แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - prattana

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 9
21

ที่มา http://news.xinhuanet.com/ent/2015-05/15/c_127804334.htm#0-tsina-1-30205-397232819ff9a47a7b7e80a40613cfe1

โจ่วเอ่อ โปรโมทครั้งสุดท้าย ซูโหย่วเผิงให้ส่งต่อให้หยางหยาง

   หลังจากที่โจ่วเอ่อกวาดรายได้ไปกว่า 470 ล้าน จากอินเตอร์เน็ตห้อง 360 วันที่ 12 พฤษภาคม เริ่มขายตั๋วล่วงหน้า ตั๋วสองพันใบขายออกไปได้ ใช้เวลาเพียงแค่ 33 นาทีเท่านั้น ในวันนั้นก็ต้องออกตั๋วเพิ่มอีกสองพันใบ เวลาเกือบหนึ่งปีครึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ใกล้จะเสร็จสิ้นในไม่ช้านี้ เมื่อวานนี้ตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง ซูโหย่วเผิงเลือกใช้อินเตอร์เน็ตห้องที่ 360 ในการพูดคุยกับเพื่อนๆชาวไซเบอร์ กล่าวอำลาภาพยนตร์โจ่วเอ่อ
โจ่วเอ่อ ยิ่งกว่าความตั้งใจ ซูโหย่วเผิงทุ่มเทแรงใจทั้งหมดให้กับการถ่าย

   การโปรโมทครั้งสุดท้ายของภาพยนตร์โจ่วเอ่อ บรรยากาศในห้องสนทนา 360 กับซูโหย่วเผิงเมื่อวานนั้น เรียนได้ว่าคึกคักเป็นอย่างยิ่ง แฟนๆหลายพันคน รีบลงชื่อเข้าใช้และเพิ่มซูโหย่วเผิงเป็นเพื่อนอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าซูโหย่วเผิงเป็นประเภท “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม” แต่ว่าเป็นคนที่ “ต้องพร้อมถึงจะมา” ไม่ว่าคำถามอะไร ซูโหย่วเผิงก็รับฟังทั้งหมด นอกจากคำถามประเภท พวกคุณรู้มั๊ยว่าแมวของปาลาชื่อ เสี่ยวโต้ว (小逗) เรื่องราวเบื้องหลังเช่น ตอนที่พวกเราถ่ายทำกันอยู่ มีไต้ฝุ่นมาจริงๆ รวมไปถึง ทฤษฎีในการแสดงเช่น ปาลากับเสี่ยวเอ่อตัวเห็นคนๆเดียวกันแสดง หรือว่า รายละเอียดของภาพยนตร์เช่น เจี่ยงเจียว (蒋皎) ยอมเปลี่ยนชื่อแซ่ แต่ไม่ยอมสัญญากับจางย่าง ยิ่งมีประเภทจิตใจดีงามเช่น ชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ สิ่งที่ผิดพลาดก็ยากที่จะแก้ไขมัน ซูโหย่วเผิงเป็นกันเองกับทุกคนมาก มีข้อความถูกส่งมามากมาย มียอดกว่าสองหมื่นฉบับ

ในตอนสุดท้าย ซูโหย่วเผิงมอบหมายให้หยางหยางกล่าวอำลาผลงานชิ้นล่าสุด “โจ่วเอ่อ”

   นอกจากนี้ แฟนคลับยังสงสัยอีกว่า การที่หยางหยางรับบทเป็นสวี่อี(许弋)นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร “ให้หยางหยางอธิบาย” ครั้งนี้ซูโหย่วเผิงตอบว่า “ เลือกที่จะให้สวี่อีหายไป ให้เขากลาบเป็นความเสียใจตลอดกาลในใจของจางย่าง” ดูไปแล้ว ผู้กำกับก็มีเหตุผลของผู้กำกับ บรรดาแฟนคลับได้ฟังแล้วก็บอกว่า “ชอบตอนจบแบบนี้มาก” ภาพยนตร์ใกล้จะถึงปลายทางแล้ว ซูโหย่วเผิงก็ได้ทิ้งความดศร้าใจให้กับทุกคน “นี่เป็นการโปรโมทครั้งสุดท้ายของผมแล้ว ไม่จากให้มันสิ้นสุด แต่ยังไงแล้วก็ต้องมีจุดสิ้นสุดอยู่ดี” เหล่าแฟนคลับได้ยินแล้วก็ตะโกนว่า “พวกเราก็ไม่อยากจากคุณ ผู้กำกับจะกลับมาเมื่อไหร่” ฯลฯ แต่ว่าซูโหย่วเผิงก็ได้ให้ความหวังกับทุกคน ให้ทุกคนรอดู”เรื่องต่อไป” เถอะ

   ผู้กำกับซูโหย่วเผิงที่ใช้เวลากับภาพยนตร์เรื่องโจ่วเอ่อมาจะครบหนึ่งปีแล้ว เดินทางไปกว่าครึ่งประเทศ ตอนนี้ ห้องสนทนา 360 กลายเป็นสถานีสุดท้ายในการโปรโมทแล้ว ความอาลัยอาวรณ์และความเสียใจมากมาย ทำให้ “การโปรโมทครั้งสุดท้าย” เต็มไปด้วยความหมาย  ข้อสงสัยของทุกคน และการรอคอย ก็สมปรารถนา มันคือจุดเริ่มต้น  และจุดสิ้นสุด ทำให้ขณะเดียวกันที่พวกเรากำลังบอกลาโจ่วเอ่อ มารอการเซอร์ไพรส์ครั้งต่อไปของซูโหย่วเผิงกันเถอะ

22

ที่มา http://www.chinadaily.com.cn/micro-reading/dzh/2015-05-14/content_13698136.html

ชาวเน็ตโจมตี ผลงานชิ้นแรกของซูโหย่วเผิงในฐานะที่เป็นผลงานดัดแปลง

หลังจากที่ภาพยนตร์มีความหลากหลายมากขึ้น ภาพยนตร์วัยรุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากจากชาวเน็ต ความคิดเห็นของชาวเน็ตในประเทศจีนมีเอกลักษณ์ทางด้านอารมณ์และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์รายละเอียดเพื่อหาข้อดีของภาพยนตร์ ไม่จำเป็นต้องเอามาตรฐานของภาพยนตร์จีนหรือมาตรฐานในการดัดแปลงมาติชม เพียงแค่นำความรู้สึกส่วนตัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ก็ได้แล้ว และก็จะดึงดูดชาวเน็ตที่มีความรู้สึกเดียวกันมาร่วมกันต่อต้าน ดูเหมือนว่าผู้ชมได้นำเรื่องทุกเรื่องแม้กระทั่งความรู้สึกมาทำให้เป็นเรื่องบันเทิง โจ่วเอ่อ ก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเช่นกัน พูดโดยรวมแล้ว โจ่วเอ่อนั้น มีเนื้อหาที่ดึงดูดผู้คน มีตัวละครที่แปลกใหม่  มีอารมณ์ที่จริงใจ นักแสดงวัยรุ่นที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์กลุ่มหนึ่งก็แสดงออกมาได้อย่างไม่เลวเลย ผลงานการกำกับครั้งแรกของซู

