ผู้เขียน หัวข้อ: [2015-05-21]ซูโหย่วเผิงพูดถึงการเป็นผู้กำกับครั้งแรก  (อ่าน 1977 ครั้ง)

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด


ที่มา http://ent.sina.com.cn/m/c/2015-05-21/doc-icczmvup2070117.shtml

ซูโหย่วเผิงพูดถึงการเป็นผู้กำกับครั้งแรก:ความรับผิดชอบแฝงไปด้วยความท้าทายและความกดดัน

   สำนักข่าวบันเทิงซินหลาง โอกาสหนึ่งครั้ง หนึ่งทางเลือก ทำให้ซูโหย่วเผิงประสบความสำเร็จในการผันตัวไปเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขากำกับ “โจ่วเอ่อ” ไม่เพียงแต่ทำยอดขายถล่มทลาย ทั้งยังประสบความสำเร็จในการปั้นนักแสดงกลุ่มหนึ่งขึ้นมาอีกด้วย เพื่อเป็นกำลังใหม่ในวงการภาพยนตร์จีน  เบื้องหลังความสำเร็จและความงดงามเหล่านี้ คือความรับผิดชอบของซูโหย่วเผิงในฐานะผู้กำกับ เขากล่าวว่า ความรับผิดชอบนี้ แฝงไปด้วยความท้าทายและความกดดัน หนึ่งปีเต็มๆ ที่เขาบอกเลื่อนงานอื่นๆทั้งหมด ทุ่มสุดตัวในการถ่ายทำภาพยนตร์โจ่วเอ่อ เขายังได้นำความคิดของเขาใส่ลงไปในภาพยนตร์ ทั้งนี้ เขาตีความคำว่า “วัยรุ่น” ได้อย่างงดงาม และนำมันถ่ายทอดสู่ผู้ชม

 ถ่ายภาพยนตร์ ทุกๆความผิดพลาดล้วนเป็นความผิดของผู้กำกับ

  ก่อนที่จะถ่ายภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ซูโหย่วเผิงยอมรับว่า แรกทีเดียว เขาคิดว่าการเป็นผู้กำกับนั้นเป็นงานที่ง่ายมากๆ ไม่มีแรงกดดันอะไรเลย แต่เมื่อเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำ เขาถึงพบว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ที่แท้จริงแล้วไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้ ตนเองไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก็เลยรู้สึกถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่   การเป็นผู้กำกับนั้น ต้องจับทุกๆด้าน ต้องทำและควบคุมทุกๆเรื่องน้อยใหญ่ให้ออกมาดีที่สุด ไม่สามารถทำผิดได้แม้แต่นิดเดียว  เพราะว่าถ้าความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ สะสมมากเข้าก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายอันยิ่งใหญ่ได้ ซูโหย่วเผิงเชื่อว่า ในการถ่ายภาพยนตร์ ทุกๆความผิดพลาดล้วนเป็นความผิดของผู้กำกับ เขากดดันตัวเองอย่างมาก รับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อนักแสดง ต่อผู้ผลิต เพื่อหวังว่าจะสามารถมอบผลงานที่ดีเยี่ยมให้แก่ผู้ชม

  ในขณะเดียวกัน ซูโหย่วเผิงเป็นคนที่สบายๆ แต่ในกองถ่ายเขากลับเข้มงวดและตั้งใจมาก ไม่ยอมให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้เลย เพราะฉะนั้นแล้ว ช่วงที่ถ่ายทำอยู่เขาก็จะแก้ไขตลอดเวลา เขาเชื่อว่าความโหดร้ายในการทำงานนั้น เป็นสิ่งที่ต้องมี นี่เป็นความรับผิดชอบที่มีต่อภาพยนตร์และทีมงานทุกคน ดังนั้น เขาบอกบทและสาธิตให้กับนักแสดงใหม่อย่างตั้งใจ ทั้งยังชมพวกเขาด้วยว่ามีความสามารถและความตั้งใจมาก ในฐานะผู้กำกับ และฐานะนักแสดงเก่า  เรื่องที่เขาต้องการทำที่สุดคือการส่งต่อ การมอบโอกาสให้กับคนใหม่ๆ ช่วยเหลือพวกเขา
  สำหรับภาพยนตร์โจ่วเอ่อแล้ว ซูโหย่วเผิงบอกว่าไม่เสียใจซักนิด

   ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ถ่ายทำโจ่วเอ่อนั้นค่อนข้างกระชั้นชิด แต่ว่าทีมงานทุกคนก็อดทนทำงานภายใต้ความกดดัน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด สำหรับภาพยนตร์โจ่วเอ่อแล้ว ซูโหย่วเผิงบอกว่าไม่เสียใจซักนิด เพราะว่าช่วงที่เร่งถ่ายทำภาพยนตร์นั้น เขาทุ่มเทและตั้งใจอย่างสุดความสามารถเพื่อให้สำเร็จ สุดท้ายแล้วเมื่อมองดูผลงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว และผลตอบรับภาพยนตร์ก็ออกมาดีมาก ซูโหย่วเผิงรู้สึกว่าความลำบากทั้งหมดที่ผ่านไปแล้วนั้น มันคุ้มค่าจริงๆ

   ตั้งแต่โจ่วเอ่อเข้าฉายจนถึงวันนี้ มียอดขายเกือบห้าร้อยล้านแล้ว นี่เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับช่วงหกเดือนแรกของปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ผู้กำกับซูโหย่วเผิงกล่าวว่า ความชื่นชอบและคำชมของผู้ชมที่มีต่อภาพยนตร์นั้น เป็นแรงกระตุ้นอย่างดีเยี่ยมแก่เขา สำหรับการเป็นผู้กำกับนั้น หนทางยังอีกยาวไกล และยังต้องเรียนรู้อีกมาก