่วเผิง ก็รู้สึกผิดเหมือนกัน แต่เขายังคงยืนหยัดในวิธีของตน “เพราะว่าผมเป็นคนค่อนข้างเข้มงวดกับศิลปะการแสดง ผมหวังว่านิยามคำว่าการแสดงที่ผมเข้าใจจะสามารถใส่ถูกเพิ่มลงไปในตัววัยรุ่นกลุ่มนี้ ผมคิดว่าถ้าพวกเขาผ่านมันมาได้ ก็หมายความว่าพวกเขาแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่เหมือนกัน”

ประสบการณ์และการเติบโต

พักการเรียนมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในวัยรุ่น

   หนึ่งในเหตุผลที่ ซูโหย่วเผิง รับกำกับ โจ่วเอ่อ ก็คือ นิยายแนวความปวดร้าวเรื่องนี้ทำให้เขาเห็นในสิ่งที่แตกต่าง เขารู้สึกเสียดายกับการตัดสินใจในวัยรุ่น “ผมเข้าวงการตั้งแต่มอต้น ชีวิตส่วนตัวของผมเริ่มปรากฏต่อหน้าสังคม เวลาเดินไปไหนก็แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป”

   บางที่ เสี่ยวหู่ตุ้ย อาจจะเป็นเหมือน TFBOYS ในยุคนั้น ซูโหย่วเผิง เป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุด “ไกวไกวหู่”เรียนเก่งนิสัยดี ทำให้มีคนชื่นชอบมากมาย “ตอนเรียนม.2 ด้วยความที่ชอบการแสดงมาก พอเห็นเขารับสมัครผู้ช่วยในรายการวาไรตี้ ผมเลยแอบส่งใบสมัครไปโดยที่ไม่ได้บอกทางบ้าน จากนั้นก็ดังเฉยเลย หลังจากนั้นทุกอย่างในชีวิตมันเหนือการควบคุมของเรา” เข้าวงการแต่เด็กมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีชื่อเสียงแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่ว่ายุ่งกับงานมากเกินไป ถึงจะสอบติดมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของไต้หวัน แต่กลับไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ เขาเลือกที่จะลาออก และนั่นก็กลายเป็นข่าวใหญ่ในสังคม “การที่ผมพักการเรียนมันไม่เป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวังไว้ ภาพลักษณ์เมื่อก่อนจะเป็น‘เด็กเรียนเก่งเล่นเป็น’เสมอ สมัยนั้นสังคมค่อนข้างปิด พักการเรียนในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก” เขาเก็บตัวอยู่บ้านไม่กล้าออกไปไหน “รู้สึกว่าแค่เห็นผมก้าวออกจากบ้านก็ต้องมีคนด่าแล้ว” เป็นช่วงที่ชีวิตเจอกับความตกต่ำครั้งแรก “ผมกดดันเรื่องการเงินทางบ้านอีก ผมต้องเลี้ยงครอบครัว แต่ไม่มีทั้งการเรียน ภาพลักษณ์ก็เสียหาย ร้องเพลงก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว แผ่นไม่ได้ขายดีเหมือนก่อน ผมเริ่มกังวลและกลัว ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร” กว่าเขาจะสามารถออกจากความเจ็บปวดครั้งนั้นได้ ก็ใช้เวลาไปหลายปีเหมือนกัน สุดท้ายก็ไปแสดงละครเรื่อง องค์หญิงกำมะลอที่จีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้เขาค่อยๆออกจากความทุกข์นั้นได้ “นี่เป็นความทรงจำของความเจ็บปวดที่ผมนึกถึง ตอนที่ถ่ายทำ โจ่วเอ่อ ตอนนี้ผ่านมันมาได้ก็ดีแล้ว แต่ ณ จุดๆนั้นผมกลัวมากจริงๆ”

   เพื่อน

   เสี่ยวหู่ตุ้ย จ้าวเวย เหมือนครอบครัว

   ช่วงเวลาความเจ็บปวดของ ซูโหย่วเผิง มีเพื่อนค่อยอยู่เคียงข้างเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของ เสี่ยวหู่ตุ้ย หรือ จ้าวเวย หลายวันที่ผ่านมา โจ่วเอ่อ ได้เปิดตัวเพลงประกอบหนังที่ขับร้องโดย จ้าวเวย สามารถเชิญ จ้าวเวย ที่บอกว่าหยุดร้องเพลงไปนานแล้วมาร้องเพลงประกอบหนังได้ ซูโหย่วเผิง เองก็ตกใจไม่น้อย “ผมไม่คิดว่าเธอจะยอมตกลง” จ้าวเวยหัวเราะ “เชิญง่ายมากเลย แค่โทรไปชวนก็มาเลย”