โหย่วเผิงนั้นมีความโดดเด่นอย่างมาก
สไตล์ใหม่ของผลงานที่ประสบความสำเร็จของซูโหย่วเผิง “โจ่วเอ่อ”


   ไม่ใช่เพียงแค่มีความรักที่บ้าคลั่งถึงจะสามารถรับประกันได้ว่าเคยผ่านช่วงวัยรุ่นมา ถ้างั้นสิ่งที่รับประกันช่วงวัยรุ่นของคุณนั้นก็น้อยเกินไปแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ประสบความสำเร็จช่วงวัยรุ่นถึงจะเรียกว่ามีความหมาย นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดที่แพ้เป็นพระชนะเป็นมารเท่านั้นเอง โลกของวัยรุ่นนั้นมีอะไรมากมาย ทั้งอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนและรายละเอียดมากมาย พวกมันขยายตัวจากตรรกะส่วนตัว พวกมันอยู่ได้โดยการพึ่งตัวเอง โจ่วเอ่อ ไม่ใช่ตัวแทนวัยรุ่นของใคร แต่ว่าหนุ่มสาวเหล่านั้นในภาพยนตร์จะต้องเป็นคนที่มีใครสักคนเคยฝันไว้ว่าอยากจะเป็น

ถ้าพูดถึงเรื่องสไตล์แล้ว ภาพยนตร์ที่สดใหม่เรื่องนี้ มันไม่ได้มีเพียงภาพที่ทันสมัยและบทที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันเหมือนกำลังสวมหนังแกะที่ไร้เดียงสาท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในวงการนี้  ไม่ตอบสนองต่อความเกลียดชัง ความปรองดอง ความปรารถนาดี ด้วยวิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ตอบสนองระบบที่ไม่ดีด้วยการต่อต้าน ไม่ตอบสนองต่อความสงสัยโดยการโต้เถียง ไม่ตอบสนองต่อการสำรวจตัวเองโดยการประจาน ไม่ตอบสนองคำติด้วยการหนี การกำกับครั้งแรกของซูโหย่วเผิงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีทั้งการพึ่งตัวเองของวัยรุ่น และสไตล์ใหม่ๆที่งดงามและมีคุณค่า ผู้ชมสามารถมองเห็นการควบคุมที่เขามีต่อบรรยากาศของเรื่อง เนื้อเรื่อง การแสดงของนักแสดง  ในช่วงที่กระแสภาพยนตร์วัยรุ่นกำลังดังนี้ ยังสามารถถ่ายทำภาพยนตร์ที่ยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรม และเต็มไปด้วยอารมณ์ได้ มันน่ายกย่องอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

  ความซาบซึ้งเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของวัยรุ่น

   อาจจะมีคนหลายคน รับบทที่มากมายในช่วงวัยรุ่น เป็นหลี่เอ่อ (李珥) เป็นเรื่องธรรมดา มีใจที่อยากโบยบิน แต่ไม่กางปีกออกมา มีคนที่อยากรัก แต่กลับไม่มีวาสนา ภาพที่จินตนาการนั้นมีมากมายหลายหลาก แต่วัยรุ่นที่จริงแล้วนั้น ไม่มีตัวตน ในภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับอุบัติเหตุรถชน ความรัก ความโกรธ ความยากในการตัดสินใจเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ปมปัญหาที่ขัดแย้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องดำเนินไป และแสดงถึงโชคชะตาที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตมนุษย์ แต่ในภาพยนตร์กลับไม่ได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาทำเป็นเรื่องหลัก โดยพื้นฐานแล้วเป็นการแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร

   ภาพยนตร์โจ่วเอ่อเรื่องนี้ ไม่ได้สั่งสอน ไม่มีคำชี้แนะ ไม่ได้บอกว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร แค่บอกเล่าเรื่องราวเรื่องหนึ่ง ซูโหย่วเผิงได้ถ่ายทอดแต่ละภาพออกมาอย่างละเอียด ความซาบซึ้งทั้งหมดจะต้องได้รับผลที่ดี นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของวัยรุ่น

23
 



ที่มา http://ent.sina.com.cn/m/c/2015-05-12/doc-iavxeafs7354535.shtml

สำนักข่าวบันเทิงซินหลาง (新浪) หลายปีมานี้ มีภาพยนตร์วัยรุ่นที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์ไม่น้อยเลยทีเดียว ตั้งแต่จื้อชิงชุน (致青春)  จนถึงชงชงน่าเหนียน (匆匆那年)  เข้ามาตีตลาดวงการภาพยนตร์ เมื่อเทียบกันแล้ว  ภาพยนตร์โจ่วเอ่อ ที่ซูโหย่วเผิงกำกับ ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปแทนที่อะไรทั้งสิ้น และก็ไม่ได้เกาะกระแสย้อนวัย ไปกระตุ้นความรู้สึกในใจของผู้ชม แต่ใช้ภาพที่สงบ และมั่นคงมาอธิบายช่วงเวลาที่สุกงอมและถูกคลื่นถาโถมเข้าใส่ของวัยรุ่น มันเป็นเพราะว่าภาพยนตร์ถูกกำกับด้วยความอบอุ่น ทำให้โจ่วเอ่อ มีข้อแตกต่างจากภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องอื่น สามารถมียอดขายทะลุสี่ร้อยล้านท่ามกลางกระแส Fast&Furious7 ไม่ธรรมดาจริงๆ

ใช้นักแสดงวัยรุ่นแสดงทำให้ซูโหย่วเผิงกลายเป็นผู้ชนะ

หนุ่มๆ และ สาวๆ ในภาพยนตร์โจ่วเอ่อ ด้วยความสดใสของพวกเขาทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ชม ซูโหย่วเผิงยอมเสี่ยงที่จะเลือกวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งแทนดาราที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ความเสี่ยงนี้ได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างยิ่ง ทำให้ซูโหย่วเผิงกลายเป็นผู้ชนะ

  คาแรกเตอร์ของเหล่าหนุ่มสาวนั้นมีความใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์ของตัวละครในเรื่อง การที่นักแสดงมีอายุเกิน ก็ไม่สามารถตำหนิได้ สิ่งที่พวกเราเห็นไม่ใช่ดารานักแสดง แต่เป็นใบหน้าอันใสซื่อ ซึ่งมีร่างกายและจิตใจคล้ายคลึงกับบทบาทของตัวละคร ให้ความรู้สึกเหมือนเอาวัยรุ่นมาแสดงจริงๆ ในกลุ่มหนุ่มสาวเหล่านี้ นอกจากหม่าซือฉุน (马思纯) กวนเสี่ยวถง (关晓彤) และหยางหยาง (杨洋) ที่เคยมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาบ้างแล้ว ผู้ที่รับบทนำอย่าง โอวหาว (欧豪)และเฉินตูหลิง(陈都灵) นั้น มีประสบการณ์การแสดงแทบจะเป็นศูนย์  แต่ว่า ภายใต้การชี้นำของผู้กำกับที่บ้าคลั่งอย่างซูโหย่วเผิงแล้ว พวกเขาก็สามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม  ในชีวิตวัยรุ่นของพวกเขานี้ มีทั้งอารมณ์อ่อนไหว ความสับสน หลงทาง และการต่อต้าน
    
