แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - My Dream_ฝน

หน้า: 1 2 [3] 4
41
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=laVu1D08kPQ" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=laVu1D08kPQ</a>
http://www.youtube.com/watch?v=laVu1D08kPQ


[20/4/2012]

ผู้ประกาศข่าวชาย  : ซู โหย่ว เผิง “ความรัก” กับลูกเล่นต่างๆ กอดหุ่นชุดเจ้าสาวสารภาพรัก


รายงานข่าวภาพยนตร์ประเทศจีน   


ผู้ประกาศข่าวหญิง : ในตอนนี้ ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่อง ซาเซิง ของ ซู โหย่ว เผิง ยังไม่เข้าฉาย
                           แต่ในตอนนี้เค้าก็ได้เข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ใหม่เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ เมื่อวานนี้
                           ทางผู้สื่อข่าวของเราได้ไปที่กองถ่ายที่ เจียงซู เป็นช่วงที่ ซูโหย่วเผิง
                           กำลังเข้าฉากสารภาพรักอยู่พอดี ภาพยนตร์เกี่ยวกับความรัก ซูโหย่วเผิง
                           ก็แสดงมาไม่น้อยแล้วนะค่ะ มาดูกันค่ะว่า เค้าจะมีไอเดียอะไรดีๆกับเรื่องนี้กันบ้าง


ผู้ประกาศข่าวชาย  : (ซูโหย่วเผิง สารภาพรักสลัดความเฉย)  วานนี้ เรื่องราวของ 3 คุณแม่มือใหม่
                           ที่รับอุปการะเด็กน้อยคนหนึ่งที่ถูกทอดทิ้ง ในภาพยนตร์ใหม่เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่
                           ถ่ายทำกันที่มณฑลเจียงซู (เจียงซูหนานทง รายงาน)  เราจะเห็นกันนะครับว่า
                           ในกองถ่าย ท่านผู้กำกับ เจินผิง กำลังซักซ้อมบทให้กับ ซูโหย่วเผิง และนางเอง
                           อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง เตรียมความพร้อมก่อนเข้าฉาก และในฉากนี้นะครับ
                           มันมีความพิเศษตรงที่


ซู โหย่ว เผิง        :  เหมิง เหมิง คุณจำแบรนด์ของชุดแต่งงานนี้ไม่ได้แล้วเหรอ เหมิง เหมิง
                           คุณจำแบรนด์ของชุดแต่งงานนี้ไม่ได้แล้วเหรอ !! ไม่ว่าคุณจะต้องการเด็กคนนั้น
                           ด้วยหรือไม่ ชุดแต่งงานชุดนี้กับตัวผมมันยังคงเป็นของคุณเสมอ (อยากจะอ๊วก!)


ผู้กำกับ               : คัต !
 

ซู โหย่ว เผิง        : นี่มันไม่เหมือนกับที่บทเขียนไว้นะครับ เพราะฉะนั้นแล้วผมขอศึกษาดูให้ดีก่อนแล้วกัน
                           มันเปลี่ยนไปหมดเลย



ผู้ประกาศข่าวชาย : เดิมที ซูโหย่วเผิง ต้องสารภาพรักกับนางเอก อ้าย ซิน จูเว โลว ฉี่ ซิง ที่นิวยอร์ก
                           แต่ทางผู้กำกับเห็นว่า ซูโหย่วเผิง นั้นน่าจะชำนาญด้านการแสดงนี้
                           คาดไม่ถึงเลยนะครับว่าเค้าจะมีความคิดที่เหนือชั้นขนาดนี้


ซู โหย่ว เผิง        : ดูดูแล้วไม่ว่าคุณจะพูดบทไหนก็รู้สึกอึดอัดไปหมดเลยนะ ไม่ได้รู้สึกอึดอัด
                          นั่นมันก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งนะ ก็มันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแปลกใหม่เลยนิ
                          มันไม่มีอะไรที่ทำให้คนอื่นเค้ารู้สึกว่ามันเซอร์ไพส์เลย ใช่ไหมล่ะ
                          แล้วมันก็ยังเหมือนรู้สึกว่านางเอกยังงอนอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็ควักมันออกมา
                          (แหวนหมั้น) แต่งงานกับผมนะครับ นี่มันอะไรกันเชยสิ้นดี ว่ามั้ย
                          (บทรักเรื่องนี้เชยได้ใจจริงๆ !)



ผู้ประกาศข่าวชาย : ที่แท้ ซูโหย่วเผิง นั้น ให้ความสำคัญและรายละเอียด กับบทรักโรแมนติก
                          มากเลยทีเดียว เค้าอยากจะอุ้มหุ่นชุดเจ้าสาวเข้าไปในฉาก


ซู โหย่ว เผิง       : ไม่ว่าผมจะแต่งตัวเป็นกรรมกรก็ดี หรือไม่ก็แอบอยู่ในหุ่นนี้ล่ะก็
                         คุณก็ต้องเล่นไปกับผมด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นถึงจะแสดงให้ดูหวานเลี่ยนอีกหน่อย
                         มันถึงจะให้คุณใจอ่อนได้ คุณต้องแสดงให้มันดูหวานหยาดเยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบ
                         ต้องหยาดเยิ้ม (หวานเลี่ยนยังได้รับเลือกพิจารณา)



อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง : มันไม่ง่ายเลย


ซู โหย่ว เผิง             : จำได้มั้ย นี่คือชุดแต่งงานที่คุณชอบมากที่สุด คุณจะแต่งงานกับผมไหม


ผู้กำกับ                   : ตอนที่คุณ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ น่ะ ผู้ชายเค้าเกร็งแล้ว ฟังผมพูดนะ ตลกเป็นบ้า


ผู้ประกาศข่าวชาย     : เพื่อให้ฉากสารภาพรักมีอะไรที่แปลกใหม่ ซูโหย่วเผิง
                              ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมของเค้าก็ว่าได้


ซู โหย่ว เผิง            : สารภาพรักมันง่ายไหม


อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง : ไม่ง่ายเลย ไหนลองแสดงใหม่ซิ เมื่อไหร่ที่คุณจะสารภาพรักกับเค้าบ้างล่ะ
                               จะได้เอาไปใช้ ฮาฮา


ซู โหย่ว เผิง             : ผมคิดว่าจะเอาหุ่นนี้เข้าฉากด้วย


อ้ายซินจูเว โลว ฉี่ ซิง : ใช่ ใช่ ใช่


ซู โหย่ว เผิง             : เพราะว่าผมกับหนังแนวรักรัก เล่นมาก็ไม่น้อยแล้วนะครับ
                                ที่จะให้ดูแบบถูกธรรมนองคลองธรรมอ่ะนะ มันออกจะดูไม่ค่อยเข้ากับผม
                                สักเท่าไหร่ อยากที่จะปรับแต่งอะไรบ้าง ก็อะไรที่มันไม่เหมือนคนอื่น
                                ที่เค้าเคยทำกันน่ะ


ผู้สื่อข่าวถาม             : แล้วถ้าคุณต้องเป็นคนที่สารภาพรักเองจริงๆล่ะ คุณจะมีลูกเล่นอะไรเยอะแยะ
                                ขนาดนี้ไหม


ซู โหย่ว เผิง             : น่าจะเป็นอย่างนั้น ผมจะลากเค้าลงทะเล (ลอกเลียนแบบ ไททานิค ?!)
                                อะไรอย่างนั้น ก็ผมมันเป็นคนที่ไม่ธรรมดานิ ที่ชอบทำอะไร แผลง แผลง



42
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=xmY_LIRgZzg" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=xmY_LIRgZzg</a>
http://www.youtube.com/watch?v=xmY_LIRgZzg


[21/4/2012]

ผู้ประกาศข่าวหญิง    : ภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ เป็นภาพยนตร์ของบริษัท เจียง ซู หนาน
                              เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ 3 คุณแม่มือใหม่ รวมถึงความซาบซึ้งและประทับใจจากเรื่องนี้
                              และในวันนี้เราได้เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศกันถึงที่กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้
                              ให้พวกเรามีโอกาสได้สัมภาษณ์กันอย่างใกล้ชิด


ผู้ประกาศข่าวชาย    : ภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ ได้เริ่มเปิดกล้อง และถ่ายทำกันที่ เจียง ซู หนาน
                             ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซูโหย่วเผิง ซึ่งรับบทเป็นว่าที่สามี และยังเป็นบทที่
                             เป็นตัวแทนสื่อถึงความน่ารัก สดใส ของคู่รักอีกด้วย


ซูโหย่วเผิง นักแสดง: มันสามารถใช้ความเป็นธรรมชาติสื่อมันออกมาได้ มันอาจจะต้องแสดงให้ดูเท่ห์
                             และสมาร์ทสักเล็กน้อย และมันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะไกลตัวเราสักเท่าไหร่นะครับ
                             แล้วก็ต้องทำตัวเองให้ดูเป็นสุภาพบุรุษอีกสักหน่อย เมื่อทุกคนได้ดูแล้ว
                             จะรู้สึกมีความสุขไปกับมัน แล้วผมก็ไม่ต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำด้วย
                             หาบทอะไรที่แปลกใหม่มาลองแสดง เติมเต็มให้ตัวเอง



นักข่าวถาม             : คุณอยากที่จะรื้อฟื้นความทรงจำในวัยหนุ่มอีกครั้ง กลับมาเป็นขวัญใจอีกครั้ง


ซูโหย่วเผิง             : อือ...นั่นแหละคือเหตุผล เอาโอกาสที่ได้แสดงบทเป็นหนุ่มหล่อคนนี้แหละ
                             แสดงให้มันเต็มที่



ผู้ประกาศข่าวชาย    : บทบาททางการแสดงที่เค้าเคยได้รับนั้น มีมากมายนับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น
                             จากภาพยนตร์เรื่อง เฟิงเซิง ที่เค้ารับบทเป็นตัวละครที่แฝงด้วย
                             บุคลิกของผู้หญิงอย่าง ไป๋เสี่ยวเหนียน


(เฟิงเซิง)ซูโหย่วเผิง : ไม่ว่าผมหรือใครในด้านมืดล้วนก็ต้องมีด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงคุณด้วย


ผู้ประกาศข่าวชาย    : จากภาพยนตร์เรื่อง ซาเซิง เป็นบทที่เค้าสามารถแสดงได้อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
                             อย่างแพทย์หนิว


