ผู้เขียน หัวข้อ: 2007 พิธีเปิด“โรงเรียนประถมศึกษาซีว่างซูโหย่วเผิง”  (อ่าน 6421 ครั้ง)

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
VDO https://www.youtube.com/watch?v=RaB65Bc9eC8



10 เมษายน 2007 พิธีเปิด“โรงเรียนประถมศึกษาซีว่างซูโหย่วเผิง”

เซียงกวนรายงานข่าว:ซูโหย่วเผิงได้รีบไปที่มณฑลเหอหนันอำเภอเจิ้งโจวยี้จู๋ร่วม งานพิธีเปิดของ “โรงเรียนประถมศึกษาซีว่างซูโหย่วเผิง” ในวันนั้นมีคนมากกว่า 3000 คนมารอต้อนรับซูโหย่วเผิง คนในพื้นที่หลายคนได้หลั่งน้ำตาแห่งความตื้นตันใจและความขอคุณ คาดการณ์ว่าในวันนั้นมีแฟนละครต่างๆของซูโหย่วเผิงมาเป็นบริกร(อาสา)ในงาน นี้ 30 คน แต่คิดไม่ถึงในวันงานมีแฟนๆของซูโหย่วเผิงมาช่วยงานนับร้อยคน ทำให้ซูโหย่วเผิงซาบซึ้งมากและบวกกับความดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ตัวเองสามารถ มีอิทธิพลในการทำให้แฟนๆมาทำงานกุศล

ในงานซูโหย่วเผิงได้มอบอุปกรณ์ การเรียนจำนวนมากมายให้กับทางโรงเรียน แฟนๆของซูโหย่วเผิงเองก็ได้รวบรวมเงินเป็นจำนวน 10000 กว่าหยวนเพื่อมอบให้ทางโรงเรียนจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬาต่างๆที่เด็กๆจำต้องรีบใช้ บรรดาเด็กนักเรียนก็ได้ทำโคมไฟด้วยตัวเอง ได้ไปเด็ดดอกไม้ใบหญ้าตามทุ่งนาของตัวเองมาทำเป็นของพื้นบ้านมอบให้แด่ซู โหย่วเผิง กิจกรรมระหว่างซูโหย่วเผิงกับเด็กๆนั้น นับวันก็ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ทุกทีอย่างซูโหย่วเผิงได้สวมมาลัยแดงที่เด็กนัก เรียนมอบให้กับเขา ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานได้มีรอยยิ้มออกมา และทำให้จิตใจของหลายคนอบอุ่น ในสนาม เด็กนักเรียนได้ร้องเรียกชื่อเขาและชื่อในละครที่เขาแสดง ยิ่งกว่านั้นมีคนบีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน บนภูเขาไปตระโกนร้องเรียกชื่อเขา ใช้ถ้อยคำที่นอบน้อมจริงใจในการแสดงออกถึงการขอบพระคุณที่อยู่ลึกๆในใจ ขณะที่ครูใหญ่โรงเรียนซีว่างได้มอบธงแห่งชัยชนะแด่ซูโหย่วเผิงนั้น เบ้าตาของท่านเต็มไปด้วยน้ำตา แข็งใจพูดออกมาว่า “ คุณซูโหย่วเผิง เด็กๆที่นี่ของพวกเราทุกคนนั้นจะจดจำบุญคุณของคุณตลอดไปอย่างไม่มีวันลืม ” หลังจากนั้นของการสัมภาษณ์ ซูโหย่วเผิงได้พูดต่อหน้าสื่อว่า “ความจริงเป็นเพียงการทำในสิ่งที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ได้รับการขอบคุณอย่างลึกซึ้งขนาดนี้ มันทำให้ตื้นตันใจมาก การให้มีความสุขมากกว่าการรับ ต่อไปผมก็ยังจะทำงานช่วยเหลืองานการกุศลอีกต่อไป”