   ซูโหย่วเผิงใช้ความสุภาพ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้

   จะทำอย่างไรให้ภาพที่ปรากฏในภาพยนตร์มีความใกล้เคียงกับในเนื้อเรื่องมากที่สุด ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ต้องศึกษาและเตรียมตัว นี่อาจจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายฉาก ฝ่ายศิลป์ หรือฝ่ายคอสตูม แต่ว่าถ้าซูโหย่วเผิงไม่ได้ให้ความสนใจจัดการดูแลอย่างละเอียด ก็อาจจะทำให้ภาพที่ออกมาดูไม่ดีไปเลย  ซึ่งไม่สอดคล้องกับชีวิตของชาวแผ่นดินใหญ่  เรื่องราวของวัยรุ่นในภาพยนตร์นั้น มีทั้งเรียบๆ และน่าตื่นเต้น ไม่มีความรู้สึกที่เวอร์เกินไป หรือกล่าวเกินจริงเลย

  การถ่ายภาพยนตร์เป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถค่อนข้างสูง  เสียงดนตรีประกอบก็ต้องมีความสอดคล้องไปกับเนื้อเรื่อง เนื้อเพลงท่อน “เสียงที่ได้ยินไม่ชัดนั้น จริงใจที่สุด ความในใจที่มองไม่เห็นนั้นซื่อสัตย์ที่สุด” (听不清的耳语最诚恳,看不到的内心最忠贞)  มันทำให้เนื้อเรื่องมีความลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก ทำให้เรื่องราวมีความน่าติดตาม องค์ชายห้าในตอนนั้น วันนี้กลายเป็นผู้กำกับแล้ว ขับร้องเพลงโดยเสี่ยวเยี่ยนจื่อ การร่วมมืออันนี้ ทำให้คนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

24
Magazine Photos / นิตยสาร 艺乐2015-05
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 02:35:09 PM »


นิตยสารอี้เล่อ 艺乐 ประจำสัปดาห์ที่ 57 เดือนพฤษภาคม 2015

โหย่วเผิง ไม่มีใครมาแทนที่คุณในความทรงจำได้ หลังจากที่ผ่านการเป็นนักร้อง นักแสดง ผู้อำนวยการผลิต และกรรมการ ซูโหย่วเผิงก็ได้มีสถานะใหม่ก็คือผู้กำกับ เมื่อเคยเรียนรู้มาก่อนก็จะทำได้ดี วันนี้นักแสดงก็สามารถเป็นผู้กำกับที่ดี และก็ยังมีข้อสงสัยอยู่: นักแสดงที่ดีจำเป็นต้องเป็นผู้กำกับที่ดีด้วยไหม? หลังจากที่เผชิญกับข้อสงสัยอย่างไม่ขาดสาย ซูโหย่วเผิงกล่าวว่า "ผู้กำกับเป็นจิตวิญญาณของภาพยนตร์ ผมเชื่อว่าทุกคนจะสามารถมองเห็นความตั้งใจของผมผ่านผลงานเรื่องนี้"

25
Magazine Photos / นิตยสารซื่อเจี้ย 世界 2015-05
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 02:29:24 PM »
ที่มา https://www.facebook.com/media/set/?set=a.883098605061967.1073742222.260376864000814&type=3

TRAVEL STAR ลมที่มีชื่อว่าซูโหย่วเผิงพัดผ่านผิวน้ำไม่ทิ้งร่องรอย
TRAVEL FEATURE รอบๆ ทะเลอีเจียน

ภาพกระเป๋าเดินทางที่ดูสบายๆ มองเห็นหน้าต่างบานใหญ่ที่ดูโปร่งสบาย @ใจของซูโหย่วเผิงบินไปแล้ว ดูเหมือนว่าอีกด้านของกำแพงจะเป็นโลกกว้าง บนเที่ยวบินระหว่างประเทศลำหนึ่ง ที่จอดอยู่บนรันเวย์รอคอยการเดินทางของเขา @นิตยสารซื่อเจี้ย 世界 วางแผงเดือนพฤษภาคม @ลมที่มีชื่อว่าซูโหย่วเผิงพัดผ่านผิวน้ำไม่ทิ้งร่องรอย สั่งซื้อที่เถาเป่า สองเล่มขึ้นไป รับเซตเครื่องสำอางค์จากวัตสันมูลค่า 168 หยวน


 

26
ซูโหย่วเผิงกลับไปเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง ด้วยทรงผมที่หลากหลายชวนสยบ

เมื่อเร็วๆมานี้ ซูโหย่วเผิงกลับไปเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง ด้วยทรงผมที่หลากหลายชวนให้สยบ หลังจากโจ่วเอ่อ ภาพยนตร์วัยรุ่นที่เป็นผลงานการกำกับครั้งแรกของซูโหย่วเผิงเข้าฉายเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถทำรายได้หลายร้อยล้าน ได้รับกระแสค่อนข้างดีทีเดียว ตั้งแต่เข้าวงเสี่ยวหู่ตุ้ยในวัยเพียงสิบกว่าปี เป็นไกวไกวหู่ที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย ซูโหย่วเผิงซึ่งตอนนี้ มีฐานะใหม่ คือ ผู้กำกับภาพยนตร์ จากไกวไกวหู่ สู่องค์ชายห้า จนถึงการเป็นผู้กำกับในปัจจุบัน การเติบโตของซูโหย่วเผิงก็ย่อมตามมาด้วยความทรงจำมากมาย วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนไปดูการเปลี่ยนแปลของซูโหย่วเผิงกัน โดยเฉพาะรูปแบบทรงผมของเขา



แบบที่ 1 ซูโหย่วเผิงปรากฏตัวในงานแถลงข่าวในชุดสูทสีดำ เรียบๆ สวมแว่นตาขอบดำ ดูแล้วแท่มากๆ



27

ที่มา http://www.ledu365.com/a/renwu/48705.html
ซูโหย่วเผิง: สิ่งล้ำค่าสุดท้ายของผม

      เขาชอบมาดอนน่า บริทนีย์สเปียร์ บียอนเซ่ คนเหล่านี้ไม่ใช่ศิลปินรุ่นใหม่ เขาชอบความสนุก แต่ก็ไม่ได้ไม่แสวงหาความก้าวหน้า เขาคิดไปข้างหน้า แต่ก็ไม่ได้ไม่เป็นอนุรักษ์นิยม เขาแสวงหาความสุนทรีย์ แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบความสงบ ความเร่าร้อนในการเต้นเสา(Pole dance)ที่น่าหลงใหลของเขา  แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าไม่เป็นชายหนุ่มที่ดีงามที่อบอุ่นและหัวโบราณ  เขาแค่ใช้ศิลปะและความบันเทิงก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไป แต่กลับเติบโตและก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง…….