(ซาเซิง)ซูโหย่วเผิง  : ฉันจะฆ่าอย่างวัวอย่างควายได้อย่างไรกัน


ผู้ประกาศข่าวชาย    : ไม่เพียงแค่นี้ ผลงานและบทบาทที่เขาได้ทุ่มเทไปนั้น
                             เขาคิดว่าเป็นบทที่ต้องอาศัยความพยายามและความอดทนสูง ดังนั้น
                             เขาจึงอยากที่จะพลิกบทบาทของตนเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ มาเป็นเด็กหนุ่มสมาร์ท
                             ซึ่ง ซูโหย่วเผิง ก็สามารถที่จะเปลี่ยนบทบาทของตนเองได้อย่างราบคราบ
                             ในฉากที่ต้องเป็นฝ่ายขอฝ่ายหญิงแต่งงาน มอบชุดเจ้าสาวให้ฝ่ายหญิง
                             และเค้าก็ได้เสนอข้อคิดเห็นมากมายหลายอย่างในการเข้าฉากนี้


ซูโหย่วเผิง            : หลังจากนั้นมันต้องเป็นแบบนี้ พอนางเอกยังงอนอยู่ก็ รีบควักมันออกมา   
                            แล้วบอกว่า แต่งงานกับผมนะ มันออกจะดูเชยและโบราณมากเลย



ผู้กำกับ                 : คุณคิดว่ามันดูเชยมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
 

ซูโหย่วเผิง            : ก็ใช่น่ะสิ มันไม่เห็นจะมีอะไรที่มันดูแตกต่างไปกว่านี้เลยนิ


ผู้ประกาศข่าวชาย    : เพื่อให้ฉากขอแต่งงานมีอะไรที่แปลกใหม่ไปจากเดิม ซูโหย่วเผิง
                             ได้เสนอตัวเลือกมา 2 ตัวเลือก
                             ตัวเลือกที่ 1 สวมชุดแต่งงานซะเอง


ซูโหย่วเผิง            : คุณจะยอมแต่งงานกับ...มั้ย ?


ผู้กำกับ                 : พวกคุณเล่นไรกันน่ะ ตกใจหมดเลย คุณเป็นฝ่ายที่ทำให้ผู้ชายร้อนอกร้อนใจ
                             ตอนที่รู้สึกสำนึกผิดและอยากทำโทษตัวเอง คุณก็ห้ามเค้าไม่ให้ทำมัน
                             เหตุผลมันก็มีเพียงเท่านี้


ซูโหย่วเผิง            : ผมผิดไปแล้ว...... (ตบหน้าตัวเอง)


ผู้ประกาศข่าวชาย   : ตัวเลือกที่ 2 มาพร้อมกับหุ่นวิวาห์


ซูโหย่วเผิง            : เหมิงเหมิง คุณยังจำได้มั้ย ชุดแต่งงานชุดนี้เป็นชุดที่คุณเคยบอกว่าชอบมัน


ซูโหย่วเผิง            : แค่อยากจะหาวิธีการอะไรใหม่ๆบ้าง เพราะละครแนวรักโรแมนติก
                            ผมก็เคยเล่นมาแล้วก็ตั้งมาก ที่จะต้องแสดงให้ถูกธรรมนองคลองธรรม
                            ผมว่ามันคงไม่ค่อยเหมาะกับหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่นะ อยากจะทำอะไรที่แบบ
                            ให้ท่านผู้ชมดูแล้วรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใคร


43
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=aTrsHX5ycGo" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=aTrsHX5ycGo</a>
http://www.youtube.com/watch?v=aTrsHX5ycGo



[17/4/2012]

ผู้ประกาศข่าว 1  : โหย่วเผิง เดินทางไกลถึงเมืองหนานทง ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่
                         ที่ได้ดารานักแสดงนำอย่าง ซูโหย่วเผิง ที่ทุกคนชื่นชอบร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย

ผู้ประกาศข่าว 2  : พูดถึง ซูโหย่วเผิง นะค่ะ ทุกท่านอาจคิดถึงบทบาทมากมายที่เค้าเคยแสดง
                         อย่างเช่น ไกวไกวหู่ จาก เสียวหู่ตุ้ย องค์ชาย 5 จากเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ
                         ป๋ายเสี่ยวเหนียน จากภาพยนตร์เรื่อง เฟิงเซิง เป็นต้นนะค่ะ
                         แล้วเค้าจะสามารถแสดงบทอะไร ให้เราติดตามชมกันอีกนะ อีกสักครู่
                         เราไปติดตามชมจากผู้สื่อข่าวของเราที่กองถ่ายได้เลยค่ะ


ผู้ประกาศข่าว    : ( “ไกวไกวหู่” ซูโหย่วเผิง ถ่ายทำเรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ ที่เมืองหนานทง )
                        เมื่อวานนี้ กองถ่ายภาพยนตร์ได้ใช้โรงพยาบาลในเมืองหนานทง
                        เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ตอนที่ผู้สื่อข่าวของเราเดินทางไปถึง
                        รอบข้างก็รายล้อมไปด้วยผู้คนที่มายืนให้กำลังใจเหล่าบรรดานักแสดงกันอย่างล้นหลาม
                        ในเรื่องนี้ ซูโหย่วเผิง ต้องรับบทกับนางเอก ฉี่ซิง ถึงแม้จะเป็นเรื่องแรกที่ได้รับบทคู่กัน
                        แต่ผู้มากประสบการณ์กว่า 20 ปีอย่าง ซูโหย่วเผิง ทุกอย่างมันคือสิ่งที่แสดงออกมา
                        จากจิตวิญญาณ เป็นคนที่มีความคุ้นเคยกับการแสดงอยู่แล้ว
                        เพียงแค่เค้าพูดไม่กี่ประโยคสั้นๆ ก็สามารถสะกดใจผู้ชมได้แล้ว


ซูโหย่วเผิง       : นี่คุณ ฟังผมพูดก่อนสิ ทำไมคุณต้องทำกับผมอย่างนี้ด้วย เหมิง ! ไม่กี่ปีมานี่
                        ผม.....คุณรู้มั้ยว่าผมรู้สึกอย่างไร คนที่ผมรัก ก็ยังคือคุณ สิ่งที่ผมทำเพื่อคุณ
                        คุณไม่เคยใส่ใจผมเลย



ผู้ประกาศข่าว    : ภาพยนตร์ 3 คุณแม่มือใหม่ กล่าวถึงเรื่องราวของ 3 คุณแม่มือใหม่
                        ที่รับอุปการะเด็กน้อยคนหนึ่งที่ถูกทอดทิ้ง ซูโหย่วเผิง
                        ในเรื่องนี้เป็นตัวละครที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับ 3 คุณแม่ในเรื่องนี้ด้วย


ซูโหย่วเผิง       : ( “ไกวไกวหู่” ซูโหย่วเผิง ถ่ายทำเรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ ) เรื่องนี้ผมแสดงเป็น
                        เอ่อ......เป็นคนที่เพิ่งเรียนจบจากประเทศฝรั่งเศสแล้วเพิ่งกลับมา
                        พอกลับมา ก็รู้ว่าแฟนตัวเองมีลูกติดมาหนึ่งคน ตรงนี้อาจเรียกได้ว่า
                        เป็นจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ก็ได้



ผู้ประกาศข่าว    : ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นเรื่องแรกหลังจากที่การฉลองตรุษจีนของเค้าก็ว่าได้
                        และบทที่สบาย มันก็ทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลาย


ซูโหย่วเผิง       : ผมคิดว่าได้แสดงหนังเรื่องนี้แล้วทำให้ผมได้ผ่อนคลายและสบายใจมาก
                        กับการแสดงครับดังนั้นเนี่ย.....มันก็ไม่ใช่บทอะไรที่ยาก
                        และมันก็เล่นได้อย่างสบาย


ผู้ประกาศข่าว    : นักแสดงที่ร่วมงานด้วยล้วนเป็นเพื่อน ที่เค้าเคยร่วมงานมาด้วยกันทั้งนั้น
                        นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เค้ารู้สึกคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น ตางเทียนเหวิน,
                        หวังเล่ย, หม่าอี้ลี่, ลู่ชวน ล้วนแล้วแต่เป็นคน หนาน ทง ด้วยกันทั้งสิ้น
                        ทำให้ ซูโหย่วเผิง ของเรา ถึงกับคาดไม่ถึงว่าคนพื้นที่จะเยอะขนาดนี้


ซูโหย่วเผิง       : เหวินจาง ก็เป็นคน หนานทง กับเค้าด้วยเหรอ
ผู้สื่อข่าว          : ใช่แล้ว หม่าอี้ลี่ ก็ด้วย
ซูโหย่วเผิง       : จริงๆเหรอเนี่ย ทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้ ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ไม่เคยคิดมาก่อน
ผู้สื่อข่าว          : ผู้กำกับ ลู่ชวน ก็เป็นคนที่นี่ด้วย
ซูโหย่วเผิง       : เหรอครับ เยอะมากเลยจริงๆ คนมีฝีมือที่นี่เค้าเยอะจริงๆ


ผู้ประกาศข่าว    : ซูโหย่วเผิง เดินทางมาไกลถึงที่นี่ ขาดไม่ได้ที่จะต้อง เข้าเมืองตาหลิ่ว หลิ่วตาตาม
                        และเค้าก็สามารถที่จะทักทายแฟนแฟนชาว หนาน ทง เป็นภาษาท้องถิ่นได้อีกด้วยค่ะ


ซูโหย่วเผิง       : สวัสดีครับทุกท่าน ผม ซูโหย่วเผิง ครับ


44
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=Y90cOauZYYY" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=Y90cOauZYYY</a>
http://www.youtube.com/watch?v=Y90cOauZYYY


[15/4/2012]

ผู้ประกาศข่าว ฉาว จือ ลี่ : โหย่วเผิง แต่ไหนแต่ไรมาเป็นดาราที่งานไม่เคยขาดมือ
                                   ในขณะนี้กับภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่
                                   ของทางค่าย หนาน ทง ฮั่ว  ที่ได้นำเอานักแสดง
                                   ที่พวกเรารักและรู้จักเค้ากันดีอย่าง ซูโหย่วเผิง
                                   มาร่วมงานด้วย

                                   เมื่อพูดถึง ซูโหย่วเผิง นะครับ หลายๆท่าน
                                   อาจจะนึกถึงบทบาทอันมากมายของเค้า ไม่ว่าจะเป็น
                                   ไกวไกวหู่ จาก เสี่ยวหู่ตุ้ย,องค์ชายห้า จากเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ,
                                   ไป๋เสี่ยวเหนียน จากเรื่อง เฟิง เซิง