แฟนๆร้อยกว่าคน ของซูโหย่วเผิงที่มาเป็นบริกร(อาสา)นั้นล้วนควักกระเป๋าของตัวเองมาช่วยงาน นี้ทั้งสิ้น แฟนๆเหล่านี้ที่มาจากต่างธุรกิจต่างอาชีพนั้นตลอดเวลาหลายปีล้วนเคียงข้างซู โหย่วเผิงมาตลอด แต่ทุกครั้งที่ซูโหย่วเผิงได้เรียกให้ทุกคนมาช่วยกันทำงานกิจกรรมการกุศล นั้น พวกเขามักจะเป็นกลุ่มแรกที่ตอบรับ ในงานนั้นซูโหย่วเผิงก็ยังได้ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ได้สนับสนุนเขา ขณะที่ซูโหย่วเผิงกำลังถูกถามจากนักข่าวมากมายนั้นเขากว่าว่า “ครั้งนี้ดีใจมากที่มีคนหนุ่มสาวมากมายได้มาช่วยงานการกุศลโดยได้รับแรงผลัก ดันจากตัวผม จากตรงนี้ ก็หวังว่าพวกเขาจะตั้งใจเรียน เป็นคนที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม เมื่อถึงเวลาที่เรามีกำลังพอก็ให้ของขวัญแก่สังคม งานกิจกรรมครั้งนี้ได้จบอย่างบสมบูรณ์นั้นก็เพราะมีพวกท่านทุกคนที่ให้การ สนับสนุน ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่ได้สละกำลังทรัพย์และแรงกำลัง” เขาได้เปิดเผยว่าจะพยายามเต็มที่ในการที่จะช่วยเหลือเด็กอีกมากมาย เพราะจะสร้างฝันของเด็กๆอยากเรียนนั้นให้เป็นจริง

“มูลนิธิซูโหย่ วเผิง” ได้ก่อตั้งในปี 2005 นี่เป็นมูลนิธิระหว่างมูลนิธิเยาวชนจีนกับซูโหย่วเผิงได้จัดตั้งขึ้น ความเป็นมาคือ สองปีก่อน เขาได้ไปเยี่ยมโรงเรียนซีว่างของเสฉวนสองแห่ง หลังกลับจากการเยี่ยม ซูโหย่วเผิงกับเพื่อนๆได้เอารูปที่ไปถ่ายตอนไปเยี่ยมนั้นมาทำเป็นแสตมป์ เริ่มมีการจำหน่าย จุดประสงค์ก็เพื่อจะเอาเงินมาช่วยเหลือเด็กยากไร้ที่นั้น รองเลขาของมูลนิธิเยาวชนจีน คุณ หวังหมิง รองเลขาธิการสมาคมหงชิงเหอหนั้น คุณโห้วหง เลขาธิการสมาคมหงชิงล่อหยางคุณเฉินจื้อเหว่ยได้ร่วมงานครั้งนี้ด้วย รองเลขาของมูลนิธิเยาวชนจีนคุณหวังหมิงได้กล่าวว่า “ซูโหย่วเผิงนั้นเป็นดาราที่มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความรักความอารีย์ และเป็นที่รักของเยาวชนอย่างยิ่ง ความรักที่แสดงออกมาของเขานั้นได้กลายเป็นแบบอย่างของเยาวชนไปแล้ว การเป็นแบบอย่างที่กระทำให้เห็นนั้นเป็นสิ่งที่มีความหมายมากๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนอีกมากมายได้เข้ามามีส่วนกับงานการกุศลทำคุณ ประโยชน์เพื่อสาธารณะชนโดยได้รับแรงบันดาลใจจากซูโหย่วเผิง

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด



ยอดเยี่ยม” ของการทำงานการกุศล

ใน เว็ปไซส์ส่วนตัวของซูโหย่วเผิงนั้น สำหรับ “มูลนิธิของซูโหย่วเผิง”นั้น การแนะนำรูปแบบการบริจาคนั้นได้จัดไว้ให้เห็นได้อย่างโดดเด่น “มูลนิธิ”นี้ เป็นการร่วมมือระหว่างซูโหย่วเผิงกับมูลนิธิเยาวชนจีนก่อตั้งขึ้นในเดือน กันยายน 2005 ฤดูใบไม้ผลิต(ช่วงตรุษจีน) ของปี 2007 ซูโหย่วเผิงได้สร้างโรงเรียนประถมศึกษาซีว่างที่เหอหนันผ่านทางมูลนิธินี้ ได้สัมผัสกับเด็กๆที่ได้รับการช่วยเหลือซูโหย่วเผิงกล่าวว่า “ นัยน์ตาของเด็กๆเหล่านี้ ผมได้เห็นถึงความกระหายในการอยากเรียนของพวกเขา”