        ในความทรงจำของวัยรุ่นยุคหนึ่ง  ซูโหย่วเผิงเคยนับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นของอารมณ์เลยทีเดียว มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุน้อย โด่งดังไปทั่วประเทศ และมันก็มาพร้อมกับความกดดันที่จะไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวัง ความต้องการเป็นตัวของตัวเอง เมื่อพบความสงบหลังจากผ่านจุดตกต่ำในชีวิต เมื่อผ่านการพิจารณาตนอย่างดีแล้ว ก็ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว จากเด็กหนุ่มที่แสนบริสุทธิ์สู่ชายหนุ่มผู้สง่างาม เป็นทั้งจุดเริ่มต้นของความทรงจำ และบทสรุปของความทรงจำ ถ้าจะรู้จักเขาถึงแค่สิ่งที่เขาเคยเป็น และเคยผ่านมานั้น นับว่าไม่ยุติธรรมมากนัก

        เมื่อก่อนเขาได้สร้างกระแส “ไอดอล” ในเด็กหนุ่มสาวสมัยนั้น เสี่ยวหู่ตุ้ยได้มอบวันคืนอันงดงามให้กับพวกเรา ในขณะเดียวกันก็ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของซูโหย่วเผิงที่ในขณะนั้นมีอายุเพียงสิบกว่าปีเท่านั้น เด็กชายคนนั้นที่กระโดดโลดเต้นบนเวทีที่พวกเราเห็นนั้น รอยยิ้มที่งดงาม ของเขา เกือบจะเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของซูโหย่วเผิงไปแล้ว  ในขณะนั้น เขาได้กลายเป็น “ไกวไกวหู่” ที่ชวนให้หลงใหล เป็นความทรงจำอันงดงามที่พวกเรารอคอย และเป็นภาพแห่งความประทับใจไม่รู้ลืม

        บางทีชื่อซูโหย่วเผิงนี้ สามารถนิยามได้ว่าเป็น “ชายหนุ่มที่บริสุทธิ์และงดงาม” ตลอดไป  แต่กลับไม่มีใครใส่ใจ ถ้าหากว่าเขาไม่ได้เป็นนักร้อง ความใฝ่ฝันของเขาก็คือการเป็นนักแต่งเพลง ถ้าหากว่าไม่ถูกเรียกว่าเป็นไกวไกวหู่ เขาก็มีการต่อต้านในช่วงวัยรุ่น ถ้าหากไม่ถูกขอให้ร้องแต่เพลง ชิงผิงกว่อเล่อหยวน (青苹果乐园) นักร้องที่เขาชอบที่สุดก็คือ มาดอนน่า และ Jenet Jackson… ซูโหย่วเผิงไม่ใช่ปีเตอร์แพนที่ไม่มีวันโต เด็กหนุ่มที่โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน มาพร้อมกับความถูกบีบบังคับจากรอบข้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความปรารถนามีเพียงแค่ต้องการโบยบินออกไปสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่

        “ฉันรักเสี่ยวหู่ตุ้ยมาก ว่ากันแล้วนี่เป็นสิ่งที่ฉันทุ่มทั้งใจเป็นครั้งแรก ดังนั้นจึงมีเพลงที่ชื่นชอบ และเพื่อนๆ……” ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ  และยังมีแฟนคลับมากมายที่ทำให้เขาซาบซึ้ง และประทับใจ  ในช่วงที่ซูโหย่วเผิงเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างความกดดันและความรักเป็นเวลานาน เมื่อมีรุ่งเรืองก็ต้องมีเสื่อมโทรม เหล่าสมาชิกวงเสี่ยวหู่ตุ้ยก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะแยกย้ายกันโบยบิน ตอนที่ยังไม่มีที่พักพิง ซูโหย่วเผิงต้องการเพียงแค่พักซักครู่ เก็บข้าวของสัมภาระไปพักผ่อนที่ราชอาณาจักร

รับมือกับกาลเวลา

         เห็นศิลปินมามากที่อยากเก็บรักษาชีวิตวัยรุ่นของตัวเองไว้ตลอดไป ไม่สามารถไม่ชื่นชมซูโหย่วเผิงที่รับมือกับกาลเวลาได้ “ตอนที่ภาพลักษณ์เก้าปีแห่งการเป็นนักร้องไอดอลยอดนิยมค่อยๆห่างไปจากพวกเรา หลังจากที่กลิ่นอายของมันค่อยๆเลือนหายไป ฉผมคิดว่ากาลเวลาได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้แล้ว นี่เป็นความจริงที่พวกเราต้องยอมรับมัน พอดีกับที่มีองค์หญิงกำมะลอ ผมก็เลยตกลง และทดลองชิมลางงานแสดงละครโทรทัศน์ ถ้าหากไม่มีโอกาสครั้งนี้ บางทีอาจไม่มีชื่อซูโหย่วเผิงในวงการการแสดง”

        ถือผลประโยชน์จากโอกาสที่เข้ามา เป็นทัศนคติของผู้มีความสนใจด้านวัฒนธรรมของจีนเป็นพิเศษอย่างซูโหย่วเผิงมาตลอด ในช่วงของการสัมภาษณ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูโหย่วเผิงไม่ได้กล่าวประโยคที่แสดงความทะเยอทยานออกมาแม้แต่ประโยคเดียว และก็ไม่มีการแสดงออกที่ชัดเจนที่แสดงถึงความทะเยอทะยานอีกด้วย “ประเด็นเรื่องการถ่ายละครยอดนิยมนี้ เป็นประเด็นที่ถูกถามมามากจริงๆ นี่เป็นช่วงๆหนึ่งที่ผ่านไป เป็นช่วงหนึ่งในวงการบันเทิงของผม ผมตั้งใจทำสิ่งที่ได้รับผิดชอบให้ดีที่สุด เรียนรู้ที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด”

         “สุดท้ายก็เบื่อใช่มั๊ย?” ค่อยๆถามคำถามนี้ออกไปอย่างระมัดระวัง และเขาก็ไม่ได้รีบปฏิเสธกลับมาทันที “อันที่จริงก็ผ่านมาแล้วหลายครั้ง มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างตัวละครและสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันออกมาไม่หยุด สุดท้ายก็สามารถเดาได้ว่าตอนจบจะเกิดอะไรขึ้น  แล้วก็จะไม่มีความสุขไปกับมันอย่างช้าๆ อยากได้อะไรที่ใหม่ๆ เริ่มการแสดงแนวใหม่ๆ ตอนนี้ ผมคิดว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงของชีวิตแล้ว ดังนั้น ก็เลยลองสัมผัสกับภาพยนตร์และละครเวที  ภาพยนตร์ก็เป็นศิลปะประเภทหนึ่งซึ่งเป็นมากกว่าละคร ไม่ได้เกินความเป็นจริง และก็ไม่ได้จานด่วนขนาดนั้น รายละเอียดข้างในนั้นมันทำให้ผมหลงใหลมาก”

        จาก ”ไกวไกวหู่” สู่ “องค์ชายห้า” เป็นการปรากฏตัวบนจอเงินอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่าง “อนาคต? ในอนาคตผมอยากมีให้มีโอกาสดีๆเข้ามาให้ผมได้ไปทดลอง มีหลายครั้งต้องปล่อยให้มันผ่านไปตามโชคชะตา ทุกช่วงของชีวิตจะมีหัวข้อหลักของมันเสมอ ขึ้นอยู่กับโอกาสและความเป็นไปได้ที่ไม่เหมือนกัน” เขาที่ผ่านมาทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดของชีวิตการทำงาน ชีวิตขึ้นๆลงๆมาตลอด 20 ปี ก็สามารถทำใจยอมรับและรับมือการผ่านไปของกาลเวลาได้นานแล้ว คว้าทุกโอกาสที่เข้ามา เพลินเพลินไปกับทุกๆสถานการณ์ที่เข้ามา “ตอนนี้อยากถ่ายภาพยนตร์หลายๆเรื่อง เพราะผมเพิ่งเริ่มเดินถนนสายนี้”