                                   และหลังจากนี้นะครับ เราจะพาผู้ชมทุกท่านตามผู้สื่อข่าวของเรา
                                   ไปบุกกันถึงกองถ่าย ไปทำความรู้จัก ซูโหย่วเผิง
                                   กันอย่างใกล้ชิดเลยครับ


การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ : ไกวไกวหู่ ซูโหย่งเผิง ได้มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย

ฉากนี้เป็นฉากแรกที่โรงพยาบาล ซูโหย่วเผิง กับ นางเอกฉี่ซิง กำลังมีปากเสียงกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นวันเข้าฉากเป็นครั้งแรก แต่ประสบการณ์ด้านการแสดงกว่า20ปีของซูโหย่วเผิง ทำให้เค้ามีความคุ้นเคยกับแวดวงการแสดงเป็นอย่างดี แสดงได้อย่างมืออาชีพ แค่เพียงคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคสั้นๆ เพียงเท่านี้ ก็สามารถทำให้คนดูอินไปกับความรู้สึกของเค้าไปด้วย


ซูโหย่วเผิง    : เดี๋ยวสิ คุณฟังผมพูดก่อน


ผู้ประกาศข่าว : ภาพยนตร์ เรื่อง 3 คุณแม่มือใหม่ ได้กล่าวถึงผู้หญิง 3
                     คนที่รับอุปการะเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้ง ในครั้งนี้กับบทบาทของ
                     ซูโหย่วเผิง กับอีกผู้หญิงอีก 3 คนในเรื่อง เป็นความเกี่ยวพันกัน
                     ด้านความรักและความผูกพัน

ซูโหย่วเผิง    : ผมรับบทเป็นเอ่อ.... ผู้ชายที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากฝรั่งเศส
                     พอกลับมาแล้วพบว่าแฟนของตัวเองมีลูกแล้ว
                     นี่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งหมดของเรื่อง



ผู้ประกาศข่าว : ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นผลงานชิ้นแรกหลังเทศกาลปีใหม่จีนของเค้า

ซูโหย่วเผิง    : ตั้งแต่ผมเล่นเรื่อง เฟิงเซิง เป็นต้นมา บทที่ผมได้รับเล่นนั้น
                     จะเป็นบทที่แสดงค่อนข้างยาก แล้วก็มีความกดดันไม่ใช่น้อย
                     แล้วต่อมาผมถึงรู้ว่า อืม....หาบทอะไรที่เล่นแล้วไม่เครียดหน่อยดีไหม
                     นี่แหละที่เล่นแล้วทำให้ผมรู้สึกมีความสุข



ผู้ประกาศข่าว : โหย่วเผิง มีโอกาสมาถ่ายทำภาพยนตร์ไกลถึงที่นี่
                     ขาดเสียไม่ได้ที่จะต้อง เข้าเมืองตาหลิ่วหลิ่วตาตาม
                     ฝึกพูดเป็นสำเนียงจีนใต้ ให้แฟนแฟนทางใต้(จีน) ได้ชื่นใจกัน

ซูโหย่วเผิง    : ผมชื่อ ซู โหย่ว เผิง สวัสดีทุกท่านครับ


ผู้ประกาศข่าว : ฉาว จือ ลี่ รายงาน

45
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=r6oJ0ry4qxA&amp;feature=g-upl" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=r6oJ0ry4qxA&amp;feature=g-upl</a>
http://www.youtube.com/watch?v=r6oJ0ry4qxA&feature=g-upl


[26/9/2012]

หลิว อี้ เฟย รับบทเป็น หลิงจีว์           : พี่ฟ่ะคือตัวส่วนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้


ซู โหย่ว เผิง รับบทเป็น ฮ่องเต้เซี่ยนตี้ : ทุกคนเปรียบพี่เค้า
                                                   เป็นเสมือนเทพเจ้าองค์หนึ่งเลย



ชิว ซิน จื้อ รับบทเป็น โจผี                : ยังไงผมก็ยังต้องอาศัยพี่เค้าช่วยในการแสดงอยู่


หลิว อี้ เฟย รับบทเป็น หลิงจีว์           : พี่เค้าเป็นคนที่มีแรงดึงดูดมากเลยทีเดียวค่ะ


ซู โหย่ว เผิง รับบทเป็น ฮ่องเต้เซี่ยนตี้ : พี่เค้าคือวีรบุรุษของพวกเรา
                                                   และยังเป็นต้นแบบของพวกเราอีกด้วย



เหยาหลู่ รับบทเป็น จี๋ เปิ่น แพทย์ในราชสำนัก : เค้าเป็นเสมือนเทพแห่งสวรรค์


อี้ เหนิง จิ้ง รับบทเป็น ฮกฮองเฮา     : เหมือนคุณพ่อเลยล่ะค่ะ
                                                  เหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกด้วย


โจว เหวิน ฟ่ะ รับบทเป็น โจโฉ         : ภาพยนตร์เรื่องนี้ในความคิดผมนะ
                                                  เป็นภาพยนตร์ศึกสงครามแบบบุกทะลวงฟัน


หลิว อี้ เฟย    : โจโฉเนี่ย เป็นคนที่ดูสมาร์ท หล่อทีเดียว


บรรยาย         : ทุกคนรัก “ โจโฉ ” โจว เหวิน ฟ่ะ


อี้ เหนิง จิ้ง     : มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่ฟ่ะเค้ารีบหันหน้ากลับมาพูดกับฉันคำหนึ่ง
                     ทันทีว่า โจโฉ เลวมาก!


โจว เหวิน ฟ่ะ : สมัยก่อนผมเคยดูนักแสดง แสดงหนังพวกนี้มาก็เยอะ
                     นะครับ แสดงเป็นโจโฉ แต่ภาพยนตร์เรื่อง ถง ชูเว้ ไถ เนี่ย
                     มันไม่เหมือนที่ผมเคยดูมาเลย


เหยา หลู่ รับบทเป็น จี๋ เปิ่น แพทย์ในราชสำนัก    : สิ่งแรกที่ผมคิดว่าเขาเก่งเลย
                                                                 ก็คือ เขาสามารถเล่นบทโจโฉได้สมบทบาทจริงๆ


หลิว อี้ เฟย    : คนที่ทันยุคทันสมัย คนที่มีความรู้สึกนึกคิด


โจว เหวิน ฟ่ะ : คนที่ทันยุคทันสมัย คนที่มีความรู้สึกนึกคิด
                     ทั้งหมดนี้ มันคือความเป็นตัวตนของโจโฉ


โจโฉ            :  ต่อให้ข้าตัวคนเดียวก็ไม่กลัวศัตรูหน้าไหนหรอก
                      ข้าตัวคนเดียวจะกลัวก็เพียงแค่ศัตรูโง่ๆต่างหาก


โจว เหวิน ฟ่ะ : ผู้กำกับทำให้ผมแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมา
                     และทำให้ผมได้แสดงความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ครับ


ผู้กำกับ         : เราจะสื่อสารกับเขาได้อย่างไร ที่จะสามารถทำให้เขา
                     แสดงบทบาทได้อย่างสมจริง หรือจะให้ผมเล่นบทเป็นพี่ฟ่ะ ก็ยังได้เลย


โจว เหวิน ฟ่ะ รับบทเป็น โจโฉ    : ผมคิดว่าการทำงานร่วมกับผู้กำกับเนี่ยนะครับ
                                             มันทำให้เราไม่กดดัน


หลิว อี้ เฟย รับบทเป็น หลิงจีว์     : พี่ฟ่ะ เป็นคนที่มีอารมณ์ขันในการทำงาน
                                             และทำให้งานสำเร็จได้ และก็ทำได้ดีเลยทีเดียวล่ะค่ะ


ชิว ซิน จื้อ รับบทเป็น โจผี          : การทำงานร่วมกับพี่เขา ทำให้ผมพบว่า
                                             เขาเป็นคนที่เอาใจใส่ในเรื่องของรายละเอียดมาก ก็คือเขาจะเป็นคนที่
                                             คอยดูแลเอาใจใส่นักแสดงทุกคน


ซู โหย่ว เผิง    : วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมต้องเข้าฉาก และเป็นฉากที่ถ่ายกันในวัง
                      และเป็นฉากที่สำคัญด้วย ผมรู้สึกเกร็งไปหมดเลย จึงได้แต่นั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้น
                      ทำให้ขาของผมปวดจนชาไปหมดจนลุกไม่ไหว ขาชาไปหมด
                      จนไม่มีความรู้สึก ผมก็ยังเกรงใจ ไม่กล้าที่จะบอกเลยคุณก็รู้ว่าผมมันหน้าด้านไม่พอ
                      โชคดีที่ พี่ฟ่ะเขาดูอาการผมออก จึงเรียกให้ทุกคนมาพยุงผมขึ้น



โจว เหวิน ฟ่ะ : ผมก็แค่อยากให้พวกเขาทุกคนทำงานด้วยบรรยากาศที่ดี
                     ไม่กดดัน เป็นกันเอง ถ้า ซู โหย่ว เผิง ยังคุกเข่าอยู่อย่างนั้น ชาแล้ว
                     ขาชาไปหมดแล้ว เขาก็ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ใช่ไหม
                     ทีนี้จะทำไงต่อล่ะ ผมคิดว่าการแสดงมันมาจากความร่วมมือกันของทุกฝ่าย
                     ไม่ใช่ ของคนใดคนหนึ่งที่จะสามารถทำได้ ถ้าพวกเขาแสดงมันออกมาได้ดี
                     แน่นอนล่ะผมก็ต้องทำมันได้ดีเช่นกัน และถ้าพวกเขายิ่งแสดงมันได้เหนือชั้นล่ะก็
                     ผมก็หวังว่าจะทำมันได้เหนือชั้นกว่า แอบหลงตัวเองเนอะ ฮาฮา


(ตัวอย่างภาพยนตร์) : คารวะ!  กษัตริย์แคว้นเว่ย ( โจโฉ )
ฮ่องเต้เซี่ยนตี้          : ข้าอยากรู้จริงนักว่า แกหรือข้ากันแน่ที่เป็นฮ่องเต้ !
โจโฉ                    : เข้ามาเลย !