ที่ จริงก่อนหน้านี้หลายสิบปีนั้น ซูโหย่วเผิงเคยเข้าร่วมกิจกรรมงานสาธารณะประโยชน์มากมายกับเสี่ยวหู่ตุ้ย “ตอนนั้นล้วนเป็นการจัดของทางบริษัทให้พวกเราไปร่วม เหตุเพราะยังอยู่ช่วงวัยรุ่นเกินไป ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคมคืออะไร ซูโหย่วเผิงเริ่มคิดเรื่องสาธารณะประโยชน์กับงานการกุศลจริงๆจังๆนั้น คือช่วงวัย30ที่เขาเริ่มรู้จักการแทนคุณขอบคุณ “หลายปีที่ผ่านมานั้นการงานอาชีพนักศิลปินนั้นขึ้นๆลงๆ มีถึงจุดสูงสุดและตกต่ำสุด ให้ผมเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองได้รับนั้นไม่ใช่เป็นการบังเอิญหรือเป็นสิ่งที่ สมควรจะได้รับ” ซูโหย่วเผิงกล่าวว่าตอนนี้เขาเรียนรู้จักการฉวยความสุขแล้ว “หลายครั้งชื่อเสียงเกียรติยศนั้นเป็นของอนิจัง เป็นสิ่งที่ทุกคนให้คุณ และยังเป็นสิ่งที่มาจากสังคม ขณะที่คุณกลายเป็นคนมีชื่อเสียง ทุกกิริยาบทของคนนั้นล้วนมีอิทธิพลต่อสังคม ชื่อเสียงนั้นไม่ได้เป็นของคุณคนเดียวแล้ว การทำคุณตอบแทนนั้นเป็นหน้าที่จำเป็นต้องมี

เผชิญกับความสงสัยว่า การทางานการกุศลหรือว่า “ทำให้เหมือนดีได้หน้า” ซูโหย่วเผิงได้เปิดเผยออกมาอย่างเซ็งๆ เขารู้สึกว่าการทำงานการกุศลที่เป็นรูปเป็นร่างและการออกไปกาศให้เป็นที่ รู้จักกันทั่วนั้นมันทำความลำบากใจแก่เขา การทำการกุศลของคนดังนั้นเสมือนกับ “โยนอิฐเพื่อล่อให้โยนหยกออกมา” (ใช้ความคิดเห็นที่ตื้นๆเพื่อล่อให้คนอื่นแสดงความคิดเห็นที่ลึกซึ้งและ เฉียบแหลมออกมา) แต่ว่าให้ชาวโลกทุกคนได้รู้กันทั่วหน้าว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งที่ดีและยังทำ ให้คนอื่นรู้สึกว่าล่าชื่อเสียงและคำเยินยอ จากสิ่งนี้ก็ทำให้ซูโหย่วเผิงนั้นลำบากใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยืนหยัดและเข้าใจว่าคนดังพึงมีหน้าที่ในการที่จะประกาศงานสาธารณะ ประโยชน์และงาการกุศล สิ่งที่พวกเราที่เป็นคนดังได้เปรียบที่สุดก็คือการที่ตัวเองมีอิทธิพลต่อ สังคมนั้นแหล่ะ ผ่านทางอิทธิพลที่มีอยู่นั้นผลัดดันทุกคนร่วมมือกันทำ อย่างนี้ถึงจะเป็นประโยชน์สูงสุด” ซูโหย่วเผิงกล่าวว่ากำลังจะเอาเสื้อผ้าของตัวเองเปิดขายทางอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้นเอายอดเงินที่ขายได้ทั้งหมดมอบให้กับโรงเรียนซีว่าง “สร้างโรงเรียนประถมศึกษาซีว่างนั้นต้องใช้งบ2แสนหยวน หากว่าเงินที่ขายเสื้อผ้านั้นยังไม่พอ ที่ขาดอยู่นั้นผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” จากน้ำเสียที่จริงจังนั้นทำให้ทุกคนเชื่อได้ว่าเขาตั้งใจกับโครงการนี้จริงๆ หากว่าแน่เป็นการ “ทำเพื่อเอาหน้า”แล้วล่ะก็ ถ้างั้นก็นับได้ว่าซูโหย่วเผิงได้ใช้รูปแบบที่จริงใจที่สุดแล้ว