        “ยังร้องเพลงอยู่มั๊ย?” ได้ยินคำร่ำลือมาตลอดสำหรับ “คอนเสิร์ต 20 ปีเสี่ยวหู่ตุ้ย” เพราะว่ามีกระแสข่าวลือมาก็เลยเกิดความสงสัย สำหรับซูโหย่วเผิงแล้ว เสี่ยวหู่ตุ้ยเป็นความทรงจำที่ถูกฝังลึกไว้ในใจ “ผมคิดว่าผมจะใช้วิธีเฉพาะของผมมารำลึกและจดจำ ก็เหมือนกับความรักครั้งแรกที่ผ่านไป ปกติแล้วมักจะงดงามเสมอ และก็จะมีความหมายที่ยากที่จะลบเลือนได้ ความทรงจำเกี่ยวกับเสี่ยวหู่ตุ้ย เป็นสิ่งประดับตัวเท่านั้น ไม่ได้มีความทรงจำอะไรเป็นพิเศษ และก็ไม่ได้ต้องการมัน เพราะว่าไม่สามารถลบมันออกไปได้อยู่แล้ว” กาลเวลาได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ซูโหย่วเผิงบอกว่าสิ่งที่เขาต้องทำก็แค่ยอมรับมัน นี่เป็นสัจธรรม เพราะว่าความรักที่ลึกซึ้ง มันถูกซ่อนไว้ในความปล่อยวาง ไม่ไปยุ่งกับมัน และไม่ไปรบกวนมัน

รักคนอื่น ให้มีความสุขมากกว่าได้รับ

        ตัวตนของซูโหย่วเผิงเบื้องหลังแสงสปอร์ทไลท์ แท้จริงแล้วยังมีอีกหนึ่งตัวตนที่ไม่มีใครรู้มาก่อน เขาเป็นคนใจบุญสุนทาน เขาได้รับอิทธิพลของศาสนาพุทธมาอย่างลึกซึ้ง ทำกิจการการกุศลมาตลอด เขาแตกต่างจากศิลปินส่วนใหญ่ เขาเลือกที่จะให้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

        น้อยคนนักที่จะรู้ว่าประเทศจีนมีโรงเรียนหนึ่งชื่อ “โรงเรียนปฐมแห่งความหวังซูโหย่วเผิง” (苏有朋希望小学) เขาดำรงตำแหน่งทูตของโรงเรียนแห่งความหวังโรงเรียนแรกในประเทศจีนของกองทุนเพื่อการพัฒนาเยาวชนประเทศจีน หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เวิ่นชวน (汶川) เขาไม่เพียงแต่บริจาคเงิน ทั้งยังซื้อสิ่งของเพื่อส่งให้ผู้ประสบภัยด้วยตัวเอง เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็ดูปกติ ไม่มีสีหน้าแห่งความพอใจใดๆ

        “ผมเพียงแค่คิดว่าทุกคนล้วนมีความสุขได้กับการช่วยเหลือคนอื่น สำหรับการให้ คนที่โชคดีก็คือตัวเอง คนที่รู้สึกมีความสุขก็เป็นตัวเอง เพียงแค่ทุกคนมีชีวิตที่ดี ก็สามารถมีหนึ่งเสียงที่จะไปรักคนอื่น นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ ผมคิดว่าคุณก็มี เขาก็มี เมื่อคุณทำดีกับคนอื่นแล้ว ลองดูนะ คุณจะรู้สึกได้ว่าตอนนั้นคุณมีความสุขมาก” วันที่โรงเรียนที่ใช้ชื่อของเขาทำพิธีเปิด เขาได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน ครูใหญ่พูดกับเขาด้วยนัยน์ตาที่มีน้ำตาคลอว่า “ขอบคุณคุณมาก พวกเราจะจดจำคุณไว้ตลอดไป” ณ ตอนนั้น เขาเผยว่าตนรู้สึกมีความสุขอย่างไม่เคยมีมาก่อน การให้มีความสุขมากกว่าการได้รับ หลังจากที่ชีวิตผ่านช่วงขึ้นๆลงแล้ว ถือโอกาสช่วงที่ตนยังมีไฟอยู่ มาทำเรื่องเล็กๆน้อยๆ สำหรับชายคนนี้แล้ว บางทีอาจจะทำให้มีเสน่ห์มากขึ้น จิตใจดีมีเมตตาไม่จำเป็นให้จนหมดตัว ยิ่งไม่จำเป็นต้องแต่งเสริมประดิษฐ์เพิ่ม “รักคนอื่น” เริ่มจากที่ตัวเอง ก็เพียงพอแล้ว
 
ชีวิตก็คือความสมดุล

        ซูโหย่วเผิง 30ปีก่อนหน้านี้ เป็นคนที่มีมาตรฐานในการทำงานสูงมากคนหนึ่ง ปัจจุบัน เห็นท่าทีที่มีต่อการแก้ทรงผมกว่าสองชั่วโมงของเขาแล้ว ก็รู้ได้เลยว่าปีนั้นต้องยิ่งกว่านี้แน่ๆ “คนทำครั้งแรกไง ก็เลยต้องการความสมบูรณ์แบบมากเป็นพิเศษ  ชอบกดดันตัวเอง มันมีความกดดันหลังจากเสี่ยวหู่ตุ้ยแยกวง ผมไปอังกฤษ คือว่าอยากไปตามหาบางอย่างในที่ที่ไม่มีใครรู้จักผม”

         วันคืนที่ปลดปล่อยตัวเองอยู่นั้น การท่องเที่ยวและศาสนาพุทธได้กลายเป็นทางออกของจิตวิญญาณ “เมื่อศึกษาพระธรรมคำสอน ศาสนาพุทธจะบอกคุณว่าต้องทำอย่างไรถึงจะมองเห็นแก่นแท้ของตัวเอง สอนคุณว่าจะข้ามจากฝั่งหนึ่งไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างไร เดินๆไป จะมองเห็นสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ก็จะทำให้จิตใจใหญ่ขึ้น และกว้างขึ้น จะเข้าใจอย่างช้าๆว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของสรรพสิ่งก็คือปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตา”

        ซูโหย่วเผิงในตอนนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าความหมายของการทำงานคือหาเงิน ไม่ได้คาดหวังกับผลที่ได้มากมาย อีกต่อไปแล้ว “คุณถามผมว่าจะพักตอนไหน ที่จริงแล้วตอนนี้ผมก็อยากพักอยู่ ถ้างานต่อไปกับทริปของผมเกิดขัดกันขึ้นมา เช่นความฝันจะไปเกาะเล็กๆของผม นอกจากว่างานนั้นจะสำคัญอย่างยิ่งแล้ว ไม่เช่นนั้นผมแล้วก็จะต้องบินไปเกาะนั้นไปอาบแดดพักผ่อนแน่นอน”