โจว เหวิน ฟ่ะ รับบทเป็น โจโฉ
หลิว อี้ เฟย รับบทเป็น หลิงจีว์
ชิว ซิน จื้อ รับบทเป็น โจผี และ อี้ เหนิง จิ้ง รับบทเป็น ฮกฮองเฮา
ซู โหย่ว เผิง รับบทเป็น ฮ่องเต้เซี่ยนตี้
เหยา หลู่ รับบทเป็น จี๋ เปิ่น และ หนี่ ต้า ฮง รับบทเป็น ฮกอ้วน
กำกับการแสดงโดย จ้าว หลิน ซาน
THE ASSASSINS-โจโฉ ปฐมบทแห่งตำนานสามก๊ก 26 กันยายน 2012 นี้

46
<a href="http://www.youtube.com/v/?v=mOEM6bD4KJY&amp;feature=g-upl" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=mOEM6bD4KJY&amp;feature=g-upl</a>
http://www.youtube.com/watch?v=mOEM6bD4KJY&feature=g-upl

[16/10/2010]

ผู้ประกาศรางวัลหญิง     : ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ ขอเชิญ ซู โหย่ว เผิง ขึ้นมารับรางวัล
                                  บนเวทีแห่งนี้เลยค่ะ

ผู้ประกาศรางวัลชาย      : ขอเรียนเชิญนักแสดงกิตติมศักดิ์ เหยียน กวน เฉิง และ หวัง อิง
                                  มาเป็นเกียรติมอบรางวัลด้วยครับ

ผู้ประกาศรางวัลหญิง     : เค้าร้องไห้แล้วนะค่ะ น้ำตาได้ไหลออกมาแล้วจริงๆ

                                  รางวัลตัวประกอบฝ่ายชายดีเด่น "Best Supporting Actor"
                                  ขอมอบให้แก่ ซู โหย่ว เผิง ค่ะ

                                  ยินดีด้วยกับเค้าจริงๆนะค่ะ เมื่อปีที่แล้วเค้าเคยได้รับรางวัล จี๋ หม่า และมาในปีนี้
                                  ได้รับรางวัล ป๋าย ฮัว ( Hundred Flower Award ) มีความรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ
                                  ถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว เชิญเลยค่ะ


ซูโหย่วเผิง         : ช่วยผมถือหน่อยครับ

                          มันเป็นเรื่องไม่คาดฝันเลยนะครับ ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยจริงๆ
                          มันเลยรู้สึกตกใจมากเลยจริงๆนะครับ เอ่อ....ผมไม่ได้เตรียมใจมาเลยจริงๆ

                          เอ่อ...ที่ผมรู้สึกตื่นเต้นมากมายขนาดนี้เป็นเพราะว่า ตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการมาจนบัดนี้
                          ผมแสดงมาแล้วมากมายหลากหลายบทบาท กว่าจะได้มีโอกาสมายืนบนเวทีแห่งนี้
                          มันต้องอาศัยความพยายามอย่างมากมายมหาศาล มันไม่ได้ง่ายเลย

                          ก่อนอื่นผมขอขอบคุณบริษัทของผม ที่ให้ผมมารับบทเป็น "ไป๋เสี่ยวเหนียน"
                          ซึ่งเป็นบทที่ทำให้ผมต้องฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก ผมอยากจะขอบคุณ
                          ท่านผู้กำกับของทางบริษัท ท่าน เฉิง กั๋ว ฟู และ ท่าน กาว เฉิน ซู ไม่มีพวกท่านแล้ว
                          ผมคงไม่มีบทไป๋เสี่ยวเหนียนที่แสดงได้ออกมายอดเยี่ยมอย่างนี้

                          ผมอยากจะขอบคุณ สถาบันสอนร้องเพลงงิ้วปักกิ่ง และอาจารย์ ป๋าย ชุน เซียง
                          ท่านสอนให้ผมรู้ซึ้งถึงคำว่า “ ครู ” ว่า ครู นั้นมีความหมายที่มีค่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน

                          ผมอยากจะขอบคุณทีมงานของทางบริษัททุกท่าน ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข
                          พวกคุณก็จะยืนเคียงข้างผมเสมอ

                          ผมขอขอบคุณคนในครอบครัวของผม ที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุน
                          ผมมาโดยตลอด

                          และสุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณรางวัล ป๋าย ฮัว ( รางวัลบุปผาชาต ) ที่ให้โอกาส
                          มอบรางวัลนี้แก่ผม รางวัลนี้มีคุณค่า และความหมายกับตัวผมมาก
                          ผมจะพยายามทำผลงานของผมให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไป

                          ขอบคุณครับ


47
เสี่ยวหู่ตุ้ยค่ะ
ฝนชอบฟังเสียงโหย่วเผิงค่ะ น้ำเสียงของโหย่วเผิง ใส ก้องกังวาน และเป็นน้ำเสียงที่มีพลังมาตั้งแต่เด็กๆเลยนะคะ  รวมทั้งรอยยิ้มที่น่ารัก สดใส ร่าเริง น่ารักมากๆเลยล่ะค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=-oJ2Bfgbyjw" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=-oJ2Bfgbyjw</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=Dga5zq3wNDg" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=Dga5zq3wNDg</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=Hv7kFmtUQzA" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=Hv7kFmtUQzA</a>





<a href="http://www.youtube.com/v/?v=5iXglaHlCTU" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=5iXglaHlCTU</a>





<a href="http://www.youtube.com/v/?v=eObB7AfgP7c" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=eObB7AfgP7c</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=dE9wZI8EGag" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=dE9wZI8EGag</a>


48
2 เพลงนี้ยิ่งฟังยิ่งไพเราะและโชว์พลังเสียงด้วยนะคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=sEZdjrcEnIc" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=sEZdjrcEnIc</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=irheUSr56WU" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=irheUSr56WU</a>




<a href="http://www.youtube.com/v/?v=lN8pqRNYMjs" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=lN8pqRNYMjs</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=sf7TH8Tzf5M" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=sf7TH8Tzf5M</a>



49

คลิปนี้โหย่วเผิงเท่ห์และมีเสน่ห์มากค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/s7Ox6U_zGyM&amp;feature=g-upl" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/s7Ox6U_zGyM&amp;feature=g-upl</a>

เพลงชุดนี้โชว์ลีลาการเต้นของโหย่วเผิงค่ะ เท่ห์มากเลยนะคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/iJjz9aphS9U" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/iJjz9aphS9U</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/EQlHDFbNIWs" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/EQlHDFbNIWs</a>

50
คลิปนี้ก็เช่นกันค่ะ เป็นคลิปที่มีชุดแรกๆ โหย่วเผิงใส่ชุดแบบนี้น่ารักมากเลยนะคะ ใส่กั๊กทับเสื้อเชิ๊ต ดูเท่ห์ เหมือนคุณชาย และ น่ารักมากค่ะ ตอนนั้นฝนยังสงสัยว่า ดาราจีนเค้าใส่กั๊กใส่สูทร้องเพลงและเต้นกันเหรอ ตอนหลังถึงไม่แปลกใจเลยค่ะ ที่โหย่วเผิงได้รับ “รางวัลการแต่งกายยอดเยี่ยมของรอบปี” และ “ศิลปินชายที่มีสไตล์บุคลิกที่ดีเยี่ยมที่สุด”

แต่เพลงนี้ฝนยังหาเนื้อเพลงจีนไม่เจอ มีเฉพาะคำแปลที่วางอยู่ใน single album ปี 2007 เลยยังใส่ซับไม่ได้ ขอจองพื้นที่ไว้ก่อนละกันนะคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/QGubwq8brm8" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/QGubwq8brm8</a>

51
คลิปนี้เป็นคลิปที่ฝนมีชุดแรกๆเลยค่ะ จากยูทูป ก่อนที่จะรู้จักบ้านหลังนี้ คลิปนี้โหย่วเผิงยิ้มน่ารักมากเลยค่ะ ฝนหลงรักรอยยิ้มนี้ น่ารักที่สุดเลยนะคะ ตอนนั้นคลิปนี้เป็นคลิปที่ฝนต้องฟังก่อนนอนทุกคืนเลยล่ะค่ะ ได้ยินเสียงและได้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนก่อนนอน ก็นอนหลับฝันดีแล้วนะคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/Bc_2ANmthlg" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/Bc_2ANmthlg</a>
<a href="http://www.youtube.com/v/X6dlySOQeFo" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/X6dlySOQeFo</a>

52
เพลงนี้เลือกมา 2 คลิปนะคะ
คลิปแรกปี 2003 ร้องต่อเนื่องจากเพลงอ้ายค่ะ คลิปนี้โหย่วเผิงน่ารักมากกกกก... โดยเฉพาะช่วงที่โบกมือทักทายแฟนๆนะคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/WYyVGuC-H_8" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/WYyVGuC-H_8</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/YQRJ--Len7w" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/YQRJ--Len7w</a>


สำหรับคลิปที่ 2 มาดนี้หล่อและเท่ห์ค่ะ เสียงไมค์ก็ไพเราะเป็นพิเศษนะคะ



<a href="http://www.youtube.com/v/zwjjFsHmbXA" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/zwjjFsHmbXA</a>

53
เพลงไพเราะ หวานซึ้ง อบอุ่นใจค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/?v=8nVhU4-CpoQ" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/?v=8nVhU4-CpoQ</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/n6ZRAohvZ7U" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/n6ZRAohvZ7U</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/EjTWMP4ze4E" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/EjTWMP4ze4E</a>

อีกเพลงที่ไพเราะมากๆค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/ZDaPsHcit08" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/ZDaPsHcit08</a>


54
โหย่วเผิงเคยบอกว่า โหย่วเผิงชอบร้องเพลงที่สุดและการร้องเพลงก็เป็นสิ่งซึ่งแสดงถึงตัวตนของโหย่วเผิงได้ดีที่สุด ในบทละครนั้นเค้าล้วนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวตนแท้จริง ดังนั้นฝนจึงอยากทำคลิปเพลงให้เพื่อนๆที่รักโหย่วเผิงได้ร่วมร้องเพลงไปกับโหย่วเผิงด้วยกันและรู้ว่าเค้าร้องอะไรนะคะ

สำหรับคลิปที่เลือกมานี้ เรียกว่าเผด็จการค่ะ ฮะฮะ.. เลือกเฉพาะคลิปที่ฝนชอบมากๆและภาพชัดๆนะคะ
เริ่มต้นก็ต้องเพลงนี้นะคะ “อ้าย(รัก)” อยากบอกรักโหย่วเผิงค่ะ และอยากมอบให้ทุกคนที่ร่วมเดินทางไปตามเส้นทางชีวิตของโหย่วเผิงด้วยคำว่า “รัก” ร่วมกันนะคะ


คลิปแรกปี 2003 คลิปนี้โหย่วเผิงน่ารักมากค่ะ ฝนชอบชุดสูทนี้มากด้วยนะคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/S0Q8UcHbCps&amp;feature=g-upl" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/S0Q8UcHbCps&amp;feature=g-upl</a>