ถาม เขาว่าได้ตั้งเป้าไว้ไหมว่าอนาคตจะสร้างโรงเรียนซีว่างซูโหย่วเผิงกี่แห่ง เขาพูดอยางหัวเราะว่า “นี่ยังจะต้องดูรายรับในอนาคตของผมด้วย แต่ว่าถ้าหากขอเพียงมีความเป็นไปได้ มูลนิธิของผมนั้นก็จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ” “หากว่าวันหนึ่งได้ลาจากวงการแล้วคุณจะทำอะไร?” เขาคิดแล้วคิดอีกตอบว่า “ผมอาจจะไปทำงานด้านช่วยสังคม”

เรียนรู้การปล่อยวาง เชื่อถือมั่นใจตัวเอง

ตลอด ปี 2007นี้ ซูโหย่วเผิงกล่าวว่าเขาไม่ได้ถ่ายหนังสักเรื่องเลย หลังจากที่ตั้งตัวได้แล้วอย่างซูโหย่วเผิงนั้นตัดสินใจจะไม่ทำงาน “บ้างาน”อย่างนั้นอีก นอกจากจะทำการแสดงให้ดีแล้ว ไม่หยุดในการถ่ายละครแล้ว เขายังรู้สึกว่าในชีวิตนี้ยังมีความฝันที่พิเศษที่รอเขาไปสานต่อ

“ สร้างโรงเรียนซีว่างแห่งหนึ่งต้องใช้งบ2แสนหยวน หากว่าเงินจากการขายเสื้อผ้าไม่พอ ที่ขาดผมจะรับผิดชอบเอง”

prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
10 เมษายน 2007 พิธีเปิด“โรงเรียนประถมศึกษาซีว่างซูโหย่วเผิง”

http://www.hnsc.com.cn/news/379/2007/04/11/169222.htm



1.นักข่าวซางเป้า / ถ่ายภาพ



2.ชาวบ้านกับ “แฟนๆ”ล้อมรอบแล้วโฮ่ร้องเขา



3. ชาวบ้านได้นำลูกจ้อมาให้ “ซูโหย่วเผิงกินแล้วชมว่าหวานดี”



4. ดูแล้วอารมณ์พี่ซูของเราไม่เลวเหมือนกัน ได้ใช้กล้องถ่ายรูปในงานด้วย



5. แฟนๆที่ปักกิ่งได้นั่นรถเขนตามมาร่วมกับเขาด้วย



prattana

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4549
    • ดูรายละเอียด
ซูโหย่วเผิงโรงเรียนซีว่าง “งานลุล่วงไปด้วยดี”


เมื่อ วาน โรงเรียนซีว่างที่โหย่วเผิงได้บริจาคงบสองแสนหยวนนั้นได้มีพิธีเปิดแล้วที่ มนฑลอี้หยาง ตำบลจ้าวเป่า หมู่บ้านหม่าเค่อ โหย่วเผิงก็ได้มาในพิธีด้วย ชาวบ้านในหมู่บ้านได้เอาผลิตผลพวกไข่ไก่ที่ไข่ออกจากเล้าของบ้านตัวเองมามอบ ให้กับโหย่วเผิงเพื่อขอบคุณเขา ก่อนหน้านี้ โหย่วเผิงก็ได้ร่วมบริจาคงานการสร้างโรงเรียนที่จีนไม่น้อยเหมือนกัน แต่ว่า โรงเรียนซีว่างนี้เป็นโรงเรียนแรกที่ใช้เชื่อของเขาในการก่อตั้ง

รายงาน จากสำนักข่าวเหอหนันซาง. โรงเรียนซีว่างซูโหย่วเผิงแห่งแรกของประเทศได้มีพิธีเปิดแล้ว ชาวบ้านในหมู่บ้านอี้หยางได้มอบลูกจ้อที่หวานกับไข่ไก่พื้นเมืองให้กับซู โหย่วเผิง