        “ผมคิดว่าตนเองก็ผ่านอายุเลขสามมาแล้ว ก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง และตั้งใจทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ ใช้ใจที่กว้าง และมีอารมณ์ขันไปเผชิญหน้ากับปัญหา ผมคิดว่าสามารถปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตากรรม ไม่ต้องไปบิดเบือนมันขนาดนั้น ทุกๆสิ่งล้วนมีค่าในตัวของมันเสมอ มุมมองที่แตกต่างก็มีผลลัพธ์ที่แตกต่าง คุณคิดว่าการปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมก่อให้เกิดผลเสีย? ที่จริงแล้วไม่ใช่นะ ที่ผมพูดไปเป็นแค่ภาพที่งดงาม ทุ่มเทตั้งใจ แต่กลับไม่เรียกร้องต้องการอะไร ชีวิตก็คือความสมดุล จากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคเสี่ยวหู่ตุ้ย จนถึงช่วงที่ต้องปลีกวิเวก ล้วนแต่เริ่มจากจุดๆหนึ่งไปถึงอีกจุดๆหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกันอย่างสุดขั้ว เขาในปัจจุบันนี้ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือความสมดุล สมดุลในด้านการงานและชีวิต มีความสุขและกำไรพร้อมๆกัน ไม่ต้องมากนักแค่พอเหมาะพอควร ไปพักผ่อนอาบแดดที่เกาะเล็กๆ มีความสุขมากกว่าสิ่งภายนอกที่ไม่สำคัญ บนเส้นทางขึ้นๆลงๆตลอด 20 ปีมานี้ ท้ายที่สุดแล้ว “สมดุล” คำๆนี้คือสิ่งที่มีค่าที่สุด

28
Magazine Photos / 2015.4.16 千纸鹤(เชียนจื่อเฮ่อ)
« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2015, 02:49:33 PM »
https://www.facebook.com/AlecfanclubinThailand/posts/925368417501652?pnref=story

https://qianzhihe.world.tmall.com/
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1061183613920131.1073742270.260376864000814&type=3&uploaded=55


 

2015.4.16

เทวดาของฉัน คลื่นลูกแรกไม่เพียงแต่สนุก ทั้งยังมีอีกลูกที่น่าดึงดูดใจ ตอบสนองการรอคอยของพวกคุณด้วยภาพระดับ HD การปล่อยโฆษณาในโทรทัศน์ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการโฆษณาเท่านั้น ทั้งยังเป็นสารคดีอีกด้วย เป็นการบันทึกภาพทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างละเอียด เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ชายที่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้ นับจากตั้งแต่ที่เป็นไกวไกวหู่ (乖乖虎) ในอดีตนั้น ความเสมอต้นเสมอปลายของเขาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราไม่เปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อเขาเช่นกัน ความจริงใจของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่เสแสร้งแกล้งทำออกมา ขนาด และตะเข็บ เป็นสิ่งที่ชั้นวางเสื้อผ้าใช้ในการเลือกเสื้อผ้าใช่มั๊ย? เป็นเป็นเพียงตัวแทนของพวกคุณ ที่จะมาพิสูจน์ว่า หากเปรียบกันแล้ว พวกคุณก็เป็นดั่งชั้นวางเสื้อผ้า ที่จะเลือกเสื้อผ้าที่จะเอามาวางไว้บนชั้น!

29
[2015-02-03]
อายุ 17 น่าจะรักแล้ว วันที่ 30 เมษายน "จั๋วเอ่อ- The Left Ear" น่าจะเข้าฉายได้แล้ว

http://tieba.baidu.com/p/3565916648
http://ent.sina.com.cn/m/c/2015-02-03/doc-iavxeafs0762657.shtml

[150203]《左耳》定档4.30 海报直言“该爱了”

新浪娱乐讯 根据饶雪漫同名小说改编,苏有朋[微博]首次执导的电影《左耳》自开拍就引起了很多人的关注,从书迷到影迷,集结了一批年轻的观众,对电影饱含期待。一直以来,关于电影演员人选以及电影档期等都是公共讨论的热点话题。近日官方公布了一组“该爱了”主题海报和定档概念宣传片,宣布电影定档4月30日,成为2015年开年第一部青春成长类影片。

  《左耳》定档4月30日 苏有朋携手饶雪漫开启新春“成长第一片”

  电影《左耳》由饶雪漫同名小说改编,讲述了关于青春成长的故事。它生动地塑造了小耳朵、吧啦、张漾、许弋、黑人等一批性格迥异的年轻人的形象,并用极富张力的文字完美展现了当下青年人成长时期的疼痛和美好,由此对很多年轻观众产生很多共鸣,小说自问世之后也积累了庞大的粉丝群体,成为很多人共同的记忆。2015年正值《左耳》面世十周年整,作为新年开春后第一部以青春成长为题材的影片,在书迷和影迷们无限启期待的同时,无疑也为2015年的电影行业注入了第一股青春正能量。

  “该爱了”主题海报亮眼来袭 该爱的年纪放肆去爱

  作为颇具青春偶像气息的“左耳青春男团”,欧豪[微博]、杨洋[微博]、胡夏[微博]、段博文自曝光之后受到了很多粉丝的关注和喜爱。日前在发布定档概念宣传片的同时推出“该爱了”主题海报,也为此前很多观众心中所认为的“小清新”风格蒙上了一层神秘的面纱,眉宇之间所透露的青春成长和放肆叛逆也让人回味无穷。“17岁,该爱了”的主题字样也不禁让人充满遐想,意犹未尽。

  据悉电影《左耳》中张漾、许弋、尤他、黑人四个人个性分明、性格迥异。在这套“该爱了”海报以彩粉给人以强烈的视觉冲击,展现了当下年轻人在五彩斑斓的青春里成长、迷失、刺痛、悔悟,亲身感受着成长带给每个人的蜕变与成长。

  “该爱了”定档概念宣传片 最好的年纪享受青春

  淡淡的音乐,缓缓的字幕,以时间为线,通过画面展现简单明了的成长记录,从“1岁该学走路了”、“11岁该开始爱美了”一直到“50岁该认老了”,讲述了每个年龄的人生章节。其中“17岁该爱了”则是电影《左耳》想要表达的主题,影片中的故事也是围绕着17岁的青春懵懂和成长蜕变而展开,讲述一群正处青春期的少男少女之间因为成长而展开的各种爱恨交织的故事。那些年的记忆也不禁如针扎一样,隐隐作痛却不见伤口,也许这就是青春与成长带给我们的真切感受。

  电影《左耳》将于2015年4月30日全国公映,和广大观众见面,除了此前发布的“左耳青春男团”之后,众人纷纷讨论的“青春左耳女团”也即将和大家见面,备受影迷朋友们期待,同时大家也共同期待作为青春成长题材的电影《左耳》所讲述的十七岁的故事。

30
<a href="http://player.youku.com/player.php/sid/XNTc0MTQxMDU2/v.swf" target="_blank" class="new_win">http://player.youku.com/player.php/sid/XNTc0MTQxMDU2/v.swf</a>

หยางมี่ หานกึง และ ซูโหย่วเผิงเข้าร่วมโครงการการกุศล ส่งพลังความรักผ่านพัสดุ 2013