คลิปที่ 2 ลุคเอินฉี ตอนนี้ผมยาว เท่ห์มาก.. ฮะฮะ.. ลุคนี้กับลุคที่เล่นในซีรีย์ 4 กามเทพ เป็นลุคที่ฝนหลงรักมากที่สุด เป็นผู้ชายในฝันค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/wkc6IWmqm1g" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/wkc6IWmqm1g</a>

คลิปที่ 3 คลิปนี้ก็น่ารักมากเช่นกันค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/PgQp7xDECaA" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/PgQp7xDECaA</a>

55
ฝนรักคุณค่ะ
“ในสายตาของทุกคนนั้น ล้วนมองผมเป็นไกวๆหู่ แท้จริงผมเป็นคนดื้อไม่เบาเลย”
ถ้าคำว่า “ไกวๆหู่” ที่คุณกล่าวถึงนั้นหมายถึง การทำทุกสิ่งทุกอย่างที่จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวคุณ แล้วล่ะก็ ฝนก็เห็นด้วยค่ะ ที่คุณเองก็รู้สึกว่า “พอแล้วล่ะ ไกวๆหู่ ที่ทุกคนอยากให้เป็น ที่ผมกำลังทำอยู่นี้มันพอแล้ว มันหลายปีแล้ว  ผมจะต้องทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองบ้างแล้ว”
ถ้าเป็นความหมายนี้ ฝนก็เห็นด้วยนะคะ

เพียงแต่สำหรับฝนเองแล้วนั้น ฝนมองว่า คุณก็ยังคือ “ไกวๆหู่”  ที่แสนดีเหมือนเดิมค่ะ การทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ไม่ทำตามแบบที่สังคมคาดหวัง หรือดื้อรั้นเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้แปลว่า “ไม่ดี” นี่คะ
คุณเป็นเด็กดี คุณเป็นคนดี คุณมีจิตใจที่ดีงาม นี่ต่างหากล่ะคะ ที่เรียกว่า “ไกวๆหู่” สำหรับฝน จิตใจของคุณคือสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ “จิตใจที่ดีงาม” คือเหตุผลที่ทำให้ฝนหลงรักคุณและจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไปค่ะ อืม..น่าแปลกนะคะ เมื่อถึงคำว่า “รัก” เหตุผลต่างๆกับไม่ค่อยมี “รักก็คือรัก” ค่ะ

นึกไม่ถึงเลยนะคะ เด็กที่มีรอยยิ้มที่สดใสไร้เดียงสาน่ารักในวันนั้น จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณค่าในวันนี้ได้ถึงเพียงนี้




ตอนนี้ ฝนนั้นทั้งรักคุณ หลงใหลคุณ ประทับใจและภาคภูมิใจในตัวคุณ ทั้งยั้ง นับถือ ชื่นชม เห็นคุณค่า ยกย่อง และ ศรัทธา ในตัวคุณมากค่ะ พลังรักของฝน เป็นพลังรักที่บริสุทธิ์ ยิ่งใหญ่ไม่แพ้พลังชีวิตของคุณเลยล่ะนะคะ

ฮะฮะ.. แต่ก็มีบ่อยครั้งค่ะที่รักไม่บริสุทธิ์นะคะ หมายถึง รักแบบที่อยากอยู่ใกล้ๆคุณ อยากเป็นคนดูแลคุณ อยากให้คุณรักน่ะค่ะ เวลาความรักแบบนี้เข้ามา ก็ต้องใช้หลายวิธีเลยนะคะ เพื่อทำให้รักบริสุทธิ์อีกครั้ง ส่วนใหญ่ก็เป็นพลังธรรมะล่ะค่ะ บางครั้งก็มาอ่านข้อความของคุณนะคะ
“ผมอยากจะบอกกับแฟนเพลงอย่าไปหลงรักคนจนหัวปรับหัวปรำ อย่างนี้มันอันตรายมาก เชื่อว่าศิลปินส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบแฟนเพลงที่มีสติ รู้จักคิด ผมเองก็ไม่ต่าง”
ฮะฮะ..คุณพูดถูกนะคะ ความรักแบบนี้มันทำให้ฝนกระวนกระวายใจ เป็นบ้าแทบคลั่งตายเลยล่ะค่ะ

ค่ะ รักที่มีสติ รักที่บริสุทธิ์ เป็นรักที่มีพลังยิ่งใหญ่ ไม่ทำให้เป็นทุกข์ มีแต่ความสุขที่ได้รักนะคะ




สุดท้ายนี้ ฝนอยากบอกคุณค่ะว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฝนก็ยังอยากให้คุณทำตามความต้องการของตัวคุณเอง ทำในสิ่งที่คุณมีความสุข แม้แต่การที่คุณอาจจะอำลาวงการ แล้วเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก
ชีวิตที่ผ่านมาของคุณ ล้วนมีคุณค่า คุณผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมา ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ขยัน อดทน พยายาม เข้มแข็งและแข็งแกร่งมากๆ คุณเหนื่อยมาทั้งชีวิต ถ้าคุณต้องการที่จะพัก ฝนก็เคารพการตัดสินใจของคุณค่ะ  หวังเพียงแค่ได้ทราบข่าวว่าคุณยังมีความสุข ยังสบายดี เป็นระยะๆ ให้ได้หายห่วง แค่นั้นก็ทำให้ฝนดีใจและมีควาามสุขมากที่สุดแล้วล่ะค่ะ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เลือกที่จะทำอะไร ฝนก็จะเป็นคนหนึ่งที่คอยห่วงใยและเป็นกำลังใจให้คุณตลอดไปนะคะ

ฝนรักคุณค่ะ “โหย่วเผิง” และจะรักคุณตลอดไป
我爱你


56
ฝนอัศจรรย์ใจที่เราเหมือนกันในหลายๆเรื่องค่ะ เช่น เราชอบสีขาว ชอบดอกกุหลาบ  เมื่อก่อนเราแสวงหาความเพอร์เฟค  สมัยเด็กๆ เราเรียนเก่ง เพื่อนร่วมชั้นมักไม่ชอบเรา แต่คุณครูจะรักเรามากๆ เราเลื่อมใสศรัทธาธรรมะและปฏิบัติธรรม รักเดียวใจเดียว เราเลือดกรุ๊ปบีเหมือนกัน เอ๋.. เกี่ยวมั๊ยนี่

แต่ที่ฝนอัศจรรย์ใจที่สุดคือ  “เรื่องนอน” ค่ะ
เรื่องที่ทำให้คุณมีความสุขที่สุด คือ “ให้ผมได้มีโอกาสนอน 3 วัน 3 คืน”
เหตุการณ์ที่คุณทนไม่ได้ที่สุด  “ไม่ยอมให้ผมนอน”
เวลาที่คุณไม่ได้ทำงานคุณจะทำอะไร “ต้องดูว่าตอนนั้นพักอยู่ที่ไหน หากว่าอยู่ที่ปักกิ่ง จะนอนกินบ้านกินเมืองเอา ท่องเน็ต แล้วออกไปออกกำลังกายบ้าง”
คำว่า “นอนอย่างไม่รู้ฟ้าถล่มดินทลาย” ตรงใจมากๆเลยล่ะค่ะ
และเมื่อเกิดปัญหาต่างๆหรือเครียดมากๆหรือหลังร้องไห้ เราก็จะหลับไป... “เมื่อนอนหลับทุกสิ่งทุกอย่างก็ลืมหมดแล้ว”    “แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติหลังจากผมนอนหลับไป”

แฮะแฮะ.. เหมือนกันอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะค่ะ  ฝนมองเห็นชีวิตคุณชัดเจนมากเลยนะคะ  อืม.. สำหรับชีวิตฝนก็ “ฝนเป็นชีวิตอีกด้านหนึ่งของคุณ ด้านที่คุณตัดสินใจไม่เลือกมันค่ะ” 




รางวัลที่คุณคู่ควร
รางวัลต่างๆที่คุณได้รับนั้น อาทิเช่น “ศิลปินนักแสดงยอดเยี่ยม” “ศิลปินชายยอดฮิต” “ศิลปินที่มีเสน่ห์มากที่สุด” “ศิลปินที่เด็กๆชื่นชอบที่สุด” “ศิลปินชายที่มีสไตล์บุคลิกที่ดีเยี่ยมที่สุด” "ศิลปินที่แฟนคลับชื่นชอบที่สุด" “รางวัลการแต่งกายยอดเยี่ยมของรอบปี” “รางวัลศิลปินที่อุปภัมพุทธศาสนาระดับชาติ” “รางวัลศิลปินที่มีอิทธิพลต่อสังคมมากที่สุด” เป็นต้น รางวัลต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นรางวัลที่คุณสมควรจะได้รับ รวมทั้งการได้รับเชิญต่างๆ อาทิเช่น “ทูตแห่งการช่วยเหลือของจีน” ก็เหมาะสมอย่างที่สุด ค่ะ

ฝนอ่านพบข้อความที่คุณพูดถึงตัวคุณเอง ว่าคุณไม่ได้ perfect
“ในสายตาของทุกคนผมเหมือน เด็กดี แต่ความจริงผมไม่ได้เพอร์เฟ็คอย่างที่คิดหรอกครับ"   นั่นเพราะคุณตั้งค่าของคำว่าเพอร์เฟ็คไว้สูงมากๆค่ะ ตามนิสัยที่เคยแสวงหาความเพอร์เฟ็คของคุณ คุณถึงคิดว่า “ตัวเองไม่ใช่” นะคะ
ฮะฮะ.. แต่ก็ใช่ค่ะ ฝนเองก็มองคำว่าเพอร์เฟ็คไว้สูงมากๆเช่นกันค่ะ ดังนั้น ในมุมมองของฝนเอง ฝนจึงคิดว่าไม่มีใครหรอกนะคะ ที่จะสามารถดีได้ทั้งหมดในทุกๆด้าน เพราะฉะนั้น เราก็ไม่ต้องสนใจคำว่าเพอร์เฟ็คหรอกนะคะ เพราะเท่าที่คุณเป็น.. คุณก็มีคุณค่ากับชีวิตของคนนับไม่ถ้วนแล้วล่ะค่ะ

เท่าที่คุณเป็น.. คุณก็มีคุณค่า ควรค่า กับความรักของทุกๆคนที่ได้รู้จักคุณค่ะ คุณคู่ควรกับทุกๆรางวัลที่ได้รับนะคะ