“โหย่วเผิง” มาจากแดนไกล จนไม่สามารถจะวัดได้

เมื่อ วานการมาเยือนของศิลปินดังอย่างซูโหย่วเผิง เป็นที่ตื่นเต้นดีใจสำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านระแวดนั้น ในวันนั้น ได้มีพิธีเปิดโรงเรียนที่ซูโหย่วเผิงได้บริจาคงบในการสร้างขึ้นอย่างเป็นทาง การ

ก่อนหน้านี้ โหย่วเผิงก็ได้ร่วมบริจาคงานการสร้างโรงเรียนที่จีนไม่น้อยเหมือนกัน แต่ว่า โรงเรียนซีว่างนี้เป็นโรงเรียนแรกที่ใช้เชื่อของเขาในการก่อตั้ง



กลางงานพิธี

โรงเรียนที่สร้างเสร็จจากงบสองแสนชาวบ้านเอาไข่พื้นเมืองมามอบเป็นการขอบคุณ
เมื่อ เสียงตีฆ้องดังขึ้น เสียงเพลงก็ดังขึ้น เช้าวันนั้น หมู่บ้านหม่าเหอที่อยู่ภูเขาดงไพรที่ลึกมากได้มีงานที่ครึกครื้นขึ้นอย่าง พิเศษ ชาวบ้านที่อยู่ระแวดต่างๆหมู่บ้านนั้นก็ได้มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

ผู้ นำความปิติยินดีมาสู่หมู่บ้านที่ยากจนนี้นั้น เป็นศิลปินดังผู้มาจากแดนไกลซูโหย่วเผิง แต่ที่รวมตัวกันของผู้คนนั้นที่ “โรงเรียนซีว่างซูโหย่วเผิง ตำบลจ้าวเป่า อำเภออี้หยาง มนฑลเหอหนัน”

ก่อน เที่ยววันเมื่อนวานนี้ เปิดพิธีเปิดของโรงเรียนแห่งนี้ ผู้บริจาคเงินสองแสนหยวนให้กับโรงเรียนนี้อย่างซูโหย่วเผิงก็ได้มาที่นี่ ด้วย

๑๑ โมง ๓๐ นาที เสื้อเชิ้ดสีขาว ชุดสูตสีเทา กางเกงยีนส์ กางแต่งตัวแบบเรียบๆอย่างซูโหย่วเผิงก็ได้ปรากฎกายมาในงานอีกด้วย ผมสีดำกับทรงผมที่ฟูนั้นดูเหมือนจะรกตาไปหน่อย อาจเป็นเพราะว่าการต้องไปมาหลายที่ ๘ เมษา ที่ปักกิ่ง ๙ เมษา ที่เจิ้งโจว ๑๐ เมษามาที่นี่หมู่บ้านหม่าเหอ

ภายใต้เสียงโห่ร้องซูโหย่วเผิงได้ เดินขึ้นธรรมมาสบนเวที สภาพการณ์ต่อหน้าของเขานั้นอาจทำให้เขาตระหนก ระยะตรงหน้าร้อยเมตรนั้น บนหลังคาบ้านสีขาว กับลานเดินของตึกข้างหน้านั้น ได้มีผู้คนเกาะนั่งยืนเต็มไปหมด

ข้างล้างเวทีนั้นมีแสงกล้องถ่ายรูปกระพริบระยิบระยับ ซูโหย่วเผิงยิ้มแล้วเอากล้องของตัวเองขึ้นมาถ่ายข้างหน้าตัวเอง

“โต๊ะ ดิน ขี้โคลน ในนั้นมีเด็กนั่งอยู่คนหนึ่ง” ตัวแทนนักเรียนเหอเล่อเล่อ “บ้ายบาย” ลาก่อนกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีในอดีด “ตึกห้องเรียนที่ใหม่ สภาพแวดล้อมที่สะอาดน่าเรียน พวกเรามีโรงเรียนใหม่แล้ว” เหอเล่อเล่อเป็นตัวแทนของนักเรียนสามร้อยกว่าคนอ่านหนังสือขอบคุณแด่ซูโหย่ วเผิง