0.07 หยางมี่ หางกึง ซูโหย่วเผิง ร่วมส่งมอบความรักกับโครงการพัสดุปันรัก
0.12 “โครงการพัสดุปันรัก”เป็นโครงการการกุศล ซึ่งก่อตั้งโดยกองทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้แห่งประเทศจีน และ China Movie Channel
0.18  ในวันนี้ ซูโหย่วเผิง หยางมี่ หานกึง ทูตทั้งสามคนของโครงการพัสดุปันรัก ได้เข้าถ่ายทำวีดีโอและโปสเตอร์โปรโมทโครงการด้วยกัน
0.34 ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ดาราเข้าร่วมโครงการการกุศลกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว
0.38 ตามความเจริญก้าวหน้าของโลกเราในสมัยนี้ การที่ดาราเข้าร่วมโครงการการกุศล ถือเป็นพลังใหม่ในวงการการกุศล
0.47ทูตดาราดังของเราคิดอย่างไรบ้างครับ
0.48 สำหรับเรื่องที่ดาราเข้าร่วมโครงการการกุศล
0.51 พวกเราก็เป็นคนปกติธรรมดา พวกเราก็อยากช่วยเหลือเหมือนคนอื่นๆ ในขณะที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น เราเองก็รู้สึกดีไปด้วยนะครับ แต่ในฐานะนักแสดง อาจจะช่วยทำให้ผู้คนรู้จักและสนับสนุนโครงการมากขึ้น
1.02 ผมหวังว่าผ่านพลังของดารา ทั้งด้านโปรโมท ด้านโฆษณา จะทำให้คนให้ความสำคัญกับโครงการมากขึ้น  ร่วมกันมาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กๆยากไร้จะได้รับความช่วยเหลือจากเรามากขึ้นครับ
1.16 “โครงการพัสดุปันรัก”ส่งต่อความห่วงผ่านพลังของสังคม เพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ และเด็กๆที่ประสบภัย เทียบกับโครงการการกุศลอื่นๆแล้ว “โครงการพัสดุปันรัก” แตกต่างอย่างไรครับ
1.24สิ่งที่พิเศษของ“โครงการพัสดุปันรัก” คือ เมื่อคุณได้บริจาคช่วยเหลือเด็กไปแล้ว คุณจะได้รับจดหมายตอบกลับจากเด็กคนนั้นจริงๆ  สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินที่คุณบริจาคไปได้ช่วยเหลือพวกเขาจริงๆ การที่ได้ติดต่อกันโดยตรง ผมคิดว่าส่วนนี้เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามันดีมากๆครับ
1.38 นอกจากนี้แล้ว ทูตทั้งสามยังได้โพสท่าคู่กับตุ๊กตาขนตัวนุ่ม “เป้าเป่า”ตัวนำโชคของ “โครงการพัสดุปันรัก”ความหมายของเป้าเป่าคือ แบ่งปันความรัก รับความรัก ตุ๊กตานำโชคแห่งรักและ ทูตดาราใจบุญ ร่วมโปรโมทโครงการ ภาพบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างนี้ ช่วยเพิ่มสีสันของโครงการได้อีกทางหนึ่ง “พัสดุกล่องน้อย หัวใจดวงใหญ่” เรามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขา แบ่งปันความรักของเราให้พวกเขาได้อบอุ่น ใช้สองมือของเรา ช่วยเหลือพวกเขา ทำสิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อส่งมอบพลังแห่งรักด้วยกันนะครับ
2.12 เราได้ติดตามโครงการการกุศลหนึ่งมาตลอด
2.14ที่มีชื่อว่า “โครงการพัสดุปันรัก”
2.16 เงิน 1430000 หยวน ถูกรวบร่วมมายังโครงการนี้
2.21 2400000 ความฝันเป็นจริงได้เพราะเขา
2.25 กล่องพัสดุใบเล็ก หัวใจดวงใหญ่
2.29 เราอายุ5ปีแล้วนะ
2.31“โครงการพัสดุปันรัก”
2.33“โครงการพัสดุปันรัก”
2.35 เชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา ได้ที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านคุณครับ

31
<a href="http://player.youku.com/player.php/sid/XMzc5MDQ2MzE2/v.swf" target="_blank" class="new_win">http://player.youku.com/player.php/sid/XMzc5MDQ2MzE2/v.swf</a>

爱心广告โฆษณาปันรัก

0.01หานเกิง
   ในใจของเราทุกล้วนมีความฝันในวัยเด็ก
0.06 หยางมี่
   สำหรับเด็กๆที่ห่างไกลความเจริญแล้ว
0.08 ความฝันคือ
0.12 ปากกาสีแท่งหนึ่ง
0.14 ฟุตบอลใหม่ลูกหนึ่ง
0.16 เพลงเพราะๆเพลงหนึ่ง
0.18 พัสดุปันรักปี 2012 ช่วยทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริงกันเถอะครับ
0.23 สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราได้ทั้งผ่านทางเว็บไซด์และทางไปรษณีย์ครับ

32
<a href="http://player.youku.com/player.php/sid/XMjU5OTc4NDAw/v.swf" target="_blank" class="new_win">http://player.youku.com/player.php/sid/XMjU5OTc4NDAw/v.swf</a>

爱心包裹2011公益广告明星版
โฆษณาโครงการพัสดุปันรักปี 2011 กับเหล่าดารา

0.04 ฉินหลาง
0.07 ร่วมแต้มสีเติมฝัน
0.08 บนความสุขที่ขาดสี
0.09 ของเด็กๆด้วยกัน
0.14 ซูโหย่วเผิง
      แบ่งความห่วงใยเล็กๆจากคุณ
   0.15 สร้างความสุขให้พวกเขาและคุณ
   0.18 ให้พัสดุกล่องน้อยน้อยนี้
   0.20 เซี่ยหยี่
      จุดประกายความฝันให้พวกเขา
   0.22 เพียงแค่ 100 หยวน
   0.24 ก็สามารถร่วมบริจาค
   0.26 พัสดุปันรักได้1กล่องแล้วครับ
   0.27 กับขั้นตอนที่สะดวกรวดเร็ว
   0.28 เพียงแค่เข้าไปไปรษณีย์ใกล้บ้านคุณครับ

33


古巨基拍琼瑶深情眼神迷晕苏有朋
http://www.hunantv.com/v/1/104621/c/1077460.html

สัมภาษณ์ซูโหย่วเผิง พูดถึงสายตาที่ลึกซึ้งของกู่จวี้จี

หลายปีก่อนเวลานั้นพวกเราทุกคนยังเด็กมากๆตอนนั้นที่พวกเรากำลังถ่ายทำก็นับว่าเป็น ละครไอดอลยุคแรกๆของจีน พวกเราตอนนั้น เพราะประสบการณ์การแสดงของทุกคน ยังไม่มากนัก ก็มักจะต้อง ทำงานกันเป็นเวลานานมากๆ เวลาพักผ่อนก็น้อย เพราะงั้นผมเลยชื่นชมเขามาก ไม่ว่าจะเหนื่อย จะลำบาก เขามักจะมีวิธี ใช้สายตาคู่นั้นที่มีความอ่อนโยน เปล่งปลั่ง จากนั้นดวงตาที่มีน้ำตาไหล ใช้แววตาที่มีความลึกซึ้งมองไปยังคู่แสดง ผมคิดว่าเขาสุดยอดมากๆ

34
โหย่วเผิงได้สัมผัสถึงความรักและผูกพันที่แฟนคลับมีให้เขามาโดยตลอด ซูโหย่วเผิงเคยพูดว่า "ผมได้รับสิ่งดีดีจากแฟนคลับจำนวนมากและผมเองก็อยากคืนสิ่งดีดีเหล่านี้กลับให้สังคมบ้าง พระเจ้าได้ให้สิ่งที่ดีกับผมมามากแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ผมจะคืนสิ่งดีให้กับคนอื่นที่ยังขาดแคลนอยู่"

You Peng always can feel love and relationship from his fans. He used to mentioned; "I get a lot of good things from my fans and I would like to return these things back to the society. God gives I good things for a long time. It's time to give back to some people who are still shortage."