57
นอกจากนี้ฝนยังประทับใจและชื่นชอบต่อ มุมมองทัศนะคติ และ แนวความคิด ในการดำเนินชีวิตของคุณค่ะ
ฝนประทับใจตั้งแต่ช่วงวัยเด็กที่คุณยังแสวงหาความเพอร์เฟค ยังต้องการการเป็นที่ 1 เพราะนั่นเป็นพื้นฐานของการทำงานให้สำเร็จ และไม่แค่สำเร็จเท่านั้นนะคะแต่จะต้องดีเยี่ยมด้วย “การสอบหรือเก็บคะแนนวิชาคณิตแต่ละครั้งนั้นผมจะได้หนึ่งร้อยคะแนนเต็มทั้งเทอมเลย คุณลองคิดดูว่าตัวผมเป็นอย่างไร” 
แต่แน่นอนค่ะ นิสัยนี้ถึงแม้จะนำความสำเร็จมาให้อย่างงดงาม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง เช่น ความเครียด ความกดดันต่อตนเอง และบางครั้งก็อาจส่งผลต่อมิตรภาพกับคนรอบข้างได้
 
หลังจากนั้นเมื่อคุณเติบโตขึ้น ฝนก็ประทับใจในการพัฒนาปรับเปลี่ยนนิสัยนี้ค่ะ แน่นอนคุณยังคงทุ่มเท ขยัน อดทน ทำทุกอย่างเต็มความสามารถเช่นเดิม คำพูดเร็วๆนี้ของคุณ "สำหรับผมแล้ว บทบาทแบบนี้ถือเป็นโอกาส ถ้าทำได้ดีคนก็จำเราได้ ถ้าไม่ดีก็เหมือนต้องตกนรกขุมที่สิบ ฉะนั้นจะขายหน้าไม่ได้ ต้องเรียนให้ดีให้ได้ ตอนนั้นความกดดันมันมหาศาลจริงๆครับ" แสดงให้เห็นได้ชัดเจน ว่าคุณ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยค่ะ คุณยังมีนิสัยที่เป็นพื้นฐานของความสำเร็จนี้อยู่เสมอ ฝนไม่แปลกใจเลยที่คุณประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้ และมั่นใจมากค่ะว่า คุณจะประสบความสำเร็จมากยิ่งๆขึ้นไป ตราบเท่าที่คุณต้องการ แต่สิ่งที่คุณได้พัฒนาปรับเปลี่ยนไปนั้น ยิ่งทำให้ฝนประทับใจมากค่ะ

นั่นคือคุณมีพลังธรรมะช่วยปรับทัศนคติให้ดีขึ้น ทำให้คุณเข้าใจชีวิตได้อย่างแท้จริง  ธรรมะ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งนะคะที่ฝนทั้งประทับใจและศรัทธาในตัวคุณค่ะ
คุณศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสนา ยึดถือหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และยังสามารถนำหลักธรรมเหล่านั้น มาประยุกต์ใช้ได้อย่างดีเยี่ยม

ฝนขออ้างอิงถึงคำพูดของคุณ ที่ทำให้ฝนประทับใจมากๆนะคะ
“ผมคิดว่าความสมบูรณ์แบบนั้นตามหาจนถึงจุดจบนั้น ก็คือต้องเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับสรรพสิ่งทุกอย่าง ใช้รูปแบบที่ธรรมชาติที่สุดนั้นมาแสดงถึงความต่างของตัวเอง จะต้องขยันพยายาม ทำอย่างขยันขันแข็ง อย่าสูญมันเปล่าๆ ถ้าหากทำไม่ถึงสิ่งที่เราตั้งหวังไว้ ก็จะไม่โทษตัวเอง นั้นก็คือพรหมลิขิต"
“เรื่องไหนปล่อยวางก็ต้องปล่อยวาง”
“ผมรู้สึกว่าชีวิตบางครั้งอย่าไปยึดติดมากเกินไป หรือถือสาบางเรื่อง”
“เมื่อก่อนผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไร เพียงแต่ผมพยายามมัน นอกเสียจากผมไม่ต้องการมัน เพียงแค่ผมอยากได้ มันมีทางทำให้ผมได้ที่หนึ่งแน่นอน ตอนหลังเมื่อออกจากโรงเรียนแล้วถึงรู้ว่า ความคิดแบบนั้นมันโคตรตลกมากๆ ฉะนั้นการดำรงชีวิตในตอนนี้ จะไม่แคร์ว่าเป็นที่หนึ่งหรือไม่ เพียงแค่ได้ทำอย่างเต็มที่ และจะไม่เพิ่มความกดดันให้ตัวเองอีก เพราะรู้ว่ามีหลายอย่างที่ตัวเองยังสู้คนอื่นไม่ได้ ไม่ใช่ความคิดสมัยเด็กๆอย่างนั้น ว่าตัวเองต้องเป็นคนที่เก่งที่สุด เป็นเด็กเทพ ฉะนั้นตอนนี้นั้นหลายๆเรื่องก็จะให้มันไปตามธรรมชาติ ปล่อยตามโชคชะตา”
“ผมรู้สึกว่าสวรรค์นั้นจะประทานโอกาสให้ตามคิว บางครั้งให้คุณ บางครั้งให้คนอื่น ไม่งั้นก็คงไม่ยุติธรรม หากว่าให้แต่คุณคนเดียว แล้วคนอื่นจะอยู่ไปเพื่ออะไรกัน?”
“และไม่เคยคิดถึงเลยว่าเมื่อผมดังแล้วก็สามารถหยิ่งได้”
“มีเพียงแต่ต้องยึดมั่นต่อไป ไม่หยุดก้าวต่อไปข้างหน้า ถึงจะนำชีวิตของตัวเองกว้างไกลและเปิดกว้างมากขึ้น”

เมื่อก่อนคุณเคยคิดว่า “การสอบเข้ามหาลัยของผมนั้นก็เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างของผม ชั่วชีวิตของผมนั้นเรื่องนี้สำคัญที่สุด” ทำให้ช่วงเวลานั้นคุณทุกข์ทรมานมาก แต่เมื่อคุณได้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาและได้เติบโตขึ้น คุณกลับสามารถตกผลึกความคิดที่น่าประทับใจมาก และยังใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้กับผู้คนได้อย่างยอดเยี่ยมเลยนะคะ คุณได้กล่าวว่า “แต่เมื่อคุณมองย้อนกลับไปแล้ว มันก็เป็นเพียงความสำคัญช่วงหนึ่งของชีวิตคุณ
คุณได้แสดงให้เห็นแล้วว่า นั่นเป็นเพียงการสอบของช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น  ใช่ว่ามันจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง  ใช่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่มาตัดสินความสำเร็จของอนาคต เพียงแต่ว่าการทำอย่างสุดกำลังนั้น  ก็เป็นสิ่งที่จำต้องทำเหมือนกัน และเมื่อเราทำอย่างเต็มความสามารถแล้ว ผลก็ปล่อยไปตามพรหมลิขิตนะคะ   และคำคำนี้ “มันก็เป็นเพียงความสำคัญช่วงหนึ่งของชีวิตคุณ” ก็ทำให้ฝนเข้าใจชีวิตได้ดีมากขึ้นในทุกๆเรื่องเลยนะคะ ค่ะ คำนี้ไม่ปฏิเสธว่าสิ่งที่เรากำลังทำอย่างสุดกำลังนั้น ไม่สำคัญ มันสำคัญมาก แต่มันก็เป็นเพียงความสำคัญช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ถ้าผู้คนที่เค้าคิดท้อแท้ หมดหวัง หรือผู้คนที่เค้าคิดอยากฆ่าตัวตาย ได้มีโอกาสเข้าใจกับคำคำนี้ ชีวิตเค้าจะพบแต่ความสุข ความสงบในจิตใจ และมีความหวังนะคะ โหย่วเผิงคะ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ กับสิ่งที่คุณได้ตกผลึกความคิดนี้ออกมา ฝนประทับใจมากๆเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ฝนยังชื่นชอบนิสัยชายราศีกันย์ในด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย  ละเอียดรอบคอบ ทั้งชอบคิดชอบศึกษา ให้ความสำคัญกับหลักการเหตุผล ทำงานอย่างมีระบบระเบียบ เป็นคนเอาจริงเอาจัง เรื่องนี้ต้องลงมือทำเอง จะต้องทำให้ได้ดังที่ตัวเองวางไว้ถึงจะพัก ยึดศีลธรรมทางสังคม ดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญาตลอด รวมทั้งการแต่งกายอีกด้วยล่ะค่ะ

หลายครั้งที่คุณทำให้ฝนประทับใจในการตอบคำถามนักข่าว เช่น
คำถาม “ตั้งแต่ที่เข้าสู่วงการ คุณมีข่าวฉาวน้อยมาก เคยคิดเรื่องของความรักหรือเปล่า?”
โหย่วเผิง “แน่นอน ผมไม่ใช่ พระถังซัมจั๋ง นะ ฮ่าๆ (หังเราะ) แต่ว่าเรื่องความรักส่วนตัวของผมนั้นอาจจะเงียบๆ แต่เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะนั้นมันก็ถือว่าโอเคแล้วนะ หากแต่จะมาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวมากเกินไปผมเองก็ถือนะ นอกจากนี้ ความรักกับการงาน แน่นอนจะต้องได้อย่างเสียอย่าง หากว่าทุ่มเทแรงกำลังให้กับการงาน ด้านความรักก็ต้องมีเวลาให้น้อยหน่อย แต่หากวันไหนคุณสังเกตว่าเวลาในการงานของผมมันน้อยไปหรือไม่ค่อยเห็นแล้ว ก็รู้ได้ว่าผมกำลังจะทุ่มเทให้กับความรัก ฮ่าๆ(หัวเราะ)” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณไม่ชอบให้สัมภาษณ์ แต่คุณตอบคำถามอย่างจริงใจ คุณน่ารัก ขี้เล่น บวกกับ ปฏิภาณไหวพริบที่ชาญฉลาด เมื่อได้ฟังคำตอบแล้ว นักข่าวก็ถามต่อไม่ได้ จะโกรธก็โกรธไม่ลง ทั้งยังได้ฮาไปกับคุณด้วยนะคะ สำหรับฝนเองแล้ว ฝนมองว่า อาชีพนักแสดงก็คืออาชีพหนึ่ง เหมือนกับอาชีพอื่นทั่วไป ไม่ใช่คนของสาธารณะที่จะต้องเปิดเผยหมดทุกเรื่อง “เรื่องส่วนตัว” ฝนเองก็เคารพให้เกียรติ ไม่ก้าวก่าย ฝนเลือกที่จะรับรู้เฉพาะเรื่องที่คุณต้องการให้รู้เท่านั้นค่ะ