   นอกจากร้องเพลงประกอบละครแล้ว จ้าวเวย ยังมาช่วยในงานโปรโมท โจ่วเอ่อ ที่กวางโจวด้วย ทั้งสองมาในชุดเอี่ยมยีนส์สดใส ยอกล้อกันบนเวทีเหมือนในสมัยนั้น และกลายเป็นแคปชั่นสุดฮ็อทใน เวยป๋อ วันนั้น “มีความรักแบบหนึ่งเรียกว่า เสี่ยวเหยี่ยนจือ และ องค์ชายห้า”ซูโหย่วเผิงหัวเราะ “อืม เราไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว.......แต่เป็นความรักของมิตรภาพ”และพูดต่อว่า “ผมมีเพื่อนที่เหมือนครอบครัวในวงการบันเทิงไม่เยอะ และเธอเป็นคนที่สำคัญที่สุดในนั้นเลยครับ ”อดีตสมาชิกของ เสี่ยวหู่ตุ้ย และเพื่อนรักอย่าง อู๋ฉีหลง ก็ค่อยแชร์ โจ่วเอ่อ เพื่อช่วยโปรโมทหนังอยู่บ่อยๆ ซูโหย่วเผิงกล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า“พวกเขาทำให้ผมรู้ว่า มีพวกเขาในชีวิตเป็นเรื่องที่น่าวิเศษที่สุด บนเส้นทางในช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนจาก เสี่ยวหู่ตุ้ย และ องค์หญิงกำมะลอ จนถึงปัจจุบันนี้ พวกเขาก็ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม พวกเราเติบโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์ของเรากลายเป็นครอบครัวไปแล้ว โดยเฉพาะ จ้าวเวย อู๋ฉีหลง สนิทกันชนิดที่ว่ารู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว พวกเราไม่ได้ติดต่อกันบ่อย แต่จะคอยติดตามข่าวของพวกเขาเสมอ และในเวลาที่เพื่อนต้องการ ก็จะเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ”

Southen Metropolis Entertainment

“ไม่ทำให้ตกใจหน่อย พวกเขาจะจริงจังได้ยังไงล่ะครับ?”

ราศีกันย์ “ยอมรับไม่ได้กับการทำอะไรไม่เต็มที่”

Southen Metropolis Entertainment:คุณรับกำกับหนังเรื่องนี้เพราะว่ามีเรื่องเสียดายในวัยรุ่นรึเปล่าครับ?

ซูโหย่วเผิง:ไม่ใช่ครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย ตอนแรกที่ทางค่ายมาหาผม ถามว่าผมรับงานนี้ได้ไหม เพราะว่าผมนับถือศาสนาพุทธ ในช่วงระยะเวลานี้ ผมอยากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชาตะ ในเมื่อเขามาหาผมแล้ว ผมก็จะไม่ปฏิเสธหรือฝืนโชคชาตะ ผมควรที่จะรับเรื่องนี้เอาไว้ แล้วคอยสังเกตว่าเรื่องจะเป็นอย่างไงต่อไป สุดท้ายก็เป็นไปอย่างที่เห็นครับ

Southen Metropolis Entertainment :ระหว่างการถ่ายทำ ได้รับผลกระทบจากเรื่องอะไรรึเปล่าครับ

ซูโหย่วเผิง :ระหว่างการถ่ายทำ ผมจะไม่ตัดสินใจอะไรจากผลลัพธ์ครับ ไม่ใช่อยากทำยอดขายได้ดีก็เลยต้องยอมถอยก้าว ผมคิดมาเสมอว่าศิลปะเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์ และอีกอย่าง ผมราศีกันย์ ถ้าเป็นเรื่องที่ตั้งใจจะทำแล้ว ผมยอมไม่ได้กับการที่ทำออกมาไม่เต็มที่ สมมุติผมเห็นการแสดงตรงไหนสามารถเพิ่มคะแนนได้ ผมจะอดที่จะบอกนักแสดงไม่ได้ ผมต้องบอกพวกเขาให้ได้ กับตนเองก็เหมือนกัน เพราะนิสัยรักความสมบูรณ์แบบและไม่ยอมแพ้ ทำให้ผมต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุดครับ

Southen Metropolis Entertainment :คุณค่อนข้างโหดเวลาอยู่กองถ่ายใช่มั้ยครับ?

ซูโหย่วเผิง :ครับ โดยรวมแล้วค่อนข้างโหด

Southen Metropolis Entertainment :นักแสดงรู้สึกกดดันไหมครับเวลาอยู่กับคุณ?