ขณะที่ครูใหญ่ได้มอบธงแห่งชัยชนะให้กับผู้มีคุณ ซูโหย่วเผิงนั้น น้ำตาคลอเบ้า ซูโหย่วเผิงกล่าวถึงวินาทีที่ผ่านไปชั่วพริบตาว่าตื่นตระหนกตกใจ “ผมเพียงทำในสิ่งที่เล็กน้อย ทำในสิ่งที่ธรรมดาอย่างหนึ่งเอง”

หลัง พิธีเปิดแล้ว มีชาวบ้านสามสี่คนได้มอบของขวัญเป็นสิ่งขอบคุณแทน “ขอบคุณท่านที่ได้สร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ” มีชายแก่คนผมหงอกคนหนึ่งได้เอาไข่ตระกล้าหนึ่งมามอบให้กับเขา “ขอบคุณคับ ไม่เคยเห็นไข่ที่มันสดขนาดนี้มาก่อนเลย” ซูโหย่วเผิงหัวเราะ มีป้าอายุประมาณห้าสิบไม่พูดไม่คุย เอาลูกจ้อตระกล้าหนึ่งมามอบให้กับเขา ซูโหย่วเผิงได้ชิมลูกหนึ่งแล้วบอกว่า “หวานมากๆ” หลังจากที่ฟังคำชมจากซูโหย่วเผิงแล้ว ป้าก็ได้ยิ้มหัวเราะ



จังหวะ

การเลือกสถานที่โรงเรียนซีว่างตั้งอยู่ที่เหอหนันโหย่วเผิงกล่าวว่า “นี่เป็นจังหวะบังเอิญ”

โรงเรียนซีว่างซูโหย่วเผิงแห่งแรกทั่วประเทศ ตั้งอยู่ที่เหอหนัน ซูโหย่วเผิงกล่าวว่า นี่เป็น จังหวะบังเอิญ

มิ ถุนา ๒๐๐๕ ในฐานะของทูต ได้ไปเยี่ยมที่เสฉวนโรงเรียนซีว่าง มีสภาพแวดล้อมที่ลำบากต่อการเรียน แต่นักเรียนเหล่านั้นนัยตาเต็มไปด้วยความกระหายหาความรู้ ซูโหย่วเผิงกล่าวได้เห็น “เด็กๆที่ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่” “จากเวลานั้นเป็นต้นมา ผมได้ตั้งใจไว้ว่า ตัวเองจะตั้งโรงเรียนซีว่างขึ้นมาแห่งหนึ่ง” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูโหย่วเผิงได้มีน้ำเสียงอย่างมุ่งมั่น

กลับจากเสฉวน ๑๗ กันยา มูลนิธิซูโหย่วเผิง ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ภาพถ่ายจะเมืองเสฉวนได้กลายเป็นหน้าแสตมป์ รายได้จากการขายแสตมป์ทั้งหมดนั้นได้รวบรวมเข้าที่มูลนิธิซูโหย่วเผิง ปีที่แล้ว จากเงินสะสมเหลือจากมูลนิธิซูโหย่วเผิงหนึ่งแสนนั้น บวกกับเงินออมส่วนตัว รวมยอดได้สองแสนหยวน ได้มอบให้มูลนิธิเยาวชนจีนนำไปสร้างโรงเรียนซีว่างแห่งหนึ่ง

ที่จะ เลือกสถานที่สร้างโรงเรียนซีว่างมี ซานตง เหอหนัน ซูโหย่วเผิงได้เลือกเอาที่เหอหนัน เขาบอกว่าการเลือกครั้งนี้เป็นจังหวะพอดี “ตอนนั้นได้ดูรูปถ่ายของโรงเรียนซีว่างทั้งสามที่แล้ว ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็ได้เลือกเอาที่นี่” ซูโหย่วเผิงได้กล่าวอย่างเปิดเผย