ทัศนะคติอื่นที่ชื่นชอบมากเหมือนกันนะคะ
“มาตรฐานการเลือกคู่ครองของผมรู้สึกโบราณนิดๆ ส่วนตัวแล้ว ผู้หญิงที่รักนั้นไม่สวยก็ยังได้ แต่จะต้องอ่อนหวาน ต้องมีความรู้ประดับอยู่ มีไหวพริบดี แม้จะไม่อ่อนโยนมากๆก็ไม่เป็นไร ขอให้ใส่ใจหน่อย ขอให้พูดจานุ่มนวลเอาอกเอาใจหน่อยๆ แต่ว่าเธอต้องมีความคิดของตัวเองบ้าง”
“คำตำหนิ ไม่ผิดหลอกที่จะเสียใจ แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องดี ถ้าเราจะจมลงไปกับความเศร้า ที่มาจากคำตำหนิของผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนความเศร้ามาเป็นพลังในการพัฒนาตนเอง"


58

ฝนเห็นคุณค่า ยกย่อง และ ศรัทธา ในตัวคุณ คุณไม่เพียงเป็นศิลปินและดาราที่ยอดเยี่ยม แต่คุณยังมีจิตใจที่ดีงาม คุณได้ทำกิจกรรมสาธาณะประโยชน์มากมาย ซึ่งเป็นงานด้านการกุศลต่างๆ
จากการที่คุณได้ไปเยี่ยมโรงเรียนซีว่าง (โรงเรียนแห่งความหวัง คือโรงเรียนที่สร้างให้แก่เด็กในชนบทที่ห่างไกลในประเทศจีนได้มีโอกาสได้เรียนอย่างต่อเนื่อง โดยงบประมาณมาจากทั้งภาครัฐและเอกชน) ที่เสฉวน ในฐานะของทูต เมื่อปี ๒๐๐๕ นั้น คุณได้เห็นสภาพแวดล้อมที่ลำบากต่อการเรียน นัยน์ตาของเด็กๆเหล่านี้ คุณได้เห็นถึงความกระหายในการอยากเรียนของพวกเขา   ด้วยจิตใจที่ดีงามของคุณ ด้วยจิตที่มีเมตตาของคุณ คุณได้อุปถัมภ์ช่วยเหลือเด็กที่ไม่มีโอกาสทางการศึกษา เหล่านั้น โดยคุณได้ร่วมกับ มูลนิธิเยาวชนจีน  ก่อตั้ง “มูลนิธิซูโหย่วเผิง” ที่ปักกิ่ง และร่วมกับหน่วยงานไปรษณีย์กลางจีน จัดทำและจำหน่ายสมุดภาพแสตป์ซูโหย่วเผิง เป็นจำนวน 3000 ชุด รายได้ทั้งหมดรวมเป็นเงินหนึ่งแสนหยวน บวกกับเงินออมส่วนตัว รวมยอดได้สองแสนหยวน สมทบเข้า “กองทุนซูโหย่วเผิง” สร้าง “โรงเรียนซีว่างซูโหย่วเผิง” (โรงเรียนแห่งความหวังซูโหย่วเผิง) ที่บ้านหม่าเหอ เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนัน ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2007 และคุณยังใช้เงินส่วนตัวซื้ออุปกรณ์การเรียนมากมาย บริจาคให้กับเด็กนักเรียนที่ยากจนของโรงเรียนซีว่างอีกด้วย

การสร้างโรงเรียนซีว่างนั้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเดียวของคุณ คุณยังมีงานกิจกรรมการกุศลอื่นๆที่ได้เข้าร่วมอีกมากมาย อาทิเช่น การไปเยี่ยมเยียนเด็กยากไร้ที่มณฑลเสฉวน การช่วยเหลือเด็กๆทางแอฟริกา คุณได้เข้าร่วมช่วยงานภัยพิบัติธรรมชาติหลายๆที่ และได้บริจาคเงินหนึ่งแสนหยวนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย คุณช่วยสอนหนังสือให้เด็กพิการที่ไม่มีที่พึ่งราว 30 คน ได้บริจาคของที่ระลึก ให้กับองค์กรคนพิการ
ไป รพ.ต่างๆเพื่อไปปลอบใจ และให้กำลังใจแก่เด็กที่ป่วยเป็นมะเร็ง และเน้นย้ำให้กำลังใจกับผู้ป่วยให้สู้ชีวิตต่อไปอย่ายอมแพ้ และร่วมบริจาคเลือดให้กับ รพ. คุณยังได้บริจาคเงินหนึ่งแสนหยวนเพื่อการกุศลทุกปี  และยังได้รับเลี้ยงเด็กที่ถูกทอดทิ้งในสถานเลี้ยงเด็กอ่อนไต้หวัน 6 คน ทุกวันนี้ยังส่งเงินไปทุกปี  คุณจัดทำโครงการเพื่อผู้สูงอายุ หวังอยากให้ทุกคนรักและห่วงใยพ่อแม่มากขึ้น เป็นต้น

คุณไม่เพียงเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงามส่วนบุคคลเท่านั้น แต่คุณยังมีความเฉลียวฉลาด มีแนวความคิดที่ยอดเยี่ยม ที่คุณได้กล่าวว่า
 “หลายครั้งชื่อเสียงเกียรติยศนั้นเป็นของอนิจจัง เป็นสิ่งที่ทุกคนให้คุณ และยังเป็นสิ่งที่มาจากสังคม ขณะที่คุณกลายเป็นคนมีชื่อเสียง ทุกกิริยาบทของคุณนั้นล้วนมีอิทธิพลต่อสังคม ชื่อเสียงนั้นไม่ได้เป็นของคุณคนเดียวแล้ว การทำคุณตอบแทนนั้นเป็นหน้าที่จำเป็นต้องมี”
“สิ่งที่พวกเราที่เป็นคนดังได้เปรียบที่สุดก็คือการที่ตัวเองมีอิทธิพลต่อ สังคมนั่นแหล่ะ ผ่านทางอิทธิพลที่มีอยู่นั้นผลัดดันทุกคนร่วมมือกันทำ อย่างนี้ถึงจะเป็นประโยชน์สูงสุด”
จากแนวความคิดที่ยอดเยี่ยมนี้ คุณจึงเป็นผู้นำ ผลักดันและนำพาผู้คนในสังคมให้ร่วมมือกันทำคุณงามความดีเห็นได้ชัดในกลุ่มแฟนคลับของคุณ ซึ่งล้วนน่ารักและ มีจิตใจที่ดีงามร่วมกันไปกับคุณ

สิ่งต่างๆที่คุณได้ทำนั้นล้วนมีคุณค่า น่าชื่นชม น่ายกย่องที่สุดค่ะ ฝนศรัทธาในตัวคุณมากนะคะ คุณเป็นแบบอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้ฝนทำเพื่อสังคมต่อไปอย่างมีความสุขเช่นกันค่ะ
ดังคำกล่าวที่คุณพูดว่า “การให้มีความสุขมากกว่าการรับ” นะคะ


59
ฝนนับถือคุณมาก
สองช่วงเวลาที่ฝนได้ทราบว่าคุณต้องทุกข์ทรมานมากๆ คือ
1.   ในช่วงที่จะจบม.6 ที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย และ
2.   ช่วงที่ตัดสินใจพักการเรียน ซึ่งเป็นช่วงที่คุณนั้นก็มีปัญหาในด้านครอบครัวด้วย
แต่คุณสามารถก้าวข้ามผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ

คุณเริ่มทำงานหนักในช่วงม. 6 ทำให้ผลการเรียนแย่มากในช่วง 3 เดือนแรกของการเรียน คุณแทบเป็นบ้าไปเลย ในหัวคุณว่างเปล่าแล้วก็ไม่มีสมาธิอีกด้วย  ความคาดหวังจากสังคม, ความเอาใจใส่และจดหมายให้กำลังใจจากแฟน ๆ ทุก ๆ อย่างคือแรงกดดันสำหรับคุณ เพราะตอนนั้นสังคมก็ได้สร้างภาพให้กับคุณคือ การเป็น “ไกวๆหู่” คุณได้ผ่านชีวิตในช่วงที่มีแต่คนในสังคมติเตียน และไม่เห็นด้วย
ตอนนั้นคุณมีปัญหามากมายทั้งเรื่องการเรียน การงาน และ ครอบครัว ทำให้คุณต้องทุกข์ทรมารมากๆ บางครั้งคุณเขียนลงในสมุดว่า “ผมอยากตาย” คุณเริ่มร้องไห้ และได้พูดว่า “มันทรมานเหลือเกินฮะแม่ มันทรมานเหลือเกิน ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย” “ทุกข์จังเลย ทุกข์จังเลย อยากตายจัง”

ความกดดันและความทุกข์ทรมานในช่วงเวลานั้น ฝนสามารถรับรู้และเข้าใจคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะด้วยพื้นฐานนิสัยที่คล้ายกัน  ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครสามารถช่วยอะไรเราได้ นอกจากตัวเราเองเท่านั้น แล้วคุณก็สามารถก้าวข้ามผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม

อุปสรรคครั้งแรก คุณทำสำเร็จด้วยการสอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง คณะที่เป็นที่นิยม ด้วยคะแนนสอบที่ยอดเยี่ยมมาก คุณสอบได้ที่ 5  ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศใต้หวัน

อุปสรรคครั้งที่2 ช่วงที่คุณตัดสินใจพักการเรียน ครั้งนี้ถ้ามองย้อนกลับไป มันหนักมากกว่าครั้งแรกมากๆ เมื่อครั้งที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นเรายังเด็ก ฝนเชื่อว่ามีหลายคนเลยล่ะค่ะ ที่เลือกสอบเข้าตามค่านิยมโดยไม่ทราบว่าตัวเองชอบอะไรอย่างแท้จริง  คุณก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่คิดว่าควรจะเลือกเรียนสายแพทย์หรือไม่ก็ด้านวิศวะ เพราะว่ามันแสดงถึงความเฉลียวฉลาด  ฝนเองก็ไม่ต่าง เพียงแต่โชคดีที่สิ่งที่ฝนเลือกเรียนในเวลานั้น เป็นสิ่งที่ฝนชอบในภายหลังพอดี

แต่เมื่อคณะนั้นไม่ใช่คณะที่คุณชอบ ไม่ใช่อาชีพที่คุณอยากเป็น  คุณได้เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้อง เหมาะสมกับชีวิตคุณ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นเห็นว่าน่าจะทำ คุณต้องการปลดปล่อยตนเอง ประกอบกับนิสัยดื้อรั้นของคุณ ทำให้คุณตัดสินใจพักการเรียนคณะนี้ ฝนนับถือการตัดสินใจที่เด็ดขาดของคุณ และเคารพการตัดสินใจครั้งนี้ของคุณค่ะ