ซูโหย่วเผิง:ที่จริงผมก็ตั้งใจให้พวกเขารู้สึกกดดันอยู่แล้วครับ เพราะว่าผมไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้เป็นหนังคอมเมดี้ ผมทำด้วยความคิดที่ว่ากำลังทำงานศิลปะที่จริงจังมาตลอด แน่นอนว่านิยามของการแสดงของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันออกไป

อย่างภาพยนตร์คุณภาพที่ผมเคยร่วมแสดง เช่น ฟงเซิน ในกองไม่มีใครหัวเราะเลย ทุกคนอยู่ในประสาทอย่างเงียบสงบ นักแสดงที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ คุณดูอย่าง โจวซวิน พวกเขาก็ปฎิบัติต่อการแสดงในแบบเดียวกัน ผมอยากให้พวกเขาได้ดี ถ้าพวกเขามาที่กองถ่ายแล้วไม่มีแรงกดดัน พวกเขาก็จะเฮฮายอกล้อกัน ไม่ใส่ใจเรื่องการแสดงเลย ถ้าผมไม่ทำให้ตกใจบ้าง พวกเขาจะยอมจริงจังเหรอ?

“โอวหาว หยางๆ เด็กใหม่รุ่นนี้ต้องดังแน่นอน”

Southen Metropolis Entertainment :คุณคิดยังไงกับนักแสดงใหม่ในเรื่อง โจ่วเอ่อ ครับ?

ซูโหย่วเผิง:ผมคิดว่าเด็กรุ่นนี้ต้องดังแน่นอน เพราะอะไรน่ะเหรอ? คุณดูสิ สุดท้ายแล้ว เลือกไปเลือกมาหาคนไม่ได้ จนสุดท้ายต้องเลือกพวกเขา เพราะว่าเราขาดนักแสดงช่วงอายุนี้ ฉะนั้นถึงเวลาของพวกเขาแล้ว ทุกคนทำได้ดีมาก ตอนที่ตัดต่อคุณจะเห็นได้ว่า เฉินตูหลินไม่เหมือนเด็กใหม่เลย แสดงได้ดีมาก โอวหาว หยางๆ มีสไตล์ของตนที่ต่างกันไป พวกเขามีจุดเด่นหลายข้อ ถ้ามีประสบการณ์มากกว่านี้อีกหน่อย พวกเขาจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ

Southen Metropolis Entertainment :ช่วยพูดถึงพระเอก โอวหาว หน่อยครับ

ซูโหย่วเผิง:เราเจอ โอวหาว ตอนที่มาออดิชั่น เขาเป็นคนที่สายตามีเรื่องราว เคยลำบากมาก่อน เพราะฉะนั้นจึงเป็นเด็กที่รู้จักคิด เขารู้ว่าการที่คนอื่นทำไม่ดีกับเขาเป็นเรื่องปกติ รับมือกับความกดดันได้ เขาไม่เคยปฎิเสธในสิ่งที่ผมขอเลย ที่จริงบทของเราก็ลำบากเหมือนกันนะ มีฉากใต้น้ำด้วย ถ่ายตอนเดือนตุลาคม เขาไม่เคยบ่นหนาวเลยซะครั้ง และเป็นคนตรงต่อเวลาด้วย ถึงแม้ภายนอกเขาจะดูไม่ยอมใคร แต่แท้จริงแล้วเป็นเด็กจิตใจดีคนหนึ่ง จริงใจ สิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่นักแสดงที่ดีควรมีครับ

Southen Metropolis Entertainment :แล้ว หยางๆ ล่ะครับ?

ซูโหย่วเผิง:หย่างหย่าง มีรูปลักษณ์ภาพนอกที่ได้เปรียบ หล่อ และโอกาสพัฒนาเยอะ  เขาเคยมีพื้นฐานการแสดงจากเรื่อง《ความฝันในหอแดง》เขาก็เป็นชาวราศีกันย์ด้วย ผมคิดว่าเขาต้องตั้งมาตราฐานกับตนเองสูงมาก เขารักในความสมบูรณ์แบบ ตั้งใจทำงาน นอกจากหน้าตาดีแล้ว เขาเหมือน ฉวีเกอ ในเรื่องเลย จะใสๆก็ได้ แมนก็ได้ ผมว่าน้อยมากที่เราจะเห็นบุคลิกทั้งสองแบบอย่างชัดเจนในศิลปินคนเดียว เขาต้องไปได้ไกลแน่นอนครับ

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
Re: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2016, 12:53:26 PM »

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
Re: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2016, 12:54:00 PM »

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
Re: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2016, 12:56:44 PM »

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
Re: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2016, 12:57:10 PM »

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
Re: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2016, 12:57:39 PM »


Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13249
    • ดูรายละเอียด
Re: [Alecsu magazines_2015] 南都娱乐2015.04.22
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 11:02:39 AM »