ก่อนหน้า สิบปีที่แล้ว เป็นสมาชิกคนหนึ่งของเสี่ยวหู่ตุ้ยอย่างซูโหย่วเผิง เพียงแค่เพลงเดียว(รัก) ก็ดังระเบิดไปทั่ว ตอนนี้ เขาได้เป็นอัครทูตแห่งรัก ให้การกระทำของตัวเองเพื่อจะกระทำให้ความใฝ่ฝันของเด็กๆที่อยากเล่าเรียน นั้นได้กลายเป็นจริง การสร้างโรงเรียนซีว่างนั้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเดียวของซูโหย่วเผิงที่ได้ แสดงออกมาเป็นการกระทำเท่านั้น ในเวปไซท์ของเขาปรากฏเห็นได้ว่า จาก มกราคม ๑๙๙๒ – มีนาคม ๒๐๐๖นั้น งานกิจกรรมการกุศลใหญ่ๆที่เขาได้เข้าร่วมด้วยนั้นกว่า ๓๑ รายการ

“เป็น คนสาธารณะ ได้รับความห่วงใยจากสังคม ก็เลยใช้วิธีการอย่างนี้ในการตอบแทนสังคม” ซูโหย่วเผิงกล่าว “การให้เป็นสุขยิ่งกว่าการรับ ทีหลังหากมีโอกาส หากไม่เกินกำลังเรา ผมก็ยังจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของการกุศลอยู่”



ควันหลง

“ส่งมาทางเครื่องบิน” กระเป๋าใหญ่สองใบบรรจุอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กที่ยากไร้
ไม่เพียงแต่สร้างอาคารเรียน ซูโหย่วเผิงยังนำของขวัญอัศจรรย์มาฝากให้กับเด็กๆในโรงเรียน
เสร็จ สิ้นพิธีเปิดอาคารเรียน ซูโหย่วเผิงถูกส่งอำลาถนนที่แคบ ผู้ติดรถได้เอากระเป๋าใบใหญ่สองใบลงมา ส่งเข้าไปที่โรงเรียน กระเป๋าสองใบติดโลโก้ห้องโดยสารชั้นหนึ่ง จากการแนะนำของผู้ขนส่ง นี่เป็นอุปกรณ์ที่ซูโหย่วเผิงได้เลือกสรรมาให้กับเด็กๆเป็นพิเศษ ได้ส่งมาทางเครื่องจากปักกิ่ง “เสียดายตอนนี้มีคนเยอะไปหน่อย ก็เลยเอาเข้าไปที่โรงเรียอย่างเงียบๆ” ผู้มาส่งของเป็นคนพูด

แฟนๆที่ปักกิ่งได้นั่นล้อเขนมามอบความรักให้กับขวัญใจ

คนที่มาร่วมงานนั้น มีคนที่มาร่วมงานเป็นคนนอกสามสิบคนอย่างสังเกตได้ชัด พวกเขาเหล่านั้นเป็นแฟนๆที่มาจากทั่งประเทศ

“แฟนๆ” เสี่ยหยีอายุ๑๙ที่มาจากปักกิ่งได้นั่นรถล้อเขน บนเขาเธอนั้นมีเลขคณิตกองอยู่กองหนึ่งกับดินสอสองโหล “อยู่ที่ปักกิ่งก็ได้ซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ลืมเอามา และของเหล่านี้นั้นได้ซื้อมาจากที่เมืองล่อหยาง” เป็นคุณแม่ของเสี่ยวหยีที่พูดออกมาโดยเสียงไม่ค่อยชัด มากันทั้งครอบครัว คุณพ่อขับรถ ทั้งสามชีวิตได้มาที่เหอหนัน เพียงแค่อยากจะแสดงความรักกับขวัญใจของตัวเอง

แฟนๆอีกสามสิบคน เป็นตัวแทนเบื้องหลังของซูโหย่วเผิง จากฮ่องกง จ้งชิ่ง ฮาหนี่ปิงมารวมกันเป็นต้น เพียงแต่เดินตามรอยขวัญใจพวกเขา ได้มอบความรักออกมา พวกเขาได้รวบรวมเงินสี่พันหยวน ได้มอบของขวัญคันรถแก่โรงเรียน มี หนังสือนออเวลา พัดลม ปิงปอง ฟุตบอล .... แฟนๆของเขาได้เอาสิ่งเหล่านี้มาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

Alec Love Me

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13265
    • ดูรายละเอียด