ในช่วงเวลานั้นที่ทั้งสังคมต่างก็ไม่เห็นด้วย ต่างก็ติเตียนคุณ ทำให้คุณต้องทุกข์ทรมานมาก คุณได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ความกล้าหาญ ไม่ใช่ว่าไม่เคยรู้สึกกลัว แต่ความกล้าหาญคือ การตัดสินใจลงมือทำทั้งๆที่ยังกลัว ทั้งๆที่ยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าทางออกจะเป็นอย่างไรต่างหาก คุณกล้าหาญที่สุดค่ะ และก็แข็งแกร่งมากๆด้วย ที่สามารถผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานเหล่านั้นมาได้
ในช่วงเวลานั้น ฝนรู้ว่าคุณทั้งทุกข์ทั้งทรมาน ทั้งท้อแท้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า คุณไม่เข้มแข็งเช่นกันนะคะ เมื่อคุณลุกขึ้นมาก้าวเดินต่อไปทั้งๆที่ยังท้อแท้ ทั้งๆที่ยังมองไม่เห็นความหวังอะไรเลย ต่างหากค่ะ คือความเข้มแข็ง คือความแข็งแกร่ง และพลังอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงของคุณ ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ได้

พลังชีวิตของคุณ ความแข็งแกร่งของคุณ เป็นพลังที่ยอดเยี่ยมที่ส่งผ่านให้กับชีวิตคนอื่นรวมทั้งตัวฝนเอง คุณจึงเป็นกำลังใจและเป็นพลังให้ฝนในยามที่ฝนท้อแท้ค่ะ ขอบคุณนะคะ โหย่วเผิง




ฝนชื่นชมคุณ ในความกตัญญูต่อพ่อแม่
คุณได้ทุ่มเททั้งกายและใจให้กับหน้าที่การงาน เพื่อหาเงินใช้หนี้ให้พ่อ ส่งน้องเรียน และเพื่อให้คุณแม่มีชีวิตที่ดีขึ้น   จากจิตใจที่กตัญญูของคุณ คุณได้พยายามทุกวิถีทาง จนในที่สุดการหย่ากันของทั้งสองที่ผ่านไปหลายปีนั้น ก็ได้ไปจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง จากที่ทั้ง 4 คนต่างต้องแยกกันอยู่ ก็ได้กลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง   ฝนรู้ว่าคุณรักคุณแม่มากๆ “ผมรักคุณแม่มากๆ”
“ผมโชคดีมากๆ มีคุณแม่ที่ดีอย่างนี้ เข้มเข็งแต่ต้นจนจบ เคียงข้างผมตลอด ให้การโอบกอดที่อบอุ่นแก่ผมตลอดไป”


60
ฝนภาคภูมิใจในตัวคุณ ตั้งแต่เด็ก คุณเรียนเก่งมาก นั่นหมายถึงสติปัญญาที่ชาญฉลาด รวมทั้งความพากเพียรตั้งใจใส่ใจในการเรียน ชีวิตในวัยเด็ก การเรียนคือทุกสิ่งทุกอย่างของเรา คือหน้าที่รับผิดชอบที่สำคัญที่สุดต่ออนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรของเรา คุณเรียนเก่งเป็นที่ 1 มาตั้งแต่เด็กๆ คุณสอบเข้ามหาลัยได้ ซึ่งฝนทราบมาว่า คนที่สามารถสอบเข้ามหาลัยไต้หวันได้นั้นจำเป็นต้องเป็นคนที่มีการเรียนที่ดี และ คุณสามารถสอบเข้าคณะวิศวกรรมเครื่องกลของมหาวิทยาลัยไต้หวัน โดยสอบได้เป็นที่ 5 ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทำให้ฝนภาคภูมิใจในตัวคุณมากๆ

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะเลือกพักการเรียนของคณะนี้ไป เพราะไม่ใช่คณะที่คุณชอบก็ตาม แต่ฝนมีความเชื่อมั่นมากว่า ถ้าคุณชอบและเลือกที่จะเรียน คุณก็จะเรียนจบพร้อมด้วยตำแหน่งเกียรตินิยมอย่างแน่นอน ฝนมั่นใจเพราะมีหลักฐานและเหตุผลหลายข้อสนับสนุนค่ะ

เหตุผลแรก ในสมัยมัธยมปลายซึ่งเป็นช่วงที่คุณอยู่ในวงเสี่ยวหู่ตุ้ยแล้วนั้น คุณทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาได้เรียนหนังสือเลย ทำให้ผลการเรียนของคุณแย่มากในช่วง 3 เดือนแรกของม. 6 คุณมีเวลาเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น คุณก็สามารถสอบได้ที่ 5  ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศใต้หวัน หลายคนเตรียมตัวสอบอย่างหนักครบ 3 ปี ก็ยังไม่สามารถสอบเข้าได้เลยค่ะ นั่นหมายถึงถ้าคุณมีเวลาเรียนในมหาวิทยาลัย และมีโอกาสได้เลือกเรียนในคณะที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าคณะใดๆ ระดับปริญญาไหนๆ คุณก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ

เหตุผลที่ 2 จากนิสัยและลักษณะวิธีการเรียนของคุณ
คุณมีนิสัย มีวิธีการเรียนและการอ่านหนังสือ เหมือนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จบคณะแพทยศาสตร์ด้วยเกียรตินิยมและจบแพทย์เฉพาะทางด้วยคะแนนสอบที่ 1 ของประเทศไทย นั่นคือตำแหน่งที่รับรองการเรียนของคุณค่ะ
จากนิสัยในวัยเด็กของคุณที่ต้องเป็นที่ 1 คุณแสวงหาความเพอร์เฟค (ซึ่งในปัจจุบันนี้นิสัยนี้ของทั้งคู่ได้พัฒนาปรับปรุงไปแล้วนะคะ)     
เป็นคนที่อะไรก็ต้องชนะ “เมื่อก่อนทุกครั้งที่สอบ สามารถที่จะได้ 100 คะแนน จะไม่ขอ 99 ต้องชนะคนอื่น 5 คะแนน จะไม่ไปชนะคนอื่นแค่คะแนน 2 คะแนน”   ดังนั้น คุณจึงตั้งใจเรียนหนังสือมาตลอดหวังว่าจะได้เป็นที่ 1 ทำให้คุณมักมีชื่อติดอันดับต้นๆ ของโรงเรียนเสมอ   และจริงๆแล้วคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่รักการเรียน เป็นนักเรียนประเภทหนอนหนังสือ  เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทางบ้านทำให้คุณเห็นความสำคัญของการเรียน นั่นคือ คุณมีนิสัยที่เป็นพื้นฐานของการทำงานให้สำเร็จได้อย่างดีเยี่ยม คุณจะไม่แค่ขอให้สำเร็จแต่จะต้องดีเยี่ยมด้วย และคุณมีความมุ่งมั่นตั้งใจใส่ใจต่อการเรียน

สำหรับวิธีการเรียนและการอ่านหนังสือของคุณนั้น
การสอบหรือเก็บคะแนนวิชาคณิตศาสตร์แต่ละครั้ง คุณจะได้หนึ่งร้อยคะแนนเต็มทั้งเทอมเลย นั่นหมายถึง คุณเป็นคนเรียนหนังสือด้วยความเข้าใจ สามารถคิดและประยุกต์เป็น ไม่ใช่คนที่เรียนหนังสือด้วยการท่องจำ  คุณไม่ชอบวิชาประวัติศาสตร์ คุณไม่ชอบท่องหนังสือ เพราะวิชาเหล่านี้นั้นเป็นวิชาที่ไม่มีเหตุผลไม่มีหลักให้เข้าใจ

เวลาอ่านหนังสือคุณจะจัดการวางแผนการอ่านหนังสือไว้ให้เหมาะสม มีการทำตารางทบทวนวิชาต่างๆแล้วทำตามตารางนั้นๆ และนอกจากนั้น คุณจะทบทวนไปพร้อมกับทำโน้ตย่อไปด้วย  การทบทวนด้วยความเข้าใจ ทำให้เวลาที่คุณอ่านหนังสือคุณจะอ่านได้ช้ามากเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ แต่สิ่งที่คุณอ่านไปคุณจะจำได้หมด ผลการสอบของคุณจึงดีกว่าคนอื่น

นั่นหมายถึง คุณเป็นคนเรียนหนังสือและอ่านหนังสือด้วยความเข้าใจ  ประกอบกับคุณมีสติปัญญาที่ชาญฉลาดสามารถเข้าใจและจดจำได้เป็นอย่างดี มีนิสัยที่เป็นพื้นฐานสู่ความสำเร็จ และมีความพากเพียรตั้งใจใส่ใจในการเรียน ฝนจึงมั่นใจมากว่า ใบปริญญาทุกใบ ทุกระดับ ถ้าคุณต้องการ คุณทำสำเร็จแน่นอนค่ะ

และสุดท้าย เหตุผลที่ 3 คือ จากดวงค่ะ  คุณเองก็มีความเชื่อและศึกษาในด้านนี้เหมือนกันใช่มั๊ยล่ะคะ
ฝนดูดวงดาวจากวันเดือนปีเกิดของคุณค่ะ (ไม่ได้เป็นคนดูเองนะคะ ไปให้หมอดู ดูให้น่ะค่ะ)  คุณเป็นคนเก่งมาก ความจำดี หนักแน่น อดทน แข็งแกร่ง ขยันมากๆๆ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ จิตใจดีมีศีลธรรม มีเสน่ห์ กล้าแสดงออก มีบุคคลิกของตนเองชัดเจน มีชื่อเสียง มีความโดดเด่น ดาวดีหลายดวง คุณมีดาวศุกร์ส่งผลให้เป็นดาราที่มีชื่อเสียง มีพรสวรรค์ในด้านการแสดง ความรุ่งโรจน์จึงตามมาอย่างเป็นธรรมชาติ คุณมีดาวอังคารทำให้คุณเลือกสอบที่เกี่ยวข้องกับช่าง ดังนั้นถ้าคุณชอบและเลือกที่จะเรียนคณะนี้นั้น คุณก็จะเรียนสำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ

ดังนั้นสำหรับฝนเองแล้ว ฝนจึงมีความเชื่อมั่นจริงๆค่ะว่า คุณเรียนเก่งมากและสามารถจบมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนเกียรตินิยมในทุกๆระดับที่คุณต้องการ ทำให้ฝนภาคภูมิใจในตัวคุณมากค่ะ

หน้า: 1 2 [3] 4