<a href="http://www.tudou.com/v/j_XGzNkZiys/&amp;resourceId=0_04_05_99/v.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.tudou.com/v/j_XGzNkZiys/&amp;resourceId=0_04_05_99/v.swf</a>

[11.02.14]关于吧歌。。大家有没有听过这首?(重发)
http://tieba.baidu.com/f?kz=1001394608

VDO 你是我深深牵挂着的宝贝
http://www.tudou.com/programs/view/sUEwfuCvOBc/?resourceId=0_06_02_99


[10.03.05]★公告★支持有朋 用事实说话
http://tieba.baidu.com/p/724217526?pn=1

35
 07-พ.ค.-2011 โหย่วเผิงนำเสื้อผ้ามาร่วมประมูลเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส 
























36
Public Benefits / 30 พ.ย.2010 Alec Su Visits Hebei Hope School
« เมื่อ: ตุลาคม 05, 2014, 11:04:12 AM »
30 พ.ย.2010 Alec Su Visits Hebei Hope School
https://www.facebook.com/pg/AlecfanclubinThailand/photos/?tab=album&album_id=1220595074645650

https://www.facebook.com/baansuyoupeng/media_set?set=a.896974377080074.1073741891.100003025613301&type=3&uploaded=27

http://yule.sohu.com/20101202/n278056313.shtml
http://v.tv.sohu.com/20101202/n278058264.shtml
http://ent.sina.com.cn/s/h/2010-12-01/03173163459.shtml

VDO http://v.tv.sohu.com/20101202/n278058264.shtml

1月30日,搜狐明星公益EasyGO连同中国青基会带领影视明星苏有朋来到河北省保定市涞源县北京升旗希望小学,与来自北京的希望工程志愿者一起参与希望工程志愿行动。涞源县也是希望工程的发源地,当年被救助者现在已经是该校的校长。苏有朋现场被授予了希望工程志愿行动爱心大使证书。

37
จากนิตยสาร SINCERE
NO.117 VOL.10-2013


38

Sources:
http://hsb.hsw.cn/2014-04/22/content_8534388.htm
http://news.163.com/14/0422/02/9QDE9EBR00014Q4P.html#sns_weibo

แปลโดย : Xiao hu dui Thailand fanclub 小虎队 泰国歌迷

22 เมษายน 2514

ซูโหย่วเผิง เฉินเฉี่ยวเอิน แสดงในภาพยนตร์เรื่อง "ผู้ต้องสงสัยที่ดีที่สุด" ได้เข้าฉายไปแล้ว โดยที่ซูโหย่วเผิงยอมโกนคิ้ว อดหลับอดนอนตลอด 23 วัน เพื่อให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์แบบ

ผู้ที่ต้องการที่จะเป็นอิสระ แต่จนถึงขณะนี้ล้มเหลวที่จะทำเช่นนั้น

หัวซางเป้า : ถ้าหากว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด คุณต้องการอะไร?

ซูโหย่วเผิง : พักผ่อน

หัวซางเป้า : ตอนนี้คุณต้องการมันมั้ย?

ซูโหย่วเผิง : ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะผมต้องการทำงานไปก่อน ถ้ารีบคาดหวังทันที อาจจะไม่ได้เป็นในสิ่งที่หวังเอาไว้

หัวซางเป้า : ใน 10 ปีที่ผ่านมา คุณต้องการใครมาวิ่งเล่นในหัวใจคุณมั้ย?

ซูโหย่วเผิง : ผมว่ายัง ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิต

หัวซางเป้า : หากคุณสามารถย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร?

ซูโหย่วเผิง : ไปตายแล้วเกิดใหม่ ฮ่าๆๆๆๆ

หัวซางเป้า : เวลาที่มีค่าที่สุดของคุณคืออะไร

ซูโหย่วเผิง : ครอบครัว เพื่อน สิ่งต่างๆรอบตัวผม ที่ผมรักมากที่สุด

ถ้าทำไม่ได้ "องค์ชาย 5" โครตกระจอก

หัวซางเป้า : เฟิงเซิง กับไป๋เสี่ยวเหนียน คุณตั้งใจเล่นมากแค่ไหน ให้กี่เปอร์เซ็นต์

ซูโหย่วเผิง : ผมคิดว่า ผมค่อนข้างสนุกกับบทบาทที่ได้รับ แม้จะต้องเป็นคนอื่นก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขมาก

หัวซางเป้า : "คนดีที่น่าสงสัย" คุณเล่นเป็นคนที่มีอาการนอนไม่หลับ ความคิดที่จะควบคุมน้ำหนัก บังคับตัวเองอดหลับอดนอน เป็นสิ่งที่เกินขอบเขต

ซูโหย่วเผิง : ไม่มีอะไรที่เกิดกว่าเหตุ เพราะผมพิจารณาบทบาทนี้มาแล้ว ผมคิดว่าการแสดงกับชีวิตจริงคล้ายเส้นบางๆที่กั้นกันอยู่ มีทั้งความจริงใจและความน่าสะพรึงกลัวสลับกันไป

หัวซางเป้า : บทบาทของคุณที่เป็นที่น่าจดจำที่สุด

ซูโหย่วเผิง : องค์หญิงกำมะลอ ในบทองค์ชาย 5 ซึ่งทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้

หัวซางเป้า : ฉงเหยาบอกว่าเธอถูกขโมยความคิดในเชิงบวก และข่าวลือต่างๆ มีผลกระทบอะไรในชีวิตมั้ย

ซูโหย่วเผิง : ผมได้ระบายความในใจลงเหวยโป(weibo)หมดแล้ว ผมกับคุณฉงเหยา...ไม่ขอเรียกป้านะครับ คุณฉงเหยาสนับสนุนเหมือนเดิมครับ และผมเองก็มองว่า มันคือศิลปะ มันคือแรงบันดาลของแต่ละคน ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถตัดสินได้

39
BSYP Fan Actions / alec su's picture when he was a kid he was so cute
« เมื่อ: เมษายน 06, 2014, 09:01:35 AM »

40
[20-มี.ค.-14] ซูโหย่วเผิงในงาน ECCO 2014 ฤดูใบไม้ผลิ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ELLE จีน

Sources: http://www.ellechina.com/luxury/celebrity/20140324-170822.shtml

แปลโดย : Xiao hu dui Thailand fanclub 小虎队 泰国歌迷 see more facebook

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 9